
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนเนีย ซีเรน่า
โอเชียเนีย ครูซส์


เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

ท่าเรือซาเลร์โน (Salerno) ตั้งอยู่บนอ่าวซาเลร์โนในประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลไม่เพียงแต่ด้วยทิวทัศน์ทะเลที่งดงาม แต่ยังอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ซาเลร์โนมีชื่อเสียงเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งแรกของโลก ส่งผลให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางด้านความรู้และการศึกษาในสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวที่แวะมาที่นี่จะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อนๆ พร้อมกับการเดินเล่นตามชายหาดที่มีทรายละเอียดทำให้รู้สึกผ่อนคลายใจกลางทัศนียภาพที่สวยงาม ชิมอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ ที่หลากหลาย ทั้งพาสต้า วุ้นเส้น และอาหารทะเลสดใหม่ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากฝีมือเชฟในท้องถิ่น ทำให้ทุกมื้อเป็นประสบการณ์พิเศษ นอกจากนี้ ซาเลร์โนยังเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อาทิเช่น ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) ที่โด่งดังในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ รวมทั้งเมืองอามาลฟีและโพสิตาโนที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม, ท่าเรือซาเลร์โนคือไม่เพียงแค่จุดแวะที่ครบครัน แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนใฝ่ฝันถึงการเดินทางในอิตาลีที่น่าตื่นเต้นนี้อย่างแท้จริง

ปาแลร์โม เมืองหลวงของซิซิลี เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของอารยธรรมตั้งแต่อดีต โอบล้อมด้วยอ่าวรูปพระจันทร์และภูเขามอนเต้เพลเลกรีโกล่าสุดา เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางปัญญาของยุโรปใต้ และยังคงดึงดูดผู้มาเยือนจากทุกมุมโลก ด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานจากหลากหลายวัฒนธรรม ทำให้ปาแลร์โมมีบุคลิกเฉพาะตัวที่โดดเด่น ทั้งอาราบิก คริสเตียน ไบแซนไทน์ และโรมาโน ควรค่าแก่การชมคือสถาปัตยกรรมสไตล์อาหรับ-นอร์แมน ซึ่งเกิดจากการรวมกันของหลายวัฒนธรรม ทำให้เกิดผลงานศิลปะที่งดงาม โดยเฉพาะในเขตประวัติศาสตร์ ที่คุณจะได้พบกับตลาดกลางแจ้งที่มีชีวิตชีวา สแควร์และร้านค้าข้างถนนที่เต็มไปด้วยสีสัน นอกจากนี้ ปาแลร์โมยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของ "ปาสเซสซาตา" ซึ่งเป็นการเดินเล่นที่สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของเมืองได้อย่างดี เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือปาแลร์โม อย่าลืมสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมนี้ เพื่อสัมผัสความงดงามที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมมอง และสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนตลอดไป

คาทาเนีย (Catania) คือเมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของซิซิลี บริเวณเชิงเขาไฟเอตนา (Mt. Etna) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและสภาพแวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปตามเส้นทางขึ้นเขาเพื่อสัมผัสประสบการณ์การปีนเขาที่จะพาไปสู่ยอดเขาที่เต็มไปด้วยมุมมองอันงดงาม ใจกลางเมืองคือจัตุรัสกัวโด ดูโอโม่ (Piazza del Duomo) ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยมีฟอนตาน่า เดลเลฟานเต้ (Fontana dell'Elefante) ที่ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง และโบสถ์คาทานียาที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลาดปลา "ลาปิเชอเรีย" (La Pescheria) ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของจัตุรัสเป็นแหล่งสนุกสนานที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของอาหารทะเลสดใหม่ ทั้งยังมีร้านอาหารมากมายที่บริการอาหารอันแสนอร่อย การเยือนคาทาเนียจึงไม่เพียงแค่การสัมผัสความรักในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและลิ้มรสอาหารที่มีเอกลักษณ์ของซิซิลี เตรียมพร้อมให้คุณเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางครั้งนี้!

ท่าเรือซาคินโทส (Zakynthos) หนึ่งในเพชรน้ำงามแห่งทะเลอีเจียน คือนิยามของความงามที่แท้จริงซึ่งรอคอยให้คุณได้สัมผัส ตัวเมืองท่าเรือที่มีสถาปัตยกรรมคลาสสิกและทิวทัศน์อันงดงามเป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์ยาวนานของกรีซ เมื่อเดินทางมาถึงซาคินโทส คุณจะได้พบกับชายหาดที่โอบล้อมด้วยท้องทะเลสีฟ้าคราม นํ้าสะอาดใสในอ่าวนาบี (Navagio Beach) ที่ถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง เป็นที่รู้จักจากเรืออับปางซึ่งเติมเต็มบรรยากาศอันตื่นตาตื่นใจ การเรียบริมชายหาดแห่งนี้ให้คุณได้สัมผัสความงามของธรรมชาติในแบบที่ไม่มีใครเหมือน นอกจากนี้ซาคินโทสยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมและประเพณีที่ยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี เยือนเมืองโบราณโค่ซปุส (Keri Cave) และสำรวจการทำงานของชาวประมงท้องถิ่น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่น่าหลงใหลและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือซาคินโทสจึงเป็นสวรรค์แห่งการเดินทางที่รอคุณมาเยือน พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนให้กับทุกคนที่ลงเรือที่นี่ เพิ่มเติมให้การเดินทางของคุณเป็นการเติมเต็มฝันได้อย่างงดงามในหนึ่งในจุดหมายที่ยอดเยี่ยมของกรีซค่ะ

กีธีโอ (Gythio) เป็นท่าเรือที่สวยงามในประเทศกรีซ ตั้งอยู่ทางชายฝั่ง Peloponnese เป็นประตูสู่ความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ เปิดประตูให้คุณได้สัมผัสกับความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ที่นี่คุณจะได้พบกับชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใส ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้สำรวจประวัติศาสตร์อันยาวนานในเมืองโบราณของเมือง Sparta และโรงละครโรมันที่อยู่ใกล้เคียง เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้รักประวัติศาสตร์ ทางเข้าท่าเรือตกแต่งด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีร้านค้าขายของที่ระลึกและร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารกรีกจานเด็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซูฟลากิ (Souvlaki) และมาซาเลน (Moussaka) ที่คุณไม่ควรพลาด การเที่ยวที่กีธีโอนั้นไม่เพียงแต่เติมเต็มความสุขให้กับจิตใจ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจในทุกการเดินทาง อนาคตและอดีตที่ผสมผสานอย่างลงตัว รอคอยคุณอยู่ที่ท่าเรือแห่งนี้ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าประทับใจตลอดไป

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!
ท่าเรือวอลอส (Vólos) ตั้งอยู่ในเขตเทสซาลี ประเทศกรีซ เป็นจุดหมายปลายทางที่หลีกหนีจากความวุ่นวายและเปิดโอกาสให้คุณสัมผัสกับเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดเด่นของการเดินทางโดยเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทรัพย์สมบัติทางธรรมชาติที่งดงาม วอลอสเป็นเมืองที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่นข้างชายฝั่ง ลองจิบกาแฟที่ร้านคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมลิ้มรสขนมอบแบบกรีกที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ พื้นที่ใกล้เคียงยังมีภูเขาเพนดิโอ (Pelion) ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามมากที่สุดในกรีซ ซึ่งเหมาะแก่การเดินป่าและสำรวจธรรมชาติที่น่าหลงใหล อย่าพลาดที่จะสำรวจแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียงเช่น เดลฟี (Delphi) และมิวเซียมเพลิมิว (Pelion Museum) ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้คุณก้าวเข้าสู่ความลึกซึ้งของวัฒนธรรมกรีกโบราณ เมื่อคุณมาเยือนท่าเรือวอลอสแล้ว จะตั้งอยู่ในเส้นทางที่สมบูรณ์แบบเพื่อสำรวจความงามของกรีซ พร้อมสร้างความทรงจำอันยาวนานที่คุณจะไม่มีวันลืมในชีวิตการเดินทางครั้งนี้

ท่าเรือชานัคคาลี (Çanakkale) ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างสุมาตราและยุโรป ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จอดเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในบริเวณนั้น เมื่อแวะมาที่ชานัคคาลี คุณจะพบกับความงดงามของชายฝั่งและทะเลอีเจียน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดคือ อนุสรณ์สถานการรบของกัลลิปโอลี (Gallipoli) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสนามรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ล้ำค่าที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสถึงความกล้าหาญของผู้คนในอดีต นอกจากนี้ ยังมีเมืองโบราณทรอย (Troy) ที่เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น จากวีรบุรุษในมหากาพย์อีเลียด นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่สะกดใจนักท่องเที่ยว ด้วยซากปรักหักพังที่เชื่อมโยงกับวรรณกรรมโลก ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ชานัคคาลีจึงเป็นปลายทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เดินทางมาที่นี่และเปิดโลกทัศน์ใหม่ในตุรกีที่น่าหลงใหล!

อิสตันบูล เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีป เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม อิสตันบูลเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์และออตโตมัน ได้รวบรวมสถาปัตยกรรมที่งดงาม อย่างเช่น โบสถ์อายา โซเฟีย (Aya Sofya) และมัสยิดที่ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นยอดอย่างซินาน (Sinan) เมื่อเดินทางไปยังย่านเก่า (Old City) นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน ตึกระฟ้าพุ่งสูงอยู่ใกล้กับพระราชวังโบราณ และการเดินทอดน่องในตลาดใหญ่ (Grand Bazaar) จะทำให้คุณต้องเข้ามาร่วมสนุกกับการช้อปปิ้งหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าท้องถิ่นไปจนถึงแบรนด์หรู อิสตันบูลยังมีชีวิตชีวากับแสงสีแห่งคืนอันสดใส และวัฒนธรรมการแสดงที่กำลังได้รับความนิยมในระดับสากล หลังจากได้สำรวจประวัติศาสตร์แล้ว อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศสมัยใหม่ของเมืองนี้ กับผู้คนที่เป็นมิตรและเต็มไปด้วยข้อเสนอของประสบการณ์ใหม่ ๆ สร้างความทรงจำที่จะอยู่ในใจคุณตราบนานเท่านาน
ตั้งอยู่ในน่านน้ำอีเจียนที่งดงาม เกาะเลสบอสนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งความฝันที่ทุกคนควรเยี่ยมชม สู่ท่าเรือที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและบรรยากาศแห่งความอบอุ่น เลสบอสไม่เพียงแต่มีท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นที่ตั้งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อมาถึงท่าเรือชุมชนมิโทิลีน เกาะเลสบอส คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของน้ำทะเลใสสีฟ้า ตัดกับบ้านเรือนที่ทาสีด้วยสีสดใส นอกจากนี้ยังมีตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น กลิ่นหอมของสมุนไพรและซีฟู้ดยั่วน้ำลาย ที่นี่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่ในร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ริมทะเล เลสบอสยังเป็นบ้านของโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของวรรณกรรมและศิลปะที่มีชื่อเสียง เช่น วิลเฮลมิน่า อาร์คิเมเดส แห่งซาฟโฟ เมื่อเดินทางไปทั่วเกาะ คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่งดงาม อ่าวที่เงียบสงบ หรือภูเขาเขียวชอุ่มที่รอคอยให้คุณมาผจญภัย การเดินทางมาที่เลสบอสคือการค้นพบความน่าหลงใหลในวัฒนธรรมกรีกและความงามที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะพักผ่อนหรือสำรวจการผจญภัยในทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง คุณจะได้มีประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม จากท่าเรือเลสบอส สู่การประทับใจในทุกช่วงเวลาแห่งการเดินทางของคุณ

เอเฟซัส (Ephesus) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นหนึ่งในหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่แสนมหัศจรรย์ของการเดินทางที่ทุกคนควรเห็นสักครั้งในชีวิต เมืองนี้เป็นที่ตั้งของซากปรักหักพังที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงวิหารอาร์เทมิส ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ นอกจากนี้ยังมีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่รองรับผู้ชมได้มากถึง 25,000 คน และถนนเซลซุสที่มีเสาเรียงรายอย่างสวยงาม สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมโรมัน การเดินทางมายังเอเฟซัส นอกจากการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในเมืองเก่าที่มีกลิ่นอายของความรุ่งเรืองจากวันวาน ร้านค้าและคาเฟ่ที่เปิดบริการอยู่ตลอดเส้นทาง เตรียมให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ หากคุณมีเวลามากขึ้น ควรไปเยือนชายหาดปามูคาเล่ ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติให้คุณได้แช่ตัวหรือไปยังเมืองซูคู เมืองท่าที่สวยงาม ด้วยความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่งดงาม เอเฟซัสจึงไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่เรือสำราญแวะจอด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ตุรกี!

ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันงดงามแห่งนี้ มีเมืองหนึ่งที่โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งความสำคัญอย่าง “คานิอา” (Chania) ที่ตั้งอยู่ในเกาะครีต (Crete) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเกาะและเป็นหลวงของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกัน เมืองคานิอา แบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ “เมืองเก่า” ที่มีการก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบเวนิสที่สวยงาม และ “เมืองใหม่” ที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเก่า เมืองเก่าของคานิอามีการผสมผสานระหว่างอาคารอันมีคุณค่าจากยุคเวนิสและอิทธิพลจากตุรกี ที่ให้ความรู้สึกย้อนยุคและสวยงามที่สุด โดยมีท่าเรือเวนิสที่สร้างขึ้นเมื่อหลายศตวรรษก่อน สัมผัสมนต์ขลังของสถาปัตยกรรมที่หยิบยกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไว้ในอาคารเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถสำรวจเพลิดเพลินได้ในเวลาเพียงวันเดียว ด้วยความสะดวกและขนาดที่กะทัดรัดของเมือง ทำให้คานิอาเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจความงดงามแห่งครีตในทุกแง่มุม แวะมาแล้วจะเป็นประสบการณ์ที่เลิกไม่ลงสำหรับการเดินทางแดนดินแห่งประวัติศาสตร์นี้!

ท่าเรืออาร์โกสโตลี ประเทศกรีซ ตั้งอยู่บนเกาะเคฟาลอนีย์ เป็นจุดหมายที่แสนล้ำค่า สำหรับผู้ที่รักการเดินทางด้วยเรือสำราญ แม้เมืองนี้จะต้องเผชิญกับความหายนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 และแผ่นดินไหวที่รุนแรง แต่ปัจจุบัน อาร์โกสโตลีนั้นกลับโชว์อัตลักษณ์เอกลักษณ์และความงดงามของธรรมชาติอย่างมีศักดิ์ศรี ท่าเรือขนาดใหญ่ด้านตะวันออกของอาร์โกสโตลี ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้สะท้อนผ่านการเดินเล่นในบางกอกหินริมทะเล ที่มีคาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟอูโซเหล้าองุ่นที่เลื่องชื่อ และผลไม้สดจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนให้ได้ลิ้มลอง ในตลาดกลางแจ้งที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสรรสิ่งแปลกใหม่ได้ตามใจชอบ นอกจากบรรยากาศที่รื่นรมย์ ผู้เข้าชมยังสามารถสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ ที่เพียบพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาทิเช่น ชายหาดที่มีทิวทัศน์อันงดงาม และทัศนียภาพของภูเขาในระยะไกล ท่าเรืออาร์โกสโตลีจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความทรงจำที่ไม่มีวันลืมสำหรับการเดินทางในฝันของคุณ.

ท่าเรือที่น่าหลงใหลในแอลเบเนีย เรียกได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ในทะเลเอเดรียติก—ท่าเรือทิรานา (Tirana Port) เป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกท่านไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศอันตระการตาของประเทศแห่งนี้ ท่าเรือทิรานาไม่เพียงแต่เป็นประตูสู่การเดินทาง แต่ยังมีชีวิตชีวาไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม เมื่อลงจากเรือสำราญ คุณจะได้พบกับตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมและรสชาติของอาหารแอลเบเนียที่คุณจะต้องหลงรัก เช่น ปลาแซลมอนย่าง หมูหมัก และเบียร์ท้องถิ่นที่ชื่นชอบ ตั้งอยู่ในเมืองทิรานา โดยมีบรรยากาศที่ผนวกกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และความทันสมัยเข้าด้วยกัน นอกจากนั้น เรายังแนะนำการเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติดูมาร์ท (Dajti Mountain National Park) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ นี่คือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่า ปั่นจักรยาน หรือสัมผัสประสบการณ์นั่งกระเช้าไฟฟ้าสำรวจความงามของวิวทิวทัศน์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน การมาเยือนท่าเรือทิรานาไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของแอลเบเนีย แต่ยังเปิดประตูสู่การผจญภัยใหม่ ๆ พร้อมให้คุณสร้างความทรงจำอันล้ำนาน เมื่อเสียงคลื่นกระทบฝั่งและกลิ่นอาหารท้องถิ่นลอยไปในอากาศ คุณจะเข้าใจว่าทำไมแอลเบเนียถึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการเดินทางของคุณ

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

ท่าเรือเกาะ Korčula ตั้งอยู่ในทะเลเอเดรียติกทางใต้ของโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเกาะที่มีความงดงามซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับสวนอีเดนสมัยใหม่ ด้วยแสงแดดที่ส่องสว่างเฉลี่ยถึง 3,000 ชั่วโมงต่อปี เกาะ Korčula มอบความหลากหลายของพืชพรรณแบบเมดิเตอร์เรเนียนอันมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ เมืองหลักของเกาะชื่อเดียวกับเกาะ Korčula มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของเกาะ ความโดดเด่นของ Korčula มาจากการที่ตั้งอยู่ในเส้นทางการค้าทางทะเล ทำให้มีการเข้ามาของผู้คนจากหลายวัฒนธรรม ตั้งแต่ชาวกรีก คาบสมุทรอิลลิรีน โรมัน จนถึงชาวโครแอต นอกจากนี้ Korčula ยังเป็นบ้านเกิดของมาร์โก โปโล นักเดินทางชื่อดัง จากบ้านที่กล่าวกันว่าเป็นสถานที่เกิดของเขา ซึ่งอยู่ในเมือง คุณจะได้สัมผัสประเพณีต่างๆ เช่น การแสดงมอเรสก้าสุดตระการตา ซึ่งมีการแสดงมานานกว่า 400 ปี สำหรับผู้มาเยือนที่ท่าเรือ Korčula สิ่งที่น่าสนใจรอให้คุณสำรวจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์เมือง และคลังศาสนาของบิชอป ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความงดงามตามธรรมชาติและบรรยากาศยุคกลางของเกาะ ที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นความทรงจำอันล้ำค่า

ท่าเรือในเมืองราวเนนนา (Ravenna) ประเทศอิตาลี คือ จุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันหลากหลาย ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยความหรูหราและภาพวาดสวยงามจากโมเสคไบแซนไทน์ที่สวยสดงดงาม โดยเริ่มตำนานทางประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 5 เมื่อต้องการนำศูนย์กลางอำนาจจากกรุงโรม มาที่นี่ ในช่วงเวลาที่ถูกปกครองโดยกษัตริย์โกธิค และต่อมาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิไบแซนไทน์ มหานครราวเนนนาถูกประดับประดาด้วยพระวิหารและสุสานที่มีการออกแบบภายนอกเรียบง่าย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความอลังการจากโมเสคที่มีสีสันสดใส ซึ่งนำเสนอความงดงามของธรรมชาติผ่านการบรรยายถึงท้องฟ้า ผืนดิน และสัตว์ต่างๆ การสำรวจเมืองนี้จะนำคุณไปพบกับสถานที่ซ่อนเร้น เช่น เมืองคลาสเซ (Classe) ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของโมเสคอีกมากมาย เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ราวเนนนา ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสามารถหลงใหลไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างแท้จริง มาเปิดประสบการณ์การเดินทางที่สุดแสนประทับใจในเมืองแห่งนี้เถอะครับ!






เจ้าของสวีทใหม่ที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าคุณภาพสูงและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์อันหรูหรา มีจำนวน 6 ห้อง ซึ่งมักจะถูกจองก่อนเสมอ ห้องสวีทเหล่านี้มีพื้นที่กว้างใหญ่เกือบ 1,000 ตารางฟุต เป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบและการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน โดยเฉพาะห้องน้ำที่ได้รับการออกแบบใหม่อย่างหรูหรา มีฝักบัวขนาดใหญ่ ระเบียงไม้เทียมส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบน 2 เครื่อง ผู้เข้าพักในเจ้าของสวีทจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 กระเป๋า การขึ้นเรือก่อนเวลา 11.00 น. พร้อมบริการจัดส่งสัมภาระอย่างรวดเร็ว บริการบัตเลอร์ 24 ชั่วโมง อาหารกลางวันในห้องสวีทในวันขึ้นเรือแบบส่วนตัว และมีบาร์เครื่องดื่มครบชุดฟรีที่มีสุราและไวน์ระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีแชมเปญต้อนรับ ผลไม้สดที่เติมให้ใหม่ทุกวัน การจองเข้าร้านอาหารพิเศษออนไลน์อย่างรวดเร็ว และการเข้าถึงอควอมา สปา เทอเรซ ได้ไม่จำกัด โดยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอาบน้ำระดับหรู ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการนั่งพักผ่อนบนระเบียง และการบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี รวมถึงการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ ทางเราขอเรียนให้ทราบว่า การสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงนั้นได้รับการห้ามอย่างเคร่งครัด




ชื่อห้อง "วิสตา สวีท" ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นวิวสวยงามจากด้านหน้าของเรือ ห้องสวีทนี้มีพื้นที่กว้างขวางถึง 786 ตารางฟุต พร้อมให้ความสะดวกสบายที่สามารถจินตนาการได้ครบครัน รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักซึ่งตกแต่งด้วยหินออนิกซ์, หินอ่อนคาราร่า และหินแกรนิต สัมผัสความหรูหราจากการอาบน้ำในฝักบัวที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ ยังสามารถเพลิดเพลินกับการนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคหรือชมภาพยนตร์ผ่านระบบบันเทิงที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับคุณ เมื่อเข้าพักใน "วิสตา สวีท" คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. โดยมีการจัดส่งกระเป๋าเดินทางลำดับความสำคัญ, บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, และบาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีขวดแชมเปญต้อนรับและผลไม้สดที่เติมเต็มทุกวัน หรือแม้กระทั่งสิทธิ์ในการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์อย่างรวดเร็ว และการเข้าใช้ Aquamar Spa Terrace อย่างไม่มีข้อจำกัด อีกทั้งยังมีอุปกรณ์อาบน้ำสุดหรู ทุกเช้าเลือกอ่านหนังสือพิมพ์ตามที่คุณต้องการ พร้อมกระเป๋าผ้าที่มีโลโก้ Oceania Cruises และเครื่องเขียนส่วนตัวให้คุณอีกด้วย ห้องสวีทนี้จะทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ โดยการใช้ผ้าห่มแคชเมียร์ในการนั่งพักผ่อนบนระเบียง และเลือกหมอนจากคอลเลกชันที่หรูหราได้ตามใจชอบ หากคุณต้องการสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในสภาพแวดล้อมที่หรูหรา วิสตา สวีท คือทางเลือกที่ไม่ควรพลาด



เพนท์เฮาส์สวีทของเรามีพื้นที่กว้าง 30 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยผ้าหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามในเฉดสีที่เงียบสงบและให้ความรู้สึกเหมือนทะเลและท้องฟ้า ห้องนอนกว้างขวางเหมาะสำหรับการรับประทานอาหารในห้อง พร้อมด้วยบริเวณนั่งเล่นที่มีมินิบาร์เย็นและโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างหรูหราด้วยการตกแต่งหินและฝักบัวที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับเพนท์เฮาส์สวีท เช่น บริการซักรีดฟรีสำหรับกระเป๋าถึง 3 ใบ รวมทั้งบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง และขวดแชมเปญต้อนรับฟรี บริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์เป็นลำดับความสำคัญ และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด รวมถึงผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนที่ระเบียง และบริการเงา รองเท้าและการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และระเบียงเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่


ห้องพักระดับคอนเซียร์จพร้อมระเบียง ประเภท A ตั้งอยู่ในทำเลที่ต้องการมากที่สุดบนเรือ ทั้งยังมอบความหรูหราและความคุ้มค่าอย่างลงตัว ห้องพักที่ถูกปรับแต่งใหม่อย่างทันสมัยขนาด 216 ตารางฟุตนี้ มอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทรงคุณค่าและความเป็นเอกสิทธิ์ เช่น การบริการซักรีดฟรีที่ทำให้การเข้าพักของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น การตกแต่งใหม่ที่สดใส เตียงที่นุ่มสบายและระเบียงที่ได้รับการออกแบบใหม่พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ล้วนแต่เติมเต็มประสบการณ์คอนเซียร์จอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ห้องพักยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับคอนเซียร์จ ซึ่งรวมถึงบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, เมนูรูมเซอร์วิสที่ขยายจาก The Grand Dining Room, ขวดแชมเปญตอนต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้าแบบมีลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด, กระเป๋าผ้าลาย Oceania Cruises ฟรี, ผ้าห่มขนสัตว์ที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนบนระเบียง, การบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ และบริการขัดรองเท้าฟรี ห้องพักประเภทนี้คือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มองหาความสะดวกสบายและความหรูหราในการเดินทางทางทะเล


ระเบียง客艙ขนาด 216 ตารางฟุตนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับพื้นหินแปลกตาและหัวเตียงที่บุด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม ตลอดจนโคมไฟเก๋ไก๋ การสร้างสรรค์เหล่านี้เพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีระเบียงไม้สักส่วนตัวซึ่งคุณสามารถชมทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างสะดวกสบาย ภายในห้องประกอบไปด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง, มินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง ห้องระเบียงนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมด้วยผ้าปูที่นอน 1,000 เส้นใย, เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งธรรมชาติและแตกฟองจัดส่งฟรี และของใช้ในห้องน้ำจาก Bulgari นอกจากนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, การทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน, ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมตอนจัดเตียง, ระบบโทรทัศน์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ออนดีมานด์, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สาย และบริการโทรศัพท์มือถือ ด้วยการออกแบบที่หรูหราและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มรูปแบบ การพักผ่อนในระเบียง客艙นี้ จึงเป็นทางเลือกที่ไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางสุดพิเศษของคุณ


ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลขนาด 165 ตารางฟุต ถูกออกแบบใหม่ให้มีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ด้วยตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความสะดวกสบาย โดยมุมพักผ่อนที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง และมินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น ๆ รวมถึงโต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า รังสรรค์ด้วยสีสันที่ผ่อนคลายและผ้าสไตล์หรูหรา ทำให้ห้องนี้โดดเด่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ห้องพักยังมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น น้ำอัดลมเติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบเปล่าและแบบมีฟองฟรี, และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises และผลิตภัณฑ์ Bulgari คุณภาพสูง บริการแม่บ้านจะทำความสะอาดห้องพักถึงสองครั้งต่อวัน พร้อมทั้งระบบโทรทัศน์ที่ให้บริการภาพยนตร์ตามสั่งและข้อมูลสภาพอากาศ รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ตกแต่งภายในเช่นโต๊ะเขียนหนังสือและเครื่องเขียน รวมถึงผ้าขนหนูและเสื้อคลุมที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อนุ่ม ที่สำคัญยังมีช็อกโกแลตเบลเยียมจัดเตรียมไว้บริการในช่วงเปิดเตียงอีกด้วย สำหรับห้องพักที่มีคุณสมบัติสำหรับผู้พิการ จะมีพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมราวจับ และห้องน้ำที่ออกแบบให้สูงต่ำรวมกันด้วยระบบระบายน้ำที่มีอยู่ ในห้องยังมีอ่างอาบน้ำเพื่อความสะดวกสบายอีกด้วย *หมายเหตุ: ห้ามสูบบุหรี่ในห้องพักและพื้นที่บนระเบียงอย่างเคร่งครัด*


ห้องพักแบบมองเห็นทะเลมีขนาด 165 ตารางฟุต ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยดีไซน์ทันสมัยที่ทำให้การใช้พื้นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ภายในห้องคุณจะได้พบกับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมโซฟาที่สามารถนอนเหยียดได้, โต๊ะเขียนหนังสือ, โต๊ะอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็นเย็นสดชื่น ห้องพักนี้ยังมีประตูหน้าต่างที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวยงามได้อีกด้วย ในห้องพักแบบมองเห็นทะเล คุณจะได้เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ซ้ำใคร เช่น เตียง Tranquility ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises, อุปกรณ์ Bulgari, บริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน, ระบบโทรทัศน์ดิจิทัลที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังมีชุดเครื่องนอนผ้าฝ้ายชั้นดี เสื้อคลุมและรองเท้าแตะ, ไดร์เป่าผมแบบมือถือ, ตู้นิรภัยสำหรับเก็บของสำคัญ พร้อมทั้งช็อกโกแลตเบลเยียมที่ได้รับในบริการนอนเตียง ผู้เข้าพักโปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องพัก, สวีท และระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด


ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยวขนาด 143 ตารางฟุต เป็นที่พักที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางเดี่ยว ซึ่งตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกสบายบนดาดฟ้า 6 โดยแต่ละห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่นุ่มสบาย พร้อมด้วยมินิบาร์ที่สามารถเก็บเครื่องดื่มเย็น ๆ โต๊ะทำงาน และพื้นที่เก็บของที่เพียงพอ เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยวยังมีบริการฟรีที่รวมไว้ เช่น เครื่องดื่มอัดลมที่ถูกเติมเต็มทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบมีฟอง, และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รวมไว้ในห้องพัก อาทิเช่น ชุดอุปกรณ์ Bulgari การบริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน ระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอคทีฟพร้อมภาพยนตร์ตามสั่ง และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมถึงการโทรศัพท์มือถือ คุณยังจะได้พบกับโต๊ะทำงานและเครื่องเขียน ผ้าขนหนูและเสื้อคลุมจากผ้าฝ้ายที่นุ่มสบาย เครื่องเป่าผม และตู้นิรภัยสำหรับความปลอดภัย พร้อมด้วยช็อกโกแลตเบลเยี่ยมในบริการคืนห้อง แม้ว่าในห้องพักจะห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด แต่ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยวนี้ยังคงมอบความหรูหราและความสะดวกสบายสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่สำหรับคุณ


客艙內部是為追求奢華與舒適的旅客量身打造的理想空間。這個房型提供了多種免費設施,包括每日補充的冷飲、純淨的靜水與氣泡水,以及全天候的客房服務選單,讓您在旅途中隨時都能享受便利。房間內配有獨特的Tranquility床鋪,是Oceania Cruises的專屬設計,確保您擁有極致的睡眠體驗。此外,房內還配有Bulgari品牌的盥洗用品,讓您的每一次清洗都充滿奢華感。 在客艙內,您可以享受每日兩次的清潔服務以及互動電視系統,這能讓您隨時觀看隨選的電影、查詢天氣等資訊。無論是工作還是休閒,無線網路及行動服務隨時可用,並配備了書寫桌與文具。此外,您還能享受柔軟的棉質毛巾、浴袍和拖鞋,以及手持式吹風機。安全方面,房內設有安全保險箱,並在夜晚服務中提供比利時巧克力,增添入住的愉悅體驗。請留意,客艙內及陽台上嚴禁吸煙,以確保每位旅客均能享受舒適且清新的環境。