
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนเนีย ซีเรน่า
โอเชียเนีย ครูซส์


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!


เมื่อพูดถึงการเดินทางสู่หมู่เกาะเคย์แมน ท่าเรือจอร์จทาวน์ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่หลงใหลในการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเกาะสวรรค์แห่งนี้ อาทิ การเดินเล่นไปตามเส้นทางที่มีวิวน้ำอันงดงามในซอยฮาร์เบอร์ไดรฟ์ ที่คุณจะได้พบกับโบสถ์เอล์มสลี่ย์ เมมอเรียล ยูนิตด์ ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามมิชชันนารีผู้แรกที่เข้ามาสอนศาสนาในพื้นที่ โบสถ์นี้มีเพดานซึ่งมีโครงไม้ที่สวยงาม สื่อถึงความเชื่อมโยงของประชาชนต่อศาสนา ไม่ไกลจากนั้น คุณจะเห็นอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์ที่จัดเก็บชื่อเสียงของชนชาติเคย์มัน บน "กำแพงประวัติศาสตร์" ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 500 ปีของเกาะในปี 2003 นอกจากนี้ยังมีอาคารสภานิติบัญญัติของหมู่เกาะเคย์แมนและอาคารสงบ สันติภาพที่สร้างขึ้นในปี 1919 ในย่านการเงิน นอกจากนี้ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปที่สำนักงานไปรษณีย์ใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี 1939 เพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพกับรูปปั้นของอิกวน่าสีฟ้า เพื่อเป็นที่ระลึกของการเดินทางสุดพิเศษในครั้งนี้ ที่นี่คือความงดงามและเสน่ห์ที่รอให้คุณมาตักตวงความประทับใจอย่างไม่มีวันลืม

โอชอเรียส (Ocho Rios) เป็นท่าเรือที่มีความงดงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สวยที่สุดในจาเมกา เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่าที่นี่ ผู้เดินทางจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ตั้งอยู่ในใจกลางเกาะจาเมกา โอชอเรียสโดดเด่นด้วยชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำทะเลใสสะท้อนกับแสงแดด และภูเขาที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่ม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม "โดนน์ส ริเวอร์ ฟอลส์" ที่มีชื่อเสียง ซึ่งนักเดินทางสามารถปีนป่ายขึ้นไปและเล่นน้ำท่ามกลางน้ำตกที่ไหลลดหลั่น นอกจากนั้นยังมี "บลู ฮอเล่อร์" ที่ให้โอกาสในการดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจความหลากหลายของทะเล นอกจากนี้สถานที่ต่าง ๆ ยังมีวัฒนธรรมจาเมกาที่หลากหลาย รอให้ได้สัมผัส เช่น ตลาดเจ้าของท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยของฝากและอาหารพื้นเมืองที่อร่อย ไม่เพียงแค่ธรรมชาติ แต่โอชอเรียสยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง คุณจะได้เพลิดเพลินกับการเดินเล่นริมชายหาดที่งดงาม สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย และสร้างความทรงจำอันมีค่าในทริปที่ท่านไม่ควรพลาด!


ซานตา มาร์ตา (Santa Marta) คือท่าเรือที่โดดเด่นในโคลอมเบีย ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางสู่ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเสน่ห์ของทะเลแคริบเบียน ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามโดยรอบและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เริ่มต้นการผจญภัยของคุณด้วยการสำรวจชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น เพลเยีย แดลก่า (Playa de Rodadero) ซึ่งมีน้ำทะเลใสสะอาดและกิจกรรมทางน้ำมากมาย นอกจากนี้ ซานตา มาร์ตายังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับการสำรวจอุทยานแห่งชาติ ทายนา (Tayrona National Park) ซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยภูเขา ป่าฝน และชายหาดที่เงียบสงบ ไม่เพียงแค่ธรรมชาติ ซานตา มาร์ตายังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมีเมืองเก่าที่สวยงามและโบสถ์ในยุคล่าอาณานิคม เช่น โบสถ์ซานตา มาร์ตา (Cathedral of Santa Marta) ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยาวนานอีกด้วย เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและลงตัว ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวโคลอมเบีย จะทำให้การเยือนซานตา มาร์ตานั้นเป็นเรื่องที่น่าจดจำตลอดไป ปล่อยให้วิญญาณของการผจญภัยพาคุณไปสู่ท่าเรือแห่งนี้ ที่ซึ่งทุกวินาทีเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์!

คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย

ท่าเรือโคลอน (Colón) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของคลองปานามา ฝั่งทะเลแอตแลนติก เป็นศูนย์กลางที่สำคัญไม่เพียงแต่ในฐานะท่าเรือที่ยุ่งเหยิง แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ในอดีตชื่อเมืองนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาจาก Aspinwall ซึ่งตั้งชื่อตามวิศวกรรถไฟชาวอเมริกันสมัยศตวรรษที่ 19 แต่ในปัจจุบันโคลอนได้กลายเป็นที่รู้จักในนามของคริสโตเฟอร์โคลัมบัส เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1850 และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการสร้างรถไฟข้ามปานามา การพัฒนาเพิ่มเติมได้รับแรงกระตุ้นจากความพยายามในการสร้างคลองโดยฝรั่งเศส แต่ด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้รุนแรงในปี 1885 เมืองนี้ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในสไตล์สถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส ในด้านการค้า โคลอนมีโซนปลอดภาษีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก หรือที่เรียกกันว่า ซูนา ลิเบร ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าขนาดยักษ์และสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าขายส่งที่กลายเป็นแรงดึงดูดสำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันลึกล้ำที่โคลอน เปิดประตูสู่การผจญภัยใหม่ ๆ ที่รอคอยคุณอยู่บนเส้นทางการเดินทางครั้งต่อไป!



เมืองมานตาในเอกวาดอร์ เป็นหนึ่งในปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น มานตาเป็นท่าเรือที่สำคัญติดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพและทะเลที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทางน้ำและกิจกรรมต่างๆ เช่น การดำน้ำตื้น การตกปลา และการล่องเรือชมวิว เมื่อเยือนมานตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเกาะเอนโบนหรือตลาดของเมือง ซึ่งมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของอาหารท้องถิ่น เดินเล่นไปตามชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดอวาเซนกา ที่ถือเป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยม หรือชื่นชมงานฝีมือของชาวบ้านที่ตลาดศิลปะ นอกจากนี้ การสำรวจพื้นที่ใกล้เคียง เช่น อุทยานแห่งชาติยัสนี หรือลองเข้าร่วมการท่องเที่ยวเพื่อดูวาฬในช่วงฤดูที่เหมาะสม จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความประทับใจอย่างแท้จริง มานตาไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในโลกอันมหัศจรรย์ของเอกวาดอร์อย่างแท้จริง


ท่าเรือซาลาเวอรี (Salaverry) ตั้งอยู่ห่างจากลิมาไปทางเหนือประมาณ 9 ชั่วโมง เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทาง ผู้ที่มาเยือนมักจะนำประสบการณ์ที่หลากหลายกลับไป ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจเมืองตรุจิโล (Trujillo) หรือซึมซับวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในปี 1534 โดยฟรานซิสโก ปิซาร์โรย์ และยังคงรักษาความงามแบบโคโลเนียลเอาไว้ได้อย่างดี ด้วยบ้านเรือนสไตล์คาโซนาที่เรียงรายริมถนน ไม่ไกลจากเมืองนี้คือชานชาน (Chan Chan) เมืองหลวงโบราณของคนชิมู ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,500 ปี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ โดยภูมิภาคนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของม้าเพอรูเวียนปาโซ (Peruvian Paso) ที่มีความสง่างาม พร้อมด้วยชายหาดที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิจกรรมกีฬาทางน้ำ เช่น เซิร์ฟ ท่าเรือซาลาเวอรีไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่วัฒนธรรมอันลึกซึ้ง แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุดในดินแดนที่อบอวลไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามทางธรรมชาติ แบบที่ทุกคนสามารถมาสัมผัสได้ ตั้งแต่การเดินเล่นที่ชายหาด ไปจนถึงการสำรวจกันในเมือง ประสบการณ์ทุกอย่างรอคุณอยู่ในท่าเรือแห่งนี้!


ท่าเรือพิสโกตั้งอยู่ในประเทศเปรู เป็นสถานที่ที่เผยให้เห็นความเป็นเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ของชาวเปรู ที่นี่ไม่เพียงเคยเป็นจุดแรกที่อาคันตุกะจากอาร์เจนตินา ได้แก่ พลเอกซานมาร์ติน ได้ลงจอดเพื่อปลดปล่อยประเทศจากการครอบครองของสเปน แต่ยังเป็นเมืองที่ส่งออกพีสโก เสริมสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนดี้ที่เป็นที่นิยมของชาวเปรูอีกด้วย เมืองพิสโกในอดีตเคยรุ่งเรืองในช่วงทศวรรษที่ 1920 ซึ่งเป็นยุคที่การเก็บกวาดปุ๋ยจากเกาะบอลเลสตาสสร้างรายได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน เมืองนี้ต้องเผชิญกับการฟื้นฟูหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2007 ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่ออาคารบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกพักที่พารากัสซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพิสโก แต่หากคุณมีโอกาสมาเยือนพิสโก คุณจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง หากสนใจช่วยเหลือเมืองในการฟื้นฟู มีหลายองค์กรที่มอบโอกาสให้คุณได้ทำงานอาสา ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น และสัมผัสวัฒนธรรมที่เข้มแข็งของเปรูที่นี่ได้อย่างแท้จริง


อาริกา (Arica) เมืองเล็กๆ แห่งชิลี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งฤดูใบไม้ผลิตลอดไป” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมไม่เพียงแค่ภูมิอากาศที่อบอุ่นและชายหาดที่งดงาม แต่ยังมีเสน่ห์อื่นๆ ที่รอให้คุณค้นพบ อาริกาเป็นที่ตั้งของ Plaza 21 de Mayo สถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อนในยามบ่าย ลองนั่งพักสูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสบรรยากาศอันมีชีวิตชีวา ไม่ควรพลาดการเดินไปยังท่าเรือเพื่อชมชีวิตของนกเพลิกันและสิงโตทะเลที่กำลังเดินตามเรือประมงในช่วงเวลาที่จับปลา เป็นภาพที่น่าประทับใจและบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของชาวอาริกาอีกด้วย หากคุณมีแรงบันดาลใจ ลองปีนขึ้นไปบน Morro เพื่อชมวิวที่สวยงามและนึกย้อนถึงประวัติศาสตร์การสู้รบในอดีต สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาเซิร์ฟ อาริกายังเป็นที่รู้จักในด้านสภาพคลื่นที่ยอดเยี่ยม และได้จัดการแข่งขัน Rusty Arica Pro Surf Challenge ในปี 2009 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ระดับโลก จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมืองแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่เพียบพร้อมสำหรับการค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความตื่นเต้น


แอนโทฟากาสตา (Antofagasta) เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเหนือของชิลี ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรและเทือกเขา เป็นศูนย์กลางการส่งออกแร่จากสมัยตั้งแต่ปี 1866 ด้วยความสำคัญในฐานะท่าเรือ ส่งเสริมการค้าให้กับโบลิเวียและอาร์เจนตินา บริเวณโดยรอบมีชื่อเสียงด้วยความเข้มของแสงแดดที่สูงที่สุดในโลก ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาสิ่งใหม่ ความงดงามของแอนโทฟากาสตาสะท้อนในสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย เช่น นาฬิกาเวสต์มินสเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่พลาซ่าโคลอน ซึ่งเป็นมรดกจากชาวอังกฤษ ประกอบไปด้วยสวนที่สวยงาม沿อเวนิว โอฮิกกิ้น ที่มีดินจากทั่วโลก เสน่ห์ของเมืองยังแสดงผ่านวิวทะเล ทะเลทราย และภูเขาที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ผู้เดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ตลาดสินค้าหัตถกรรมในพลาซ่าเดลเมอร์คาโด หรือเพลิดเพลินกับมื้ออาหารอันยอดเยี่ยมที่โรงแรมแอนโทฟากาสตา พร้อมวิวทะเลที่งดงาม แม้ว่าบุคลากรและบริการจะอาจไม่ถึงมาตรฐานตะวันตก แต่นี่คือโอกาสในการค้นพบความงามที่ไม่เหมือนใครของชิลี พร้อมสร้างความทรงจำในการเดินทางที่น่าประทับใจในสถานที่ที่ห่างไกลและมีเสน่ห์นี้.


ท่าเรือวัลปาราอีโซ (Valparaíso) ของชิลี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เสน่ห์แห่งวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของเมืองนี้เกิดจากศิลปกรรมที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วย cerros (เนินเขา) ถึง 45 ลูกที่ตั้งตระหง่านเหนือมหาสมุทร พี่น้องชาววัลปาราอีโซจะเข้าใจความสำคัญของการเดินทางด้วยทางเดินที่คดเคี้ยวและลิฟต์ไม้ (ascensores) เพื่อขึ้นไปยังมุมต่าง ๆ ภายในเมือง เมืองนี้มีบ้านสีสันสดใสเรียงรายอยู่ตามเชิงเขา ส่วนใหญ่สร้างจากเหล็กกล้าที่ถอดออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้แต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัลปาราอีโซเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญที่สุดในอเมริกาใต้ ก่อนที่คลองปานามาจะเปิดใช้ และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านเส้นทางการค้า สถานะของเมืองยังคงเป็นท่าเรือหลักของชิลี สำหรับบรรดานักท่องเที่ยว การเดินเล่นสัมผัสกับวัฒนธรรมของเมืองผ่าน El Plan ซึ่งเป็นพื้นที่ร้านค้าและร้านอาหารแนวใหม่ นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นั่นคุณจะพบกับบรรยากาศที่คึกคักและวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของทะเล การเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะและประวัติศาสตร์จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางที่มองเห็นความงดงามของชีวิตชาวพอร์ตในทุกขั้นตอน

เมืองปูเออร์โต้ มอนต์ (Puerto Montt) เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากในเขตทะเลสาบของชิลี ด้วยบรรยากาศที่มีลมพัดเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองนี้เคยเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับผู้เดินทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่เขตนี้ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางประมง สิ่งทอ และการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค ปูเออร์โต้ มอนต์ เป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และตึกสำนักงานตั้งอยู่ในใจกลางเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีโอกาสมาเยือนในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงาม เช่น พลายา เปลูโก (Playa Pelluco) ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือสามารถขับรถไปตามชายฝั่งเพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเนินเขาที่ล้อมรอบ นอกจากนี้ ปูเออร์โต้ มอนต์ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจธรรมชาติอันงดงามของชิลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติออสตราล ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าและภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต อย่าลืมวางแผนการเดินทางมายังเมืองนี้ การล่องเรือในท่าเรือที่มีชื่อเสียงจะเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำ!
เมืองคัสโตร (Castro) ประเทศชิลี เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งตั้งอยู่บนเกาะชิลัว (Chiloe) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันแห่งวัฒนธรรม โดยเฉพาะบ้านไม้สีสันสดใสที่ตั้งอยู่บนเสาเรียงรายริมแม่น้ำ การเดินชมในย่านนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพฝันที่เปล่งประกาย ด้วยบ้านทรงปาลาฟิโต (palafitos) ที่ทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความมีชีวิตชีวาของชาวชิลี คัสโตรไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่าเยี่ยมชม แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจหมู่เกาะอันงดงามรอบข้าง ทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้ได้รับการฟื้นฟูจากผลกระทบของแผ่นดินไหวและไฟไหม้ในอดีต โดยเฉพาะแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงในปี 1960 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของชุมชนที่นี่ และตอนนี้คัสโตรได้กลายเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่น่าจดจำ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในการเฉลิมฉลองความงามและวัฒนธรรม บรรดาเมนูอาหารทะเลสดใหม่ และวิวธรรมชาติที่งดงาม คัสโตร คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังชิลีของคุณ

ท่าเรือปวยร์โต้ชากาบูโก (Puerto Chacabuco) ตั้งอยู่ในประเทศชิลี เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติและทะเลที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เมื่อคุณเดินทางจากเมืองคอยไอเก (Coyhaique) ผ่านทิวเขา ธรรมชาติจะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศของฟาร์มที่มีหมอกปกคลุม ราวกับภาพวาดที่สวยงาม ขณะที่น้ำตกและแม่น้ำเล็กๆ ไหลผ่านภูเขาที่สวยสดงดงาม รอบๆ คือภูมิทัศน์ที่เขียวขจี มีต้นปอปลาร์สีเหลืองเรียงรายอยู่รอบที่พักเรียบง่าย ท่าเรือชากาบูโก เป็นประตูสู่การผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเมืองปวยร์โต้มอนต์ (Puerto Montt) และเกาะชิโลเอ (Chiloé) ซึ่งมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นเส้นทางไปยังลากูนาซานราฟาเอล (Laguna San Rafael) ที่มีความงดงามตามธรรมชาติรอคุณอยู่ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความสงบและความประทับใจ ล่องเรือจากชากาบูโกสู่จุดหมายที่สวยงามนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงความอบอุ่นและความตื่นเต้น พร้อมหรือไม่ที่จะเปิดประตูสู่การสำรวจที่ไม่รู้จบในชิลี?


ปุนตาอาเรนาส เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่ในเขตปาตาโกเนียของชิลี และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำนึกถึงธรรมชาติที่งดงามในภูมิภาคนี้ เมืองที่สร้างขึ้นประมาณ 150 ปีที่แล้วนี้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และด้วยความเป็นเมืองแรกในปาตาโกเนีย คุณจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ที่สลับสานกับบ้านเรือนที่มีหลังคาโลหะหลายสี เมื่อมองจากมุมสูง เช่น ที่มิโรเดอร์ เซโรลาครูซ ที่นี่ คุณไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม Museo Naval y Marítimo ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานของชิลี รวมถึง Museo Regional de Magallanes ซึ่งเคยเป็นบ้านของตระกูลที่มีอำนาจในอดีต นอกจากนี้ ถ้าคุณรักความเป็นธรรมชาติ Parque Nacional Torres del Paine ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องเยี่ยมชม ซึ่งมีภูเขาไฟสวยงามและสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปยัง Isla Magdalena เพื่อชมพวกเพนกวินมาจิลลานิก ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ตัวโดยสามารถเดินชมได้โดยสบายๆ อย่าลืมนำน้ำอุ่นไปด้วย เพราะอากาศที่นั่นอาจเย็นสบาย แม้ในช่วงฤดูร้อน ปุนตาอาเรนาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งแต่ความสวยงามของธรรมชาติ การสำรวจอดีต จนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกช่วงเวลา

อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่



ท่าเรือพอร์ตสแตนลีย์ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฟอล์คลแลนด์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะมาลวินาส) เป็นจุดหมายที่ซ่อนเร้นในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่คือเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และบรรยากาศที่เหมือนกับหมู่บ้านอังกฤษที่หลุดออกมาใกล้เคียง โดยบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมเต็มความงามให้กับทิวทัศน์ที่ถูกตั้งอยู่ในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้พอร์ตสแตนลีย์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีซากเรือ Lady Elizabeth ที่จมอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เป็นเครื่องเตือนใจถึงสภาพอากาศอันโหดร้ายที่แวดล้อมหมู่เกาะนี้ การเดินทางมายังฟอล์คลแลนด์ไม่ได้มีเพียงการพบกับภาพวิวอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับโลกของเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เพนกวิน Gentoo, Magellanic และ King ที่มักจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือแวะพักระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า ฟอล์คลแลนด์คือต่อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนที่ไม่เหมือนใคร


เมื่อเข้ามายังเมือง Puerto Madryn จากเส้นทาง Ruta 3 คุณอาจรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเมืองนี้คือหนึ่งในจุดเที่ยวที่สำคัญที่สุดในแพตาโกเนียชายฝั่ง การเดินทางจะพาคุณมายังถนนริมชายฝั่ง Rambla ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และเกสต์เฮาส์ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ในท่ามกลางวิวของอ่าว Golfo Nuevo ที่สวยงามและสงบ Puerto Madryn อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น คาบสมุทร Valdés และ Punta Tombo ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก ในช่วงฤดูวาฬที่มีระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม คุณจะได้เห็นวาฬที่แหวกว่ายในอ่าวอย่างใกล้ชิดและสามารถเดินไปยังท่าเรือเพื่อชมความงามเหล่านี้ได้ การวางแผนทริปต่าง ๆ ก็สะดวกสบายด้วยตัวแทนจัดทัวร์และบริษัทเช่ารถมากมายที่มีให้บริการ ร่วมสนุกในกิจกรรมระยะสั้นที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พร้อมให้ Puerto Madryn เป็นประตูสู่การผจญภัยที่น่าจดจำในดินแดนแห่งสัตว์ป่าชั้นนำของอาร์เจนตินา!


กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นเมืองที่ผสมผสานความงดงามและความมีชีวิตชีวาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย สามารถสังเกตได้จาก Plaza de Mayo อันมีเสน่ห์ดุจจัตุรัสใหญ่ในมาดริด และ Teatro Colón ที่สวยงามราวกับว่าได้ย้ายมาจากเวียนนา บัวโนสไอเรสยังมีความเป็นอเมริกาใต้ที่ชัดเจนจากการเดินเล่นในถนนที่ปูด้วยหินและรองเท้าหนังคุณภาพสูงที่วางขายในร้านค้าเล็กๆ แถมยังมีกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ขบวนพาเหรดของแฟนฟุตบอลที่แสดงถึงความรักในกีฬานี้ของชาวเมือง นอกจากวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลาย ชิมประสบการณ์ลิ้มลองไวน์ชั้นดี สเต็กเนื้อฉ่ำ และไอติมรสชาติต่างๆ ที่ได้มาเติมเต็มความอร่อยให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ท่าเรือในกรุงบัวโนสไอเรส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเสน่ห์แห่งเมืองนี้ พร้อมเปิดประสบการณ์การเดินทางที่สุดหรูหรา ในดินแดนที่มีทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยรอคุณอยู่

เมื่อคุณก้าวเข้าไปในโลกแห่งความหรูหรา ณ Punta del Este ประเทศอุรุกวัย คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับ Hamptons หรือ St-Tropez เมืองนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่ความพิเศษจะส่งเสริมให้เกิดปาร์ตี้ไม่รู้จบ ขณะเดียวกัน Punta del Este ยังคงเป็นสถานที่หลากหลายที่เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือนักธุรกิจที่ปรารถนาความสงบในบรรยากาศที่มีระดับ บริเวณชายฝั่งมีชีวิตชีวาในตัวเมืองที่มีชายหาดทอดยาว ขณะที่ด้านในก็มีฟาร์มและคฤหาสน์หรูหราที่เรียกว่า "chacras" หรือ "estancias" ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างสงบ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสันอย่าง La Barra และ José Ignacio ซึ่งตกกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน Punta del Este ได้ชื่อมาจาก "จุดตะวันออก" ซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกระหว่าง Río de la Plata และมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง Punta Ballena ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน หากคุณมีโอกาสได้เยือนที่นี่ รับรองว่าจะไม่มีใครผิดหวัง กับความงดงามที่ซ่อนอยู่รอให้คุณไปค้นพบ.


ยินดีต้อนรับสู่เมืองริโอเดจาเนโร หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Cidade Maravilhosa" เมืองมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา ริโอเป็นที่ตั้งของวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากยอดเขาคอร์โควาโดที่มีพระเยซูกางแขน, หาดอิปาเนมา ที่เต็มไปด้วยสาวงาม, และเทศกาลคาร์นิวัลที่มีชีวิตชีวา ที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย เมื่อคุณออกจากสนามบินและมุ่งหน้าสู่โซนซัล (Zona Sul) คุณจะได้สัมผัสความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างความงามทางธรรมชาติและความยากจนในเมืองที่มีประชากรถึง 12 ล้านคน บนถนนที่นำไปสู่หาดโคปาคาบานา ด้านหนึ่งคือหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้า รายล้อมด้วยอาคารสูงทันสมัย จะเห็นภาพสุดคลาสสิคที่ทุกคนต้องการเก็บไว้เป็นความทรงจำ บริเวณนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและอารมณ์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดฮิปปี้ในวันอาทิตย์, บรรยากาศที่สดชื่นของร้านกาแฟริมถนน หรือแสงสว่างตระการตาบนยอดเขา Pão de Açúcar ในยามค่ำคืน ริโอเตรียมพร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหล พร้อมให้โอกาสคุณได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณของชาวคาริโอคาตลอดการเดินทางของคุณในเมืองนี้


มาร์เซลิโอ (Maceió) เมืองหลวงของรัฐอาลากัวส (Alagoas) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล เป็นจุดหมายปลายทางอันงดงามที่ตั้งอยู่ริมทะเลแอตแลนติกและทะเลสาบนอร์เต (Norte) หรือมุนเดา (Mundaú) ที่มีความลึกของน้ำตื้นซึ่งยาวไปหลายไมล์ นับเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตั้งแต่อดีต โดยมีการก่อตั้งตั้งแต่ปี 1815 และได้รับการยกสถานะเป็นเมืองหลวงในปี 1839 หากคุณต้องการสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติที่หลากหลาย มาร์เซลิโอเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่มีน้ำทะเลอันใสสะอาด เช่น ชายหาดปัจวาร์ (Praia do Pajuçara) ที่เป็นที่รู้จักสำหรับกิจกรรมดำน้ำตื้น หรือจะเป็นการเดินเล่นในโรงแรมหรูริมทะเล ที่พร้อมให้บริการความสะดวกสบายในแบบ Exclusive นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมบราซิลอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรมท้องถิ่น เช่น การลิ้มลองอาหารอร่อยและการเยี่ยมชมตลาดหัตถกรรมท้องถิ่นที่จะทำให้คุณหลงรักบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา มาร์เซลิโอไม่ใช่แค่ท่าเรือสำราญ แต่คือประตูสู่ประสบการณ์ที่น่าจดจำในบราซิลที่คุณจะไม่อยากพลาด!






เจ้าของสวีทใหม่ที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าคุณภาพสูงและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์อันหรูหรา มีจำนวน 6 ห้อง ซึ่งมักจะถูกจองก่อนเสมอ ห้องสวีทเหล่านี้มีพื้นที่กว้างใหญ่เกือบ 1,000 ตารางฟุต เป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบและการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน โดยเฉพาะห้องน้ำที่ได้รับการออกแบบใหม่อย่างหรูหรา มีฝักบัวขนาดใหญ่ ระเบียงไม้เทียมส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบน 2 เครื่อง ผู้เข้าพักในเจ้าของสวีทจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 กระเป๋า การขึ้นเรือก่อนเวลา 11.00 น. พร้อมบริการจัดส่งสัมภาระอย่างรวดเร็ว บริการบัตเลอร์ 24 ชั่วโมง อาหารกลางวันในห้องสวีทในวันขึ้นเรือแบบส่วนตัว และมีบาร์เครื่องดื่มครบชุดฟรีที่มีสุราและไวน์ระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีแชมเปญต้อนรับ ผลไม้สดที่เติมให้ใหม่ทุกวัน การจองเข้าร้านอาหารพิเศษออนไลน์อย่างรวดเร็ว และการเข้าถึงอควอมา สปา เทอเรซ ได้ไม่จำกัด โดยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอาบน้ำระดับหรู ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการนั่งพักผ่อนบนระเบียง และการบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี รวมถึงการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ ทางเราขอเรียนให้ทราบว่า การสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงนั้นได้รับการห้ามอย่างเคร่งครัด




ชื่อห้อง "วิสตา สวีท" ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นวิวสวยงามจากด้านหน้าของเรือ ห้องสวีทนี้มีพื้นที่กว้างขวางถึง 786 ตารางฟุต พร้อมให้ความสะดวกสบายที่สามารถจินตนาการได้ครบครัน รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักซึ่งตกแต่งด้วยหินออนิกซ์, หินอ่อนคาราร่า และหินแกรนิต สัมผัสความหรูหราจากการอาบน้ำในฝักบัวที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ ยังสามารถเพลิดเพลินกับการนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคหรือชมภาพยนตร์ผ่านระบบบันเทิงที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับคุณ เมื่อเข้าพักใน "วิสตา สวีท" คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. โดยมีการจัดส่งกระเป๋าเดินทางลำดับความสำคัญ, บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, และบาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีขวดแชมเปญต้อนรับและผลไม้สดที่เติมเต็มทุกวัน หรือแม้กระทั่งสิทธิ์ในการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์อย่างรวดเร็ว และการเข้าใช้ Aquamar Spa Terrace อย่างไม่มีข้อจำกัด อีกทั้งยังมีอุปกรณ์อาบน้ำสุดหรู ทุกเช้าเลือกอ่านหนังสือพิมพ์ตามที่คุณต้องการ พร้อมกระเป๋าผ้าที่มีโลโก้ Oceania Cruises และเครื่องเขียนส่วนตัวให้คุณอีกด้วย ห้องสวีทนี้จะทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ โดยการใช้ผ้าห่มแคชเมียร์ในการนั่งพักผ่อนบนระเบียง และเลือกหมอนจากคอลเลกชันที่หรูหราได้ตามใจชอบ หากคุณต้องการสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในสภาพแวดล้อมที่หรูหรา วิสตา สวีท คือทางเลือกที่ไม่ควรพลาด



เพนท์เฮาส์สวีทของเรามีพื้นที่กว้าง 30 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยผ้าหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามในเฉดสีที่เงียบสงบและให้ความรู้สึกเหมือนทะเลและท้องฟ้า ห้องนอนกว้างขวางเหมาะสำหรับการรับประทานอาหารในห้อง พร้อมด้วยบริเวณนั่งเล่นที่มีมินิบาร์เย็นและโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างหรูหราด้วยการตกแต่งหินและฝักบัวที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับเพนท์เฮาส์สวีท เช่น บริการซักรีดฟรีสำหรับกระเป๋าถึง 3 ใบ รวมทั้งบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง และขวดแชมเปญต้อนรับฟรี บริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์เป็นลำดับความสำคัญ และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด รวมถึงผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนที่ระเบียง และบริการเงา รองเท้าและการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และระเบียงเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่


ห้องพักระดับคอนเซียร์จพร้อมระเบียง ประเภท A ตั้งอยู่ในทำเลที่ต้องการมากที่สุดบนเรือ ทั้งยังมอบความหรูหราและความคุ้มค่าอย่างลงตัว ห้องพักที่ถูกปรับแต่งใหม่อย่างทันสมัยขนาด 216 ตารางฟุตนี้ มอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทรงคุณค่าและความเป็นเอกสิทธิ์ เช่น การบริการซักรีดฟรีที่ทำให้การเข้าพักของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น การตกแต่งใหม่ที่สดใส เตียงที่นุ่มสบายและระเบียงที่ได้รับการออกแบบใหม่พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ล้วนแต่เติมเต็มประสบการณ์คอนเซียร์จอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ห้องพักยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับคอนเซียร์จ ซึ่งรวมถึงบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, เมนูรูมเซอร์วิสที่ขยายจาก The Grand Dining Room, ขวดแชมเปญตอนต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้าแบบมีลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด, กระเป๋าผ้าลาย Oceania Cruises ฟรี, ผ้าห่มขนสัตว์ที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนบนระเบียง, การบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ และบริการขัดรองเท้าฟรี ห้องพักประเภทนี้คือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มองหาความสะดวกสบายและความหรูหราในการเดินทางทางทะเล


ระเบียง客艙ขนาด 216 ตารางฟุตนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับพื้นหินแปลกตาและหัวเตียงที่บุด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม ตลอดจนโคมไฟเก๋ไก๋ การสร้างสรรค์เหล่านี้เพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีระเบียงไม้สักส่วนตัวซึ่งคุณสามารถชมทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างสะดวกสบาย ภายในห้องประกอบไปด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง, มินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง ห้องระเบียงนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมด้วยผ้าปูที่นอน 1,000 เส้นใย, เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งธรรมชาติและแตกฟองจัดส่งฟรี และของใช้ในห้องน้ำจาก Bulgari นอกจากนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, การทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน, ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมตอนจัดเตียง, ระบบโทรทัศน์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ออนดีมานด์, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สาย และบริการโทรศัพท์มือถือ ด้วยการออกแบบที่หรูหราและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มรูปแบบ การพักผ่อนในระเบียง客艙นี้ จึงเป็นทางเลือกที่ไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางสุดพิเศษของคุณ


ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลขนาด 165 ตารางฟุต ถูกออกแบบใหม่ให้มีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ด้วยตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความสะดวกสบาย โดยมุมพักผ่อนที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง และมินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น ๆ รวมถึงโต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า รังสรรค์ด้วยสีสันที่ผ่อนคลายและผ้าสไตล์หรูหรา ทำให้ห้องนี้โดดเด่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ห้องพักยังมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น น้ำอัดลมเติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบเปล่าและแบบมีฟองฟรี, และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises และผลิตภัณฑ์ Bulgari คุณภาพสูง บริการแม่บ้านจะทำความสะอาดห้องพักถึงสองครั้งต่อวัน พร้อมทั้งระบบโทรทัศน์ที่ให้บริการภาพยนตร์ตามสั่งและข้อมูลสภาพอากาศ รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ตกแต่งภายในเช่นโต๊ะเขียนหนังสือและเครื่องเขียน รวมถึงผ้าขนหนูและเสื้อคลุมที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อนุ่ม ที่สำคัญยังมีช็อกโกแลตเบลเยียมจัดเตรียมไว้บริการในช่วงเปิดเตียงอีกด้วย สำหรับห้องพักที่มีคุณสมบัติสำหรับผู้พิการ จะมีพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมราวจับ และห้องน้ำที่ออกแบบให้สูงต่ำรวมกันด้วยระบบระบายน้ำที่มีอยู่ ในห้องยังมีอ่างอาบน้ำเพื่อความสะดวกสบายอีกด้วย *หมายเหตุ: ห้ามสูบบุหรี่ในห้องพักและพื้นที่บนระเบียงอย่างเคร่งครัด*


ห้องพักแบบมองเห็นทะเลมีขนาด 165 ตารางฟุต ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยดีไซน์ทันสมัยที่ทำให้การใช้พื้นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ภายในห้องคุณจะได้พบกับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมโซฟาที่สามารถนอนเหยียดได้, โต๊ะเขียนหนังสือ, โต๊ะอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็นเย็นสดชื่น ห้องพักนี้ยังมีประตูหน้าต่างที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวยงามได้อีกด้วย ในห้องพักแบบมองเห็นทะเล คุณจะได้เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ซ้ำใคร เช่น เตียง Tranquility ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises, อุปกรณ์ Bulgari, บริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน, ระบบโทรทัศน์ดิจิทัลที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังมีชุดเครื่องนอนผ้าฝ้ายชั้นดี เสื้อคลุมและรองเท้าแตะ, ไดร์เป่าผมแบบมือถือ, ตู้นิรภัยสำหรับเก็บของสำคัญ พร้อมทั้งช็อกโกแลตเบลเยียมที่ได้รับในบริการนอนเตียง ผู้เข้าพักโปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องพัก, สวีท และระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด


ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยวขนาด 143 ตารางฟุต เป็นที่พักที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางเดี่ยว ซึ่งตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกสบายบนดาดฟ้า 6 โดยแต่ละห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่นุ่มสบาย พร้อมด้วยมินิบาร์ที่สามารถเก็บเครื่องดื่มเย็น ๆ โต๊ะทำงาน และพื้นที่เก็บของที่เพียงพอ เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยวยังมีบริการฟรีที่รวมไว้ เช่น เครื่องดื่มอัดลมที่ถูกเติมเต็มทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบมีฟอง, และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รวมไว้ในห้องพัก อาทิเช่น ชุดอุปกรณ์ Bulgari การบริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน ระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอคทีฟพร้อมภาพยนตร์ตามสั่ง และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมถึงการโทรศัพท์มือถือ คุณยังจะได้พบกับโต๊ะทำงานและเครื่องเขียน ผ้าขนหนูและเสื้อคลุมจากผ้าฝ้ายที่นุ่มสบาย เครื่องเป่าผม และตู้นิรภัยสำหรับความปลอดภัย พร้อมด้วยช็อกโกแลตเบลเยี่ยมในบริการคืนห้อง แม้ว่าในห้องพักจะห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด แต่ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยวนี้ยังคงมอบความหรูหราและความสะดวกสบายสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่สำหรับคุณ


客艙內部是為追求奢華與舒適的旅客量身打造的理想空間。這個房型提供了多種免費設施,包括每日補充的冷飲、純淨的靜水與氣泡水,以及全天候的客房服務選單,讓您在旅途中隨時都能享受便利。房間內配有獨特的Tranquility床鋪,是Oceania Cruises的專屬設計,確保您擁有極致的睡眠體驗。此外,房內還配有Bulgari品牌的盥洗用品,讓您的每一次清洗都充滿奢華感。 在客艙內,您可以享受每日兩次的清潔服務以及互動電視系統,這能讓您隨時觀看隨選的電影、查詢天氣等資訊。無論是工作還是休閒,無線網路及行動服務隨時可用,並配備了書寫桌與文具。此外,您還能享受柔軟的棉質毛巾、浴袍和拖鞋,以及手持式吹風機。安全方面,房內設有安全保險箱,並在夜晚服務中提供比利時巧克力,增添入住的愉悅體驗。請留意,客艙內及陽台上嚴禁吸煙,以確保每位旅客均能享受舒適且清新的環境。