
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนา วิสต้า
โอเชียเนีย ครูซส์


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!


เกาะแซงต์บาร์เธเลมี (Saint Barthélemy) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหราสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในความงดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะท่าเรือกุสตาเวีย (Gustavia) ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเกาะนี้ นอกจากจะเป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด การสำรวจท่าเรือกุสตาเวียภายในระยะเวลาสองชั่วโมงเป็นเรื่องง่ายดาย เพลิดเพลินไปกับการเดินชมร้านค้าหรูหราและบูติกต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง จนกระทั่งล็อกเวลาเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เนื่องจากหลายร้านจะปิดตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสามหรือสี่โมงเย็น แต่ไม่ต้องห่วง ร้านค้าและบาร์จะเปิดจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มให้คุณได้ใช้จ่ายกันอย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกัน การจอดรถอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล แต่ถ้าคุณมุ่งหน้าไปยัง rue de la République จะพบสถานที่จอดรถที่กลุ่มเรือแล่นไปมาทำให้การมาที่นี่ง่ายขึ้น อีกทั้งการเดินชมวิวทะเลสวย ๆ ยังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ใครหลายคนหลงรัก สนุกสนานกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจในกุสตาเวีย เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หรูหราเหนือระดับในเกาะแซงต์บาร์เธเลมีแห่งนี้!

โรโซ เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และอบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งในแคริบเบียน แม้ขนาดจะเล็กลง แต่กลับมีประชากรหนาแน่นที่สุดในแถบตะวันออกของแคริบเบียน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฉบับแคริบเบียนและตลาดที่คึกคัก โรโซจึงพานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตอย่างแท้จริง การเดินสำรวจเมืองในระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนั้น อาจจะเป็นประสบการณ์ที่รวดเร็ว แต่การเดินเล่นอย่างช้า ๆ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรายละเอียดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เมืองนี้มีการฟื้นฟูอาคารที่สำคัญโดยองค์กร SHAPE ซึ่งได้ดูแลอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมหลายแห่ง เช่น Casa Lilac ที่มีระเบียงไม้แบบเก่าแก่ และอาคาร J.W. Edwards ที่มีผลงานหินและไม้ที่งดงาม ในใจกลางเขตประวัติศาสตร์คือ Old Market Plaza ซึ่งมีถนนหลายสายในอดีตที่ถูกออกแบบให้โค้งงอรอบพื้นที่นี้ นอกจากนี้ โรงแรม Fort Young ที่สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 18 รวมถึงห้องสมุดและวิหารแองกลิกันที่อยู่ใกล้เคียง ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มาเยือน ลานหน้าเบย์ที่พัฒนาใหม่บน Dame M.E. Charles Boulevard ก็เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดในการสัมผัสลมทะเลแคริบเบียนอย่างแท้จริง โรโซรอให้คุณค้นพบความงดงามในทุกมุมมอง!

ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส


บนชายฝั่งของเฟรนช์เกียน่า มีเกาะที่สื่อถึงความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว นั่นคือ "เกาะปีศาจ" (Devil’s Island) รูปร่างของเกาะเป็นเหมือนกุญแจ มีหินแหลมคมและต้นมะพร้าวที่สั่นไปตามลม ที่นี่เคยเป็นสถานที่คุมขังที่โหดร้ายและน่าสะพรึงกลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ สถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทรมานและลงโทษอาชญากรที่เลวร้ายที่สุดของจักรวรรดิฝรั่งเศส แม้เกาะนี้จะปิดตัวลงตั้งแต่ปี 1953 แต่ชื่อเสียงที่เรียกว่าหมายถึงนรกบนดินยังคงอยู่ ภาพลักษณ์ที่น่าขนลุกในขณะที่เรือสำราญของคุณเข้าใกล้เกาะนี้ จะทำให้คุณรู้สึกถึงความแปลกประหลาด โดยต้นมะพร้าวที่ดูเหมือนไม่เป็นภัยกลับโบกมือเชื้อเชิญคุณมาที่ชายฝั่ง หากคุณมีโอกาสไปเยือนเกาะนี้ อย่าลืมสำรวจแนวชายฝั่งที่สวยงามและภูมิประเทศที่ทรงเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ หรือทะเลสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่รายล้อม นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่รอการเปิดเผย ทำให้เกาะปีศาจเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความลี้ลับ รอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต!

ท่าเรืออิโคอาราชี (Icoaraci) ตั้งอยู่ในบราซิล เป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่กำลังมองหาแหล่งประสบการณ์ใหม่ ในท่าเรือนี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ ถ่ายทอดเสน่ห์ของวัฒนธรรมบราซิลที่เต็มไปด้วยสีสัน หลังจากขึ้นจากเรือสำราญแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมตลาดพื้นเมืองที่เต็มไปด้วยของอร่อย อาทิ อาหารทะเลสดใหม่และผลไม้ท้องถิ่นที่มีรสชาติหวานฉ่ำ นอกจากนี้ยังมีการแสดงศิลปะและดนตรีท้องถิ่นที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ไม่ควรพลาดที่จะสำรวจความงามของธรรมชาติรอบท่าเรือ เช่น ป่าชายเลนที่เป็นที่อยู่อาศัยของนกและสัตว์น้ำมากมาย บริเวณชายฝั่งที่ทอดยาวสามารถทำกิจกรรมพายเรือแคนนูหรือตกปลาได้โดยที่คุณสามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมงในพื้นที่ ท่าอิโคอาราชีเป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและน่าหลงใหล ให้คุณได้ใช้เวลากับธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย อย่าลืมเก็บภาพความทรงจำที่งดงามนี้กลับไปเผื่อแบ่งปันกับคนที่คุณรัก ความทรงจำที่นี่จะติดตรึงใจคุณไปอีกนานแสนนาน


ฟอร์เทลซา (Fortaleza) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแห่งแสงสว่าง" เป็นท่าเรือสำคัญของบราซิลที่มีชื่อเสียงในด้านแสงแดดที่ส่องสว่างถึง 2,800 ชั่วโมงต่อปี ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของชายทะเลที่ยาวเหยียดไปทางตะวันออกและตะวันตก ชายหาดในฟอร์เทลซามีเสน่ห์อันโดดเด่น ทั้งชายฝั่งทะเลอีสท์ที่เรียกว่า "Costa Sol Nascente" เต็มไปด้วยหมู่บ้านชาวประมงที่น่าหลงใหล ขณะที่ชายฝั่งทางตะวันตก หรือ "Costa Sol Poente" มีพื้นที่ชายหาดที่สะอาดบริสุทธิ์ มอบบรรยากาศที่เงียบสงบและเย็นสบาย โดยอุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 24°C ฟอร์เทลซายังเป็นเมืองหลวงของรัฐที่มีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน และเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับห้าในประเทศบราซิล สุดทันสมัยด้วยสนามบินใหม่ ศูนย์ประชุมที่ทันสมัย และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงพิพิธภัณฑ์และโรงละครมากมาย ในย่านชายหาด Praia de Iracema คุณจะพบกับร้านกาแฟริมชายหาด บาร์ และคลับเต้นรำที่ให้บรรยากาศสนุกสนาน แต่ถ้าคุณเดินไปตามแนวชายฝั่ง คุณก็จะได้พบกับชาวประมงที่ยังคงพายเรือจังการ์ด (jangadas) มาขึ้นฝั่งพร้อมกับจับปลาในแบบดั้งเดิม การเยือนฟอร์เทลซาจึงเป็นทริปที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม การพักผ่อนในบรรยากาศที่สวยงาม และความเป็นบราซิลในแบบที่ลงตัวอย่างแท้จริง.


ซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย (Salvador de Bahia) เมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งบราซิล เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและความงดงามของท้องทะเล เมืองที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทร surrounded by the stunning Baía de Todos os Santos และมหาสมุทรแอตแลนติก ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงทางดนตรีที่สำคัญของประเทศ ตัวเมืองแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Cidade Alta และ Cidade Baixa ที่เชื่อมต่อกันด้วย Elevador Lacerda ที่มีโครงสร้างสวยงาม ซัลวาดอร์เด่นชัดด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากแอฟริกัน โดยเฉพาะผู้คน Afro-Brazilian ที่มีมากถึง 70% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีวัดและโบสถ์ที่ประดับด้วยทองคำ ทำให้เมืองนี้ถูกยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว สถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับดนตรีและการเต้นรำแอฟริกัน รวมถึงการชมคาโปเอร่า ศิลปะการต่อสู้ที่เกิดจากแรงงานทาส พื้นที่ Pelourinho เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบ้านเรือนสีสันสดใสจากศตวรรษที่ 18-19 และพลาซ่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดตลอดคืน นอกจากนี้ ทะเลบริเวณชายฝั่งของเมืองยังมีชายหาดที่งดงามและสะอาดที่สุด ที่รอให้คุณมาสัมผัสความสุขแห่งการพักผ่อนในแสงดาวของซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย


เมืองบูซิออส (Búzios) ตั้งอยู่ห่างจากริโอเดจาเนโรเพียงสองชั่วโมง เป็นเพนินซ่าที่มีชายหาดที่สวยงามเรียงรายตลอด 8 กิโลเมตร ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบจนกระทั่งในปี 1960 เมื่อดาราฮอลลีวูดชื่อดัง บริจิตต์ บาร์โด ได้มาใช้เวลาพักผ่อนที่นี่เพื่อหนีจากการตามล่าของช่างภาพ และบูซิออสก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการ บูซิออสมีทุกสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรมที่ตอบโจทย์ครอบครัวพร้อมกิจกรรมมากมายและบริการดูแลเด็กตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงสถานที่ที่มีสปาและโปรแกรมรีทรีตสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง บูซิออสยังมีกีฬาทางน้ำหลากหลาย เช่น เซิร์ฟกีฬาทางน้ำ วอเตอร์สกี ไคท์เซิร์ฟ รวมถึงการดำน้ำและการปั่นจักรยานเสือภูเขา นอกจากนี้ บูซิออสยังมีสนามกอล์ฟที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดที่แผ่กว้างให้คุณได้สนุกสนานและผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม การเดินทางมาที่นี่เปรียบเสมือนการเข้าร่วมในบรรยากาศที่เงียบสงบริมหาดสวรรค์ ซึ่งและเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ และความงดงามของบราซิลอย่างแท้จริง


อิลฮา แกรนเด เป็นจุดหมายปลายทางอันงดงามที่ซ่อนเร้นอยู่ในเมืองบราเซิล ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และชายหาดที่สวยงามสะกดทุกสายตา คุณสามารถเดินเล่นบนชายหาดที่มีปีกสีทองอย่าง Praia Lopes Mendes หรือจะสำรวจป่าฝนเขตร้อนที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืชและสัตว์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น อิลฮา แกรนเด ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยกิจกรรมให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง ดูปลาสีสันสดใส หรือนั่งเรือไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบเกาะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย การปีนเขาไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าตื่นเต้น เพื่อให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด อย่าลืมลองสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการล déguster อาหารทะเลสดใหม่ที่มีชื่อเสียง โดนเฉพาะเมนูปลาสด ๆ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งจะทำให้คุณหลงใหลในความอร่อยแบบบราเซิล ยิ่งไปกว่านั้น การแวะเยือนอิลฮา แกรนเด จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดไปยังสวรรค์ที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสชีวิตแบบเรียบง่ายบนเกาะที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขของการเดินทางคืออะไร

ซานเปาโล เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรม อาจเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เรียกว่า “เมืองแห่งโอกาส” ของบราซิล และยังเป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญที่จะนำพาคุณไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งท่าเรือ San Paulo ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นจุดเชื่อมต่อที่คุณจะได้สัมผัสทั้งความทันสมัยและประวัติศาสตร์ ศิลปะและธรรมชาติ รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ตัวเมืองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้าที่หรูหราทั่วทั้งเมือง เช่น ปลาซา อีตาเบล และโรงแรมหรูที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เมื่อมาถึงซานเปาโล คุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะซานเปาโล (MASP) ซึ่งมีผลงานจากศิลปินระดับโลกที่ตั้งอยู่บนถนนปาโคลสะ หนึ่งในเส้นทางสำคัญของเมือง หรือเดินชมสวนโบตาโฟโกที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่สงบและวิวที่งดงาม หากคุณใฝ่ฝันที่จะสัมผัสเมืองที่มีทั้งความสุขและความหลากหลาย ซานเปาโลจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางครั้งติดใจในยุโรปใต้ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมในทุกย่างก้าวที่คุณเดินทางไป

ท่าเรือปอร์โตเบโล ประเทศบราซิล เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามทางธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในรัฐเซาเปาโล โดยล้อมรอบด้วยภูเขาพร้อมทะเลที่ใสสะอาด ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อคุณเดินทางมาที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมชั้นสูง โดยเฉพาะวิถีชีวิตของชาวบราซิลที่มีความสุขและเปิดกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมตลาดงานฝีมือที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หรือการลิ้มลองอาหารบราซิลที่มีรสชาติหลากหลาย เช่น บริกาเดอฌอกาโต้น หรือพาสต้าโคอินญู นอกจากนี้ ปอร์โตเบโลยังเป็นจุดเชื่อมต่อที่ดีสำหรับการเที่ยวชมเกาะต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น เกาะอึงซู ซึ่งมีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใส สามารถดำน้ำชมปะการังที่สวยงามได้ การเยือนปอร์โตเบโลไม่เพียงแค่การเยือนท่าเรือ แต่เป็นการค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่มอบความสุขและสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมแสนล้ำค่าในทุก ๆ เดินทางที่คุณทำ ร่วมสัมผัสกับความงดงามของที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของผู้นำความงามจากทั่วโลก


ท่าเรือริโอกรานเด ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางพื้นที่ทางตอนใต้ของบราซิล เป็นหนึ่งในท่าเรือที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญ พื้นที่แห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดแวะพักที่สะดวกสบาย แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรมที่โดดเด่น เมื่อคุณมาถึงที่ท่าเรือริโอกรานเด คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเมืองท่าที่มีชีวิตชีวา เดินเล่นไปตามชายหาดที่สวยงาม โดยเฉพาะหาด Mólhe do Grande ที่มีทัศนียภาพของทะเลที่ตัดกับฟ้าอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชม Ponta do Seixas ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ทางตะวันออกสุดของบราซิล ที่ซึ่งคุณจะพบกับทัศนียภาพที่น่าอัศจรรย์ อย่าลืมชิมอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ข้าวอบกับอาหารทะเล ที่ผสมผสานความหลากหลายของวัตถุดิบพื้นเมือง พร้อมกับรสชาติที่ทำให้คุณหลงใหล แม้ว่าท่าเรืองจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น แต่การเดินทางในเมืองริโอกรานเดจะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าจดจำอย่างแท้จริง เมื่อสำรวจรอบเมืองเพิ่มเติม คุณจะพบกับตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยศิลปะและงานฝีมือของชาวบ้าน ที่มักนำเสนอความคิดสร้างสรรค์และมรดกทางวัฒนธรรมของบริเวณนี้ เชิญชวนให้คุณสัมผัสประสบการณ์ที่จะสร้างความทรงจำอันมีค่าในการเดินทางที่น่าตื่นเต้นแห่งนี้

เมื่อคุณก้าวเข้าไปในโลกแห่งความหรูหรา ณ Punta del Este ประเทศอุรุกวัย คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับ Hamptons หรือ St-Tropez เมืองนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่ความพิเศษจะส่งเสริมให้เกิดปาร์ตี้ไม่รู้จบ ขณะเดียวกัน Punta del Este ยังคงเป็นสถานที่หลากหลายที่เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือนักธุรกิจที่ปรารถนาความสงบในบรรยากาศที่มีระดับ บริเวณชายฝั่งมีชีวิตชีวาในตัวเมืองที่มีชายหาดทอดยาว ขณะที่ด้านในก็มีฟาร์มและคฤหาสน์หรูหราที่เรียกว่า "chacras" หรือ "estancias" ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างสงบ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสันอย่าง La Barra และ José Ignacio ซึ่งตกกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน Punta del Este ได้ชื่อมาจาก "จุดตะวันออก" ซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกระหว่าง Río de la Plata และมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง Punta Ballena ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน หากคุณมีโอกาสได้เยือนที่นี่ รับรองว่าจะไม่มีใครผิดหวัง กับความงดงามที่ซ่อนอยู่รอให้คุณไปค้นพบ.

มอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำริโอเดอพลาตา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา มาพร้อมกับทางเดินเลียบชายฝั่งหรือที่เรียกว่า "มาลิโคน" ที่ทอดยาวไปตามแนวชายหาด ร้านอาหารที่หลากหลาย และสวนสาธารณะมากมาย ที่นี่ คุณจะได้พบกับชาวมอนเตวิเดโอ เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเล มอนเตวิเดโอมีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม โดยมีทั้งความเจริญก้าวหน้าของอาคารสมัยใหม่และเสน่ห์ของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่หรูหรา นอกจากนี้ ยังมีจัตุรัสและสวนสาธารณะเขียวขจีมากมาย ที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและสมบูรณ์แบบในการใช้เวลา เมื่ออากาศดี ถนนเลียบชายฝั่งที่ยาวถึง 22 กิโลเมตรจะเต็มไปด้วยผู้คนต่างเดินเล่น ตกปลาหรือลองขนมไอศกรีม โดยเฉพาะในช่วงเย็น ขณะที่คู่รักเริ่มออกมาสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของเมือง ความละเอียดอ่อนในชีวิตประจำวันที่นี่ทำให้มอนเตวิเดโอถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในละตินอเมริกา หญิงสาวที่จะเดินทางไปที่นี่ คงรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจที่จะกลับมาอีกครั้งในค่ำคืนที่สวยงามในฤดูร้อน.


มอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำริโอเดอพลาตา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา มาพร้อมกับทางเดินเลียบชายฝั่งหรือที่เรียกว่า "มาลิโคน" ที่ทอดยาวไปตามแนวชายหาด ร้านอาหารที่หลากหลาย และสวนสาธารณะมากมาย ที่นี่ คุณจะได้พบกับชาวมอนเตวิเดโอ เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเล มอนเตวิเดโอมีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม โดยมีทั้งความเจริญก้าวหน้าของอาคารสมัยใหม่และเสน่ห์ของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่หรูหรา นอกจากนี้ ยังมีจัตุรัสและสวนสาธารณะเขียวขจีมากมาย ที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและสมบูรณ์แบบในการใช้เวลา เมื่ออากาศดี ถนนเลียบชายฝั่งที่ยาวถึง 22 กิโลเมตรจะเต็มไปด้วยผู้คนต่างเดินเล่น ตกปลาหรือลองขนมไอศกรีม โดยเฉพาะในช่วงเย็น ขณะที่คู่รักเริ่มออกมาสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของเมือง ความละเอียดอ่อนในชีวิตประจำวันที่นี่ทำให้มอนเตวิเดโอถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในละตินอเมริกา หญิงสาวที่จะเดินทางไปที่นี่ คงรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจที่จะกลับมาอีกครั้งในค่ำคืนที่สวยงามในฤดูร้อน.

ท่าเรือพอร์ตสแตนลีย์ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฟอล์คลแลนด์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะมาลวินาส) เป็นจุดหมายที่ซ่อนเร้นในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่คือเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และบรรยากาศที่เหมือนกับหมู่บ้านอังกฤษที่หลุดออกมาใกล้เคียง โดยบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมเต็มความงามให้กับทิวทัศน์ที่ถูกตั้งอยู่ในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้พอร์ตสแตนลีย์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีซากเรือ Lady Elizabeth ที่จมอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เป็นเครื่องเตือนใจถึงสภาพอากาศอันโหดร้ายที่แวดล้อมหมู่เกาะนี้ การเดินทางมายังฟอล์คลแลนด์ไม่ได้มีเพียงการพบกับภาพวิวอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับโลกของเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เพนกวิน Gentoo, Magellanic และ King ที่มักจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือแวะพักระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า ฟอล์คลแลนด์คือต่อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนที่ไม่เหมือนใคร


อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่

ปุนตาอาเรนาส เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่ในเขตปาตาโกเนียของชิลี และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำนึกถึงธรรมชาติที่งดงามในภูมิภาคนี้ เมืองที่สร้างขึ้นประมาณ 150 ปีที่แล้วนี้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และด้วยความเป็นเมืองแรกในปาตาโกเนีย คุณจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ที่สลับสานกับบ้านเรือนที่มีหลังคาโลหะหลายสี เมื่อมองจากมุมสูง เช่น ที่มิโรเดอร์ เซโรลาครูซ ที่นี่ คุณไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม Museo Naval y Marítimo ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานของชิลี รวมถึง Museo Regional de Magallanes ซึ่งเคยเป็นบ้านของตระกูลที่มีอำนาจในอดีต นอกจากนี้ ถ้าคุณรักความเป็นธรรมชาติ Parque Nacional Torres del Paine ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องเยี่ยมชม ซึ่งมีภูเขาไฟสวยงามและสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปยัง Isla Magdalena เพื่อชมพวกเพนกวินมาจิลลานิก ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ตัวโดยสามารถเดินชมได้โดยสบายๆ อย่าลืมนำน้ำอุ่นไปด้วย เพราะอากาศที่นั่นอาจเย็นสบาย แม้ในช่วงฤดูร้อน ปุนตาอาเรนาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งแต่ความสวยงามของธรรมชาติ การสำรวจอดีต จนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกช่วงเวลา

เมืองปูเออร์โต้ มอนต์ (Puerto Montt) เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากในเขตทะเลสาบของชิลี ด้วยบรรยากาศที่มีลมพัดเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองนี้เคยเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับผู้เดินทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่เขตนี้ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางประมง สิ่งทอ และการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค ปูเออร์โต้ มอนต์ เป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และตึกสำนักงานตั้งอยู่ในใจกลางเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีโอกาสมาเยือนในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงาม เช่น พลายา เปลูโก (Playa Pelluco) ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือสามารถขับรถไปตามชายฝั่งเพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเนินเขาที่ล้อมรอบ นอกจากนี้ ปูเออร์โต้ มอนต์ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจธรรมชาติอันงดงามของชิลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติออสตราล ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าและภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต อย่าลืมวางแผนการเดินทางมายังเมืองนี้ การล่องเรือในท่าเรือที่มีชื่อเสียงจะเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำ!


ท่าเรือวัลปาราอีโซ (Valparaíso) ของชิลี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เสน่ห์แห่งวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของเมืองนี้เกิดจากศิลปกรรมที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วย cerros (เนินเขา) ถึง 45 ลูกที่ตั้งตระหง่านเหนือมหาสมุทร พี่น้องชาววัลปาราอีโซจะเข้าใจความสำคัญของการเดินทางด้วยทางเดินที่คดเคี้ยวและลิฟต์ไม้ (ascensores) เพื่อขึ้นไปยังมุมต่าง ๆ ภายในเมือง เมืองนี้มีบ้านสีสันสดใสเรียงรายอยู่ตามเชิงเขา ส่วนใหญ่สร้างจากเหล็กกล้าที่ถอดออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้แต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัลปาราอีโซเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญที่สุดในอเมริกาใต้ ก่อนที่คลองปานามาจะเปิดใช้ และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านเส้นทางการค้า สถานะของเมืองยังคงเป็นท่าเรือหลักของชิลี สำหรับบรรดานักท่องเที่ยว การเดินเล่นสัมผัสกับวัฒนธรรมของเมืองผ่าน El Plan ซึ่งเป็นพื้นที่ร้านค้าและร้านอาหารแนวใหม่ นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นั่นคุณจะพบกับบรรยากาศที่คึกคักและวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของทะเล การเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะและประวัติศาสตร์จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางที่มองเห็นความงดงามของชีวิตชาวพอร์ตในทุกขั้นตอน

โคคิมโบ (Coquimbo) ท่าเรือที่ถูกขนานนามว่า “สถานที่แห่งน้ำที่เงียบสงบ” เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและสวยงาม ตั้งอยู่ทางเหนือของชิลี ปัจจุบันกลายเป็นท่าเรือที่คึกคักและศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญของภูมิภาค โคคิมโบมีชื่อเสียงในด้านการส่งออกแร่ธาตุ ผลผลิตทางการประมงและผลไม้ และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง ในสมัยโคโลเนียล โคคิมโบเคยเป็นท่าเรือสำหรับเมืองลาซาเรนา และยังเคยดึงดูดชาวโจรสลัดอังกฤษอย่างเซอร์ฟรานซิสเดรกที่เข้ามาสำรวจที่นี่ในปี 1578 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นรอบเมือง ชมงานไม้แกะสลักที่สวยงามซึ่งสร้างโดยชาวอังกฤษและอเมริกันในอดีต เมื่อออกนอกเมือง จะพบกับชายหาดที่งดงามตั้งอยู่ในบรรยากาศแห้งแล้ง และโคคิมโบยังเป็นประตูสู่เมืองรีสอร์ทที่เป็นที่นิยมอย่างลาซาเรนา รวมถึงการเดินทางสู่หุบเขาเอลควี ที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์ผลิตพิสโก้ซาวร์ เครื่องดื่มประจำชาติของชิลี อีกทั้งยังมีหอดูดาวนานาชาติหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้ผู้ชื่นชอบการสังเกตดาวได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด


**Iquique: ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งประเทศชิลี** เมื่อคุณนั่งเรือสำราญมาถึงท่าเรืออิควิค (Iquique) เมืองชายฝั่งที่งดงามของชิลี สิ่งแรกที่ต้องทำคือเปิดใจรับสัมผัสใหม่ๆ กับวิวทิวทัศน์ที่บันดาลใจ การเดินทางมาที่นี่เป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ท่าเรือที่คึกคักนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักที่สะดวกสบาย ยังเป็นประตูสู่เมืองที่มีชื่อเสียงด้านการประมงและการค้ายาเคมี การเดินสำรวจเมืองอิควิคจะพาคุณไปพบกับอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์วิคตอเรียที่สวยงาม โดยเฉพาะบริเวณ Plaza Prat ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวา นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับศิลปะการเล่นเซิร์ฟที่หาด Cavancha ซึ่งมีคลื่นที่เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และนักเซิร์ฟมืออาชีพ สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ห้ามพลาดการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Regional Museum ที่นำเสนอเรื่องราวของชิลีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หากคุณมองหาประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร อิควิคมอบความเป็นเอกลักษณ์จากการสำรวจเหมืองเกลือที่เก่าแก่ หรือเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดๆ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น ลิ้มรสทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติของมหาสมุทรแห่งนี้ ค้นพบความงดงามและเสน่ห์ที่ทำให้อิควิคกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนภายในประเทศชิลี ทริปนี้อาจจะเปลี่ยนความฝันของคุณให้กลายเป็นความจริงในการเดินทางที่สุดแสนจะประทับใจ!


ท่าเรือพิสโกตั้งอยู่ในประเทศเปรู เป็นสถานที่ที่เผยให้เห็นความเป็นเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ของชาวเปรู ที่นี่ไม่เพียงเคยเป็นจุดแรกที่อาคันตุกะจากอาร์เจนตินา ได้แก่ พลเอกซานมาร์ติน ได้ลงจอดเพื่อปลดปล่อยประเทศจากการครอบครองของสเปน แต่ยังเป็นเมืองที่ส่งออกพีสโก เสริมสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนดี้ที่เป็นที่นิยมของชาวเปรูอีกด้วย เมืองพิสโกในอดีตเคยรุ่งเรืองในช่วงทศวรรษที่ 1920 ซึ่งเป็นยุคที่การเก็บกวาดปุ๋ยจากเกาะบอลเลสตาสสร้างรายได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน เมืองนี้ต้องเผชิญกับการฟื้นฟูหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2007 ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่ออาคารบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกพักที่พารากัสซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพิสโก แต่หากคุณมีโอกาสมาเยือนพิสโก คุณจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง หากสนใจช่วยเหลือเมืองในการฟื้นฟู มีหลายองค์กรที่มอบโอกาสให้คุณได้ทำงานอาสา ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น และสัมผัสวัฒนธรรมที่เข้มแข็งของเปรูที่นี่ได้อย่างแท้จริง

ลิมา เมืองหลวงของประเทศเปรู มักถูกมองข้ามเมื่อพูดถึงเมืองใหญ่ในอเมริกาใต้ แต่ลิมามีเสน่ห์ที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยทำเลริมทะเลที่งดงาม สถานที่ทางประวัติศาสตร์จากยุคโคโลเนียล ร้านอาหารระดับโลก และชีวิตกลางคืนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้ว่าลิมาจะมีการจราจรหนาแน่นและมลพิษ แต่เมื่อได้สำรวจผ่านอาคารสูงตระหง่านรอบๆ พลาซ่า เดอ อาร์มาส และเดินทางไปที่สวนในซานอิซิโดร หรือชมถนนเล็กๆ ในชุมชนบาร์รังโก คุณจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์และความงดงามที่ซ่อนอยู่ ในปี ค.ศ. 1535 แฟนซิสโก ปิซาร์โรได้ก่อตั้งเมืองนี้ในทำเลที่ลงตัว โดดเด่นด้วยความสำเร็จในฐานะเมืองหลวงของอาณาจักรโคโลเนียลสเปนเป็นเวลา 300 ปี ความรุ่งเรืองนี้ยังคงเห็นได้จากอาคารโบราณที่ยังคงมีอยู่รอบพลาซ่า เดอ อาร์มาส แม้ว่าสถานที่บางแห่งจะอยู่ในสภาพที่น่าเสียดาย แต่สถาปัตยกรรมที่สวยงามยังคงเล่าเรื่องราวของความมั่งคั่งที่เก่าแก่นี้ ในปัจจุบัน ลิมากำลังฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง หลังจากปีแห่งความรุนแรงในอดีต เมืองนี้ได้กลับมามีชีวิตชีวาและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง หลายคนวางแผนจะใช้เวลาที่นี่เพียงวันเดียว แต่กลับยืดเวลาออกไปเป็นสองหรือสามวันเพื่อชื่นชมความงามของเมืองแห่งนี้อย่างเต็มที่ ลิมาจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการเดินทางที่หรูหราและสง่างามในอเมริกาใต้.

ท่าเรือซาลาเวอรี (Salaverry) ตั้งอยู่ห่างจากลิมาไปทางเหนือประมาณ 9 ชั่วโมง เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทาง ผู้ที่มาเยือนมักจะนำประสบการณ์ที่หลากหลายกลับไป ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจเมืองตรุจิโล (Trujillo) หรือซึมซับวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในปี 1534 โดยฟรานซิสโก ปิซาร์โรย์ และยังคงรักษาความงามแบบโคโลเนียลเอาไว้ได้อย่างดี ด้วยบ้านเรือนสไตล์คาโซนาที่เรียงรายริมถนน ไม่ไกลจากเมืองนี้คือชานชาน (Chan Chan) เมืองหลวงโบราณของคนชิมู ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,500 ปี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ โดยภูมิภาคนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของม้าเพอรูเวียนปาโซ (Peruvian Paso) ที่มีความสง่างาม พร้อมด้วยชายหาดที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิจกรรมกีฬาทางน้ำ เช่น เซิร์ฟ ท่าเรือซาลาเวอรีไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่วัฒนธรรมอันลึกซึ้ง แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุดในดินแดนที่อบอวลไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามทางธรรมชาติ แบบที่ทุกคนสามารถมาสัมผัสได้ ตั้งแต่การเดินเล่นที่ชายหาด ไปจนถึงการสำรวจกันในเมือง ประสบการณ์ทุกอย่างรอคุณอยู่ในท่าเรือแห่งนี้!


เมืองมานตาในเอกวาดอร์ เป็นหนึ่งในปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น มานตาเป็นท่าเรือที่สำคัญติดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพและทะเลที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทางน้ำและกิจกรรมต่างๆ เช่น การดำน้ำตื้น การตกปลา และการล่องเรือชมวิว เมื่อเยือนมานตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเกาะเอนโบนหรือตลาดของเมือง ซึ่งมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของอาหารท้องถิ่น เดินเล่นไปตามชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดอวาเซนกา ที่ถือเป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยม หรือชื่นชมงานฝีมือของชาวบ้านที่ตลาดศิลปะ นอกจากนี้ การสำรวจพื้นที่ใกล้เคียง เช่น อุทยานแห่งชาติยัสนี หรือลองเข้าร่วมการท่องเที่ยวเพื่อดูวาฬในช่วงฤดูที่เหมาะสม จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความประทับใจอย่างแท้จริง มานตาไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในโลกอันมหัศจรรย์ของเอกวาดอร์อย่างแท้จริง










เจ้าของสวีทของ Oceania Vista เป็นห้องที่กว้างขวางและตั้งอยู่กลางเรือ ซึ่งนำเสนอวิวทะเลที่สวยงามด้วยผนังกระจกสูงโปร่ง ห้องพักที่เต็มไปด้วยแสงแดดนี้ตกแต่งด้วยผ้าหรูและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ ที่สร้างบรรยากาศหรูหราในขณะยังคงมอบความรู้สึกเหมือนบ้าน ห้องรับประทานอาหารที่โดดเด่นสามารถจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในห้อง และพื้นที่นั่งเล่นที่มีสไตล์จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการสนทนาอย่างสบาย ๆ ห้องนอนหลักที่กว้างขวางมอบความผ่อนคลายอย่างถึงที่สุดด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ที่นุ่มสบาย และห้องน้ำมาสเตอร์ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมือนสปา อย่างไรก็ตาม เทอเรซขนาดใหญ่ที่มีตั้งอยู่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลักจะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว และชมวิวโลกจากจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เจ้าของสวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรี รวมถึงวิธีการเข้าขึ้นเรืออย่างเร็วที่สุดในเวลา 11.00 น. พร้อมทั้งบริการโหลดกระเป๋าที่รีบเร่ง บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบาร์ภายในห้องพร้อมทุกข์เต็มขนาดจากเมนูเครื่องดื่มพรีเมี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับขนม ชา หรือกาแฟฟรีในเลานจ์ส่วนตัวที่อยู่ในการเข้าถึงของผู้ถือบัตรเฉพาะ ซึ่งดูแลโดยคอนเซียร์จ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ฟรี และสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารออนไลน์ รวมถึงของขวัญต้อนรับเป็นแชมเปญมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสวีท และบนเทอเรซนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด เพื่อให้ความสงบและความสุขของแขกในทุก ๆ คน









วิสตา สวีท เป็นห้องพักที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดซึ่งมอบทัศนียภาพแบบ 180 องศา พร้อมพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 1,450 ถึง 1,850 ตารางฟุต ออกแบบมาเพื่อเป็นวิลล่าชายทะเลที่ดีที่สุด ห้องพักตกแต่งด้วยโทนสีเบา ที่สะท้อนถึงทะเลและท้องฟ้า พร้อมกับรายละเอียดที่สร้างสรรค์ด้วยหินอ่อน, แกรนิต และไม้โอ๊คที่ผ่านการใช้งานแล้ว ทุกห้องเป็นสถานที่ที่แท้จริงสำหรับการพักผ่อน ที่พักนี้มีห้องนั่งเล่นโปร่งสบายที่มีห้องรับประทานอาหารและบาร์อยู่ข้างเคียง ซึ่งให้วิวที่น่าทึ่งและเปิดออกสู่ระเบียงไม้สักขนาดใหญ่ ห้องพักหลักอันหรูหรามีพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง และพื้นที่เตรียมตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ พร้อมอ่างอาบน้ำเซรามิก วิสตา สวีท มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมด้วยบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมงและการเข้าถึงเลานจ์สำหรับแขกผู้พักในห้องสวีทเท่านั้น.







โอเชียนเนียสวีทคือห้องพักที่กว้างขวางและมีความชาญฉลาด ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือเพื่อให้ทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยห้องพักแต่ละห้องมีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ตารางฟุต มอบบรรยากาศที่หรูหราเหมือนอยู่บ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้ทีคขนาดใหญ่ ที่เชื้อเชิญให้มีการสังสรรค์อย่างสง่างาม ห้องนอนหลักนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบด้วยเตียงคิงไซส์ที่โอ่อ่า ห้องแต่งตัว และห้องน้ำที่มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ทำงานหรือห้องสตูดิโอสำหรับแขกและห้องน้ำสำหรับแขก ในทุก ๆ ห้องมีผู้ช่วยบริการเป็นพิเศษและการเข้าถึงล๊อบบี้ Executive Lounge สำหรับเฉพาะลูกค้าห้องชุดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีบริการและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บริการทำความสะอาดเสื้อผ้าฟรี (สูงสุด 3 ถุงต่อห้อง), การขึ้นเรือในลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงล๊อบบี้บริการพิเศษพร้อมคอนเซียร์จ, บริการผู้ช่วยตลอด 24 ชั่วโมง, บาร์ในห้องฟรีพร้อมเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวด, แชมเปญต้อนรับฟรี, และผลไม้สดที่เติมเต็มทุกวัน รวมถึงการเข้าร่วมสปา Aquamar Spa Terrace โดยไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีระบบบันเทิงที่กำหนดเอง และอุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหรา เสื้อคลุม Cashmere, ผ้านวม และแน่นอนว่าเลือกหมอนจากตัวเลือกที่หรูหราได้ และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด




เพนท์เฮาส์สวีทเป็นประสบการณ์หรูหราที่สุดในห้องพักบนเรือสำราญ ขนาด 440 ตารางฟุต ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดและเฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับ ห้องนี้ตกแต่งด้วยผ้าทอหรูหรา หนังเกรดพรีเมียม และงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าคู่ และระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ที่มองเห็นท้องทะเล อิสระในการใช้บริการสปาแบบ Aquamar Spa Terrace และบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเข้าใช้ Executive Lounge ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับผู้ที่เข้าพักในเพนท์เฮาส์ พร้อมพนักงานคอนเซียร์จที่คอยให้บริการ ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะมอบความสะดวกสบายมากมาย ยังมีการบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้อง และบริการอื่นๆ เช่นการจองร้านอาหารแบบพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า ทำให้การเข้าพักในเพนท์เฮาส์สวีทนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงของ Vista มอบความสะดวกสบายอันหรูหราแก่ผู้เข้าพัก ด้วยการตกแต่งโทนสีครีมและน้ำตาลอ่อนนำมาสู่การพักผ่อนที่เต็มไปด้วยการเอาใจใส่ ห้องพักนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Tranquility Bed ที่แต่งอย่างหรูหรา พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลรอบด้าน นอกจากนี้ ห้องพักยังมีพื้นที่เก็บของและตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง พร้อมด้วยห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและฝักบัวแบบเรนฟอเรสต์ การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เลาจน์คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล บริการรูมเซอร์วิสจากห้องอาหาร The Grand Dining Room และบริการซักรีดฟรี ทำให้ประสบการณ์ของคุณยิ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น เพื่อเพิ่มความสุขในวันหยุดของคุณ ห้องพักนี้มอบสิทธิพิเศษสำหรับคอนเซียร์จ เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายออกจาก The Grand Dining Room การบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก บริการเลาจน์คอนเซียร์จที่เปิดให้เฉพาะผู้ถือบัตร พร้อมเครื่องดื่มและของว่างฟรีตลอดทั้งวัน ขวดแชมเปญต้อนรับ บริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีผ้าห่ม cashmere สำหรับนั่งพักผ่อนบนระเบียง และบริการเคลือบรองเท้าฟรี สัมผัสประสบการณ์ชีวิตสุดหรูในระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงแห่งนี้ และจงเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาของการเดินทางของคุณ

ห้องสเตเทอรูมระเบียงเดี่ยวระดับคอนเซียร์จ เป็นห้องพักที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางคนเดียวโดยเฉพาะ นอกจากจะโปร่งสบายแล้วยังอบอุ่นอีกด้วย ห้องพักแต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราที่สมควรได้รับจากนักเดินทางทั่วโลก ห้องสเตเทอรูมนี้มีบริเวณนั่งเล่นที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว แยกพื้นที่นอนที่มีเตียง Tranquility Bed สุดสบายและมีพื้นที่เก็บของมากมาย สำหรับแขกคนเดียวที่เข้าพักในระดับคอนเซียร์จ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรี การเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ ยังมีบริการที่พิเศษมากมาย เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ขยายจาก Grand Dining Room การขึ้นเรือแบบมีลำดับความสำคัญในช่วงเที่ยง และการเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีโปรแกรมอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งวัน รวมไปถึงการต้อนรับด้วยขวดแชมเปญฟรี และการจองโต๊ะในร้านอาหารพิเศษทางออนไลน์ก่อนใคร การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด การแจกถุงผ้าโลโก้ของ Oceania Cruises และผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง ห้องนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความหรูหราและการบริการที่เหนือระดับในขณะเดินทาง


在奧西亞維斯塔號郵輪的ระเบียง客艙中,您將體驗到如同經典小黑裙般的恆久優雅。這間面積達290平方英尺的客艙,傳遞著居家般的溫馨氛圍,設計採用柔和的中性色調,並點綴著細膩的錫耶納色彩。高科技的便利設施與寬敞的衣櫃空間,為您的舒適提供了充足的保障。奢華的皇后尺寸床鋪,搭配設有大梳妝台及壯觀雨林淋浴的浴室,無疑是放鬆身心的理想之選。而客艙內的舒適休息區,更是享受私人露台的完美前奏,讓您能觀賞到世界在您眼前靜靜滑過的美好景象。

ห้องพักระเบียงแบบฝรั่งเศส เป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสความสุขจากการอยู่ใกล้ทะเล โดยคุณสามารถเปิดประตูบานกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อสัมผัสกับลมทะเลและวิวที่สวยงามภายนอก ซึ่งทำให้ห้องของคุณกลายเป็นระเบียงแบบเปิดโล่ง เพียบพร้อมไปด้วยบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์เสมือนคุณพักอยู่ในวิลล่าหรูที่ Côte d’Azur ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างมีสไตล์ ประกอบไปด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ และพื้นที่นั่งเล่นที่ให้ความสะดวกสบาย ซึ่งหลอมรวมความผ่อนคลายและความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมด้วยฝักบัวฝนที่สร้างความรู้สึกหรูหรา สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนี้ ท่านจะได้รับการบริการที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นเตียง Tranquility Bed ที่มีผ้าปูที่นอนคุณภาพสูงถึง 1,000 เส้นไหม น้ำอัดลมฟรีที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ของท่าน น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบอัดฟอง ดูแลโดยบริการแม่บ้านที่ให้บริการสองครั้งต่อวัน พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีโทรทัศน์ระบบอินเทอร์แอคทีฟและการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งทำให้คุณเชื่อมต่อโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย โดยนอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมและรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบายในห้องพักสุดพิเศษแห่งนี้โดยไม่ตกหล่นแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย.