
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนา วิสต้า
โอเชียเนีย ครูซส์


บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!

อาลิกันเต้ เมืองหลวงของจังหวัดวัลเลนเซีย เป็นประตูสู่การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามายังรีสอร์ทในคอสตาบลังก้าทุกปี ด้วยภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและชายหาดทรายทองที่ยาวเหยียด อาลิกันเต้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุดพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่เมืองนี้ยังมีเสน่ห์มากกว่านั้นอีกหลายประการ ริมทะเลที่งดงามของอาลิกันเต้ตัดกับวิวของปราสาทซานตาบาร์บาราที่ตั้งตระหง่านเหนือเมือง ซึ่งสื่อถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและซับซ้อน ชวนให้คุณสำรวจเส้นทางเดินชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของชนชาติและวัฒนธรรมที่ริเริ่มมาจากหลากหลายยุคสมัย เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ชีวิตในอาลิกันเต้ยังคงคึกคักไม่หยุดนิ่ง ด้วยบรรยากาศของไนท์ไลฟ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียนรสเลิศครบครัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติ หรือผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาลิกันเต้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ประเทศสเปนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหล่านี้!

มอทริล (Motril) เมืองใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งคอสต้าโทรปิคัล (Costa Tropical) ในภูมิภาคอันดาลูเซียของสเปน ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของย่านนี้ เมืองมอทริลตั้งอยู่ห่างจากมาลากาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยอยู่ระหว่างทะเลและเทือกเขาเซียราเนบาดา (Sierra Nevada) อันยิ่งใหญ่ เมืองนี้ไม่เพียงแต่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น ท่าเรือที่คึกคักในด้านการค้า การทำประมง และการพักผ่อน แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งผลิตผลที่รู้จักกันดี ได้แก่ อ้อย ส้ม เลมอน แอปเปิ้ล อะโวคาโด มะม่วง และกล้วย ขึ้นชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีสภาพอากาศแบบซับทรอปิคัล นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ Nuestra Señora de la Cabeza ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมือง และอีกทั้งยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินชมชายหาดที่งดงามได้อย่างสะดวก ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง มอทริลจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสำรวจเสน่ห์ของชายฝั่งอันดาลูเซีย!

ท่าเรือแทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ตั้งอยู่ ณ จุดกรอบของมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยฟินิเชียนและกรีกโบราณ แทนเจียร์ได้รับชื่อมาจาก Tinge มารดาของฮีราคลิทัส สัญลักษณ์แห่งตำนานที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งปรากฏชัดตั้งแต่อดีตเมื่อเคยเป็นจังหวัดของโรมันและผ่านการปกครองจากหลายประเทศ รวมถึงสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอังกฤษ เมืองแทนเจียร์ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่มองเห็นช่องแคบยิบรอลตาร์ และถือเป็นจุดเชื่อมโยงสองทวีป ทำให้เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพงดงามสุดตระการตา ไม่ว่าคุณจะสำรวจเมืองเก่ากับซุ้มประตูที่สวยงาม หรือเดินเล่นอย่างสบายในย่านใหม่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เก๋ไก๋ คุณจะพบกับศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว สำรวจด้านต่างๆ ของเมืองผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น ชิมอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หรือเยี่ยมชมตลาดพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ลงทุนในประสบการณ์ที่ให้คุณเข้าใจลึกซึ้งในจิตวิญญาณของแทนเจียร์ เรียนรู้ที่จะรักในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมิตรภาพที่อบอุ่นของชาวเมือง แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงเสน่ห์ที่ซ่อนเร้นของเมืองนี้ในทุกก้าวที่คุณเดินทาง

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

ท่าเรือที่เมืองวีโก (Vigo) ประเทศสเปน เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองวีโกมีท่าเรือธรรมชาติที่งดงามและถือเป็นท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยในปี 1702 สถานที่นี้เคยเป็นสมรภูมิที่ฝ่ายอังกฤษและชาวดัตช์สามารถเอาชนะกองเรือฝรั่งเศสและสเปนได้ เมืองวีโกเต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยมีท่าเรือที่สวยงามให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสกับบรรยากาศของการประมง ต่อมา การเดินเที่ยวชมเมืองทำให้คุณได้พบกับสถาปัตยกรรมแบบยุคศตวรรษที่ 17 และภูมิประเทศที่สวยงามโดยรอบ เมืองเก่าที่มีเสน่ห์เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่แคบและจตุรัสที่มีร่มเงาเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ การเดินทางไปยังเมืองทุย (Tui) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร หรือเมืองซานติอาโก เดอ คอมโพสเตลลาที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์รวมการแสวงบุญเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาทีจากวีโก จะเป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความทรงจำในการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน อย่าพลาดที่จะค้นหาความงามของวีโกและเสน่ห์ที่รอคอยคุณอยู่ในแต่ละซอกมุมของเมืองนี้!



เบรสต์ (Brest) เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สำคัญและมีเสน่ห์ในประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนชายฝั่งแอตแลนติก เป็นศูนย์กลางของการเดินเรือที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การสำรวจ เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่นี่ คุณจะมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย หนึ่งในเสน่ห์ที่ไม่ควรพลาดคือ "La Petite Palais" พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินของฝรั่งเศส รวมถึงการเดินเที่ยวที่ "Océanopolis" สถานที่ที่นำเสนอความหลากหลายทางชีวภาพของทะเล สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เยี่ยมชมทุกวัย นอกจากนี้ เมืองเบรสต์ยังเป็นประตูสู่บริเวณธรรมชาติที่สวยงามของภูมิภาค "Bretagne" หรือบริทานี ที่เต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงาม และเนินเขาที่เขียวชอุ่ม คุณสามารถใช้เวลาในการสำรวจหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ พร้อมทั้งลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง เช่น แพนเค้กบัควีท และซีฟู้ดสดใหม่ เบรสต์ เป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของวัฒนธรรมและธรรมชาติ ประสบการณ์นี้จะทำให้ความทรงจำของคุณเปล่งประกายตลอดไป ดังนั้น อย่าพลาดโอกาสในการเดินทางมาที่เบรสต์ ท่าเรือที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและความน่าหลงใหลของวัฒนธรรมฝรั่งเศสเข้าไว้ด้วยกัน

เซนต์-มาลโล (Saint-Malo) เมืองท่าแห่งความโรแมนติกที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งเหนือของฝรั่งเศส เป็นจุดหมายที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แห่งการเดินเรือและความงดงามของทะเล นับตั้งแต่สมัยก่อน เซนต์-มาลโลได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงนักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง ฌาค คาร์เตียร์ ผู้ซึ่งเคยประกาศสิทธิ์ในแคนาดาให้กับฝรั่งเศสในปี 1534 เมืองนี้เคยถูกเรียกว่า "เมืองโจรสลัด" เนื่องจากมีนักโจรสลัดชื่อก้องอย่าง โรเบิร์ต ซูร์คุฟ และดูเกย์-ทรูอิน ที่ทำให้เซนต์-มาลโลรุ่งเรืองจากการล่าเมืองต่างชาติ แม้ว่าในปี 1944 เซนต์-มาลโลจะได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ที่เกิดจากการต่อสู้ในสงคราม แต่เมืองเก่าก็ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความงามเช่นเดิม ปัจจุบัน, นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในถนนแคบพอ ๆ กับสัมผัสความงามของบ้านหินแกรนิตในย่าน Vieille Ville และชมปราสาทที่ตั้งตระหง่าน ท่าเรือแห่งนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนริมทะเล หากคุณต้องการหลีกหนีจากฝูงชน ควรมาที่นี่ในฤดูนอกฤดูท่องเที่ยว รอคอยที่จะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครของเซนต์-มาลโล สถานที่ที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์และการผจญภัยในตำนานไว้อย่างน่าหลงใหล.

เมืองฮอนฟลอร์ (Honfleur) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของ Côte Fleurie ในฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเมืองชายทะเลที่มีความงดงามแบบคลาสสิคที่ไม่เหมือนใคร ด้วยบ้านไม้กึ่งปูนที่เรียงรายอยู่ตามถนนอิฐประดับ ซึ่งสร้างบรรยากาศสวยงามชวนฝัน เมืองนี้ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูที่งดงาม โดยเฉพาะเมืองเก่าฝั่งท่าเรือ Vieux Bassin ซึ่งเปรียบเสมือนแก่นของสังคมตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ที่ท่าเรือแห่งนี้ ใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ มีบ้านหินสองชั้นที่มีหลังคาแบบลาดชัน และบ้านสูงที่ตกแต่งด้วยแผ่นหินที่ทำให้ทิวทัศน์รอบด้านมีเสน่ห์เกินบรรยาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางทะเลสำคัญ รวมถึงการเดินทางไปยังแคนาดาในอดีต และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินอิมเพรสชันนิสต์ที่ได้มาเยี่ยมชมและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ วันนี้ เมืองฮอนฟลอร์ยังคงมีชีวิตชีวา แม้จะมีผู้คนมาเยือนเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดสะพาน Pont de Normandie ในปี 1995 ที่เชื่อมต่อลุ่มน้ำเหนือของนอร์มานดี เป็นสะพานแขวนที่สูงกว่าหอไอเฟล ยิ่งทำให้ฮอนฟลอร์เป็นจุดหมายที่ต้องไปสัมผัสด้วยตนเองในทริปที่หรูหราและเต็มไปด้วยความประทับใจแห่งนี้

ท่าเรือเซาแธมป์ตัน นับเป็นท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ปากอ่าวเซาแธมป์ตัน ระหว่างแม่น้ำเทสต์และอิตเชน เมืองแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยกลาง โดยมีการส่งออกขนสัตว์และหนังสัตว์จากพื้นที่รอบ ๆ และนำเข้าผลิตภัณฑ์ไวน์จากบอร์โดซ์ แม้เซาแธมป์ตันจะต้องเผชิญกับการทำลายล้างอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เมืองนี้ก็ได้ฟื้นฟูและสร้างสรรค์ใหม่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยอาคารยุคกลางที่ยังคงเหลืออยู่ เช่น บาร์เกต (Bargate) ที่ถือเป็นหนึ่งในประตูเมืองที่สวยงามที่สุดในอังกฤษ นอกจากท่าเรืออันทันสมัยแล้ว เซาแธมป์ตันยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับนักเดินทาง ที่สามารถสำรวจเมืองแห่งประวัติศาสตร์และเต็มไปด้วยศิลปะ เช่น พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่นำเสนอผลงานศิลปะระดับโลก และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการออกไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองใกล้เคียง อย่างบอร์นมัธ และสนามกอล์ฟที่สวยงาม การมาที่เซาแธมป์ตันจึงไม่เพียงแค่การเริ่มต้นการเดินทางด้วยเรือสำราญ แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงดงามทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอังกฤษอย่างไม่รู้จบ










เจ้าของสวีทของ Oceania Vista เป็นห้องที่กว้างขวางและตั้งอยู่กลางเรือ ซึ่งนำเสนอวิวทะเลที่สวยงามด้วยผนังกระจกสูงโปร่ง ห้องพักที่เต็มไปด้วยแสงแดดนี้ตกแต่งด้วยผ้าหรูและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ ที่สร้างบรรยากาศหรูหราในขณะยังคงมอบความรู้สึกเหมือนบ้าน ห้องรับประทานอาหารที่โดดเด่นสามารถจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในห้อง และพื้นที่นั่งเล่นที่มีสไตล์จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการสนทนาอย่างสบาย ๆ ห้องนอนหลักที่กว้างขวางมอบความผ่อนคลายอย่างถึงที่สุดด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ที่นุ่มสบาย และห้องน้ำมาสเตอร์ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมือนสปา อย่างไรก็ตาม เทอเรซขนาดใหญ่ที่มีตั้งอยู่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลักจะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว และชมวิวโลกจากจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เจ้าของสวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรี รวมถึงวิธีการเข้าขึ้นเรืออย่างเร็วที่สุดในเวลา 11.00 น. พร้อมทั้งบริการโหลดกระเป๋าที่รีบเร่ง บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบาร์ภายในห้องพร้อมทุกข์เต็มขนาดจากเมนูเครื่องดื่มพรีเมี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับขนม ชา หรือกาแฟฟรีในเลานจ์ส่วนตัวที่อยู่ในการเข้าถึงของผู้ถือบัตรเฉพาะ ซึ่งดูแลโดยคอนเซียร์จ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ฟรี และสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารออนไลน์ รวมถึงของขวัญต้อนรับเป็นแชมเปญมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสวีท และบนเทอเรซนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด เพื่อให้ความสงบและความสุขของแขกในทุก ๆ คน









วิสตา สวีท เป็นห้องพักที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดซึ่งมอบทัศนียภาพแบบ 180 องศา พร้อมพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 1,450 ถึง 1,850 ตารางฟุต ออกแบบมาเพื่อเป็นวิลล่าชายทะเลที่ดีที่สุด ห้องพักตกแต่งด้วยโทนสีเบา ที่สะท้อนถึงทะเลและท้องฟ้า พร้อมกับรายละเอียดที่สร้างสรรค์ด้วยหินอ่อน, แกรนิต และไม้โอ๊คที่ผ่านการใช้งานแล้ว ทุกห้องเป็นสถานที่ที่แท้จริงสำหรับการพักผ่อน ที่พักนี้มีห้องนั่งเล่นโปร่งสบายที่มีห้องรับประทานอาหารและบาร์อยู่ข้างเคียง ซึ่งให้วิวที่น่าทึ่งและเปิดออกสู่ระเบียงไม้สักขนาดใหญ่ ห้องพักหลักอันหรูหรามีพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง และพื้นที่เตรียมตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ พร้อมอ่างอาบน้ำเซรามิก วิสตา สวีท มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมด้วยบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมงและการเข้าถึงเลานจ์สำหรับแขกผู้พักในห้องสวีทเท่านั้น.







โอเชียนเนียสวีทคือห้องพักที่กว้างขวางและมีความชาญฉลาด ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือเพื่อให้ทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยห้องพักแต่ละห้องมีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ตารางฟุต มอบบรรยากาศที่หรูหราเหมือนอยู่บ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้ทีคขนาดใหญ่ ที่เชื้อเชิญให้มีการสังสรรค์อย่างสง่างาม ห้องนอนหลักนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบด้วยเตียงคิงไซส์ที่โอ่อ่า ห้องแต่งตัว และห้องน้ำที่มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ทำงานหรือห้องสตูดิโอสำหรับแขกและห้องน้ำสำหรับแขก ในทุก ๆ ห้องมีผู้ช่วยบริการเป็นพิเศษและการเข้าถึงล๊อบบี้ Executive Lounge สำหรับเฉพาะลูกค้าห้องชุดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีบริการและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บริการทำความสะอาดเสื้อผ้าฟรี (สูงสุด 3 ถุงต่อห้อง), การขึ้นเรือในลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงล๊อบบี้บริการพิเศษพร้อมคอนเซียร์จ, บริการผู้ช่วยตลอด 24 ชั่วโมง, บาร์ในห้องฟรีพร้อมเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวด, แชมเปญต้อนรับฟรี, และผลไม้สดที่เติมเต็มทุกวัน รวมถึงการเข้าร่วมสปา Aquamar Spa Terrace โดยไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีระบบบันเทิงที่กำหนดเอง และอุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหรา เสื้อคลุม Cashmere, ผ้านวม และแน่นอนว่าเลือกหมอนจากตัวเลือกที่หรูหราได้ และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด




เพนท์เฮาส์สวีทเป็นประสบการณ์หรูหราที่สุดในห้องพักบนเรือสำราญ ขนาด 440 ตารางฟุต ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดและเฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับ ห้องนี้ตกแต่งด้วยผ้าทอหรูหรา หนังเกรดพรีเมียม และงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าคู่ และระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ที่มองเห็นท้องทะเล อิสระในการใช้บริการสปาแบบ Aquamar Spa Terrace และบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเข้าใช้ Executive Lounge ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับผู้ที่เข้าพักในเพนท์เฮาส์ พร้อมพนักงานคอนเซียร์จที่คอยให้บริการ ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะมอบความสะดวกสบายมากมาย ยังมีการบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้อง และบริการอื่นๆ เช่นการจองร้านอาหารแบบพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า ทำให้การเข้าพักในเพนท์เฮาส์สวีทนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงของ Vista มอบความสะดวกสบายอันหรูหราแก่ผู้เข้าพัก ด้วยการตกแต่งโทนสีครีมและน้ำตาลอ่อนนำมาสู่การพักผ่อนที่เต็มไปด้วยการเอาใจใส่ ห้องพักนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Tranquility Bed ที่แต่งอย่างหรูหรา พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลรอบด้าน นอกจากนี้ ห้องพักยังมีพื้นที่เก็บของและตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง พร้อมด้วยห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและฝักบัวแบบเรนฟอเรสต์ การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เลาจน์คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล บริการรูมเซอร์วิสจากห้องอาหาร The Grand Dining Room และบริการซักรีดฟรี ทำให้ประสบการณ์ของคุณยิ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น เพื่อเพิ่มความสุขในวันหยุดของคุณ ห้องพักนี้มอบสิทธิพิเศษสำหรับคอนเซียร์จ เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายออกจาก The Grand Dining Room การบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก บริการเลาจน์คอนเซียร์จที่เปิดให้เฉพาะผู้ถือบัตร พร้อมเครื่องดื่มและของว่างฟรีตลอดทั้งวัน ขวดแชมเปญต้อนรับ บริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีผ้าห่ม cashmere สำหรับนั่งพักผ่อนบนระเบียง และบริการเคลือบรองเท้าฟรี สัมผัสประสบการณ์ชีวิตสุดหรูในระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงแห่งนี้ และจงเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาของการเดินทางของคุณ

ห้องสเตเทอรูมระเบียงเดี่ยวระดับคอนเซียร์จ เป็นห้องพักที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางคนเดียวโดยเฉพาะ นอกจากจะโปร่งสบายแล้วยังอบอุ่นอีกด้วย ห้องพักแต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราที่สมควรได้รับจากนักเดินทางทั่วโลก ห้องสเตเทอรูมนี้มีบริเวณนั่งเล่นที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว แยกพื้นที่นอนที่มีเตียง Tranquility Bed สุดสบายและมีพื้นที่เก็บของมากมาย สำหรับแขกคนเดียวที่เข้าพักในระดับคอนเซียร์จ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรี การเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ ยังมีบริการที่พิเศษมากมาย เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ขยายจาก Grand Dining Room การขึ้นเรือแบบมีลำดับความสำคัญในช่วงเที่ยง และการเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีโปรแกรมอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งวัน รวมไปถึงการต้อนรับด้วยขวดแชมเปญฟรี และการจองโต๊ะในร้านอาหารพิเศษทางออนไลน์ก่อนใคร การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด การแจกถุงผ้าโลโก้ของ Oceania Cruises และผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง ห้องนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความหรูหราและการบริการที่เหนือระดับในขณะเดินทาง


在奧西亞維斯塔號郵輪的ระเบียง客艙中,您將體驗到如同經典小黑裙般的恆久優雅。這間面積達290平方英尺的客艙,傳遞著居家般的溫馨氛圍,設計採用柔和的中性色調,並點綴著細膩的錫耶納色彩。高科技的便利設施與寬敞的衣櫃空間,為您的舒適提供了充足的保障。奢華的皇后尺寸床鋪,搭配設有大梳妝台及壯觀雨林淋浴的浴室,無疑是放鬆身心的理想之選。而客艙內的舒適休息區,更是享受私人露台的完美前奏,讓您能觀賞到世界在您眼前靜靜滑過的美好景象。

ห้องพักระเบียงแบบฝรั่งเศส เป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสความสุขจากการอยู่ใกล้ทะเล โดยคุณสามารถเปิดประตูบานกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อสัมผัสกับลมทะเลและวิวที่สวยงามภายนอก ซึ่งทำให้ห้องของคุณกลายเป็นระเบียงแบบเปิดโล่ง เพียบพร้อมไปด้วยบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์เสมือนคุณพักอยู่ในวิลล่าหรูที่ Côte d’Azur ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างมีสไตล์ ประกอบไปด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ และพื้นที่นั่งเล่นที่ให้ความสะดวกสบาย ซึ่งหลอมรวมความผ่อนคลายและความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมด้วยฝักบัวฝนที่สร้างความรู้สึกหรูหรา สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนี้ ท่านจะได้รับการบริการที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นเตียง Tranquility Bed ที่มีผ้าปูที่นอนคุณภาพสูงถึง 1,000 เส้นไหม น้ำอัดลมฟรีที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ของท่าน น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบอัดฟอง ดูแลโดยบริการแม่บ้านที่ให้บริการสองครั้งต่อวัน พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีโทรทัศน์ระบบอินเทอร์แอคทีฟและการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งทำให้คุณเชื่อมต่อโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย โดยนอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมและรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบายในห้องพักสุดพิเศษแห่งนี้โดยไม่ตกหล่นแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย.