
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนา วิสต้า
โอเชียเนีย ครูซส์


เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

ท่าเรือดั๊กกลาส ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะไอล์ออฟแมน อันงดงามในทะเลไอริช เป็นจุดแวะพักที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของอังกฤษ เกาะนี้มีขนาดเพียง 30 ไมล์ x 13 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ มีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและหน้าผาสูงชัน ผสมผสานกับบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่สมบูรณ์ เกาะไอล์ออฟแมนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ยุคหินใหม่ จนกลายเป็นที่พักอาศัยของนักบวชไอริชในศตวรรษที่ 5 และมีอิทธิพลจากชาวนอร์สในศตวรรษที่ 9 ซึ่งขายเกาะนี้ให้กับสกอตแลนด์ในปี 1266 แต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา สหราชอาณาจักรได้ครอบครองเกาะนี้ไว้ นอกจากนี้ เกาะยังมีความเฉพาะตัวในเรื่องของภาษาแมนซ์ ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองที่ยังคงมีผู้พูดอยู่เพียงน้อยนิด การเยี่ยมชมดั๊กกลาสจะเปิดโอกาสให้คุณได้ชมปราสาทที่งดงาม เส้นทางรถไฟเข็มแคบ และสำหรับผู้รักความท้าทาย สามารถเดินป่าสูงถึง 2,036 ฟุตที่ยอดเขาสนาฟเฟล พร้อมวิวทะเลที่งดงามตระการตา เกาะไอล์ออฟแมนจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเดินทางครั้งถัดไป.

ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองที่สูงตระหง่าน ลอนดอนเดอรีเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากได้รับการประกาศให้เป็นเมืองวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักรในปี 2013 และติดอันดับหนึ่งในห้าแหล่งท่องเที่ยวที่ควรไปเยือนจาก Lonely Planet กำแพงเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี เป็นเสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่ของลอนดอนเดอรี ซึ่งล้อมรอบประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,450 ปี กำแพงเหล่านี้เคยเป็นจุดสำคัญในเหตุการณ์การล้อมเมืองในปี 1688 โดยทหารของพระเจ้าเจมส์ ซึ่งทำให้เมืองประสบปัญหาความอดอยากในช่วง 105 วัน นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการเดินรอบกำแพงและสำรวจประตูทั้งเจ็ด พร้อมกับเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจตลอดช่วงเส้นทาง หนึ่งในจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือมหาวิหารเซนต์โคลัมบ์ ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1633 ตั้งตระหง่านเหนือเมือง มีหอระฆังที่เก่าแก่ที่สุดในไอร์แลนด์ ซึ่งมีเสียงระฆังดังก้องมายาวนานตั้งแต่ปี 1638 เรียกว่าทำให้การเยี่ยมชมลอนดอนเดอรีเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

ท่าเรือ Portree บนเกาะ Skye ในสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์อันโรแมนติกและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เกาะ Skye เป็นที่รู้จักในเรื่องของภูเขา Cuillin ที่มายืมความสวยงามแบบธรรมชาติ ตั้งอยู่ใกล้กับแผ่นดินใหญ่ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการค้นหาความลึกลับและมนต์เสน่ห์ของภูเขาและทะเล การได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยเฉพาะแสงสีทองที่สาดส่องจนค่อนคืน นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจเกาะได้อย่างง่ายดายด้วยถนนสายหลักที่ห้อมล้อมขึ้นทางเหนือและใต้ของเกาะ ประเด็นเด่นคือบ้านเก่าแก่ที่บางหลังยังมีผู้อาศัย ซึ่งมีผนังหินหนาและหลังคาหญ้าตามที่เห็นในภาพถ่ายที่หลากหลาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง มีเส้นทางที่สวยงามของ Sleat Peninsula ที่เชื่อมโยงทิวทัศน์อันสะกดตา จนท่านต้องเพลิดเพลินไปกับการขับรถไปทั่วทั้งเกาะ Portree ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญ ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในธรรมชาติที่แท้จริง ที่จะเติมเต็มจิตวิญญาณของนักเดินทางทุกคน ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบและความงามที่น่าอัศจรรย์ เกาะ Skye คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในชีวิตของคุณ
เมืองสแครบสเตอร์ (Scrabster) ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศสกอตแลนด์ เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น จุดเด่นของสแครบสเตอร์คือท่าเรือที่เปิดโอกาสให้สัมผัสกับทะเลเหนืออันกว้างใหญ่และช่วงเวลาที่สำคัญในการสำรวจเกาะชานนอกและอ่าวออคเนย์ (Orkney). ที่นี่คุณจะค้นพบบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ โดยรอบล้อมไปด้วยภูเขาและชายหาดที่งดงาม เช่น ชายหาดของโนซ์คาบ (Norse) ที่เหมาะแก่การเดินเล่นหรือการพักผ่อนในวันที่สดใส พร้อมกันนี้ สแครบสเตอร์ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจเกาะออคเนย์ มีการเดินทางเรือที่ริเริ่มจากท่าเรือท้องถิ่นนำคุณไปยังประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของเกาะและโบราณสถานต่างๆ ที่น่าประทับใจ หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ สแครบสเตอร์มีกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ดูนก หรือแม้แต่ชิมอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะอาหารที่มาจากการจับได้ในทะเลเหนือ ในทุกมิติของการเดินทาง มันจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและยากที่จะลืมเลือน.

ท่าเรืออินเวอร์คอร์ดอน เป็นประตูสู่มหัศจรรย์ของที่ราบใหญ่ หรือ Great Glen ในสก็อตแลนด์ ซึ่งรวมถึงทะเลสาบเนส (Loch Ness) และเมืองอินเวอเนส (Inverness) ที่เป็นเมืองหลวงของไฮแลนด์ มีบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองจากลมทะเลที่พัดมาจากอ่าวโมเรย์ (Moray Firth) นอกจากจะเป็นที่ตั้งของตำนานสัตว์ประหลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่าง "เนสซี่" (Nessie) ซึ่งกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่รู้จบ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจมากมาย เช่น ทะเลสาบในพื้นที่ การเดินป่าในภูเขาอันสูงชัน ทิวทัศน์ที่ตระการตาในโทนสีม่วงและเขียวของทุ่งหญ้า และป่าไม้ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าที่แปลกตา เช่น กระต่ายภูเขา กวางแดง และนกอินทรีทอง การเดินทางมาที่อินเวอร์คอร์ดอนจะทำให้คุณได้สัมผัสความงามธรรมชาติที่แท้จริงและตำนานที่ยิ่งใหญ่ของสก็อตแลนด์ ไม่ว่าคุณจะเดินทางเพื่อการผจญภัยหรือเพียงเพื่อสัมผัสกับกิจกรรมในบรรยากาศที่เงียบสงบ ท่าเรือนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมในดินแดนแห่งสานสัมพันธ์ระหว่างตัวตนกับธรรมชาติอย่างลงตัว

คริสเตียนซัน (Kristiansand) เมืองที่มีเสน่ห์ในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "Sommerbyen" หรือ "เมืองร้อนแห่งฤดูร้อน" สถานที่แห่งนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของนอร์เวย์ มีประชากรราว 78,000 คน ที่เดินทางเข้ามาที่นี่เพื่อสัมผัสกับชายหาดที่เปล่งประกายจากแสงแดดและท่าเรือที่งดงาม ในเดือนกรกฎาคมของทุกปี คริสเตียนซันยังก้าวสู่เวทีโลกด้วยเทศกาล Quart Festival ซึ่งนำเสนอดนตรีจากวงร็อคทั้งของท้องถิ่นและนานาชาติ สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มาเยือน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลตามตำนานที่ว่าในปี 1641 พระเจ้า Christian IV ได้ใช้ง่ามเดินของพระองค์ทำเครื่องหมายสี่มุมของเมือง และจากนั้นได้วางแผนถนนในรูปแบบตาราง ซึ่งจุดศูนย์กลางของเมืองที่เรียกว่า Kvadraturen ยังคงมีรูปแบบนี้แม้จะประสบกับเหตุไฟไหม้หลายครั้ง นอกจากนั้น ยังมี Posebyen ซึ่งเป็นชุมชนบ้านไม้ที่เชื่อมต่อกันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ และมีตลาดในวันเสาร์ในฤดูร้อนที่คึกคัก นอกจากนี้ ตลาดปลา Fisketorvet ที่ตั้งอยู่ใกล้กับมุมใต้ของตารางเมืองก็พร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทะเลสดใหม่ ตั้งแต่กุ้งหอยปูปลา ให้คุณเต็มอิ่มกับรสชาติท้องถิ่นที่คุณไม่ควรพลาด เติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณที่คริสเตียนซัน สัมผัสวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป!


เมืองวาร์เนมึนเดอ (Warnemünde) ซึ่งเป็นชานเมืองที่งดงามของโรสต็อกในประเทศเยอรมนี เป็นจุดหมายปลายทางที่ถูกใจนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ด้วยชายหาดทรายขาวกว่าหมื่นสองพันเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน และเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวที่มองหาที่หลบหนีจากความวุ่นวาย วาร์เนมึนเดอไม่เพียงแต่มีโรงแรมและร้านอาหารที่ดีที่สุดในพื้นที่ แต่ยังเป็นท่าเรือสำราญที่สำคัญ สำหรับผู้ที่หลงใหลในฤดูกาลของการเดินทาง ทางเมืองจะเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเมื่อลงเรือสำราญหลายลำที่จอดอยู่ในท่าพร้อมกัน การเฉลิมฉลองของเมืองจะเปล่งประกายออกมาให้เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการเฉลิมฉลอง "dreifache Anlauf" ซึ่งมีเรือสามลำจอดพร้อมกัน โดยจะมีการจุดดอกไม้ไฟสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยความสงบและสวยงาม วาร์เนมึนเดอจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเติมเต็มจิตวิญญาณของผู้เดินทาง เสริมสร้างประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนในใจคุณ ด้วยภาพภูมิทัศน์ที่สวยงามและอิ่มเอมกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา นี่คือจุดหมายที่ต้องสัมผัสในทุกการเดินทาง.

ท่าเรือรอนเนอร์ (Rønne) ตั้งอยู่บนเกาะบอร์นโฮล์ม (Bornholm) ของประเทศเดนมาร์ก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามทางธรรมชาติที่น่าหลงใหล เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ที่งดงาม หาดทรายขาวสะอาด และน้ำทะเลใส ที่สร้างบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริง เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือรอนเนอร์ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองที่มีเอกลักษณ์ ตั้งแต่บ้านไม้สีสันสวยงามไปจนถึงบรรยากาศของตลาดท้องถิ่นที่คุณสามารถชิมผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสดๆ รวมถึงปลาที่จับได้ในท้องถิ่น เลือกซื้อตะกร้าอาหารแบรนด์ดัง หรือแม้กระทั่งของที่ระลึกที่ทำจากฝีมือชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบเกาะ เช่น วัดเซนลุด (Sankt Nikolaj Kirke) ที่มีสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า และโรงงานทำช็อกโกแลตที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในการผลิต อิสระในการสำรวจเกาะที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ทำให้การเดินทางนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแท้จริง ท่าเรือรอนเนอร์ไม่เพียงแต่ให้บริการเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของเดนมาร์ก สัมผัสบรรยากาศที่แสนโรแมนติกและให้ความรู้สึกเหมือนเป็นชีวิตในฝันที่คุณควรมีในรายการเดินทางของคุณ

คาร์ลส์ครูน่า (Karlskrona) เมืองท่าที่สวยงามและมีเสน่ห์ในประเทศสวีเดน ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่งดงามของทะเลบอลติก เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นเมืองท่าหลักของกองทัพเรือสวีเดน เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือคาร์ลส์ครูน่า คุณสามารถเดินสำรวจความงามของเมืองนี้ได้อย่างง่ายดาย เมืองนี้ปรากฏอยู่ในรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโก ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกที่ยังคงสมบูรณ์แบบ ที่คุณไม่ควรพลาดคือการเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์เรือ” (Maritime Museum) ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปที่อดีตทางทะเลของประเทศ รวมทั้งสามารถชมวิวทะเลที่สวยงามจาก “ปราสาทคาร์ลส์สตัด” (Carlskrona Naval Base) ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ต่ำตระหง่านเหนือทะเล นอกจากเกมน้ำที่ยอดเยี่ยม คุณยังสามารถเลือกพักผ่อนที่ร้านกาแฟสุดชิคในย่านเมืองเก่า ชิมอาหารทะเลสดใหม่ หรือเดินชมตลาดท้องถิ่นที่กระตุ้นประสาทสัมผัสของคุณ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่มีการจัดงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา คาร์ลส์ครูน่าไม่ใช่แค่ท่าเรือที่คุณแวะจอด แต่เป็นประตูสู่ประสบการณ์อันทรงคุณค่า และการเดินทางที่ไม่มีวันลืมในประเทศสวีเดน


ท่าเรือเซาแธมป์ตัน นับเป็นท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ปากอ่าวเซาแธมป์ตัน ระหว่างแม่น้ำเทสต์และอิตเชน เมืองแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยกลาง โดยมีการส่งออกขนสัตว์และหนังสัตว์จากพื้นที่รอบ ๆ และนำเข้าผลิตภัณฑ์ไวน์จากบอร์โดซ์ แม้เซาแธมป์ตันจะต้องเผชิญกับการทำลายล้างอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เมืองนี้ก็ได้ฟื้นฟูและสร้างสรรค์ใหม่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยอาคารยุคกลางที่ยังคงเหลืออยู่ เช่น บาร์เกต (Bargate) ที่ถือเป็นหนึ่งในประตูเมืองที่สวยงามที่สุดในอังกฤษ นอกจากท่าเรืออันทันสมัยแล้ว เซาแธมป์ตันยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับนักเดินทาง ที่สามารถสำรวจเมืองแห่งประวัติศาสตร์และเต็มไปด้วยศิลปะ เช่น พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่นำเสนอผลงานศิลปะระดับโลก และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการออกไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองใกล้เคียง อย่างบอร์นมัธ และสนามกอล์ฟที่สวยงาม การมาที่เซาแธมป์ตันจึงไม่เพียงแค่การเริ่มต้นการเดินทางด้วยเรือสำราญ แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงดงามทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอังกฤษอย่างไม่รู้จบ










เจ้าของสวีทของ Oceania Vista เป็นห้องที่กว้างขวางและตั้งอยู่กลางเรือ ซึ่งนำเสนอวิวทะเลที่สวยงามด้วยผนังกระจกสูงโปร่ง ห้องพักที่เต็มไปด้วยแสงแดดนี้ตกแต่งด้วยผ้าหรูและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ ที่สร้างบรรยากาศหรูหราในขณะยังคงมอบความรู้สึกเหมือนบ้าน ห้องรับประทานอาหารที่โดดเด่นสามารถจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในห้อง และพื้นที่นั่งเล่นที่มีสไตล์จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการสนทนาอย่างสบาย ๆ ห้องนอนหลักที่กว้างขวางมอบความผ่อนคลายอย่างถึงที่สุดด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ที่นุ่มสบาย และห้องน้ำมาสเตอร์ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมือนสปา อย่างไรก็ตาม เทอเรซขนาดใหญ่ที่มีตั้งอยู่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลักจะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว และชมวิวโลกจากจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เจ้าของสวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรี รวมถึงวิธีการเข้าขึ้นเรืออย่างเร็วที่สุดในเวลา 11.00 น. พร้อมทั้งบริการโหลดกระเป๋าที่รีบเร่ง บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบาร์ภายในห้องพร้อมทุกข์เต็มขนาดจากเมนูเครื่องดื่มพรีเมี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับขนม ชา หรือกาแฟฟรีในเลานจ์ส่วนตัวที่อยู่ในการเข้าถึงของผู้ถือบัตรเฉพาะ ซึ่งดูแลโดยคอนเซียร์จ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ฟรี และสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารออนไลน์ รวมถึงของขวัญต้อนรับเป็นแชมเปญมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสวีท และบนเทอเรซนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด เพื่อให้ความสงบและความสุขของแขกในทุก ๆ คน









วิสตา สวีท เป็นห้องพักที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดซึ่งมอบทัศนียภาพแบบ 180 องศา พร้อมพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 1,450 ถึง 1,850 ตารางฟุต ออกแบบมาเพื่อเป็นวิลล่าชายทะเลที่ดีที่สุด ห้องพักตกแต่งด้วยโทนสีเบา ที่สะท้อนถึงทะเลและท้องฟ้า พร้อมกับรายละเอียดที่สร้างสรรค์ด้วยหินอ่อน, แกรนิต และไม้โอ๊คที่ผ่านการใช้งานแล้ว ทุกห้องเป็นสถานที่ที่แท้จริงสำหรับการพักผ่อน ที่พักนี้มีห้องนั่งเล่นโปร่งสบายที่มีห้องรับประทานอาหารและบาร์อยู่ข้างเคียง ซึ่งให้วิวที่น่าทึ่งและเปิดออกสู่ระเบียงไม้สักขนาดใหญ่ ห้องพักหลักอันหรูหรามีพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง และพื้นที่เตรียมตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ พร้อมอ่างอาบน้ำเซรามิก วิสตา สวีท มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมด้วยบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมงและการเข้าถึงเลานจ์สำหรับแขกผู้พักในห้องสวีทเท่านั้น.







โอเชียนเนียสวีทคือห้องพักที่กว้างขวางและมีความชาญฉลาด ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือเพื่อให้ทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยห้องพักแต่ละห้องมีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ตารางฟุต มอบบรรยากาศที่หรูหราเหมือนอยู่บ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้ทีคขนาดใหญ่ ที่เชื้อเชิญให้มีการสังสรรค์อย่างสง่างาม ห้องนอนหลักนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบด้วยเตียงคิงไซส์ที่โอ่อ่า ห้องแต่งตัว และห้องน้ำที่มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ทำงานหรือห้องสตูดิโอสำหรับแขกและห้องน้ำสำหรับแขก ในทุก ๆ ห้องมีผู้ช่วยบริการเป็นพิเศษและการเข้าถึงล๊อบบี้ Executive Lounge สำหรับเฉพาะลูกค้าห้องชุดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีบริการและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บริการทำความสะอาดเสื้อผ้าฟรี (สูงสุด 3 ถุงต่อห้อง), การขึ้นเรือในลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงล๊อบบี้บริการพิเศษพร้อมคอนเซียร์จ, บริการผู้ช่วยตลอด 24 ชั่วโมง, บาร์ในห้องฟรีพร้อมเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวด, แชมเปญต้อนรับฟรี, และผลไม้สดที่เติมเต็มทุกวัน รวมถึงการเข้าร่วมสปา Aquamar Spa Terrace โดยไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีระบบบันเทิงที่กำหนดเอง และอุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหรา เสื้อคลุม Cashmere, ผ้านวม และแน่นอนว่าเลือกหมอนจากตัวเลือกที่หรูหราได้ และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด




เพนท์เฮาส์สวีทเป็นประสบการณ์หรูหราที่สุดในห้องพักบนเรือสำราญ ขนาด 440 ตารางฟุต ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดและเฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับ ห้องนี้ตกแต่งด้วยผ้าทอหรูหรา หนังเกรดพรีเมียม และงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าคู่ และระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ที่มองเห็นท้องทะเล อิสระในการใช้บริการสปาแบบ Aquamar Spa Terrace และบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเข้าใช้ Executive Lounge ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับผู้ที่เข้าพักในเพนท์เฮาส์ พร้อมพนักงานคอนเซียร์จที่คอยให้บริการ ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะมอบความสะดวกสบายมากมาย ยังมีการบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้อง และบริการอื่นๆ เช่นการจองร้านอาหารแบบพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า ทำให้การเข้าพักในเพนท์เฮาส์สวีทนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงของ Vista มอบความสะดวกสบายอันหรูหราแก่ผู้เข้าพัก ด้วยการตกแต่งโทนสีครีมและน้ำตาลอ่อนนำมาสู่การพักผ่อนที่เต็มไปด้วยการเอาใจใส่ ห้องพักนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Tranquility Bed ที่แต่งอย่างหรูหรา พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลรอบด้าน นอกจากนี้ ห้องพักยังมีพื้นที่เก็บของและตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง พร้อมด้วยห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและฝักบัวแบบเรนฟอเรสต์ การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เลาจน์คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล บริการรูมเซอร์วิสจากห้องอาหาร The Grand Dining Room และบริการซักรีดฟรี ทำให้ประสบการณ์ของคุณยิ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น เพื่อเพิ่มความสุขในวันหยุดของคุณ ห้องพักนี้มอบสิทธิพิเศษสำหรับคอนเซียร์จ เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายออกจาก The Grand Dining Room การบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก บริการเลาจน์คอนเซียร์จที่เปิดให้เฉพาะผู้ถือบัตร พร้อมเครื่องดื่มและของว่างฟรีตลอดทั้งวัน ขวดแชมเปญต้อนรับ บริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีผ้าห่ม cashmere สำหรับนั่งพักผ่อนบนระเบียง และบริการเคลือบรองเท้าฟรี สัมผัสประสบการณ์ชีวิตสุดหรูในระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงแห่งนี้ และจงเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาของการเดินทางของคุณ

ห้องสเตเทอรูมระเบียงเดี่ยวระดับคอนเซียร์จ เป็นห้องพักที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางคนเดียวโดยเฉพาะ นอกจากจะโปร่งสบายแล้วยังอบอุ่นอีกด้วย ห้องพักแต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราที่สมควรได้รับจากนักเดินทางทั่วโลก ห้องสเตเทอรูมนี้มีบริเวณนั่งเล่นที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว แยกพื้นที่นอนที่มีเตียง Tranquility Bed สุดสบายและมีพื้นที่เก็บของมากมาย สำหรับแขกคนเดียวที่เข้าพักในระดับคอนเซียร์จ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรี การเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ ยังมีบริการที่พิเศษมากมาย เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ขยายจาก Grand Dining Room การขึ้นเรือแบบมีลำดับความสำคัญในช่วงเที่ยง และการเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีโปรแกรมอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งวัน รวมไปถึงการต้อนรับด้วยขวดแชมเปญฟรี และการจองโต๊ะในร้านอาหารพิเศษทางออนไลน์ก่อนใคร การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด การแจกถุงผ้าโลโก้ของ Oceania Cruises และผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง ห้องนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความหรูหราและการบริการที่เหนือระดับในขณะเดินทาง


在奧西亞維斯塔號郵輪的ระเบียง客艙中,您將體驗到如同經典小黑裙般的恆久優雅。這間面積達290平方英尺的客艙,傳遞著居家般的溫馨氛圍,設計採用柔和的中性色調,並點綴著細膩的錫耶納色彩。高科技的便利設施與寬敞的衣櫃空間,為您的舒適提供了充足的保障。奢華的皇后尺寸床鋪,搭配設有大梳妝台及壯觀雨林淋浴的浴室,無疑是放鬆身心的理想之選。而客艙內的舒適休息區,更是享受私人露台的完美前奏,讓您能觀賞到世界在您眼前靜靜滑過的美好景象。

ห้องพักระเบียงแบบฝรั่งเศส เป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสความสุขจากการอยู่ใกล้ทะเล โดยคุณสามารถเปิดประตูบานกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อสัมผัสกับลมทะเลและวิวที่สวยงามภายนอก ซึ่งทำให้ห้องของคุณกลายเป็นระเบียงแบบเปิดโล่ง เพียบพร้อมไปด้วยบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์เสมือนคุณพักอยู่ในวิลล่าหรูที่ Côte d’Azur ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างมีสไตล์ ประกอบไปด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ และพื้นที่นั่งเล่นที่ให้ความสะดวกสบาย ซึ่งหลอมรวมความผ่อนคลายและความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมด้วยฝักบัวฝนที่สร้างความรู้สึกหรูหรา สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนี้ ท่านจะได้รับการบริการที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นเตียง Tranquility Bed ที่มีผ้าปูที่นอนคุณภาพสูงถึง 1,000 เส้นไหม น้ำอัดลมฟรีที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ของท่าน น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบอัดฟอง ดูแลโดยบริการแม่บ้านที่ให้บริการสองครั้งต่อวัน พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีโทรทัศน์ระบบอินเทอร์แอคทีฟและการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งทำให้คุณเชื่อมต่อโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย โดยนอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมและรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบายในห้องพักสุดพิเศษแห่งนี้โดยไม่ตกหล่นแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย.