
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนา วิสต้า
โอเชียเนีย ครูซส์


เมื่อพูดถึงการเดินทางยามว่าง ขอนำเสนอท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างท่าเรือสิงคโปร์ หนึ่งในจุดแวะที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ ท่าเรือแห่งนี้เป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าหลงใหลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเกาะที่มีรูปร่างคล้ายเพชรแบน โดยมีการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ที่ท่าเรือคุณจะได้พบกับอาคารสูงโดดเด่นในย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ทั้งอาคารสำนักงานและโรงแรมสุดหรู รวมถึงโรงแรม Raffles สุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา นอกจากนี้ยังมีสวนแนวตั้ง "Supertrees" ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นสวนพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยเพิ่มความเขียวให้กับเมือง สำหรับผู้ที่ต้องการหนีจากความวุ่นวาย ท่านยังสามารถไปเยือนเกาะเซนโตซ่า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสนุก ไม่ว่าจะเป็นชายหาดสวยงาม หรือกิจกรรมทางน้ำที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และหากคุณต้องการสัมผัสธรรมชาติ ภูมิประเทศอันหลากหลายของสิงคโปร์ก็รอคอยคุณอยู่ เช่น ป่าเขียวชอุ่มและพื้นที่เกษตรกรรม สัมผัสความหรูหราและความหลากหลายแห่งนี้ที่ท่าเรือสิงคโปร์ และปล่อยให้การเดินทางของคุณเริ่มต้นจากที่นี่!

ท่าเรือ Klang ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของมาเลเซีย นอกจากความสะดวกสบายของท่าเรือหลักที่เป็นประตูสู่ความหลากหลายของประเทศแล้ว กัวลาลัมเปอร์ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย คุณจะพลาดไม่ได้กับแลนด์มาร์คที่สำคัญอย่างหอคอยเปโตรนาส ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม ทั้งยังมีกลิ่นอายของอดีตในย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยความมีเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโคโลเนียล และศูนย์การค้าระดับหรูที่พร้อมให้คุณได้เลือกสรรสินค้าแบรนด์ดังในสไตล์ที่คัดสรรมาอย่างลงตัว ไม่เพียงแต่การเดินชมสถานที่เท่านั้น คุณยังสามารถลิ้มลองรสชาติอาหารจากหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งอาหารจีน มลายู และอินเดีย ที่พร้อมให้บริการในร้านอาหารระดับ 5 ดาวที่เต็มไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์ ในเมืองที่ขับเคลื่อนไปด้วยประชากรที่หลากหลายเช่นนี้ ทุก ๆ มุมของกัวลาลัมเปอร์จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงการผสมผสานอย่างงดงาม อย่าพลาดที่จะสำรวจและสัมผัสด้วยตัวคุณเองที่ท่าเรือ Klang แห่งนี้!

เกาะปีนัง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซีย เป็นจุดหมายปลายทางที่หลงใหลและโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่หลากหลาย สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว เมืองจอร์จทาวน์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก ด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่งดงาม วัดวาอารามที่เก่าแก่ และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ เมื่อคุณเดินทางมายังท่าเรือของจอร์จทาวน์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เพียงแต่เมืองจะเป็นหัวใจของประวัติศาสตร์ แต่ยังมีธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ชายฝั่งสวยสดงดงาม และหมู่บ้านประมงที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมแท้ๆ ไว้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่หลงใหลในศาสนา ปีนังก็ยังมีวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ซึ่งเป็นเวทีให้คุณได้ศึกษาและเข้าใจวัฒนธรรมแบบจีนได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความหลากหลายนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร มาผจญภัยกับเราและค้นพบความมหัศจรรย์ของปีนังในครั้งถัดไป!

ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย หมู่เกาะลังกาวีประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ถึง 99 แห่ง โดยเกาะหลักคือเกาะปูเลา ลังกาวี ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนที่นักท่องเที่ยวทุกคนใฝ่ฝันถึง ที่นี่มีชื่อเสียงในด้านน้ำทะเลที่ใสสะอาดและความงดงามของชายหาด ผสมผสานกับกิจกรรมดำน้ำที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างแสวงหา อีกทั้งลังกาวียังได้ถูกประกาศให้เป็นเขตปลอดภาษีในช่วงปี 1980 ส่งผลให้ที่นี่เป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งสำหรับผู้ที่ต้องการแสวงหาของถูกใจ โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ อาทิเช่น อุทยานแห่งชาติ ที่มีกิจกรรมเดินทางสำรวจธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ และการนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่จะพานักท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์อันงดงามจากที่สูง สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยไม่ควรพลาดการเข้าชมอควาเรียมขนาดใหญ่ ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไปพบกับโลกใต้ทะเลอันมหัศจรรย์ ลังกาวีไม่ใช่แค่เกาะที่มีหาดทรายขาว แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์ในธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเสน่ห์อย่างแท้จริง ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำอันงดงามและน่าประทับใจ

ภูเก็ต จังหวัดที่สวยงามและเป็นที่รู้จักทั่วโลก เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการค้นพบวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ในบรรดาวิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย Phuket Town สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและหลากหลายทางวัฒนธรรมที่น่าค้นหา สาย Talang ซึ่งเป็นย่านเก่าของเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Sino-Portuguese ที่สวยงาม เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จากประวัติศาสตร์ โดยมีร้านค้านานาชนิดให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึกอยู่ตลอดแนว การเดินเล่นในย่านถนน Talang จะนำท่านไปพบกับร้านขายของโบราณ แกลเลอรีศิลปะ และคาเฟ่สุดชิค ซึ่งทำให้ทุกช่วงเวลาในทริปของคุณนั้นมีสีสันและน่าจดจำ นอกจากนี้ ถ้าท่านมีโอกาสได้สำรวจถนนหลักอย่าง Ratsada และ Phuket ยังมีตลาดท้องถิ่นที่มีรสชาติของผลไม้และเครื่องเทศที่หอมกรุ่นรอให้ท่านได้ลิ้มลอง ไม่เพียงแต่เป็นการรับประทานอาหาร แต่ยังเป็นการเข้าถึงวิถีชีวิตของชาวภูเก็ตอย่างแท้จริง ดังนั้น ถ้าท่านวางแผนจะมาเยือนภูเก็ต อย่าลืมใช้เวลาในการสำรวจและสัมผัสกลิ่นอายของจังหวัดนี้อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!


โคลอมโบ เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศศรีลังกา เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลายที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่คุณจะได้พบกับร้านอาหารดีๆ มากมาย ที่จะสร้างความประทับใจให้กับการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นและนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนที่คึกคัก และพิพิธภัณฑ์ดีๆ ที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ ที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้นวัดพุทธที่สวยงามและสวนสาธารณะที่เขียวขจี ที่นอกจากจะได้ชมความงามแล้วยังเป็นสถานที่พักผ่อนที่ยอดเยี่ยม ชายหาดแห่งมตวินิยะก็อยู่ในระยะทางเพียงไม่นานจากใจกลางเมือง มอบบรรยากาศริมชายหาดที่น่าหลงใหล พร้อมด้วยวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามจับใจ โคลอมโบเป็นประตูสู่การสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายและสีสันของศรีลังกา เชิญคุณมาสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวานี้ แล้วจะพบว่าแต่ละมุมของเมืองนั้นมีความมหัศจรรย์รอคอยให้คุณค้นพบ ไม่ว่าคุณจะหลงรักธรรมชาติ วัฒนธรรม หรืออาหาร โคลอมโบพร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจแทบไม่รู้ลืม


โคชิน (Kochi) เมืองท่าวัชนาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นหนึ่งในท่าจอดเรือที่ใหญ่ที่สุดทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งประวัติศาสตร์เมื่อเดินเล่นในเขตฟอร์ตโคชิน (Fort Cochin) และมตัญชรี (Mattancherry) ที่เต็มไปด้วยบ้านเก่าแก่และโกดังสินค้าที่สร้างขึ้นตั้งแต่อดีต เสน่ห์ของเมืองนี้อยู่ที่ตลาดเครื่องเทศ ชา และกาแฟ ที่เคยส่งออกไปทั่วโลก โคชินไม่เพียงแต่มีท่าเรือที่มีความสำคัญทางการค้า แต่ยังเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมจากหลากหลายประเทศ มีพระอาราม ซินากอก และวัดฮินดูที่ตั้งอยู่เคียงคู่กันให้คุณได้สัมผัสความหลากหลายทางศาสนา เสน่ห์ของเกาะ Willingdon ที่มีโรงแรมหรูสร้างขึ้นบนเกาะดำน้ำ และเกาะ Bolghatty ซึ่งเป็นจุดพักผ่อนที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่น ถ้าคุณมีใจรักทะเลหรือต้องการสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่สวยงาม หาด Cherai บนเกาะ Vypin เป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด สถานที่นี้เข้าถึงได้ง่ายเพียง 10 นาทีจากฟอร์ตโคชิน พร้อมบรรยากาศที่เงียบสงบและทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล ท่าเรือโคชินคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่อดีตและประสบการณ์ใหม่อันน่าหลงใหลในอินเดียที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืม




อาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เคยเป็นเพียงหมู่บ้านประมงขนาดเล็ก ด้วยบ้านดินและใบปาล์ม เมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา แต่วันนี้อาบูดาบีเปลี่ยนโฉมเป็นหนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยถนนกว้างขวางที่มีต้นไม้เรียงราย สวนสวยที่เขียวขจี น้ำพุที่พลุ่งพล่าน และตึกระฟ้าที่งดงาม อาบูดาบีเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยที่ผสมกลมกลืนกับมนต์เสน่ห์แบบอาหรับ ผู้คนที่เป็นมิตรพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยอัธยาศัยดี โบราณสถานสำคัญเช่น ป้อมอัลฮูสน (Al Husn) ซึ่งมีอายุมากกว่า 25 ปี เป็นที่ตั้งของมูลนิธิทางวัฒนธรรมและศูนย์เอกสาร เป็นหนึ่งในสถานที่สุดคลาสสิคที่ควรเยี่ยมชมความงดงามของผนังสีขาวที่ตัดกับตึกสูงระฟ้า การค้นพบแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในทศวรรษ 1950 และ 1960 ทำให้อาบูดาบีเร่งพัฒนาทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน เปลี่ยนแปลงเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองและเปล่งประกายในวันนี้ สนุกสนานไปกับการสำรวจความงามของเมือง และหลงใหลในวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าหลงใหลได้ที่นี่ เตรียมพบประสบการณ์ใหม่ในอาบูดาบี ที่จะทำให้คุณประทับใจไปอีกนานแสนนาน!


ซะลาล่าห์ (Salalah) คือเพชรพลอยแห่งชายฝั่งดอฮาร์ (Dhofar) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงมรสุมขยี้ใจ, หรือที่เรียกว่า "คารีฟ" (Khareef) ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกันยายน ท่ามกลางสายฝนและหมอกหนา ตัวเมืองจะกลายเป็นประตูสู่จุดหมายที่เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ นอกจากน้ำตกที่สวยงามและทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่แล้วยังมีลำธารภูเขาที่ไหลชัดเจน ซึ่งสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้มาเยือน ซะลาล่าห์ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักระหว่างการค้าโบราณที่เชื่อมต่อระหว่างเลแวนต์ (Levant) กับอินเดียและจีน แต่ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ย้อนกลับไปหลายศตวรรษ โดยเป็นศูนย์กลางการค้าไม้กฤษณาที่มีค่ากับผู้ค้าในวัฒนธรรมต่างๆ เช่น เมโสโปเทเมีย และจักรวรรดิเปอร์เซีย นอกจากความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ลึกลับแล้ว ซะลาล่าห์ยังมีสุสานและสถานที่สำคัญที่มีอายุเกือบ 2,000 ปี ตั้งอยู่บนภูเขารอบๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่แตกต่างจากที่อื่นในภูมิภาค อุดมไปด้วยสีเขียวและเสน่ห์ทางธรรมชาติ ซะลาล่าห์เป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่โลกแห่งความงามที่ยังคงเป็นปริศนารอการค้นพบอยู่เสมอ


เมื่อพูดถึงการเดินทางเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายและมนต์เสน่ห์แห่งตะวันออกกลาง “เจดดาห์” คือหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาด เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นท่าเรือที่สำคัญและมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเรือสำราญ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดถึงที่เจดดาห์ คุณจะได้ค้นพบความงดงามของชายหาดที่ทอดยาวและวิวทะเลแดง ที่นี่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าในบรรยากาศสบาย ๆ ซึ่งทำให้คุณสามารถผ่อนคลายและสัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง ส่วนหนึ่งที่น่าไปเยือนคือ “ทะเลแดง” แหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก คุณจะได้สำรวจความงามใต้น้ำที่เต็มไปด้วยประการังและปลาอันหลากหลาย นอกจากนี้ ผู้เดินทางสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น “มัสยิดคิงฟาฮ์” ที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและเป็นจุดรวมความคิดสร้างสรรค์ทางศาสนา ด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและความทันสมัย เจดดาห์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือที่จอดเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางของคุณในครั้งนี้จะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่แสนพิเศษที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว!


เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรืออควาบา (Aqaba) ซึ่งตั้งอยู่ที่ปลายสุดใต้ของจอร์แดน คุณจะได้สัมผัสกับความหรูหราและเสน่ห์ของเมืองตากอากาศที่งดงามแห่งนี้ จัดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก ด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และน้ำทะเลใสแจ๋ว นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้นและกีฬาทางน้ำต่าง ๆ โดยง่าย ๆ แค่เช่าเรือเพื่อออกไปสำรวจความงามใต้ทะเลในช่วงวันหนึ่งหรือครึ่งวัน พร้อมบริการอาหารกลางวันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง อควาบายังเป็นที่รู้จักกันในฐานะจุดหมายปลายทางที่คึกคัก มีโรงแรมหรูหลายแห่งที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งจะต้องไม่พลาดที่จะเยี่ยมชมร้านเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยมุก, อัญมณี และเครื่องประดับทองและเงิน คุณจะได้เลือกสรรของที่ระลึกที่สวยงามและมีเอกลักษณ์กลับบ้าน แม้อควาบาจะเป็นรีสอร์ทที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ก็ยังคงรักษาความเป็นวัฒนธรรมที่เคร่งครัด ทำให้สถานที่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาความสงบและได้ใช้ชีวิตในแบบสบาย ๆ ที่ชายหาดส่วนตัวของโรงแรม ทำให้การเยือนอควาบาเป็นความฝันที่คุณไม่ควรพลาด!

ท่าเรือซาฟากา (Safaga) ในอียิปต์ เป็นจุดหมายปลายทางที่สวยงามและสงบเงียบ ที่กำลังพัฒนาจากเมืองพาณิชย์เป็นรีสอร์ทสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด แวดล้อมไปด้วยชายหาดที่สวยงามและสถานที่ดำน้ำที่น่าหลงใหลในทะเลแดง ท่าเรือซาฟากาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของการท่องเที่ยวมวลชนในเมืองฮูร์การ์ดา (Hurghada) ซาฟากาไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของชายหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สะดวกในการไปสำรวจนครลักซอร์ (Luxor) และหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มาที่ซาฟากามักจะมีโอกาสทองในการเข้าร่วมทัวร์ที่นำไปยังสถานที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ซาฟากายังมีจุดดำน้ำที่สวยงาม ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักดำน้ำที่ต้องการสัมผัสความงามใต้ทะเล ด้วยบรรยากาศที่สงบและมีเสน่ห์ ซาฟากาจึงเป็นจุดหมายที่ลงตัวสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของอียิปต์




เอเฟซัส (Ephesus) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นหนึ่งในหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่แสนมหัศจรรย์ของการเดินทางที่ทุกคนควรเห็นสักครั้งในชีวิต เมืองนี้เป็นที่ตั้งของซากปรักหักพังที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงวิหารอาร์เทมิส ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ นอกจากนี้ยังมีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่รองรับผู้ชมได้มากถึง 25,000 คน และถนนเซลซุสที่มีเสาเรียงรายอย่างสวยงาม สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมโรมัน การเดินทางมายังเอเฟซัส นอกจากการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในเมืองเก่าที่มีกลิ่นอายของความรุ่งเรืองจากวันวาน ร้านค้าและคาเฟ่ที่เปิดบริการอยู่ตลอดเส้นทาง เตรียมให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ หากคุณมีเวลามากขึ้น ควรไปเยือนชายหาดปามูคาเล่ ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติให้คุณได้แช่ตัวหรือไปยังเมืองซูคู เมืองท่าที่สวยงาม ด้วยความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่งดงาม เอเฟซัสจึงไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่เรือสำราญแวะจอด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ตุรกี!


ท่าเรือชานัคคาลี (Çanakkale) ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างสุมาตราและยุโรป ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จอดเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในบริเวณนั้น เมื่อแวะมาที่ชานัคคาลี คุณจะพบกับความงดงามของชายฝั่งและทะเลอีเจียน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดคือ อนุสรณ์สถานการรบของกัลลิปโอลี (Gallipoli) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสนามรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ล้ำค่าที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสถึงความกล้าหาญของผู้คนในอดีต นอกจากนี้ ยังมีเมืองโบราณทรอย (Troy) ที่เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น จากวีรบุรุษในมหากาพย์อีเลียด นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่สะกดใจนักท่องเที่ยว ด้วยซากปรักหักพังที่เชื่อมโยงกับวรรณกรรมโลก ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ชานัคคาลีจึงเป็นปลายทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เดินทางมาที่นี่และเปิดโลกทัศน์ใหม่ในตุรกีที่น่าหลงใหล!

เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือคาวาลา (Kavala) ประเทศกรีซ คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งที่ทอดยาวไปตามทะเลอีเจียน คาวาลาเป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยโรมัน จนถึงการเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญในยุคกลาง หากคุณเดินสู่อดีตด้วยการเยี่ยมชมปราสาทคาวาลา ซึ่งยืนตระหง่านอยู่บนเนินเขา มีวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลและเมืองด้านล่าง เมื่อมองไปไกลจะเห็นเกาะธาสos ที่สวยงาม ที่ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพอันน่าทึ่ง หรือแช่ตัวในน้ำทะเลที่ใสสะอาด รับรองว่าทริปนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในเทพนิยาย นอกจากนี้ คาวาลายังมีตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลผลิตสดใหม่ และร้านอาหารท้องถิ่นที่น่าผลิต แนะนำให้ลองชิมอาหารทะเลสดๆ และน้ำมันมะกอกที่ผลิตในท้องถิ่น ที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติแห่งกรีซอย่างแท้จริง อย่าพลาดโอกาสในการเดินเล่นที่ชายหาดหรือสำรวจพิเศษตามเส้นทางประวัติศาสตร์ที่คาวาลา ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คาวาลาจะเป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดในทริปนี้!

ท่าเรือเธสซาโลนิกิ (Thessaloníki) เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของกรีซอย่างแท้จริง ท่าเรือแห่งนี้นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการค้ามากมายแล้ว ยังมีทัศนียภาพที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานซึ่งรอคุณอยู่ มาที่นี่แล้ว ห้ามพลาดการเดินเยี่ยมชมทาวเวอร์สีขาว (White Tower) สัญลักษณ์ประจำเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล ทำให้มุมมองของทะเลเอเจียนแสดงออกมาอย่างสวยงาม ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีย่านเก่าของเมือง (Ano Poli) ที่สวยงาม ประดับไปด้วยบ้านสไตล์โบราณ และทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านอาหารกรีกแสนอร่อย เช่น ซุกโกลี (Souvlaki) และ ทีซิซ (Tzatziki) ที่จะทำให้ประสบการณ์การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยรสชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการมาสำรวจประวัติศาสตร์หรือเพลิดเพลินกับชายหาด ที่ท่าเรือเธสซาโลนิกิก็มีทุกสิ่งเพื่อเติมเต็มการเดินทางของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ สร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในแผ่นดินของเทพเจ้ากรีก!
ตั้งอยู่ในน่านน้ำอีเจียนที่งดงาม เกาะเลสบอสนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งความฝันที่ทุกคนควรเยี่ยมชม สู่ท่าเรือที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและบรรยากาศแห่งความอบอุ่น เลสบอสไม่เพียงแต่มีท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นที่ตั้งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อมาถึงท่าเรือชุมชนมิโทิลีน เกาะเลสบอส คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของน้ำทะเลใสสีฟ้า ตัดกับบ้านเรือนที่ทาสีด้วยสีสดใส นอกจากนี้ยังมีตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น กลิ่นหอมของสมุนไพรและซีฟู้ดยั่วน้ำลาย ที่นี่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่ในร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ริมทะเล เลสบอสยังเป็นบ้านของโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของวรรณกรรมและศิลปะที่มีชื่อเสียง เช่น วิลเฮลมิน่า อาร์คิเมเดส แห่งซาฟโฟ เมื่อเดินทางไปทั่วเกาะ คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่งดงาม อ่าวที่เงียบสงบ หรือภูเขาเขียวชอุ่มที่รอคอยให้คุณมาผจญภัย การเดินทางมาที่เลสบอสคือการค้นพบความน่าหลงใหลในวัฒนธรรมกรีกและความงามที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะพักผ่อนหรือสำรวจการผจญภัยในทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง คุณจะได้มีประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม จากท่าเรือเลสบอส สู่การประทับใจในทุกช่วงเวลาแห่งการเดินทางของคุณ

อิซเมียร์ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าหลงใหลที่สุดในตุรกี ตั้งอยู่ตลอดริมฝั่งทะเลเอเจียน ซ่อนเร้นด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของตุรกี และเป็นท่าเรือที่สำคัญเป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล ท่าเรืออิซเมียร์ไม่เพียงแต่ให้บริการเรือสำราญ เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาคที่น่าตื่นตาตื่นใจ ระหว่างการแวะเยี่ยมชมอิซเมียร์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานในเมืองเอฟฟิซุส ที่แฝงไว้ด้วยเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอันหนักแน่น หรือโรมแรมหรูหราที่หันหน้าเข้าหาทะเลอีเจียนที่สวยงามราวภาพวาด เมืองนี้ยังมีตลาดที่คึกคักเต็มไปด้วยของอร่อยจากอาหารท้องถิ่น และแหล่งช็อปปิ้งที่ทันสมัย เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางให้น่าจดจำยิ่งขึ้น หยุดพักที่ท่าเรืออิซเมียร์และปล่อยให้เมืองนี้แสดงให้เห็นถึงความงดงามที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ.

ท่าเรือโบดรั่ม (Bodrum) ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเดรียติกของตุรกี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหราและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของทะเลอีเจียน โดยเฉพาะการเดินทางด้วยเรือสำราญที่แวะจอดที่นี่ โบดรั่มมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมกรีกและออตโตมัน นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจความงามของเมืองที่มีบ้านสีขาวและหลังคาสีฟ้า หรือเพลิดเพลินไปกับหาดทรายที่สะอาดและน้ำทะเลใสสะอาด อีกทั้งยังมีทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาล้อมรอบ สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมปราสาทโบดรั่ม (Bodrum Castle) สถานที่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 เพื่อป้องกันการรุกรานจากโจรสลัด ซึ่งตอนนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโบราณคดีทางทะเล โบดรั่มยังมีชีวิตชีวาไปด้วยตลาดนัดที่เต็มไปด้วยของฝากและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ที่เสิร์ฟอาหารตุรกีต้นตำรับ ให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ การเดินทางที่โบดรั่มจึงไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อน แต่ยังเป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ที่ทำให้ทุกนาทีประกอบไปด้วยความสุขและความตื่นเต้นในการค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต

เฮอราคลิออน (Iraklion) เป็นท่าเรือหลักของเกาะครีต ประเทศกรีซ ที่โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เฮอราคลิออนเคยอยู่ใต้การปกครองของหลายอาณาจักร ทั้งอาหรับ เวนิส และออตโตมัน ซึ่งทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่น่าค้นหา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังซากปรักหักพังของเมืองมิโนอันที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ค้นพบความงดงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สื่อถึงอารยธรรมโบราณ รวมถึงพิพิธภัณฑ์เฮอราคลิออนที่มีการจัดแสดงงานศิลป์ที่มีค่า เช่น ผลงานของเอล เกรโก ศิลปินชาวสเปนที่เกิดในดินแดนแห่งนี้ นอกจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว เฮอราคลิออนยังเป็นศูนย์กลางที่คึกคักด้วยร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารท้องถิ่นที่เชิญชวนให้ลิ้มลองรสชาติอาหารกรีกอันเลื่องชื่อ ในทุกมุมของเมืองสามารถพบเห็นเสน่ห์ที่ลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทั้งมนต์เสน่ห์ของท่าเรือที่แปลกใหม่และประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ทำให้เฮอราคลิออนเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันสุดพิเศษในเกาะครีต.

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

กีธีโอ (Gythio) เป็นท่าเรือที่สวยงามในประเทศกรีซ ตั้งอยู่ทางชายฝั่ง Peloponnese เป็นประตูสู่ความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ เปิดประตูให้คุณได้สัมผัสกับความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ที่นี่คุณจะได้พบกับชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใส ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้สำรวจประวัติศาสตร์อันยาวนานในเมืองโบราณของเมือง Sparta และโรงละครโรมันที่อยู่ใกล้เคียง เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้รักประวัติศาสตร์ ทางเข้าท่าเรือตกแต่งด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีร้านค้าขายของที่ระลึกและร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารกรีกจานเด็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซูฟลากิ (Souvlaki) และมาซาเลน (Moussaka) ที่คุณไม่ควรพลาด การเที่ยวที่กีธีโอนั้นไม่เพียงแต่เติมเต็มความสุขให้กับจิตใจ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจในทุกการเดินทาง อนาคตและอดีตที่ผสมผสานอย่างลงตัว รอคอยคุณอยู่ที่ท่าเรือแห่งนี้ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าประทับใจตลอดไป
เมื่อเรือสำราญล่องลอยสู่ท่าเรืออิกู เมนิตซา (Igoumenitsa) สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักกลางทะเลอีเจียนเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นในกรีซอีกด้วย ท่าเรือที่มีศักยภาพและมีบริการสะดวกสบายแห่งนี้ ได้ตั้งอยู่ในภูมิภาคเทสปรอทียา ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านทิวทัศน์สวยงาม และความหลากหลายของวัฒนธรรม การเดินทางจากอิกู เมนิตซา จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงดงามของเมืองโบราณซอฟีอา (Sofia) และใกล้เคียงกับเกาะปากอส (Paxos) ที่เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสีฟ้าครามและที่พักสุดหรู นอกจากนี้ยังมีเมืองโบราณเทสปรอทียา (Thesprotia) ที่คราคร่ำไปด้วยประวัติศาสตร์ การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นสามารถเปิดมุมมองใหม่ของวัฒนธรรมในการใช้ชีวิตของผู้คนในอดีตได้อย่างน่าหลงใหล ท่าเรืออิกู เมนิตซา ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สะดวกสำหรับนักเดินทางแต่ยังเป็นแหล่งรวมความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทำให้ทุกการเดินทางที่เริ่มต้นที่นี่ ได้รับการเติมเต็มด้วยความประทับใจอันล้ำค่า การเข้ามาเยือนอิกู เมนิตซา เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณต้องเดินทางเพื่อตอบสนองความใฝ่ฝันในการสำรวจโลกใบนี้!

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน










เจ้าของสวีทของ Oceania Vista เป็นห้องที่กว้างขวางและตั้งอยู่กลางเรือ ซึ่งนำเสนอวิวทะเลที่สวยงามด้วยผนังกระจกสูงโปร่ง ห้องพักที่เต็มไปด้วยแสงแดดนี้ตกแต่งด้วยผ้าหรูและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ ที่สร้างบรรยากาศหรูหราในขณะยังคงมอบความรู้สึกเหมือนบ้าน ห้องรับประทานอาหารที่โดดเด่นสามารถจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในห้อง และพื้นที่นั่งเล่นที่มีสไตล์จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการสนทนาอย่างสบาย ๆ ห้องนอนหลักที่กว้างขวางมอบความผ่อนคลายอย่างถึงที่สุดด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ที่นุ่มสบาย และห้องน้ำมาสเตอร์ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมือนสปา อย่างไรก็ตาม เทอเรซขนาดใหญ่ที่มีตั้งอยู่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลักจะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว และชมวิวโลกจากจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เจ้าของสวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรี รวมถึงวิธีการเข้าขึ้นเรืออย่างเร็วที่สุดในเวลา 11.00 น. พร้อมทั้งบริการโหลดกระเป๋าที่รีบเร่ง บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบาร์ภายในห้องพร้อมทุกข์เต็มขนาดจากเมนูเครื่องดื่มพรีเมี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับขนม ชา หรือกาแฟฟรีในเลานจ์ส่วนตัวที่อยู่ในการเข้าถึงของผู้ถือบัตรเฉพาะ ซึ่งดูแลโดยคอนเซียร์จ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ฟรี และสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารออนไลน์ รวมถึงของขวัญต้อนรับเป็นแชมเปญมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสวีท และบนเทอเรซนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด เพื่อให้ความสงบและความสุขของแขกในทุก ๆ คน









วิสตา สวีท เป็นห้องพักที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดซึ่งมอบทัศนียภาพแบบ 180 องศา พร้อมพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 1,450 ถึง 1,850 ตารางฟุต ออกแบบมาเพื่อเป็นวิลล่าชายทะเลที่ดีที่สุด ห้องพักตกแต่งด้วยโทนสีเบา ที่สะท้อนถึงทะเลและท้องฟ้า พร้อมกับรายละเอียดที่สร้างสรรค์ด้วยหินอ่อน, แกรนิต และไม้โอ๊คที่ผ่านการใช้งานแล้ว ทุกห้องเป็นสถานที่ที่แท้จริงสำหรับการพักผ่อน ที่พักนี้มีห้องนั่งเล่นโปร่งสบายที่มีห้องรับประทานอาหารและบาร์อยู่ข้างเคียง ซึ่งให้วิวที่น่าทึ่งและเปิดออกสู่ระเบียงไม้สักขนาดใหญ่ ห้องพักหลักอันหรูหรามีพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง และพื้นที่เตรียมตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ พร้อมอ่างอาบน้ำเซรามิก วิสตา สวีท มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมด้วยบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมงและการเข้าถึงเลานจ์สำหรับแขกผู้พักในห้องสวีทเท่านั้น.







โอเชียนเนียสวีทคือห้องพักที่กว้างขวางและมีความชาญฉลาด ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือเพื่อให้ทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยห้องพักแต่ละห้องมีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ตารางฟุต มอบบรรยากาศที่หรูหราเหมือนอยู่บ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้ทีคขนาดใหญ่ ที่เชื้อเชิญให้มีการสังสรรค์อย่างสง่างาม ห้องนอนหลักนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบด้วยเตียงคิงไซส์ที่โอ่อ่า ห้องแต่งตัว และห้องน้ำที่มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ทำงานหรือห้องสตูดิโอสำหรับแขกและห้องน้ำสำหรับแขก ในทุก ๆ ห้องมีผู้ช่วยบริการเป็นพิเศษและการเข้าถึงล๊อบบี้ Executive Lounge สำหรับเฉพาะลูกค้าห้องชุดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีบริการและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บริการทำความสะอาดเสื้อผ้าฟรี (สูงสุด 3 ถุงต่อห้อง), การขึ้นเรือในลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงล๊อบบี้บริการพิเศษพร้อมคอนเซียร์จ, บริการผู้ช่วยตลอด 24 ชั่วโมง, บาร์ในห้องฟรีพร้อมเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวด, แชมเปญต้อนรับฟรี, และผลไม้สดที่เติมเต็มทุกวัน รวมถึงการเข้าร่วมสปา Aquamar Spa Terrace โดยไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีระบบบันเทิงที่กำหนดเอง และอุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหรา เสื้อคลุม Cashmere, ผ้านวม และแน่นอนว่าเลือกหมอนจากตัวเลือกที่หรูหราได้ และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด




เพนท์เฮาส์สวีทเป็นประสบการณ์หรูหราที่สุดในห้องพักบนเรือสำราญ ขนาด 440 ตารางฟุต ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดและเฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับ ห้องนี้ตกแต่งด้วยผ้าทอหรูหรา หนังเกรดพรีเมียม และงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าคู่ และระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ที่มองเห็นท้องทะเล อิสระในการใช้บริการสปาแบบ Aquamar Spa Terrace และบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเข้าใช้ Executive Lounge ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับผู้ที่เข้าพักในเพนท์เฮาส์ พร้อมพนักงานคอนเซียร์จที่คอยให้บริการ ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะมอบความสะดวกสบายมากมาย ยังมีการบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้อง และบริการอื่นๆ เช่นการจองร้านอาหารแบบพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า ทำให้การเข้าพักในเพนท์เฮาส์สวีทนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงของ Vista มอบความสะดวกสบายอันหรูหราแก่ผู้เข้าพัก ด้วยการตกแต่งโทนสีครีมและน้ำตาลอ่อนนำมาสู่การพักผ่อนที่เต็มไปด้วยการเอาใจใส่ ห้องพักนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Tranquility Bed ที่แต่งอย่างหรูหรา พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลรอบด้าน นอกจากนี้ ห้องพักยังมีพื้นที่เก็บของและตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง พร้อมด้วยห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและฝักบัวแบบเรนฟอเรสต์ การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เลาจน์คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล บริการรูมเซอร์วิสจากห้องอาหาร The Grand Dining Room และบริการซักรีดฟรี ทำให้ประสบการณ์ของคุณยิ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น เพื่อเพิ่มความสุขในวันหยุดของคุณ ห้องพักนี้มอบสิทธิพิเศษสำหรับคอนเซียร์จ เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายออกจาก The Grand Dining Room การบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก บริการเลาจน์คอนเซียร์จที่เปิดให้เฉพาะผู้ถือบัตร พร้อมเครื่องดื่มและของว่างฟรีตลอดทั้งวัน ขวดแชมเปญต้อนรับ บริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีผ้าห่ม cashmere สำหรับนั่งพักผ่อนบนระเบียง และบริการเคลือบรองเท้าฟรี สัมผัสประสบการณ์ชีวิตสุดหรูในระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงแห่งนี้ และจงเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาของการเดินทางของคุณ

ห้องสเตเทอรูมระเบียงเดี่ยวระดับคอนเซียร์จ เป็นห้องพักที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางคนเดียวโดยเฉพาะ นอกจากจะโปร่งสบายแล้วยังอบอุ่นอีกด้วย ห้องพักแต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราที่สมควรได้รับจากนักเดินทางทั่วโลก ห้องสเตเทอรูมนี้มีบริเวณนั่งเล่นที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว แยกพื้นที่นอนที่มีเตียง Tranquility Bed สุดสบายและมีพื้นที่เก็บของมากมาย สำหรับแขกคนเดียวที่เข้าพักในระดับคอนเซียร์จ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรี การเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ ยังมีบริการที่พิเศษมากมาย เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ขยายจาก Grand Dining Room การขึ้นเรือแบบมีลำดับความสำคัญในช่วงเที่ยง และการเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีโปรแกรมอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งวัน รวมไปถึงการต้อนรับด้วยขวดแชมเปญฟรี และการจองโต๊ะในร้านอาหารพิเศษทางออนไลน์ก่อนใคร การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด การแจกถุงผ้าโลโก้ของ Oceania Cruises และผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง ห้องนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความหรูหราและการบริการที่เหนือระดับในขณะเดินทาง


在奧西亞維斯塔號郵輪的ระเบียง客艙中,您將體驗到如同經典小黑裙般的恆久優雅。這間面積達290平方英尺的客艙,傳遞著居家般的溫馨氛圍,設計採用柔和的中性色調,並點綴著細膩的錫耶納色彩。高科技的便利設施與寬敞的衣櫃空間,為您的舒適提供了充足的保障。奢華的皇后尺寸床鋪,搭配設有大梳妝台及壯觀雨林淋浴的浴室,無疑是放鬆身心的理想之選。而客艙內的舒適休息區,更是享受私人露台的完美前奏,讓您能觀賞到世界在您眼前靜靜滑過的美好景象。

ห้องพักระเบียงแบบฝรั่งเศส เป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสความสุขจากการอยู่ใกล้ทะเล โดยคุณสามารถเปิดประตูบานกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อสัมผัสกับลมทะเลและวิวที่สวยงามภายนอก ซึ่งทำให้ห้องของคุณกลายเป็นระเบียงแบบเปิดโล่ง เพียบพร้อมไปด้วยบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์เสมือนคุณพักอยู่ในวิลล่าหรูที่ Côte d’Azur ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างมีสไตล์ ประกอบไปด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ และพื้นที่นั่งเล่นที่ให้ความสะดวกสบาย ซึ่งหลอมรวมความผ่อนคลายและความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมด้วยฝักบัวฝนที่สร้างความรู้สึกหรูหรา สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนี้ ท่านจะได้รับการบริการที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นเตียง Tranquility Bed ที่มีผ้าปูที่นอนคุณภาพสูงถึง 1,000 เส้นไหม น้ำอัดลมฟรีที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ของท่าน น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบอัดฟอง ดูแลโดยบริการแม่บ้านที่ให้บริการสองครั้งต่อวัน พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีโทรทัศน์ระบบอินเทอร์แอคทีฟและการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งทำให้คุณเชื่อมต่อโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย โดยนอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมและรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบายในห้องพักสุดพิเศษแห่งนี้โดยไม่ตกหล่นแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย.