
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนา วิสต้า
โอเชียเนีย ครูซส์


อิสตันบูล เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีป เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม อิสตันบูลเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์และออตโตมัน ได้รวบรวมสถาปัตยกรรมที่งดงาม อย่างเช่น โบสถ์อายา โซเฟีย (Aya Sofya) และมัสยิดที่ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นยอดอย่างซินาน (Sinan) เมื่อเดินทางไปยังย่านเก่า (Old City) นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน ตึกระฟ้าพุ่งสูงอยู่ใกล้กับพระราชวังโบราณ และการเดินทอดน่องในตลาดใหญ่ (Grand Bazaar) จะทำให้คุณต้องเข้ามาร่วมสนุกกับการช้อปปิ้งหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าท้องถิ่นไปจนถึงแบรนด์หรู อิสตันบูลยังมีชีวิตชีวากับแสงสีแห่งคืนอันสดใส และวัฒนธรรมการแสดงที่กำลังได้รับความนิยมในระดับสากล หลังจากได้สำรวจประวัติศาสตร์แล้ว อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศสมัยใหม่ของเมืองนี้ กับผู้คนที่เป็นมิตรและเต็มไปด้วยข้อเสนอของประสบการณ์ใหม่ ๆ สร้างความทรงจำที่จะอยู่ในใจคุณตราบนานเท่านาน

ท่าเรือชานัคคาลี (Çanakkale) ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างสุมาตราและยุโรป ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จอดเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในบริเวณนั้น เมื่อแวะมาที่ชานัคคาลี คุณจะพบกับความงดงามของชายฝั่งและทะเลอีเจียน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดคือ อนุสรณ์สถานการรบของกัลลิปโอลี (Gallipoli) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสนามรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ล้ำค่าที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสถึงความกล้าหาญของผู้คนในอดีต นอกจากนี้ ยังมีเมืองโบราณทรอย (Troy) ที่เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น จากวีรบุรุษในมหากาพย์อีเลียด นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่สะกดใจนักท่องเที่ยว ด้วยซากปรักหักพังที่เชื่อมโยงกับวรรณกรรมโลก ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ชานัคคาลีจึงเป็นปลายทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เดินทางมาที่นี่และเปิดโลกทัศน์ใหม่ในตุรกีที่น่าหลงใหล!

เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือคาวาลา (Kavala) ประเทศกรีซ คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งที่ทอดยาวไปตามทะเลอีเจียน คาวาลาเป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยโรมัน จนถึงการเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญในยุคกลาง หากคุณเดินสู่อดีตด้วยการเยี่ยมชมปราสาทคาวาลา ซึ่งยืนตระหง่านอยู่บนเนินเขา มีวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลและเมืองด้านล่าง เมื่อมองไปไกลจะเห็นเกาะธาสos ที่สวยงาม ที่ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพอันน่าทึ่ง หรือแช่ตัวในน้ำทะเลที่ใสสะอาด รับรองว่าทริปนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในเทพนิยาย นอกจากนี้ คาวาลายังมีตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลผลิตสดใหม่ และร้านอาหารท้องถิ่นที่น่าผลิต แนะนำให้ลองชิมอาหารทะเลสดๆ และน้ำมันมะกอกที่ผลิตในท้องถิ่น ที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติแห่งกรีซอย่างแท้จริง อย่าพลาดโอกาสในการเดินเล่นที่ชายหาดหรือสำรวจพิเศษตามเส้นทางประวัติศาสตร์ที่คาวาลา ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คาวาลาจะเป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดในทริปนี้!

ท่าเรือเธสซาโลนิกิ (Thessaloníki) เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของกรีซอย่างแท้จริง ท่าเรือแห่งนี้นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการค้ามากมายแล้ว ยังมีทัศนียภาพที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานซึ่งรอคุณอยู่ มาที่นี่แล้ว ห้ามพลาดการเดินเยี่ยมชมทาวเวอร์สีขาว (White Tower) สัญลักษณ์ประจำเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล ทำให้มุมมองของทะเลเอเจียนแสดงออกมาอย่างสวยงาม ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีย่านเก่าของเมือง (Ano Poli) ที่สวยงาม ประดับไปด้วยบ้านสไตล์โบราณ และทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านอาหารกรีกแสนอร่อย เช่น ซุกโกลี (Souvlaki) และ ทีซิซ (Tzatziki) ที่จะทำให้ประสบการณ์การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยรสชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการมาสำรวจประวัติศาสตร์หรือเพลิดเพลินกับชายหาด ที่ท่าเรือเธสซาโลนิกิก็มีทุกสิ่งเพื่อเติมเต็มการเดินทางของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ สร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในแผ่นดินของเทพเจ้ากรีก!
ตั้งอยู่ในน่านน้ำอีเจียนที่งดงาม เกาะเลสบอสนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งความฝันที่ทุกคนควรเยี่ยมชม สู่ท่าเรือที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและบรรยากาศแห่งความอบอุ่น เลสบอสไม่เพียงแต่มีท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นที่ตั้งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อมาถึงท่าเรือชุมชนมิโทิลีน เกาะเลสบอส คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของน้ำทะเลใสสีฟ้า ตัดกับบ้านเรือนที่ทาสีด้วยสีสดใส นอกจากนี้ยังมีตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น กลิ่นหอมของสมุนไพรและซีฟู้ดยั่วน้ำลาย ที่นี่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่ในร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ริมทะเล เลสบอสยังเป็นบ้านของโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของวรรณกรรมและศิลปะที่มีชื่อเสียง เช่น วิลเฮลมิน่า อาร์คิเมเดส แห่งซาฟโฟ เมื่อเดินทางไปทั่วเกาะ คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่งดงาม อ่าวที่เงียบสงบ หรือภูเขาเขียวชอุ่มที่รอคอยให้คุณมาผจญภัย การเดินทางมาที่เลสบอสคือการค้นพบความน่าหลงใหลในวัฒนธรรมกรีกและความงามที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะพักผ่อนหรือสำรวจการผจญภัยในทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง คุณจะได้มีประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม จากท่าเรือเลสบอส สู่การประทับใจในทุกช่วงเวลาแห่งการเดินทางของคุณ

อิซเมียร์ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าหลงใหลที่สุดในตุรกี ตั้งอยู่ตลอดริมฝั่งทะเลเอเจียน ซ่อนเร้นด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของตุรกี และเป็นท่าเรือที่สำคัญเป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล ท่าเรืออิซเมียร์ไม่เพียงแต่ให้บริการเรือสำราญ เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาคที่น่าตื่นตาตื่นใจ ระหว่างการแวะเยี่ยมชมอิซเมียร์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานในเมืองเอฟฟิซุส ที่แฝงไว้ด้วยเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอันหนักแน่น หรือโรมแรมหรูหราที่หันหน้าเข้าหาทะเลอีเจียนที่สวยงามราวภาพวาด เมืองนี้ยังมีตลาดที่คึกคักเต็มไปด้วยของอร่อยจากอาหารท้องถิ่น และแหล่งช็อปปิ้งที่ทันสมัย เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางให้น่าจดจำยิ่งขึ้น หยุดพักที่ท่าเรืออิซเมียร์และปล่อยให้เมืองนี้แสดงให้เห็นถึงความงดงามที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ.

ท่าเรือโบดรั่ม (Bodrum) ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเดรียติกของตุรกี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหราและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของทะเลอีเจียน โดยเฉพาะการเดินทางด้วยเรือสำราญที่แวะจอดที่นี่ โบดรั่มมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมกรีกและออตโตมัน นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจความงามของเมืองที่มีบ้านสีขาวและหลังคาสีฟ้า หรือเพลิดเพลินไปกับหาดทรายที่สะอาดและน้ำทะเลใสสะอาด อีกทั้งยังมีทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาล้อมรอบ สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมปราสาทโบดรั่ม (Bodrum Castle) สถานที่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 เพื่อป้องกันการรุกรานจากโจรสลัด ซึ่งตอนนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโบราณคดีทางทะเล โบดรั่มยังมีชีวิตชีวาไปด้วยตลาดนัดที่เต็มไปด้วยของฝากและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ที่เสิร์ฟอาหารตุรกีต้นตำรับ ให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ การเดินทางที่โบดรั่มจึงไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อน แต่ยังเป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ที่ทำให้ทุกนาทีประกอบไปด้วยความสุขและความตื่นเต้นในการค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต

เฮอราคลิออน (Iraklion) เป็นท่าเรือหลักของเกาะครีต ประเทศกรีซ ที่โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เฮอราคลิออนเคยอยู่ใต้การปกครองของหลายอาณาจักร ทั้งอาหรับ เวนิส และออตโตมัน ซึ่งทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่น่าค้นหา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังซากปรักหักพังของเมืองมิโนอันที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ค้นพบความงดงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สื่อถึงอารยธรรมโบราณ รวมถึงพิพิธภัณฑ์เฮอราคลิออนที่มีการจัดแสดงงานศิลป์ที่มีค่า เช่น ผลงานของเอล เกรโก ศิลปินชาวสเปนที่เกิดในดินแดนแห่งนี้ นอกจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว เฮอราคลิออนยังเป็นศูนย์กลางที่คึกคักด้วยร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารท้องถิ่นที่เชิญชวนให้ลิ้มลองรสชาติอาหารกรีกอันเลื่องชื่อ ในทุกมุมของเมืองสามารถพบเห็นเสน่ห์ที่ลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทั้งมนต์เสน่ห์ของท่าเรือที่แปลกใหม่และประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ทำให้เฮอราคลิออนเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันสุดพิเศษในเกาะครีต.

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.










เจ้าของสวีทของ Oceania Vista เป็นห้องที่กว้างขวางและตั้งอยู่กลางเรือ ซึ่งนำเสนอวิวทะเลที่สวยงามด้วยผนังกระจกสูงโปร่ง ห้องพักที่เต็มไปด้วยแสงแดดนี้ตกแต่งด้วยผ้าหรูและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ ที่สร้างบรรยากาศหรูหราในขณะยังคงมอบความรู้สึกเหมือนบ้าน ห้องรับประทานอาหารที่โดดเด่นสามารถจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในห้อง และพื้นที่นั่งเล่นที่มีสไตล์จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการสนทนาอย่างสบาย ๆ ห้องนอนหลักที่กว้างขวางมอบความผ่อนคลายอย่างถึงที่สุดด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ที่นุ่มสบาย และห้องน้ำมาสเตอร์ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมือนสปา อย่างไรก็ตาม เทอเรซขนาดใหญ่ที่มีตั้งอยู่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลักจะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว และชมวิวโลกจากจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เจ้าของสวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรี รวมถึงวิธีการเข้าขึ้นเรืออย่างเร็วที่สุดในเวลา 11.00 น. พร้อมทั้งบริการโหลดกระเป๋าที่รีบเร่ง บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบาร์ภายในห้องพร้อมทุกข์เต็มขนาดจากเมนูเครื่องดื่มพรีเมี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับขนม ชา หรือกาแฟฟรีในเลานจ์ส่วนตัวที่อยู่ในการเข้าถึงของผู้ถือบัตรเฉพาะ ซึ่งดูแลโดยคอนเซียร์จ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ฟรี และสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารออนไลน์ รวมถึงของขวัญต้อนรับเป็นแชมเปญมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสวีท และบนเทอเรซนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด เพื่อให้ความสงบและความสุขของแขกในทุก ๆ คน









วิสตา สวีท เป็นห้องพักที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดซึ่งมอบทัศนียภาพแบบ 180 องศา พร้อมพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 1,450 ถึง 1,850 ตารางฟุต ออกแบบมาเพื่อเป็นวิลล่าชายทะเลที่ดีที่สุด ห้องพักตกแต่งด้วยโทนสีเบา ที่สะท้อนถึงทะเลและท้องฟ้า พร้อมกับรายละเอียดที่สร้างสรรค์ด้วยหินอ่อน, แกรนิต และไม้โอ๊คที่ผ่านการใช้งานแล้ว ทุกห้องเป็นสถานที่ที่แท้จริงสำหรับการพักผ่อน ที่พักนี้มีห้องนั่งเล่นโปร่งสบายที่มีห้องรับประทานอาหารและบาร์อยู่ข้างเคียง ซึ่งให้วิวที่น่าทึ่งและเปิดออกสู่ระเบียงไม้สักขนาดใหญ่ ห้องพักหลักอันหรูหรามีพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง และพื้นที่เตรียมตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ พร้อมอ่างอาบน้ำเซรามิก วิสตา สวีท มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมด้วยบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมงและการเข้าถึงเลานจ์สำหรับแขกผู้พักในห้องสวีทเท่านั้น.







โอเชียนเนียสวีทคือห้องพักที่กว้างขวางและมีความชาญฉลาด ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือเพื่อให้ทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยห้องพักแต่ละห้องมีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ตารางฟุต มอบบรรยากาศที่หรูหราเหมือนอยู่บ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้ทีคขนาดใหญ่ ที่เชื้อเชิญให้มีการสังสรรค์อย่างสง่างาม ห้องนอนหลักนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบด้วยเตียงคิงไซส์ที่โอ่อ่า ห้องแต่งตัว และห้องน้ำที่มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ทำงานหรือห้องสตูดิโอสำหรับแขกและห้องน้ำสำหรับแขก ในทุก ๆ ห้องมีผู้ช่วยบริการเป็นพิเศษและการเข้าถึงล๊อบบี้ Executive Lounge สำหรับเฉพาะลูกค้าห้องชุดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีบริการและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บริการทำความสะอาดเสื้อผ้าฟรี (สูงสุด 3 ถุงต่อห้อง), การขึ้นเรือในลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงล๊อบบี้บริการพิเศษพร้อมคอนเซียร์จ, บริการผู้ช่วยตลอด 24 ชั่วโมง, บาร์ในห้องฟรีพร้อมเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวด, แชมเปญต้อนรับฟรี, และผลไม้สดที่เติมเต็มทุกวัน รวมถึงการเข้าร่วมสปา Aquamar Spa Terrace โดยไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีระบบบันเทิงที่กำหนดเอง และอุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหรา เสื้อคลุม Cashmere, ผ้านวม และแน่นอนว่าเลือกหมอนจากตัวเลือกที่หรูหราได้ และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด




เพนท์เฮาส์สวีทเป็นประสบการณ์หรูหราที่สุดในห้องพักบนเรือสำราญ ขนาด 440 ตารางฟุต ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดและเฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับ ห้องนี้ตกแต่งด้วยผ้าทอหรูหรา หนังเกรดพรีเมียม และงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าคู่ และระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ที่มองเห็นท้องทะเล อิสระในการใช้บริการสปาแบบ Aquamar Spa Terrace และบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเข้าใช้ Executive Lounge ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับผู้ที่เข้าพักในเพนท์เฮาส์ พร้อมพนักงานคอนเซียร์จที่คอยให้บริการ ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะมอบความสะดวกสบายมากมาย ยังมีการบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้อง และบริการอื่นๆ เช่นการจองร้านอาหารแบบพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า ทำให้การเข้าพักในเพนท์เฮาส์สวีทนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงของ Vista มอบความสะดวกสบายอันหรูหราแก่ผู้เข้าพัก ด้วยการตกแต่งโทนสีครีมและน้ำตาลอ่อนนำมาสู่การพักผ่อนที่เต็มไปด้วยการเอาใจใส่ ห้องพักนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Tranquility Bed ที่แต่งอย่างหรูหรา พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลรอบด้าน นอกจากนี้ ห้องพักยังมีพื้นที่เก็บของและตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง พร้อมด้วยห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและฝักบัวแบบเรนฟอเรสต์ การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เลาจน์คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล บริการรูมเซอร์วิสจากห้องอาหาร The Grand Dining Room และบริการซักรีดฟรี ทำให้ประสบการณ์ของคุณยิ่งสูงขึ้นไปอีกขั้น เพื่อเพิ่มความสุขในวันหยุดของคุณ ห้องพักนี้มอบสิทธิพิเศษสำหรับคอนเซียร์จ เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายออกจาก The Grand Dining Room การบริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก บริการเลาจน์คอนเซียร์จที่เปิดให้เฉพาะผู้ถือบัตร พร้อมเครื่องดื่มและของว่างฟรีตลอดทั้งวัน ขวดแชมเปญต้อนรับ บริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีผ้าห่ม cashmere สำหรับนั่งพักผ่อนบนระเบียง และบริการเคลือบรองเท้าฟรี สัมผัสประสบการณ์ชีวิตสุดหรูในระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงแห่งนี้ และจงเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาของการเดินทางของคุณ

ห้องสเตเทอรูมระเบียงเดี่ยวระดับคอนเซียร์จ เป็นห้องพักที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางคนเดียวโดยเฉพาะ นอกจากจะโปร่งสบายแล้วยังอบอุ่นอีกด้วย ห้องพักแต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราที่สมควรได้รับจากนักเดินทางทั่วโลก ห้องสเตเทอรูมนี้มีบริเวณนั่งเล่นที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว แยกพื้นที่นอนที่มีเตียง Tranquility Bed สุดสบายและมีพื้นที่เก็บของมากมาย สำหรับแขกคนเดียวที่เข้าพักในระดับคอนเซียร์จ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรี การเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ ยังมีบริการที่พิเศษมากมาย เช่น เมนูรูมเซอร์วิสสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ขยายจาก Grand Dining Room การขึ้นเรือแบบมีลำดับความสำคัญในช่วงเที่ยง และการเข้าถึงล็อบบี้คอนเซียร์จที่มีโปรแกรมอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งวัน รวมไปถึงการต้อนรับด้วยขวดแชมเปญฟรี และการจองโต๊ะในร้านอาหารพิเศษทางออนไลน์ก่อนใคร การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด การแจกถุงผ้าโลโก้ของ Oceania Cruises และผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง ห้องนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความหรูหราและการบริการที่เหนือระดับในขณะเดินทาง


在奧西亞維斯塔號郵輪的ระเบียง客艙中,您將體驗到如同經典小黑裙般的恆久優雅。這間面積達290平方英尺的客艙,傳遞著居家般的溫馨氛圍,設計採用柔和的中性色調,並點綴著細膩的錫耶納色彩。高科技的便利設施與寬敞的衣櫃空間,為您的舒適提供了充足的保障。奢華的皇后尺寸床鋪,搭配設有大梳妝台及壯觀雨林淋浴的浴室,無疑是放鬆身心的理想之選。而客艙內的舒適休息區,更是享受私人露台的完美前奏,讓您能觀賞到世界在您眼前靜靜滑過的美好景象。

ห้องพักระเบียงแบบฝรั่งเศส เป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสความสุขจากการอยู่ใกล้ทะเล โดยคุณสามารถเปิดประตูบานกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อสัมผัสกับลมทะเลและวิวที่สวยงามภายนอก ซึ่งทำให้ห้องของคุณกลายเป็นระเบียงแบบเปิดโล่ง เพียบพร้อมไปด้วยบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์เสมือนคุณพักอยู่ในวิลล่าหรูที่ Côte d’Azur ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างมีสไตล์ ประกอบไปด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ และพื้นที่นั่งเล่นที่ให้ความสะดวกสบาย ซึ่งหลอมรวมความผ่อนคลายและความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมด้วยฝักบัวฝนที่สร้างความรู้สึกหรูหรา สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนี้ ท่านจะได้รับการบริการที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นเตียง Tranquility Bed ที่มีผ้าปูที่นอนคุณภาพสูงถึง 1,000 เส้นไหม น้ำอัดลมฟรีที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ของท่าน น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบอัดฟอง ดูแลโดยบริการแม่บ้านที่ให้บริการสองครั้งต่อวัน พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีโทรทัศน์ระบบอินเทอร์แอคทีฟและการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งทำให้คุณเชื่อมต่อโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย โดยนอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมและรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบายในห้องพักสุดพิเศษแห่งนี้โดยไม่ตกหล่นแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย.