
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เลอ บอรีอัล
Ponant
ร่วมมือกับ Smithsonian Journeys。
การล่องเรือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง PONANT ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่พูดภาษาอังกฤษ ผู้ที่ต้องการสัมผัสกับโลก นอกเหนือจากประสบการณ์ทั่วไปของ PONANT ราคาที่ระบุสำหรับการเดินทางเหล่านี้รวมถึงการขนส่งไปกลับจากเรือ การบรรยายและการอภิปรายบนเรือโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก และการทัศนศึกษาหรือกิจกรรมในทุกท่าเรือที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นให้แขกได้สัมผัสกับภาพ เสียง รสชาติ และกลิ่นของสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ออกเรือกับ PONANT บนเรือ Le Soléal ในการล่องเรือ 9 วัน เพื่อค้นพบประเพณีและสถานที่สำคัญต่างๆของดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย
การเดินทางของคุณเริ่มต้นที่ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ปูซานมอบประสบการณ์หลากหลายอย่างในระหว่างการสำรวจเต็มวันหลังจากคืนหนึ่งในท่าเรือ: วัดเฮดง ยงกุงซา สร้างขึ้นในปี 1376 มองเห็นทะเล; พิพิธภัณฑ์ศิลปะปูซาน ซึ่งมีสวนประติมากรรมกลางแจ้ง รวมถึงนิทรรศการของศิลปินร่วมสมัยชาวเกาหลี; พื้นที่ประวัติศาสตร์เกียงจู ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกที่เป็นตัวแทนการเจริญเติบโตของวัฒนธรรมชิลลาระหว่างศตวรรษที่ 7 ถึง 10; และพิธีชงชาครั้งหนึ่งในวัดฮงเบปซา ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องที่มีรูปปั้นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ข้ามช่องแคบไปยังญี่ปุ่น ความร่ำรวยที่คุณเลือกได้จะปรากฏให้เห็นทันทีในซากาอิมินาโต ซึ่งมีตัวเลือกเช่น ปราสาทมัตสึเอะ สร้างขึ้นจากไม้สนทั้งหมดในปี 1611; พิพิธภัณฑ์ศิลปะอะดาชิ แสดงผลงานของจิตรกรและประติมากรมาสเตอร์สมัยใหม่ของญี่ปุ่น; การสาธิตการทำกระดาษโบราณ (วาชิ) จากเปลือกต้นไม้; และสวนยูชิเส็ง ซึ่งเป็นสวนตามแบบดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงเรื่องดอกโบตั๋น
เรือ Le Soléal ยังไปยังฮางิ ซึ่งมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมและการปรับปรุงของญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ที่เมืองปราสาทฮางิ คุณจะได้เดินตามรอยซามูไรในขณะที่เดินชมถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี
หยุดที่โมจิ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของญี่ปุ่นกับจีนในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 วัดโกซันจิ ที่ก่อตั้งขึ้นในยุคคามาคุระและเป็นวัดสไตล์เซนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอยู่ไม่ไกล
เรือ Le Soléal ล่องต่อไปยังเบ็ปปุ ที่มีชื่อเสียงในระบบน้ำพุร้อนหรือออนเซ็นที่กว้างขวาง เลือกไปยังจิโนอิเกะจิโกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสีแดงเข้มเนื่องจากมีธาตุเหล็กออกไซด์ หรือเลือกที่จะค้นพบบ่อน้ำสีฟ้าละเอียดและบ่อโคลนเดือดที่คามาโดจิโกะ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "นรกหม้อหุง"
จากนั้นหยุดที่มิยาจิมะ ซึ่งเป็นประตูสู่ศาลเจ้าอิสึคุชิมะอันยิ่งใหญ่ ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโก ซึ่งประตูโทริอิสีแดงอันงดงามดูเหมือนลอยอยู่บนผืนน้ำ ในช่วงบ่ายนี้ เพลิดเพลินไปกับฮิโรชิม่า ซึ่งมีอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่าที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ซึ่งเป็นพยานถึงผลที่น่าสยดสยองหลังระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกของโลกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 คุณยังสามารถเลือกไปยังย่านการผลิตสาเกซาอิโจเพื่อชิมได้
สถานที่หยุดสุดท้ายของคุณคือทามาโนะ อดีตดินแดนเฟื้องฟูที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ จากที่นี่คุณจะสามารถชมสวนโคระคุเอ็งที่มีชื่อเสียง หนึ่งในสวนที่ต้องไปชมในประเทศ
การเดินทางของคุณสิ้นสุดลงที่โอซาก้า เมืองทันสมัยในใจกลางหมู่เกาะญี่ปุ่น


เวนิสคือเมืองที่มีเสน่ห์และความงดงามที่ไม่เหมือนใคร หากคุณเคยเห็นภาพเบื้องหลังของเมืองนี้ในหนังสือหรืองานศิลปะต่างๆ ลองเดินทางมาแล้วคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย แคนัลที่ไหลผ่านกลางเมืองแทนที่ถนนทั่วไป สายน้ำที่เปล่งประกายรอบตัวสร้างความรู้สึกโรแมนติกและมีเสน่ห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด อาคารผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระราชวังและโบสถ์ ไม่เพียงแต่สวยงาม ยังสะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวนิส ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าอันมั่งคั่งระหว่างยุโรปและตะวันออก การเดินหลงทางในตรอกซอกซอยแคบๆ ของเวนิสเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันยอดเยี่ยม ที่จะทำให้คุณค้นพบเสน่ห์ซ่อนเร้นในทุกมุม ในที่สุด คุณอาจจะพบตัวเองในจัตุรัสซานมาร์โค สถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่มารวมตัวกันเพื่อดื่มกาแฟหรือเปอร์รีทีฟ เพลิดเพลินกับความงามและบรรยากาศอันเป็นมิตรในสถานที่แห่งนี้ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นในการสัมผัสเวนิส ในแบบที่ทุกโซเชียลมีเดียไม่สามารถถ่ายทอดได้หมดสิ้น คิดถึงการเดินทาง ลองให้เวนิสเป็นจุดหมายยอดเยี่ยมถัดไปในหัวใจของคุณเถอะ!

เกาะฮวาร์ ประเทศโครเอเชีย เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "เกาะที่มีแดดมากที่สุดในทะเลอาเดรียติก" ด้วยค่าเฉลี่ยชั่วโมงแสงแดดยาวนานถึง 2,724 ชั่วโมงต่อปี จึงไม่แปลกใจที่ที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พื้นที่นี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ พร้อมทั้งธรรมชาติที่งดงาม นอกจากทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่สวยงามแล้ว เกาะฮวาร์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น ปราสาทเฟอร์ตาเรน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้เลือกมากมาย ตั้งแต่การเดินป่าของนักผจญภัย ไปจนถึงการล่องเรือในทะเลเปิด สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหรา ฮวาร์เต็มไปด้วยร้านอาหารระดับมิชลิน สปาและโรงแรมหรู ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งขึ้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความโรแมนติกและความสุขในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาดหรือสำรวจประวัติศาสตร์ เรือสำราญที่จอดที่ท่าเรือฮวาร์จะนำคุณสู่โลกแห่งความฝันของราชวงศ์และความสวยงามที่คุณไม่ควรพลาด!
ท่าเรือพลอซเซเร (Ploče) ในประเทศโครเอเชีย เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ซึ่งไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่โดดเด่น ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอดริอาติก ท่าเรือนี้เป็นทางเชื่อมสำคัญสำหรับการเข้าถึงทะเลและเมืองที่มีชื่อเสียงมากมายในภูมิภาค นายท่าเรือพลอซเซเรยังเป็นที่รู้จักในฐานะทางเข้าที่สวยงามสู่เมือง ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมเก่าแก่และวิวทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปสำรวจอุทยานแห่งชาติมลลิท (Mljet National Park) ที่มีธรรมชาติอันบริสุทธิ์และทะเลสาบสองแห่งที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยาน ในขณะเดียวกัน ท่าเรือพลอซเซเรยังเป็นจุดเริ่มต้นในการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นและอาหารแสนอร่อยที่จำเป็นต้องลอง เช่น ซีฟู้ดสดๆ และไวน์ท้องถิ่น จากนั้น คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นของชาวโครเอเชียทุกครั้งที่ก้าวเท้าเข้าสู่เมืองนี้ จึงไม่แปลกใจที่พลอซเซเรกลายเป็นจุดหมายที่นักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกต้องการแวะเยือน ด้วยความงามที่หลากหลายและประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นที่นี่ได้เลย!

ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

ซารันด์ (Sarandë) เป็นเมืองชายทะเลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคใต้ของประเทศแอลเบเนีย บนชายฝั่งของทะเลไอออนิอัน ซึ่งสามารถเดินทางมาจากเกาะคอร์ฟูของกรีซได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเรือเฟอร์รี่ เมืองซารันด์ได้ชื่อมาจากอารามคริสต์นิกายแรกซึ่งอุทิศให้กับนักบุญ 40 องค์ ความมหัศจรรย์ของซารันด์นั้นไม่เพียงแต่ในประวัติศาสตร์ แต่ยังรวมไปถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา จากการพัฒนาในช่วงหลังผ่านสถาปัตยกรรมคอมมิวนิสต์ที่เริ่มจะจางหาย มีร้านค้าขนาดเล็กและบาร์มากมายที่เพิ่มเสน่ห์แบบเมดิเตอร์เรเนียนให้กับเมือง ท่าเรือซารันด์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือโบราณของออนเคสมัส (Onchesmos) ขึ้นชื่อในเรื่องอากาศที่อบอุ่นและซากโบราณสถานที่ใกล้เคียงอย่างบูตรินต์ (Butrint) ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างสปริงน้ำตาอีฟ (Blue Eye Spring) ที่มีน้ำใสเป็นประกายอันน่าหลงใหล และใกล้เคียงมีสุสานใต้ดินของโบสถ์นักบุญ 40 ที่เพิ่งค้นพบ เมื่อคุณเยือนซารันด์ อย่าลืมชิมอาหารท้องถิ่น เช่น ชีสเคบับ (shisqubap) และไอศกรีมแสนอร่อย (akullore) ที่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในดินแดนแห่งนี้อย่างแน่นอน!

ท่าเรืออิเทีย (Itea) ตั้งอยู่ในรัฐฟิโลปอนเนซ (Phocis) ของกรีซ เป็นทางเข้าแห่งความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ที่ไม่เพียงแค่ให้บริการเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่อดีตอันรุ่งโรจน์ของกรีซ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าอิเทีย คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร พร้อมกับภาพวิวของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม ไม่ห่างจากท่าเรือ คุณจะพบกับสถานที่สำคัญอย่างเดลฟี (Delphi) ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ประทับใจแห่งประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของวัดอะพอลโล (Temple of Apollo) และลานกีฬาโอลิมปิกโบราณที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมกรีกในอดีต นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินชมนครโบราณที่รอบล้อมด้วยภูเขาอันงดงาม ท่าเรืออิเทียยังมีบรรยากาศของความคึกคักในวิถีชีวิตของชาวเมือง ท่านสามารถสัมผัสอาหารท้องถิ่นที่อร่อย ที่ได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถันหรือเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ พาคุณไปยังประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำให้กับการเดินทางของคุณในกรีซ ทุกเส้นทางที่คุณเลือกจะเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ที่รอคอยให้คุณค้นพบ!


การเดินทางสู่กรีซนั้นเปรียบเสมือนการสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และท่าเรือกรุงเอเธนส์ถือเป็นประตูสู่การสำรวจความงามอันหลากหลายของประเทศนี้ ราชินีแห่งทะเลอีเจียน เชื่อมโยงนักเดินทางสู่ประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่ตั้งอยู่ริมน้ำอย่างสะดวกสบาย เมื่อคุณก้าวเท้าลงจากเรือสำราญที่ท่าเรือ Piraeus ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของกรีซ คุณจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงอย่าง Acropolis ที่สูงตระหง่าน สัญลักษณ์ของอารยธรรมกรีกโบราณ ที่ทุกย่างก้าวจะพาคุณย้อนเวลาไปยังยุคทองของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เต็มไปด้วยสมบัติทางประวัติศาสตร์ และศิลปะอันสวยงาม นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับเกาะใกล้เคียงอย่าง Hydra และ Aegina ด้วยการนั่งเรือข้ามฟาก เพลิดเพลินไปกับวิวทะเลที่งดงาม สัมผัสวัฒนธรรมที่บริสุทธิ์ ขณะที่ชายหาดอันงดงามพร้อมด้วยบรรยากาศโรแมนติก จะทำให้คุณรู้สึกหลงใหลในความงามของธรรมชาติ การเยือนเอเธนส์จึงเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์อันมหัศจรรย์ สร้างแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางที่คุณจะไม่มีวันลืม ด้วยการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือจุดหมายปลายทางที่จะทำให้หัวใจคุณหลงรักอย่างแท้จริง







เจ้าของสวีทเป็นห้องพักที่หรูหราและกว้างขวาง บริการตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่ครอบคลุมซึ่งปลายทางอาจมีผลต่อการใช้งาน ห้องนี้มีเครื่องปรับอากาศแบบควบคุมเอง ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจตลอดการเข้าพัก มีห้องแต่งตัวพร้อมชั้นวางและตู้เสื้อผ้า รวมถึงโต๊ะเครื่องแป้งและไดร์เป่าผมเพื่อความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Dyptique Paris ที่มีคุณภาพสูง มินิบาร์และเครื่องชงกาแฟ Nespresso พร้อมเครื่องต้มน้ำ เพื่อมอบประสบการณ์ความสะดวกสบายในห้องพัก ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง และมีห้องนั่งเล่น/ห้องรับประทานอาหารที่มาพร้อมโซฟา เก้าอี้ ชุดทีวีและโต๊ะทานอาหาร สำหรับห้องน้ำมีฝักบัวและอ่างอาบน้ำแบบ Balneo มีระเบียงส่วนตัวขนาด 9 ตารางเมตรเพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินกับวิวทะเลและธรรมชาติ รอบตัวคุณ นอกจากนี้ ท่านยังจะได้รับบริการบัตเลอร์ สปาทรีทเมนต์หนึ่งชั่วโมงสำหรับแต่ละคน และเครื่องดื่มพรีเมียมที่บาร์ โดยทั้งหมดนี้รวมอยู่ในแพ็คเกจการเข้าพักที่หรูหราในการเดินทางครั้งนี้





เพรสทีจสวีทเป็นห้องพักที่หรูหราสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสะดวกสบายอย่างแท้จริง ขนาดห้องมีผืนที่กว้างขวางพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ คุณจะได้เพลิดเพลินกับพื้นที่นั่งเล่นที่มีโซฟาแบบเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมทั้งโทรทัศน์อีกหนึ่งเครื่องและประตูเลื่อนที่ให้ความสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีห้องน้ำสองห้องพร้อมฝักบัวที่ให้คุณได้สดชื่นตลอดเวลา สำหรับระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตร ที่มองเห็นวิวทะเลอันสวยงาม และหน้าต่างบานใหญ่แบบพาโนรามาให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ การบริการในเพรสทีจสวีทยังรวมถึงการบริการของบัตเลอร์ที่คอยดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ค็อกเทลแชมเปญและผลไม้ต้อนรับในวันแรกที่เข้าพัก รวมถึงผลไม้สดใหม่ที่จัดเตรียมไว้ให้ทุกวัน และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายที่พร้อมใช้งาน การควบคุมอุณหภูมิที่สะดวกสบาย และรายการความบันเทิงภายในห้องพักที่มีทั้งโทรทัศน์จอแบน ช่องต่างประเทศ และระบบเสียง Bose Bluetooth ทำให้คุณสามารถสนุกสนานกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่เพียงเท่านั้น เพรสทีจสวีทยังมีโอกาสในการขึ้นเรือก่อนเวลา และให้บริการที่เหนือระดับเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์บนทะเลที่เต็มไปด้วยความหรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง





ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นที่พักสุดหรูที่มอบประสบการณ์การเดินทางอันยอดเยี่ยมให้แก่คุณ โดยมีพื้นที่กว้างขวางที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เติมเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยหลากหลาย เพื่อให้คุณรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน ห้องนี้มีเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงคู่ (90 x 200 ซม.) พร้อมกับเก้าอี้นั่งและโซฟา (167 x 70 ซม.) ที่พร้อมให้คุณผ่อนคลายหลังจากวันท่องเที่ยวอันแสนวุ่นวาย นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่ถูกออกแบบอย่างดี มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งาน ห้องนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 5 ตร.ม. รวมถึงหน้าต่างบานเลื่อนแบบพานอรามา ให้อารมณ์เปิดโล่งไปสู่วิวทะเลที่งดงาม คุณจะได้รับบริการที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการเช็คอินล่วงหน้า การต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้ รวมถึงบริการบัตเลอร์เพื่อให้ความสะดวกในทุกความต้องการ นอกจากนี้ยังมีบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่สามารถใช้ได้ตามความสามารถของการเดินเรือ เครื่องปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงกาแฟ Nespresso โทรทัศน์จอแบน และลำโพง Bluetooth จาก Bose สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนระดับพรีเมียมในห้องสวีทระดับพรีเมียมบนเรือสำราญของเรา ขณะที่คุณล่องเรือไปตามน่านน้ำที่สวยงาม.


ห้องพักซูเปอร์เรียร์ของเรามอบความสะดวกสบายและความหรูหราในบรรยากาศที่อบอุ่น ตกแต่งด้วยเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ขนาด 180 x 200 ซม. พร้อมห้องน้ำที่มีฝักบัวเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุด ห้องพักนี้มาพร้อมกับหน้าต่างที่ให้คุณได้ชมวิวทะเลที่สวยงาม (ยกเว้นห้องพักหมายเลข 300 ที่มีหน้าต่างทรงกลม) ห้องพักซูเปอร์เรียร์ยังมีบริการ 24 ชั่วโมง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ตามต้องการ นอกจากนี้ คุณจะได้รับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไวไฟ ตลอดจนระบบปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง ห้องนอนยังมีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมเครื่องเป่าผม และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำจาก Dyptique Paris เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ห้องพักนี้ยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso และกาต้มน้ำ รวมถึงตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์ และโทรศัพท์สายตรง นอกจากนี้ยังมีลำโพงบลูทูธจาก Bose และโทรทัศน์จอแบน พร้อมช่องรายการต่างประเทศ (ขึ้นอยู่กับเส้นทางการเดินเรือ) และวิดีโอตามความต้องการ ทำให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความพิเศษและความประทับใจ



ห้องพักพรีเมียมของเราออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การล่องเรือที่หรูหราและสะดวกสบายแก่คุณ ห้องพักที่กว้างขวางได้รับการตกแต่งอย่างมีระดับ พร้อมด้วยเตียงคิงไซซ์ขนาด 180 x 200 ซม. หรือตัวเลือกเตียงเดี่ยวขนาด 90 x 200 ซม. ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตร และหน้าต่างบานเลื่อนแบบพานอรามาให้คุณได้สัมผัสวิวทะเลอย่างใกล้ชิด นอกจากบริการที่มีให้สำหรับห้องชุดทุกห้องแล้ว ในห้องพักพรีเมียมนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง อินเตอร์เน็ต Wifi ที่สามารถใช้ได้ตามสถานที่และการเดินเรือ ระบบปรับอากาศที่สามารถควบคุมเองได้ โดยมีห้องแต่งตัวที่มีชั้นวางของและตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งหน้าและไดร์เป่าผม รวมถึงผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Dyptique Paris ที่มีคุณภาพชั้นนำ อีกทั้งยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso และตู้นิรภัย เพื่อความปลอดภัยของสิ่งของมีค่า ทีวีจอแบนที่รองรับช่องทางอินเตอร์เนชั่นแนล และลำโพง Bluetooth จาก Bose เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนของคุณให้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น


ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นที่พักสุดพิเศษภายในเรือสำราญที่มอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่ผู้เข้าพัก ด้วยพื้นที่กว้างขวางพร้อมการตกแต่งที่มีระดับ ห้องพักนี้มาพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ขนาด 180 x 200 ซม. หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ขนาด 90 x 200 ซม. อีกทั้งยังมีห้องน้ำที่สะดวกสบายพร้อมฝักบัว ห้องสวีทนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตรที่เชื่อมต่อกับประตูแบบกระจก เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์รอบ ๆ เรืออย่างใกล้ชิด เต็มเปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายต่าง ๆ เช่น บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไวไฟที่รวมอยู่, ระบบปรับอากาศแบบควบคุมเอง, ตู้เก็บเสื้อผ้า, โต๊ะแต่งตัวและเครื่องเป่าผม รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจาก Dyptique Paris นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, ตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์, โทรศัพท์สายตรง, ลำโพงบลูทูธจาก Bose และโทรทัศน์จอแบนที่มาพร้อมช่องรายการนานาชาติและวิดีโอตามคำขอ โดยมีการเชื่อมต่อไฟฟ้าที่รองรับทั้งประเภท 110V และ 220V เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ห้องสวีทระดับพรีเมียมจึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราและความสะดวกสบายในขณะเดินทางบนเรือสำราญ ขอเชิญคุณสัมผัสประสบการณ์อันไม่เหมือนใครที่รอให้คุณได้มาเยือน!