
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เลอ เบลอ
Ponant


ท่าเรือโคลอน (Colón) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของคลองปานามา ฝั่งทะเลแอตแลนติก เป็นศูนย์กลางที่สำคัญไม่เพียงแต่ในฐานะท่าเรือที่ยุ่งเหยิง แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ในอดีตชื่อเมืองนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาจาก Aspinwall ซึ่งตั้งชื่อตามวิศวกรรถไฟชาวอเมริกันสมัยศตวรรษที่ 19 แต่ในปัจจุบันโคลอนได้กลายเป็นที่รู้จักในนามของคริสโตเฟอร์โคลัมบัส เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1850 และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการสร้างรถไฟข้ามปานามา การพัฒนาเพิ่มเติมได้รับแรงกระตุ้นจากความพยายามในการสร้างคลองโดยฝรั่งเศส แต่ด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้รุนแรงในปี 1885 เมืองนี้ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในสไตล์สถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส ในด้านการค้า โคลอนมีโซนปลอดภาษีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก หรือที่เรียกกันว่า ซูนา ลิเบร ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าขนาดยักษ์และสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าขายส่งที่กลายเป็นแรงดึงดูดสำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันลึกล้ำที่โคลอน เปิดประตูสู่การผจญภัยใหม่ ๆ ที่รอคอยคุณอยู่บนเส้นทางการเดินทางครั้งต่อไป!

หมู่เกาะซานบลาส (San Blas Islands) ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลแคริบเบียน บริเวณชายฝั่งตะวันออกของโคลอน โดยประกอบไปด้วยเกาะเล็กและใหญ่ถึง 365 เกาะ มีเฉพาะประมาณ 50 เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เรียกได้ว่าเป็นสรวงสวรรค์ที่ยังคงความบริสุทธิ์และวัฒนธรรมดั้งเดิมเต็มเปี่ยม ชาวคูนา (Kuna) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่ปกครองดินแดนซานบลาส มีความภาคภูมิใจในประเพณีและภาษาท้องถิ่นของตน แม้จะได้รับอิทธิพลจากยุโรป หนึ่งในเกาะที่สำคัญคือเอล ปอร์เวนีร์ (El Porvenir) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลของชาวคูนา ที่นี่คุณจะได้พบกับศิลปะและงานฝีมือดั้งเดิม โดยเฉพาะ “โมลา” (Mola) ซึ่งเป็นงานปักที่มีลวดลายสวยงาม และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นของฝากที่ไม่ควรพลาด หญิงสาวในชุมชนสวมใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายพื้นบ้าน มีความโดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิตและธรรมชาติ การมาเยือนหมู่เกาะซานบลาส นอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายแล้ว คุณยังสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตที่แตกต่างและดื่มด่ำกับอารมณ์ของการเดินทางที่น่าจดจำ ที่นี่คือประตูสู่ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครในโลกแห่งการเดินเรือสำราญ.

คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย

ซานตา มาร์ตา (Santa Marta) คือท่าเรือที่โดดเด่นในโคลอมเบีย ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางสู่ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเสน่ห์ของทะเลแคริบเบียน ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามโดยรอบและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เริ่มต้นการผจญภัยของคุณด้วยการสำรวจชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น เพลเยีย แดลก่า (Playa de Rodadero) ซึ่งมีน้ำทะเลใสสะอาดและกิจกรรมทางน้ำมากมาย นอกจากนี้ ซานตา มาร์ตายังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับการสำรวจอุทยานแห่งชาติ ทายนา (Tayrona National Park) ซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยภูเขา ป่าฝน และชายหาดที่เงียบสงบ ไม่เพียงแค่ธรรมชาติ ซานตา มาร์ตายังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมีเมืองเก่าที่สวยงามและโบสถ์ในยุคล่าอาณานิคม เช่น โบสถ์ซานตา มาร์ตา (Cathedral of Santa Marta) ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยาวนานอีกด้วย เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและลงตัว ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวโคลอมเบีย จะทำให้การเยือนซานตา มาร์ตานั้นเป็นเรื่องที่น่าจดจำตลอดไป ปล่อยให้วิญญาณของการผจญภัยพาคุณไปสู่ท่าเรือแห่งนี้ ที่ซึ่งทุกวินาทีเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์!


ในท่ามกลางทะเลแคริบเบียนที่สวยงาม ท่าเรือ Bonairé เป็นจุดหยุดพักอันน่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่มาทริปเรือสำราญ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่บนเกาะ Bonaire ที่มีชื่อเสียงด้านแนวปะการังและน้ำทะเลที่ใสสะอาด เป็นสถานที่ที่คุณสามารถค้นพบประสบการณ์ที่สดชื่นและน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่า คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันมีเสน่ห์ของเมืองหลวง Kralendijk ที่ดึงดูดด้วยอาคารสีสันสดใสและวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง คุณสามารถเลือกทำกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่การดำน้ำและการค้นหาปะการังที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในแนวปะการังที่ดีที่สุดในโลก จนถึงการเดินชมธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ Washington Slagbaai ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าที่น่ารัก นอกจากการผจญภัยในน้ำแล้ว ยังสามารถสำรวจประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่น่าสนใจที่พิพิธภัณฑ์ Bonaire หรือซื้อของฝากที่ตลาดท้องถิ่นซึ่งมีผลิตภัณฑ์ทำมือเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเสร็จสิ้นการสำรวจ คุณจะรู้สึกถึงเสน่ห์ที่ไม่อาจต้านทานของ Bonaire ที่จะทิ้งรอยประทับในหัวใจตลอดไป แน่นอนว่านี่คือจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางทุกคนไม่ควรพลาด!


เกาะเมย์รู (Mayreau) เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กเพียง 1.5 ตารางไมล์ (3.9 ตารางกิโลเมตร) และเป็นเกาะที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในหมู่เกาะเกรเนดีนส์ เกาะนี้ตั้งอยู่ในประเทศเซนต์ วินเซนต์ซึ่งตั้งอยู่ในทะเล Caribbean ที่สวยงาม โดยมีสองเกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มเกรเนดีนส์คือ มัสติค (Mustique) และเบคี (Bequia) ผู้มาเยือนส่วนใหญ่จะเดินทางมายังเกาะเมย์รูด้วยเรือสำราญ หรือเรือเฟอร์รี่ และยังมีบริการเรือยอชท์ให้เช่า เกาะนี้ปราศจากถนนหลักและสนามบิน มีเพียงหมู่บ้านชื่อว่า "หมู่บ้านที่ไม่มีชื่อ" แต่สิ่งนี้กลับทำให้บรรยากาศของเกาะนี้มีความสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคืออ่าวซาลีน (Saline Bay) ซึ่งมีชายหาดกว้างขวางที่สวยงาม และผู้ค้าในท้องถิ่นที่ขายเสื้อยืดและงานหัตถกรรมของท้องถิ่น อีกทั้งการเดินขึ้นไปยังหมู่บ้านบนเขาจะมอบทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นเกาะเมย์รู ตูบาโกเคย์ (Tobago Cays) และเกาะแครีอากู (Carriacou) ด้วยความงดงามของทิวทัศน์และกิจกรรมดำน้ำตื้นที่นี่ เมย์รูจึงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในทริปนี้

เมื่อพูดถึงการเดินทางด้วยเรือสำราญ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือท่าเรือ Pigeon Island ในประเทศเซนต์ลูเซีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามระหว่างทะเลแคริบเบียนที่ส่องประกายระยิบระยับและชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด นอกจากนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เนื่องจากเคยเป็นฐานทัพของกองทัพฝรั่งเศสและอังกฤษในอดีต นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจ Pigeon Island National Landmark ซึ่งให้บริการเส้นทางเดินป่าและชมวิวที่ยอดเยี่ยมของอ่าวที่อยู่รอบๆ จุดเด่นอีกหนึ่งคือการเดินทางไปยัง Ruins of Fort Rodney ซึ่งเป็นซากปรักหักพังที่มีอายุหลายร้อยปี นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่งดงาม สนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ อาทิ ดำน้ำตื้นหรือการตกปลาในน่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และไม่ลืมที่จะใช้เวลาเพลิดเพลินกับการชิมอาหารจานอร่อยจากร้านอาหารท้องถิ่นที่นำเสนอวัฒนธรรมอาหารแคริบเบียนอย่างแท้จริง Pigeon Island เป็นสถานที่ที่นำเสนอประสบการณ์การเดินทางอันทรงคุณค่า พร้อมให้คุณสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในวันหยุดอันแสนพิเศษของคุณในท้องทะเลแคริบเบียน!

ท่าเรือซูเฟรียร์ (Soufrière) ตั้งอยู่ในเซนต์ลูเชีย เป็นเมืองโบราณซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงอาณานิคมฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1746 เมืองเล็กๆ นี้มีเสน่ห์ในตัวเอง โดยตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟที่ชื่อเดียวกัน การเดินทางมายังท่าเรือซูเฟรียร์จะนำคุณไปสัมผัสกับมนตร์เสน่ห์ของอดีตที่ยังคงอยู่ ด้วยอาคารไม้ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมอาณานิคมฝรั่งเศสและสร้างขึ้นล้อมรอบตลาดที่เต็มไปด้วยสีสัน เมื่อเรือสำราญจอดอยู่ในอ่าวซูเฟรียร์ คุณจะรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นในตลาด โดยมีภาพวาดสีสันสดใสประดับอยู่ นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสำรวจความงดงามของธรรมชาติที่โดดเด่นของเซนต์ลูเชีย ทั้งภูเขาพิตอง (Pitons) ที่สูงตระหง่านและภูมิทัศน์ที่แสนร่มรื่น เช่น สวนพฤกษศาสตร์ น้ำตกที่สวยงาม รวมถึง "ภูเขาไฟขับรถเข้าได้" ที่ไม่ควรพลาด ซูเฟรียร์จึงเป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่คุณจะได้ผ่อนคลาย แต่ยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของเซนต์ลูเชีย สัมผัสถึงความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้รอคอยให้คุณได้มาเยือนและสร้างความทรงจำใหม่ที่น่าจดจำในทุกมุมมองของการเดินทางของคุณ.

เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ท่าเรือ Îles des Saintes ในเกาะกวาเดอลูป คุณจะพบกับหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์และนิ่งสงบ สถานที่นี้ถูกค้นพบโดยโคลัมบัสในปี 1493 และตั้งชื่อว่า Los Santos ภายหลังมีการตั้งรกรากของชาวฝรั่งเศสในปี 1648 ทำให้เกิดชื่อใหม่ว่า Iles des Saintes ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งตะวันตกของเกาะกวาเดอลูป Îles des Saintes ประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 8 แห่ง แต่มีเพียง 2 แห่งที่มีประชากรอาศัยอยู่ ได้แก่ Terre-de-Bas และ Terre-de-Haut ซึ่ง Terre-de-Haut มีฟอร์ตนาพoleon สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 เพื่อทดแทนป้อมในศตวรรษที่ 17 และจากจุดนี้ คุณสามารถชมวิวของเกาะเล็ก ๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ในอ่าวได้อย่างชัดเจน Terre-de-Haut เป็นเกาะหลักที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม มีหาดทรายละเอียดที่ Grande Anse และหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนหลังคาสีแดงประดับอยู่ตามอ่าวที่โค้งงอ มีร้านค้าเล็ก ๆ และคาเฟ่ที่เชิญชวนให้แวะชมและลิ้มลองอาหารท้องถิ่น การสำรวจ Îles des Saintes เป็นไปอย่างเพลิดเพลิน โดยคุณสามารถเดินชมทิวทัศน์และสัมผัสบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์ ความเงียบสงบและธรรมชาติอันบริสุทธิ์รอคอยให้คุณมาสัมผัส และเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน

มาร์ตินีก ไอแลนด์ที่งดงามที่สุดในกลุ่มเกาะลมพัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปารีสถึง 4,261 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมฝรั่งเศสปนกับเสน่ห์แบบแคริบเบียนอย่างลงตัว เมืองฟอร์ต-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเกาะนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เขียวขจี และอาหารที่หลากหลาย รสชาติจะมีการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเครโอเล่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ตินีก ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม คุณจะพบมุงเดียวกันที่มีผลไม้หลากหลาย ตั้งแต่ทุเรียน มะละกอ ไปจนถึงเชอร์รี่ในโทนสีแดงสด หากคุณเป็นนักเดินป่า ทิวเขาและป่าสีเขียวชอุ่มในภาคเหนือจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้น ในขณะที่นักดำน้ำจะต้องหลงรักโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจที่น่าสนใจไปยังเซนต์-ปิแอร์ เมืองที่ประสบภัยจากการปะทุของภูเขาไฟมอนต์เปเล่ในปี 1902 อีกด้วย มาร์ตินีกเตรียมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล รอให้คุณมาผจญภัยในวันหยุดที่แสนหรูหราและน่าจดจำ!






เจ้าของสวีทเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครบนเรือสำราญระดับพรีเมียม มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ห้องนอนมีขนาดใหญ่พิเศษ พร้อมเตียงคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของห้องนี้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำแบบบาลเนียว รวมถึงกระจกอัจฉริยะที่ให้ความสะดวกสบายในทุกการใช้ชีวิต เจ้าของสวีทถูกออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัว มีระเบียงส่วนตัวขนาด 40 ตารางเมตร ที่มีเก้าอี้นอน, จากุชชี่ และพื้นที่รับรองกลางแจ้งซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อน พร้อมด้วยหน้าต่างกระจกพานอรามาให้ทัศนียภาพที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาเตียงคู่และทีวีสองเครื่อง พร้อมบริการบัตเลอร์และการบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกนาทีของการเข้าพักเป็นเรื่องพิเศษ ผู้เข้าพักจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากบริการที่รวมถึงการขนส่งส่วนตัว, การเข้าลานด้วยลำดับความสำคัญ และการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้เมื่อมาถึง พร้อมให้บริการสปา 1 ชั่วโมงต่อคน เพื่อการผ่อนคลายในการเดินทางอย่างมีระดับ นอกจากนี้ยังมีอินเตอร์เน็ตไวไฟและเครื่องชงกาแฟเนสเพรสโซในห้องที่พร้อมให้บริการ นี่คือความหรูหราและความสะดวกสบายที่จะสร้างให้คุณได้สัมผัสกับความสุขในทุก ๆ ช่วงเวลาบนเรือสุดพิเศษนี้




ห้องสวีทแกรนด์เดอลักซ์คือห้องพักสุดหรูที่มอบความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง โดยภายในห้องจะมีพื้นที่ขนาด 32 ตารางเมตร กับระเบียงส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีเก้าอี้สะพายสบายและโต๊ะรับประทานอาหารที่รองรับสี่คน นอกจากนี้ยังมีห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง พร้อมทั้งห้องนั่งเล่นที่สามารถปรับเป็นเตียงคู่ได้ ห้องน้ำกว้างขวางมีทั้งฝักบัวและอ่างจากุซซี่สำหรับการผ่อนคลาย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องรวมถึงบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ตไวไฟแบบไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) ระบบปรับอากาศแบบควบคุมได้เอง เคาน์เตอร์แต่งตัวพร้อมชั้นวางและตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งตัวพร้อมเครื่องเป่าผม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบรนด์ Clarins สำหรับบำรุงผิวระดับพรีเมี่ยม และมินิบาร์ที่มีเครื่องชงกาแฟ Nespresso นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถรับชมช่องสัญญาณต่างประเทศและวิดีโอตามต้องการ ผู้เข้าพักในห้องนี้จะได้รับบริการพิเศษ เช่น การขึ้นเรือก่อนใคร แชมเปญและผลไม้ต้อนรับในวันแรก รวมถึงบริการบัตเลอร์ที่มอบความสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก พร้อมทั้งผลไม้สดทุกวันเพื่อเติมเต็มความสดชื่นให้แก่การพักผ่อนของคุณ ห้องสวีทแกรนด์เดอลักซ์จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การล่องเรืออย่างหรูหราและมีสไตล์







ห้องสวีทพิเศษมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันหรูหราในบรรยากาศที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว ด้วยพื้นที่กว้างขวางและการออกแบบที่ทันสมัย ห้องสวีทนี้มีขนาด 8 ตารางเมตรสำหรับระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ตัวเพื่อให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับวิวอันงดงามได้อย่างเต็มที่ ภายในห้องประกอบด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ 180 x 200 เซนติเมตร หรือเตียงเดี่ยว 90 x 200 เซนติเมตร และยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่มาพร้อมกับเก้าอี้นวมเพื่อความสะดวกสบาย ท่านจะได้สัมผัสกับบริการระดับพรีเมี่ยม รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวและการบริการที่หรูหรา เช่น ไวน์และผลไม้ต้อนรับเมื่อท่านเข้าพัก นอกจากนี้ ยังมีระบบอากาศที่ควบคุมได้เอง และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายที่จะช่วยให้ท่านเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา ห้องน้ำมีการออกแบบอย่างสวยงามพร้อมฝักบัว และยังมีผลิตภัณฑ์อาบน้ำจากแบรนด์ Clarins ที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อการดูแลผิวพรรณของท่าน ตัวเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกยังรวมถึงมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ลำโพง Bluetooth จาก Bose โทรศัพท์สายตรง โทรทัศน์จอแบนพร้อมช่องสัญญาณต่างประเทศและวิดีโอตามสั่ง สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้จะทำให้การพักผ่อนของท่านในห้องสวีทพิเศษเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายอย่างแท้จริง





เพรสทีจสวีทเป็นที่พักที่มีความหรูหราและทันสมัย มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับการพักผ่อนของคุณ ภายในห้องมีการควบคุมอุณหภูมิที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์) สำหรับการผ่อนคลายอย่างเต็มที่ อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้แก่ โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเครื่องเป่าผม, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวระดับพรีเมียมจาก Clarins, มินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso และตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์ ภายในเพรสทีจสวีทประกอบด้วยห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซซ์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง และพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถเปลี่ยนโซฟาเป็นเตียงขนาดคิงไซซ์ได้ มีห้องน้ำสองห้องพร้อมฝักบัวสำหรับความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตรที่มองเห็นวิวทะเล พร้อมเก้าอี้ปรับนอนสี่ตัวและหน้าต่างกันเสียงแบบเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและเปิดกว้าง ผู้เข้าพักที่เลือกเพรสทีจสวีทจะได้รับบริการพิเศษ เช่น การขึ้นเรือก่อนเป็นลำดับแรก, แชมเปญและผลไม้ต้อนรับ, บริการบัตเลอร์, และขนมขบเคี้ยวรูปแบบต่างๆ ทุกวัน ซึ่งทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจและความสะดวกสบายที่เหนือระดับ








ห้องสวีทระดับพรีเมียมมอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราและสะดวกสบาย พื้นที่ภายในห้องกว้างขวางพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยว ที่นุ่มสบาย พร้อมมุมพักผ่อนที่มีเก้าอี้และโซฟา สำหรับการผ่อนคลาย ห้องนี้ยังมีห้องน้ำที่ทันสมัยพร้อมฝักบัว และระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตรที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวยงาม มีการตกแต่งในสไตล์ทันสมัยและมีความเป็นส่วนตัว ผู้เข้าพักจะได้รับบริการที่ครบครัน เช่น บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ตไร้สายเข้าถึงได้แบบไม่จำกัด รวมถึงเครื่องเล่นเพลงบลูทูธจาก Bose และโทรทัศน์จอแบนที่สามารถรับชมช่องรายการนานาชาติได้ นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์และเครื่องชงกาแฟ Nespresso เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในระหว่างการเข้าพัก ด้วยการบริการที่เฉพาะตัวซึ่งรวมถึงการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้ เมื่อคุณเข้าสู่ห้องนี้ คุณจะได้สัมผัสถึงความหรูหราและความสะดวกสบายที่ครบครันอย่างแท้จริง ห้องสวีทระดับพรีเมียมจึงเป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร.





ห้องพักพรีเมียมบนเรือสำราญของเราออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและความหรูหรา โดยมีพื้นที่กว้างขวางและการจัดแต่งที่ทันสมัย ห้องพักนี้มาพร้อมกับเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง พร้อมด้วยโซฟาเล็กและห้องน้ำที่มีฝักบัว สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตร พร้อมเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน นอกจากนี้ หน้าต่างแบบเลื่อนหรือประตูสไลด์กระจกที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันงดงามยังเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนอีกด้วย ห้องพักพรีเมียมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง, ระบบ Wi-Fi ที่รวมอยู่ (ขึ้นอยู่กับการเดินทาง), และระบบปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, โทรทัศน์จอแบนพร้อมช่องสัญญาณต่างประเทศ, และลำโพง Bluetooth ของ Bose เพื่อเพิ่มความบันเทิงในการอยู่พักผ่อน การออกแบบห้องพักถูกเลือกด้วยผลิตภัณฑ์จาก Clarins และมีห้องแต่งตัวที่มีชั้นวางและตู้เสื้อผ้า เพื่อให้คุณสบายที่สุดในทุกช่วงเวลาที่อยู่บนเรือ。





ห้องสวีทระดับพรีเมียมนี้มีขนาดกว้างขวาง พร้อมให้บริการความสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริการรูมเซอร์วิสและการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต Wifi ที่รวมอยู่ในห้องพัก (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือและละติจูด) ภายในห้องจะมีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง ห้องแต่งตัวพร้อมชั้นวางและตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งและไดร์เป่าผม รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นเยี่ยมจาก Clarins นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso และตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนโทรศัพท์พื้นฐาน ลำโพง Bluetooth ของ Bose และโทรทัศน์จอแบนที่ให้ชมช่องต่างประเทศ (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) พร้อมวิดีโอออนดีมานด์ ห้องนี้มีเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) พร้อมโทรทัศน์ และห้องน้ำที่มีฝักบัวสระน้ำ ขอบเขตการชมวิวจากระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตร.ม. ที่มีเก้าอี้สองตัว รวมถึงประตูสวิงแบบกระจกที่มีวิวพาโนรามาและหน้าต่างสี่เหลี่ยมจะเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและความหรูหราในการเข้าพักของคุณในห้องสวีทระดับพรีเมียมแห่งนี้