
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เลอ เบลอ
Ponant
PONANT ขอเชิญคุณร่วมเดินทางท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญเป็นเวลา 13 วันสู่ใจกลางทะเลแคริบเบียน จากมัตตินีก คุณจะได้แล่นเรือไปตามน้ำที่สวยงามในทะเลแคริบเบียนเพื่อค้นพบเกาะที่สวยงาม รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ
ตลอดการเดินทางของคุณ คุณจะได้รับประโยชน์จากการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวที่รวมอยู่ในราคาแต่ละเมืองท port ที่เลือกโดย PONANT อย่างพิถีพิถัน ในระหว่างการล่องเรือครั้งนี้ เพลิดเพลินไปกับการขึ้นเรือคาตามารันและการดำน้ำตื้นจากท่าเรืออิลิซาเบธบนเกาะเบคัว หรือสำรวจเมืองซูฟรี เรา ระหว่างบกกับทะเลในเซนต์ลูเซีย หรือลงทุนไปกับความสวยงามของเซนต์คิตส์ในระหว่างการล่องเรือและการสำรวจใต้น้ำด้วยหน้ากากและท่อหายใจ ความหลากหลายของประสบการณ์ที่มีให้สัญญาว่าจะมอบช่วงเวลาที่เข้มข้นและหลากหลาย (เพื่อค้นหารายการกิจกรรมสำรวจทั้งหมด โปรดไปที่แท็บเส้นทาง) มีผู้สอนดำน้ำที่มีประสบการณ์อยู่บนเรือพร้อมให้บริการตลอดการล่องเรือ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำและการดำน้ำอย่างปลอดภัย จากฟอร์ต-เดอฟรองส์ เมืองหลวงของมัตตินีก เรือ Le Bellot จะออกเดินทางไปยังเกาะแอนติกา ท่าเรือทหารที่มีอายุกลับไปสู่ยุคจอร์เจียน ที่ซ่อนตัวอยู่ในอ่าวที่ป้องกันจากเกาะนี้ที่มีชายฝั่งขรุขระ เป็นมรดกโลกของยูเนสโก หลังจากนั้น คุณจะแล่นเรือไปยังเซนต์คิตส์ เกาะภูเขาไฟที่มีชายหาดทรายละเอียดและมรดกทางอาณานิคมที่ร่ำรวย ในหมู่เกาะบริเตน เวอร์จิน ซึ่งประกอบด้วยเกาะที่ไม่มีคนอยู่ประมาณ 60 แห่ง คุณจะมีโอกาสเพลิดเพลินกับชายหาดของจอสต์ แวน ไดค์สำหรับการพักผ่อนว่ายน้ำอย่างสงบ จากนั้นเรือของคุณจะมุ่งหน้าไปยังเกาะเซนต์บาร์เธเลมีที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีอ่าวที่งดงามและถนนช้อปปิ้งที่มีเสน่ห์ คุณจะแล่นเรือไปยังเซนต์คิตส์ เกาะภูเขาไฟที่มีทรายละเอียดและมรดกทางอาณานิคมที่ร่ำรวย ไปทางทิศใต้ เรือ Le Bellot จะแล่นไปยังชายฝั่งที่มีเสน่ห์ของเกาะกวาเดอลูป คุณจะได้ค้นพบอ่าวเซนต์ ซึ่งเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับการจอดเรือ ด้วยน้ำทะเลใสและทิวทัศน์ใต้น้ำที่งดงาม คุณจะแล่นไปสู่ฉากที่น่าหลงใหลซึ่งเกาะโดมินิกา - เกาะแห่งธรรมชาติ จากนั้นคุณจะได้เดินทางอย่างนุ่มนวลไปยังเซนต์ลูเซียและยอดเขาที่สูงตระหง่านสองจุดที่พุ่งทะยานออกมาจากทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใครซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ในที่สุด ให้ความเสน่ห์ของหมู่เกาะเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์บนเกาะเบคัว ซึ่งเป็นเกาะที่มีชายฝั่งที่มีความดิบและยังไม่มีการพัฒนา คุณจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของท่าเรืออิลิซาเบธ เมืองหลักของเกาะนี้

มาร์ตินีก ไอแลนด์ที่งดงามที่สุดในกลุ่มเกาะลมพัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปารีสถึง 4,261 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมฝรั่งเศสปนกับเสน่ห์แบบแคริบเบียนอย่างลงตัว เมืองฟอร์ต-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเกาะนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เขียวขจี และอาหารที่หลากหลาย รสชาติจะมีการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเครโอเล่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ตินีก ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม คุณจะพบมุงเดียวกันที่มีผลไม้หลากหลาย ตั้งแต่ทุเรียน มะละกอ ไปจนถึงเชอร์รี่ในโทนสีแดงสด หากคุณเป็นนักเดินป่า ทิวเขาและป่าสีเขียวชอุ่มในภาคเหนือจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้น ในขณะที่นักดำน้ำจะต้องหลงรักโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจที่น่าสนใจไปยังเซนต์-ปิแอร์ เมืองที่ประสบภัยจากการปะทุของภูเขาไฟมอนต์เปเล่ในปี 1902 อีกด้วย มาร์ตินีกเตรียมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล รอให้คุณมาผจญภัยในวันหยุดที่แสนหรูหราและน่าจดจำ!

ท่าเรือแอนติกาในประเทศแอนติกาและบาร์บูดาเป็นจุดหมายปลายทางที่เปล่งประกายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ท่าเรือแห่งนี้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร พร้อมด้วยทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่งดงามกว่า 365 แห่ง ทุกวันในปีคุณสามารถพบชายหาดใหม่ที่ต้องการสำรวจ เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้ามาในท่าเรือแอนติกา จะมีโอกาสให้คุณสำรวจเมืองหลวงของเกาะนี้ที่ชื่อว่าเซนต์จอร์จส์ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยอาคารเก่าแก่ที่รักษาไว้เป็นอย่างดี และตลาดท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา ที่ผู้มาเยือนสามารถซื้อของที่ระลึกและลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หากคุณรักการผจญภัย การดำน้ำตื้นตามแนวปะการังที่อ่าวเจอลีซหรือการพายเรือคายัคในน้ำใส ก็เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ทริปที่น่าสนใจยังรวมถึงการไปเยี่ยมชมฟาร์มเหล้ารัมเพื่อประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตเหล้าท้องถิ่น แอนติกายังมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่โดดเด่น และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอุ่นใจ รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสและสร้างความทรงจำอันล้ำค่าในภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของแคริบเบียน

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือ Marigot ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งฝรั่งเศสของเกาะ Saint Martin คุณจะพบกับบรรยากาศที่นุ่มนวลและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เมือง Marigot เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการช็อปปิ้งในร้านแบรนด์หรู ร้านอาหารระดับเฟิร์สคลาส และบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนยุโรปแท้ๆ ที่นี่คุณสามารถสนุกสนานไปกับกีฬาทางน้ำมากมาย เช่น ดำน้ำตื้น, เซิร์ฟ, และเรือใบ ในขณะที่ชายหาดที่สวยงาม 37 แห่งรอคอยให้คุณได้สัมผัสกับแสงแดดและผืนน้ำสีฟ้าครามอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็น Dawn Beach หรือ Éলের Bay ที่มีชื่อเสียง การสำรวจเกาะจะเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ โดยรถยนต์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางรอบเกาะ เส้นทางมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีภูเขาสูงทอดยาวและบ้านเรือนสไตล์ตะวันตกอินดี้ที่ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ ด้วยร้านอาหารชั้นเลิศที่มีเมนูอร่อยมากมาย และทิวทัศน์อันงดงามที่มองเห็นเกาะ Anguilla มุมมองที่เสน่ห์นี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันล้ำค่า รอคอยให้คุณมาค้นพบความงดงามที่เกาะ Saint Martin!

แนะนำท่าเรือที่ยอดเยี่ยมในหมู่เกาะบริเตน เวอร์จิน ไอแลนด์ กับท่าเรือเกรทฮาร์เบอร์ บนเกาะจอสต์ แวน ไดค์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "เกาะเท้าเปล่า" สถานที่ที่เล็กที่สุดในกลุ่มเกาะนี้ มีชื่อเสียงในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับเรือยอชท์ ด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นมิตร การเดินทางที่นี่ทำให้คุณได้สัมผัสกับชายหาดที่บริสุทธิ์ รายล้อมไปด้วยต้นมะพร้าวและต้นมะไฟ ที่สร้างบรรยากาศแสนผ่อนคลาย เกาะนี้มีประชากรน้อยกว่า 200 คน และชาวเกาะเป็นที่รู้จักในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ว่าจะเป็นบาร์และร้านอาหารริมชายหาดที่ให้บริการเครื่องดื่มขึ้นชื่อเช่น ‘The Painkiller’ ที่มีที่มาจาก Soggy Dollar Bar หรืออึกทึกใน Foxy’s ที่ White Bay ซึ่งเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ทำจากรัมท้องถิ่นและเบียร์เย็นฉ่ำ นอกจากนี้ ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจรอให้คุณค้นหา ตั้งแต่ซากโรงงานน้ำตาลเก่าแก่ไปจนถึงเส้นทางเดินเที่ยวรอบเกาะที่นำคุณสู่จุดสูงสุดของ Majohnny Point ที่มีวิวมหาสมุทรแคริบเบียนอันงดงาม เรียกได้ว่าจอสต์ แวน ไดค์ คือสถานที่ที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถ้าหากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและความประทับใจ จอสต์ แวน ไดค์ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!

เซนต์คิตส์และเนวิส คือสองเกาะที่มีเสน่ห์ในทะเลแคริบเบียน ซึ่งท่าเรือ South Friars Bay เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า สิ่งแรกที่คุณจะสัมผัสคือบรรยากาศที่สงบและงดงาม ทะเลแคริบเบียนที่ใสสะอาดทอดยาวไปกับชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด เป็นฉากที่พร้อมให้คุณได้จับจองพื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ South Friars Bay สะดวกต่อการสำรวจทั้งสองเกาะ และเป็นจุดเริ่มต้นในการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ อาทิเช่น การเดินชมหมู่บ้านเก่าแก่ การชิมอาหารพื้นเมืองที่จัดเต็มด้วยรสชาติและวัตถุดิบสดใหม่ คุณจะได้ลิ้มลองจานเด่นอย่าง "ปลาทอดกับซัลซ่ามะม่วง" หรือ "ต้มมะพร้าว" ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาหารที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ คุณยังสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ เช่น ดำน้ำตื้นหรือเล่นพาราเซลล์ ที่จะทำให้คุณได้สำรวจโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย อัดแน่นไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจของชีวิตทะเล การเดินทางมาที่ South Friars Bay จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ที่ช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณและสร้างความทรงจำที่ยาวนาน มาสัมผัสเสน่ห์ของเซนต์คิตส์และเนวิส กันในทริปที่คุณจะไม่ลืมตลอดชีวิต!

เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ท่าเรือ Îles des Saintes ในเกาะกวาเดอลูป คุณจะพบกับหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์และนิ่งสงบ สถานที่นี้ถูกค้นพบโดยโคลัมบัสในปี 1493 และตั้งชื่อว่า Los Santos ภายหลังมีการตั้งรกรากของชาวฝรั่งเศสในปี 1648 ทำให้เกิดชื่อใหม่ว่า Iles des Saintes ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งตะวันตกของเกาะกวาเดอลูป Îles des Saintes ประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 8 แห่ง แต่มีเพียง 2 แห่งที่มีประชากรอาศัยอยู่ ได้แก่ Terre-de-Bas และ Terre-de-Haut ซึ่ง Terre-de-Haut มีฟอร์ตนาพoleon สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 เพื่อทดแทนป้อมในศตวรรษที่ 17 และจากจุดนี้ คุณสามารถชมวิวของเกาะเล็ก ๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ในอ่าวได้อย่างชัดเจน Terre-de-Haut เป็นเกาะหลักที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม มีหาดทรายละเอียดที่ Grande Anse และหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนหลังคาสีแดงประดับอยู่ตามอ่าวที่โค้งงอ มีร้านค้าเล็ก ๆ และคาเฟ่ที่เชิญชวนให้แวะชมและลิ้มลองอาหารท้องถิ่น การสำรวจ Îles des Saintes เป็นไปอย่างเพลิดเพลิน โดยคุณสามารถเดินชมทิวทัศน์และสัมผัสบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์ ความเงียบสงบและธรรมชาติอันบริสุทธิ์รอคอยให้คุณมาสัมผัส และเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน

ท่าเรือพอร์ตสมุทร (Portsmouth) ตั้งอยู่ในประเทศโดมินิกา เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย นับเป็นจุดหมายปลายทางที่เหล่านักเดินทางไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนโดมินิกา จากท่าเรือนี้ คุณจะได้สัมผัสกับวิวชายหาดที่สวยงามและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พอร์ตสมุทรทำหน้าที่เป็นประตูเข้าสู่แนวปะการังที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “สปานิช ทาวน์” ที่นี่นักดำน้ำสามารถสำรวจความงามใต้ทะเลที่มีทั้งปะการังและปลาแปลกตาหลายชนิด อีกทั้งยังมีกิจกรรมทางน้ำอีกมากมาย เช่น การพายคายัคและการเดินป่าในพื้นที่ป่าแห่งชาติ ร่ำรวยไปด้วยฟอเรสต์จัด ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด นอกจากนั้น พอร์ตสมุทรยังมีตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มอบประสบการณ์ในการชิมอาหารพื้นเมืองที่มีหลากหลายรสชาติ รวมถึงของขวัญและงานฝีมือที่สร้างสรรค์โดยประชาชนในท้องถิ่น เมื่อเยี่ยมชมพอร์ตสมุทร นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบความงามที่ซ่อนอยู่ของโดมินิกา พร้อมสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในทริปท่องเที่ยวอันหรูหราและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น!

เมื่อพูดถึงการเดินทางด้วยเรือสำราญ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือท่าเรือ Pigeon Island ในประเทศเซนต์ลูเซีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามระหว่างทะเลแคริบเบียนที่ส่องประกายระยิบระยับและชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด นอกจากนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เนื่องจากเคยเป็นฐานทัพของกองทัพฝรั่งเศสและอังกฤษในอดีต นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจ Pigeon Island National Landmark ซึ่งให้บริการเส้นทางเดินป่าและชมวิวที่ยอดเยี่ยมของอ่าวที่อยู่รอบๆ จุดเด่นอีกหนึ่งคือการเดินทางไปยัง Ruins of Fort Rodney ซึ่งเป็นซากปรักหักพังที่มีอายุหลายร้อยปี นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่งดงาม สนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ อาทิ ดำน้ำตื้นหรือการตกปลาในน่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และไม่ลืมที่จะใช้เวลาเพลิดเพลินกับการชิมอาหารจานอร่อยจากร้านอาหารท้องถิ่นที่นำเสนอวัฒนธรรมอาหารแคริบเบียนอย่างแท้จริง Pigeon Island เป็นสถานที่ที่นำเสนอประสบการณ์การเดินทางอันทรงคุณค่า พร้อมให้คุณสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในวันหยุดอันแสนพิเศษของคุณในท้องทะเลแคริบเบียน!

ท่าเรือซูเฟรียร์ (Soufrière) ตั้งอยู่ในเซนต์ลูเชีย เป็นเมืองโบราณซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงอาณานิคมฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1746 เมืองเล็กๆ นี้มีเสน่ห์ในตัวเอง โดยตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟที่ชื่อเดียวกัน การเดินทางมายังท่าเรือซูเฟรียร์จะนำคุณไปสัมผัสกับมนตร์เสน่ห์ของอดีตที่ยังคงอยู่ ด้วยอาคารไม้ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมอาณานิคมฝรั่งเศสและสร้างขึ้นล้อมรอบตลาดที่เต็มไปด้วยสีสัน เมื่อเรือสำราญจอดอยู่ในอ่าวซูเฟรียร์ คุณจะรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นในตลาด โดยมีภาพวาดสีสันสดใสประดับอยู่ นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสำรวจความงดงามของธรรมชาติที่โดดเด่นของเซนต์ลูเชีย ทั้งภูเขาพิตอง (Pitons) ที่สูงตระหง่านและภูมิทัศน์ที่แสนร่มรื่น เช่น สวนพฤกษศาสตร์ น้ำตกที่สวยงาม รวมถึง "ภูเขาไฟขับรถเข้าได้" ที่ไม่ควรพลาด ซูเฟรียร์จึงเป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่คุณจะได้ผ่อนคลาย แต่ยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของเซนต์ลูเชีย สัมผัสถึงความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้รอคอยให้คุณได้มาเยือนและสร้างความทรงจำใหม่ที่น่าจดจำในทุกมุมมองของการเดินทางของคุณ.

ท่าเรือที่สวยงามสุดแห่งหนึ่งในเวสต์อินดีส ซันต์วินเซนต์ แอนด์ เดอะเกรนาไดนส์ นั่นคือ ท่าเรือโทบาโกเคย์ส (Tobago Cays) สถานที่ที่เป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในธรรมชาติและทะเลใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการังและอุทยานทางทะเลที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในเขตทะเลแคริบเบียน มีกลุ่มเกาะเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและทรายขาวบริสุทธิ์ การเดินทางมายังท่าเรือโทบาโกเคย์สเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคหรือใช้งานบริการเรือสปีดโบ๊ทเพื่อสำรวจสันทรายและเกาะที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเห็นเต่าทะเลที่ว่ายน้ำผ่านไปมา ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ท่าเรือโทบาโกเคย์สยังเต็มไปด้วยบริการที่ครบครัน ทั้งร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอาหารทะเลสด ๆ พร้อมวิวทะเลที่งดงาม ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับการเดินทาง ครั้งหนึ่งคุณได้เยือนท่าเรือนี้ คุณจะรู้สึกถึงความซาบซึ้งในความงามของธรรมชาติและความผ่อนคลายที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลก มาร่วมเติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณที่โทบาโกเคย์ส และให้ตัวคุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งแคริบเบียน!

เกาะเมย์รู (Mayreau) เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กเพียง 1.5 ตารางไมล์ (3.9 ตารางกิโลเมตร) และเป็นเกาะที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในหมู่เกาะเกรเนดีนส์ เกาะนี้ตั้งอยู่ในประเทศเซนต์ วินเซนต์ซึ่งตั้งอยู่ในทะเล Caribbean ที่สวยงาม โดยมีสองเกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มเกรเนดีนส์คือ มัสติค (Mustique) และเบคี (Bequia) ผู้มาเยือนส่วนใหญ่จะเดินทางมายังเกาะเมย์รูด้วยเรือสำราญ หรือเรือเฟอร์รี่ และยังมีบริการเรือยอชท์ให้เช่า เกาะนี้ปราศจากถนนหลักและสนามบิน มีเพียงหมู่บ้านชื่อว่า "หมู่บ้านที่ไม่มีชื่อ" แต่สิ่งนี้กลับทำให้บรรยากาศของเกาะนี้มีความสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคืออ่าวซาลีน (Saline Bay) ซึ่งมีชายหาดกว้างขวางที่สวยงาม และผู้ค้าในท้องถิ่นที่ขายเสื้อยืดและงานหัตถกรรมของท้องถิ่น อีกทั้งการเดินขึ้นไปยังหมู่บ้านบนเขาจะมอบทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นเกาะเมย์รู ตูบาโกเคย์ (Tobago Cays) และเกาะแครีอากู (Carriacou) ด้วยความงดงามของทิวทัศน์และกิจกรรมดำน้ำตื้นที่นี่ เมย์รูจึงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในทริปนี้

ท่าเรือ Port Elizabeth ใน Bequia คือจุดหมายที่น่าอัศจรรย์ในแถบแคริบเบียน เปรียบเสมือนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง Bequia ซึ่งแปลว่า "เกาะแห่งหมอก" ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งเกรนาดีนส์ โดยมีชายหาดทรายสีทองที่รอให้คุณค้นพบและเพลิดเพลินไปกับน้ำทะเลใสสะอาด ท่าเรือของ Port Elizabeth เป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่สำคัญ นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศของบาร์และร้านอาหารริมทะเลที่มีทั้งเมนูอาหารท้องถิ่นและของที่ระลึกทำมือ อาทิ เรือใบจำลองที่มีรายละเอียดปราณีตซึ่งถือเป็นสินค้าเด่นของ Bequia การเดินทางมายัง Bequia ก็แสนสะดวกสบาย มีบริการเรือเฟอรี่จาก St. Vincent และสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ สุดพิเศษในช่วงวันอีสเตอร์ ยังมีการจัดงาน Regatta ที่เต็มไปด้วยสีสัน ด้วยการแข่งเรือ ขบวนพาเหรดอาหาร ดนตรี และการเต้นรำ เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน Bequia สถานที่ที่ผสมผสานความสงบสุขกับการผจญภัยได้อย่างลงตัว


มาร์ตินีก ไอแลนด์ที่งดงามที่สุดในกลุ่มเกาะลมพัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปารีสถึง 4,261 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมฝรั่งเศสปนกับเสน่ห์แบบแคริบเบียนอย่างลงตัว เมืองฟอร์ต-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเกาะนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เขียวขจี และอาหารที่หลากหลาย รสชาติจะมีการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเครโอเล่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ตินีก ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม คุณจะพบมุงเดียวกันที่มีผลไม้หลากหลาย ตั้งแต่ทุเรียน มะละกอ ไปจนถึงเชอร์รี่ในโทนสีแดงสด หากคุณเป็นนักเดินป่า ทิวเขาและป่าสีเขียวชอุ่มในภาคเหนือจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้น ในขณะที่นักดำน้ำจะต้องหลงรักโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจที่น่าสนใจไปยังเซนต์-ปิแอร์ เมืองที่ประสบภัยจากการปะทุของภูเขาไฟมอนต์เปเล่ในปี 1902 อีกด้วย มาร์ตินีกเตรียมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล รอให้คุณมาผจญภัยในวันหยุดที่แสนหรูหราและน่าจดจำ!






เจ้าของสวีทเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครบนเรือสำราญระดับพรีเมียม มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ห้องนอนมีขนาดใหญ่พิเศษ พร้อมเตียงคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของห้องนี้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำแบบบาลเนียว รวมถึงกระจกอัจฉริยะที่ให้ความสะดวกสบายในทุกการใช้ชีวิต เจ้าของสวีทถูกออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัว มีระเบียงส่วนตัวขนาด 40 ตารางเมตร ที่มีเก้าอี้นอน, จากุชชี่ และพื้นที่รับรองกลางแจ้งซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อน พร้อมด้วยหน้าต่างกระจกพานอรามาให้ทัศนียภาพที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาเตียงคู่และทีวีสองเครื่อง พร้อมบริการบัตเลอร์และการบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกนาทีของการเข้าพักเป็นเรื่องพิเศษ ผู้เข้าพักจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากบริการที่รวมถึงการขนส่งส่วนตัว, การเข้าลานด้วยลำดับความสำคัญ และการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้เมื่อมาถึง พร้อมให้บริการสปา 1 ชั่วโมงต่อคน เพื่อการผ่อนคลายในการเดินทางอย่างมีระดับ นอกจากนี้ยังมีอินเตอร์เน็ตไวไฟและเครื่องชงกาแฟเนสเพรสโซในห้องที่พร้อมให้บริการ นี่คือความหรูหราและความสะดวกสบายที่จะสร้างให้คุณได้สัมผัสกับความสุขในทุก ๆ ช่วงเวลาบนเรือสุดพิเศษนี้




ห้องสวีทแกรนด์เดอลักซ์คือห้องพักสุดหรูที่มอบความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง โดยภายในห้องจะมีพื้นที่ขนาด 32 ตารางเมตร กับระเบียงส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีเก้าอี้สะพายสบายและโต๊ะรับประทานอาหารที่รองรับสี่คน นอกจากนี้ยังมีห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง พร้อมทั้งห้องนั่งเล่นที่สามารถปรับเป็นเตียงคู่ได้ ห้องน้ำกว้างขวางมีทั้งฝักบัวและอ่างจากุซซี่สำหรับการผ่อนคลาย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องรวมถึงบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ตไวไฟแบบไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) ระบบปรับอากาศแบบควบคุมได้เอง เคาน์เตอร์แต่งตัวพร้อมชั้นวางและตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งตัวพร้อมเครื่องเป่าผม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบรนด์ Clarins สำหรับบำรุงผิวระดับพรีเมี่ยม และมินิบาร์ที่มีเครื่องชงกาแฟ Nespresso นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถรับชมช่องสัญญาณต่างประเทศและวิดีโอตามต้องการ ผู้เข้าพักในห้องนี้จะได้รับบริการพิเศษ เช่น การขึ้นเรือก่อนใคร แชมเปญและผลไม้ต้อนรับในวันแรก รวมถึงบริการบัตเลอร์ที่มอบความสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก พร้อมทั้งผลไม้สดทุกวันเพื่อเติมเต็มความสดชื่นให้แก่การพักผ่อนของคุณ ห้องสวีทแกรนด์เดอลักซ์จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การล่องเรืออย่างหรูหราและมีสไตล์







ห้องสวีทพิเศษมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันหรูหราในบรรยากาศที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว ด้วยพื้นที่กว้างขวางและการออกแบบที่ทันสมัย ห้องสวีทนี้มีขนาด 8 ตารางเมตรสำหรับระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ตัวเพื่อให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับวิวอันงดงามได้อย่างเต็มที่ ภายในห้องประกอบด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ 180 x 200 เซนติเมตร หรือเตียงเดี่ยว 90 x 200 เซนติเมตร และยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่มาพร้อมกับเก้าอี้นวมเพื่อความสะดวกสบาย ท่านจะได้สัมผัสกับบริการระดับพรีเมี่ยม รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวและการบริการที่หรูหรา เช่น ไวน์และผลไม้ต้อนรับเมื่อท่านเข้าพัก นอกจากนี้ ยังมีระบบอากาศที่ควบคุมได้เอง และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายที่จะช่วยให้ท่านเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา ห้องน้ำมีการออกแบบอย่างสวยงามพร้อมฝักบัว และยังมีผลิตภัณฑ์อาบน้ำจากแบรนด์ Clarins ที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อการดูแลผิวพรรณของท่าน ตัวเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกยังรวมถึงมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ลำโพง Bluetooth จาก Bose โทรศัพท์สายตรง โทรทัศน์จอแบนพร้อมช่องสัญญาณต่างประเทศและวิดีโอตามสั่ง สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้จะทำให้การพักผ่อนของท่านในห้องสวีทพิเศษเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายอย่างแท้จริง





เพรสทีจสวีทเป็นที่พักที่มีความหรูหราและทันสมัย มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับการพักผ่อนของคุณ ภายในห้องมีการควบคุมอุณหภูมิที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์) สำหรับการผ่อนคลายอย่างเต็มที่ อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้แก่ โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเครื่องเป่าผม, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวระดับพรีเมียมจาก Clarins, มินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso และตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์ ภายในเพรสทีจสวีทประกอบด้วยห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซซ์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง และพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถเปลี่ยนโซฟาเป็นเตียงขนาดคิงไซซ์ได้ มีห้องน้ำสองห้องพร้อมฝักบัวสำหรับความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตรที่มองเห็นวิวทะเล พร้อมเก้าอี้ปรับนอนสี่ตัวและหน้าต่างกันเสียงแบบเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและเปิดกว้าง ผู้เข้าพักที่เลือกเพรสทีจสวีทจะได้รับบริการพิเศษ เช่น การขึ้นเรือก่อนเป็นลำดับแรก, แชมเปญและผลไม้ต้อนรับ, บริการบัตเลอร์, และขนมขบเคี้ยวรูปแบบต่างๆ ทุกวัน ซึ่งทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจและความสะดวกสบายที่เหนือระดับ








ห้องสวีทระดับพรีเมียมมอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราและสะดวกสบาย พื้นที่ภายในห้องกว้างขวางพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยว ที่นุ่มสบาย พร้อมมุมพักผ่อนที่มีเก้าอี้และโซฟา สำหรับการผ่อนคลาย ห้องนี้ยังมีห้องน้ำที่ทันสมัยพร้อมฝักบัว และระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตรที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวยงาม มีการตกแต่งในสไตล์ทันสมัยและมีความเป็นส่วนตัว ผู้เข้าพักจะได้รับบริการที่ครบครัน เช่น บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ตไร้สายเข้าถึงได้แบบไม่จำกัด รวมถึงเครื่องเล่นเพลงบลูทูธจาก Bose และโทรทัศน์จอแบนที่สามารถรับชมช่องรายการนานาชาติได้ นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์และเครื่องชงกาแฟ Nespresso เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในระหว่างการเข้าพัก ด้วยการบริการที่เฉพาะตัวซึ่งรวมถึงการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้ เมื่อคุณเข้าสู่ห้องนี้ คุณจะได้สัมผัสถึงความหรูหราและความสะดวกสบายที่ครบครันอย่างแท้จริง ห้องสวีทระดับพรีเมียมจึงเป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร.





ห้องพักพรีเมียมบนเรือสำราญของเราออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและความหรูหรา โดยมีพื้นที่กว้างขวางและการจัดแต่งที่ทันสมัย ห้องพักนี้มาพร้อมกับเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง พร้อมด้วยโซฟาเล็กและห้องน้ำที่มีฝักบัว สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตร พร้อมเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน นอกจากนี้ หน้าต่างแบบเลื่อนหรือประตูสไลด์กระจกที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันงดงามยังเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนอีกด้วย ห้องพักพรีเมียมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง, ระบบ Wi-Fi ที่รวมอยู่ (ขึ้นอยู่กับการเดินทาง), และระบบปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, โทรทัศน์จอแบนพร้อมช่องสัญญาณต่างประเทศ, และลำโพง Bluetooth ของ Bose เพื่อเพิ่มความบันเทิงในการอยู่พักผ่อน การออกแบบห้องพักถูกเลือกด้วยผลิตภัณฑ์จาก Clarins และมีห้องแต่งตัวที่มีชั้นวางและตู้เสื้อผ้า เพื่อให้คุณสบายที่สุดในทุกช่วงเวลาที่อยู่บนเรือ。





ห้องสวีทระดับพรีเมียมนี้มีขนาดกว้างขวาง พร้อมให้บริการความสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริการรูมเซอร์วิสและการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต Wifi ที่รวมอยู่ในห้องพัก (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือและละติจูด) ภายในห้องจะมีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง ห้องแต่งตัวพร้อมชั้นวางและตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งและไดร์เป่าผม รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นเยี่ยมจาก Clarins นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso และตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนโทรศัพท์พื้นฐาน ลำโพง Bluetooth ของ Bose และโทรทัศน์จอแบนที่ให้ชมช่องต่างประเทศ (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) พร้อมวิดีโอออนดีมานด์ ห้องนี้มีเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) พร้อมโทรทัศน์ และห้องน้ำที่มีฝักบัวสระน้ำ ขอบเขตการชมวิวจากระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตร.ม. ที่มีเก้าอี้สองตัว รวมถึงประตูสวิงแบบกระจกที่มีวิวพาโนรามาและหน้าต่างสี่เหลี่ยมจะเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและความหรูหราในการเข้าพักของคุณในห้องสวีทระดับพรีเมียมแห่งนี้