ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

เดินทางสู่เกาะมิเซต (Mljet Island) หนึ่งในเพชรน้ำงามของโครเอเชีย ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลอาดริอาติก เกาะนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ตั้งแต่ช่วงเวลาที่คุณก้าวเท้าลงจากเรือสำราญ คุณจะถูกผสมผสานด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ทะเลสาบเกลือที่แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และภูเขา มิเซตไม่เพียงมีความงามตามธรรมชาติ แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เช่น อารามเบเนดิกตินที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบที่ชวนให้หลงไหล นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินป่าและเส้นทางปั่นจักรยาน ที่คอยดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย บริเวณท่าเรือ คุณสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านร้านคาเฟ่ที่บริการอาหารทะเลสดใหม่และไวน์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้น เมื่อลงจากเรือสำราญที่ท่าเรือมิเซต อย่าลืมสำรวจความงามสวยงามของเกาะนี้และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่น่าหลงใหล รับประกันว่าจะทำให้คุณหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของโครเอเชียอย่างแน่นอน

ท่าเรือเกาะ Korčula ตั้งอยู่ในทะเลเอเดรียติกทางใต้ของโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเกาะที่มีความงดงามซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับสวนอีเดนสมัยใหม่ ด้วยแสงแดดที่ส่องสว่างเฉลี่ยถึง 3,000 ชั่วโมงต่อปี เกาะ Korčula มอบความหลากหลายของพืชพรรณแบบเมดิเตอร์เรเนียนอันมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ เมืองหลักของเกาะชื่อเดียวกับเกาะ Korčula มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของเกาะ ความโดดเด่นของ Korčula มาจากการที่ตั้งอยู่ในเส้นทางการค้าทางทะเล ทำให้มีการเข้ามาของผู้คนจากหลายวัฒนธรรม ตั้งแต่ชาวกรีก คาบสมุทรอิลลิรีน โรมัน จนถึงชาวโครแอต นอกจากนี้ Korčula ยังเป็นบ้านเกิดของมาร์โก โปโล นักเดินทางชื่อดัง จากบ้านที่กล่าวกันว่าเป็นสถานที่เกิดของเขา ซึ่งอยู่ในเมือง คุณจะได้สัมผัสประเพณีต่างๆ เช่น การแสดงมอเรสก้าสุดตระการตา ซึ่งมีการแสดงมานานกว่า 400 ปี สำหรับผู้มาเยือนที่ท่าเรือ Korčula สิ่งที่น่าสนใจรอให้คุณสำรวจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์เมือง และคลังศาสนาของบิชอป ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความงดงามตามธรรมชาติและบรรยากาศยุคกลางของเกาะ ที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นความทรงจำอันล้ำค่า

เมืองโคมารี่ (Komiza) ตั้งอยู่บนเกาะวิซ (Vis) ของประเทศโครเอเชีย เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย เป็นจุดหมายปลายทางที่เพอเฟกต์สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ ท่าเรือน่ารักของโคมารี่จัดเป็นแห่งแรกที่ผู้โดยสารเรือสำราญจะได้สัมผัส กับบรรยากาศของหมู่บ้านชาวประมงอันดั้งเดิมทอดยาวอยู่ริมทะเลสีน้ำเงินใส ความพิเศษของโคมารี่ไม่เพียงแต่ท่าเรือที่สวยงาม ยังรวมไปถึงหาดทรายที่งดงามและเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่จุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำ, ดำน้ำตื้น หรือท่องเที่ยวไปยังเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะบราč (Brač) ที่มีชายหาดซุปเปอร์เทสท์ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ โคมารี่ยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารอันเลิศรสจากวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างสดใหม่ ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ในทุกๆ มื้อ ปิ้งย่างซีฟู้ดสดใหม่พร้อมกับไวน์จากเขตนี้คือสิ่งที่ไม่ควรพลาด หากคุณมองหาจุดหมายที่รวมความสวยงามของธรรมชาติเข้ากับของดีจากวัฒนธรรมท้องถิ่น โคมารี่จะสร้างความทรงจำอันงดงามให้กับการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน

วิส (Vis Island) เป็นเกาะที่มีเสน่ห์อยู่ในประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของทะเลและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ไว้ ถือเป็นท่าเรือที่มีเอกลักษณ์ การเยือนวิสจึงเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์อันหลากหลาย ตั้งแต่การสำรวจหมู่บ้านทะเลที่มีเสน่ห์ เช่น เมืองวิส (Vis Town) ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไปจนถึงการเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงามอันเงียบสงบ เกาะนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องไวน์ท้องถิ่นและอาหารทะเลสดๆ ที่ถูกปรุงด้วยสูตรดั้งเดิม การได้สัมผัสรสชาติต้นตำรับที่เสิร์ฟในบรรยากาศทะเลสวยๆ เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ผู้เดินทางยังสามารถใช้เวลาในการดำน้ำที่อ่าวที่มีชื่อเสียง เช่น ACI Marina Vis และชมโลกใต้ทะเลที่อุดมไปด้วยความหลากหลายของชีวิตทะเล ในขณะที่คุณสำรวจท่าเรือและสัมผัสถึงความอบอุ่นของชาวเกาะ คุณจะได้ค้นพบความลับที่แท้จริงของวิส ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลเอเดรียติกซึ่งสวยงามและน่าหลงใหลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางอันน่าทึ่งที่จะสร้างความทรงจำอันยาวนานในหัวใจของคุณที่เกาะวิส.

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

ท่าเรือพากา (Parga) ในกรีซ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์อันหรูหราและความงามของธรรมชาติที่เปล่งประกาย สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกของกรีซ และเป็นเมืองท่าที่มีบรรยากาศโรแมนติกและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมื่อคุณมาถึงท่าเรือพากา คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลอิโอเนียน พื้นที่รอบกายประกอบด้วยบ้านเรือนสีสันสดใสที่ตั้งอยู่เรียงรายไปตามเนินเขา เปล่งปลั่งไปด้วยวัฒนธรรมกรีกโบราณ เมืองนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่และขนมท้องถิ่นอันอร่อย พร้อมทั้งร้านค้าเล็ก ๆ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำมือ และของที่ระลึก สำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาความผ่อนคลาย ท่าเรือพากายังมีกิจกรรมสำคัญ เช่น ท่องเที่ยวด้วยเรือหรือนั่งเรือออกไปสู่เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง และไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมปราสาทโบราณที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลได้อย่างชัดเจน เมื่อเลือกเดินทางไปยังท่าเรือพากา คุณจะได้สัมผัสกับความงาม ความมีเสน่ห์ และประสบการณ์ที่น่าจดจำ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณต้องการกลับมาอีกครั้งในอนาคต

กัลลิโปลี (Gallipoli) เมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะ "เมืองที่สวยงาม" ตามที่ชาวกรีกโบราณเรียกไว้ ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ชายฝั่งทะเลไอออเนียน เชื่อมโยงกับแผ่นดินใหญ่ผ่านสะพานจากศตวรรษที่ 17 ความงดงามของเมืองเก่าที่มีถนนซอยทรงอ้อยอิ่งทำให้ผู้เยี่ยมชมตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส กัลลิโปลี ตั้งอยู่ในภูมิภาคซาเลนโด้ (Salento) ที่ปลายสุดด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอิตาลี นอกจากความงามของธรรมชาติแล้ว เมืองนี้ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ถูกกำหนดโดยวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกรีก นอร์แมน ไบเซนไทน์ และบาร็อค ซึ่งสะท้อนให้เห็นในสถาปัตยกรรมและศิลปะของเมือง หนึ่งในจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ ฟิล่าคนเซนต์อากาตา (Basilica of Sant’Agata) ซึ่งมีฟาซาดที่สวยงามของศตวรรษที่ 17 และภายในมีผลงานศิลปะที่สำคัญจากศิลปินท้องถิ่นชื่อดัง โจวานนี อันเดรีย โคปโปล่า เมืองกัลลิโปลีจึงเป็นสถานที่ที่มีทุกสิ่งครบครัน ทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และศิลปะ มันมอบประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เข้ามาเยือน ทำให้ทุกครั้งที่มาเยือนเป็นเหมือนการกลับบ้านที่สวยงามและน่าหลงไหลในลมหายใจแห่งอดีตของอิตาลี

ท่าเรือทาออร์มินา (Taormina) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคกลาง อีกทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ความงดงามของทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทะเลและภูเขาเอทนา (Mt. Etna) ที่มีปีกหิมะปกคลุม ทำให้ทาออร์มินากลายเป็นภาพมุมกว้างที่น่าทึ่ง ซึ่งดีที่สุดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ชาวกรีกจากนาคซอส (Naxos) ตั้งรกรากเมื่อศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ยิ่งไปกว่านั้น วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างของโกเธ่และดี. เอช. ลอเรนซ์ ก็ได้เขียนถึงความงามของที่นี่ ทำให้เมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน นอกจากถนนที่มีร้านค้าแบรนด์เนมเรียงรายแล้ว ทาออร์มินายังมีเส้นทางเดินเขาที่สวยงามที่เลาะเลียบไปตามเนินเขารอบๆ ซึ่งนำคุณไปสู่วิวที่หาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะการไต่ขึ้นไปยังคาสเตลโมล่า (Castelmola) เพื่อสัมผัสความเป็นอมตะของทัศนียภาพที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งนี้ เชิญสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจในทาออร์มินาและค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รอให้คุณมาเยือน!

วัลเลตตา เมืองหลวงสุดหรูของประเทศมอลตา นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการเดินทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีตของพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการสีครีมอันงดงาม จะทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อก้าวเข้าสู่อาณาเขตแห่งนี้ การสำรวจเมืองวัลเลตตานั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินสำรวจถนนสายหลักอย่าง Triq Repubblika ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก พร้อมด้วย Triq Mercante ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเริ่มต้นการเดินทางในวัลเลตตาคือ City Gate ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมือง ใช้เวลาพักผ่อนที่ออฟฟิศข้อมูลนักท่องเที่ยวบน Triq Mercante เพื่อรับแผนที่และข้อมูลสำคัญก่อนการเดินทาง ต่อด้วยการเลือกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และสถานที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้ง วัลเลตตาไม่เพียงแต่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่รอคอยให้คุณเดินทางมาสัมผัสและสร้างความทรงจำใหม่ในทุกย่างก้าว