
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เลอ ลาปีรูส
Ponant
คาริเบeanเป็นเหมือนภาพเคลื่อนไหวของภูมิประเทศ ที่จะเผยให้เห็นชายหาดทรายขาวที่สวยงาม อ่าวลับที่มีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว และภูมิประเทศที่มีภูเขาไฟซึ่งปกคลุมด้วยป่าเขตร้อน ในเส้นทางที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบเครโอลอย่างแสนสบายและอัศจรรย์ทางธรรมชาติ ขณะแล่นเรือจากหมู่เกาะหนึ่งไปยังอีกหมู่เกาะหนึ่ง ท่าเรือที่แวะจอดจะแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์อันละเอียดอ่อนของหมู่เกาะเมืองหลวงที่มีมรดกที่หลากหลายและเข้มข้น สถานที่มรดกโลกของยูเนสโกอันงดงาม และหมู่บ้านที่มีสีสันซึ่งเป็นที่ถูกพัดด้วยลมการค้า บนฝั่งและกลางทะเล ทุกวันที่จะเชิญชวนคุณให้หลีกหนีจากทุกสิ่ง — ผ่านกิจกรรมดำน้ำ ตลอดจนเดินชม ดำน้ำลึก และเดินเล่นในแบบคาริเบean
ครูสอนดำน้ำที่มีประสบการณ์จะอยู่บนเรือ throughout the cruise จะช่วยให้คุณสนุกสนานไปกับการว่ายน้ำและการดำน้ำอย่างปลอดภัย


มาร์ตินีก ไอแลนด์ที่งดงามที่สุดในกลุ่มเกาะลมพัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปารีสถึง 4,261 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมฝรั่งเศสปนกับเสน่ห์แบบแคริบเบียนอย่างลงตัว เมืองฟอร์ต-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเกาะนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เขียวขจี และอาหารที่หลากหลาย รสชาติจะมีการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเครโอเล่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ตินีก ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม คุณจะพบมุงเดียวกันที่มีผลไม้หลากหลาย ตั้งแต่ทุเรียน มะละกอ ไปจนถึงเชอร์รี่ในโทนสีแดงสด หากคุณเป็นนักเดินป่า ทิวเขาและป่าสีเขียวชอุ่มในภาคเหนือจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้น ในขณะที่นักดำน้ำจะต้องหลงรักโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจที่น่าสนใจไปยังเซนต์-ปิแอร์ เมืองที่ประสบภัยจากการปะทุของภูเขาไฟมอนต์เปเล่ในปี 1902 อีกด้วย มาร์ตินีกเตรียมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล รอให้คุณมาผจญภัยในวันหยุดที่แสนหรูหราและน่าจดจำ!

ท่าเรือแอนติกาในประเทศแอนติกาและบาร์บูดาเป็นจุดหมายปลายทางที่เปล่งประกายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ท่าเรือแห่งนี้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร พร้อมด้วยทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่งดงามกว่า 365 แห่ง ทุกวันในปีคุณสามารถพบชายหาดใหม่ที่ต้องการสำรวจ เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้ามาในท่าเรือแอนติกา จะมีโอกาสให้คุณสำรวจเมืองหลวงของเกาะนี้ที่ชื่อว่าเซนต์จอร์จส์ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยอาคารเก่าแก่ที่รักษาไว้เป็นอย่างดี และตลาดท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา ที่ผู้มาเยือนสามารถซื้อของที่ระลึกและลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หากคุณรักการผจญภัย การดำน้ำตื้นตามแนวปะการังที่อ่าวเจอลีซหรือการพายเรือคายัคในน้ำใส ก็เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ทริปที่น่าสนใจยังรวมถึงการไปเยี่ยมชมฟาร์มเหล้ารัมเพื่อประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตเหล้าท้องถิ่น แอนติกายังมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่โดดเด่น และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอุ่นใจ รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสและสร้างความทรงจำอันล้ำค่าในภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของแคริบเบียน

เชิงอรรถอันแลกล้อมล้อมแสงแดดอันสดใส สู่ท่าเรือชาร์ลส์ทาวน์ (Charlestown) ในเซนต์คิตส์และเนวิส ที่ตั้งอยู่ในส่วนของทะเลแคริบเบียน ดินแดนนี้ไม่เพียงแต่มีความงดงามของธรรมชาติที่งดงาม ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง เมื่อเรือสำราญนำคุณมาถึงที่ท่าเรือชาร์ลส์ทาวน์ คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยบรรยากาศอันสดชื่นจากลมทะเลและเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ท่าเรือนี้ถือเป็นประตูสู่การสำรวจดินแดนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่จะทำให้คุณหลงใหลในเสน่ห์แห่งเกาะ การเดินชมเมืองและสัมผัสกับสถาปัตยกรรมอันมีเสน่ห์อย่างบ้านเรือนโบราณอายุกว่าศตวรรษ พร้อมทั้งการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวของท่าเรือในอดีต การเดินทางไปยังสนามรบไบรด์ (Brimstone Hill Fortress) ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ควรเพลิดเพลิน เพื่อสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของเรื่องราวความเป็นมาของเกาะ ยิ่งไปกว่านั้น ใต้ท้องทะเลจุดดำน้ำบริเวณเกาะนอกชายฝั่งยังเป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำ ที่จะได้เห็นแนวประการังที่มีชีวิตชีวาและประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยสีสันระดับโลก เป็นไปได้ว่า ชาร์ลส์ทาวน์จะกลายเป็นหนึ่งในรักแรกของคุณในทริปการล่องเรืออันแสนพิเศษ หากคุณกำลังมองหาความหรูหราและการผจญภัยอย่างแท้จริง ในสถานที่ที่มีความเป็นเอกลักษณ์แห่งนี้

แนะนำท่าเรือที่ยอดเยี่ยมในหมู่เกาะบริเตน เวอร์จิน ไอแลนด์ กับท่าเรือเกรทฮาร์เบอร์ บนเกาะจอสต์ แวน ไดค์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "เกาะเท้าเปล่า" สถานที่ที่เล็กที่สุดในกลุ่มเกาะนี้ มีชื่อเสียงในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับเรือยอชท์ ด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นมิตร การเดินทางที่นี่ทำให้คุณได้สัมผัสกับชายหาดที่บริสุทธิ์ รายล้อมไปด้วยต้นมะพร้าวและต้นมะไฟ ที่สร้างบรรยากาศแสนผ่อนคลาย เกาะนี้มีประชากรน้อยกว่า 200 คน และชาวเกาะเป็นที่รู้จักในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ว่าจะเป็นบาร์และร้านอาหารริมชายหาดที่ให้บริการเครื่องดื่มขึ้นชื่อเช่น ‘The Painkiller’ ที่มีที่มาจาก Soggy Dollar Bar หรืออึกทึกใน Foxy’s ที่ White Bay ซึ่งเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ทำจากรัมท้องถิ่นและเบียร์เย็นฉ่ำ นอกจากนี้ ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจรอให้คุณค้นหา ตั้งแต่ซากโรงงานน้ำตาลเก่าแก่ไปจนถึงเส้นทางเดินเที่ยวรอบเกาะที่นำคุณสู่จุดสูงสุดของ Majohnny Point ที่มีวิวมหาสมุทรแคริบเบียนอันงดงาม เรียกได้ว่าจอสต์ แวน ไดค์ คือสถานที่ที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถ้าหากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและความประทับใจ จอสต์ แวน ไดค์ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แปลกใหม่และน่าจดจำ ท่าเรือ Spanish Town บนเกาะ Virgin Gorda จะทำให้คุณหลงรักในเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อบอุ่นที่นี่ได้อย่างไม่ยากเย็น “Virgin Gorda” หรือ “สาวอ้วนนั้น” ได้ชื่อเรียกมาจากการที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส มองเห็นลักษณะภูมิประเทศที่คล้ายหญิงสาวตั้งครรภ์ โดยที่ยอดเขากอร์ด้าเปรียบเสมือนพุงของเธอ ขณะที่ก้อนหินที่ถูกขนานนามว่า “Baths” ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของการเดินทาง ซึ่งเป็นจุดหมายที่ทุกคนไม่ควรพลาด บริเวณที่นี่มีบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นกันเอง ชีวิต ณ Virgin Gorda ช้าและผ่อนคลาย ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตจริง ๆ อย่างแพะและวัวมีสิทธิในการเดินทางมากกว่าผู้คน ความเป็นมิตรที่เรียบง่ายของชาวบ้านทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นใจ “Baths” นับเป็นไฮไลต์ที่ต้องไปเยือน โดยที่ก้อนหินขนาดใหญ่และน้ำทะเลใส เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้นและผู้ที่รักกิจกรรมกลางแจ้ง แน่นอนว่าการได้สัมผัสความงามของ Virgin Gorda จะเติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณอย่างแท้จริง!

เกาะแซงต์บาร์เธเลมี (Saint Barthélemy) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหราสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในความงดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะท่าเรือกุสตาเวีย (Gustavia) ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเกาะนี้ นอกจากจะเป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด การสำรวจท่าเรือกุสตาเวียภายในระยะเวลาสองชั่วโมงเป็นเรื่องง่ายดาย เพลิดเพลินไปกับการเดินชมร้านค้าหรูหราและบูติกต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง จนกระทั่งล็อกเวลาเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เนื่องจากหลายร้านจะปิดตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสามหรือสี่โมงเย็น แต่ไม่ต้องห่วง ร้านค้าและบาร์จะเปิดจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มให้คุณได้ใช้จ่ายกันอย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกัน การจอดรถอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล แต่ถ้าคุณมุ่งหน้าไปยัง rue de la République จะพบสถานที่จอดรถที่กลุ่มเรือแล่นไปมาทำให้การมาที่นี่ง่ายขึ้น อีกทั้งการเดินชมวิวทะเลสวย ๆ ยังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ใครหลายคนหลงรัก สนุกสนานกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจในกุสตาเวีย เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หรูหราเหนือระดับในเกาะแซงต์บาร์เธเลมีแห่งนี้!

เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ท่าเรือ Îles des Saintes ในเกาะกวาเดอลูป คุณจะพบกับหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์และนิ่งสงบ สถานที่นี้ถูกค้นพบโดยโคลัมบัสในปี 1493 และตั้งชื่อว่า Los Santos ภายหลังมีการตั้งรกรากของชาวฝรั่งเศสในปี 1648 ทำให้เกิดชื่อใหม่ว่า Iles des Saintes ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งตะวันตกของเกาะกวาเดอลูป Îles des Saintes ประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 8 แห่ง แต่มีเพียง 2 แห่งที่มีประชากรอาศัยอยู่ ได้แก่ Terre-de-Bas และ Terre-de-Haut ซึ่ง Terre-de-Haut มีฟอร์ตนาพoleon สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 เพื่อทดแทนป้อมในศตวรรษที่ 17 และจากจุดนี้ คุณสามารถชมวิวของเกาะเล็ก ๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ในอ่าวได้อย่างชัดเจน Terre-de-Haut เป็นเกาะหลักที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม มีหาดทรายละเอียดที่ Grande Anse และหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนหลังคาสีแดงประดับอยู่ตามอ่าวที่โค้งงอ มีร้านค้าเล็ก ๆ และคาเฟ่ที่เชิญชวนให้แวะชมและลิ้มลองอาหารท้องถิ่น การสำรวจ Îles des Saintes เป็นไปอย่างเพลิดเพลิน โดยคุณสามารถเดินชมทิวทัศน์และสัมผัสบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์ ความเงียบสงบและธรรมชาติอันบริสุทธิ์รอคอยให้คุณมาสัมผัส และเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน

เมื่อพูดถึงการเดินทางด้วยเรือสำราญ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือท่าเรือ Pigeon Island ในประเทศเซนต์ลูเซีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามระหว่างทะเลแคริบเบียนที่ส่องประกายระยิบระยับและชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด นอกจากนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เนื่องจากเคยเป็นฐานทัพของกองทัพฝรั่งเศสและอังกฤษในอดีต นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจ Pigeon Island National Landmark ซึ่งให้บริการเส้นทางเดินป่าและชมวิวที่ยอดเยี่ยมของอ่าวที่อยู่รอบๆ จุดเด่นอีกหนึ่งคือการเดินทางไปยัง Ruins of Fort Rodney ซึ่งเป็นซากปรักหักพังที่มีอายุหลายร้อยปี นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่งดงาม สนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ อาทิ ดำน้ำตื้นหรือการตกปลาในน่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และไม่ลืมที่จะใช้เวลาเพลิดเพลินกับการชิมอาหารจานอร่อยจากร้านอาหารท้องถิ่นที่นำเสนอวัฒนธรรมอาหารแคริบเบียนอย่างแท้จริง Pigeon Island เป็นสถานที่ที่นำเสนอประสบการณ์การเดินทางอันทรงคุณค่า พร้อมให้คุณสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในวันหยุดอันแสนพิเศษของคุณในท้องทะเลแคริบเบียน!

ท่าเรือซูเฟรียร์ (Soufrière) ตั้งอยู่ในเซนต์ลูเชีย เป็นเมืองโบราณซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงอาณานิคมฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1746 เมืองเล็กๆ นี้มีเสน่ห์ในตัวเอง โดยตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟที่ชื่อเดียวกัน การเดินทางมายังท่าเรือซูเฟรียร์จะนำคุณไปสัมผัสกับมนตร์เสน่ห์ของอดีตที่ยังคงอยู่ ด้วยอาคารไม้ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมอาณานิคมฝรั่งเศสและสร้างขึ้นล้อมรอบตลาดที่เต็มไปด้วยสีสัน เมื่อเรือสำราญจอดอยู่ในอ่าวซูเฟรียร์ คุณจะรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นในตลาด โดยมีภาพวาดสีสันสดใสประดับอยู่ นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสำรวจความงดงามของธรรมชาติที่โดดเด่นของเซนต์ลูเชีย ทั้งภูเขาพิตอง (Pitons) ที่สูงตระหง่านและภูมิทัศน์ที่แสนร่มรื่น เช่น สวนพฤกษศาสตร์ น้ำตกที่สวยงาม รวมถึง "ภูเขาไฟขับรถเข้าได้" ที่ไม่ควรพลาด ซูเฟรียร์จึงเป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่คุณจะได้ผ่อนคลาย แต่ยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของเซนต์ลูเชีย สัมผัสถึงความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้รอคอยให้คุณได้มาเยือนและสร้างความทรงจำใหม่ที่น่าจดจำในทุกมุมมองของการเดินทางของคุณ.

เกาะเมย์รู (Mayreau) เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กเพียง 1.5 ตารางไมล์ (3.9 ตารางกิโลเมตร) และเป็นเกาะที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในหมู่เกาะเกรเนดีนส์ เกาะนี้ตั้งอยู่ในประเทศเซนต์ วินเซนต์ซึ่งตั้งอยู่ในทะเล Caribbean ที่สวยงาม โดยมีสองเกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มเกรเนดีนส์คือ มัสติค (Mustique) และเบคี (Bequia) ผู้มาเยือนส่วนใหญ่จะเดินทางมายังเกาะเมย์รูด้วยเรือสำราญ หรือเรือเฟอร์รี่ และยังมีบริการเรือยอชท์ให้เช่า เกาะนี้ปราศจากถนนหลักและสนามบิน มีเพียงหมู่บ้านชื่อว่า "หมู่บ้านที่ไม่มีชื่อ" แต่สิ่งนี้กลับทำให้บรรยากาศของเกาะนี้มีความสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคืออ่าวซาลีน (Saline Bay) ซึ่งมีชายหาดกว้างขวางที่สวยงาม และผู้ค้าในท้องถิ่นที่ขายเสื้อยืดและงานหัตถกรรมของท้องถิ่น อีกทั้งการเดินขึ้นไปยังหมู่บ้านบนเขาจะมอบทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นเกาะเมย์รู ตูบาโกเคย์ (Tobago Cays) และเกาะแครีอากู (Carriacou) ด้วยความงดงามของทิวทัศน์และกิจกรรมดำน้ำตื้นที่นี่ เมย์รูจึงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในทริปนี้

ท่าเรือที่สวยงามสุดแห่งหนึ่งในเวสต์อินดีส ซันต์วินเซนต์ แอนด์ เดอะเกรนาไดนส์ นั่นคือ ท่าเรือโทบาโกเคย์ส (Tobago Cays) สถานที่ที่เป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในธรรมชาติและทะเลใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการังและอุทยานทางทะเลที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในเขตทะเลแคริบเบียน มีกลุ่มเกาะเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและทรายขาวบริสุทธิ์ การเดินทางมายังท่าเรือโทบาโกเคย์สเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคหรือใช้งานบริการเรือสปีดโบ๊ทเพื่อสำรวจสันทรายและเกาะที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเห็นเต่าทะเลที่ว่ายน้ำผ่านไปมา ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ท่าเรือโทบาโกเคย์สยังเต็มไปด้วยบริการที่ครบครัน ทั้งร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอาหารทะเลสด ๆ พร้อมวิวทะเลที่งดงาม ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับการเดินทาง ครั้งหนึ่งคุณได้เยือนท่าเรือนี้ คุณจะรู้สึกถึงความซาบซึ้งในความงามของธรรมชาติและความผ่อนคลายที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลก มาร่วมเติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณที่โทบาโกเคย์ส และให้ตัวคุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งแคริบเบียน!

ท่าเรือ Port Elizabeth ใน Bequia คือจุดหมายที่น่าอัศจรรย์ในแถบแคริบเบียน เปรียบเสมือนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง Bequia ซึ่งแปลว่า "เกาะแห่งหมอก" ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งเกรนาดีนส์ โดยมีชายหาดทรายสีทองที่รอให้คุณค้นพบและเพลิดเพลินไปกับน้ำทะเลใสสะอาด ท่าเรือของ Port Elizabeth เป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่สำคัญ นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศของบาร์และร้านอาหารริมทะเลที่มีทั้งเมนูอาหารท้องถิ่นและของที่ระลึกทำมือ อาทิ เรือใบจำลองที่มีรายละเอียดปราณีตซึ่งถือเป็นสินค้าเด่นของ Bequia การเดินทางมายัง Bequia ก็แสนสะดวกสบาย มีบริการเรือเฟอรี่จาก St. Vincent และสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ สุดพิเศษในช่วงวันอีสเตอร์ ยังมีการจัดงาน Regatta ที่เต็มไปด้วยสีสัน ด้วยการแข่งเรือ ขบวนพาเหรดอาหาร ดนตรี และการเต้นรำ เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน Bequia สถานที่ที่ผสมผสานความสงบสุขกับการผจญภัยได้อย่างลงตัว

เมื่อพูดถึงหมู่เกาะแคริบเบียน หลายคนอาจนึกถึงความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ในจำนวนนี้ "เซนต์ปีแอร์" (Saint Pierre) บนเกาะมาร์ตีนีคก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์ที่มีความหมาย เซนต์ปีแอร์ เคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองที่สุดในมาร์ตีนีค จนกระทั่งเกิดการระเบิดของภูเขาไฟเปลอรีในปี 1902 อย่างไรก็ตาม ความงามของซากเมืองเก่ากลับสร้างเสน่ห์อย่างน่าหลงใหล นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมระหว่างซากปรักหักพังและซากพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของอดีต หรือจะออกไปสัมผัสน้ำทะเลใสสะอาดที่ชายหาดที่น่าทึ่งอย่าง "แบล็กซานด์บีช" (Black Sand Beach) ซึ่งสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เสน่ห์ของเซนต์ปีแอร์ยังไม่จบเพียงแค่ประวัติศาสตร์และธรรมชาติ เพราะคุณยังสามารถลิ้มลองรสชาติอาหารฟิวชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ได้ โดยเฉพาะอาหารทะเลสดใหม่ ที่ทุกคำสัมผัสจะพาคุณไปสู่ความใฝ่ฝันแห่งท้องทะเลแคริบเบียน ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและทรัพยากรทางธรรมชาติที่เหลือเชื่อ เซนต์ปีแอร์จึงเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นการเดินทางสู่ความมหัศจรรย์ที่แคริบเบียน หวังว่าคุณจะได้มีโอกาสมาเยือนและสัมผัสความงดงามนี้สักครั้งในชีวิต!

มาร์ตินีก ไอแลนด์ที่งดงามที่สุดในกลุ่มเกาะลมพัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปารีสถึง 4,261 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมฝรั่งเศสปนกับเสน่ห์แบบแคริบเบียนอย่างลงตัว เมืองฟอร์ต-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเกาะนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เขียวขจี และอาหารที่หลากหลาย รสชาติจะมีการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเครโอเล่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ตินีก ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม คุณจะพบมุงเดียวกันที่มีผลไม้หลากหลาย ตั้งแต่ทุเรียน มะละกอ ไปจนถึงเชอร์รี่ในโทนสีแดงสด หากคุณเป็นนักเดินป่า ทิวเขาและป่าสีเขียวชอุ่มในภาคเหนือจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้น ในขณะที่นักดำน้ำจะต้องหลงรักโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจที่น่าสนใจไปยังเซนต์-ปิแอร์ เมืองที่ประสบภัยจากการปะทุของภูเขาไฟมอนต์เปเล่ในปี 1902 อีกด้วย มาร์ตินีกเตรียมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล รอให้คุณมาผจญภัยในวันหยุดที่แสนหรูหราและน่าจดจำ!










เจ้าของสวีท (Owner’s Suite) คือห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราและเงียบสงบให้กับผู้เข้าพัก ห้องขนาดกว้าง 45 ตารางเมตรนี้มีการจัดสรรพื้นที่อย่างปราณีต พร้อมด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) ตลอดจนห้องนอนที่มีห้องน้ำส่วนตัวซึ่งประกอบด้วยฝักบัว อ่างอาบน้ำแบบบาล์นีโอตั้ง และกระจกอัจฉริยะ ห้องพักนี้ถูกตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย พร้อมด้วยการบริการที่หลากหลายรวมถึงบริการคนช่วยส่วนตัวที่จะดูแลและอำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการให้บริการอาหารในห้องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการจัดเก็บเครื่องดื่มในมินิบาร์ที่มีให้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องกาแฟ Nespresso และลำโพง Bluetooth จาก Bose สำหรับการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ พื้นที่พักนี้ยังรวมถึงระเบียงส่วนตัวขนาด 45 ตารางเมตรซึ่งมาพร้อมกับอ่างจากุซซี่และมุมพักผ่อนที่มีโซฟาและเก้าอี้สำหรับนั่งชิลล์ ช่วงเวลาที่เข้าพักคุณจะได้เพลิดเพลินกับผลไม้สดตลอดวันและมีการต้อนรับด้วยแชมเปญและตะกร้าผลไม้เมื่อเดินทางถึง นอกจากนั้น ยังสามารถเข้าถึงสปาที่จัดเตรียมไว้เฉพาะ ซึ่งรวมถึงการรักษาทรีตเมนต์ด้านความงามและผิวพรรณที่คุณเลือก ด้วยหน้าต่างกระจกบานเลื่อนแบบพานอรามา ห้องนี้จึงเปิดให้คุณสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาได้อย่างเต็มที่ รับประกันว่าการพักผ่อนในเจ้าของสวีทจะมอบความรู้สึกพิเศษและความสะดวกสบายขั้นสูงสุดในระหว่างการเดินทางบนเรือที่จะทำให้คุณไม่มีวันลืม








ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์เป็นที่พักสุดหรูบนเรือสำราญที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุด ภายในห้องมีพื้นที่กว้างขวางและทันสมัย พร้อมทั้งการตกแต่งที่สวยงาม ห้องนอนสามารถเลือกได้ทั้งเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงคู่ขนาด 90 x 200 ซม. และยังมีมุมพักผ่อนที่มีโซฟาที่สามารถแปลงเป็นเตียงคู่ (160 x 190 ซม.) หรือเตียงเดี่ยว (80 x 190 ซม.) เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยมีห้องน้ำที่พร้อมด้วยฝักบัวและอ่างอาบน้ำ Baleno สำหรับการบริการที่เหนือระดับ ห้องสวีทนี้มาพร้อมกับบริการหัวหน้าห้องที่ให้การดูแลอย่างดีเยี่ยม และการเช็คอินพิเศษที่ท่าเรือ นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารในห้องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมินิบาร์และเครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสะดวกสบายในทุกช่วงเวลา อีกทั้งยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 32 ตร.ม. ที่มีเก้าอี้นอนและโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสี่คน พร้อมด้วยหน้าต่างบานเลื่อนแบบพาโนรามาซึ่งเปิดมุมมองอันกว้างใหญ่ของทะเล ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์มีการควบคุมอุณหภูมิแบบแยกส่วน และมีอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงอย่างทีวีจอแบนที่มีช่องทางระหว่างประเทศ รวมถึงลำโพง Bluetooth จาก Bose เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและภาพยนตร์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายซึ่งขึ้นอยู่กับเส้นทางการเดินเรือ เข้าถึงประสบการณ์การเดินทางที่หรูหรา ตลอดจนการดูแลรักษาระดับสูงที่ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นที่จดจำอย่างไม่มีวันลืม






เพรสทีจสวีทเป็นห้องพักระดับพรีเมียมที่นำเสนอความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างครบครัน เนื้อที่กว้างขวางประกอบด้วยห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องนั่งเล่นที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้ พร้อมกับเก้าอี้นวมและโทรทัศน์ที่สอง ห้องน้ำจำนวนสองห้องที่มีการติดตั้งฝักบัว รวมถึงระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตรที่รายล้อมไปด้วยเก้าอี้นั่งสบาย ตลอดการเข้าพักท่านจะได้เพลิดเพลินกับบริการบัตเลอร์ที่ช่วยดูแลเอาใจใส่ พร้อมกับการบริการที่สำคัญอย่างการขึ้นเรือเร็วสุด ซึ่งขึ้นอยู่กับท่าเรือ เพรสทีจสวีทยังมีการอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิเช่น ระบบปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง และอินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมถึงเครื่องชงกาแฟ Nespresso และเก็บของในตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์จอแบนที่เสนอสัญญาณช่องรายการต่างประเทศและวิดีโอตามคำขอ ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราพร้อมกับการให้บริการที่เอ็กซ์คลูซีฟอันสุดแสนพิเศษ





ห้องสวีทพิเศษเป็นที่พักอันหรูหราที่ออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความสุข ห้องนี้มีขนาดกว้างขวาง โดยมีเตียงขนาดคิงไซส์ขนาด 180 x 200 ซม. หรือสามารถเลือกเตียงคู่ขนาด 90 x 200 ซม. ได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่มาพร้อมกับชเตียงยาวและเก้าอี้นั่งสบาย ช่วงเวลาที่คุณพักในห้องนี้จะเพลิดเพลินไปกับพื้นสูบอากาศที่ตั้งอยู่ข้างๆ ที่นั่ง เกินจากนั้นยังมีห้องน้ำที่หรูหรา พร้อมฝักบัว และระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตรที่มีเก้าอี้นั่ง 2 ตัว ห้องสวีทพิเศษนี้ยังมาพร้อมกับบริการระดับสูง เช่น การเข้าถึง Wi-Fi พร้อมทั้งการบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบัตเลอร์ที่ให้ความช่วยเหลือตลอดการเข้าพัก นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับช่อผลไม้และแชมเปญเมื่อเดินทางถึง และผลไม้สดทุกวัน เพื่อเติมเต็มความสดชื่นตลอดการพักผ่อน ทุกห้องมาพร้อมกับอุปกรณ์ทันสมัย เช่น เครื่องชงกาแฟ Nespresso ตู้เย็น และโทรทัศน์จอแบนพร้อมช่องต่างประเทศ และระบบเสียงของ Bose ที่ทำให้คุณได้สัมผัสการบันเทิงที่เหนือระดับ ด้วยการตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่หก ห้องสวีทพิเศษมอบวิวทิวทัศน์ที่งดงาม และหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลอย่างเต็มที่ ห้องนี้ยังจำกัดจำนวนการเข้าพักเพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายของผู้เข้าพัก ทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการพักผ่อนอย่างหรูหราและไม่เหมือนใครอยู่ที่นี่ในห้องสวีทพิเศษนี้





ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นห้องพักที่มอบประสบการณ์หรูหราที่ไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย ด้วยพื้นที่กว้างขวางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องนี้มาพร้อมกับเตียงคิงไซส์ขนาด 180 x 200 ซม. หรือเตียงเดี่ยว 90 x 200 ซม. ซึ่งมั่นใจได้ในความสะดวกสบายและผ่อนคลาย รวมถึงโซฟาและเก้าอี้นั่งที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุด ห้องน้ำที่ทันสมัยมีการตกแต่งอย่างดี พร้อมด้วยฝักบัวและสินค้าตกแต่งจาก Hermès ที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม อีกทั้งยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 6 ตารางเมตรที่มองออกไปเห็นวิวที่สวยงาม พร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ตัวให้แขกได้สัมผัสบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก ภายในห้องมีการควบคุมอากาศอย่างแยกเป็นส่วน รวมทั้งชั้นแต่งตัวและพื้นที่เก็บของที่กว้างขวาง นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso และลำโพง Bluetooth ของ Bose เพื่อเพิ่มความบันเทิง อีกทั้งการบริการที่พิเศษรวมถึงบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง บริการบัตเลอร์ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบรวมทุกความต้องการ เปิดประตูสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริงที่ห้องสวีทระดับพรีเมียมบนเรือสำราญนี้


ห้องพักพรีเมียม เป็นห้องสวีทที่มอบความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างแท้จริง ด้วยขนาดที่กว้างขวางและการออกแบบที่ทันสมัย ห้องนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง พร้อมบริเวณสำหรับนั่งเล่นที่สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ด้วยระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตรที่มาพร้อมเก้าอี้สองตัว ให้ท่านได้สัมผัสวิวทะเลอันตระการตา อีกทั้งหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่สามารถเลื่อนเปิดได้ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายให้กับห้องพัก ทุกห้องยังมีบริการห้องพัก 24 ชั่วโมง และบริการบัตเลอร์พร้อมสิทธิพิเศษในการขึ้นเรือ พร้อมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบมี Wi-Fi การควบคุมอุณหภูมิสามารถทำได้ตามต้องการ และมีพื้นที่สำหรับแต่งตัว พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและเครื่องเป่าผม สินค้าสำหรับอาบน้ำจาก Hermès รวมทั้งมินิบาร์และเครื่องชงกาแฟ Nespresso นอกจากนี้ยังมีตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์สายตรง ลำโพง Bluetooth จาก Bose และทีวีจอแบนที่มีช่องสัญญาณจากนานาชาติให้เลือกดู ห้องพักพรีเมียมจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่หรูหรา แต่ยังมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครให้กับทุกท่านอย่างแท้จริง




ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นห้องพักที่ออกแบบมาอย่างหรูหรา และให้ความสะดวกสบายทุกประการ ขนาดของห้องสวีทกว้างขวาง พร้อมด้วยเตียงคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ห้องน้ำมีการติดตั้งฝักบัวหรูหรา และพื้นที่ระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตรมีเก้าอี้นั่งสองตัวให้คุณได้นั่งชมวิวทะเลอย่างเพลิดเพลิน สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องสวีทระดับพรีเมียมมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมผู้ช่วยส่วนตัวและการขึ้นเรือก่อนใคร สำหรับผู้เข้าพักในห้อง Owner’s suite, Grand de Luxe Suite, Privilege Suites และ Prestige Suite บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายมีให้ในขณะที่เรือเดินทาง ห้องยังมีการควบคุมอุณหภูมิแบบส่วนตัว ตู้เสื้อผ้าที่มีชั้นวาง และโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมไดร์เป่าผม วัสดุอาบน้ำชั้นนำจาก Hermès นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ล็อกเกอร์ไฟฟ้า โทรศัพท์สายตรง ลำโพง Bluetooth ของ Bose และทีวีจอแบนที่มีช่องรายการต่างประเทศ ขั้วไฟฟ้าห้องพักรองรับทั้ง 110V และ 220V ประตูเปิดแบบแก้วพาโนรามาและหน้าต่างสี่เหลี่ยมช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของท้องทะเล สัมผัสความหรูหราและความสะดวกสบายในห้องสวีทระดับพรีเมียม ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม!