
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เล ดูมงต์-ดุรีล
Ponant
เริ่มต้นการล่องเรือที่เต็มไปด้วยประสบการณ์การทำอาหารระดับพิเศษกับ Relais & Châteaux สัมผัสรสชาติอาหารที่ประณีตซึ่งปรุงโดยเชฟมิชลินสามดาว Clint Grech ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของร้าน De Mondion ที่ตั้งอยู่ใจกลาง Xara Palace เขาจะมาแบ่งปันทักษะและความหลงใหลของเขาเพื่อมอบประสบการณ์การทำอาหารที่ไม่เหมือนใครให้กับคุณ
ในฤดูใบไม้ร่วงกลางที่มีอากาศอ่อนโยนและสดใส ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนส่องประกายด้วยสีทองและแสงได้สัมผัสชายฝั่งโบราณของมัน ลมเบาๆ พาเสียงกระซิบจากอารยธรรมในอดีตขณะพระอาทิตย์จุมพิตคลื่นที่นุ่มนวล ทำให้เป็นประกายอ่อนโยน ดำดิ่งสู่จิตวิญญาณของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและให้จิตใจของคุณถูกดึงดูดไปยังเวทมนตร์ของภูมิทัศน์และไซต์มรดกโลกที่มีเอกลักษณ์
สัมผัสการล่องเรือที่ทุกช่วงเวลาเป็นการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงามธรรมชาติ ชมบรรยากาศที่น่าหลงใหลของเมืองโบราณที่กาลเวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง และตื่นตะลึงกับซากปรักหักพังแห่งอดีตอันรุ่งโรจน์ ทั้งวัดอันยิ่งใหญ่ ซากโบราณสถาน และอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ค้นพบภูมิทัศน์ที่งดงามซึ่งสีฟ้าลึกของทะเลพบกับสีทองของชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน และเพลิดเพลินไปกับความสงบของสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความสง่างาม


วัลเลตตา เมืองหลวงสุดหรูของประเทศมอลตา นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการเดินทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีตของพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการสีครีมอันงดงาม จะทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อก้าวเข้าสู่อาณาเขตแห่งนี้ การสำรวจเมืองวัลเลตตานั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินสำรวจถนนสายหลักอย่าง Triq Repubblika ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก พร้อมด้วย Triq Mercante ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเริ่มต้นการเดินทางในวัลเลตตาคือ City Gate ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมือง ใช้เวลาพักผ่อนที่ออฟฟิศข้อมูลนักท่องเที่ยวบน Triq Mercante เพื่อรับแผนที่และข้อมูลสำคัญก่อนการเดินทาง ต่อด้วยการเลือกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และสถานที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้ง วัลเลตตาไม่เพียงแต่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่รอคอยให้คุณเดินทางมาสัมผัสและสร้างความทรงจำใหม่ในทุกย่างก้าว

เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เมืองซีราคูซา หรือที่รู้จักกันในชื่อ Syracuse คุณจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลาไปสู่ยุครุ่งเรืองของอารยธรรมตะวันตก ที่นี่มีเสน่ห์วัยย้อนจากอดีตที่น่าหลงใหล เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 734 ก่อนคริสต์ศักราช โดยชาวกรีกจากเมืองโครินธ์ และเติบโตกลายเป็นเมืองรัฐที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในตะวันตก ซีราคูซายังมีประวัติศาสตร์การทหารที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะในสงครามกับกรุงเอเธนส์ ปัจจุบัน ซีราคูซามีมรดกทางศิลปะบาโรกที่งดงาม รวมถึงโบราณสถานของกรีกและโรมันที่ยังคงหลงเหลือให้เห็น เช่น ท่า Duomo ที่มีชื่อเสียงซึ่งเล่าเรื่องราวของเมืองในหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจอย่างเพลิดเพลิน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ พื้นที่ทางโบราณคดี (Parco Archeologico) และเกาะออร์ตีกา (Ortygia) ที่เชื่อมโยงกับแผ่นดินด้วยสะพานขนาดเล็ก ในขณะที่สำรวจแต่ละมุมของซีราคูซา คุณจะพบกับร้านค้าและคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเลิศหรู ชิมอาหารทะเลสดใหม่ที่นี่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม และไม่ต้องสงสัย ซีราคูซาคือจุดหมายปลายทางที่จะสร้างความทรงจำที่คุณจะไม่อาจลืมได้เมื่อออกเดินทางสู่ความงามของอิตาลี

เมื่อพูดถึงการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสง่างามและวัฒนธรรมอันงดงาม หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ ท่าเรือporto Empedocle ที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี คาบสมุทรซิซิลี เมืองแห่งนี้เป็นประตูสู่ความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือแห่งนี้มีชื่อเสียงในการเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจชายฝั่งที่สวยงามของซิซิลี ที่เต็มไปด้วยทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวสะอาด นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง Valley of the Temples ซึ่งถือเป็นมรดกโลกที่มีโบราณสถานจากสมัยกรีกโบราณ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสถาปัตยกรรมอันสวยงาม รวมถึงการลิ้มรสอาหารอิตาเลียนแท้ๆ เมนูท้องถิ่นแสนอร่อยที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องทะเลเป็นจุดเด่น ทั้งนี้ท่าเรือ Porto Empedocle เป็นที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากการใช้ชีวิตประจำวันและได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยหรือผู้รักศิลปะ ท่าเรือแห่งนี้คือจุดหมายที่พรั่งพร้อมไปด้วยประสบการณ์สุดพิเศษที่รอให้คุณค้นพบ และแน่นอนว่า มันจะทำให้การเดินทางของคุณเป็นที่จดจำตลอดกาล

ท่าเรือทูนีเซียที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงอย่างตูนีส (Tunis) นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวผู้มีใจรักในการผจญภัยและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ข้ามไปเพียงไม่ไกลนัก คุณจะได้พบกับเมืองซุส (Sousse) เมืองโบราณที่มีเสน่ห์และเสนอโอกาสให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซุสเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงาม ซึ่งคุณสามารถเดินเล่นตามชายหาดขาวสะอาดและกว้างใหญ่ ลองค้นหาในถ้ำฝังศพโบราณ เพื่อสัมผัสกับการเดินทางผ่านกาลเวลา และอย่าพลาดการสำรวจตลาดแบบดั้งเดิม (Souq) ที่เต็มไปด้วยสินค้าหัตถกรรมรองพื้นแบบขนบธรรมเนียมดั้งเดิม บรรยากาศในเมืองซุสล้วนผสมผสานระหว่างความเป็นดั้งเดิมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่สวยงามหรือร้านค้าและคาเฟ่ที่มีบริการระดับหรู ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน เตรียมตัวให้พร้อมกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและความสนุกสนานในซุส จุดหมายปลายทางที่น่าฝันสำหรับนักเดินทางทุกคน!
ท่าเรืออันนาบา (Annaba) หรือที่รู้จักกันในชื่อโบน (Bone) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแอลจีเรีย เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม นอกจากการเป็นจุดที่เรือสำราญหยุดจอดเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว ท่าเรือแห่งนี้ยังเปิดประตูสู่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจในภูมิภาค อันนาบาเป็นที่ตั้งของโบราณสถานที่โดดเด่น เช่น ซากโรมันที่เมืองเก่าเอโฟซุส (Hippo Regius) แห่งนี้มีการอนุรักษ์ซากโบสถ์และวัดโรมันอันงดงาม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับความสวยงามของชายหาดที่มีทรายขาวและน้ำทะเลใสราวกับคริสตัล ที่ชายหาดคาบอริธ (Cap de Garde) ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น จากท่าเรืออันนาบา นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสที่จะเดินทางไปสำรวจเมืองต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เมืองบาตนา ซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ หรือเมืองโคสต้า เมืองที่มีวิวทะเลสวยงามและอาหารที่อร่อย สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของแอลจีเรียที่อันนาบา และให้ทริปของคุณเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำในประเทศที่มีความงดงามและมีเสน่ห์แห่งนี้!

ท่าเรือแอลจีร์ถือเป็นประตูสู่เมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของแอลจีเรีย โดยเมืองนี้ได้รับการขนานนามว่า “แอลจีร์สีขาว” เนื่องจากอาคารสีขาวที่งดงามสะดุดตา ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เริ่มก่อตั้งตั้งแต่ปีค.ศ. 944 และเป็นที่ตั้งของจักรวรรดิออตโตมันในศตวรรษที่ 16 แอลจีร์ครั้งหนึ่งเคยเป็นถิ่นฐานของโจรสลัด บาร์บารีที่มีชื่อเสียงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย การเดินทางมาท่าเรือแอลจีร์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่หลากหลาย แต่ต้องทำการจองทัวร์ล่วงหน้าก่อนการเดินทางอย่างน้อยสามสัปดาห์ โดย excursion ทั้งหมดจะมีการจัดการโดยมีการ escort จากตำรวจเพื่อให้การเดินทางราบรื่น ผู้เข้าร่วมต้องปฏิบัติตามกฎการขึ้นรถบัส พร้อมทั้งห้ามนำกล้องส่องทางไกลลงฝั่ง การ์ดที่มีหนังสือเดินทางอิสราเอลอาจไม่สามารถเข้าประเทศได้ ด้วยประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและสถาปัตยกรรมที่งดงาม แอลจีร์จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและน่าหลงใหลของเมืองนี้ ที่มอบการผจญภัยในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมรอให้ทุกคนได้สำรวจแล้ววันนี้

คาร์ตาเฆนา ตั้งอยู่ในภูมิภาคมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นท่าเรือสำคัญของกองทัพเรือสเปน จากอ่าวที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่พักพิงของเรือสินค้าต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ เมืองนี้ก่อตั้งโดยคาร์เธจในปี 223 ก่อนคริสต์ศักราช และได้รับชื่อว่า "การ์ตาโก โนวา" นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่เฟื่องฟู จนกระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าของไบเซนไทน์อีกด้วย ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆนายังคงมีความสำคัญด้านการทหาร ตั้งแต่สมัยของพระเจ้าเฟลิเป II ซึ่งได้สร้างกำแพงป้องกันเมืองเพื่อคุ้มครองท่าเรือ จนถึงยุคราชวงศ์บูร์บอนในศตวรรษที่ 18 เมืองนี้ยังคงมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโบราณสถานที่ฟื้นฟู เช่น โรงละครโรมันที่ได้รับการเปิดเผยและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1988 เมื่อคุณมีเวลาว่าง อย่าลืมสัมผัสเสน่ห์ของคาร์ตาเฆนาผ่านการล่องเรือรอบท่าเรือที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งให้บริการหลายครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ความงดงามของเมืองนี้จะทำให้คุณหลงรักและฝันถึงการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

ท่าเรือเมลลิลาเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ในสเปน ตั้งอยู่บนชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนของทวีปแอฟริกาเหนือ ตรงข้ามกับโมร็อคโก เมลลิลาเป็นเมืองเอ็นเคเลฟที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทั้งในยุคฟินีเซียน โรมาและไบเซนไทน์ ก่อนที่จะถูกสเปนเข้ายึดครองในปี 1497 เมืองนี้มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในสไตล์โมเดิร์นลิสม์ ซึ่งถือเป็นเวอร์ชันของอาร์ตนูโวในคาตาลัน เมลลิลาเป็นแหล่งรวมผลงานสถาปัตยกรรมโมเดิร์นลิสม์ที่สำคัญเป็นอันดับสองในสเปน รองจากบาร์เซโลนา การเดินชมเมืองจะพาคุณเข้าสู่โลกที่สวยงามและฟุ่มเฟือยของการออกแบบในยุคสมัยนั้น นอกจากนี้ เมลลิลายังมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งสะท้อนออกมาในอาหารการกิน ศิลปะ และเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในประวัติศาสตร์หรือความงามในศิลปะ เมลลิลาก็สามารถทำให้คุณรู้สึกตื่นตาตื่นใจได้เสมอ จัดเตรียมการเดินทางมาเยี่ยมชมเมลลิลาในครั้งถัดไปของคุณ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจและไม่ซ้ำใครในสเปน

มอทริล (Motril) เมืองใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งคอสต้าโทรปิคัล (Costa Tropical) ในภูมิภาคอันดาลูเซียของสเปน ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของย่านนี้ เมืองมอทริลตั้งอยู่ห่างจากมาลากาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยอยู่ระหว่างทะเลและเทือกเขาเซียราเนบาดา (Sierra Nevada) อันยิ่งใหญ่ เมืองนี้ไม่เพียงแต่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น ท่าเรือที่คึกคักในด้านการค้า การทำประมง และการพักผ่อน แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งผลิตผลที่รู้จักกันดี ได้แก่ อ้อย ส้ม เลมอน แอปเปิ้ล อะโวคาโด มะม่วง และกล้วย ขึ้นชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีสภาพอากาศแบบซับทรอปิคัล นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ Nuestra Señora de la Cabeza ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมือง และอีกทั้งยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินชมชายหาดที่งดงามได้อย่างสะดวก ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง มอทริลจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสำรวจเสน่ห์ของชายฝั่งอันดาลูเซีย!

เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!






เจ้าของสวีทเป็นห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อมอบความหรูหราและความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก ห้องพักนี้ประกอบด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ซึ่งรวมถึงห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง และห้องนั่งเล่นพร้อมโซฟาเบดคู่ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัว, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, และโทรทัศน์จอแบนที่มีช่องสัญญาณต่างประเทศให้เลือกชม ห้องน้ำของเราเป็นพื้นที่เพื่อการผ่อนคลาย รวมถึงอ่างจากุซซี่และกระจกอัจฉริยะเพื่อความสะดวกในการดูแลตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเทอเรซส่วนตัวขนาด 40 ตารางเมตร ที่มาพร้อมกับอ่างจากุซซี่ เด็คเชอร์ และพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง แม้ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนเรือ แต่คุณยังสามารถ享受กับบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต WiFi ฟรี และบริการสปาหนึ่งชั่วโมงที่รองรับการผ่อนคลายจากการเดินทาง สัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษได้ที่เจ้าของสวีทห้องนี้ที่ให้คุณเชื่อมต่อกับโลกภายนอกผ่านหน้าต่างบานเลื่อนแบบพาโนรามา

ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์เป็นที่พักที่หลงใหลในความหรูหราและสะดวกสบาย มาพร้อมกับบริการที่เหนือระดับ รวมถึงการเข้าขึ้นเรือก่อนใคร (ขึ้นอยู่กับท่าเรือ) และตะกร้าผลไม้พร้อมแชมเปญต้อนรับเมื่อมาถึง โดยห้องมีขนาดกว้างขวางพร้อมเตียงคิงไซส์ขนาด 180 x 200 ซม. หรือเตียงคู่ขนาด 90 x 200 ซม. ในห้องนอน พร้อมทั้งห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาที่สามารถปรับเป็นเตียงคู่ขนาด 160 x 190 ซม. เพื่อความเพลิดเพลินและความสะดวกสบายในทุกช่วงเวลา ห้องน้ำมีฝักบัวและอ่างอาบน้ำแบบ Balneo ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสุด ๆ นอกจากนี้ ห้องยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 32 ตารางเมตร พร้อมเก้าอี้อาบแดดสองตัวและโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสี่คน และหน้าต่างเลื่อนที่สามารถมองเห็นวิวได้อย่างชัดเจนสองบาน การบริการที่น่าประทับใจรวมถึงบริการห้องพัก 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่ครอบคลุม ตลอดจนเครื่องปรับอากาศที่ปรับได้ตามต้องการ โซนเก็บเสื้อผ้าที่พร้อมด้วยชั้นวางของและตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งหน้าและเครื่องเป่าผม พร้อมผลิตภัณฑ์อาบน้ำชั้นนำจาก Diptyque Paris ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ยังมีมินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso และกล่องนิรภัยอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงโทรศัพท์สายตรงและลำโพง Bluetooth ของ Bose เพื่อความบันเทิงที่ไม่สิ้นสุดพร้อมทีวีจอแบนที่มีช่องรายการนานาชาติ (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) ห้องนี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มองหาความหรูหราอย่างแท้จริงในระหว่างการล่องเรือ。





ห้องสวีทพิเศษเป็นที่พักที่มอบประสบการณ์สุดหรูในทุกๆ การเดินทาง โดยห้องนี้มีขนาดกว้างขวาง พร้อมบริการพิเศษตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทาง ด้วยการขึ้นเรืออย่างรวดเร็ว (ขึ้นอยู่กับท่าเรือ) และได้รับการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้สดที่น่าหลงใหลเมื่อเข้าพัก ภายในห้องประกอบด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง พร้อมมุมพักผ่อนที่มีโซฟายาวและเก้าอี้นั่งสบาย ห้องน้ำมาพร้อมกับฝักบัว และมีระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตร ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสวยงาม พร้อมเก้าอี้สองตัวเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ห้องสวีทพิเศษยังมีบริการต่างๆ เช่น บริการรูมเซอร์วิซตลอด 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่สามารถใช้งานได้ (ขึ้นอยู่กับสัญญาณในขณะเดินเรือ) ระบบปรับอากาศที่สามารถควบคุมได้ตามใจชอบ ตู้เสื้อผ้าที่มีชั้นและที่เก็บของ โต๊ะเครื่องแป้ง และไดร์เป่าผม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับพรีเมียมจาก Diptyque Paris มินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso และตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์สายตรง ลำโพง Bluetooth จาก Bose และทีวีจอแบนที่มีช่องรายการต่างชาติ (ความพร้อมขึ้นอยู่กับเส้นทางการเดินเรือ) รวมถึงการบริการพิเศษในการรองรับผู้พิการอีกด้วย ห้องสวีทพิเศษจึงเป็นการเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนในวันหยุดที่เงียบสงบและมีระดับเหนือใคร






เพรสทีจสวีทเป็นห้องพักสุดหรูที่ผสมผสานความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างลงตัว ที่ให้คุณได้สัมผัสกับการบริการชั้นยอด ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายพร้อมกับวิวที่สวยงาม ห้องนี้มีขนาดกว้างขวางประกอบด้วยห้องนอนที่มีเตียงคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่มีโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำสองห้องที่มีบริการฝักบัว เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ภายในห้องมีบริการที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น บริการบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง กรณีของการต้อนรับคุณจะได้สัมผัสกับแชมเปญและผลไม้สดในวันแรกที่มาถึง มีระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตร พร้อมเก้าอี้นั่งสบายสี่ตัว เหมาะสำหรับการพักผ่อนในยามบ่าย นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเช่นไวไฟฟรี ระบบปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง ตู้เย็นขนาดเล็ก เครื่องชงกาแฟ Nespresso โทรทัศน์จอแบนที่มีรายการทีวีระหว่างประเทศ รวมถึงลำโพงบลูทูธของ Bose ที่ให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงอย่างเหนือระดับ เพรสทีจสวีทจึงไม่ใช่เพียงแค่ห้องพัก แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการเดินทางของคุณทั้งยังช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาของการล่องเรือได้อย่างเต็มที่









ห้องสวีทระดับพรีเมียมมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมในการพักผ่อนที่น่าจดจำ สำหรับผู้ที่มองหาความสะดวกสบายและความหรูหรา ภายในห้องมีเตียงคิงไซส์ขนาด 180 x 200 ซม. หรือตัวเลือกเตียงเดี่ยวสองเตียง ขนาด 90 x 200 ซม. ตั้งอยู่ในทำเลที่ลงตัว พร้อมด้วยเก้าอี้ตัวนั่งสบายและโซฟาขนาด 90 x 190 ซม. ห้องน้ำมีฝักบัวและพื้นที่ที่กว้างขวางเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 6 ตารางเมตรที่พร้อมให้คุณนั่งพักผ่อนด้วยเก้าอี้สองตัว เพื่อชมวิวทะเลอย่างเต็มตา ห้องของเรามาพร้อมกับบริการ 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริการอินเทอร์เน็ต WiFi ที่ครอบคลุม (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) สภาพอากาศภายในห้องสามารถควบคุมได้ตามต้องการ โดยมีห้องแต่งตัวที่มีชั้นวางและตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งหน้าและไดร์เป่าผม นอกจากนี้ยังให้บริการผลิตภัณฑ์อาบน้ำชั้นเลิศจาก Diptyque Paris และมินิบาร์ที่ให้คุณได้ผ่อนคลายกับเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบ พร้อมด้วยเครื่องชงกาแฟ Nespresso และน้ำร้อน เรายังมีตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์สายตรง ลำโพง Bose Bluetooth ทีวีจอแบนที่มีช่องทางนานาชาติ (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) และวีดีโอออนดีมานด์ สถานที่ของห้องสวีทนี้พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในขณะเดินทางของคุณ เจ้าของห้องยังสามารถเลือกได้ระหว่างระบบไฟฟ้าขนาด 110V และ 220V สำหรับความสะดวกในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ








ห้องพักพรีเมียมบนเรือสำราญของเรามอบความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกการเดินทาง ห้องพักนี้มีเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 200 ซม.) พร้อมด้วยโซฟานั่งเล่นและห้องน้ำที่มีฝักบัวให้บริการ นอกจากนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตร.ม. ที่มาพร้อมกับเก้าอี้นั่งสองตัว เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อย่างเต็มที่ ห้องพักพรีเมียมของเรายังมีบริการที่ครบครัน เช่น บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต Wifi (ขึ้นอยู่กับพื้นที่เดินเรือ), ระบบปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง, ห้องแต่งตัวพร้อมชั้นวางของและตู้เสื้อผ้า, โต๊ะแต่งตัวและเครื่องเป่าเส้นผม, ผลิตภัณฑ์อาบน้ำชั้นยอดจาก Diptyque Paris, มินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso และกาต้มน้ำไฟฟ้า, ตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์, โทรศัพท์สายตรง, ลำโพง Bluetooth ของ Bose, โทรทัศน์จอแบนที่มีช่องทางต่างประเทศ (ขึ้นอยู่กับการเดินเรือ) รวมถึงบริการวิดีโอตามความต้องการ ด้วยความหรูหราและบริการที่ครบครัน ห้องพักพรีเมียมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำบนเรือสำราญ


ห้องสวีทระดับพรีเมียมของเราให้บริการความสะดวกสบายและความหรูหราที่เหนือชั้น ภายในห้องคุณจะพบกับเตียงขนาดใหญ่ (180 x 200 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองหลัง (90 x 200 ซม.) พร้อมโทรทัศน์ เพื่อความบันเทิงในยามว่าง ห้องน้ำมีฝักบัว และให้คุณได้เพลิดเพลินกับระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตรที่มีเก้าอี้เอนกายสองตัว นอกจากนี้ยังมีประตูสวิงกระจกแบบพาโนรามาและหน้าต่างรูปสี่เหลี่ยมเพื่อให้คุณรับวิวทิวทัศน์อันงดงาม ห้องสวีทระดับพรีเมียมยังมีบริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายที่รวมอยู่ในแพ็คเกจ (ขึ้นอยู่กับสถานที่ในการเดินทาง) ระบบปรับอากาศที่ควบคุมเองได้ และห้องแต่งตัวพร้อมตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเป่าผม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Diptyque Paris ที่มีคุณภาพเยี่ยม มินิบาร์ และเครื่องชงกาแฟ Nespresso รวมถึงกาน้ำร้อน เพื่อให้คุณมีความสะดวกสบายและสามารถพักผ่อนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์สายตรง ลำโพง Bluetooth จาก Bose และโทรทัศน์จอแบนที่ให้บริการช่องนานาชาติ (ขึ้นอยู่กับสถานที่ในการเดินทาง) และบริการวิดีโอตามความต้องการ ห้องนี้รองรับการใช้ไฟจากปลั๊ก 110V ของอเมริกา และ 220V ของยุโรป ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นที่พักอันหรูหราสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่เหมือนใครและสะดวกสบาย