
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เลอ ลีเรียล
Ponant
ร่วมกับ The Explorers Club การเดินทางสุดพิเศษนี้จะมี Isabelle Groc ผู้สื่อข่าวด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับรางวัล ผู้เขียน และผู้ผลิตภาพยนตร์ ผู้ซึ่งได้เขียนและกำกับสารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติมากกว่า 20 เรื่อง
ช่องทางที่งดงาม เทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ น้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ และช่องทางแคบๆ: ยินดีต้อนรับสู่มนต์เสน่ห์ของฟยอร์ดชิลี PONANT ขอเชิญคุณขึ้นเรือ Le Lyrial ในการเดินทางสำรวจ 15 วัน สู่หัวใจของทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ของอเมริกาใต้ออกเดินทางจากวัลพาราíso คุณจะได้ค้นพบ Quemchi หมู่บ้านที่แท้จริงตั้งอยู่บนเกาะชิโลเอที่เขียวชอุ่มหลังจากออกไปยังช่อง Pulluche จุดหยุดถัดไปจะเป็นหมู่บ้านห่างไกลที่ชื่อ Tortel ซึ่งอยู่เหนือผิวน้ำ พร้อมสะพานไม้ตามแบบฉบับที่ใช้แทนถนนจากนั้นคุณจะเข้าสู่ช่องแคปปาโกเนียที่รู้จักกันในชื่อ English Passage ก่อนที่จะไปใกล้เคียงกับน้ำแข็ง El Brujo และ Pie XIคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจในการล่องเรือไปตามช่องแคบ Magellan จากนั้นคุณจะได้เห็น Agostini และ Garibaldi ขนาดมหึมา ก่อนจะเลี้ยวรอบ Cape Horn ท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามที่ได้รับจากอุทยานแห่งชาติ Tierra del Fuegoที่เกาะ Navarino คุณจะหยุดที่ Puerto Williams ซึ่งเป็นท่าเรือประมงที่น่ารื่นรมย์ ซึ่งชาวชิลีถือว่าเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ที่สุดในโลก และสุดท้ายคุณจะล่องเรือไปยังอาร์เจนตินาและอูซัวอิอา ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางนี้
ท่าเรือวัลปาราอีโซ (Valparaíso) ของชิลี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เสน่ห์แห่งวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของเมืองนี้เกิดจากศิลปกรรมที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วย cerros (เนินเขา) ถึง 45 ลูกที่ตั้งตระหง่านเหนือมหาสมุทร พี่น้องชาววัลปาราอีโซจะเข้าใจความสำคัญของการเดินทางด้วยทางเดินที่คดเคี้ยวและลิฟต์ไม้ (ascensores) เพื่อขึ้นไปยังมุมต่าง ๆ ภายในเมือง เมืองนี้มีบ้านสีสันสดใสเรียงรายอยู่ตามเชิงเขา ส่วนใหญ่สร้างจากเหล็กกล้าที่ถอดออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้แต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัลปาราอีโซเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญที่สุดในอเมริกาใต้ ก่อนที่คลองปานามาจะเปิดใช้ และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านเส้นทางการค้า สถานะของเมืองยังคงเป็นท่าเรือหลักของชิลี สำหรับบรรดานักท่องเที่ยว การเดินเล่นสัมผัสกับวัฒนธรรมของเมืองผ่าน El Plan ซึ่งเป็นพื้นที่ร้านค้าและร้านอาหารแนวใหม่ นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นั่นคุณจะพบกับบรรยากาศที่คึกคักและวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของทะเล การเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะและประวัติศาสตร์จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางที่มองเห็นความงดงามของชีวิตชาวพอร์ตในทุกขั้นตอน
เมื่อพูดถึงการสำรวจอันงดงามของชิลี เมืองควิมชี (Quemchi) บนเกาะชิลัว (Chiloe) เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ท่าเรือที่มีเสน่ห์แห่งนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ไม่ไกลนัก และเป็นประตูสู่โลกแห่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์และวัฒนธรรมที่ร่ำรวย ควิมชี เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีวิวทิวทัศน์ทะเลที่น breathtaking โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก การเดินเล่นบนสะพานไม้เก่าแก่ที่ทอดยาวออกไปยังทะเลจะทำให้คุณรู้สึกถึงความสงบและความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ พร้อมทั้งมีโอกาสพบปะกับชาวบ้านที่อัธยาศัยดี นอกจากความงามทางธรรมชาติแล้ว คุณยังสามารถสัมผัสประเพณีของชาวชิลัว หากคุณเดินทางต่อไปที่ชายฝั่งอาจพบกับบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของภูมิภาคนี้ รวมถึงอาหารทะเลสดใหม่ที่ถูกยกย่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น ซีฟู้ด ceviche และปูกระดอง ควิมชีจึงไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นสถานที่ที่นำคุณไปสู่การผจญภัยแห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการค้นพบความงามที่ยากจะลืมเลือน ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นรอคุณอยู่ที่นี่!

ส่งตรงจากใจกลางแพทาโกเนีย ที่นี่คือ "คาเลตา ทอร์เทล" (Caleta Tortel) ท่าเรือที่ถูกขนานนามว่าเป็น "เมืองสะพานไม้" ด้วยความงดงามของทางเดินไม้ที่สร้างขึ้นจากไม้ไซเปรส เชื่อมต่อที่พักอาศัยและท่าเรือทั่วทั้งเขตด้วยสะพานและบันไดที่ทอดยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันสวยงามของภูเขา น้ำแข็ง และป่าไม้ที่บริสุทธิ์ แม้จะเป็นหนึ่งในเทศบาลที่มีพื้นที่กว้างขวางมากที่สุดในชิลี แต่คาเลตา ทอร์เทลมีประชากรเพียง 531 คนเท่านั้น ประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ย้อนกลับไปในปี 1520 เมื่อเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าคาวส์การซึ่งไม่มีชีวิตอยู่แล้ว การก่อตั้งอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในปี 1955 ผ่านการพัฒนาสถานที่เพื่อรองรับชุมชน การเดินทางมายังคาเลตา ทอร์เทล คือการสัมผัสกับความสวยงามที่ใกล้ชิดธรรมชาติ การเดินเตาะแตะบนสะพานไม้ท่ามกลางทัศนียภาพอันตระการตาจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณดำดิ่งสู่ความงามของโลกใบนี้ นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในภูมิภาคยังพร้อมต้อนรับนักสำรวจที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและล้ำค่า คาเลตา ทอร์เทล คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด สำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษและเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ จากมุมที่งดงามของโลกใบนี้

เมื่อเรือล่องสำราญหยุดพักที่ท่าเรือ Pio X Glacier ในชิลี คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติที่ไม่มีใครเทียบเท่า นี่คือจุดหมายปลายทางอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีภูเขาน้ำแข็งหลากสีสันตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม เข้าชมธารน้ำแข็งที่มีอายุนับพันปี เคลื่อนไหวช้าๆ พร้อมกับเสียงปังของน้ำแข็งที่แตกออก สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน ไม่เพียงแต่ธรรมชาติที่ส breathtaking เท่านั้นเช่นเดียวกัน ท่าเรือ Pio X ยังเป็นประตูสู่อาณาจักรแห่งการผจญภัย ซึ่งคุณสามารถสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่า, การเดินเรือในน้ำแข็ง และการชมสัตว์ทะเลที่น่าตื่นเต้น เช่น นกเพนกวินและแมวน้ำในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ เพิ่มความหลากหลายให้การเดินทางของคุณด้วยการสำรวจศิลปวัฒนธรรมของชิลี ณ เมืองใกล้เคียง ลองชิมอาหารท้องถิ่นที่มีสูตรเฉพาะและมีชื่อเสียงในโทนเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ พร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศอันอบอุ่นของชาวชิลี ท่าเรือ Pio X Glacier ไม่ใช่เพียงจุดแวะพัก แต่คือประสบการณ์ที่จะครองใจคุณตลอดไป เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่ทั้งอัศจรรย์และน่าจดจำ!
ท่าเรือ El Brujo Glacier ในประเทศชิลี เป็นหนึ่งในจุดหมายอันน่าเร้าใจสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติและความงดงามของภูมิประเทศที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ ด้วยการตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและภูเขา แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ El Brujo Glacier ได้นำเสนอภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจากธารน้ำแข็งที่เปล่งประกายสีฟ้าเข้มตัดกับพื้นน้ำทะเลที่ใสดุจคริสตัล สำหรับผู้เดินทางที่มาที่นี่ คุณจะมีโอกาสสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าเพื่อสำรวจธรรมชาติอันงดงาม หรือการนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ของธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เห็นชีวิตสัตว์ทะเลเฉกเช่นเพนกวินและเพื่อนร่วมทางอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ไม่เพียงแต่ท่าเรือ El Brujo ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ แต่ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้อีกมากมาย อาทิ พื้นที่น้ำแข็งที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ และมุมมองที่สวยงามของภูเขาโครงการที่หล่อเลี้ยงความสวยงามของชิลีให้มีความหลากหลายและดึงดูดใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้จบ นี่คือการเดินทางที่ไม่ควรพลาดที่จะเติมเต็มประสบการณ์และความทรงจำตลอดชีวิตของคุณ
เอสเทอโร ลาส มอนทานัส (Estero las Montanas) เป็นท่าเรือที่งดงามในประเทศชิลี ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการจอดเรือสำราญ แต่ยังเป็นส่วนน้อยที่สามารถสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของชิลีได้อย่างแท้จริง เมื่อคุณเยือนท่าเรือนี้ คุณจะหลงใหลกับวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยภูเขาและท้องน้ำที่เงียบสงบ พร้อมกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ในบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจป่าเขาอันเขียวขจี ขึ้นไปบนภูเขาที่นำคุณไปสู่วิวพาโนรามา หรือจะเป็นการล่องเรือในทะเลสาบที่สวยงามซึ่งตัดกับพื้นหลังของเทือกเขาอันสูงใหญ่ นอกจากนี้ยังมีโอกาสให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมของชุมชนพื้นเมือง ชิมอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ พร้อมกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่น การเดินทางมายังเอสเทอโร ลาส มอนทานัส จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสงบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามและได้รับประสบการณ์ที่ไม่เคยลืมเลือน ทางเราอยากเชิญชวนคุณให้มาเปิดประตูสู่การผจญภัยใหม่ ๆ ที่จะเติมเต็มชีวิตคุณในแบบที่หาที่ไหนไม่ได้อีกในชิลีใบนี้

ท่าเรือที่สวยงามแห่งหนึ่งในชิลีคือ "Tuckers Islets" ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และความงดงามของทะเล นับเป็นอีกหนึ่งจุดแวะจอดที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาสัมผัสความมหัศจรรย์ของทัศนียภาพที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหน Tuckers Islets มีน้ำทะเลสีฟ้าครามใสสะอาด ล้อมรอบไปด้วยหาดทรายขาวละเอียด และภูเขาเขียวชอุ่มที่ยังคงเอกลักษณ์ตามธรรมชาติ สถานที่นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลในการดำน้ำตื้น และการสำรวจชีวิตใต้ทะเลที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวจะได้พบกับฝูงปลาน้อยใหญ่และสิ่งมีชีวิตทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ท่าเรือ Tuckers Islets ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจหมู่เกาะที่ห่างไกล เช่น โฮนูโลลู และเกาะอื่น ๆ ใน Polynesia เรียกได้ว่าทะเลแห่งนี้เต็มไปด้วยอัญมณีที่ซ่อนอยู่รอให้คุณค้นหา โดยเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงความอบอุ่นของผู้คนชิลี เมื่อคุณเยือน Tuckers Islets คุณก็ไม่เพียงแค่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังได้ค้นพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร สร้างความทรงจำที่ติดตรึงในใจคุณตลอดไป ขอต้อนรับเข้าสู่การเดินทางสุดหรูในโลกแห่งท้องทะเลชิลี!
ท่าเรือ Alberto de Agostini National Park ตั้งอยู่ในแนวชายฝั่งที่สวยงามของประเทศชิลี เป็นแหล่งผจญภัยที่มีความงดงามตามธรรมชาติรอบด้าน สวนสาธารณะนี้ได้รับการตั้งชื่อตาม Alberto de Agostini นักสำรวจและช่างภาพชาวอิตาเลียน ผู้ซึ่งได้สำรวจและบันทึกภาพความงดงามของปาตาโกเนียในช่วงปี 1930 ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ Alberto de Agostini National Park ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5,637 ตารางไมล์ ตั้งอยู่ในภูมิภาค Magallanes และชิลีแอนตาร์กติกา นับเป็นอุทยานที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ และได้รับการประกาศเป็นเขตสงวนชีวภาพโลกโดยยูเนสโกในปี 2005 ที่นี่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าหายาก อาทิ สุนัขจิ้งจอกแอนเดียน แมวน้ำยักษ์ทางใต้ และวาฬหลังค่อม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร ทั้งการเดินป่า ชมสัตว์ป่า และการสำรวจธรรมชาติที่อลังการในภูมิภาคนี้ มาเยือน Alberto de Agostini National Park เพื่อเปิดรับโลกใหม่และสร้างความทรงจำที่จะอยู่กับคุณตลอดไปในใจกลางของปาตาโกเนียที่สวยงามที่สุดแห่งนี้
ท่าเรือการิบัลดี เป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีเสน่ห์และความงดงามในประเทศชิลี โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยภูเขาและน้ำแข็งของอุทยานแห่งชาติ Torres del Paine เพื่อมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดหยุดพักจากการเดินทางด้วยเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่ความงามของธารน้ำแข็งการิบัลดีที่ตระการตา เมื่อเยือนที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าครามที่ล้อมรอบด้วยภูเขา และสามารถชมการละลายของน้ำแข็งที่สร้างภาพลักษณ์ที่น่าหลงใหล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น การเดินป่าไปยังจุดชมวิวที่ดีที่สุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถฟังเสียงของน้ำแข็งที่แตกตัวเมื่อสัมผัสกับอากาศอันหนาวเย็นได้อย่างใกล้ชิด ศิลปะและวัฒนธรรมของชิลียังมีให้ค้นพบในหมู่บ้านชาวประมงใกล้เคียง ที่เป็นที่รู้จักจากอาหารทะเลสดใหม่และการต้อนรับที่อบอุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มความฝันของการเดินทางสำรวจ และเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่มีความประทับใจในใจไม่รู้ลืม ท่าเรือการิบัลดีจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบความงดงามของชิลีที่รอบรู้และหลากหลาย.

Puerto Williams เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่บนเกาะ Navarino ทางตอนใต้ของชิลี ถือเป็นที่ตั้งของเมืองที่อยู่ใกล้สุดกับขั้วโลกใต้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจทิวทัศน์ที่งดงามของแอนตาร์กติกาและช่องแคบดราเกนต์ สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและการผจญภัย ท่าเรือ Puerto Williams นอกจากจะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ยังมีความเป็นเอกลักษณ์จากวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เก่าแก่และน่าสนใจ คุณสามารถเดินชมรอบเมืองที่จะนำเสนอศิลปะการทำงานของชาวพื้นเมืองหรือสัมผัสบรรยากาศที่เรียบง่ายของชีวิตประมงที่นี่ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแต่การเดินทางเองเท่านั้น แต่การสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ทำให้การเดินทางนี้มีค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Puerto Williams ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในอุทยานแห่งชาติปาราอีซา ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่า ภูเขาที่สูงตระหง่านและน้ำตกที่สวยงาม การสำรวจความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่นี่ จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ค้นพบ Puerto Williams กับเรา สถานที่ที่ไม่มีวันลืมและทิ้งความประทับใจไว้ในหัวใจของคุณไปตลอดกาล

อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่




เจ้าของสวีท (Owner's Suite) คือห้องพักที่หรูหราและกว้างขวางบนเรือสำราญของเรา โดยมีพื้นที่ที่จัดสรรอย่างลงตัว รวมถึงห้องนอนที่กว้างขวางพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 190 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 190 ซม.) พร้อมทีวี และห้องนั่งเล่น/ทานอาหารที่มีโซฟา ทีวี และโต๊ะสี่ที่นั่ง สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, สัญญาณอินเทอร์เน็ต Wi-Fi, เครื่องปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง, ห้องแต่งตัวพร้อมชั้นวางของและตู้เสื้อผ้า, โต๊ะแต่งตัวและเครื่องเป่าผม, รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก Hermès ห้องน้ำมีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำแบบบัลเนโอ ส่วนการเข้าพักของคุณจะได้รับการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้เมื่อมาถึง และมีบริการบัตเลอร์คอยดูแลตลอดการเข้าพัก นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมขนมหวานหรือขนมคาว และผลไม้ทุกวัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ห้องนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 12 ตารางเมตร พร้อมหน้าต่างบานเลื่อนแบบพาโนรามาอีกสามบาน ผู้เข้าพักยังจะได้รับความสะดวกสบายจากการบริการที่ทันสมัย เช่น ลำโพง Bose Bluetooth, ทีวีจอแบน, ตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์, โทรศัพท์สายตรง รวมถึงการดูทีวีช่องสัญชาติระหว่างประเทศ (ขึ้นอยู่กับเส้นทางเดินเรือ) และบริการสปาหนึ่งชั่วโมงสำหรับคนเดียวในพื้นที่สุขภาพ ซึ่งเลือกจากการบำบัดใบหน้าและร่างกายที่มีให้เลือกสรร ด้วยความพิเศษทั้งหมดนี้ เจ้าของสวีทจึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราและไม่เหมือนใครบนเรือสำราญของเรา



ห้องสวีทเกรดพิเศษบนเรือนั้นมอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราและสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยพื้นที่การใช้สอยที่กว้างขวางและการออกแบบที่ทันสมัย ห้องนี้มาพร้อมกับเตียงคิงไซส์ (180 x 190 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 190 ซม.) พร้อมทีวีในห้องนอนหลักและห้องนอนรอง ซึ่งสามารถใช้เวลาในการพักผ่อนเป็นพิเศษได้ ห้องนั่งเล่นที่สะดวกสบายมีโซฟา ทีวีที่สาม และเก้าอี้อ่านหนังสือ พื้นที่ห้องน้ำประกอบด้วยฝักบัวและอ่างอาบน้ำ เพื่อความผ่อนคลายอย่างเต็มที่ นอกจากนั้น ห้องสวีทยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 12 ตารางเมตรที่ให้คุณได้ชมวิวทะเลอันงดงาม เพิ่มความพิเศษด้วยหน้าต่างกระจกเลื่อนแบบพาโนรามาสามบาน ที่ทำให้คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบข้างได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีบริการพิเศษต่างๆ เช่น การบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สาย การควบคุมอุณหภูมิในห้องได้เอง และผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Hermès นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso และลำโพง Bluetooth จาก Bose ผู้เข้าพักยังจะได้รับการบริการที่เหนือกว่า เช่น การขึ้นเรือเป็นลำดับแรกในท่าเทียบเรือ บริการพี่เลี้ยง รวมถึงการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้เมื่อเดินทางถึง ความสะดวกสบายและความหรูหรานี้จะช่วยให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำที่ยอดเยี่ยม

ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์เป็นห้องที่รองรับการเข้าพักอย่างหรูหรา ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางและการตกแต่งอย่างมีสไตล์ ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ขนาด 180 x 190 เซนติเมตร สำหรับความสะดวกสบาย พร้อมการบริการพิเศษ อาทิเช่น บริการรับจองก่อนเวลาขึ้นเรือ ผลไม้สดและแชมเปญเมื่อถึงที่พัก และบริการบัตเลอร์ที่คอยดูแลตลอดการเข้าพัก ห้องนี้ยังมีห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างมีรสนิยม พร้อมโซฟาและทีวีอีกหนึ่งเครื่อง รวมถึงประตูเปิด-ปิดที่สะดวกสบาย ห้องน้ำจะมีฝักบัวและอ่างอาบน้ำ Balneo ที่ให้ความผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 12 ตารางเมตร สำหรับพักผ่อนชมวิว และหน้าต่างพานอรามาขนาดใหญ่สองบานที่เติมเต็มความสวยงาม ห้องยังมีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องทำกาแฟ Nespresso มินิบาร์ ทีวีจอแบนที่รองรับช่องสัญญาณต่างประเทศ บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย และเครื่องเสียง Bluetooth ที่ให้ประสบการณ์การพักผ่อนที่สุดแห่งความหรูหราในทุกการเดินทางของคุณ




ห้องสวีทพิเศษนี้มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราบนเรือสำราญ มีขนาดพื้นที่กว้างขวางและมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่สามารถใช้งานได้ตามเส้นทาง และการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องด้วยแอร์แบบแยกส่วน ห้องแต่งตัวมีชั้นวางและตู้เสื้อผ้า เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บห้องแต่งตัวมีโต๊ะเครื่องแป้งและเครื่องเป่าผม รวมถึงผลิตภัณฑ์อาบน้ำระดับสูงจาก Hermès ห้องนี้ยังมีมินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso และตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ให้บริการ นอกจากนี้ ห้องสวีทพิเศษยังมีบริการสุดพิเศษ เช่น การขึ้นเรือก่อนใครขึ้นอยู่กับท่าเรือที่ขึ้น, การต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้, รวมถึงบริการบัตเลอร์ที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทุกวันท่านจะได้พบกับผลไม้สดในห้อง เตียงนอนใหญ่ขนาด 180 x 190 ซม. หรือเตียงเดี่ยวสองเตียงขนาด 90 x 190 ซม. พร้อมทีวี และห้องนั่งเล่น/รับประทานอาหารที่มีโซฟา, ทีวีอีกเครื่อง, โต๊ะที่นั่งได้สี่คน พร้อมประตูเลื่อนที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวขนาด 12 ตร.ม. รวมถึงหน้าต่างบานเลื่อนแบบพาโนรามาอีกสามบานเพื่อให้ท่านได้สัมผัสวิวทะเลอย่างไม่สะดุด


เพรสทีจสวีท คือ ห้องพักหรูหราที่ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร ห้องนี้มีขนาดกว้างขวางและสะดวกสบาย มาพร้อมกับเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 190 ซม.) ที่นอนอย่างเต็มที่และพอดี สำหรับพื้นที่นั่งเล่น มีเก้าอี้ทั้งสองตัวและโทรทัศน์เพิ่มเติม, ประตูเลื่อนสำหรับความสะดวก, พร้อมโซฟาที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้อีกหนึ่งหลัง (180 x 190 ซม.) ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสนับสนุนผู้เข้าพักเพิ่มอีกคน เพรสทีจสวีท ยังมาพร้อมกับห้องน้ำ 2 ห้องที่มีฝักบัว และระเบียงส่วนตัวขนาด 8 ตารางเมตรที่คุณสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างดีที่สุด ทั้งยังมีหน้าต่างบานเลื่อนแบบพานอรามาเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องพัก ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางและโปร่งสบาย ห้องพักของเรามีการให้บริการที่ยอดเยี่ยมรวมถึงบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต Wi-Fi (ขึ้นอยู่กับการนำทางและตำแหน่งที่ตั้ง), ระบบปรับอากาศที่ควบคุมได้ด้วยตนเอง, ห้องแต่งตัวพร้อมชั้นวางและตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งและเครื่องเป่าผม, ผลิตภัณฑ์อาบน้ำระดับสูงจาก Hermès, มินิบาร์, เครื่องชงกาแฟ Nespresso และกาน้ำร้อน, ตู้นิรภัยอิเล็กทรอนิกส์, โทรศัพท์สายตรง, ลำโพงบลูทูธ Bose, และโทรทัศน์จอแบนที่มีช่องรายการนานาชาติ (ขึ้นอยู่กับการนำทาง) รวมถึงวิดีโอออนดีมานด์ ด้วยทุกความสะดวกสบายที่เพรสทีจสวีทมีให้ การเข้าพักที่นี่คือที่สุดของการหลีกหนีจากชีวิตประจำวันและสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับในทุกๆ ด้าน.



ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นที่พักเหนือระดับที่ออกแบบมาเพื่อให้ความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกการเดินทาง ขนาดห้องพักประกอบด้วยเตียงคิงไซส์ขนาด 180 x 190 ซม. หรือเตียงเดี่ยวสองเตียงขนาด 90 x 190 ซม. พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่มีโซฟาและเก้าอี้แขน ห้องน้ำมีการตกแต่งอย่างชาญฉลาดและมีฝักบัวที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 5 ตารางเมตรที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ทะเลอีกด้วย ผู้เข้าพักจะได้รับบริการที่หลากหลาย รวมถึงการบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่พร้อมใช้งาน เครื่องปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง และผลิตภัณฑ์อาบน้ำระดับพรีเมียมจาก Hermès เพื่อให้การพักผ่อนเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ห้องยังมีมินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ลำโพง Bluetooth จาก Bose โทรศัพท์สายตรง และทีวีจอแบนที่มีช่องสัญญาณนานาชาติ สำหรับความสะดวกเพิ่มเติม ห้องพักยังมีบริการพิเศษสำหรับผู้เข้าพัก เช่น การขึ้นเรือก่อนใครในช่วงเวลาที่ขึ้นเรือเฉพาะที่ท่าเรือของแต่ละการเดินทาง และการต้อนรับด้วยแชมเปญและผลไม้เมื่อมาถึง พร้อมกับบริการบัตเลอร์ตลอดการเข้าพัก นอกจากนี้จะมีการจัดเตรียมผลไม้ให้ทุกวันเพื่อให้ความสดชื่นตลอดการเดินทาง ห้องสวีทระดับพรีเมียมจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่ดีที่สุดในความสะดวกสบายและหรูหรา.

ห้องพักพรีเมียมเป็นห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและความหรูหรา โดยมีขนาดกว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างแท้จริง ห้องนี้มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง และเตียงที่สะดวกสบายจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเข้าพัก นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำพร้อมฝักบัว และพื้นที่ระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตรที่เปิดให้ชมวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องพักพรีเมียมยังมีการตกแต่งที่พิถีพิถัน รวมถึงเครื่องปรับอากาศที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกับเครื่องเป่าผม และชุดผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Hermès เพื่อสัมผัสที่หรูหรามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี minibar, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, ตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ และโทรทัศน์จอแบนที่รองรับช่องรายการนานาชาติ จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายตลอด 24 ชั่วโมง และคำแนะนำจาก Bose Bluetooth speaker ที่จะเพิ่มบรรยากาศให้กับการพักผ่อนของคุณ ทำให้ห้องพักพรีเมียมเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์พักผ่อนที่ไม่เหมือนใครบนเรือสำราญ


ห้องพักซูเปอร์เรียร์ เป็นห้องพักที่ให้ความสะดวกสบายและหรูหราในเวลาเดียวกัน ขนาดใหญ่และออกแบบอย่างพิถีพิถัน พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 190 ซม.) ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ที่สำคัญ ห้องพักยังมีโทรทัศน์และอุปกรณ์สำหรับความบันเทิงที่ทันสมัย เช่น ทีวีจอแบนที่รองรับช่องสัญญาณต่างประเทศและระบบวิดีโอออนดีมานด์ ห้องน้ำมีการติดตั้งฝักบัว พร้อมผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Hermès ที่มีคุณภาพระดับสูง นอกจากนี้ ห้องพักยังมีหน้าต่างหรือรูชมวิวขนาดกลมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับทิวทัศน์ของทะเลในทุก ๆ วัน คุณจะพบกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศที่ควบคุมได้เอง มินิบาร์ และเครื่องชงกาแฟ Nespresso พร้อมการบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ระบบอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ยังมีให้บริการ โดยขึ้นอยู่กับพื้นที่การเดินเรือ รวมทั้งยังมีลำโพง Bluetooth จาก Bose ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงขณะพักผ่อน ทั้งนี้ ห้องพักยังมีตู้นิรภัย ระบบไฟฟ้าที่รองรับทั้ง 110V และ 220V เพื่อความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย




ห้องสวีทระดับพรีเมียมมอบความหรูหราและความสะดวกสบายให้คุณในทุกการเดินทาง ขนาดห้องกว้างขวางพร้อมพื้นที่ที่จัดสรรไว้อย่างลงตัว คุณจะพบกับเตียงขนาดคิงไซส์ (180 x 190 ซม.) หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง (90 x 190 ซม.) พร้อมกับโทรทัศน์สำหรับความบันเทิง อีกทั้งมีห้องน้ำส่วนตัวที่ประกอบด้วยฝักบัวเพื่อความสดชื่น เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเข้าพัก ห้องสวีทระดับพรีเมียมยังมีระเบียงส่วนตัวขนาด 4 ตารางเมตร ที่คุณสามารถนั่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยหน้าต่างและประตูบานสวิงแบบกระจกที่ทำให้คุณรู้สึกเห็นโลกกว้าง ความสะดวกสบายภายในห้องยังรวมถึงบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ระบบอากาศที่ควบคุมได้เอง อินเทอร์เน็ตไร้สาย, ชุดผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบรนด์ Hermès, และมินิบาร์ที่รวมอยู่แล้ว เพื่อความสะดวกในทุกการใช้งาน ห้องยังมีคอฟฟี่เมคเกอร์ Nespresso, ลิ้นชักส่วนตัวพร้อมตู้เสื้อผ้า, ลำโพง Bluetooth จาก Bose, และโทรศัพท์สายตรง นอกจากนี้ ห้องยังมีทีวีจอแบนที่สามารถรับชมช่องทางต่างประเทศและวิดีโอตามความต้องการ โดยคุณจะสามารถใช้พลังงานได้ทั้ง 110V และ 220V สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ ด้วยความครบครันของอุปกรณ์และความสบายนี้ ห้องสวีทระดับพรีเมียมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนในทุกช่วงเวลาของการล่องเรือของคุณ