
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เรือสำราญเซเว่น ซีส์ มารีเนอร์
เรเจนท์ เซเว่น ซีส์ ครูซส์


นิวยอร์ก ซิตี้ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยพลังอันเหลือล้น โดยมีแลนด์มาร์กชื่อดังจากวอลสตรีทสูงตระหง่านไปจนถึงแสงไฟนีออนของไทม์สแควร์ และเส้นทางในเซ็นทรัลพาร์คที่เงียบสงบ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางที่หลอมรวมความบันเทิง แฟชั่น สื่อ และการเงินอย่างกลมกลืน มูลนิธิแห่งศิลปะโมม่า (MoMA) และรูปปั้นเทพีเสรีภาพ ล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ความงามที่แท้จริงของนิวยอร์กยังคงรอให้คุณค้นพบอยู่ในมุมที่น้อยคนจะรู้จัก สำรวจถิ่นชุมชนทางเชื้อชาติที่หลากหลาย และร้านค้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ รวมถึงถนนประวัติศาสตร์ที่มีบ้านสไตล์บราวน์สโตน นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกเพลิดเพลินกับบาร์และร้านอาหารทันสมัยหลายแห่งที่สะท้อนวิถีชีวิตของเมืองนี้ได้อย่างชัดเจน ทุกมุมที่คุณเดินผ่านคือโอกาสที่คุณจะสัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลายและประสบการณ์ที่นำคุณเข้าสู่ชีวิตของชาวนิวยอร์กอย่างแท้จริง ตราบใดที่เหนือเมืองมีความฝัน ภายในนิวยอร์ก คุณสามารถค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่แสวงหาความหรูหราและประสบการณ์เหนือระดับ นิวยอร์กคือปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด.


ฮาลิแฟกซ์ (Halifax) เมืองหลวงแห่งโนวาสโกเชีย (Nova Scotia) คือจุดหมายปลายทางที่เพียงคุณก้าวเท้าเข้ามา จะรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันงดงามและความเป็นสมัยใหม่ เกือบตลอดทั้งปี คุณจะแวดล้อมไปด้วยเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างมีสไตล์ บาร์และร้านอาหารที่มีชื่อเสียง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย ฮาลิแฟกซ์ตั้งอยู่ระหว่างทิวทัศน์ทะเลอันสวยงามและท่าเรือธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือขนส่งจำนวนมาก รวมถึงเรือสำราญ เรือข้ามฟาก และเรือท่องเที่ยว นับเป็นสถานที่ที่ควรเยือนไปสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นอกจากนี้ จุดเด่นทางสถาปัตยกรรมสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันยาวนาน เมืองแห่งนี้เป็นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจจังหวัดแอตแลนติกที่สวยงาม และหากคุณไม่สะดวกเดินทางไปที่อื่นๆ ฮาลิแฟกซ์ก็นำเสนอประสบการณ์ที่ครบถ้วน ซึ่งทำให้คุณสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจโบราณสถาน หรือใช้เวลาเดินเล่นที่ยาวที่สุดในโลกริมท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะพลิกฟื้นความฝันในการเดินทางได้ที่นี่อย่างแน่นอน


เซนต์จอห์นส์ (St. John's) ตั้งอยู่ในจังหวัดนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ของแคนาดา เป็นท่าเรือที่หลอมรวมประวัติศาสตร์และความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เมืองนี้มีประชากรในเขตเมืองประมาณ 200,000 คน และมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากอาคารสถาปัตยกรรมวิคตอเรียและบ้านแถวสีสันสดใสที่ตั้งอยู่เคียงคู่กับอาคารสำนักงานทันสมัย ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอังกฤษและไอริชผ่านเสียงเพลงพื้นบ้านและดนตรีร็อคที่บรรเลงในท้องถนน สถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างชายหาดกลุ่มเบย์ (Balong Bay) และอ่าวเซนต์จอห์น (St. John's Harbour) เปิดโอกาสให้คุณสำรวจประวัติศาสตร์ของการค้ามหาสมุทรซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาเกลือในยุคก่อน เซนต์จอห์นส์ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะและความบันเทิงอย่างไม่ขาดสาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมแกลเลอรีและร้านค้าหัตถกรรมท้องถิ่นได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ ความสงบเงียบและการใช้ชีวิตแบบช้าๆ ของเมืองนี้ ยิ่งทำให้เหล่านักเดินทางปรารถนาที่จะเข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและเป็นกันเองของเมืองนี้อย่างไม่รู้เบื่อ


ท่าเรือพอนตาเดลกาดา ในหมู่เกาะอะโซร์ของโปรตุเกส เป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับนักเดินทางที่ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความงดงามของภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ และธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม ในช่วงฤดูร้อน คุณจะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่ง ประดับประดาสถานที่ด้วยสีสันต่าง ๆ ยินดีต้อนรับนักเดินทางด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น โบสถ์เซาโฮเซ ที่มีฟาซาดสีดำและขาว กระตุ้นให้คุณสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ ตลาดท้องถิ่นยังมีสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สับปะรดที่หวานหอม ใบชาคุณภาพ และเมล็ดกาแฟที่เสิร์ฟความรสชาติแก่นักชิม ท่ามกลางการเดินเล่นบนดินที่มั่นคงหลังการเดินทางบนทะเล เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสในการลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่และช้อปปิ้งของฝากที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย การเดินทางไปยังแคลเดอรา ดาส เซเต้ ซิตาดัส เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด สัมผัสกับเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่ทะเลสาบในปล่องภูเขาไฟ พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของทะเลแอตแลนติกที่กว้างใหญ่ รอคอยให้คุณมาเป็นเจ้าของประสบการณ์อันล้ำค่าในราชอาณาจักรแห่งธรรมชาติที่สวยงามแห่งนี้


เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุโรป ท่าเรือฟุนชาลที่ตั้งอยู่ในมอริกาขอแนะนำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะมาเดราที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เมืองฟุนชาลเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส João Gonçalves Zarco ในปี 1419 และตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโคปเรซัลในนามของการค้า โดยเกาะนี้ได้รับชื่อว่า 'มาเดรา' ซึ่งแปลว่า 'ไม้' ในภาษาโปรตุเกส นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนินเขาที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นไปจนถึงหมู่บ้านที่สวยงามและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ความงามตามธรรมชาติของเกาะทำให้มันได้รับฉายาอันต่าง ๆ เช่น 'สวนลอยฟ้าบนมหาสมุทรแอตแลนติก' และ 'เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด' การเดินทางสำรวจเกาะนี้ถือเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ พร้อมกิจกรรมมากมายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของที่นี่ ฟุนชาลไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูที่คุณจะได้สัมผัสกับความงามและอารยธรรมที่หลากหลายของโปรตุเกสอย่างแท้จริง

ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ เป็นท่าเรือที่สำคัญในเกาะเทเนริเฟ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน สถานที่นี้มีเสน่ห์โดดเด่นด้วยแสงอาทิตย์ที่สดใสตลอดทั้งปี และมีภูเขาเทอิดที่เป็นไฮไลต์ของเกาะ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ แวดล้อมด้วยหุบเขาเขียวขจีที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซานตาครูซซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัย โดยมีสถาปัตยกรรมที่งดงามจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ซานตาครูซ ปาเลมตัม ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 29 เอเคอร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากคุณมาที่นี่ อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของเมือง และชื่นชมความงามของภูเขาเทอิดซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด ด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและความสวยงามแห่งธรรมชาติ ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ จึงเป็นปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มองหาการผจญภัยในสเปน

ลันซาโรเต (Lanzarote) เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่งในสเปน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) เกาะนี้มีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต จึงมีลักษณะพื้นผิวที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ตลอดชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่แทบไม่มีฝน ทำให้ลันซาโรเตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ท่าเรือหลักและเมืองหลวงของเกาะคือ อาเรซีเฟ (Arrecife) นั้นมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยสวนสวยและริมน้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอ่งเกลือจานูเบียนที่มีสีขาวสว่างและภูเขาไฟไฟร์ที่มีทิวทัศน์ที่ดึงดูด ขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะพบกับถ้ำโลสเวอร์เดสที่มีบรรยากาศน่าขนลุก รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงสงบเงียบซึ่งถูกประดับแต่งด้วยความงามธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะลันซาโรเตยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพีสตูว์ (garbanzos compuestos) และมันฝรั่งกับผัก (papas arrugadas) ที่รสชาติสดใส ก่อนออกไปสำรวจ ให้ระวังโปรแกรมทัวร์ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่

อากาดีร์ เมืองท่าที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก สวยงามด้วยแนวชายหาดโค้งมน และถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอตลาส ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 15 เมื่อชาวโปรตุเกสสร้างป้อมขึ้น โดยตั้งชื่อว่า ซานตาครูซ เดอ กีร์ นับตั้งแต่นั้นเมืองนี้ได้เติบโตเป็นท่าเรือที่มีชีวิตชีวาและรุ่งเรือง ในปี 1911 เมืองอากาดีร์กลายเป็นจุดสนใจระดับโลกเมื่อเรือประจัญบานของเยอรมนีเข้ามาในอ่าวเพื่อประท้วงการแบ่งพื้นที่ในแอฟริกาเหนือ ปัจจุบัน เมืองนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากการได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี 1956 และยังต้องเผชิญกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวในปี 1960 แต่ก็ได้ฟื้นตัวได้อย่างสง่างาม เมืองอากาดีร์เติมเต็มด้วยชายหาดทรายขาวละเอียด โรงแรมหรู และร้านอาหารที่มีสไตล์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับตลาดซุก (souks) ที่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่น สามารถทำให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างมีสีสัน ในขณะที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็พร้อมที่จะให้บริการคุณตลอดเวลา แค่เพียงก้าวแรก คุณจะได้พบกับมนตร์เสน่ห์ของอากาดีร์ ที่รอให้นักเดินทางอย่างคุณสัมผัสและสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำในดินแดนแห่งนี้

ท่าเรือคาซาบลังกาในโมร็อกโกคือหนึ่งในท่าเรือที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโลกที่นักเดินทางหรูหราต้องไม่พลาด เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่าสู่เมืองคาซาบลังกา นอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือแล้ว ยังสามารถลุยสำรวจเสน่ห์ของตัวเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุโรป แอฟริกัน และอาหรับได้อย่างลงตัว การเดินผ่านเมืองท่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตเดโคและโคโลเนียลฝรั่งเศส คุณจะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในภาพยนตร์คลาสสิก ด้วยอาคารเก่าแก่ ราคาเรื่อยๆ ของตลาดซูคที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้ค้าในตลาดเหล่านี้จะส่งเสียงเรียกนักท่องเที่ยวด้วยความกระตือรือร้น สร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและน่าตื่นตาตื่นใจ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งคือเมืองเก่าเมดิน่า ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ด้วยมัสยิดและบ้านเรือนที่สร้างขึ้นในสมัยของโมฮัมเหม็ด เบน อับดัลลาห์ ซึ่งคุณจะได้พบกับความงดงามของประวัติศาสตร์ ความหลากหลายของวัฒนธรรม และการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวโมร็อกโก เมื่อมาเยือนคาซาบลังกาในครั้งนี้ คุณจะได้ค้นพบความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ ของเมืองนี้ และดื่มด่ำกับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะตราตรึงอยู่ในใจตลอดไป


ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง


ลาคอรุญ่า คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคกาลิเซีย ประเทศสเปน และเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย โดยมีทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มและหมอกลงหนา แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ของสเปน ชื่อ "กาลิเซีย" มีรากศัพท์มาจากภาษาเซลติก ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลติคในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ลาคอรุญ่า เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญตั้งแต่สมัยโรมัน และพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 เมื่อได้รับสิทธิในการค้ากับอเมริกาในปี 1720 ความงดงามของลาคอรุญ่าสะท้อนผ่านอาคารแบบกระจกซึ่งทำให้เมืองนี้ได้รับชื่อว่า "เมืองแห่งคริสตัล" และสถานที่สำคัญอย่างจัตุรัสมาเรียพิทา ซึ่งเป็นเกียรติแก่หญิงผู้กล้าที่เคยปกป้องเมืองในปี 1589 ปัจจุบัน เมืองประกอบด้วยสามเขตที่แตกต่างกัน ได้แก่ เขตกลางเมือง ธุรกิจ และ “เอนซานเช่” ที่มีคลังสินค้าและโรงงาน อย่าพลาดโอกาสในการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นและสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจและแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องกลับมาอีกครั้ง.

ท่าเรือกิฮอน (Gijón) ประเทศสเปน เป็นจุดหมายที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัย ตั้งอยู่ริมทะเลในภูมิภาคอAsturias กิฮอนเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ด้วยหลักฐานทางโบราณคดีจากสมัยโรมัน เช่น สปา Campo Valdés ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 1 ที่เป็นจุดเด่นใจกลางเมืองและเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของเมือง ในอดีต กิฮอนเกือบถูกทำลายในศตวรรษที่ 14 แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นท่าเรือและเมืองอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรือง พื้นที่เมืองเต็มไปด้วยร้านกาแฟ อาหารท้องถิ่น และ sidrerías ร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแอปเปิ้ลซีดรา (Cider) ที่คุณไม่ควรพลาด ยามที่คุณเดินทางมาถึง ท่านยังสามารถพบกับชายหาดที่งดงามซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ เพิ่มเติมด้วยกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจ ทำให้กิฮอนไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รอคอยให้คุณได้สัมผัสและค้นพบเสน่ห์ของเมืองนี้อย่างแท้จริง

บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!



ท่าเรือ La Rochelle ในประเทศฝรั่งเศส เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามและยิ่งใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง เรือสำราญที่แวะจอดที่นี่จะให้โอกาสคุณได้สำรวจเมืองเก่าอันมีเสน่ห์ โดยเฉพาะมาร์ชี่จอห์นซิตี้ (Vieux Port) และหอคอยไตร (Tour de la Chaîne) ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง เมื่อคุณเดินชมเมือง จะได้พบกับอาคารสไตล์เรอเนสซองส์และการตกแต่งที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการใช้เวลานั่งจิบไวน์ในร้านกาแฟกลางแจ้ง พร้อมกับการดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเล แน่นอนว่า La Rochelle ยังเป็นแหล่งรวมของอาหารทะเลสดใหม่ เต็มไปด้วยประสบการณ์การชิมที่คุณไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ท่าเรือลา โรเชล ยังตั้งอยู่ใกล้กับเกาะ Ile de Ré ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานที่งดงาม ทำให้คุณสามารถสัมผัสกับบรรยากาศของเกาะที่สงบสุข และซึมซับความงามของธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเต็มที่ สถานที่แห่งนี้ถือเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความทรงจำอันมีค่าในการเดินทางไปยังแดนฝรั่งเศสที่คุณจะไม่มีวันลืม

ท่าเรือเซนต์เฮลิเยร์ ตั้งอยู่ในเกาะเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะช่องแคบและเป็นดินแดนภายใต้การดูแลของสหราชอาณาจักร เพียง 12 ไมล์จากคาบสมุทรโคเต็นตินในนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส และห่างจากชายฝั่งทางใต้ของอังกฤษประมาณ 100 ไมล์ ใครที่เคยมีโอกาสเยือนที่นี่ย่อมรู้จักท่าเรืออันงดงามที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอังกฤษและฝรั่งเศส ท่าเรือเซนต์เฮลิเยร์ไม่เพียงเป็นจุดแวะพักสำหรับเรือสำราญเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่ประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์ ซึ่งรวมถึงเรื่องราวการยึดครองโดยเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจเมืองที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม และเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลผลิตสดใหม่และศิลปหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ อย่าพลาดการเดินเล่นริมชายหาดที่งดงามและเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดๆ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น เพื่อสัมผัสกับรสชาติอันอร่อยของเกาะแห่งนี้ วางแผนการเดินทางที่เซนต์เฮลิเยร์และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำในใจของคุณตลอดไป!

ท่าเรือเลออาฟร์ (Le Havre) ตั้งอยู่ในนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ก่อตั้งโดยกษัตริย์ฟรานซิสที่ 1 ในปี 1517 ที่นี้เคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน กลไกการพัฒนาของเมืองเป็นไปตามแผนที่สร้างสรรค์โดยสถาปนิกชื่อดังชาวเบลเยียม ออกุสต์ แปร์เร ซึ่งได้ออกแบบให้เมืองมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะหลังจากที่เมืองต้องเผชิญกับการทำลายล้างในสงครามโลกครั้งที่สอง การฟื้นฟูเมืองเลออาฟร์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 2005 ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความงดงามและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ท่าเรือเก่าและโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่ลงตัว ร่วมเดินทางไปกับทัวร์หรูที่ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันเหลือเชื่อในเมืองเลออาฟร์แห่งนี้ ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น

ดันเคิร์ก (Dunkirk) เมืองท่าสำคัญของฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ริมทะเลเหนือ เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และธรรมชาติ เมืองนี้มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการอพยพในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของอดีตเมื่อเดินชมตามชายหาดคลาสสิกและป้อมปราการที่ยังคงหลงเหลือให้เห็น นอกจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ดันเคิร์กยังเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล เช่น พิพิธภัณฑ์การต่อสู้ดันเคิร์กที่มีการจัดแสดงเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในช่วงสงคราม นอกจากนี้ชายหาดดันเคิร์กยังเป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น หรือเพลิดเพลินกับบรรยากาศการรับประทานอาหารฝรั่งเศสเลิศรสที่ร้านอาหารริมทะเล ไม่เพียงเท่านั้น เมืองนี้ยังมีเสน่ห์ของแหล่งช้อปปิ้งและตลาดท้องถิ่นที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตท้องถิ่นและวัฒนธรรมที่แตกต่าง เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลงใหลและความทรงจำรอคอยให้คุณได้ค้นพบ มาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดันเคิร์ก เชื่อมต่อกับอดีตและดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง

ท่าเรือทิลบิวรี (Tilbury) ตั้งอยู่ห่างจากสะพานทาวเวอร์ (Tower Bridge) ในกรุงลอนดอนเพียง 22 ไมล์ทะเล เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงในการเป็นจุดแวะสำหรับเรือสำราญที่นำผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางในภูมิภาคบอลติกและยุโรปเหนือ ที่นี่มีบรรยากาศที่ผสมผสานกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของอังกฤษ ทิลบิวรีไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทาง แต่ยังมีสถานที่น่าสนใจใกล้เคียงอีกมากมาย ที่โดดเด่นคือปราสาทเชสเตอร์ (Castle of Chester) ที่เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอังกฤษซึ่งมีอายุนับร้อยปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวริมแม่น้ำเทมส์ (River Thames) ขณะที่สัมผัสกับความสง่างามของวิถีชีวิตในอดีต นอกจากนี้ ทิลบิวรียังเชื่อมต่อกับการเดินทางสู่ลอนดอนที่เต็มไปด้วยความคึกคัก พร้อมทั้งมีตลาดท้องถิ่นที่ให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมการกินและการใช้ชีวิตของคนอังกฤษอย่างแท้จริง การมาที่ท่าเรือทิลบิวรีจึงไม่ใช่เพียงแค่การเริ่มต้นการเดินทางอันยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นโอกาสในการค้นพบความงามและเอกลักษณ์ของอังกฤษที่จะทำให้คุณหลงใหลและใฝ่ฝันอยากกลับมาอีกครั้ง


แอนต์เวิร์ป (Antwerp) ถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดดเด่นอยู่ในประเทศเบลเยียม เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองแห่งเพชรและศิลปะที่สำคัญของยุโรป ด้วยบรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยสร้างสรรค์ผลงานที่นี่ เช่น รูเบนส์ และติซิปิเยอ ไม่เพียงแต่มีความงามของศิลปะเท่านั้น แต่แอนต์เวิร์ปยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเพชรที่มีชื่อเสียง ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและโชว์รูมเพชรที่สวยงาม นอกจากอุตสาหกรรมเพชรแล้ว เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของแฟชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการออกแบบที่ไม่ซ้ำใครและน่าค้นหา และยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น พิพิธภัณฑ์แม่บ้าน รูเบนส์ ซึ่งเป็นบ้านของศิลปินชื่อดัง พร้อมด้วยหอศิลป์อีกมากมาย สัมผัสบรรยากาศสุดหรูในย่านเก่าแก่ของแอนต์เวิร์ป เดินช้อปปิ้งที่ถนนแฟชั่น และเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง จึงไม่แปลกใจเลยที่แอนต์เวิร์ปจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันถึง ระหว่างการเดินทางสำรวจเมืองนี้ คุณจะได้ค้นพบความงดงามที่ซ่อนอยู่และสัมผัสถึงความสร้างสรรค์อันไม่มีที่สิ้นสุดในแอนต์เวิร์ป เมืองที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับคุณด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร.

ท่าเรือเซ็บรูเก (Zeebrugge) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเหนือของเบลเยียม เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญและคึกคักที่สุดในยุโรปในยุคปัจจุบัน โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1895 ความสำคัญของท่าเรือนี้ชัดเจนเมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ซึ่งพยายามถูกทำลายหลายครั้งในช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง แต่ยังคงยืนหยัดเป็นท่าเรือหลักในการประมงของเบลเยียม การเยี่ยมชมเซ็บรูเกจะเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง เมื่อคุณมีโอกาสได้เดินทางไปยังเมืองบรูจ (Bruges) ที่อยู่ใกล้เคียง เมืองนี้ได้รับการออกแบบให้เปล่งประกายด้วยสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปยังรีสอร์ทชายทะเลที่มีชายหาดทรายยาวได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้รถรางที่วิ่งตลอดแนวชายฝั่งเบลเยียม แต่ควรทราบว่าในเบลเยียมไม่อนุญาตให้นำอาหารลงฝั่ง จึงไม่ควรพลาดในการสัมผัสกับรสชาติท้องถิ่นอันหลากหลายที่มีให้เลือกในเมืองและรอบท่าเรือ ด้วยท่าเรือเซ็บรูเกที่พร้อมจะเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยใหม่ คุณจะได้รับแรงบันดาลใจให้สำรวจสมบัติทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของเบลเยียมในทุกก้าวที่เดินทาง

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้
เบรเมอร์ฮาเฟน (Bremerhaven) เมืองท่าแห่งความสำคัญที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1139 เป็นหน้าตาของการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในประเทศเยอรมนี เมื่อปี 1827 ได้มีการตัดสินใจเปลี่ยนเมืองประมงเล็ก ๆ แห่งนี้ให้กลายเป็นท่าเรือที่ใหญ่โต และในปัจจุบัน พร้อมกับเมืองเบรเมน เบรเมอร์ฮาเฟนยังเป็นส่วนหนึ่งของรัฐเฟเดอรัลที่เล็กที่สุดของเยอรมนี ท่าเรือที่คึกคักแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการประมง โดยมีเรือประมงกว่า 50% ของประเทศมายังที่นี่ เบรเมอร์ฮาเฟนมาพร้อมกับประภาคารที่มีชื่อเสียงซึ่งสร้างขึ้นในปี 1853 เป็นประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดในชายฝั่งทะเลเหนือของเยอรมนี นอกจากนี้ เบรเมอร์ฮาเฟนยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์การเดินเรือเยอรมันซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1971 และมีนิทรรศการที่น่าสนใจถูกจัดแสดง อาทิเช่น เรือพาณิชย์ฮันซาในศตวรรษที่ 14 ที่ค้นพบในแม่น้ำเวเซอร์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์การย้ายถิ่นฐานที่เล่าถึงเรื่องราวของผู้คนที่เดินทางเข้ามาที่เยอรมนี หรือเดินทางไปยังโลกใหม่ สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในเบรเมอร์ฮาเฟน สถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมรอบด้าน ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความทรงจำที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่รักการเรียนรู้หรือผู้หลงใหลในธรรมชาติ เบรเมอร์ฮาเฟนพร้อมต้อนรับคุณด้วยเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม.

คริสเตียนซัน (Kristiansand) เมืองที่มีเสน่ห์ในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "Sommerbyen" หรือ "เมืองร้อนแห่งฤดูร้อน" สถานที่แห่งนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของนอร์เวย์ มีประชากรราว 78,000 คน ที่เดินทางเข้ามาที่นี่เพื่อสัมผัสกับชายหาดที่เปล่งประกายจากแสงแดดและท่าเรือที่งดงาม ในเดือนกรกฎาคมของทุกปี คริสเตียนซันยังก้าวสู่เวทีโลกด้วยเทศกาล Quart Festival ซึ่งนำเสนอดนตรีจากวงร็อคทั้งของท้องถิ่นและนานาชาติ สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มาเยือน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลตามตำนานที่ว่าในปี 1641 พระเจ้า Christian IV ได้ใช้ง่ามเดินของพระองค์ทำเครื่องหมายสี่มุมของเมือง และจากนั้นได้วางแผนถนนในรูปแบบตาราง ซึ่งจุดศูนย์กลางของเมืองที่เรียกว่า Kvadraturen ยังคงมีรูปแบบนี้แม้จะประสบกับเหตุไฟไหม้หลายครั้ง นอกจากนั้น ยังมี Posebyen ซึ่งเป็นชุมชนบ้านไม้ที่เชื่อมต่อกันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ และมีตลาดในวันเสาร์ในฤดูร้อนที่คึกคัก นอกจากนี้ ตลาดปลา Fisketorvet ที่ตั้งอยู่ใกล้กับมุมใต้ของตารางเมืองก็พร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทะเลสดใหม่ ตั้งแต่กุ้งหอยปูปลา ให้คุณเต็มอิ่มกับรสชาติท้องถิ่นที่คุณไม่ควรพลาด เติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณที่คริสเตียนซัน สัมผัสวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป!

ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์และเมืองที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ปลายฟยอร์ดออสโลที่งดงาม ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ที่เขียวชอุ่ม เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีพิพิธภัณฑ์กว่า 50 แห่ง ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีคำว่า “ศิลปะ” ที่พร้อมให้คุณค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นแกลเลอรีสุดหรู สวนประติมากรรมอันงดงาม หรือแม้แต่พระราชวังอันวิจิตร ออสโลยังมีอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ศตวรรษที่ 19 ที่สวยงาม ประกอบกับถนนกว้างขวาง ทําให้การสำรวจเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ประวัติศาสตร์ของออสโลยาวนานกว่า 1,000 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางการเดินเรือจากยุคไวกิ้งจนถึงการผจญภัยของธอร์ เฮเยอร์ดาห์ล ผู้ที่โด่งดังจากการเดินทางด้วยเรือคอนทิกิ ให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของออสโลผ่านทริปสุดพิเศษที่เรานำเสนอ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการเดินทางของคุณในเมืองที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะ ออสโลจะเปิดประตูให้คุณเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสวยงามและเรื่องราวที่น่าทึ่ง.

ท่าเรือ Lysekil สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งสวีเดน ตั้งอยู่ในภูมิภาค West Coast ของประเทศสวีเดน เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทาง ที่แวะเวียนมาเยือนด้วยเรือสำราญ ด้วยวิวทะเลอันงดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ Lysekil พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับคุณ เมื่อถึงท่าเรือ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความงามของธรรมชาติ ที่รวมทั้งชายหาดที่งดงามและภูเขาหินสวย ๆ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นเต้นในบริเวณใกล้เคียง เหมาะสำหรับผู้ที่รักในการสำรวจพื้นที่ธรรมชาติ ไม่ไกลจากท่าเรือคือเมืองเก่าที่มีบ้านสไตล์ดั้งเดิมและร้านค้าน่ารักที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น มายลโฉมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสวีเดน การมาเยือน Lysekil ยังเป็นโอกาสอันดีในการเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่ ที่ขึ้นชื่ออย่าง ปูและปลาที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โอบรับความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมใน Lysekil เพื่อสร้างความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม

Skagen, เมืองที่ตั้งอยู่เหนือสุดของเดนมาร์ก เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามที่ไม่เหมือนใคร ที่นี่คือจุดที่ทะเลสองแห่งพบกัน — จุดบรรจบระหว่างทะเลเหนือและทะเลบอลติก ที่ทำให้ Skagen เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความงามตามธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง ภาพลักษณ์ของ Skagen ถูกครอบคลุมด้วยบ้านหลังคาเหลืองที่มีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยบรรยากาศแบบชายทะเลที่อบอุ่น สำหรับผู้ที่รักศิลปะ ในอดีต Skagen เคยเป็นที่ชุมนุมของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย ที่นี่คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Skagens ที่จัดแสดงผลงานสำคัญจากศิลปินเหล่านั้น นอกจากนี้ ทิวทัศน์อันสวยงามของชายหาดที่ทอดยาวและต้นสนที่เขียวชอุ่ม ถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่ผ่อนคลายสุดพิเศษ ในช่วงฤดูร้อน คุณยังสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น เช่น วินด์เซิร์ฟ และการเดินป่าร่วมด้วย หากท่านมีโอกาสได้เที่ยวมาที่ Skagen อย่าลืมแวะสำรวจประภาคารที่อยู่ในตำนาน และสัมผัสประสบการณ์ดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม เป็นความทรงจำที่คุณจะไม่ลืมเลือนอย่างแน่นอน ดินแดนแห่งนี้พร้อมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ!

ยินดีต้อนรับสู่วรกรรมแห่งวัลลาร์เซอร์เบคหรือท่าเรือที่น่าหลงใหลในโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญ แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นักเดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ศิลปะชั้นยอดจากโอเปร่าและโรงละครที่มีชื่อเสียง รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่อัดแน่นไปด้วยผลงานจากศิลปินชั้นนำของประเทศ ในโกเธนเบิร์ก คุณจะได้พบกับประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตั้งแต่ท่าเรือโบราณที่สร้างเมือง จนถึงอาคารโรงงานในศตวรรษที่ 19 ที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการค้า มุมมองธรรมชาติที่สวยงามระหว่างชายฝั่งตะวันตกที่รุ่งเรืองและทุ่งหญ้าเขียวขจี ก็เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักการเดินป่าและสัมผัสธรรมชาติ ไม่เพียงแค่การท่องเที่ยวและสร้างความประทับใจ เทศกาลอาหารในโกเธนเบิร์กก็เป็นที่ฮือฮา โดยการประกวด "เชฟชาวสวีเดนแห่งปี" ที่มีผู้ชนะมากกว่าครึ่งหนึ่งจากเมืองนี้ เส้นทางเดินทางที่มีเสน่ห์นี้พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่อิ่มเอมและน่าจดจำให้กับคุณในทุกองค์ประกอบของการเดินทาง รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง!

โคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่นี่เคยเป็นศูนย์การค้าสำคัญในศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันจึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทั้งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในสแกนดิเนเวีย แต่ก็ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมที่ไม่สูงนักให้มีความสง่างามใกล้ชิดธรรมชาติ ห้ามพลาดที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น น้ำพุเกเฟียน (Gefion Fountain) ที่มีความสวยงาม แวะชมพระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) ซึ่งเป็นที่ประทับของราชวงศ์เดนมาร์ก และพลาดไม่ได้กับปราสาทโรเซนบอร์ก (Rosenborg Castle) ที่มีการจัดแสดงอัญมณีของราชวงศ์ นอกจากนี้ การนั่งเรือชมทิวทัศน์ในคลองต่างๆ ของโคเปนเฮเกนจะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศแบบสแกนดิเนเวียอย่างแท้จริง และหากมีโอกาส ควรไปเยือนหมู่บ้านประมงเก่าแก่ดราเกอร์ (Dragoer) ที่ทำให้ความทรงจำของคุณมีสีสันยิ่งขึ้น โคเปนเฮเกนเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ไม่น่าแปลกใจที่เมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจของนิทานอันเป็นที่รักจากฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน และยกย่องในบทเพลง "Wonderful Copenhagen" อย่างแท้จริง เมื่อเดินทางมายังเมืองนี้ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลือน


เมืองคีล (Kiel) ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่มีใจรักในวัฒนธรรมทะเล ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องคลองคีล (Kiel Canal) และเทศกาลคีลวีค (Kiel Week) ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยประวัติศาสตร์ทางทะเลที่สำคัญ คีลจึงเต็มไปด้วยเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร คุณสามารถสำรวจเมืองที่มีชีวิตชีวานี้ได้อย่างง่ายดาย โดยเริ่มต้นจากท่าเรือ ที่นี่มีวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมกับโอกาสในการแวะพักหลากหลายร้านค้าและคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมทะเล หากคุณเป็นแฟนของการช้อปปิ้ง ไม่ควรพลาดแหล่งช็อปปิ้งที่มีสินค้าแฟชั่นทันสมัยและของที่ระลึกอันน่าประทับใจ นอกจากนี้ เทศกาลคีลวีคซึ่งจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน เป็นหนึ่งในเทศกาลเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่มีการแข่งเรือ แต่ยังมีกิจกรรมดนตรีและการแสดงมากมายที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาในช่วงเวลานั้น เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และบรรยากาศที่น่าตื่นเต้น คีล คือจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์และสำรวจวัฒนธรรมที่หลากหลาย ขอเชิญคุณมาสัมผัสและสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืม ณ ที่แห่งนี้

ท่าเรือรอนเนอร์ (Rønne) ตั้งอยู่บนเกาะบอร์นโฮล์ม (Bornholm) ของประเทศเดนมาร์ก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามทางธรรมชาติที่น่าหลงใหล เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ที่งดงาม หาดทรายขาวสะอาด และน้ำทะเลใส ที่สร้างบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริง เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือรอนเนอร์ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองที่มีเอกลักษณ์ ตั้งแต่บ้านไม้สีสันสวยงามไปจนถึงบรรยากาศของตลาดท้องถิ่นที่คุณสามารถชิมผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสดๆ รวมถึงปลาที่จับได้ในท้องถิ่น เลือกซื้อตะกร้าอาหารแบรนด์ดัง หรือแม้กระทั่งของที่ระลึกที่ทำจากฝีมือชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบเกาะ เช่น วัดเซนลุด (Sankt Nikolaj Kirke) ที่มีสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า และโรงงานทำช็อกโกแลตที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในการผลิต อิสระในการสำรวจเกาะที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ทำให้การเดินทางนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแท้จริง ท่าเรือรอนเนอร์ไม่เพียงแต่ให้บริการเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของเดนมาร์ก สัมผัสบรรยากาศที่แสนโรแมนติกและให้ความรู้สึกเหมือนเป็นชีวิตในฝันที่คุณควรมีในรายการเดินทางของคุณ

การเดินทางมาที่กดังสค์ (Gdańsk) ประเทศโปแลนด์ นับเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ล้ำค่า ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์ เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่าในท่าเรือที่มีชื่อเสียง ทำให้คุณสามารถสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่จำลองยุคกลาง วิทยาการทางทะเล และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองกดังสค์เป็นที่รู้จักในการเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญที่สุดในยุโรป ด้วยเสน่ห์ของอาคารเก่าแก่ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง แนะนำให้คุณเดินชมย่านเมืองเก่าที่มีสีสัน และไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมโบสถ์เซนต์แมรีที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กดังสค์ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญของเมือง สัมผัสอาหารท้องถิ่นที่อร่อยหลากหลาย เช่น "ผลไม้ทะเล" ที่สดใหม่และเบียร์ท้องถิ่น จะทำให้คุณหลงรักและต้องการกลับมาเยือนกดังสค์อีกครั้ง ความผสานของประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวเมือง ทำให้การท่องเที่ยวที่นี่ถูกจารึกลงในความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในใจนักเดินทางทุกคน

ท่าเรือเลเปอญา (Liepāja) หนึ่งในท่าเรือที่งดงามแห่งประเทศลัตเวีย ตั้งอยู่ริมทะเลบอลติก เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ท่าเรือแห่งนี้มีการคมนาคมและกิจกรรมทางน้ำที่คึกคัก สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้มาเยือน การเดินทางมายังเลเปอญา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่นริมทะเล ไปชมชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด พร้อมกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำหรือพายเรือคายัค ทั่วทั้งเมืองยังเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย อย่าพลาดที่จะสำรวจสวนสาธารณะพัลเกนที่มีการจัดแสดงทางประวัติศาสตร์อันน่าตื่นตาตื่นใจ และลองชิมอาหารทะเลสดใหม่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ในท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร เมืองเลเปอญาจึงเป็นอีกหนึ่งปลายทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ด้วยเสน่ห์ของเมืองและความสะดวกสบายในการเดินทาง ท่าเรือเลเปอญาเป็นที่เดินทางอันน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ในทวีปยุโรป อย่ารอช้าให้โอกาสนี้พลิกความฝันของคุณให้เป็นจริง!

ริกา เมืองหลวงของลัตเวีย ที่นำเสนอความหรูหราในบรรยากาศของเมืองใหญ่ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ สถานที่แห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางการค้าและธุรกิจที่สำคัญ โดยมีร้านอาหารและโรงแรมระดับสูงที่เป็นที่กล่าวขานในวงการท่องเที่ยวในยุโรปตะวันตก ผู้มาเยือนจะได้รับการต้อนรับด้วยความงดงามของเมืองเก่า (Old Town) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกยูเนสโก หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมอาร์ต นูโว เส้นทางเดินในย่านนี้ จะเต็มไปด้วยบ้านแบบเยอรมันที่มีเสน่ห์ แบ่งป่าทางข้างในของเมืองออกเป็นสองส่วน สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Esplanāde รอคอยให้ผู้มาเยือนนั่งพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ในขณะที่ย่านสถาปัตยกรรมอาร์ต นูโว ที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ยังให้ความรู้สึกถึงความหรูหราในทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าคุณจะถูกใจที่จะเดินชมบรรยากาศหรือจะเข้าไปสำรวจพิพิธภัณฑ์มากมายของเมือง ริการอุดมไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะ ที่คุณสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่เส้นขอบฟ้าไปจนถึงคาเฟ่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เตรียมกระเป๋าของคุณแล้วไปสัมผัสกับความงามของริกากันเถอะ!

ท่าเรือตัลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสัมผัสเสน่ห์ของประเทศแถบบอลติกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาของการถูกปกครองโดยชนชาติต่าง ๆ เช่น เดนมาร์ก เยอรมัน สวีเดน และรัสเซีย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 จนกระทั่งได้ประกาศเอกราชในปี 1918 แม้จะต้องเผชิญกับการยึดครองจากโซเวียตและนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เอสโตเนียได้ฟื้นฟูอิสรภาพและเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 2004 ในปัจจุบัน ตัลลินน์เป็นเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองและเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะในปี 2011 ที่เมืองนี้ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองวัฒนธรรมแห่งยุโรป ชวนให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รวมถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของคาเฟ่และแกลเลอรีศิลปะต่าง ๆ เมื่อคุณมายังตัลลินน์ นอกจากการสำรวจตัวเมืองอันงดงามแล้ว ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง เช่น ปราสาทโตนลาห์ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม รองรับการเดินทางโดยเรือสำราญที่มาเยือนให้ความสุขและประสบการณ์ที่น่าจดจำในดินแดนแห่งประวัติศาสตร์นี้



บนเรือ Seven Seas Mariner® ห้องซิกเนเจอร์สวีทมอบความหรูหราในแบบฉบับของ Park Avenue ที่ชวนให้หลงใหล ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โรสวูด ผ้าทอระดับหรู และโคมระย้าคริสตัลเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความสวยงามและความสะดวกสบาย พร้อมบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณ ห้องพักประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำหินอ่อน 2 ห้องครึ่ง ห้องนั่งเล่นขนาดกว้างขวาง และระเบียงส่วนตัว 2 แห่ง เหมาะสำหรับการต้อนรับเพื่อนใหม่ในบรรยากาศอันหรูหรา ขนาดของห้องลงตัว รองรับได้สูงสุดถึง 5 ท่าน โดยมาพร้อมกับเตียงคิงไซส์ Elite Slumber™ ระเบียงส่วนตัวเพื่อชมวิวทะเลอย่างใกล้ชิด และห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ในห้องนี้ยังมีระบบความปลอดภัยในรูปแบบของตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีเซฟ และบริการที่หลากหลายเพื่อเติมเต็มการเข้าพักของคุณอย่างแท้จริง ทุกความสะดวกสบายที่ซิกเนเจอร์สวีทนำเสนอเกินกว่าคำบรรยาย โดยรวมถึงบริการเช็คอินลำดับความสำคัญที่จะทำให้คุณสะดวกสบายตั้งแต่วันแรกด้วยการเข้าถึงห้องพักตั้งแต่เที่ยงวัน พร้อมด้วยการต้อนรับด้วยแชมเปญคุณภาพ และบริการทำความสะอาดทันทีในคืนแรก อีกทั้งยังมีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงสิทธิพิเศษในเรื่องการจองร้านอาหารและกิจกรรมชายฝั่งต่างๆ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจ




สัมผัสความร่ำรวยของการรับประทานอาหารในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยศิลปะในห้องนั่งเล่นขนาดกว้างขวาง บริเวณนอกเป็นระเบียงส่วนตัวที่มีโต๊ะและเก้าอี้ พร้อมให้คุณเพลิดเพลินกับอาหารเช้าสุดพิเศษในห้องพัก ห้องนอนส่วนตัวขนาดใหญ่มีบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเตียงขนาดคิงไซส์ Elite Slumber™ ที่ทำให้คุณมีคืนที่นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ทั้งยังมีห้องน้ำหินอ่อนถึงสองห้องและผลิตภัณฑ์อาบน้ำชั้นเลิศที่เชื้อเชิญให้คุณได้สัมผัสช่วงเวลาส่วนตัวอย่างเต็มที่ ห้องสวีทใหญ่มีขนาดกว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยเชื่อมโยงกันอย่างลงตัว พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินที่มีเซฟ ห้องพักนี้รองรับแขกได้ถึง 3 ท่านและแสดงถึงความหรูหราของการล่องเรือที่ไม่เหมือนใคร


มาริเนอร์ สวีทคือห้องสวีทที่มอบมุมมองสุดพิเศษพร้อมวิวระดับพาโนรามาที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ห้องนี้มีตำแหน่งที่สะดวกสบายอยู่กลางเรือ ประกอบไปด้วยห้องนอนขนาดใหญ่แยกต่างหากที่มีเตียงคิงไซส์ Elite Slumber™ ขนาดยุโรป และห้องน้ำหินอ่อน 1.5 ห้อง สำหรับการเข้าพักถึง 3 ท่าน ห้องนี้มาพร้อมกับตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินขนาดกว้างที่มีลิ้นชักเก็บของเพื่อความสะดวกเพิ่มขึ้น สำหรับการยกระดับประสบการณ์การเข้าพักของคุณให้ดียิ่งขึ้น บัตเลอร์ส่วนตัวของคุณจะอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยให้ความปรารถนาในระหว่างการล่องเรือของคุณเป็นจริง นอกจากนี้ ห้องยังมีระเบียงส่วนตัวที่จะให้คุณผ่อนคลายกับทัศนียภาพอันงดงาม คุณจะได้เพลิดเพลินกับบริการต่างๆ เช่น บริการซักรีด วีไอพี และแชมเปญต้อนรับ รวมถึงความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการเสริมอีกมากมาย ทำให้การเข้าพักในมาริเนอร์ สวีทเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน




เซเว่นซีสสวีท ให้การต้อนรับคุณด้วยสีสันที่สงบเรียบง่าย, ผลงานศิลปะที่น่าพอใจและเฟอร์นิเจอร์ที่สะดวกสบาย คุณสามารถผ่อนคลายในพื้นที่นั่งเล่นหลังจากวันที่น่าตื่นเต้นบนแผ่นดิน และเพลิดเพลินกับขนมที่สดใหม่ซึ่งจะถูกนำเสนอโดยผู้ดูแลส่วนตัวของคุณ จากนั้นคุณสามารถหลบไปยังระเบียงส่วนตัวเพื่อชมวิวที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอและคิดถึงจุดหมายปลายทางถัดไป ห้องสวีทนี้มีขนาดกว้างขวางประกอบไปด้วยห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์แบบยุโรป 1 ห้องน้ำหินอ่อน 1 คู่ และพื้นที่นั่งเล่นที่มาพร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีเซฟ ห้องสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 3 คน นอกจากนี้ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์บริการระดับพรีเมียมต่างๆ เช่น บริการซักรีด, แพ็คเกจโรงแรมก่อนการล่องเรือที่รวมการขนส่งพื้นดินและอาหารเช้า, อินเทอร์เน็ตไร้สายไม่จำกัด, เวลาพูดคุยทางโทรศัพท์ 15 นาทีจากเรือไปยังฝั่ง, และการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวจากแบรนด์ชั้นนำ นอกจากนี้ ยังมีการบริการห้องพัก 24 ชั่วโมง, ระบบโทรทัศน์จอแบนแบบโต้ตอบที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง, อุปกรณ์เสริมมากมายเช่นลำโพงบลูทูธ BOSE® และชุดอุปกรณ์ดูแลส่วนบุคคลที่ให้ความสะดวกสบายสำหรับการพักผ่อนของคุณ ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเดินทางอย่างสมบูรณ์แบบในเซเว่นซีสสวีท



ขอแนะนำฮอไรซอน วิว สวีท ห้องพักที่ตั้งอยู่บริเวณด้านท้ายของเรือ Seven Seas Mariner® ซึ่งมอบทิวทัศน์ที่กว้างขวางและระเบียงส่วนตัวขนาดกว้างที่เพียงพอสำหรับเก้าอี้อาบแดดแบบนุ่มสองตัว พร้อมเก้าอี้และโต๊ะอีกสองตัว ภายในห้องพักมีพื้นที่นอนที่แยกออกจากพื้นที่นั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างมีเสน่ห์ด้วยผ้าม่าน ช่วยให้คุณสามารถควบคุมแสงแดดที่ส่องเข้ามาในแต่ละเช้าได้ตามต้องการ ห้องนี้มีขนาดกว้างขวางพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ Elite Slumber™ ขนาดใหญ่ ห้องน้ำหินอ่อน และพื้นที่นั่งเล่นที่สบายสบาย อีกทั้งยังมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีเซฟซึ่งรองรับการเข้าพักได้สูงสุดถึง 3 ท่าน เพื่อความสะดวกสบายอย่างแท้จริง คุณยังมีบัตเลอร์ส่วนตัวคอยดูแลความต้องการของคุณ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรามากมาย เช่น บริการซักรีด, แพคเกจโรงแรมก่อนการล่องเรือ รวมทั้งการขนส่งและอาหารเช้า, WiFi ไม่จำกัด, โทรศัพท์จากเรือสู่ฝั่ง 15 นาที, สบู่และโลชั่นจาก Guerlain และ L'Occitane®, และการเข้าถึงห้องพักของคุณตั้งแต่เวลา 13:00 น. ของวันขึ้นเรือ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีขวดแชมเปญต้อนรับ, การจัดดอกไม้สด, และบริการอื่น ๆ ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณเหนือระดับมากที่สุด



เพนท์เฮาส์สวีท ห้องพักสุดหรูที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่สำหรับการพักผ่อนของคุณ โดยคุณสามารถนั่งชมวิวสบายๆ บนระเบียงส่วนตัวหรือเพลิดเพลินกับอุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหราในขณะคุณเติมพลังให้ตัวเองก่อนมุ่งหน้าสู่การผจญภัยครั้งใหม่ในท่าเรือต่อไป นอกจากนี้ ห้องพักยังมีบริการจองออนไลน์ล่วงหน้าสำหรับกิจกรรมและการรับประทานอาหารบนฝั่ง พร้อมทั้งแนะนำให้ติดต่อผู้ให้บริการพิเศษของเราเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ห้องเพนท์เฮาส์สวีทประกอบไปด้วยเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์แบบยุโรป ห้องน้ำหินอ่อน พื้นที่นั่งเล่นที่ใกล้ชิด ระเบียงส่วนตัว และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินพร้อมเซฟ โดยสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 3 ท่าน ห้องพักยังมาพร้อมกับบริการซักรีด วางแผนโรงแรมทันทีในคืนก่อนเริ่มการล่องเรือ ซึ่งรวมบริการขนส่งและอาหารเช้า รวมทั้งการดื่มด่ำกับไวไฟไม่จำกัดสำหรับสูงสุด 4 ท่าน พิเศษด้วยการโทรศัพท์จากเรือสู่ฝั่ง 15 นาที คุณจะได้พบกับผลิตภัณฑ์จาก Guerlain และ L’Occitane รวมถึงแชมพูและโลชั่น รวมไปถึงขวดแชมเปญต้อนรับพร้อมการจัดเรียงผลไม้สด รวมถึงบริการรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง การจองออนไลน์ที่มีลำดับความสำคัญสำหรับกิจกรรมที่ท่าเรือและอาหารอันละเอียดอ่อน ทั้งนี้ ยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับไวน์และสุรา รวมถึงโปรแกรมที่พักหรือการเดินทางก่อนและหลังล่องเรือ และยังมีสุดยอดประสบการณ์ที่มีให้ที่นี่ เช่น หมอนหลากหลายรูปแบบ เสื้อคลุมและรองเท้าสนิกเกอร์สำหรับการพักผ่อน พร้อมพูดเสียงจากลำโพงบลูทูธ BOSE® SoundLink Mini II สนุกสนานไปกับการดูทีวีแบบอินเตอร์แอคทีฟและภาพยนตร์ตามคำขอ และรับบริการทำความสะอาดรองเท้า รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง คุณจะได้รับกระเป๋าผ้าที่เป็นของขวัญ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบายในทุกๆ การเดินทางของคุณ

ในห้องสวีทที่ออกแบบอย่างยอดเยี่ยมนี้ คุณจะได้สัมผัสความสะดวกสบายจากการตกแต่งที่หรูหรา พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษที่มีเฉพาะในห้องสวีทระดับคอนเซียร์จและสูงกว่า ห้องคอนเซียร์จสวีทประกอบด้วยเครื่องทำเอสเปรสโซ่ illy® และผ้าห่มจากแคชเมียร์ เหมาะสำหรับการนั่งจิบกาแฟและเพลิดเพลินกับอาหารเช้าในห้องบนระเบียงส่วนตัวของคุณ นอกจากนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงที่คุณสามารถใช้เมื่อใดก็ได้ตามใจต้องการ ห้องสวีทนี้มีเตียงขนาด King-Sized ที่สะดวกสบาย ห้องน้ำหินอ่อน 1 ห้อง พื้นที่นั่งเล่นที่อบอุ่น และระเบียงส่วนตัว สถานที่จัดเก็บที่กว้างขวางพร้อมตู้นิรภัย และรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 3 คน โดยห้องคอนเซียร์จสวีทนี้ยังมีตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงในห้องหมายเลข 1012 และ 1013 อีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมที่รวมอยู่ในห้องนี้ ได้แก่ บริการซักรีดแบบวาเลต์ แพ็คเกจโรงแรมก่อนเริ่มล่องเรือ เป็นเวลา 1 คืน ซึ่งรวมบริการขนส่ง อาหารเช้า และการดูแลสัมภาระ การใช้ Wi-Fi อย่างไม่จำกัดสำหรับผู้เข้าพัก 4 คนต่อห้อง และ 15 นาทีในการโทรออกระหว่างเรือถึงฝั่ง นอกจากนี้ยังมีสบู่ แชมพู และโลชั่นจาก L’Occitane® รวมถึงขวดแชมเปญต้อนรับพร้อมผลไม้สดที่จัดเรียง อุปกรณ์ในมินิบาร์ภายในห้องพร้อมบริการเติมเต็ม บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง การจองทัวร์และห้องอาหารออนไลน์แบบมีลำดับความสำคัญ ส่วนลด 10% สำหรับไวน์และสุราแบบพรีเมียม และส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับโปรแกรมโรงแรมก่อนหรือตั้งหลังการล่องเรือ ทุกอย่างในห้องคอนเซียร์จสวีทถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายและหรูหราให้แก่คุณในระหว่างการเดินทางที่น่าจดจำ.

ห้องสวีทระเบียงดีลักซ์นี้ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในและให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากธรรมชาติ ในพื้นที่นั่งเล่น ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการชมวิวทะเลผ่านหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดาน หรือจะเลือกนั่งพักผ่อนบนระเบียงส่วนตัวเพื่อชมบรรยากาศอันงดงามก็ได้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา เช่น เตียงนอนขนาดคิงไซซ์สุดสบาย และห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อน ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทนี้ประกอบด้วยห้องน้ำหินอ่อนหนึ่งห้อง พื้นที่นั่งเล่นที่อบอุ่น ระเบียงส่วนตัว และตู้เสื้อผ้ามีเซฟเพื่อความปลอดภัย รองรับผู้เข้าพักสูงสุดถึง 3 ท่าน นอกจากนี้ยังมีการบริการซักผ้าราคาเหมาจ่าย WiFi ไม่จำกัดสำหรับการใช้งาน 2 เครื่อง ต่อห้องสวีท เป็นต้น ที่สำคัญยังมีการต้อนรับพิเศษด้วยแชมเปญและผลไม้สด ตลอดจนบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อมอบความสะดวกสบายที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา

เรเจนท์ สวีทนำเสนอความหรูหราที่ไม่มีใครเทียบเคียง โดยสามารถสัมผัสได้จากการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และความใส่ใจในรายละเอียดที่ปรากฏในทุกมุมของห้องพัก อาทิเช่น ผลงานศิลปะที่หายากและฟีเจอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างสปาภายในห้องและเปียโนสไตน์เวย์ ห้องสวีทนี้ประกอบด้วยห้องนอนที่กว้างขวางสองห้อง และสามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลอันงดงามจากระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมกับ Tresse Minipool ที่ตั้งอยู่สูงบนเรือ การพักผ่อนในเรเจนท์ สวีท จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราจนไม่อาจลืมเลือน