
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เซเว่นซีส์เพรสทีจ
เรเจนท์ เซเว่น ซีส์ ครูซส์


การเดินทางสู่ท่าเรือปานามา สู่เมืองปานามาซิตี้ จะมอบประสบการณ์ที่น่าหลงใหลอย่างไม่รู้ลืม ตั้งแต่เราเดินทางมาถึงในยามเช้าตรู่ เมืองจะสะท้อนให้เห็นแสงสีเงินอ่อนๆ ที่เปลี่ยนเป็นแสงทองของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ขึ้นในยามเช้า อาคารสูงตระหง่านทำให้เมืองนี้เปล่งประกายด้วยความทันสมัยอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ ฟวยร์เต อมาดอร์ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ใกล้เมืองแต่ก็มีกลิ่นอายความงดงามที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์มิราฟลอเรส ของคลองปานามาเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดอลังการที่ควรเยี่ยมชม ซึ่งมี ทั้งการแสดง 3 มิติและระเบียงชมวิวที่เยี่ยมยอด สำหรับผู้ที่หลงใหลในอาหารทะเล เมืองนี้มีร้านอาหารและตลาดที่นำเสนอกุ้งซาชิมิสดใหม่ที่มีรสชาติแสนอร่อย พร้อมกับขนมปังกรอบและเบียร์เย็นๆ ถือเป็นวิถีการกินแบบปานามาที่ไม่ควรพลาด ควบคู่ไปกับความงามของเมืองใหญ่ ยังมีกิจกรรมนันทนาการท่ามกลางธรรมชาติทั้งชายหาดที่สวยงามและป่าฝนที่เขียวขจี ที่สามารถเข้าถึงได้เพียงการเดินทางสั้นๆ โดยแท็กซี่ หากคุณฝันถึงการเดินทางที่หรูหราและเต็มไปด้วยสีสัน ปานามาซิตี้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เพื่อสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในที่เดียว!


คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย


กรุงโอนานจ์สตัด เมืองหลวงของอารูบา เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลและสะดวกสบายสำหรับการสำรวจแบบเดินเท้า สายเดินทางที่มีต้นปาล์มเรียงรายพาคุณผ่านอาคารที่มีสีพาสเทลซึ่งผสมผสานกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมดัตช์และสเปน จัดขึ้นในรูปแบบที่น่าชื่นชม คุณจะได้พบกับห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยสินค้าหรูหราและแฟชั่นออกแบบ รวมถึง Renaissance Mall ที่เป็นจุดเด่น อนาคตของเขตเมืองได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะถนน Main Street (Caya G. F. Betico Croes) ที่ได้รับการปรับปรุง ให้คุณเพลิดเพลินไปกับร้านบูติกและร้านอาหารใหม่ๆ ตรงข้ามกับร้านค้าเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมายาวนาน นอกจากนี้ Linear Park ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโอนานจ์สตัด ที่จัดแสดงงานจากผู้ค้าและศิลปินท้องถิ่น พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ล้อมรอบทางเดินริมน้ำที่คาดว่าจะเชื่อมต่อไปยัง Palm Beach กลายเป็นทางเดินที่ยาวที่สุดในแคริบเบียน การเดินทางในเมืองนี้จะสะดวกยิ่งขึ้นด้วย Eco Trolley แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้การสำรวจมุมมองที่งดงามของอารูบาเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความสนุกสนาน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณค้นพบโลกใหม่แห่งการผจญภัย!

เกาะคูราเซา (Curaçao) เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามแห่งหนึ่งในแคริบเบียน โดยเฉพาะที่ท่าเรือวิลเลมสตัด (Willemstad) ที่สะท้อนความงามของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 17 ที่นี่คุณจะได้พบกับหลังคากระเบื้องสีแดงที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสร้างขึ้นจากเรือสำเภา และยังคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน วิลเลมสตัดแบ่งออกเป็นสองฝั่งหลัก ได้แก่ พุนดา (Punda) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวสีสันของประวัติศาสตร์ในขณะที่อีกฝั่งคือโอทรอแบนดา (Otrobanda) ซึ่งมีถนนแคบ ๆ พร้อมบ้านเรือนที่น่ารักและมีเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่กำลังถูกฟื้นฟูให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้มาเยือนสามารถข้ามซานตาอันนาเบย์ได้หลายวิธี อาทิ ขับรถข้ามสะพานจูเลียนา หรือเดินข้ามสะพานลอยควีนเอ็มมา (Queen Emma) ที่มีชื่อเล่นว่า "โอลด์เลดี้" นอกจากนี้ ยังมีบริการเรือฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ด้วยการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ที่บริเวณริมทะเล ทำให้วิลเลมสตัดเป็นจุดหมายที่ไม่น่าเบื่อในการสัมผัสบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เป็นประสบการณ์การเดินทางที่คุณไม่ควรพลาด!


เกรเนดา สวรรค์แห่งทะเลแคริบเบียน ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เช่น ลูกจันทน์เทศ อบเชย และโกโก้ เกาะขนาดเล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงามด้วยชายหาดทรายขาวและอ่าวที่เงียบสงบ แต่ยังมีเสน่ห์ในแง่ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น สเตนจอร์จส์ เมืองหลวงที่มีภาพลักษณ์งดงามที่สุดในแคริบเบียน สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของเมืองย้อนยุค แม้ในยุคที่เปลี่ยนไป ถนนหนทางแคบทอดยาวขึ้นเขา มีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เรือสำราญส่วนใหญ่จะมาจอดที่ท่าเรือสเตนจอร์จส์ ฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนสีพาสเทลและคลื่นน้ำใสสะอาด ท่าเรือนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น อนุสาวรีย์คริสต์ผู้ลึกซึ้ง ณ สถานที่พักผ่อนกลางอ่าว และอุโมงค์เซนดอลล์ ที่สร้างขึ้นในปี 1895 ที่เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองฝั่งของเมือง เกรเนดาเป็นที่รู้จักในนาม 'เกาะแห่งเครื่องเทศ' นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความอบอุ่นจากชาวเกรเนดาที่พร้อมต้อนรับ พร้อมด้วยร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ เช่น ปลาทอดและเครื่องเทศสด ๆ ที่จะทำให้เดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป

โรโซ เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และอบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งในแคริบเบียน แม้ขนาดจะเล็กลง แต่กลับมีประชากรหนาแน่นที่สุดในแถบตะวันออกของแคริบเบียน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฉบับแคริบเบียนและตลาดที่คึกคัก โรโซจึงพานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตอย่างแท้จริง การเดินสำรวจเมืองในระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนั้น อาจจะเป็นประสบการณ์ที่รวดเร็ว แต่การเดินเล่นอย่างช้า ๆ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรายละเอียดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เมืองนี้มีการฟื้นฟูอาคารที่สำคัญโดยองค์กร SHAPE ซึ่งได้ดูแลอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมหลายแห่ง เช่น Casa Lilac ที่มีระเบียงไม้แบบเก่าแก่ และอาคาร J.W. Edwards ที่มีผลงานหินและไม้ที่งดงาม ในใจกลางเขตประวัติศาสตร์คือ Old Market Plaza ซึ่งมีถนนหลายสายในอดีตที่ถูกออกแบบให้โค้งงอรอบพื้นที่นี้ นอกจากนี้ โรงแรม Fort Young ที่สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 18 รวมถึงห้องสมุดและวิหารแองกลิกันที่อยู่ใกล้เคียง ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มาเยือน ลานหน้าเบย์ที่พัฒนาใหม่บน Dame M.E. Charles Boulevard ก็เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดในการสัมผัสลมทะเลแคริบเบียนอย่างแท้จริง โรโซรอให้คุณค้นพบความงดงามในทุกมุมมอง!

ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลี (Charlotte Amalie) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะเวอร์จิ้นสหรัฐฯ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รอต้อนรับคุณด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสีน้ำเงินเข้มและภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่ม การเดินทางมาท่าเรือนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายของพื้นที่ ได้สำรวจสถาปัตยกรรมอันสวยงาม รวมถึงอาคารเก่าแก่ที่สืบทอดวัฒนธรรมจากอดีตอาณานิคม เมื่อคุณมีโอกาสลงเรือที่ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลี อย่าลืมแวะไปที่ Fort Christian ป้อมปราการสุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่น่าสนใจ ซึ่งจะพาคุณย้อนเวลาไปยังประวัติศาสตร์ของเกาะ นอกจากนี้ยังมีหาดทรายทองที่น่าหลงใหล เช่น หาด Magens Bay ซึ่งได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในโลก ด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลีจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สุดหรูหราในวันหยุดพักผ่อน ไม่ว่าคุณจะเลือกสำรวจเมืองหรือเพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้น ก็จะเต็มไปด้วยความทรงจำอันน่าประทับใจอย่างแน่นอน



ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!




ท่าเรือพอนตาเดลกาดา ในหมู่เกาะอะโซร์ของโปรตุเกส เป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับนักเดินทางที่ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความงดงามของภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ และธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม ในช่วงฤดูร้อน คุณจะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่ง ประดับประดาสถานที่ด้วยสีสันต่าง ๆ ยินดีต้อนรับนักเดินทางด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น โบสถ์เซาโฮเซ ที่มีฟาซาดสีดำและขาว กระตุ้นให้คุณสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ ตลาดท้องถิ่นยังมีสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สับปะรดที่หวานหอม ใบชาคุณภาพ และเมล็ดกาแฟที่เสิร์ฟความรสชาติแก่นักชิม ท่ามกลางการเดินเล่นบนดินที่มั่นคงหลังการเดินทางบนทะเล เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสในการลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่และช้อปปิ้งของฝากที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย การเดินทางไปยังแคลเดอรา ดาส เซเต้ ซิตาดัส เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด สัมผัสกับเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่ทะเลสาบในปล่องภูเขาไฟ พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของทะเลแอตแลนติกที่กว้างใหญ่ รอคอยให้คุณมาเป็นเจ้าของประสบการณ์อันล้ำค่าในราชอาณาจักรแห่งธรรมชาติที่สวยงามแห่งนี้


เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุโรป ท่าเรือฟุนชาลที่ตั้งอยู่ในมอริกาขอแนะนำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะมาเดราที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เมืองฟุนชาลเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส João Gonçalves Zarco ในปี 1419 และตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโคปเรซัลในนามของการค้า โดยเกาะนี้ได้รับชื่อว่า 'มาเดรา' ซึ่งแปลว่า 'ไม้' ในภาษาโปรตุเกส นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนินเขาที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นไปจนถึงหมู่บ้านที่สวยงามและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ความงามตามธรรมชาติของเกาะทำให้มันได้รับฉายาอันต่าง ๆ เช่น 'สวนลอยฟ้าบนมหาสมุทรแอตแลนติก' และ 'เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด' การเดินทางสำรวจเกาะนี้ถือเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ พร้อมกิจกรรมมากมายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของที่นี่ ฟุนชาลไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูที่คุณจะได้สัมผัสกับความงามและอารยธรรมที่หลากหลายของโปรตุเกสอย่างแท้จริง


เมือง Cádiz ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่สวยงามในแคว้นอันดาลูเซีย คือ หนึ่งในท่าเรือที่มีความสำคัญและมีเสน่ห์ที่สุดในสเปน ด้วยประวัติศาสตร์กว่า 3,000 ปี ทำให้ Cádiz เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ด้วยบ้านสีขาวสวยงามและระเบียงที่ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี สัมผัสบรรยากาศสบายๆ ผ่านการเดินเล่นที่ Plaza de España ซึ่งมีอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงรัฐธรรมนูญสเปนฉบับแรกที่ถูกลงนามในปี 1812 สองข้างทางเดินริมทะเลที่สวยงามเชื่อมโยงกันดึงดูดผู้มาเยือนให้เพลิดเพลินไปกับวิวทะเลแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีสวนสาธารณะ Parque Genoves ที่ตั้งอยู่ใกล้หาดซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่โดดเด่น มีโรงละครกลางแจ้งและสวนแนวปาล์ม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันสบายๆ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ไม่ควรพลาดคือมหาวิหารสไตล์นีโอคลาสสิกที่มีโดมทองอร่าม สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่รอให้คุณสัมผัสในทุกๆ หัวใจของการเดินทางในสเปน

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา





สกายวิว เรเจนท์ สวีท คือพื้นที่หรูหราเกือบ 9,000 ตารางฟุตที่ล่องเรืออยู่กลางมหาสมุทร มอบทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ของท้องทะเล พร้อมด้วยห้องน้ำแบบสปา ฟิตเนสส่วนตัว และลิฟต์ภายในห้อง อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากมายที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับกว่าใคร ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร สกายวิว เรเจนท์ สวีท จึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบและหรูหราในระหว่างที่คุณล่องเรือเหนือท้องทะเล.











ขอแนะนำห้องสวีทสกายวิว ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองประเภทที่พักและมีรูปแบบที่แตกต่างกันสามแบบ ได้แก่ ออร่าร์, ลูน่า และโซล่า ห้องสวีทที่ออกแบบเฉพาะนี้มีลิฟต์ส่วนตัวในห้อง, ระเบียงส่วนตัวชั้นสอง, บริการจากบัตเลอร์ส่วนตัว และอีกมากมาย ห้องสวีทสกายวิวมีทั้งหมด 6 ห้อง ได้แก่ ห้องสกายวิวออร่าร์ (ขนาด 2,024 ตารางฟุต), ห้องสกายวิวลูน่า (ขนาด 1,728 ตารางฟุต) และห้องสกายวิวโซล่า (ขนาด 1,325 ตารางฟุต) สถานที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 14 และ 15 ที่มอบบรรยากาศที่สง่างามและความรู้สึกเหมือนอยู่ในที่พักระดับสูง ลิฟต์ภายในห้องจะนำผู้เข้าพักไปยังระเบียงที่เงียบสงบ พร้อมพื้นที่ร่มและอ่างน้ำวนที่มีวิวที่สวยงาม พร้อมด้วยโอกาสในการรับประทานอาหารกลางแจ้ง สร้างประสบการณ์ที่หรูหราและเหนือกาลเวลา ห้องสวีทแต่ละห้องมีรูปแบบและลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ การออกแบบประกอบด้วยการตกแต่งแบบคลาสสิก, โทนสีเทาเย็นพร้อมขอบสีดำและจุดสีแดงทับทิม, เส้นที่สะอาด, รวมถึงวัสดุที่หรูหรา พื้นที่นั่งเล่นตกแต่งด้วยโทนสีที่ละเอียดอ่อนในขณะที่พื้นที่รับประทานอาหารมีงานไม้ที่ออกแบบมาเฉพาะและเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบอย่างประติมากรรม




ห้องสวีทแกรนด์ลอฟท์เป็นห้องสวีทที่มีการออกแบบร่วมสมัย ขนาด 856 ตารางฟุต มอบบรรยากาศเหมือนที่พักหรูหราในย่านแมนแฮตตันล่าง ภายในมีพื้นที่ชั้นสองที่สูงโปร่ง และผนังกระจกขนาดใหญ่มอบทิวทัศน์ที่งดงามจากเตียงบนชั้นสองที่หันหน้าไปทางขอบฟ้า เพื่อให้คุณได้เห็นวิวที่ทำให้คุณต้องตะลึง ทุกส่วนของห้องถูกออกแบบมาอย่างมีศิลปะ แต่ควรทราบว่าการออกแบบและการตกแต่งอาจแตกต่างกันไปตามชั้นและตำแหน่งที่ตั้งในเรือ.



ห้องชุดเพนท์เฮาส์ฮอไรซอนประกอบด้วยห้องนอนที่ตกแต่งอย่างมีระดับ, ห้องน้ำเต็มรูปแบบ และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง พร้อมด้วยระเบียงขนาดใหญ่ 182-263 ตารางฟุต ที่มีพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารกลางแจ้ง, โซฟานุ่มสบาย และเก้าอี้อาบแดด ห้องชุดที่มีจำนวนจำกัดเพียง 15 ห้องนี้มอบโอกาสในการสัมผัสความหรูหราในร่มและการพักผ่อนกลางแจ้งอย่างลงตัวอย่างไม่มีที่ติ.




ห้องสไตล์ซิกเนเจอร์มีพื้นที่รวม 2,037 ตารางฟุต มาพร้อมกับการตกแต่งที่มีสีสันและผ้าคุณภาพสูง ที่ประกอบด้วยห้องนอนกว้างขวางสองห้องและห้องน้ำสองห้อง พร้อมกับห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางอีกหนึ่งห้อง นอกจากนี้ยังมีระเบียงล้อมรอบส่วนตัวซึ่งเป็นหนึ่งในระเบียงที่ใหญ่ที่สุดในทะเล ขนาด 1,023 ตารางฟุต ซึ่งช่วยขยายพื้นที่ใช้สอยไปยังภายนอก เหมาะสำหรับการจัดงานสังสรรค์หรือเพียงแค่ผ่อนคลายชมวิวสวยงาม ณ ที่นี่



ห้องสวีทแกรนด์มาพร้อมกับเส้นสายที่เรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลางศตวรรษ และเฉดสีที่เป็นกลางผสมผสานกับสีเขียว สไตล์การออกแบบเน้นไปที่ศิลปะอิตาลีด้วยผ้าทอมีเท็กซ์เจอร์และหนังทอสร้างบรรยากาศที่สวยงามและหรูหรา ห้องพักขนาด 1,214-1,417 ตารางฟุต มีเฉลียงส่วนตัวและห้องรับประทานอาหารสำหรับรับประทานอาหารในห้องพักอย่างสะดวกสบาย



เพรสตีจ สวีทส์ ขนาด 75-125 ตารางเมตร นับเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงความหรูหราในการใช้ชีวิตบนทะเลอย่างแท้จริง ห้องนอนหนึ่งห้องพร้อมห้องน้ำหนึ่งใบและห้องน้ำสำหรับแขกหนึ่งใบถูกตกแต่งด้วยโทนสีที่เงียบสงบ เช่น ครีม เทา และน้ำตาล ภายในห้องมีโต๊ะอาหารสำหรับบริการในห้องพัก ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่มีความสง่างาม มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตระดับสูงอย่างแท้จริง




เซเว่นซีสสวีทส์ เป็นห้องสวีทหรูขนาด 66 ตารางเมตรที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อความสะดวกสบายและผ่อนคลาย โทนสีที่นุ่มนวลจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ที่นุ่มสบาย ห้องนี้เชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อจากพื้นที่นั่งเล่นไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร และห้องนอน โดยมีประตูแก้วเลื่อนที่นำออกสู่ระเบียงส่วนตัวขนาดกว้างขวาง ห้องน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ข้างๆ ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่พิเศษ พร้อมด้วยตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ให้ความเอื้ออำนวยที่ไม่เหมือนใครแก่คุณในระหว่างการเข้าพัก


เพนท์เฮาส์สูทนี้ถูกออกแบบอย่างหรูหราเพื่อเพิ่มพื้นที่และความสะดวกสบาย โดยมีขนาดพื้นที่มากกว่า 600 ตารางฟุต ตั้งแต่ประตูจนถึงระเบียง เมื่อคุณเดินเข้าไปจะพบกับห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่แยกจากกัน คุณสามารถเลือกที่จะปิดพื้นที่ด้วยประตูแบบพ็อกเก็ตเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ เพนท์เฮาส์ยังมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สามารถเดินผ่านได้ ซึ่งให้พื้นที่เก็บของมากมายสำหรับการเดินทางของคุณ


ห้องสวีทคอนเซียร์จบนเรือ Seven Seas Prestige ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 440 ถึง 485 ตารางฟุต มอบการพักผ่อนที่มีระดับพร้อมห้องน้ำส่วนตัวและระเบียงขนาดกว้างที่มีเฟอร์นิเจอร์ให้ความสบายแก่ผู้เข้าพัก นอกจากนี้ แขกยังสามารถสัมผัสประสบการณ์พิเศษอย่างการจองบริการรับประทานอาหารออนไลน์และทัศนเสน่ห์ชายฝั่งล่วงหน้า รวมถึงแพ็คเกจที่พักในโรงแรมหนึ่งคืนก่อนการล่องเรืออีกด้วย การพักในห้องสวีทคอนเซียร์จจึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและการบริการที่เหนือระดับในระหว่างการเดินทาง.


เซเรนิตี้ สวีท ขนาด 440 ตารางฟุต ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าครามที่อบอุ่น พร้อมด้วยมินิบาร์ที่ติดตั้งในห้องและองค์ประกอบการแยกพื้นที่ระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ การออกแบบที่มีเส้นสายที่สะอาดตาและรายละเอียดทันสมัย ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเชิญชวนให้รู้สึกสบายทุกครั้งที่เข้าพัก ตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างแท้จริงในทุกการเดินทางของคุณ.


ห้องสวีทแบบระเบียงดีลักซ์บนเรือ Seven Seas Prestige มอบความสะดวกสบายที่มีระดับในพื้นที่ขนาด 285-440 ตารางฟุต โดยทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัวให้คุณได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่งดงาม พร้อมกับเตียงขนาดคิงไซส์ Elite Slumber® จากยุโรป ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณพักผ่อนอย่างเต็มที่และผ่อนคลายตลอดการเดินทางของคุณ