
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เรือเซเว่น ซีส โวยาจอร์
เรเจนท์ เซเว่น ซีส์ ครูซส์


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!



ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลี (Charlotte Amalie) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะเวอร์จิ้นสหรัฐฯ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รอต้อนรับคุณด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสีน้ำเงินเข้มและภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่ม การเดินทางมาท่าเรือนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายของพื้นที่ ได้สำรวจสถาปัตยกรรมอันสวยงาม รวมถึงอาคารเก่าแก่ที่สืบทอดวัฒนธรรมจากอดีตอาณานิคม เมื่อคุณมีโอกาสลงเรือที่ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลี อย่าลืมแวะไปที่ Fort Christian ป้อมปราการสุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่น่าสนใจ ซึ่งจะพาคุณย้อนเวลาไปยังประวัติศาสตร์ของเกาะ นอกจากนี้ยังมีหาดทรายทองที่น่าหลงใหล เช่น หาด Magens Bay ซึ่งได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในโลก ด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลีจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สุดหรูหราในวันหยุดพักผ่อน ไม่ว่าคุณจะเลือกสำรวจเมืองหรือเพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้น ก็จะเต็มไปด้วยความทรงจำอันน่าประทับใจอย่างแน่นอน

ตั้งอยู่ในใจกลางหมู่เกาะบริทิชเวอร์จิน ท่าเรือ Tortola เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด สัมผัสความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงที่มองออกไปยัง Road Harbour ซึ่งจะทำให้คุณได้เดินเล่นท่ามกลางเสน่ห์ของอาคารสไตล์เวสต์อินเดียนที่มีสีสันสดใส ทั้งสีพาสเทลและหลังคาเหล็กกล้า คุณจะพบกับช้อปปิ้งใน Main Street และสัมผัสบรรยากาศริมทะเลในบรรยากาศที่น่าเพลิดเพลิน โดยสามารถใช้เวลาเดินเล่นสบาย ๆ เพียงประมาณหนึ่งชั่วโมง ผู้เดินทางสามารถแวะที่สำนักงานการท่องเที่ยว BVI เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมท่องเที่ยว ท่องเที่ยวริมทะเล หรือตารางเดินเรือที่มีรูปแบบหลากหลาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถได้นั่งพักผ่อนใน Sir Olva Georges Square บน Waterfront Drive เพื่อชื่นชมชีวิตของผู้คนที่เดินผ่านไปมาจากท่าเรือเฟอร์รี่และสำนักงานศุลกากร หากคุณได้มีโอกาสมาเยือน Tortola จะได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมอันหลากหลาย และความงามของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่รอบ ๆ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุก ๆ การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่ไ unforgettable. หนีความวุ่นวายไปสัมผัสความสงบกับชีวิตในวิถีเกาะ และให้ท่าเรือ Tortola เป็นบ้านหลังที่สองของคุณในครั้งนี้!

ฟิลิปส์เบิร์ก เมืองหลวงของเซนต์มาร์เทน (ดัตช์) เป็นสถานที่ที่ป็นจริงอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของขอบฟ้าหมายเลขทรายขาวและทะเลสีคราม สถานที่นี้มีลักษณะเป็นรูปแบบที่น่าประทับใจ ยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวเกรตเบย์และบ่อน้ำเค็ม มีถนนห้าเส้นเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ สถานที่นิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนคือ Front Street ซึ่งตั้งอยู่ใกล้อ่าวเกรตเบย์ ที่นี่คุณจะได้พบกับร้านค้าปลอดภาษีและร้านอาหารมากมาย ในบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะเมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า นอกจาก Front Street แล้วยังมี Back Street ที่มีบรรยากาศเงียบสงบกว่า และเชื่อมต่อกับซอยเล็กๆ ที่เรียกว่า "steegjes" ที่จะพาคุณเข้าสู่พื้นที่เก่าแก่ของเมือง โดยไม่ควรพลาดที่จะเดินไปตามชายหาดที่มีทางเดินริมทะเลยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi ใจกลางของเมืองคือ Wathey Square โดยรอบเต็มไปด้วยร้านค้าชั้นนำและคาเฟ่ที่ให้บริการอร่อย นอกจากนี้ยังมีอาคารประวัติศาสตร์ที่ผ่านการบูรณะสนุกสนาน รวมถึงท่าเรือ Captain Hodge ที่มอบวิวทิวทัศน์สุดพิเศษของเกรตเบย์และชายหาดที่ทอดยาวไปตามแนวทะเล สถานที่ที่ซึ่งความพิเศษและความแตกต่างรอคุณไปค้นพบ!

เกาะแซงต์บาร์เธเลมี (Saint Barthélemy) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหราสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในความงดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะท่าเรือกุสตาเวีย (Gustavia) ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเกาะนี้ นอกจากจะเป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด การสำรวจท่าเรือกุสตาเวียภายในระยะเวลาสองชั่วโมงเป็นเรื่องง่ายดาย เพลิดเพลินไปกับการเดินชมร้านค้าหรูหราและบูติกต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง จนกระทั่งล็อกเวลาเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เนื่องจากหลายร้านจะปิดตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสามหรือสี่โมงเย็น แต่ไม่ต้องห่วง ร้านค้าและบาร์จะเปิดจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มให้คุณได้ใช้จ่ายกันอย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกัน การจอดรถอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล แต่ถ้าคุณมุ่งหน้าไปยัง rue de la République จะพบสถานที่จอดรถที่กลุ่มเรือแล่นไปมาทำให้การมาที่นี่ง่ายขึ้น อีกทั้งการเดินชมวิวทะเลสวย ๆ ยังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ใครหลายคนหลงรัก สนุกสนานกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจในกุสตาเวีย เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หรูหราเหนือระดับในเกาะแซงต์บาร์เธเลมีแห่งนี้!

เมื่อเรือล่องเรือสำราญจอดที่ท่าเรือ Basseterre ของเกาะเซนต์คิตส์และเนวิส คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของหมู่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่เผยให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่เพียง 65 ตารางไมล์ ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและทิวทัศน์ที่เขียวขจีของทุ่งอ้อยหลากหลายทำให้ที่นี่ถือเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักการสำรวจ คุณจะได้พบกับป่าเขตร้อนที่มีน้ำตกและเส้นทางลับ รวมถึงเทือกเขากลางที่ถูกปกครองโดยยอดเขา Mt. Liamuiga ที่มีความสูงถึง 3,792 ฟุต ที่นี่เคยเป็นภูเขาไฟแต่ปัจจุบันได้ดับสนิทแล้ว ความงดงามของ Brimstone Hill สถานที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 18 ซึ่งถูกเรียกว่า "กิ๊บรอลตาร์แห่งอินเดียตะวันตก" ก็เป็นอีกจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ชาวเกาะมีอัธยาศัยดีและพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงตะวันตก อินเทรนด์เรื่องมารยาทในสังคมที่นี่คือควรขออนุญาตก่อนถ่ายภาพ และควรสวมชุดคลุมหรือกางเกงขาสั้นเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ สัมผัสกับเสน่ห์ของเซนต์คิตส์และเนวิส แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้ไม่รู้ลืม!

เมื่อคุณมาถึงท่าเรือเซนต์จอห์นส์ในแอนติกาและบาร์บูดา คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่หลากหลายของเกาะนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดที่สวยงามมากถึง 365 หาด ซึ่งเพียงพอสำหรับทุกวันของปี นอกจากนั้น ยังมีแนวปะการังที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย เซนต์จอห์นส์ไม่เพียงแต่เป็นเมืองหลวงทางการของเกาะที่ตั้งอยู่ตั้งแต่ปี 1632 แต่ยังคงรักษาภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมแบบเวสท์อินดีสเอาไว้ อาทิ สถาปัตยกรรมแบบบ้านขนมปังขิงและบรรยากาศการเฉลิมฉลองในเทศกาลคาลิปโซ คุณสามารถเดินเล่นในย่านเรดคลิฟที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ และแวะชมสินค้าท้องถิ่นที่ Heritage Quay ซึ่งมีร้านค้าหัตถกรรมหลากหลาย เซนต์จอห์นส์ยังมีสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่สวยงาม โดยเฉพาะวิหารที่มีสองยอด ซึ่งได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1845 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ดีที่สุดในแคริบเบียน ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินทางโดยรถบัสเล็กที่มีคนขับเป็นไกด์ที่จะคอยให้ความรู้และข้อมูลส่วนต่างๆ ของเมือง ทำให้การสำรวจเซนต์จอห์นส์เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและประทับใจไม่รู้ลืม

โรโซ เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และอบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งในแคริบเบียน แม้ขนาดจะเล็กลง แต่กลับมีประชากรหนาแน่นที่สุดในแถบตะวันออกของแคริบเบียน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฉบับแคริบเบียนและตลาดที่คึกคัก โรโซจึงพานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตอย่างแท้จริง การเดินสำรวจเมืองในระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนั้น อาจจะเป็นประสบการณ์ที่รวดเร็ว แต่การเดินเล่นอย่างช้า ๆ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรายละเอียดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เมืองนี้มีการฟื้นฟูอาคารที่สำคัญโดยองค์กร SHAPE ซึ่งได้ดูแลอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมหลายแห่ง เช่น Casa Lilac ที่มีระเบียงไม้แบบเก่าแก่ และอาคาร J.W. Edwards ที่มีผลงานหินและไม้ที่งดงาม ในใจกลางเขตประวัติศาสตร์คือ Old Market Plaza ซึ่งมีถนนหลายสายในอดีตที่ถูกออกแบบให้โค้งงอรอบพื้นที่นี้ นอกจากนี้ โรงแรม Fort Young ที่สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 18 รวมถึงห้องสมุดและวิหารแองกลิกันที่อยู่ใกล้เคียง ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มาเยือน ลานหน้าเบย์ที่พัฒนาใหม่บน Dame M.E. Charles Boulevard ก็เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดในการสัมผัสลมทะเลแคริบเบียนอย่างแท้จริง โรโซรอให้คุณค้นพบความงดงามในทุกมุมมอง!

เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส

เกรเนดา สวรรค์แห่งทะเลแคริบเบียน ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เช่น ลูกจันทน์เทศ อบเชย และโกโก้ เกาะขนาดเล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงามด้วยชายหาดทรายขาวและอ่าวที่เงียบสงบ แต่ยังมีเสน่ห์ในแง่ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น สเตนจอร์จส์ เมืองหลวงที่มีภาพลักษณ์งดงามที่สุดในแคริบเบียน สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของเมืองย้อนยุค แม้ในยุคที่เปลี่ยนไป ถนนหนทางแคบทอดยาวขึ้นเขา มีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เรือสำราญส่วนใหญ่จะมาจอดที่ท่าเรือสเตนจอร์จส์ ฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนสีพาสเทลและคลื่นน้ำใสสะอาด ท่าเรือนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น อนุสาวรีย์คริสต์ผู้ลึกซึ้ง ณ สถานที่พักผ่อนกลางอ่าว และอุโมงค์เซนดอลล์ ที่สร้างขึ้นในปี 1895 ที่เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองฝั่งของเมือง เกรเนดาเป็นที่รู้จักในนาม 'เกาะแห่งเครื่องเทศ' นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความอบอุ่นจากชาวเกรเนดาที่พร้อมต้อนรับ พร้อมด้วยร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ เช่น ปลาทอดและเครื่องเทศสด ๆ ที่จะทำให้เดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป


กรุงโอนานจ์สตัด เมืองหลวงของอารูบา เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลและสะดวกสบายสำหรับการสำรวจแบบเดินเท้า สายเดินทางที่มีต้นปาล์มเรียงรายพาคุณผ่านอาคารที่มีสีพาสเทลซึ่งผสมผสานกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมดัตช์และสเปน จัดขึ้นในรูปแบบที่น่าชื่นชม คุณจะได้พบกับห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยสินค้าหรูหราและแฟชั่นออกแบบ รวมถึง Renaissance Mall ที่เป็นจุดเด่น อนาคตของเขตเมืองได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะถนน Main Street (Caya G. F. Betico Croes) ที่ได้รับการปรับปรุง ให้คุณเพลิดเพลินไปกับร้านบูติกและร้านอาหารใหม่ๆ ตรงข้ามกับร้านค้าเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมายาวนาน นอกจากนี้ Linear Park ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโอนานจ์สตัด ที่จัดแสดงงานจากผู้ค้าและศิลปินท้องถิ่น พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ล้อมรอบทางเดินริมน้ำที่คาดว่าจะเชื่อมต่อไปยัง Palm Beach กลายเป็นทางเดินที่ยาวที่สุดในแคริบเบียน การเดินทางในเมืองนี้จะสะดวกยิ่งขึ้นด้วย Eco Trolley แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้การสำรวจมุมมองที่งดงามของอารูบาเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความสนุกสนาน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณค้นพบโลกใหม่แห่งการผจญภัย!

ในใจกลางแห่งทะเลแคริบเบียน มีเกาะที่ซึ่งความสวยงามธรรมชาติและวัฒนธรรมผสมผสานอย่างลงตัว นั่นคือ บอนแนร์ เกาะเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณท่าเรือคราเลนไดค์ (Kralendijk) ที่เป็นทั้งประตูสู่การผจญภัยใต้ท้องทะเลและแหล่งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าค้นพบ เมื่อเรือสำราญของคุณลอยลำถึงท่าเรือคราเลนไดค์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร เช่นเดียวกับบ้านเรือนที่ถูกทาสีสดใสตามแบบสถาปัตยกรรมดัทช์ เดินเล่นบนถนนที่มีเสน่ห์พร้อมสัมผัสกลิ่นไอของทะเล คุณสามารถเลือกที่จะสำรวจดำน้ำ แหวกว่ายในน้ำใส และชมความงามของแนวปะการังที่โด่งดัง สามารถพบกับสัตว์ทะเลนานาชนิดที่รอคอยให้คุณได้สัมผัส นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารบรรยากาศดีที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อยล้ำ ชมงานศิลปะจากศิลปินท้องถิ่น และรับรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของเกาะบอนแนร์ ที่นี่ไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำและการเดินทางที่ไม่รู้ลืม ล่องเรือมาแล้ว คุณจะรู้สึกว่านี่คือสวรรค์สำหรับผู้ที่รักในการเดินทาง.

เกาะคูราเซา (Curaçao) เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามแห่งหนึ่งในแคริบเบียน โดยเฉพาะที่ท่าเรือวิลเลมสตัด (Willemstad) ที่สะท้อนความงามของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 17 ที่นี่คุณจะได้พบกับหลังคากระเบื้องสีแดงที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสร้างขึ้นจากเรือสำเภา และยังคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน วิลเลมสตัดแบ่งออกเป็นสองฝั่งหลัก ได้แก่ พุนดา (Punda) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวสีสันของประวัติศาสตร์ในขณะที่อีกฝั่งคือโอทรอแบนดา (Otrobanda) ซึ่งมีถนนแคบ ๆ พร้อมบ้านเรือนที่น่ารักและมีเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่กำลังถูกฟื้นฟูให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้มาเยือนสามารถข้ามซานตาอันนาเบย์ได้หลายวิธี อาทิ ขับรถข้ามสะพานจูเลียนา หรือเดินข้ามสะพานลอยควีนเอ็มมา (Queen Emma) ที่มีชื่อเล่นว่า "โอลด์เลดี้" นอกจากนี้ ยังมีบริการเรือฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ด้วยการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ที่บริเวณริมทะเล ทำให้วิลเลมสตัดเป็นจุดหมายที่ไม่น่าเบื่อในการสัมผัสบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เป็นประสบการณ์การเดินทางที่คุณไม่ควรพลาด!


คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย


ท่าเรือโคลอน (Colón) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของคลองปานามา ฝั่งทะเลแอตแลนติก เป็นศูนย์กลางที่สำคัญไม่เพียงแต่ในฐานะท่าเรือที่ยุ่งเหยิง แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ในอดีตชื่อเมืองนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาจาก Aspinwall ซึ่งตั้งชื่อตามวิศวกรรถไฟชาวอเมริกันสมัยศตวรรษที่ 19 แต่ในปัจจุบันโคลอนได้กลายเป็นที่รู้จักในนามของคริสโตเฟอร์โคลัมบัส เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1850 และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการสร้างรถไฟข้ามปานามา การพัฒนาเพิ่มเติมได้รับแรงกระตุ้นจากความพยายามในการสร้างคลองโดยฝรั่งเศส แต่ด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้รุนแรงในปี 1885 เมืองนี้ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในสไตล์สถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส ในด้านการค้า โคลอนมีโซนปลอดภาษีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก หรือที่เรียกกันว่า ซูนา ลิเบร ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าขนาดยักษ์และสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าขายส่งที่กลายเป็นแรงดึงดูดสำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันลึกล้ำที่โคลอน เปิดประตูสู่การผจญภัยใหม่ ๆ ที่รอคอยคุณอยู่บนเส้นทางการเดินทางครั้งต่อไป!

ท่าเรือ Puerto Limón ในประเทศคอสตาริกา เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ตั้งแต่สมัยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งเข้ามาในปี 1502 อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดโลกใหม่ ในขณะที่คอยค้นหาทรัพยากรมีค่า แต่สิ่งที่เขาได้พบ คือความร่ำรวยทางธรรมชาติที่มีอุดมสมบูรณ์บริเวณชายฝั่งนี้ Puerto Limón เป็นประตูสู่ความงดงามที่หลากหลายของคอสตาริกา ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่งดงาม ไฟป่า และระบบนิเวศที่เต็มไปด้วยชีวิตสัตว์ป่า แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ได้กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่ แต่บริบทรอบด้านที่พิเศษและสวยงาม มีทั้งทางเลือกในการผจญภัย ทางธรรมชาติ และการพักผ่อน สำหรับผู้ที่แวะเยือน Puerto Limón จะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินชมตลาดท้องถิ่นหรือสำรวจป่าไม้เขตร้อน ลาทาเรือใน Puerto Limón จะเปิดโอกาสให้คุณได้ทำความรู้จักกับธรรมชาติอันงดงามและสืบสานวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในดินแดนแห่งความสงบนี้ ขอเชิญท่านมาร่วมสร้างความทรงจำอันยอดเยี่ยมที่ Puerto Limón และผจญภัยสู่โลกใหม่ด้วยกัน!


ฟาลมุธ (Falmouth) เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือของจาไมกา ระหว่างมอนเตโกเบย์และโอโชริออส คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันลึกล้ำของเกาะแห่งนี้ผ่านการเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โอกาสในการลิ้มรสอาหารจาไมกันที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่ควรพลาดการผจญภัยในทริปท่องเที่ยวล่องแม่น้ำที่น่าตื่นเต้น ฟาลมุธยังเป็นบ้านเกิดของบ็อบ มาร์เลย์ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดของจาไมกา ทริปที่พาคุณไปสำรวจหมู่บ้านของเขาจะเปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับแรงบันดาลใจที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากนี้ อย่าลืมแวะชมสถานที่สำคัญรอบฟาลมุธ เช่น ตลาดท้องถิ่นและชายหาดที่สวยงาม ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำ ฟาลมุธไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือสำหรับการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังคือต้นกำเนิดของความสุขและวัฒนธรรมที่รอให้คุณมาสัมผัสและค้นพบอีกมากมาย การเดินทางครั้งนี้จะเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตของคุณอย่างแน่นอน

เมื่อพูดถึงการเดินทางสู่หมู่เกาะเคย์แมน ท่าเรือจอร์จทาวน์ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่หลงใหลในการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเกาะสวรรค์แห่งนี้ อาทิ การเดินเล่นไปตามเส้นทางที่มีวิวน้ำอันงดงามในซอยฮาร์เบอร์ไดรฟ์ ที่คุณจะได้พบกับโบสถ์เอล์มสลี่ย์ เมมอเรียล ยูนิตด์ ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามมิชชันนารีผู้แรกที่เข้ามาสอนศาสนาในพื้นที่ โบสถ์นี้มีเพดานซึ่งมีโครงไม้ที่สวยงาม สื่อถึงความเชื่อมโยงของประชาชนต่อศาสนา ไม่ไกลจากนั้น คุณจะเห็นอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์ที่จัดเก็บชื่อเสียงของชนชาติเคย์มัน บน "กำแพงประวัติศาสตร์" ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 500 ปีของเกาะในปี 2003 นอกจากนี้ยังมีอาคารสภานิติบัญญัติของหมู่เกาะเคย์แมนและอาคารสงบ สันติภาพที่สร้างขึ้นในปี 1919 ในย่านการเงิน นอกจากนี้ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปที่สำนักงานไปรษณีย์ใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี 1939 เพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพกับรูปปั้นของอิกวน่าสีฟ้า เพื่อเป็นที่ระลึกของการเดินทางสุดพิเศษในครั้งนี้ ที่นี่คือความงดงามและเสน่ห์ที่รอให้คุณมาตักตวงความประทับใจอย่างไม่มีวันลืม


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!



ซิกเนเจอร์สวีท บนเรือ Seven Seas Voyager® ทำให้คุณสัมผัสกับความหรูหราที่มีสไตล์ในแบบ พาร์ค อเวนิว ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โรสวูด หวัชรูดหรูหรา และโคมไฟคริสตัลที่สร้างบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของคุณได้อย่างเต็มที่ สวีทนี้ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำหินอ่อน 2 และครึ่งห้อง ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง และระเบียงส่วนตัวอีก 2 แห่ง จึงเหมาะสำหรับการต้อนรับเพื่อนใหม่ในบรรยากาศความหรูหรา ด้วยพื้นที่กว้างขวางและการตกแต่งที่หรูหรา ซิกเนเจอร์สวีทจึงรองรับแขกได้ถึง 6 ท่าน และมีบริการที่หลากหลาย เช่น อินเทอร์เน็ตไร้สายไม่จำกัด สำหรับผู้เข้าพักสูงสุด 4 ท่าน บริการซักรีดแบบวาลเล่ต์ และการจัดเตรียมบาร์เครื่องดื่มในห้องสวีทตามความต้องการ นอกจากนี้ ยังมีบริการอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษ บริการห้องอาหารที่เงียบสงบ และการเข้าร่วมปาร์ตี้ต้อนรับฟรีสำหรับ 8 ท่าน เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดระหว่างการล่องเรือ ปิดท้ายด้วยบริการสุดพิเศษต่างๆ ตั้งแต่การจัดเตรียมที่นั่งในร้านอาหารชั้นเลิศที่คุณเลือกไปจนถึงบริการฟิตเนสส่วนตัวทุกๆ เช้า ซิกเนเจอร์สวีทคือการผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและความหรูหรา เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีก




ห้องสวีทใหญ่เป็นห้องพักที่มีความกว้างขวางจนมีทางเข้า 2 ทาง ภายในตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโมเสกสีสันสดใส ไม้ประดับที่แปลกตา และสัมผัสที่ฟุ่มเฟือย มีพื้นที่นั่งเล่นที่ประกอบไปด้วยโซฟาและเก้าอี้นั่งสบาย พร้อมทั้งโต๊ะอาหารขนาดใหญ่และโต๊ะเขียนที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้เลานจ์หนังข้างอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่ ทำให้ทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้ห้องนี้รู้สึกเหมือนการพักผ่อนที่หรูหราอีกด้วย ระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ทำให้คุณสามารถต้อนรับเพื่อนฝูงมาร่วมรับประทานอาหารค่ำในบรรยากาศที่เงียบสงบ และบริการของบัตเลอร์ส่วนตัวจะทำให้การใช้ชีวิตบนทะเลเป็นเรื่องง่ายดาย ห้องสวีทนี้มาพร้อมกับเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบาย 1 เตียง ห้องน้ำหินอ่อน 1.5 ห้อง ห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง และตู้เสื้อผ้าขนาดเดินเข้าได้พร้อมตู้เซฟ สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดถึง 4 ท่าน โดยพร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่แสนพิเศษ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแพ็คเกจโรงแรมก่อนการล่องเรือ ประกันการเชื่อมต่อ WiFi แบบไม่จำกัด บริการซักรีดแบบวีไอพี และบริการอื่น ๆ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำอย่างแน่นอน


สัมผัสความหรูหราที่อบอุ่นในห้องสวีทที่ความสุภาพและความสะดวกสบายได้เรียกร้องในทุกมุม เปิดประตูบานเลื่อนสู่ระเบียงส่วนตัวและสูดอากาศทะเลบริสุทธิ์ เพลิดเพลินกับกาแฟยามเช้าท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น หรือพักผ่อนในห้องนั่งเล่นที่มอบความผ่อนคลายให้กับคุณ เรียกใช้บริการของผู้ช่วยส่วนตัวที่จะช่วยตอบสนองทุกความต้องการและทำให้แต่ละช่วงเวลาของการเดินทางนั้นเกินความคาดหวังของคุณ ห้องวอยเอเจอร์สวีทประกอบด้วยห้องนอนกว้างขวางที่มีเตียง European King-Sized Suite Slumber Bed®, ห้องน้ำหินอ่อน 1½ ห้อง, ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่, ระเบียงส่วนตัว, และตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in พร้อมเซฟ ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดถึง 4 ท่าน บริการพิเศษภายในห้องสวีท ได้แก่ บริการซักรีดแบบ Valet, แพ็คเกจโรงแรมก่อนการล่องเรือที่รวมการส่งยานพาหนะ, อาหารเช้า, และบริการยกกระเป๋า, บริการ WiFi ไม่จำกัด, โทรศัพท์จากเรือสู่ฝั่ง 15 นาที, ชุดสบู่, แชมพู และโลชั่นจากแบรนด์ดัง, ผู้ช่วยส่วนตัว, การขึ้นเรือในลำดับความสำคัญในวันแรกซึ่งได้รับสิทธิ์เข้าใช้ห้องสวีทตั้งแต่เวลา 13.00 น., ขวดแชมเปญระดับพรีเมี่ยม, จดหมายต้อนรับจากประธานและผู้จัดการทั่วไป, บริการกดรีดเสื้อผ้าในคืนแรก, บาร์เครื่องดื่มในห้องสวีทแบบเฉพาะบุคคล, และการจัดผลไม้สุดหรู การบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงและการจองทัวร์ชายฝั่งและร้านอาหารออนไลน์ล่วงหน้าก็เป็นสิทธิพิเศษที่คุณจะได้รับเช่นกัน ห้องวอยเอเจอร์สวีทนี้ยังมีบริการเสริมอื่น ๆ เช่น การเลือกประเภทหมอน, เกลืออาบน้ำ, เสื้อคลุมและรองเท้าใส่ในห้องน้ำแบบ Regent, ขนมขบเคี้ยวประจำวัน, และเครื่องเสียงจาก BOSE® รวมทั้งการจัดส่งหนังสือพิมพ์รายวันสูงสุดถึงสามฉบับ โดยคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับบริการต่างๆ ที่มีอยู่ในห้อง เช่น โทรทัศน์แบบหน้าจอแบน, โทรศัพท์ดาวเทียม, และเครื่องทำกาแฟ illy® แน่นอนว่าคุณจะได้รับความสะดวกสบายที่ครบครันสอดคล้องกับมาตรฐานการบริการที่ดีที่สุดในโลกของการล่องเรือ




เซเว่นซีสสวีท ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยสีโทนที่เงียบสงบ ผลงานศิลปะที่น่าชื่นชม และเฟอร์นิเจอร์ที่สะดวกสบาย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในพื้นที่นั่งเล่นหลังจากวันที่แสนอัศจรรย์บนฝั่ง พร้อมบริการคาแนปสดใหม่จากผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ สร้างความผ่อนคลายด้วยการ retreat ไปยังระเบียงส่วนตัวของคุณเพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในห้องน้ำอันแวววาว คุณจะได้สัมผัสกับสบู่และแชมพูหรูหราในขณะที่พิจารณาว่าจะใช้อ่างอาบน้ำหรือฝักบัวแบบเดินเข้าหรือไม่ เซเว่นซีสสวีท มีห้องน้ำหินอ่อนหนึ่งห้อง พื้นที่นั่งเล่น และตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้า รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 3 ท่าน นอกจากนี้ยังมีบริการซักรีดแบบวาเลต แพ็คเกจโรงแรมก่อนการล่องเรือ รวมทั้งการขนส่งและอาหารเช้า พร้อมบริการพิเศษมากมาย เช่น บริการ Wi-Fi ไม่จำกัด โทรศัพท์จากเรือสู่ฝั่ง 15 นาที และบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับรูปแบบหมอนให้เลือกสรร นอกจากนี้ ยังมีบริการศูนย์บริการผู้โดยสารและจองร้านอาหารลำดับความสำคัญ สิทธิพิเศษลดราคา 10% สำหรับไวน์และสุราพรีเมียม และความสะดวกสบายด้วยเครื่องเสียง BOSE® SoundLink Mini II พร้อมด้วย ตัวเครื่องทำกาแฟ illy® และผ้าห่มแคชเมียร์เพื่อเพิ่มความหรูหราในการพักผ่อนของคุณ ในเซเว่นซีสสวีท ทุกอารมณ์และความพิเศษจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วยบริการที่ไม่มีที่ติตลอดการล่องเรือของคุณ



เพนท์เฮาส์สวีทนั้นถูกออกแบบมาอย่างหรูหราเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายและการใช้สอยพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถผ่อนคลายบนระเบียงส่วนตัวและสัมผัสกับบรรยากาศสุดแสนจะพิเศษ ในห้องน้ำหินอ่อนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศ เพื่อเติมเต็มพลังให้คุณพร้อมสำหรับการผจญภัยในท่าเรือถัดไป นอกจากนี้ยังมีบริการสำรองที่นั่งออนไลน์ล่วงหน้าสำหรับกิจกรรมบนฝั่งและการรับประทานอาหาร และคุณยังสามารถเรียกใช้บริการบัตเลอร์ส่วนตัวเพื่อดูแลความต้องการพิเศษอีกด้วย ห้องสวีทนี้ประกอบด้วยเตียงขนาดใหญ่แบบยุโรป 1 เตียง พร้อมมุมพักผ่อนส่วนตัว ห้องน้ำหินอ่อนที่หรูหรา ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินพร้อมเซฟ ปรับให้รองรับผู้เข้าพักได้ถึง 3 ท่าน นอกจากนี้ยังมีบริการซักรีดและบริการโรงแรมก่อนล่องเรือรวมถึงการขนส่ง เบรคฟาสต์ และบริการขนสัมภาระ รวมถึง WiFi ไม่จำกัดที่รองรับได้ถึง 4 คนต่อห้อง และโทรศัพท์ระหว่างเรือกับฝั่ง 15 นาที สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ได้แก่ สบู่ แชมพู และครีมจาก Guerlain และ L’Occitane, บริการบัตเลอร์ส่วนตัว, แชมเปญต้อนรับพร้อมผลไม้สด, บริการรีดผ้าในคืนแรก, มินิบาร์ในห้องพักพร้อมการเติมเต็ม 24 ชั่วโมง และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสิทธิพิเศษในการสำรองที่นั่งสำหรับกิจกรรมบนฝั่งและการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังมีส่วนลด 10% สำหรับไวน์และสุรา, ส่วนลด 5% สำหรับโรงแรมหรือโปรแกรมท่องเที่ยวก่อนหรือหลังการล่องเรือ, และข้อเสนอพิเศษสำหรับกิจกรรม Regent Choice นอกจากนี้ยังมีหมอนหลายรูปแบบ, เสื้อคลุมและรองเท้าอาบน้ำ Regent Plush, ขนมปังประจำวัน, กระดาษจดหมายส่วนบุคคล, ลำโพง Bluetooth BOSE SoundLink Mini II, กล้องส่องทางไกล, เครื่องทำเอสเพรสโซ่ illy, ผ้าห่มขนสัตว์, เครื่องเป่าผม, โทรทัศน์จอแบนพร้อมรายการสื่อมากมายและภาพยนตร์ฟรีตามความต้องการ, โทรศัพท์ดาวเทียมแบบโทรตรง, บริการทำความสะอาดรองเท้า และอุปกรณ์ความต้องการพื้นฐาน เช่น ชุดโกนหนวด ขนเปล่า ชุดเย็บผ้า และเจลล้างมือ รวมถึงถุงผ้าของขวัญฟรีเพื่อให้คุณเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่ในระหว่างการเข้าพักของคุณ


ในคอนเซียร์จสวีทที่ออกแบบอย่างมีระดับนี้ คุณจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายจากการตกแต่งที่หรูหราพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะที่มีเฉพาะในห้องสวีทระดับคอนเซียร์จและสูงกว่า ห้องสวีทนี้มาพร้อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องชงกาแฟ illy® และผ้าห่มขนแกะ ที่เหมาะสำหรับการนั่งจิบกาแฟในตอนเช้าและเพลิดเพลินกับอาหารเช้าในห้องพักบนระเบียงส่วนตัวของคุณ นอกจากนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้คุณได้ตามใจในทุกเวลา ห้องนี้มีเตียงขนาดใหญ่แบบ European King-Sized Suite Slumber Bed® พร้อมด้วยห้องน้ำหินอ่อน และพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นกันเอง อีกทั้งยังมีระเบียงส่วนตัวและตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in พร้อมเซฟที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 3 ท่าน จากสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ บริการซักรีด อุปกรณ์ Wi-Fi ไม่จำกัดใช้งานสำหรับผู้เข้าพักสูงสุด 4 คน การโทรศัพท์จากเรือไปฝั่งตลอด 15 นาที รวมทั้งสบู่ ยาสระผม และโลชั่นจาก L’Occitane® นอกจากนี้ยังมีการต้อนรับด้วยแชมเปญ พร้อมการจัดดอกไม้สดภายในห้อง มินิบาร์ในห้องพักที่สามารถเติมได้ตามต้องการ และการจองบริการท่องเที่ยวและร้านอาหารออนไลน์ล่วงหน้าพร้อมส่วนลดพิเศษอีกด้วย ทุกประสบการณ์จะถูกยกระดับให้คุณได้สัมผัสถึงความหรูหราในทุกๆ วันในการเดินทางของคุณ



ห้องสวีทระเบียงดีลักซ์ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในและสัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามภายนอกได้อย่างเต็มที่ ในพื้นที่นั่งเล่น คุณสามารถชื่นชมวิวมหาสมุทรผ่านหน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดาน หรือจะนั่งพักผ่อนบนระเบียงส่วนตัวของคุณและชมโลกที่ผ่านไป บรรยากาศภายในห้องยังตกแต่งอย่างหรูหราด้วยชุดเครื่องนอนที่นุ่มสบายและรายละเอียดหินอ่อนสวยงามในห้องน้ำ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้เข้าพัก ห้องนี้มีเตียงสวีทขนาดยูโรเปียนคิงไซส์, ห้องน้ำหินอ่อน, พื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว, ระเบียงส่วนตัว, ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินพร้อมเซฟ, และสามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 3 ท่าน นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ เช่น บริการซักรีด, WiFi ไม่จำกัดที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 2 เครื่องต่อห้องสวีท, ขวดแชมเปญต้อนรับพร้อมผลไม้สด, มินิบาร์ในห้องพักที่สามารถเติมได้, บริการรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจาก L’Occitane®, เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะจาก Regent, เครื่องเป่าผม, โทรทัศน์จอแบนระบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมคลังหนังที่กว้างขวาง, โทรศัพท์ดาวเทียมสายตรง, และบริการขัดรองเท้า ทำให้การเข้าพักในห้องสวีทระเบียงดีลักซ์นี้เป็นประสบการณ์ที่หรูหราและสะดวกสบายอย่างที่สุด

เรเจนท์ สวีท นำเสนอความหรูหราและความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบที่สร้างสรรค์ เลือกใช้ผลงานศิลปะหายาก และการตกแต่งที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ภายในห้องประกอบไปด้วยห้องนอนที่กว้างขวางถึงสองห้อง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ เช่น สปาส่วนตัวที่สามารถเพลิดเพลินได้ภายในห้อง และเปียโนสไตน์เวย์ที่ให้คุณได้บรรเลงเพลงอันไพเราะ ขณะเดียวกันคุณจะได้สัมผัสกับวิวทะเลที่งดงามจากระเบียงส่วนตัว ที่มาพร้อมกับอ่างน้ำร้อนแบบ Tresse Minipool ตั้งอยู่สูงบนเรือ ทำให้เรเจนท์ สวีท เป็นที่พักอันฟุ่มเฟือยที่ตอบโจทย์สำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง