
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Quest
Seabourn


ซิดนีย์ เมืองที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ยินดีต้อนรับท่านสู่ท่าเรือที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ที่สุดในออสเตรเลีย ท่าเรือซิดนีย์นั้นรายล้อมไปด้วยอ่าวและชายหาดที่งดงาม แอ่งน้ำสีเข้มที่มีเรือใบลอยอยู่และอาคารโอเปราฮาที่เปล่งประกายสร้างภาพบรรยากาศที่น่าประทับใจ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจอดแล่นเรือสำราญที่นี่ จะได้สัมผัสกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่มีทั้งอิทธิพลของชาวอิตาเลียน กรีก จีน และไทย ที่ทำให้ซิดนีย์กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ซิดนีย์ไม่เพียงแต่เป็นบ้านของประชากร 4.6 ล้านคน แต่ยังเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถดึงดูดผู้เข้าชมจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชม ทั้งชายหาดที่มีชื่อเสียงอย่างบอนดิและมอยรา ที่เป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ แถมยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกสรรอีกด้วย การเดินทางมาท่าเรือซิดนีย์คือการเริ่มต้นประสบการณ์การสำรวจประเทศออสเตรเลียที่งดงาม โดยท่านยังสามารถสัมผัสกับสไตล์และความสง่างามของเมืองก่อนจะเดินทางต่อไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์รออยู่ที่ด้านหลังของท่าเรือแห่งนี้

เมลเบิร์น ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก มันตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งที่สวยงามบริเวณปากอ่าวพอร์ตฟิลิป เมืองนี้มีลักษณะเป็นตารางเรียบร้อย ที่เต็มไปด้วยอาคารสไตล์วิกตอเรียและธนาคารต่างๆ ที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองหลังยุคทอง มีบรรยากาศที่เหมาะสำหรับการสำรวจอย่างใจคอในช่วงวันหยุด ในเขตเซาท์แบงค์ ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของใจกลางเมือง มีการพัฒนา Southgate ที่รวมบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้าทันสมัย ที่ยกระดับภาพลักษณ์ของเมืองตามแม่น้ำยาร์ร่า อีกทั้งยังมี Federation Square ที่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมลเบิร์น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นอย่างสบายที่ Esplanade ในย่านเซนต์กิลด้า ชมบ้านเรือนสวยงามใน East Melbourne หรือเพลิดเพลินกับร้านค้และคาเฟ่ในย่านฟิตซ์รอยหรือคาร์ลตัน ที่ตลาดวิกตอเรีย คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาจากคนท้องถิ่น และอย่าลืมแวะรับประทานอาหารยามบ่ายที่Windsor หรือเช่าเรือแคนูที่ Studley Park เพื่อพายไปตามแม่น้ำยาร์ร่า จะทำให้คุณได้ค้นพบจิตวิญญาณที่แท้จริงของเมลเบิร์นอย่างแน่นอน

ท่าเรือฮอบาร์ต ชาวตาสมาเนีย เปรียบได้กับไข่มุกในลูกฟูกแห่งออสเตรเลีย โดยตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเดอเวนท์ ท่ามกลางธรรมชาติของภูเขาเวลลิงตัน ท่าเรือนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ปี 1803 เมื่อครั้งที่เป็นสถานที่กักกันนักโทษ ทำให้ฮอบาร์ตเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมากไปด้วยประวัติศาสตร์จนกลายเป็นเมืองหลวงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย เมื่อเดินไปตามถนนดูลึก คูเมืองและบ้านเรือนที่สร้างจากอิฐอาณานิคมล้วนเต็มไปด้วยอัตลักษณ์ ประกอบกับท่าเรือที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ช่วยสร้างบรรยากาศที่แสนงามให้กับเมืองขนาดเล็กที่เพรียบพร้อมไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ และอาหารเลิศรส ตลอดปี ฮอบาร์ตจัดงานเทศกาลต่าง ๆ อย่างเช่น การแข่งขันเรือใบซิดนีย์-ฮอบาร์ต ที่มีชีวิตชีวาในช่วงวันสิ้นปี และเทศกาล Tastes of Tasmania ที่จะพาคุณไปสัมผัสรสชาติของอาหารและไวน์ที่ดีที่สุดในพื้นที่ แม้ฮอบาร์ตจะสงบสุข แต่ใครต้องการความบันเทิงสามารถหาความสนุกได้จากร้านอาหารชั้นเลิศ, คลับแจ๊ซ และคาสิโนที่ Wrest Point นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวฮอบาร์ตเปิดบริการครบครันเพื่อช่วยเเพลนการผจญภัยของคุณ กรุณาอย่าพลาดโอกาสที่จะค้นพบเสน่ห์ของฮอบาร์ต จุดหมายปลายทางที่ควรสำรวจในทริปการเดินทางของคุณ!

ท่าเรือโอบัน บนเกาะสจ๊วต (Stewart Island) เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น อันตั้งอยู่ในนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามและอยู่ในตำแหน่งที่สงบเงียบทางใต้ของประเทศ เกาะนี้มีชื่อในภาษามาออรีว่า "รากิอูรา" ที่แปลว่า "ดินแดนแห่งท้องฟ้าที่เรืองรอง" โดยเฉพาะยามเช้าและเย็นที่มีสีสันสวยงาม พร้อมกับการแสดงแสงเหนือที่หาไม่ได้จากที่ไหน โอบันตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติรากิอูราที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง หนึ่งในจุดเด่นคือคิววีสจ๊วต (Stewart Island brown kiwi) ที่สามารถพบเห็นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ หาดทรายที่สวยงามและหน้าผาที่สูงชันยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกและแมวน้ำชนิดต่าง ๆ ที่รอลุ้นให้คุณได้พบเจอ ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัว หลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ชื่นชมธรรมชาติอันบริสุทธิ์และวิถีชีวิตที่เรียบง่าย โอบัน คือ สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ เพื่อมอบความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเสน่ห์ของนิวซีแลนด์ที่แท้จริง

ท่าเรือทิมารู (Timaru) ตั้งอยู่ระหว่างเมืองไครสต์เชิร์ชและดันโอดิน เป็นจุดหมายที่ใครหลายคนอาจมองข้ามไป แต่ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ห้ามพลาด! ชื่อของเมืองมาจากชื่อของชนเผ่าเมารี คือ "Te Maru" แปลว่า 'สถานที่พักพิง' ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของที่พักผ่อนอันงดงาม ทิมารูนำเสนอภูมิทัศน์ที่สวยงามเหมือนในหนัง Middle Earth และยังมีศูนย์การค้าสไตล์วิกตอเรียนและเอ็ดเวิร์ด ที่สร้างขึ้นจากหินบลูสโตนที่มีภูมิประเทศเป็นเอกลักษณ์ ชายหาดชั้นเยี่ยมอย่าง Caroline Bay เป็นหนึ่งในชายหาดที่ได้รับความนิยมที่สุดในนิวซีแลนด์ และเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การว่ายน้ำและพักผ่อน ถ้าคุณหลงรักศิลปะ ไม่ควรพลาดแกลเลอรีศิลปะที่มีการจัดเก็บกลุ่มงานศิลป์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของเกาะใต้ นอกจากนี้ ทริปเดินป่าบนเส้นทางตามชายฝั่งและแม่น้ำก็จะทำให้คุณไม่ต้องผิดหวัง มีเส้นทางหลากหลายตั้งแต่เส้นทางสั้นเหมาะสำหรับผู้ใช้รถเข็น ไปจนถึงเส้นทางที่ท้าทาย อย่าลืมมองหานกเพนกวินที่อาจจะเดินเคียงข้างระหว่างการเดินทางของคุณ ทิมารูไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่แวะจอด แต่คือจุดเริ่มต้นของการสำรวจเสน่ห์ที่แท้จริงของนิวซีแลนด์!

ท่าเรือไคคูร่า ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะ South Island นิวซีแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ยิ่งสำหรับนักเดินทางที่รักธรรมชาติและการผจญภัย ภายในท่าเรือ คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาและมหาสมุทรที่เชื่อมต่อกันอย่างลงตัว นอกจากท่าเรือที่เปิดโอกาสให้คุณได้เห็นวาฬและพะยูนในทะเลที่ใสสะอาดแล้ว ไคคูร่ายังเป็นที่รู้จักในเรื่องการพายเรือคายัคและการดำน้ำตื้นที่เต็มไปด้วยสีสันของแนวปะการัง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น Cape Palliser ที่มีประภาคารสวยงาม หรือสัมผัสชีวิตท้องถิ่นที่ตลาดเกษตรกรในวันเสาร์ เมื่อเยือนไคคูร่า ผู้ออนไลน์จะได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษด้วยการลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ที่ขึ้นชื่อ รวมถึงปูและปลาแซลมอนจากท้องถิ่น อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการ ตั้งแต่การเดินป่าตามแนวชายฝั่งสู่การขับรถชมวิวที่ท้าทายความสนุก สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันถึงการเดินทางในอ้อมกอดของธรรมชาติที่สวยงาม ท่าเรือไคคูร่าเป็นสถานทีที่ห้ามพลาด ที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นตึกตักไปกับความงามของโลกใบนี้

พิคน (Picton) เมืองท่าที่มีประชากรประมาณ 4,000 คน ตั้งอยู่ริมน้ำของอ่าวควีนชาร์ล็อต (Queen Charlotte Sound) ที่เป็นประตูเข้าสำหรับการเดินเรือจากเกาะเหนือและเรือสำราญนานาชาติที่กำลังเติบโต นับว่าเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของบริการและการขนส่งด้วยเรือแท็กซี่ไปยังชุมชนห่างไกลในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของอุทยานทางทะเลมาร์ลโบโร (Marlborough Sounds Maritime Park) ในช่วงฤดูร้อน เมืองพิคนจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของตลาดงานฝีมือ พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และเส้นทางเดินเท้าสำหรับชมวิวที่มองเห็นความงดงามของอ่าว ภายในเมืองนั้น ถนนเล็กๆ อย่างลอนดอนเคย์ (London Quay) มีเสน่ห์ชวนให้สำรวจ โดยมองออกไปเห็นอ่าวควีนชาร์ล็อตและอ่าวที่อยู่ห่างออกไป รวมทั้งถนนไฮสตรีท (High Street) ที่ปูทางจากเนินเขาลงมายังชายฝั่ง ตลอดแนวเส้นทางนี้จะนำท่านสู่แหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารชั้นนำที่รอให้ท่านเข้าไปสัมผัส พิคนเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการผจญภัยในธรรมชาติหรือการเพลิดเพลินกับการพักผ่อนที่หรูหรา ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม จากที่นี่ คุณสามารถสำรวจเกาะและพบกับความอุดมสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเลในน้ำทะเลใสสะอาด เชิญมาสัมผัสความหลากหลายที่พิคน เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ใฝ่หาความมหัศจรรย์ของนิวซีแลนด์!

นิวซีแลนด์เป็นที่รู้จักในเรื่องความงดงามของธรรมชาติ และเมืองนาปียร์ (Napier) นับเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และศิลปะ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1931 นาปียร์ต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.8 ริกเตอร์ ซึ่งทำให้เมืองนี้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล แม้จะมีความโศกเศร้าที่เกิดขึ้น แต่ประชาชนได้รวมตัวกันเพื่อฟื้นฟูเมือง และรวบรวมสร้างสรรค์บรรยากาศใหม่ด้วยสถาปัตยกรรมในสไตล์อาร์ต เดโค่ ที่โดดเด่นในการออกแบบอย่างมีสีสันและทันสมัย จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของนาปียร์ การเดินเรียนนในเขตอาร์ต เดโค่ ที่ตั้งอยู่ระหว่างถนน Emerson, Herschell, Dalton และ Browning จึงเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่ประดับอยู่บนอาคารหลายสิบหลัง การสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้จะพาผู้เยี่ยมเยือนย้อนเวลากลับไปยังช่วงเปลี่ยนผ่านแห่งศิลปะที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่เพียงแต่ความงามทางสถาปัตยกรรม นาปี่ยังมีชายหาดอันงดงาม พร้อมกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการทัวร์ชมธรรมชาติ การล่องเรือ หรือการสำรวจวัฒนธรรมในท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ของการเดินทางในนิวซีแลนด์อย่างแท้จริง

ออคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งใบใบเรือ” และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมื่อมาถึง คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของท่าเรือไวเทมาตา ซึ่งหมายถึงน้ำที่ส่องประกาย และมีเกาะเล็ก ๆ ที่น่าสำรวจรอบๆ พร้อมกับเรือมากกว่า 70,000 ลำ ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมการแล่นเรือที่รากฐานของชาวออคแลนด์ นอกจากนี้ ออคแลนด์ยังมีชายหาดจำนวนมากให้เลือกพักผ่อน ซึ่งหลายแห่งมีความสงบในช่วงวันธรรมดา แถมยังมีสนามกอล์ฟสาธารณะที่สามารถไปเล่นสนุกได้ภายในเวลาเพียง 30 นาทีจากตัวเมือง เมื่อมาเยือนแล้วคุณจะพบกับความมีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะการผสมผสานระหว่างชาวเมารี ชาวแปซิฟิก และเอเชีย ที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้แก่เมือง ที่ใจกลางเมืองคือ Sky Tower หอคอยที่สูงถึง 1,082 ฟุต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดสำหรับผู้ที่เดินสำรวจเมือง มีร้านอาหารและบาร์มากมายตั้งอยู่บริเวณ Viaduct Basin ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อรองรับการท่องเที่ยว มาร่วมสัมผัสกับความวิเศษของออคแลนด์ เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความทันสมัย ที่จะทำให้คุณหลงรักในการเดินทางครั้งนี้!

ท่าเรือไวแทนกิ (Waitangi) ในอ่าวของเกาะ (Bay of Islands) ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามทางธรรมชาติ ซึ่งมักจะมีเรือสำราญแวะจอดเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ ไวแทนกิเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่ตั้งของข้อตกลงไวแทนกิ (Treaty of Waitangi) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเมารี เตรียมพร้อมที่จะให้สัมผัสกับประเพณีดั้งเดิมผ่านการแสดงดนตรีและการเต้นรำที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ ท่าเรือแห่งนี้ยังเป็นประตูสู่การสำรวจเกาะน้อยใหญ่ในอ่าว รวมถึงการเดินทางไปยังชายหาดที่ทรายขาวและน้ำทะเลใส อีกทั้งยังมีกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย เช่น การดำน้ำตื้น พายเรือคายัค และการตกปลา แวะเที่ยวที่ไวแทนกิ หมายถึงการได้สัมผัสความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ และการค้นพบเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในท้องถิ่น ฟีเจอร์ที่โดดเด่นนี้ทำให้การสำรวจอ่าวของเกาะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ซึ่งจะกระตุ้นให้คุณอยากกลับมาสัมผัสความมหัศจรรย์นี้อีกครั้งในอนาคต

ดึงดูดความสนใจของนักเดินทางไปกับ “เกาะดราวุนิ” ในหมู่เกาะกาดาวูของฟิจิ ที่สัมผัสได้ถึงความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง เมฆขาวนวลลอยอยู่เหนือทะเลสีฟ้าคราม ในน้ำทะเลใสสะอาด คุณจะพบกับชายหาดที่ปกคลุมด้วยต้นปาล์ม ราวกับว่าต้องการเชิญชวนให้คุณมาสัมผัสความสงบและความงามที่ไร้ที่ติ ด้วยประชากรเพียง 125 คน เกาะนี้ถือเป็นมุมที่หลบซ่อนจากความยุ่งเหยิงของการท่องเที่ยว ไม่มีกิจกรรมอำนวยความสะดวกมามากนัก เช่น โรงแรมหรือบริการเช่ารถ แต่กลับมอบการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวบ้าน ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน สำหรับผู้ที่รักการดำน้ำ เกาะดราวุนิเป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้น ด้วยโลกใต้ทะเลอันตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสันที่สวยงาม ขณะเดียวกัน ผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขาจะสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวที่เขาระดับสูงได้ ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการเดินขึ้นไป เกาะดราวุนิยังตั้งอยู่เหนือแนวปะการังเกรท แอสโทรลาเบ ซึ่งเล่าขานกันว่าเคยมีหมู่บ้านที่อับจนในทะเล นับเป็นสถานที่ที่ดึงดูดใจและเต็มไปด้วยตำนาน ให้คุณรู้สึกหลงใหลในความเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเต็มที่

นุกูอาลอฟา เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรตองก้า เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจในใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากล่องเรือสำราญอันหรูหรากลางทะเล นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะตองก้า ซึ่งเต็มไปด้วยแนวปะการังที่สวยงามและชายหาดทรายขาวนวล ความเงียบสงบของทะเลสีฟ้าครามและแหล่งน้ำตื้นอันสดใสจะนำคุณไปสู่ประสบการณ์การว่ายน้ำกับวาฬอย่างใกล้ชิด ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่คุณสามารถว่ายน้ำร่วมกับสัตว์ยักษ์ในน้ำทะเลเขตร้อน นอกจากนี้ บริเวณบ้านเมืองยังมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ รวมถึงประวัติศาสตร์การปกครองที่ชัดเจนและกิจกรรมการละเล่นพื้นเมือง จึงเป็นโอกาสที่ดีให้คุณได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของประชาชนท้องถิ่น หากคุณต้องการความสงบสุข ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด หรือการสำรวจธรรมชาติบริสุทธิ์ คุณจะพบกับประสบการณ์ที่น่าจดจำ รอคุณอยู่ที่นุกูอาลอฟา ล่องเรือสำราญที่นี่เพื่อสร้างความทรงจำอันแสนพิเศษในเส้นทางการเดินทางของคุณ!

ขอต้อนรับคุณสู่ "อารุตังกา" เกาะพิศวงในหมู่เกาะคุกที่เป็นที่รู้จักความงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และบรรยากาศที่สงบเงียบ อารุตังกาเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์อันหรูหราในบรรยากาศเขตร้อน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าคราม ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์ การดำน้ำดูปะการังในทะเลอันสดใสและการเดินเล่นริมชายหาดที่เงียบสงบ ทำให้คุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน คุณสามารถไปเยี่ยมชมหมู่บ้านพื้นเมืองที่แสดงถึงวัฒนธรรมและประเพณีที่งดงามของชาวคุก ที่นี่คุณจะได้ชิมอาหารทะเลสดๆ และผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่รสชาติอร่อยสุดๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ปั่นจักรยานรอบเกาะ หรือปีนเขาเพื่อชมวิวทิวทัศน์อันงดงามเป็นตัวเลือกที่น่าตื่นเต้น พร้อมทั้งได้สัมผัสกับความร่มรื่นของป่าไม้ท้องถิ่น การเดินทางมาที่อารุตังกาไม่เพียงแต่จะเติมเต็มจิตใจ แต่ยังทำให้คุณมีความสุขและสร้างความทรงจำอันล้ำค่าในทุกๆ การเดินทางอีกด้วย

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "บอรา บอรา" ความงดงามของเกาะนี้ก็เรียกความอิจฉาจากหลายคนทันที สายน้ำทะเลใสสีฟ้านม สาหร่ายขาวสะท้อนแสงแดด และต้นมะพร้าวเอนไหวไปตามลม ทำให้ผู้ที่มาเยือนรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความฝัน ขยายเวลาการพักผ่อนบนเกาะที่มีชื่อเสียงด้วยการเข้าพักในบังกะโลไม้กลางทะเลที่สร้างขึ้นเหนือระดับน้ำ พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับการดำน้ำตื้นชมน้องปลาหลากสีสันที่ว่ายอยู่ในน้ำใสแจ๋ว ถ้าคุณเป็นคนที่รักความท้าทาย สามารถเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขามองเทยอดเขาเพีย ซึ่งมอบวิวทิวทัศน์อันงดงามของเกาะและทะเลรอบข้าง เมื่อสำรวจและสัมผัสกับธรรมชาติแล้ว คุณจะพบกับความสุขอันบริสุทธิ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน บอรา บอรา จึงไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อน แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างความทรงจำและประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะผ่อนคลายหรือแสวงหาโมเมนต์ที่สุดแสนตื่นเต้น เกาะนี้ยินดีต้อนรับคุณด้วยอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยความรักและธรรมชาติอันงดงาม

ปาเปตีเต้ (Papeete) คือประตูสู่สวรรค์แห่งทุนดราของโปลินีเซียน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา นอกจากจะเป็นฐานที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจเกาะตาฮิทีแล้ว ยังตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม และมหาสมุทรสีฟ้าครามที่เชื้อเชิญให้คุณเข้าไปดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล ในช่วงเวลาที่คุณใช้เวลาในเมือง คุณจะได้พบกับชายหาดสีดำสุดตระการตาที่บ่งบอกถึงมรดกภูเขาไฟ สถานที่ที่แสดงถึงความสวยงามของธรรมชาติที่งดงามเช่นเดียวกับลากูนที่มีน้ำใสแจ๋ว พร้อมสำหรับการดำน้ำตื้น และสามารถสนุกสนานกับการปีนเขาไปยังยอดเขาสีเขียว โดยการแวะพักในกระท่อมบนเสาไม้ที่ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำเจิดจรัส ช่วงเวลาในปาเปตีเต้ จะทำให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายในจังหวะชีวิตอันมีเสน่ห์ของโปลินีเซีย สัมผัสประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ เพียงแค่ก้าวออกจากเรือสำราญเพื่อเริ่มการผจญภัยในดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงามแห่งนี้ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืมเลือน

มูเรอา (Mo’orea) เป็นหนึ่งในหมู่เกาะสังคมแห่งฟรานซ์ โปลินีเซีย ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ถือเป็นเกาะที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหล ด้วยภูเขาไฟสูงสง่าที่ตั้งตระหง่าน สะท้อนความงดงามในทัศนียภาพของน้ำมุ่งเลี้ยงอุ่นและทุ่งหญ้าเขียวขจี อันเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกระดับที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งบนบกและใต้น้ำ ที่มูเรอา คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดำน้ำลึกในน้ำทะเลใสสะอาด ส่องดูชีวิตใต้ทะเลที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่าขึ้นภูเขาเพื่อดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่เกาะรอบ ๆ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ให้คุณเข้าใจวิถีชีวิตและประเพณีของคนท้องถิ่น การมาที่มูเรอาไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำอันมีค่าในดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อยู่รอบตัวคุณ จึงไม่แปลกใจที่เกาะนี้จะเป็นจุดหมายในการเดินทางสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันถึงความงดงามของโลกใบนี้


ฟาการาวา (Fakarava) คือหนึ่งในจุดหมายที่ล้ำค่าของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่ตั้งอยู่ในแถบหมู่เกาะเวอรีตา ด้วยทิวทัศน์อันงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวละเอียด ฟาการาวาจึงเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายและสัมผัสความงามตามธรรมชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะเขตร้อน ท่าเรือฟาการาวาเป็นสถานที่ที่เรือสำราญชื่อดังหลายลำแวะจอด โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน ในขณะเดียวกัน ยังสามารถสำรวจแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ดำน้ำตื้นเพื่อตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของชีวิตใต้ทะเล ทั้งปลาเขตร้อนและปะการังสีสันสดใส ไม่ไกลจากท่าเรือ ยังมีกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นมากมาย เช่น การตกปลาในน้ำลึก หรือเดินทางสำรวจเกาะเล็กๆ ที่อยู่รอบๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ฟาการาวาเป็นสถานที่ที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมหมู่บ้านพื้นเมือง หรือการชิมอาหารทะเลสดใหม่ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หากคุณกำลังมองหาการหลบหนีจากความวุ่นวาย ฟาการาวา จะเป็นท่าเทียบเรือที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและประสบการณ์อันล้ำค่า สร้างความทรงจำที่แสนพิเศษท่ามกลางความงดงามแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก
ท่าเรือ Avatiu ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Rarotonga ในหมู่เกาะคุก คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความงดงามของธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือนี้เป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่สำคัญของหมู่เกาะคุก และมีบรรยากาศที่สงบเงียบ รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของภูเขาและทะเลสีฟ้าครามที่สดใส นักท่องเที่ยวที่มาถึงท่าเรือ Avatiu จะได้สัมผัสกับความอบอุ่นของชาวเกาะ พร้อมชมตลาดท้องถิ่นที่มีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นของฝาก, เสื้อผ้า, หรืออาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ เช่น บะหมี่คุกที่มีรสชาติเยี่ยมยอด เมื่อเดินสำรวจไปยังใจกลางเมือง Avarua ซึ่งไม่ไกลจากท่าเรือ ท่านจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น น้ำตก Wigmore Falls และหาด Muri Beach ซึ่งเหมาะสำหรับการลงไปว่ายน้ำหรือพักผ่อนใต้แสงแดด นอกจากนี้ การเดินทางไปยังภูเขา Te Rua Manga ยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ด้วยเส้นทางเดินที่ท้าทายและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสุด ๆ มาเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราของคุณที่ Avatiu และค้นพบความมหัศจรรย์ของหมู่เกาะคุก ที่ซึ่งความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์รอคอยการค้นพบจากคุณ!

ท่าเรือฮูฮิน่า (Huahine) ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเฟรนช์โพลินีเซีย เป็นสถานที่ที่สวยงามและเงียบสงบ ซึ่งมีน้ำทะเลสีฟ้าใสสะท้อนแสงอาทิตย์ พร้อมชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด ท่าเรือนี้ถือเป็นประตูสู่ประสบการณ์อันน่าทึ่งในโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านประเพณีโบราณและอาหารที่หลากหลาย พร้อมทั้งการต้อนรับด้วยมิตรไมตรีจากชาวเกาะ ฮูฮิน่ามีกิจกรรมสนุกสนานมากมาย เช่น การดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจแนวปะการังที่มีสีสันสดใส หรือการล่องเรือไปตามคลองธรรมชาติที่เงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น โบราณสถานเอาหา ผู้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี และภาพวาดสมัยโบราณที่ตั้งอยู่บนหน้าผา ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงอารยธรรมที่รุ่งเรืองในอดีต การเดินทางมาที่ท่าเรือฮูฮิน่าจึงไม่ใช่เพียงแค่การไปเยือน แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่โลกแห่งการค้นพบและแรงบันดาลใจ ที่จะทำให้ใจของคุณเต็มไปด้วยความฝันและคอยกระตุ้นให้คุณหาความสุขในการเดินทางต่อไป

ในหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ที่เต็มไปด้วยความงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย "ไรอาเตา" (Raiatea) คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาถึงเฟรนช์โพลินีเซีย ท่าเรือไรอาเตานั้นเป็นเหมือนประตูสู่สวรรค์เขตร้อน โดยมีกระแสน้ำใสและทิวทัศน์ที่พิสุทธิ์แห่งหน้าผาและป่าฝนเขียวขจีรอบตัว เมื่อเรือสำราญมาถึงท่าเรือ ตั้งแต่อดีตนับร้อยปี ไรอาเตาเป็นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญในวัฒนธรรมของชาวโพลีนีเซีย ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจธรรมชาติที่งดงาม แหล่งดำน้ำที่เต็มไปด้วยปลาสีสันสดใส หรือการเดินทางไปยังวัดโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาหลายร้อยปี การชิมอาหารท้องถิ่นจะเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ยากจะลืมในไรอาเตา จากสมูทตี้มะพร้าวไปจนถึงจานไก่ในซอสสับปะรด ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติที่แท้จริงของหมู่เกาะแปซิฟิก ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะพักผ่อนริมชายหาด หรือผจญภัยในธรรมชาติ ไรอาเตาต่างมีให้คุณเสมอ สัมผัสความงามที่ไรอาเตาและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในทริปนี้!


ปาเปตีเต้ (Papeete) คือประตูสู่สวรรค์แห่งทุนดราของโปลินีเซียน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา นอกจากจะเป็นฐานที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจเกาะตาฮิทีแล้ว ยังตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม และมหาสมุทรสีฟ้าครามที่เชื้อเชิญให้คุณเข้าไปดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล ในช่วงเวลาที่คุณใช้เวลาในเมือง คุณจะได้พบกับชายหาดสีดำสุดตระการตาที่บ่งบอกถึงมรดกภูเขาไฟ สถานที่ที่แสดงถึงความสวยงามของธรรมชาติที่งดงามเช่นเดียวกับลากูนที่มีน้ำใสแจ๋ว พร้อมสำหรับการดำน้ำตื้น และสามารถสนุกสนานกับการปีนเขาไปยังยอดเขาสีเขียว โดยการแวะพักในกระท่อมบนเสาไม้ที่ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำเจิดจรัส ช่วงเวลาในปาเปตีเต้ จะทำให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายในจังหวะชีวิตอันมีเสน่ห์ของโปลินีเซีย สัมผัสประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ เพียงแค่ก้าวออกจากเรือสำราญเพื่อเริ่มการผจญภัยในดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงามแห่งนี้ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืมเลือน

มูเรอา (Mo’orea) เป็นหนึ่งในหมู่เกาะสังคมแห่งฟรานซ์ โปลินีเซีย ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ถือเป็นเกาะที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหล ด้วยภูเขาไฟสูงสง่าที่ตั้งตระหง่าน สะท้อนความงดงามในทัศนียภาพของน้ำมุ่งเลี้ยงอุ่นและทุ่งหญ้าเขียวขจี อันเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกระดับที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งบนบกและใต้น้ำ ที่มูเรอา คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดำน้ำลึกในน้ำทะเลใสสะอาด ส่องดูชีวิตใต้ทะเลที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่าขึ้นภูเขาเพื่อดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่เกาะรอบ ๆ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ให้คุณเข้าใจวิถีชีวิตและประเพณีของคนท้องถิ่น การมาที่มูเรอาไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำอันมีค่าในดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อยู่รอบตัวคุณ จึงไม่แปลกใจที่เกาะนี้จะเป็นจุดหมายในการเดินทางสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันถึงความงดงามของโลกใบนี้

ปาเปตีเต้ (Papeete) คือประตูสู่สวรรค์แห่งทุนดราของโปลินีเซียน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา นอกจากจะเป็นฐานที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจเกาะตาฮิทีแล้ว ยังตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม และมหาสมุทรสีฟ้าครามที่เชื้อเชิญให้คุณเข้าไปดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล ในช่วงเวลาที่คุณใช้เวลาในเมือง คุณจะได้พบกับชายหาดสีดำสุดตระการตาที่บ่งบอกถึงมรดกภูเขาไฟ สถานที่ที่แสดงถึงความสวยงามของธรรมชาติที่งดงามเช่นเดียวกับลากูนที่มีน้ำใสแจ๋ว พร้อมสำหรับการดำน้ำตื้น และสามารถสนุกสนานกับการปีนเขาไปยังยอดเขาสีเขียว โดยการแวะพักในกระท่อมบนเสาไม้ที่ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำเจิดจรัส ช่วงเวลาในปาเปตีเต้ จะทำให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายในจังหวะชีวิตอันมีเสน่ห์ของโปลินีเซีย สัมผัสประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ เพียงแค่ก้าวออกจากเรือสำราญเพื่อเริ่มการผจญภัยในดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงามแห่งนี้ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืมเลือน
