
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Quest
Seabourn


เวนิสคือเมืองที่มีเสน่ห์และความงดงามที่ไม่เหมือนใคร หากคุณเคยเห็นภาพเบื้องหลังของเมืองนี้ในหนังสือหรืองานศิลปะต่างๆ ลองเดินทางมาแล้วคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย แคนัลที่ไหลผ่านกลางเมืองแทนที่ถนนทั่วไป สายน้ำที่เปล่งประกายรอบตัวสร้างความรู้สึกโรแมนติกและมีเสน่ห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด อาคารผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระราชวังและโบสถ์ ไม่เพียงแต่สวยงาม ยังสะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวนิส ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าอันมั่งคั่งระหว่างยุโรปและตะวันออก การเดินหลงทางในตรอกซอกซอยแคบๆ ของเวนิสเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันยอดเยี่ยม ที่จะทำให้คุณค้นพบเสน่ห์ซ่อนเร้นในทุกมุม ในที่สุด คุณอาจจะพบตัวเองในจัตุรัสซานมาร์โค สถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่มารวมตัวกันเพื่อดื่มกาแฟหรือเปอร์รีทีฟ เพลิดเพลินกับความงามและบรรยากาศอันเป็นมิตรในสถานที่แห่งนี้ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นในการสัมผัสเวนิส ในแบบที่ทุกโซเชียลมีเดียไม่สามารถถ่ายทอดได้หมดสิ้น คิดถึงการเดินทาง ลองให้เวนิสเป็นจุดหมายยอดเยี่ยมถัดไปในหัวใจของคุณเถอะ!

วอดิเช เกาะที่สวยงามตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลอาเดรียติกของโครเอเชีย เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือวอดิเช จะเป็นโอกาสอันดีในการสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือวอดิเช เป็นประตูสู่ชายหาดที่สวยงามและน้ำทะเลใสสะอาด ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ว่ายน้ำ ตกปลาหรือแม้กระทั่งพายเรือคายัค หากคุณรักในการสำรวจ วอดิเช ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบในการแล่นเรือไปยังเกาะใกล้เคียงที่มีเสน่ห์ เช่น เกาะโครชูล ซึ่งมีทิวทัศน์ที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ วอดิเช ยังเป็นที่ตั้งของอาคารทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ เช่น โบสถ์เซนต์นิโคลัส ที่ประดับด้วยงานศิลปะสุดพิเศษ สำหรับนักชิม คุณไม่ควรพลาดลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสเลิศ ที่มักมีส่วนผสมจากทะเลสดใหม่ การเดินทางมาที่วอดิเช ไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อนในสถานที่ที่สวยงาม แต่ยังเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับประสบการณ์ที่น่าหลงใหลในโครเอเชีย นั่งเรือสำราญแบบหรูหรา แล้วมาสัมผัสกันเถอะ!

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

สัมผัสความงดงามแห่งเกาะซามี (Sami) ประเทศกรีซ ที่เป็นท่าเรือเอกอุในหมู่เกาะเคฟาลอเนีย (Kefalonia) พร้อมกับทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยหุบเขาเขียวขจีและน้ำทะเลใสสีฟ้าคราม เรือสำราญที่มาถึงท่าเรือซามีจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เย้ายวนใจจากทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา ที่จะทำให้หัวใจของนักท่องเที่ยวได้พองโต ท่าเรือซามีไม่เพียงแต่เป็นจุดเชื่อมต่อในการสำรวจเกาะที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่น่าหลงใหล เริ่มต้นด้วยการเดินเล่นในเมืองซามีที่มีความเก่าแก่และเต็มไปด้วยเสน่ห์ สัมผัสชีวิตท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น และชมสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่สะท้อนประวัติศาสตร์ของเกาะ ห้ามพลาดการเยี่ยมชมถ้ำเมลิสนา (Melissani Cave) ที่มีน้ำทะเลใสและแสงธรรมชาติที่ส่องสว่าง สร้างบรรยากาศที่ไร้ที่ติ หากคุณรักการผจญภัย ยังมีชายหาดที่สวยงามอย่างไมโครนีซอส (Myrtos Beach) ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ มาร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในสวรรค์แห่งซามี ที่เต็มไปด้วยความงามธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง พร้อมเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่ไม่รู้ลืม!

ที่ท่าเรือนาฟพลิโอน (Náfplion) ประเทศกรีซ เมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “โอเรีย” หรือ “สวยงาม” เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่โอบล้อมอ่าวอาร์กอส ตัวเมืองเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสถาปัตยกรรมแบบกรีก เวเนเชียน และตุรกี ถนนเล็ก ๆ ที่บางครั้งเปิดให้เดินขึ้นลงเส้นทางที่มีบันไดหิน ล้วนเสริมสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์ในเมืองนี้ หากคุณต้องการสัมผัสความงามของนาฟพลิโอน ควรใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในการสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน คุณอาจพบว่าการใช้เวลาหลายวันหรือสัปดาห์ที่นี่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสำรวจสถานที่โบราณโดยรอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ ปราสาทปาลามิดี (Palamidi) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมือง เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในสมัยเวเนเชียนที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 การขึ้นไปชมวิวจากปราสาทแห่งนี้จะทำให้คุณมีมุมมองที่งดงามของเมืองและทะเลอันสงบ นาฟพลิโอนคือเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

ท่าเรือ Agios Nikólaos ตั้งอยู่บนเกาะครีต ประเทศกรีซ เป็นจุดหมายที่มีเสน่ห์และความงดงาม ซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนและการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในด้านทัศนียภาพที่โดดเด่น โดยเฉพาะทะเลสีฟ้าครามที่สะท้อนกับแสงแดดอย่างงดงาม เมื่อเดินทางมาถึง Agios Nikólaos คุณจะถูกดึงดูดไปยังทะเลสาบ Voulismeni ที่มีตำนานและเรื่องเล่าหลายหลาก ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาสนสถานและคาเฟ่เล็ก ๆ ที่พร้อมให้บริการเมนูครีตแท้ ๆ เช่น ซุปเลนทิลและขนมหวานแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีชายหาดที่สวยงามรอบๆ สำหรับผู้ที่รักการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Agios Nikólaos จะพาคุณย้อนเวลาไปยังอดีตของเมือง ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าใจและสัมผัสวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของกรีซ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยผู้รักการสำรวจหรือผู้ที่ต้องการเพียงการพักผ่อนอย่างสงบสุข Agios Nikólaos คือจุดหมายที่คุณห้ามพลาดเมื่อมีโอกาสไปเยือนเกาะครีต สัมผัสกับเสน่ห์แห่งท้องทะเลและวัฒนธรรมที่นี่ แล้วความทรงจำจะอยู่ในใจคุณตลอดไป

กรีซ เป็นประเทศที่มีเสน่ห์อย่างยิ่งและเกาะซิมี (Symi) คือหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาถึง ณ ทะเลอีเจียน อัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ในระหว่างเกาะโรดส์และเคลิมโนส ที่นี่มอบประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราพร้อมวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง ท่าเรือซิมีมีความงดงามแบบคลาสสิกที่ถูกล้อมรอบด้วยบ้านเรือนในสไตล์นีโอคลาสสิค ที่มีสีสันสดใส ซึ่งสร้างบรรยากาศโรมันติกและมอบความรู้สึกย้อนยุค นอกจากนี้ยังมีโบสถ์และวัดสวยงามหลายแห่งที่รอให้คุณได้สำรวจ รวมถึงวัดต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งเพิ่มความตื่นเต้นในการเดินทาง เมื่อเดินสำรวจเกาะ คุณจะได้พบกับชายหาดที่น่าหลงใหล เช่น ชายหาดนาฮ์ ที่นี่คุณสามารถนั่งพักผ่อนบนเก้าอี้ชายหาดหรือออกไปดำน้ำชมธรรมชาติใต้ทะเลแห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด การเดินทางมายังซิมี ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและความงามของธรรมชาติ แต่ยังทำให้คุณรู้สึกถึงมนต์เสน่ห์ของกรีซ ที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นแรงและสร้างความทรงจำอันล้ำค่าในทุก ๆ การเดินทาง

เชิญคุณเดินทางสู่เกาะคอส ประเทศกรีซ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ด้วยท่าเรือที่งดงามและบรรยากาศที่อบอุ่นที่ให้บริการแก่ผู้เดินทางโดยเรือสำราญมาอย่างยาวนาน เกาะคอสเป็นที่รู้จักในฐานะแห่งที่เกิดของฮิปโปเครตีส แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ซึ่งคุณจะได้สำรวจสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลโบราณของฮิปโปเครตีสที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงามน่าหลงใหล นอกจากนี้ยังไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมเมืองโบราณอัสโซส ที่มีกำแพงและโครงสร้างที่น่าทึ่งซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของอารยธรรมในอดีต จุดเด่นอีกประการคือชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดพาราดิซิโอ ซึ่งมีน้ำฟ้าคราม ทรายละเอียดและกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อเยี่ยมชมเกาะคอส คุณยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารกรีกที่เต็มไปด้วยรสชาติสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซูฟลากีหรือซาลาต้ากรีก ซึ่งจะทำให้ประสบการณ์ของคุณเต็มไปด้วยรสชาติที่น่าจดจำ หากคุณกำลังมองหาความสงบและสุนทรียภาพแห่งท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คอสจะมอบให้คุณทุกอย่างในชีวิตที่เหนือจินตนาการ เชิญมาเกาะคอสเพื่อสร้างความทรงจำที่จะอยู่กับคุณตลอดไป.

ท่าเรือคูซาดาซี (Kusadasi) เป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของประเทศตุรกี เมืองตากอากาศแสนคึกคักนี้มีทั้งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และชีวิตชายหาดที่น่าตื่นตา แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือเมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus) ที่ถูกขุดค้นมาเพียง 20% ของทั้งหมด ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหานครโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในยุโรป เอเฟซุส ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล เป็นมรดกโลกของยูเนสโกและมีความงดงามที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าสถาปัตยกรรมอย่างวิหารอาร์เทมิสซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจะเหลือเพียงเศษซาก แต่ห้องสมุดเซลซัสยังคงยืนหยัดอย่างน่าประทับใจ ส่งเสริมให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีค่า นอกจากนี้ ยังมีบ้านของพระแม่มารีอยู่ใกล้เคียงบนเขานกไนท์เกล ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าเป็นสถานที่ที่พระแม่มารีได้ใช้ชีวิตในช่วงท้ายของชีวิต เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชมทุกคน สำหรับผู้ที่ไม่สนใจประวัติศาสตร์ คูซาดาซีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยชายหาดที่สวยงามอย่างชายหาดเลดี้ส (Ladies’ Beach) และร้านอาหารที่เสิร์ฟเคบับตุรกีอร่อย ๆ อีกมากมาย การเดินทางไปยังชายหาดที่ใสสะอาดของกูเซลคัมลิ (Guzelcamli) และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ปามุคคาเล (Pamukkale) ก็จะทำให้ความฝันในการสำรวจโลกของคุณเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

มอเนมวาเซีย (Monemvasia) คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งกรีซ ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเพโลพอนนีส โดยมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เมื่อชาวกรีกที่หนีการโจมตีของชาวสลาฟมาพบที่นี่เป็นที่หลบภัย ในช่วงเวลาที่รุ่งเรือง มอเนมวาเซียได้ควบคุมการเดินเรือระหว่างแผ่นดินเลบานอนและชายฝั่งยุโรป เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงได้ขยายไปตามแนวลาดชันของยอดเขาสูงถึง 300 เมตร และล้อมรอบด้วยทะเล ในยุคหนึ่ง เมืองนี้เคยเป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ แต่ประชาชนเริ่มย้ายไปยังแผ่นดินใหญ่ ทำให้ประชากรลดน้อยลง จนกระทั่งมีโครงการฟื้นฟูเพื่อรักษามรดกของมอเนมวาเซีย เมืองเก่าเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อขึ้นไปบนเมืองสูง ยังมีซากป้อมปราการโบราณและโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) ให้ได้สำรวจ พร้อมทัศนียภาพที่งดงามของภูมิประเทศโดยรอบ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของกรีซ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของทะเลและภูเขาในดินแดนแห่งเทพนิยาย.

เมื่อพูดถึงการเดินทางที่หรูหราในยุโรป คงไม่มีที่ไหนเทียบเท่ากับกรีซ ประเทศที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ท่าเรือเดลฟี (Delphi) ตั้งอยู่ในภูมิภาคฟ็อสซิส ซึ่งนับเป็นหนึ่งในจุดหมายที่พลาดไม่ได้สำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เดลฟีไม่เพียงเป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นเมืองโบราณที่ถูกยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางของโลกในยุคกรีกโบราณ ความสำคัญของที่นี่สะท้อนให้เห็นจากวิหารของอโพโลซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญ ชมการออกแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม และร่องรอยของประวัติศาสตร์ที่ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน การเดินทางไปยังท่าเรือเดลฟีจะทำให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของภูมิประเทศที่สวยงาม ขุนเขาและวัดโบราณที่ตั้งอยู่ในมุมมองที่น่าทึ่ง ทำให้นักเดินทางทุกคนรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง หากคุณมีเวลามากพอ อย่าลืมสำรวจบริเวณรอบด้าน โดยเฉพาะอ่าวกัลลิคาสที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม และชายหาดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน สัมผัสกับรสชาติอาหารแบบกรีกแท้ ๆ ที่จะสร้างความประทับใจในทุกคำ ปล่อยให้เดลฟีเป็นจุดเริ่มต้นของการพาคุณออกสำรวจแห่งความงามและอารยธรรมอันล้ำค่านี้ และรับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมไปพร้อมกับความหรูหราในแบบของคุณเอง

เมื่อกล่าวถึงประเทศกรีซ หนึ่งในสถานที่ไม่ควรพลาดคือท่าเรือนydri บนเกาะเลฟกาดา ซึ่งเป็นประตูสู่โลกแห่งความงดงามของทะเลอีเจียน ท่าเรือแห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศเงียบสงบ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและน้ำทะเลสีฟ้าใส Nydri นั้นไม่เพียงเป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปยังเกาะเล็กๆ ที่สวยงาม เช่น สเกาโรส และ เมดิอา ที่มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสเหมาะสำหรับการว่ายน้ำและกิจกรรมทางน้ำ นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ ท่าเรือยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์มากมาย ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารและไวน์ท้องถิ่นที่อร่อย หากคุณมีเวลาในการสำรวจ Nydri คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของน้ำตกที่หล่นลงมาจากเขา ซึ่งให้ความรู้สึกเย็นสบายในวันร้อน และกิจกรรมทำให้คุณได้ผจญภัยอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ Nydri เป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจความงามของกรีซ ร่วมสร้างประสบการณ์ความทรงจำใหม่ๆ ที่ท้าทายที่นี่ เผชิญโลกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า ทำให้การเดินทางของคุณมีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ซารันด์ (Sarandë) เป็นเมืองชายทะเลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคใต้ของประเทศแอลเบเนีย บนชายฝั่งของทะเลไอออนิอัน ซึ่งสามารถเดินทางมาจากเกาะคอร์ฟูของกรีซได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเรือเฟอร์รี่ เมืองซารันด์ได้ชื่อมาจากอารามคริสต์นิกายแรกซึ่งอุทิศให้กับนักบุญ 40 องค์ ความมหัศจรรย์ของซารันด์นั้นไม่เพียงแต่ในประวัติศาสตร์ แต่ยังรวมไปถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา จากการพัฒนาในช่วงหลังผ่านสถาปัตยกรรมคอมมิวนิสต์ที่เริ่มจะจางหาย มีร้านค้าขนาดเล็กและบาร์มากมายที่เพิ่มเสน่ห์แบบเมดิเตอร์เรเนียนให้กับเมือง ท่าเรือซารันด์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือโบราณของออนเคสมัส (Onchesmos) ขึ้นชื่อในเรื่องอากาศที่อบอุ่นและซากโบราณสถานที่ใกล้เคียงอย่างบูตรินต์ (Butrint) ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างสปริงน้ำตาอีฟ (Blue Eye Spring) ที่มีน้ำใสเป็นประกายอันน่าหลงใหล และใกล้เคียงมีสุสานใต้ดินของโบสถ์นักบุญ 40 ที่เพิ่งค้นพบ เมื่อคุณเยือนซารันด์ อย่าลืมชิมอาหารท้องถิ่น เช่น ชีสเคบับ (shisqubap) และไอศกรีมแสนอร่อย (akullore) ที่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในดินแดนแห่งนี้อย่างแน่นอน!

ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน



ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนบนเรือสำราญมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับ ด้วยพื้นที่กว้างขวางที่มีบริเวณนั่งเล่นที่สะดวกสบาย ระเบียงส่วนตัว รวมถึงเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องนอนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมตู้เสื้อผ้าเดินได้ที่มีเซฟส่วนตัว และทีวีจอแบนที่สามารถใช้งานอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมด้วยเครื่องดื่มและตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดบันทึกส่วนตัว โต๊ะแต่งตัว ห้องน้ำที่กว้างขวางมีส่วนที่แยกอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ เนื้อผ้าชั้นดีของเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ รวมทั้งเครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V โดยเฉพาะ ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนยังมาพร้อมกับหน้าต่างขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณสามารถชมวิวทะเลได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสี่ท่าน และโซลาริยมที่เป็นกระจกซึ่งมีอ่างและเตียงนอน ส่วนห้องน้ำจัดเต็มด้วยอ่างน้ำวน และห้องน้ำสำหรับแขก พร้อมห้องนอนสองห้อง และโซฟาผลิตที่สามารถปรับเปลี่ยนได้สำหรับอีกหนึ่งท่าน มีพานทรีที่มีบาร์เปียก และทีวีจอแบนอีกสองเครื่อง พร้อมบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี ให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างไม่สะดุด


วิลล่า Wintergarden บนเรือสำราญมอบประสบการณ์ที่หรูหรากับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและระเบียงส่วนตัว สามารถเลือกเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่สำหรับการนอนหลับอันแสนสบาย ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบกว้างขวางพร้อมกับตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีหน้าจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีทั้งเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มมากมาย โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดหมายที่ปรับแต่งได้ โต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำที่กว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก ส่วนเสริมด้วยชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V สำหรับวิลล่า Wintergarden มาพร้อมกับหน้าต่างขนาดใหญ่ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม การรับประทานอาหารสำหรับสี่คน ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก โซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับแขกเพิ่มเติม ห้องครัวขนาดเล็กพร้อมบาร์เปียก ห้องกระจกที่มีอ่างและเตียงนอนกลางวัน พร้อมตู้เสื้อผ้าสองใบและโทรทัศน์หน้าจอแบนสองเครื่อง รวมทั้งบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี ที่สร้างความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับการเข้าพักของท่านอย่างแท้จริง

ซิกเนเจอร์สวีทบนเรือสำราญมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว เตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบโต้ตอบที่มีเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม สถานที่ทำงานที่มีสเตชันเนอรีส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดกว้างพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกออกจากกัน เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ พร้อมทั้งไดร์เป่าผม รวมถึงเต้ารับไฟฟ้า 110/220V สำหรับการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ ซิกเนเจอร์สวีทยังมีวิวมหาสมุทรที่กว้างขวาง หน้าต่างหันไปทางด้านหน้า ที่นั่งรับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน ห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องเก็บของพร้อมบาร์เปียก ทีวีจอแบนสองเครื่อง และบริการอินเทอร์เน็ต/Wi-Fi ฟรี เพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับผู้เข้าพักอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาการเดินทางบนเรือของคุณ.

เจ้าของสวีทบนเรือสำราญได้แก่พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัวและเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องโถงขนาดกว้างมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินที่มาพร้อมเซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกชม บาร์เต็มรูปแบบพร้อมตู้เย็น โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก ชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมอบวิวทะเลกว้างขวางจากหน้าต่างที่หันหน้าไปข้างหน้า มีพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับ 4-6 ท่าน ห้องน้ำพร้อมอ่างจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องเก็บของพร้อมบาร์ และทีวีจอแบน 2 เครื่อง พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราอย่างแท้จริงบนเรือสำราญนี้

เพนท์เฮาส์สปาสวีทเป็นห้องพักที่มอบความสะดวกสบายอย่างแท้จริง โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง และระเบียงส่วนตัวเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องนอนประกอบด้วยเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมกับตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in และตู้เซฟส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ให้บริการเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมมาอย่างครบครัน โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษ stationery ส่วนตัว และโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำ ฟองน้ำ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และเต้ารับไฟ 110/220V ระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน เพนท์เฮาส์สปาสวีทยังมีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ถึง 4 คน ห้องนอนที่แยกต่างหาก ประตูแก้วที่เปิดสู่ระเบียง และทีวีจอแบนอีกสองเครื่อง รวมถึงห้องน้ำที่กว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ ซึ่งทุกอย่างนี้ทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินและความหรูหราในทุกช่วงเวลา

เพนท์เฮาส์สวีทในเรือสำราญทุกห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมประตูบานกระจกที่นำไปสู่ระเบียงส่วนตัว มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ขนาดมาตรฐาน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้างขวางที่มีตู้นิรภัยส่วนตัวและโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องสำหรับดูหนังและฟังเพลง นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน โต๊ะเขียนหนังสือที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว และโต๊ะแต่งหน้าที่สะดวกสบาย ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมชุดเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ แชมพู และเต้าเสียบไฟฟ้า 110/220V เพื่อความสะดวกในการใช้งาน สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างหรูหราในเพนท์เฮาส์สวีทที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น

เพนท์เฮาส์สวีทการันตี มีกระจกรายล้อมขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร (436 ตารางฟุต) พร้อมระเบียงขนาด 9 ตารางเมตร (98 ตารางฟุต) สำหรับการพักผ่อนที่หรูหรา โดยที่พักประเภทนี้รับประกันว่าท่านจะได้พักในห้องสวีทที่มีระดับสูงกว่าหรือเทียบเท่ากับหมวดหมู่ที่เลือกไว้ โดยทีมงานจะทำการคัดสรรห้องสวีทและแจ้งให้ท่านทราบก่อนการเดินทาง ภายในเพนท์เฮาส์สวีท จะมาพร้อมกับพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่สองถึงสี่คน มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน พร้อมประตูกระจกเชื่อมต่อไปยังระเบียง ทั้งยังมีโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องและบาร์ที่มีเครื่องดื่มให้บริการอย่างเต็มที่ ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ และพื้นที่เคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ ทำให้เป็นที่พักที่เหมาะสำหรับการสร้างความทรงจำที่หรูหราและมีระดับในทุกการเดินทางของท่าน

ห้องสวีทระเบียงทุกห้องมีหน้าต่างยาวเต็มความยาวและประตูแก้วออกไปยังระเบียงส่วนตัว ที่พักมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เตียงขนาดควีนไซส์หรือนอนแยกเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน ตู้เสื้อผ้าสำหรับเดินเข้าไปได้ โทรทัศน์จอแบนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์แอคทีฟพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์ที่จัดเตรียมอย่างครบครันและตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำกว้างขวางที่แยกส่วนอ่างจากุซซี่และฝักบัว สัมผัสประสบการณ์ห้องพักที่หรูหราและสะดวกสบายในห้องสวีทระเบียงของเรา ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำอย่างแท้จริง

การรับประกันระเบียงของเราเป็นห้องสวีทที่โดดเด่นซึ่งมาพร้อมกับหน้าต่างบานใหญ่และประตูบานกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนั่งเล่นมีความสะดวกสบาย พร้อมทั้งเตียงคิงไซส์หรือเตียงคู่ขนาดทวิน และโต๊ะอาหารที่สามารถนั่งได้สองคน สำคัญคือมี ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟซึ่งมีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกสรร บาร์และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม และโต๊ะเครื่องแป้ง ที่มาพร้อมกับห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำแยกต่างหากและฝักบัว ห้องสวีทนี้มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม พร้อมการรับประกันว่าจะได้ห้องในประเภทที่เลือกหรือสูงกว่า โดยเราจะทำการเลือกตำแหน่งและห้องสวีทที่เฉพาะเจาะจงให้คุณและจะแจ้งล่วงหน้าก่อนการเดินทาง.

ห้องสวีทวิวทะเลทุกห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ที่มอบวิวทะเลอันงดงาม พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย มีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่สองเตียง และมีโต๊ะอาหารสำหรับสองคน ห้องเสื้อผ้ามีขนาดกว้างขวาง และมีอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย เช่น โทรทัศน์จอแบนแบบมีอินเตอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่พร้อมบริการอย่างครบครัน มีโต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกส่วนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ ห้องมีขนาดประมาณ 295 ตารางฟุต (28 ตารางเมตร) เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างมีสไตล์ในทุกๆ วันของการเดินทางของคุณ

ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวได้รับการออกแบบเพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราให้แก่ผู้เข้าพัก ด้วยพื้นที่ประมาณ 295 ตารางฟุต (28 ตารางเมตร) ห้องนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวทะเลอันสวยงาม รวมทั้งบริเวณนั่งเล่นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องอาหารขนาดพอดีสำหรับสองท่าน และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถใช้งานแบบอินเทอร์แอคทีฟ พร้อมมิวสิคและหนังให้เลือกชม สปาและพื้นที่อาบน้ำที่กว้างมีทั้งอ่างอาบน้ำและฝักบัวเพื่อความสะดวกสบาย ห้องนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่เติมเต็มไว้พร้อมทุกความต้องการ และโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อการดูแลสุขภาพความงามของผู้เข้าพัก ยิ่งไปกว่านั้น หากเลือกแพ็คเกจ Guaranteed Suite ผู้เข้าพักจะได้รับการจัดหาสถานที่และห้องพักที่เจาะจงก่อนการออกเดินทางโดยมีการรับประกันว่าจะได้ห้องในหมวดหมู่ที่เลือกหรือสูงกว่า

การรับประกันห้องชุดเป็นห้องพักที่มีความสะดวกสบายและหรูหรา เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมบนเรือสำราญ ห้องนี้มีขนาดกว้างขวาง พร้อมการตกแต่งที่ทันสมัยและมีสไตล์ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว ห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือ ให้คุณเพลิดเพลินไปกับวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงที่นอนสบาย โทรทัศน์จอใหญ่ ตู้เย็น และบริการอื่นๆ ที่จะช่วยให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายเหนือระดับ เดินทางมาพร้อมกับการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความสงบ ต้องการให้ทุกช่วงเวลาในห้องพักของคุณเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพักผ่อนบนเรือสำราญ.