
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Quest
Seabourn


ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ที่ท่าเรือนาฟพลิโอน (Náfplion) ประเทศกรีซ เมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “โอเรีย” หรือ “สวยงาม” เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่โอบล้อมอ่าวอาร์กอส ตัวเมืองเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสถาปัตยกรรมแบบกรีก เวเนเชียน และตุรกี ถนนเล็ก ๆ ที่บางครั้งเปิดให้เดินขึ้นลงเส้นทางที่มีบันไดหิน ล้วนเสริมสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์ในเมืองนี้ หากคุณต้องการสัมผัสความงามของนาฟพลิโอน ควรใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในการสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน คุณอาจพบว่าการใช้เวลาหลายวันหรือสัปดาห์ที่นี่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสำรวจสถานที่โบราณโดยรอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ ปราสาทปาลามิดี (Palamidi) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมือง เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในสมัยเวเนเชียนที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 การขึ้นไปชมวิวจากปราสาทแห่งนี้จะทำให้คุณมีมุมมองที่งดงามของเมืองและทะเลอันสงบ นาฟพลิโอนคือเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

ท่าเรือคาทากอลอน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเพโลพอเนซ ทำหน้าที่เป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์แห่งประวัติศาสตร์ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ด้วยความใกล้ชิดกับโอลิมเปีย เมืองโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการแข่งขันกีฬาโอlympic ครานั้น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่เมื่อเรือสำราญจอดที่นี่ สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา โอลิมเปียซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคาทากอลอนไม่ไกลนัก เป็นที่ตั้งของอัฒจันทร์กีฬาแห่งแรกของโลก เต็มไปด้วยเรื่องราวและตำนานที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของกรีซโบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามรอยเท้าของนักกีฬาโบราณ และชื่นชมซากปรักหักพังของวิหารซุสที่เคยดึงดูดผู้แสวงบุญจากทั่วทุกมุมเมดิเตอร์เรเนียน หากคุณไม่ต้องการเดินทางไปโอลิมเปีย คาทากอลอนก็เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวันสไตล์กรีก ขณะชมชาวประมงที่ก้าวข้ามมาทำงานในทะเล เหมาะสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศที่งดงามและไม่รีบร้อน คาทากอลอน พร้อมมอบทั้งความสงบและประสบการณ์ที่แสนน่าหลงใหล ในการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของกรีซ โดยไม่ต้องมีอะไรให้ต้องรีบเร่ง

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

ซารันด์ (Sarandë) เป็นเมืองชายทะเลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคใต้ของประเทศแอลเบเนีย บนชายฝั่งของทะเลไอออนิอัน ซึ่งสามารถเดินทางมาจากเกาะคอร์ฟูของกรีซได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเรือเฟอร์รี่ เมืองซารันด์ได้ชื่อมาจากอารามคริสต์นิกายแรกซึ่งอุทิศให้กับนักบุญ 40 องค์ ความมหัศจรรย์ของซารันด์นั้นไม่เพียงแต่ในประวัติศาสตร์ แต่ยังรวมไปถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา จากการพัฒนาในช่วงหลังผ่านสถาปัตยกรรมคอมมิวนิสต์ที่เริ่มจะจางหาย มีร้านค้าขนาดเล็กและบาร์มากมายที่เพิ่มเสน่ห์แบบเมดิเตอร์เรเนียนให้กับเมือง ท่าเรือซารันด์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือโบราณของออนเคสมัส (Onchesmos) ขึ้นชื่อในเรื่องอากาศที่อบอุ่นและซากโบราณสถานที่ใกล้เคียงอย่างบูตรินต์ (Butrint) ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างสปริงน้ำตาอีฟ (Blue Eye Spring) ที่มีน้ำใสเป็นประกายอันน่าหลงใหล และใกล้เคียงมีสุสานใต้ดินของโบสถ์นักบุญ 40 ที่เพิ่งค้นพบ เมื่อคุณเยือนซารันด์ อย่าลืมชิมอาหารท้องถิ่น เช่น ชีสเคบับ (shisqubap) และไอศกรีมแสนอร่อย (akullore) ที่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในดินแดนแห่งนี้อย่างแน่นอน!

เนเปิลส์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแคมปาเนียของอิตาลี และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ภูมิประเทศที่งดงามซึ่งมีอ่าวที่ถูกยกย่องว่าอยู่ในทำเลที่สะกดทุกสายตา ตลอดจนภูเขาเอเวอซูสที่มีรูปทรงกรวยสมบูรณ์แบบ เป็นสิ่งดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวได้อย่างน่ามหัศจรรย์ นอกจากทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว เนเปิลส์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระราชวังหลวง, โรงอุปรากรซานคาร์โล, พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ และ ปราสาทนูโวซึ่งมีอายุกว่า 700 ปี สถานที่เหล่านี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงอดีตอันรุ่งเรือง การเดินสำรวจเมืองเนเปิลส์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวาย การเริ่มต้นเดินทางจากที่นี่ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่าง โปมเปอี และเกาะคาปรีซึ่งอยู่ใกล้ ใช้เวลาเพียง 45 นาทีโดยเรือเฟอร์รี่ เนเปิลส์ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นประตูสู่โลกโบราณที่น่าตื่นตาตื่นใจ ช่วยสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริงในระหว่างการเดินทางที่จดจำไม่รู้ลืมในอิตาลี

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง
เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือของอาจักซิโอ (Ajaccio) บนเกาะคอร์ซิกา คุณจะได้สัมผัสกับการหลอมรวมระหว่างประวัติศาสตร์และความงดงามตามธรรมชาติที่อิ่มเอมใจ ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการค้าขายและวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของคอร์ซิกา โดยตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ห่างจากมาร์แซย์ประมาณ 644 กิโลเมตร เมืองที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1492 นี้มีความเกี่ยวพันกับนโปเลียน โบนาปาร์ต ซึ่งเป็นบุตรชายของเมืองที่มีชื่อเสียง บ้านเกิดของเขา ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Maison Bonaparte ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสูบฉีดแรงบันดาลใจให้ผู้มาเยือน ในย่านเมืองเก่า คุณจะพบกับซากความเป็นอาณานิคมเจนัวอันเก่าแก่ ที่ยังคงยืนหยัดอยู่รอบๆ ป้อมปราการและหอคอยที่โดดเด่น เมืองอาจักซิโอได้ชื่อว่าเป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมที่มีทิวทัศน์ที่ร่มรื่นและชายหาดที่งดงาม พร้อมด้วยร้านเช่าเรือ แล่นไปยังท่าเรือ Tino Rossi ที่เป็นที่จอดเรือประมงและเรือใบสำราญที่ส่งความสุขแก่ผู้มาเยือนด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่บริการอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่ สำรวจความหรูหราและเสน่ห์ที่อาจักซิโอ ที่ซึ่งคุณสามารถสัมผัสทั้งความเป็นกระแสสังคมและความงามของธรรมชาติได้ในที่เดียว!

อัลเกโร (Alghero) เมืองชายทะเลอันมีเสน่ห์ในอิตาลี ตั้งอยู่บนชายฝั่งฝั่งตะวันตกของเกาะซาร์ดีเนีย เมืองนี้มีประชากรประมาณ 45,000 คน เต็มไปด้วยบรรยากาศที่โดดเด่นจากวัฒนธรรมสเปน จึงถูกเรียกว่า "บาร์เซโลเนตต้า" (Barcelonetta) หรือ "บาร์เซโลน่าตัวน้อย" เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวอารากอนและชาวคาตาลันในศตวรรษที่ 14 พร้อมกำแพงและหอคอยที่แข็งแกร่ง ปกคลุมด้วยถนนแคบ ๆ ที่มีวิวบ้านสีขาวสวยงาม อัลเกโรยังเป็นที่รู้จักจากงานประดิษฐ์เหล็กดัดที่งดงาม ซึ่งประดับอยู่บนระเบียงและหน้าต่างของบ้านเมือง ท่านจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและภาษาอัลเกรีเซ ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นที่พูดกันในบริเวณนี้ ในการเดินเล่นท่ามกลางตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ คุณจะพบโบสถ์อัลเกโรและปาลาซโซดัลบิสที่สะท้อนถึงความงดงามทางสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ เมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านอาหารที่อร่อยในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งอัลเกโรไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่ารักเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันล้ำค่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาความแปลกใหม่และการผจญภัยในโลกของวัฒนธรรมที่แตกต่าง ต้องไม่พลาดมาเยือนที่นี่!

เมืองมาฮอน (Mahon) เมืองหลวงของเกาะเมนอร์ก้า (Menorca) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์และเป็นที่รู้จักกันดีจากท่าเรือที่ลึกและกว้างใหญ่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทำเลที่ตั้งที่สำคัญ มาฮอนจึงเคยเป็นที่มั่นของหลายประเทศในอดีต และเป็นสถานที่ที่นักสำรวจระดับโลกเคยมาเยือน จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ อุโมงค์เซนต์ร็อค (Arch of Saint Roc) ซึ่งเป็นซากท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองของเมือง มีอาคารสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น สไตล์จอร์เจียน (Georgian) ที่แสดงถึงร่องรอยของการปกครองในอดีต รวมทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก (Neo-Classical), บาร็อค (Baroque) และโรมาเนสก์ (Romanesque) ที่ยังคงสวยงามอยู่ เมืองนี้ไม่เพียงแต่น่าชม แต่ยังเต็มไปด้วยถนนเล็กๆ ที่รอให้คุณค้นพบ และพื้นที่กลางเมืองที่ได้รับการตกแต่งสวยงาม พร้อมร้านกาแฟที่ให้บริการอย่างอบอุ่น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศคือ ก่อนหรือหลังเวลาซีเอสตา (siesta) ที่ร้านค้าจะหยุดทำการในช่วงบ่าย สัมผัสมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาที่มาฮอน นอกเหนือจากการเยี่ยมชมเทือกเขาหรือชายหาดงดงาม ที่รอคอยให้คุณมาค้นพบความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของสเปนในแบบที่คุณไม่เคยลืม

อิบิซา (Ibiza) เกาะสุดหรูแห่งประเทศสเปน โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานทั้งความหรูหราของโลกสมัยใหม่กับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อกเหนือท่าเรือคือเมือง Dalt Vila ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1999 แวดล้อมไปด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงอารยธรรมโบราณ ภายในยังมีวิหารโกธิคที่สวยงามสะดุดตา การเดินเล่นใน Sa Penya คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ถนนหินปูนที่แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของเมือง เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งสินค้าแนวสร้างสรรค์ ลิ้มลองขนมหวานท้องถิ่น และค้นพบรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งชิลล์ในคาเฟ่ริมทะเล หรือเพลิดเพลินกับคืนเร้าใจในคลับชื่อดัง ความหลากหลายนี้สร้างเสน่ห์ให้กับอิบิซา การเยือนอิบิซาไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสกับความบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นการเดินทางสู่อดีตที่ทำให้คุณค้นพบความงามและวัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้ในทุกมุมมอง เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในหัวใจของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน!

คาร์ตาเฆนา ตั้งอยู่ในภูมิภาคมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นท่าเรือสำคัญของกองทัพเรือสเปน จากอ่าวที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่พักพิงของเรือสินค้าต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ เมืองนี้ก่อตั้งโดยคาร์เธจในปี 223 ก่อนคริสต์ศักราช และได้รับชื่อว่า "การ์ตาโก โนวา" นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่เฟื่องฟู จนกระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าของไบเซนไทน์อีกด้วย ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆนายังคงมีความสำคัญด้านการทหาร ตั้งแต่สมัยของพระเจ้าเฟลิเป II ซึ่งได้สร้างกำแพงป้องกันเมืองเพื่อคุ้มครองท่าเรือ จนถึงยุคราชวงศ์บูร์บอนในศตวรรษที่ 18 เมืองนี้ยังคงมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโบราณสถานที่ฟื้นฟู เช่น โรงละครโรมันที่ได้รับการเปิดเผยและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1988 เมื่อคุณมีเวลาว่าง อย่าลืมสัมผัสเสน่ห์ของคาร์ตาเฆนาผ่านการล่องเรือรอบท่าเรือที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งให้บริการหลายครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ความงดงามของเมืองนี้จะทำให้คุณหลงรักและฝันถึงการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

มอทริล (Motril) เมืองใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งคอสต้าโทรปิคัล (Costa Tropical) ในภูมิภาคอันดาลูเซียของสเปน ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของย่านนี้ เมืองมอทริลตั้งอยู่ห่างจากมาลากาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยอยู่ระหว่างทะเลและเทือกเขาเซียราเนบาดา (Sierra Nevada) อันยิ่งใหญ่ เมืองนี้ไม่เพียงแต่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น ท่าเรือที่คึกคักในด้านการค้า การทำประมง และการพักผ่อน แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งผลิตผลที่รู้จักกันดี ได้แก่ อ้อย ส้ม เลมอน แอปเปิ้ล อะโวคาโด มะม่วง และกล้วย ขึ้นชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีสภาพอากาศแบบซับทรอปิคัล นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ Nuestra Señora de la Cabeza ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมือง และอีกทั้งยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินชมชายหาดที่งดงามได้อย่างสะดวก ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง มอทริลจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสำรวจเสน่ห์ของชายฝั่งอันดาลูเซีย!
เซาตา (Ceuta) เมืองเอกเทศของสเปน ตั้งอยู่ที่ฝั่งมอร็อกโก ติดกับช่องแคบยิบรอลตาร์ เพียง 12 ไมล์จากแผ่นดินใหญ่ของสเปน นับว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีประวัติศาสตร์อันพร้อมพรัก ตั้งแต่อดีตเป็นอาณานิคมของคาร์เธจ จนถึงปัจจุบัน หลังจากที่ถูกครอบครองโดยผู้ปกครองหลายชาติ เช่น โรมัน วานดัล ไบเซนไทน์ และอาหรับ เมื่อสเปนเข้ามาครอบครองในปี 1580 เมืองนี้จึงมีชื่อว่า เซาตา มาจนถึงวันนี้ เซาตา มีเนื้อที่เพียง 10 ตารางไมล์ แต่ถูกขนาบข้างด้วยกำแพงเมืองขนาดใหญ่ในสมัยศตวรรษที่ 14 และตั้งอยู่บนเนินเขามอนเตฮาโช ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของเสาหินเฮอคิวลีสอันเลื่องชื่อ เมืองแห่งนี้เป็นการผสมผสานของวัฒนธรรมสเปนและแอฟริกัน อันทำให้มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เซาตานับว่าเป็นภูมิภาคที่มีเงื่อนไขภาษีต่ำ ทำให้เป็นแหล่งช็อปปิ้งของสินค้าหัตถกรรม หนัง เซรามิก และงานปัก สร้างประสบการณ์การเดินทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มองหาความแตกต่างในบรรยากาศที่น่าค้นหาและเล่าเรื่องราวสวยงามในอดีต

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุโรป ท่าเรือฟุนชาลที่ตั้งอยู่ในมอริกาขอแนะนำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะมาเดราที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เมืองฟุนชาลเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส João Gonçalves Zarco ในปี 1419 และตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโคปเรซัลในนามของการค้า โดยเกาะนี้ได้รับชื่อว่า 'มาเดรา' ซึ่งแปลว่า 'ไม้' ในภาษาโปรตุเกส นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนินเขาที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นไปจนถึงหมู่บ้านที่สวยงามและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ความงามตามธรรมชาติของเกาะทำให้มันได้รับฉายาอันต่าง ๆ เช่น 'สวนลอยฟ้าบนมหาสมุทรแอตแลนติก' และ 'เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด' การเดินทางสำรวจเกาะนี้ถือเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ พร้อมกิจกรรมมากมายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของที่นี่ ฟุนชาลไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูที่คุณจะได้สัมผัสกับความงามและอารยธรรมที่หลากหลายของโปรตุเกสอย่างแท้จริง

ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!



ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนบนเรือสำราญมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับ ด้วยพื้นที่กว้างขวางที่มีบริเวณนั่งเล่นที่สะดวกสบาย ระเบียงส่วนตัว รวมถึงเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องนอนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมตู้เสื้อผ้าเดินได้ที่มีเซฟส่วนตัว และทีวีจอแบนที่สามารถใช้งานอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมด้วยเครื่องดื่มและตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดบันทึกส่วนตัว โต๊ะแต่งตัว ห้องน้ำที่กว้างขวางมีส่วนที่แยกอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ เนื้อผ้าชั้นดีของเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ รวมทั้งเครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V โดยเฉพาะ ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนยังมาพร้อมกับหน้าต่างขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณสามารถชมวิวทะเลได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสี่ท่าน และโซลาริยมที่เป็นกระจกซึ่งมีอ่างและเตียงนอน ส่วนห้องน้ำจัดเต็มด้วยอ่างน้ำวน และห้องน้ำสำหรับแขก พร้อมห้องนอนสองห้อง และโซฟาผลิตที่สามารถปรับเปลี่ยนได้สำหรับอีกหนึ่งท่าน มีพานทรีที่มีบาร์เปียก และทีวีจอแบนอีกสองเครื่อง พร้อมบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี ให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างไม่สะดุด


วิลล่า Wintergarden บนเรือสำราญมอบประสบการณ์ที่หรูหรากับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและระเบียงส่วนตัว สามารถเลือกเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่สำหรับการนอนหลับอันแสนสบาย ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบกว้างขวางพร้อมกับตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีหน้าจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีทั้งเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มมากมาย โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดหมายที่ปรับแต่งได้ โต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำที่กว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก ส่วนเสริมด้วยชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V สำหรับวิลล่า Wintergarden มาพร้อมกับหน้าต่างขนาดใหญ่ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม การรับประทานอาหารสำหรับสี่คน ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก โซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับแขกเพิ่มเติม ห้องครัวขนาดเล็กพร้อมบาร์เปียก ห้องกระจกที่มีอ่างและเตียงนอนกลางวัน พร้อมตู้เสื้อผ้าสองใบและโทรทัศน์หน้าจอแบนสองเครื่อง รวมทั้งบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี ที่สร้างความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับการเข้าพักของท่านอย่างแท้จริง

ซิกเนเจอร์สวีทบนเรือสำราญมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว เตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบโต้ตอบที่มีเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม สถานที่ทำงานที่มีสเตชันเนอรีส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดกว้างพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกออกจากกัน เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ พร้อมทั้งไดร์เป่าผม รวมถึงเต้ารับไฟฟ้า 110/220V สำหรับการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ ซิกเนเจอร์สวีทยังมีวิวมหาสมุทรที่กว้างขวาง หน้าต่างหันไปทางด้านหน้า ที่นั่งรับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน ห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องเก็บของพร้อมบาร์เปียก ทีวีจอแบนสองเครื่อง และบริการอินเทอร์เน็ต/Wi-Fi ฟรี เพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับผู้เข้าพักอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาการเดินทางบนเรือของคุณ.

เจ้าของสวีทบนเรือสำราญได้แก่พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัวและเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องโถงขนาดกว้างมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินที่มาพร้อมเซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกชม บาร์เต็มรูปแบบพร้อมตู้เย็น โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก ชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมอบวิวทะเลกว้างขวางจากหน้าต่างที่หันหน้าไปข้างหน้า มีพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับ 4-6 ท่าน ห้องน้ำพร้อมอ่างจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องเก็บของพร้อมบาร์ และทีวีจอแบน 2 เครื่อง พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราอย่างแท้จริงบนเรือสำราญนี้

เพนท์เฮาส์สปาสวีทเป็นห้องพักที่มอบความสะดวกสบายอย่างแท้จริง โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง และระเบียงส่วนตัวเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องนอนประกอบด้วยเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมกับตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in และตู้เซฟส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ให้บริการเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมมาอย่างครบครัน โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษ stationery ส่วนตัว และโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำ ฟองน้ำ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และเต้ารับไฟ 110/220V ระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน เพนท์เฮาส์สปาสวีทยังมีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ถึง 4 คน ห้องนอนที่แยกต่างหาก ประตูแก้วที่เปิดสู่ระเบียง และทีวีจอแบนอีกสองเครื่อง รวมถึงห้องน้ำที่กว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ ซึ่งทุกอย่างนี้ทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินและความหรูหราในทุกช่วงเวลา

เพนท์เฮาส์สวีทในเรือสำราญทุกห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมประตูบานกระจกที่นำไปสู่ระเบียงส่วนตัว มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ขนาดมาตรฐาน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้างขวางที่มีตู้นิรภัยส่วนตัวและโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องสำหรับดูหนังและฟังเพลง นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน โต๊ะเขียนหนังสือที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว และโต๊ะแต่งหน้าที่สะดวกสบาย ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมชุดเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ แชมพู และเต้าเสียบไฟฟ้า 110/220V เพื่อความสะดวกในการใช้งาน สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างหรูหราในเพนท์เฮาส์สวีทที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น

เพนท์เฮาส์สวีทการันตี มีกระจกรายล้อมขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร (436 ตารางฟุต) พร้อมระเบียงขนาด 9 ตารางเมตร (98 ตารางฟุต) สำหรับการพักผ่อนที่หรูหรา โดยที่พักประเภทนี้รับประกันว่าท่านจะได้พักในห้องสวีทที่มีระดับสูงกว่าหรือเทียบเท่ากับหมวดหมู่ที่เลือกไว้ โดยทีมงานจะทำการคัดสรรห้องสวีทและแจ้งให้ท่านทราบก่อนการเดินทาง ภายในเพนท์เฮาส์สวีท จะมาพร้อมกับพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่สองถึงสี่คน มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน พร้อมประตูกระจกเชื่อมต่อไปยังระเบียง ทั้งยังมีโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องและบาร์ที่มีเครื่องดื่มให้บริการอย่างเต็มที่ ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ และพื้นที่เคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ ทำให้เป็นที่พักที่เหมาะสำหรับการสร้างความทรงจำที่หรูหราและมีระดับในทุกการเดินทางของท่าน

ห้องสวีทระเบียงทุกห้องมีหน้าต่างยาวเต็มความยาวและประตูแก้วออกไปยังระเบียงส่วนตัว ที่พักมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เตียงขนาดควีนไซส์หรือนอนแยกเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน ตู้เสื้อผ้าสำหรับเดินเข้าไปได้ โทรทัศน์จอแบนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์แอคทีฟพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์ที่จัดเตรียมอย่างครบครันและตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำกว้างขวางที่แยกส่วนอ่างจากุซซี่และฝักบัว สัมผัสประสบการณ์ห้องพักที่หรูหราและสะดวกสบายในห้องสวีทระเบียงของเรา ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำอย่างแท้จริง

การรับประกันระเบียงของเราเป็นห้องสวีทที่โดดเด่นซึ่งมาพร้อมกับหน้าต่างบานใหญ่และประตูบานกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนั่งเล่นมีความสะดวกสบาย พร้อมทั้งเตียงคิงไซส์หรือเตียงคู่ขนาดทวิน และโต๊ะอาหารที่สามารถนั่งได้สองคน สำคัญคือมี ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟซึ่งมีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกสรร บาร์และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม และโต๊ะเครื่องแป้ง ที่มาพร้อมกับห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำแยกต่างหากและฝักบัว ห้องสวีทนี้มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม พร้อมการรับประกันว่าจะได้ห้องในประเภทที่เลือกหรือสูงกว่า โดยเราจะทำการเลือกตำแหน่งและห้องสวีทที่เฉพาะเจาะจงให้คุณและจะแจ้งล่วงหน้าก่อนการเดินทาง.

ห้องสวีทวิวทะเลทุกห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ที่มอบวิวทะเลอันงดงาม พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย มีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่สองเตียง และมีโต๊ะอาหารสำหรับสองคน ห้องเสื้อผ้ามีขนาดกว้างขวาง และมีอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย เช่น โทรทัศน์จอแบนแบบมีอินเตอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่พร้อมบริการอย่างครบครัน มีโต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกส่วนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ ห้องมีขนาดประมาณ 295 ตารางฟุต (28 ตารางเมตร) เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างมีสไตล์ในทุกๆ วันของการเดินทางของคุณ

ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวได้รับการออกแบบเพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราให้แก่ผู้เข้าพัก ด้วยพื้นที่ประมาณ 295 ตารางฟุต (28 ตารางเมตร) ห้องนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวทะเลอันสวยงาม รวมทั้งบริเวณนั่งเล่นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องอาหารขนาดพอดีสำหรับสองท่าน และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถใช้งานแบบอินเทอร์แอคทีฟ พร้อมมิวสิคและหนังให้เลือกชม สปาและพื้นที่อาบน้ำที่กว้างมีทั้งอ่างอาบน้ำและฝักบัวเพื่อความสะดวกสบาย ห้องนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่เติมเต็มไว้พร้อมทุกความต้องการ และโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อการดูแลสุขภาพความงามของผู้เข้าพัก ยิ่งไปกว่านั้น หากเลือกแพ็คเกจ Guaranteed Suite ผู้เข้าพักจะได้รับการจัดหาสถานที่และห้องพักที่เจาะจงก่อนการออกเดินทางโดยมีการรับประกันว่าจะได้ห้องในหมวดหมู่ที่เลือกหรือสูงกว่า

การรับประกันห้องชุดเป็นห้องพักที่มีความสะดวกสบายและหรูหรา เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมบนเรือสำราญ ห้องนี้มีขนาดกว้างขวาง พร้อมการตกแต่งที่ทันสมัยและมีสไตล์ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว ห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือ ให้คุณเพลิดเพลินไปกับวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงที่นอนสบาย โทรทัศน์จอใหญ่ ตู้เย็น และบริการอื่นๆ ที่จะช่วยให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายเหนือระดับ เดินทางมาพร้อมกับการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความสงบ ต้องการให้ทุกช่วงเวลาในห้องพักของคุณเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพักผ่อนบนเรือสำราญ.