
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Quest
Seabourn

ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

ท่าเรือ Cowes บนเกาะ Isle of Wight เป็นสถานที่ที่เสมือนหนึ่งเป็นอังกฤษในรูปแบบย่อ สถานที่แห่งนี้มีชายหาดสวยงามและหมู่บ้านที่มีบ้านทรงโดมรอบกัก โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมที่ทุกคนจะมาร่วมงาน Cowes Week งานแข่งขันเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหราชอาณาจักรที่เปรียบเสมือน "Ascot ของนักเดินเรือ" และเต็มไปด้วยสีสันจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เกาะ Isle of Wight เป็นที่รู้จักในฐานะที่ประทับฤดูร้อนของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย และเป็นที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ที่น่าประทับใจ เช่น Osborne House ซึ่งมีการออกแบบอย่างงดงามโดยเจ้าชายอัลเบิร์ต สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ แหลม Needles ที่เป็นที่ตั้งของเสาหินปูนสูงตระหง่าน และหมู่บ้าน Shanklin ที่มีหน้าผาสีทอง ที่ Cowes ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งจากสินค้ามารีน แว่นตายอช และของที่ระลึกที่ทำจากทรายสีสันสดใส ร้านอาหารที่แนะนำคือ Amadeus Restaurant ซึ่งเสิร์ฟอาหารทะเลและเมนูอังกฤษยอดนิยม สัมผัสความงดงามของเกาะ Isle of Wight และสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในทุกย่างก้าว เมื่อคุณมาท่าเรือ Cowes ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันสวยงาม

ฟาวี (Fowey) เมืองท่าสไตล์อังกฤษที่ตั้งอยู่ในปากแม่น้ำท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการนำเข้าดินเหนียวและเป็นจุดนัดพบของผู้ที่หลงใหลในกีฬาทางทะเล ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับดาราและคนมีชื่อเสียงที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน ซึ่งคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศอันสงบและอบอุ่นจากร้านอาหารและที่พักที่มีให้เลือกหลากหลาย มาชมความงามในช่วง Regatta Week ณ กลางถึงปลายเดือนสิงหาคม หรืองาน Fowey Festival of Words and Music ในกลางเดือนพฤษภาคม ที่จะช่วยเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้ที่มาเยือน ฟาวีเชื่อมต่อกับเมืองอื่น ๆ ผ่านบริการเรือข้ามฟาก Bodinnick และ Polruan ที่รองรับทั้งรถยนต์และผู้โดยสาร อีกทั้งหากคุณเดินทางไปทางตะวันตกประมาณไม่กี่ไมล์ จะพบกับสวนที่แตกต่างกันสองแห่ง ได้แก่ Eden Project สวนพฤกษศาสตร์สุดล้ำจากทั่วโลก และ Lost Gardens of Heligan ที่ได้รับการฟื้นฟูให้มีชีวิตชีวาในยุควิกตอเรีย ช่วยเปิดประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อคุณมาเยือนฟาวี คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่เหมือนใครและสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางอีกครั้ง.

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือแบนทรี (Bantry) ในไอร์แลนด์อาจเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบ ท่าประมงที่น่าหลงใหลนี้ตั้งอยู่ในเวสต์โคร์ค ที่มาพร้อมกับวิวทิวทัศน์ทะเลที่งดงามและภูเขาที่ตั้งตระหง่าน ศูนย์กลางของชีวิตท้องถิ่นและวัฒนธรรม อัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน เมื่อย่างเท้าเข้าสู่แบนทรี คุณจะพบกับบ้านเรือนสไตล์เก่าแก่และร้านค้าเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งนำเสนอสินค้าท้องถิ่นและงานฝีมือ นอกจากนั้นอ่าวแบนทรียังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย เพื่อสำรวจหมู่เกาะเบลลิเนล (Bere Islands) ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่าและปั่นจักรยาน โดยมีทัศนียภาพที่งดงามรายล้อม การมาเยือนแบนทรีไม่สมบูรณ์หากไม่ได้แวะเยี่ยมชมบ้านกลางน้ำ (Bantry House) ที่เป็นที่ตั้งของสวนอังกฤษ และวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจจากยอดเขา ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติก ท่าเรือแบนทรีไม่ได้เป็นเพียงจุดจอดเรือสำราญ แต่มันคือประตูสู่การค้นพบไอร์แลนด์ที่แท้จริง สัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำและเติมเต็มเรือหรูหราของคุณให้เต็มไปด้วยความสุขและแรงบันดาลใจในการเดินทางอีกครั้งหนึ่ง
ท่าเรือคินเซล (Kinsale) อยู่ในมณฑลโกว์ลเวย์ ประเทศไอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในท่าเรือที่งดงามที่สุดในชายฝั่งตะวันตก แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และวัฒนธรรมที่ผสมผสานอย่างกลมกลืน คินเซลมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 โดดเด่นด้วยความมีเสน่ห์ของบ้านเรือนสีสันสดใสเรียงรายตามถนนเล็ก ๆ บรรยากาศแห่งความโรแมนติกทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลบหนีความตึงเครียดจากชีวิตประจำวัน เมื่อนักท่องเที่ยวแวะมาที่คินเซล ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม “คฤหาสน์ช็อท” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ทางการทหาร หรือจะสัมผัสกับอาหารทะเลสดใหม่จากร้านอาหารชื่อดังที่ตั้งอยู่ริมทะเล ซึ่งมีเมนูพิเศษที่ปรุงด้วยความรักและวัตถุดิบจากท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินชมวิวที่สวยงามที่นำไปสู่เนินเขาของคาบสมุทร สัมผัสกับลมทะเลที่พัดผ่านและเสียงคลื่นที่กระทบฝั่ง ลิ้มรสความเงียบสงบและทะเลใสที่ให้คุณได้พักผ่อนและชาร์จพลังให้กับชีวิต แค่ได้อยู่ที่คินเซล ก็เหมือนได้สัมผัสกับความงดงามของโลกนี้แล้ว อย่าลืมบันทึกภาพความทรงจำที่สวยงามเพื่อเล่าขานเรื่องราวในอนาคตค่ะ

ฮอลีเฮด (Holyhead) เมืองท่าแห่งประวัติศาสตร์ในประเทศเวลส์ เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางที่ต้องการสำรวจประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงาม เมืองนี้เคยเป็นฐานป้องกันทางเหนือจากการจู่โจมของผู้บุกรุกชาวไอริช และในปัจจุบันมีชื่อเสียงในฐานะท่าเรือเฟอร์รี่ออกสู่ประเทศไอร์แลนด์ ด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาบริเวณท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเคลื่อนไหวของการคมนาคมที่คึกคัก แม้ฮอลีเฮดจะมีประชากรเพียงเล็กน้อย แต่กลับเต็มไปด้วยซากโบราณสถานที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานที่รอให้ค้นพบ คุณสามารถสำรวจสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ ยังมีเส้นทางเดินป่าที่เป็นมิตรกับนักเดินทาง ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม ลมทะเลและวิวชายฝั่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคน เต็มไปด้วยความสุขที่ทุกคนจะประทับใจ ฮอลีเฮด จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการผจญภัยและสำรวจความงามของประเทศเวลส์

เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

โอบาน (Oban) มนต์ขลังแห่งชายฝั่งสกอตแลนด์ เสมือนชาร์จชีวิตใหม่ให้กับนักเดินทาง ด้วยความหมายแปลว่า "อ่าวเล็ก" ในภาษาเกลิค เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 8,500 คนนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเขตเวสต์ไฮแลนด์ และเป็น "Gateway to the Isles" ที่มอบทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขา ทะเลสาบ และหมู่เกาะที่ดึงดูดศิลปิน และนักเขียนจากทั่วทุกมุมโลกมายาวนาน เมื่อคุณเดินทางมาที่โอบาน คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะปราสาทดุนอลลี (Dunollie Castle) ที่มีอายุราว 600 ปี เป็นดั่งยามพิทักษ์ของอ่าวแห่งนี้ โอบานไม่เพียงแต่มีฉากหลังที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางไปสู่เกาะมัลล์ (Mull), คอลล์ (Coll), และไอเลย์ (Islay) สถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เมื่อราชินีวิคตอเรียเสด็จมาเยือนและให้ความเห็นว่าเป็น "หนึ่งในจุดที่งดงามที่สุดที่เราเคยพบ" ทำให้โอบานกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่มีวันเลือนลับ คุณสามารถเดินเที่ยวชมศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ หรือจะขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปสำรวจเกาะต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่หลากหลายและน่าหลงใหล

เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า ณ เมืองสตอร์โนเวย์ เกาะลูอิส คุณจะได้พบกับมิติใหม่ของการเดินทางซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของสก็อตแลนด์ เกาะลูอิสและแฮริส เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะฮีบรีดีนอก ทำให้เมืองสตอร์โนเวย์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ในเมืองนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชิมอาหารท้องถิ่นที่ร้านอาหารคุณภาพสูง รวมทั้งเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะ An Lanntair ที่มีนิทรรศการทั้งศิลปะร่วมสมัยและดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีวิหารเซนต์คลีเมนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีโครงสร้างสวยงามที่สุดในเขตนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจประวัติศาสตร์ ที่นี่มีแหล่งโบราณคดีที่น่าทึ่ง เช่น กลุ่มหินคาลานิสที่สร้างขึ้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงหอคอย Dun Carloway ที่มีอายุประมาณ 2,000 ปี สัมผัสกับความงามและวัฒนธรรมของสตอร์โนเวย์ในขณะที่สำรวจธรรมชาติสุดอลังการและประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันของเกาะนี้ อย่าลืมแวะเยี่ยมชมร้านทวีตฮาร์ริสที่เผยแพร่สินค้าทอมือสุดพิเศษและของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคุณในเกาะลูอิสแห่งนี้

ยินดีต้อนรับสู่เมืองเคิร์ควอลล์ ซึ่งเป็นเมืองหลักของหมู่เกาะออร์คนีย์ที่สกอตแลนด์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวประวัติศาสตร์ในทุกซอกมุม ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวและบรรยากาศที่คึกคัก ความประทับใจแรกเมื่อเข้าเมืองคือโบสถ์คันทาร์เบอรี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์มากมายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของออร์คนีย์ การเดินเล่นในย่านเก่าแก่ของเคิร์ควอลล์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามแห่งทัศนียภาพที่ทอดยาวไปยังท่าเรือและท้องทะเลที่สดใส เรือสำราญที่แวะมาที่นี่จะมอบโอกาสให้คุณได้สำรวจร้านค้าและคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมด้วยสิ่งของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ นอกจากเคิร์ควอลล์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่สวยงามและแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียง ผู้เดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ในขณะที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวออร์คนีย์ สัมผัสความมหัศจรรย์นี้ในครั้งต่อไปเมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่เคิร์ควอลล์และคอยต้อนรับความฝันแห่งการเดินทาง!

ดันดี หรือ Dundee เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์ในสกอตแลนด์ ที่ไม่เพียงแต่นำเสนอทัศนียภาพสวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำฟอร์ท ทางตอนเหนือของอังกฤษ แห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งการสร้างสรรค์” และเป็นศูนย์กลางการศึกษาอันมีชื่อเสียงในระดับโลก เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่าที่ดันดี คุณจะมีโอกาสได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น มหาวิทยาลัยดันดีซึ่งมีสถาปัตยกรรมสวยงาม หรือพิพิธภัณฑ์ V&A Dundee ที่เป็นศูนย์กลางด้านการออกแบบที่โดดเด่น ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Kengo Kuma นอกจากนี้ ดันดียังมีบริเวณชายทะเลที่เหมาะสมสำหรับการเดินเล่นและชมวิวทะเลเหนือ จนถึงทางเดินที่งดงามริมแม่น้ำฟอร์ท ที่คุณสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศสดชื่นและอากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของทะเล นอกจากนี้ คุณยังสามารถลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่จากร้านอาหารท้องถิ่น ที่นำเสนอเมนูอร่อยแบบสกอตแลนด์ ดันดีจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำในสกอตแลนด์ เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมและความงดงามของเมืองนี้ในช่วงเวลาที่คุณได้เยี่ยมชม

เมื่อกล่าวถึงการเดินทางสำรวจสกอตแลนด์ ท่าเรือ Leith เป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ตั้งอยู่บนริมแม่น้ำ Forth ในเอดินบะระ ท่าเรือนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเคยเป็นทางเข้าออกหลักในการค้า อันเป็นจุดรวมของวัฒนธรรมและศิลปะ ที่จะทำให้คุณประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มาถึง Leith ไม่เพียงแต่มีท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นศูนย์กลางที่มีจุดหมายท่องเที่ยวมากมาย เช่น มหาวิทยาลัยฮัดเดอร์ฟิลด์และพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย ภายในยังมีร้านอาหารที่น่าสนใจ เสิร์ฟอาหารอร่อยที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากทะเลเหนือ คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดชิค ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ไม่ควรพลาดการเดินเล่นริมริมน้ำ ที่คุณจะได้เห็นเรือสำราญหลากหลายลำ แล่นผ่านไปอย่างงดงาม และถ้าคุณมีเวลา ควรแวะไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเบียร์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งคุณจะได้ลิ้มลองรสชาติของเบียร์ท้องถิ่น Leith จึงเป็นมากกว่าท่าเรือที่แวะจอด มันคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม อาหารอร่อย และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมที่จะสร้างความประทับใจในทุกการเดินทางของคุณ
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

ทรอนด์ไฮม์ (Trondheim) หนึ่งในเมืองเก่าแก่ของสแกนดิเนเวียที่เคยเป็นเมืองหลวงแรกของนอร์เวย์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 997 จนถึง 1380 เมืองที่ก่อตั้งโดยราชานอร์เวย์ โอลาฟ ทรียกวาเซน (Olav Tryggvason) นี้เดิมมีชื่อว่า นิดารอส (Nidaros) ซึ่งยังคงเป็นชื่อของมหาวิหารที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำนิดเอลวา (Nidelva) และปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของนอร์เวย์และอันดับสามในประเทศ ด้วยประชากรประมาณ 150,000 คน ในใจกลางเมืองแห่งนี้ ถนนถูกจัดเรียงอย่างกว้างขวางไปด้วยบ้านไม้ที่ทาสีสันสดใสและคลังสินค้าที่ล้วนมีเสน่ห์ดึงดูด ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง พร้อมกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของ NTNU (มหาวิทยาลัยนอร์เวย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ซึ่งทำให้ทรอนด์ไฮม์กลายเป็นเมืองหลวงทางด้านเทคโนโลยีของนอร์เวย์ สัมผัสประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานไปกับเสน่ห์ของเมืองศิลปะและนวัตกรรม พร้อมเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากแม่น้ำและชนบทที่ล้อมรอบ เป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังทรอนด์ไฮม์เมืองที่มีทั้งอดีตและอนาคตอันสดใส!

การเดินทางไปยัง บรอนนอยซันด์ (Brønnøysund) ประเทศนอร์เวย์ เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่อยากสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม บรอนนอยซันด์เป็นตัวแทนที่ลงตัวของนอร์เวย์ที่มีทั้งความสวยงามและเซอร์ไพรส์มากมาย มีฟยอร์ดที่ตระการตา เกาะน้อยใหญ่ และแม่น้ำที่ไหลริน รอคอยให้คุณได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ ไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดของบรอนนอยซันด์คือภูเขาทอร์เกตเทน (Torghatten) ซึ่งมีลักษณะเหมือนปราสาทหินแกรนิตขนาดมหึมา โดยจุดเด่นของภูเขานี้คือมีหลุมขนาดใหญ่ที่เฉือนผ่านกลาง ทำให้เกิดภาพที่น่าทึ่งเมื่อแสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามา ก็เหมือนมีไฟสปอตไลต์ขนาดยักษ์ส่องสว่าง จุดเริ่มต้นของตำนานเล่าขานระบุว่า เกิดจากลูกธนูที่ทะลุผ่านหมวกของกษัตริย์โทรลที่ถูกขว้างขึ้นเพื่อช่วยหญิงสาว ทำให้มันกลายเป็นหินในปัจจุบัน การขึ้นไปเดินชมบนภูเขาทอร์เกตเทน คือการผจญภัยที่นำคุณไปสู่มุมมองที่น่าทึ่ง โดยสามารถเห็นกระท่อมหญิงไม้แดงและทะเลสาบที่เปล่งประกายด้านล่าง สัมผัสความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนอร์เวย์ที่บรอนนอยซันด์ และให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเทพนิยายที่เริ่มต้นทุกครั้งที่คุณขึ้นไปบนยอดภูเขา

ท่าเรือสโวลแวร์ (Svolvær) ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ เป็นประตูสู่ความงามสุดตระการตาของหมู่เกาะลอฟoten ที่มีทิวทัศน์ภูเขาลำธารและทะเลที่น่าหลงใหล สโวลแวร์ไม่เพียงเป็นจุดจอดเรือสำราญที่สำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวนอร์เวย์ เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือ คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจของภูเขาที่สูงตระหง่าน และบรรยากาศของเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สามารถเดินเล่นชมตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลิตผลจากท้องถิ่น ตลอดจนอาหารทะเลสดใหม่ที่มีชื่อเสียง ถ้าคุณต้องการความตื่นเต้น การเดินทางไปยังดวงอาทิตย์เที่ยงคืนในช่วงฤดูร้อน หรือการเที่ยวชมแสงเหนือในฤดูหนาวเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การตกปลา พายเรือคายัค และการเดินเขาในธรรมชาติที่อุดมไปด้วยความงดงาม สโวลแวร์คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางรองรับทุกความฝันของการเดินทางท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของนอร์เวย์ รับรองว่าคุณจะประทับใจไม่รู้ลืมเมื่อเยือนท่าเรือแห่งนี้!

ท่าเรือทรอมโซ (Tromsø) ตั้งอยู่บนเกาะทรอมโซ เป็นเมืองที่ใหญ่กว่ากรุงออสโลถึงห้าเท่า และยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลก ที่นี่อยู่ห่างจากวงกลมอาร์กติกเพียง 200 ไมล์ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ประตูสู่อาร์กติก" ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 เมืองนี้เคยเป็นฐานที่ตั้งสำหรับนักสำรวจในการนำทางล่าสัตว์ในเขตอาร์กติก เช่น หมาป่าทางเหนือ และหมีขั้วโลก ปัจจุบัน ทรอมโซยังสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์อันสำคัญนี้ได้ที่พิพิธภัณฑ์โพลาร์ (Polar Museum) ในระหว่างการเยี่ยมชม เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวซามี (Sami) ที่พิพิธภัณฑ์ทรอมโซ (Tromsø Museum) ที่นี่ยังมีความงามของสถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่ โดยเฉพาะโบสถ์อาร์กติก (Arctic Cathedral) ที่เป็นเอกลักษณ์ มองออกไปเห็นภูเขาสโตร์สเตน (Mount Storsteinen) ที่มีรถกระเช้าขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองได้อย่างงดงาม การเดินทางมายังท่าเรือทรอมโซจึงไม่เพียงเป็นการพบปะกับธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเป็นการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งอีกด้วย มาร่วมเริ่มต้นการผจญภัยที่นี่กันเถอะ!

ในประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือ Honningsvåg เป็นประตูสู่การผจญภัยที่ไม่เหมือนใครบนแผ่นดินยุโรปเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเยือน Nordkapp หรือ North Cape ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือสุดของทวีปยุโรป การเดินทางจาก Honningsvåg ไปยัง Nordkapp ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร โดยมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของทุ่งหญ้าทุนดราและกวางเรนเดียร์ที่เดินกินหญ้าในทุ่งที่เป็นหิน ซึ่งจะมีการรวมฝูงกวางเป็นประจำทุกฤดูใบไม้ผลิ Honningsvåg ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Magerøya เป็นหมู่บ้านประมงที่ให้บรรยากาศอบอุ่น พร้อมมีจุดชมวิวที่ช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน การสำรวจ Nordkapp ไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสพื้นที่ที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังเป็นการชวนให้ผู้คนเคารพต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดและไม่สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติ สำหรับผู้ที่มาฤดูหนาว การเข้าถึง Nordkapp จะต้องใช้รถ Sno-Cat เพื่อย้ายผ่านภูมิประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะ สร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในภายหลัง การเดินทางสู่ Honningsvåg และ Nordkapp จึงเป็นประสบการณ์ที่พร้อมจะเติมเต็มความฝันให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจในความงามและความมหัศจรรย์ของอาร์กติก

หากคุณใฝ่ฝันถึงการเดินทางสู่ทวีปยุโรป ประเทศนอร์เวย์เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะท่าเรือ Olden ที่จะนำพาคุณเข้าสู่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่หาที่ไหนไม่ได้ ชมสีฟ้าครามของน้ำแข็งจากธารน้ำแข็ง Jostedal ที่ไหลลดหลั่นผ่านหุบเขา Oldedalen ทำให้คุณรู้สึกตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส Olden เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจความงามตามธรรมชาติ รวมถึง Briksdalsbreen ซึ่งเป็นแขนของน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมงหากเดินเท้า หรือคุณสามารถนั่งรถบัสไปยังที่นั่นได้อย่างสะดวกสบาย เพิ่มประสบการณ์เดินป่าในเส้นทางที่ประดับด้วยดอกไม้ป่า ร่วมเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายในหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่โค้งงอน ในระหว่างการเดินทาง คุณจะสัมผัสถึงน้ำตกที่ไหลแรงและอากาศที่สดชื่น การเดินใกล้ๆ ธารน้ำแข็งนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงพลังของธรรมชาติอย่างแท้จริง ภูมิทัศน์ที่ปรากฏรอบตัวคุณจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางของคุณตลอดไป Olden เต็มไปด้วยความงามที่รอให้คุณมาเผชิญหน้ากับประสบการณ์เหนือคำบรรยายนี้อย่างรอคอย

เบอร์เกน เมืองริมชายฝั่งที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและฟยอร์ดสวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้รักการท่องเที่ยวต้องไม่พลาด ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะท่าเรือ Bryggen ที่มีอาคารสีสันสวยงาม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ท่าเรือนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าในยุคกลางและยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางด้วยกลิ่นอายของอดีต เมื่อเยือนเบอร์เกน คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยตรอกซอยหินกรวด และตลาดปลาอันมีชื่อเสียงที่แหล่งนี้ยังคงเป็นที่นิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองใหม่ สามารถขึ้นไปยังยอดเขา Mt. Fløyen เพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของเมืองจากมุมสูง หรือจะเดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์ป้อม Fesningsmuseum ที่อยู่ห่างไปเพียง 300 หลา จากท่าเรือหลัก ซึ่งเป็นแหล่งเก็บสะสมสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สอง เบอร์เกนไม่ใช่เพียงแค่เมืองที่สวยงาม แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าประทับใจ รอให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นพบเสน่ห์ในสไตล์ยุโรปเหนืออย่างแท้จริง!

ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!



ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนบนเรือสำราญมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับ ด้วยพื้นที่กว้างขวางที่มีบริเวณนั่งเล่นที่สะดวกสบาย ระเบียงส่วนตัว รวมถึงเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องนอนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมตู้เสื้อผ้าเดินได้ที่มีเซฟส่วนตัว และทีวีจอแบนที่สามารถใช้งานอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมด้วยเครื่องดื่มและตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดบันทึกส่วนตัว โต๊ะแต่งตัว ห้องน้ำที่กว้างขวางมีส่วนที่แยกอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ เนื้อผ้าชั้นดีของเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ รวมทั้งเครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V โดยเฉพาะ ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนยังมาพร้อมกับหน้าต่างขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณสามารถชมวิวทะเลได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสี่ท่าน และโซลาริยมที่เป็นกระจกซึ่งมีอ่างและเตียงนอน ส่วนห้องน้ำจัดเต็มด้วยอ่างน้ำวน และห้องน้ำสำหรับแขก พร้อมห้องนอนสองห้อง และโซฟาผลิตที่สามารถปรับเปลี่ยนได้สำหรับอีกหนึ่งท่าน มีพานทรีที่มีบาร์เปียก และทีวีจอแบนอีกสองเครื่อง พร้อมบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี ให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างไม่สะดุด


วิลล่า Wintergarden บนเรือสำราญมอบประสบการณ์ที่หรูหรากับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและระเบียงส่วนตัว สามารถเลือกเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่สำหรับการนอนหลับอันแสนสบาย ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบกว้างขวางพร้อมกับตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีหน้าจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีทั้งเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มมากมาย โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดหมายที่ปรับแต่งได้ โต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำที่กว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก ส่วนเสริมด้วยชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V สำหรับวิลล่า Wintergarden มาพร้อมกับหน้าต่างขนาดใหญ่ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม การรับประทานอาหารสำหรับสี่คน ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก โซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับแขกเพิ่มเติม ห้องครัวขนาดเล็กพร้อมบาร์เปียก ห้องกระจกที่มีอ่างและเตียงนอนกลางวัน พร้อมตู้เสื้อผ้าสองใบและโทรทัศน์หน้าจอแบนสองเครื่อง รวมทั้งบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี ที่สร้างความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับการเข้าพักของท่านอย่างแท้จริง

ซิกเนเจอร์สวีทบนเรือสำราญมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว เตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบโต้ตอบที่มีเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม สถานที่ทำงานที่มีสเตชันเนอรีส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดกว้างพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกออกจากกัน เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ พร้อมทั้งไดร์เป่าผม รวมถึงเต้ารับไฟฟ้า 110/220V สำหรับการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ ซิกเนเจอร์สวีทยังมีวิวมหาสมุทรที่กว้างขวาง หน้าต่างหันไปทางด้านหน้า ที่นั่งรับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน ห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องเก็บของพร้อมบาร์เปียก ทีวีจอแบนสองเครื่อง และบริการอินเทอร์เน็ต/Wi-Fi ฟรี เพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับผู้เข้าพักอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาการเดินทางบนเรือของคุณ.

เจ้าของสวีทบนเรือสำราญได้แก่พื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัวและเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องโถงขนาดกว้างมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินที่มาพร้อมเซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกชม บาร์เต็มรูปแบบพร้อมตู้เย็น โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก ชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมอบวิวทะเลกว้างขวางจากหน้าต่างที่หันหน้าไปข้างหน้า มีพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับ 4-6 ท่าน ห้องน้ำพร้อมอ่างจากุซซี่ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องเก็บของพร้อมบาร์ และทีวีจอแบน 2 เครื่อง พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราอย่างแท้จริงบนเรือสำราญนี้

เพนท์เฮาส์สปาสวีทเป็นห้องพักที่มอบความสะดวกสบายอย่างแท้จริง โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง และระเบียงส่วนตัวเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องนอนประกอบด้วยเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมกับตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in และตู้เซฟส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ให้บริการเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมมาอย่างครบครัน โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษ stationery ส่วนตัว และโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำ ฟองน้ำ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และเต้ารับไฟ 110/220V ระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน เพนท์เฮาส์สปาสวีทยังมีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ถึง 4 คน ห้องนอนที่แยกต่างหาก ประตูแก้วที่เปิดสู่ระเบียง และทีวีจอแบนอีกสองเครื่อง รวมถึงห้องน้ำที่กว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ ซึ่งทุกอย่างนี้ทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินและความหรูหราในทุกช่วงเวลา

เพนท์เฮาส์สวีทในเรือสำราญทุกห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมประตูบานกระจกที่นำไปสู่ระเบียงส่วนตัว มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ขนาดมาตรฐาน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้างขวางที่มีตู้นิรภัยส่วนตัวและโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องสำหรับดูหนังและฟังเพลง นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน โต๊ะเขียนหนังสือที่มีอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว และโต๊ะแต่งหน้าที่สะดวกสบาย ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมชุดเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ แชมพู และเต้าเสียบไฟฟ้า 110/220V เพื่อความสะดวกในการใช้งาน สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างหรูหราในเพนท์เฮาส์สวีทที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น

เพนท์เฮาส์สวีทการันตี มีกระจกรายล้อมขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร (436 ตารางฟุต) พร้อมระเบียงขนาด 9 ตารางเมตร (98 ตารางฟุต) สำหรับการพักผ่อนที่หรูหรา โดยที่พักประเภทนี้รับประกันว่าท่านจะได้พักในห้องสวีทที่มีระดับสูงกว่าหรือเทียบเท่ากับหมวดหมู่ที่เลือกไว้ โดยทีมงานจะทำการคัดสรรห้องสวีทและแจ้งให้ท่านทราบก่อนการเดินทาง ภายในเพนท์เฮาส์สวีท จะมาพร้อมกับพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่สองถึงสี่คน มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน พร้อมประตูกระจกเชื่อมต่อไปยังระเบียง ทั้งยังมีโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องและบาร์ที่มีเครื่องดื่มให้บริการอย่างเต็มที่ ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ และพื้นที่เคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ ทำให้เป็นที่พักที่เหมาะสำหรับการสร้างความทรงจำที่หรูหราและมีระดับในทุกการเดินทางของท่าน

ห้องสวีทระเบียงทุกห้องมีหน้าต่างยาวเต็มความยาวและประตูแก้วออกไปยังระเบียงส่วนตัว ที่พักมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เตียงขนาดควีนไซส์หรือนอนแยกเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน ตู้เสื้อผ้าสำหรับเดินเข้าไปได้ โทรทัศน์จอแบนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์แอคทีฟพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์ที่จัดเตรียมอย่างครบครันและตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำกว้างขวางที่แยกส่วนอ่างจากุซซี่และฝักบัว สัมผัสประสบการณ์ห้องพักที่หรูหราและสะดวกสบายในห้องสวีทระเบียงของเรา ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำอย่างแท้จริง

การรับประกันระเบียงของเราเป็นห้องสวีทที่โดดเด่นซึ่งมาพร้อมกับหน้าต่างบานใหญ่และประตูบานกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนั่งเล่นมีความสะดวกสบาย พร้อมทั้งเตียงคิงไซส์หรือเตียงคู่ขนาดทวิน และโต๊ะอาหารที่สามารถนั่งได้สองคน สำคัญคือมี ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟซึ่งมีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกสรร บาร์และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม และโต๊ะเครื่องแป้ง ที่มาพร้อมกับห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำแยกต่างหากและฝักบัว ห้องสวีทนี้มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม พร้อมการรับประกันว่าจะได้ห้องในประเภทที่เลือกหรือสูงกว่า โดยเราจะทำการเลือกตำแหน่งและห้องสวีทที่เฉพาะเจาะจงให้คุณและจะแจ้งล่วงหน้าก่อนการเดินทาง.

ห้องสวีทวิวทะเลทุกห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ที่มอบวิวทะเลอันงดงาม พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย มีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่สองเตียง และมีโต๊ะอาหารสำหรับสองคน ห้องเสื้อผ้ามีขนาดกว้างขวาง และมีอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย เช่น โทรทัศน์จอแบนแบบมีอินเตอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่พร้อมบริการอย่างครบครัน มีโต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกส่วนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ ห้องมีขนาดประมาณ 295 ตารางฟุต (28 ตารางเมตร) เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างมีสไตล์ในทุกๆ วันของการเดินทางของคุณ

ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวได้รับการออกแบบเพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราให้แก่ผู้เข้าพัก ด้วยพื้นที่ประมาณ 295 ตารางฟุต (28 ตารางเมตร) ห้องนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวทะเลอันสวยงาม รวมทั้งบริเวณนั่งเล่นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องอาหารขนาดพอดีสำหรับสองท่าน และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถใช้งานแบบอินเทอร์แอคทีฟ พร้อมมิวสิคและหนังให้เลือกชม สปาและพื้นที่อาบน้ำที่กว้างมีทั้งอ่างอาบน้ำและฝักบัวเพื่อความสะดวกสบาย ห้องนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่เติมเต็มไว้พร้อมทุกความต้องการ และโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อการดูแลสุขภาพความงามของผู้เข้าพัก ยิ่งไปกว่านั้น หากเลือกแพ็คเกจ Guaranteed Suite ผู้เข้าพักจะได้รับการจัดหาสถานที่และห้องพักที่เจาะจงก่อนการออกเดินทางโดยมีการรับประกันว่าจะได้ห้องในหมวดหมู่ที่เลือกหรือสูงกว่า

การรับประกันห้องชุดเป็นห้องพักที่มีความสะดวกสบายและหรูหรา เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมบนเรือสำราญ ห้องนี้มีขนาดกว้างขวาง พร้อมการตกแต่งที่ทันสมัยและมีสไตล์ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว ห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมบนเรือ ให้คุณเพลิดเพลินไปกับวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงที่นอนสบาย โทรทัศน์จอใหญ่ ตู้เย็น และบริการอื่นๆ ที่จะช่วยให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายเหนือระดับ เดินทางมาพร้อมกับการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความสงบ ต้องการให้ทุกช่วงเวลาในห้องพักของคุณเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพักผ่อนบนเรือสำราญ.