
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Ovation
Seabourn


ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง

ลาคอรุญ่า คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคกาลิเซีย ประเทศสเปน และเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย โดยมีทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มและหมอกลงหนา แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ของสเปน ชื่อ "กาลิเซีย" มีรากศัพท์มาจากภาษาเซลติก ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลติคในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ลาคอรุญ่า เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญตั้งแต่สมัยโรมัน และพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 เมื่อได้รับสิทธิในการค้ากับอเมริกาในปี 1720 ความงดงามของลาคอรุญ่าสะท้อนผ่านอาคารแบบกระจกซึ่งทำให้เมืองนี้ได้รับชื่อว่า "เมืองแห่งคริสตัล" และสถานที่สำคัญอย่างจัตุรัสมาเรียพิทา ซึ่งเป็นเกียรติแก่หญิงผู้กล้าที่เคยปกป้องเมืองในปี 1589 ปัจจุบัน เมืองประกอบด้วยสามเขตที่แตกต่างกัน ได้แก่ เขตกลางเมือง ธุรกิจ และ “เอนซานเช่” ที่มีคลังสินค้าและโรงงาน อย่าพลาดโอกาสในการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นและสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจและแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องกลับมาอีกครั้ง.

ท่าเรือกิฮอน (Gijón) ประเทศสเปน เป็นจุดหมายที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัย ตั้งอยู่ริมทะเลในภูมิภาคอAsturias กิฮอนเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ด้วยหลักฐานทางโบราณคดีจากสมัยโรมัน เช่น สปา Campo Valdés ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 1 ที่เป็นจุดเด่นใจกลางเมืองและเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของเมือง ในอดีต กิฮอนเกือบถูกทำลายในศตวรรษที่ 14 แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นท่าเรือและเมืองอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรือง พื้นที่เมืองเต็มไปด้วยร้านกาแฟ อาหารท้องถิ่น และ sidrerías ร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแอปเปิ้ลซีดรา (Cider) ที่คุณไม่ควรพลาด ยามที่คุณเดินทางมาถึง ท่านยังสามารถพบกับชายหาดที่งดงามซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ เพิ่มเติมด้วยกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจ ทำให้กิฮอนไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รอคอยให้คุณได้สัมผัสและค้นพบเสน่ห์ของเมืองนี้อย่างแท้จริง

บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!



เมืองพลิมัท (Plymouth) ถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษ ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะท่าเรือจอดเรือของเซอร์ฟรานซิสเดรก (Sir Francis Drake) และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของพ่อหลวงพลีกริม (Pilgrim Fathers) ที่สำคัญในการตั้งถิ่นฐานในอเมริกาอีกด้วย เมื่อคุณเดินลงไปตามถนนที่ทำจากหินแร่เก่า แผ่นดินของพลิมัทจะพาคุณย้อนอดีตไปสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความทรงจำแห่งยุคสมัย ก่อนที่ความเจริญจะเข้ามาเยือน สถานที่ต่าง ๆ เช่น อ่าวพลิมัท (Plymouth Sound) ที่มีทัศนียภาพที่งดงาม พร้อมกันนี้ คุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพลิมัท โดยมีการจัดแสดงเรื่องราวที่สำคัญในการเดินทางและการสำรวจโลก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำอันน่าตื่นเต้นอีกมากมาย เช่น การล่องเรือชมวิวทะเลหรือไปเยือนเกาะที่อยู่ใกล้เคียง สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความประทับใจ พลิมัทคือจุดหมายปลายทางที่ไม่อาจพลาด ด้วยการผสมผสาน between ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงดงามของธรรมชาติ ที่จะทำให้คุณหลงรักอย่างแน่นอน

เสน่ห์ของไอส์ลอันงดงามที่ "ไอส์ลออฟพอร์ตแลนด์" รอคอยการค้นพบจากนักเดินทาง พบกับเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามแห่งธรรมชาติ ตั้งอยู่ในช่องแคบอังกฤษ ยาว 6 กิโลเมตร และกว้าง 2.7 กิโลเมตร เกาะนี้มีจุดเด่นที่มุมใต้ที่รู้จักกันในชื่อ "พอร์ตแลนด์ บิล" ซึ่งโดดเด่นด้วยประภาคารที่ส่องสว่างมาที่ผืนน้ำของช่องแคบ และเป็นจุดที่อยู่ใต้สุดของมณฑลดอร์เซ็ท การเดินทางมาเยือนพอร์ตแลนด์สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากเมืองเวย์มูธ ผ่านชายหาดเชซิล (Chesil Beach) ที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ เต็มไปด้วยทรายละเอียดและวิวทะเลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี นอกจากนี้พอร์ตแลนด์ยังมีสถานที่สำคัญอย่าง "กระบวนการหิน" ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อดีตที่เกี่ยวข้องกับการขุดหินเพื่อใช้ในก่อสร้างสถานที่สำคัญทั้งในอังกฤษและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ เช่น การเดินป่า ชมวิวที่สวยงาม ชมชีวิตสัตว์น้ำ และอื่น ๆ รอให้คุณมาค้นพบการผจญภัยในทุกมุมของไอส์ลออฟพอร์ตแลนด์กันได้เลย!

ท่าเรือพอร์ทสมัธ (Portsmouth) ตั้งอยู่ในอังกฤษ เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ของประเทศ และมีเสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าหลงใหล เนื่องจากส่วนใหญ่ของเมืองตั้งอยู่บนเกาะพอร์ตซี ซึ่งเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานในรูปแบบถนนและรถไฟ พร้อมทั้งมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สามารถติดตามได้ตั้งแต่สมัยโรมัน พอร์ทสมัธมีชื่อเสียงในฐานะเป็นฐานทัพเรือที่สำคัญ และเป็นที่อยู่ของอู่ต่อเรือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก การเยือนที่นี่จะพาท่านไปสัมผัสกับเรือที่มีชื่อเสียงอย่าง HMS Victory, HMS Warrior และ Mary Rose ที่ถูกยกขึ้นจากท้องทะเลในปี 1982 นอกจากนี้ท่านยังสามารถชมสัญลักษณ์เมืองอย่าง Spinnaker Tower ที่สูงถึง 560 ฟุต ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักรนอกกรุงลอนดอน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวรรณกรรม พอร์ทสมัธยังเป็นบ้านเกิดของ Charles Dickens นักเขียนชื่อดัง และยังมีพิพิธภัณฑ์เมืองที่จัดแสดงเกี่ยวกับ Sir Arthur Conan Doyle ซึ่งยิ่งทำให้เมืองนี้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอรรถรสทางวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ท่าเรือพอร์ทสมัธจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้คุณมีประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

เสน่ห์ของไอส์ลอันงดงามที่ "ไอส์ลออฟพอร์ตแลนด์" รอคอยการค้นพบจากนักเดินทาง พบกับเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามแห่งธรรมชาติ ตั้งอยู่ในช่องแคบอังกฤษ ยาว 6 กิโลเมตร และกว้าง 2.7 กิโลเมตร เกาะนี้มีจุดเด่นที่มุมใต้ที่รู้จักกันในชื่อ "พอร์ตแลนด์ บิล" ซึ่งโดดเด่นด้วยประภาคารที่ส่องสว่างมาที่ผืนน้ำของช่องแคบ และเป็นจุดที่อยู่ใต้สุดของมณฑลดอร์เซ็ท การเดินทางมาเยือนพอร์ตแลนด์สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากเมืองเวย์มูธ ผ่านชายหาดเชซิล (Chesil Beach) ที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ เต็มไปด้วยทรายละเอียดและวิวทะเลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี นอกจากนี้พอร์ตแลนด์ยังมีสถานที่สำคัญอย่าง "กระบวนการหิน" ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อดีตที่เกี่ยวข้องกับการขุดหินเพื่อใช้ในก่อสร้างสถานที่สำคัญทั้งในอังกฤษและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ เช่น การเดินป่า ชมวิวที่สวยงาม ชมชีวิตสัตว์น้ำ และอื่น ๆ รอให้คุณมาค้นพบการผจญภัยในทุกมุมของไอส์ลออฟพอร์ตแลนด์กันได้เลย!

เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้าสู่ท่าเรือคอร์ก (Cork) ในไอร์แลนด์ คุณจะได้สัมผัสกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลซึ่งสืบทอดมายาวนานตั้งแต่ปี 1185 คอร์กมีชื่อมาจากคำว่า “corcaigh” ซึ่งหมายถึง “สถานที่ที่มีน้ำท่วม” อดีตเคยเป็น settlement ในศตวรรษที่ 6 ที่กระจายอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ถึง 13 เกาะในแม่น้ำลี (River Lee) ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในศตวรรษที่ 17 และ 18 เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนที่สวยงาม ซึ่งมีหน้าต่างโค้งกว้างให้คุณได้ชมความงาม อีกทั้งยังมีศูนย์กลางการค้ามากมายที่ตั้งอยู่บนเกาะทำให้มีสะพานและท่าเรือที่หลากหลาย สร้างเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร คอร์กเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเป็นไอริช ทั้งกีฬาเฮอร์ลิง, ฟุตบอลเกลิค, ผับที่มีดนตรีสด และการแข่งขันสรีรศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยคุณอาจได้เห็นฮิปปี้ ชาวเกย์ และเกษตรกรนั่งดื่มที่ผับเดียวกัน สัมผัสเมืองที่ให้บรรยากาศเป็นกันเองและต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความอบอุ่น เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางของคุณให้น่าจดจำในท่ามกลางความงดงามของคอร์ก วันที่คุณมาที่นี่ คุณจะไม่เพียงแค่เยี่ยมชมเมือง แต่ยังรู้สึกถึงชีวิตและวัฒนธรรมที่เปี่ยมไปด้วยสีสันที่น่าหลงใหลอีกด้วย

ฟิชการ์ด (Fishguard) เมืองท่าเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในแคว้นเวลส์ ที่ตอบโจทย์นักเดินทางที่หลงใหลในวัฒนธรรมและธรรมชาติอันสวยงาม โดยท่าเรือฟิชการ์ดเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถเชื่อมต่อไปยังยุโรปได้อย่างง่ายดาย ผ่านการเดินทางโดยเรือสำราญหรือเรือเฟอร์รี่ อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นกันเอง เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่า คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่เกินจินตนาการ ทั้งคลื่นทะเลที่กระทบกับหินและภูมิทัศน์เขียวขจีที่เผยให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจร้านค้าเล็ก ๆ ที่จำหน่ายของทำมือ และร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟชาวประมงสดใหม่ ไม่ไกลจากท่าเรือคือชายหาดหาดพลาย (Pwllgwaelod) ที่มีน้ำทะเลใส ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวขจี เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและสัมผัสความเงียบสงบ พร้อมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าไปยังเส้นทาง Coastal Path ยิ่งไปกว่านั้น ฟิชการ์ดยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยสามารถเยี่ยมชมพื้นที่อย่าง Castell Henllys ซึ่งเป็นซากปราสาทยุคโบราณ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวเวลส์ในอดีต สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน กับการเดินทางไปฟิชการ์ด ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวรอให้คุณค้นหา

ท่าเรือดั๊กกลาส ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะไอล์ออฟแมน อันงดงามในทะเลไอริช เป็นจุดแวะพักที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของอังกฤษ เกาะนี้มีขนาดเพียง 30 ไมล์ x 13 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ มีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและหน้าผาสูงชัน ผสมผสานกับบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่สมบูรณ์ เกาะไอล์ออฟแมนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ยุคหินใหม่ จนกลายเป็นที่พักอาศัยของนักบวชไอริชในศตวรรษที่ 5 และมีอิทธิพลจากชาวนอร์สในศตวรรษที่ 9 ซึ่งขายเกาะนี้ให้กับสกอตแลนด์ในปี 1266 แต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา สหราชอาณาจักรได้ครอบครองเกาะนี้ไว้ นอกจากนี้ เกาะยังมีความเฉพาะตัวในเรื่องของภาษาแมนซ์ ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองที่ยังคงมีผู้พูดอยู่เพียงน้อยนิด การเยี่ยมชมดั๊กกลาสจะเปิดโอกาสให้คุณได้ชมปราสาทที่งดงาม เส้นทางรถไฟเข็มแคบ และสำหรับผู้รักความท้าทาย สามารถเดินป่าสูงถึง 2,036 ฟุตที่ยอดเขาสนาฟเฟล พร้อมวิวทะเลที่งดงามตระการตา เกาะไอล์ออฟแมนจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเดินทางครั้งถัดไป.
ท่าเรือ Rothesay บนเกาะ Bute ประเทศสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และธรรมชาติอันงดงาม ยอดเขาและชายหาดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ รอคอยการสำรวจจากนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมชาวสกอตอย่างแท้จริง ท่าเรือนี้ไม่เพียงเป็นที่ตั้งของเรือสำราญที่จอดแวะ แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางสู่ความงามของเกาะ Bute ที่มีชื่อเสียงในด้านการต้อนรับอย่างอบอุ่น เมื่อเดินทางไป Rothesay คุณจะได้พบกับพระราชวัง Rothesay Castle อันเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ซึ่งยังคงเก็บรักษาเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ไว้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะและชายหาดที่เหมาะกับการพักผ่อน ทำให้คุณรู้สึกสงบและเพลิดเพลินกับวิวทะเลที่น่าทึ่ง การเดินทางไป Rothesay ยังเป็นโอกาสให้คุณได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ เช่น เซนต์ นิโคลัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์การส่งจอภาพ ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม Rothesay ไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นดินแดนแห่งความสงบ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์ในทุกย่างก้าวของการเดินทางที่นี่

ท่าเรือกรีน็อคในสกอตแลนด์ เป็นประตูสู่เมืองกลาสโกว์ เมืองที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและวัฒนธรรมที่หลากหลาย หลังจากประสบกับการลดลงในอดีต กลาสโกว์ได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างน่าทึ่ง ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น อาคารที่ออกแบบโดย Charles Rennie Mackintosh และพิพิธภัณฑ์ Riverside ที่ออกแบบโดย Zaha Hadid ที่สะท้อนถึงกิจกรรมการค้าและการต่อเรือในอดีต เมืองกลาสโกว์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,500 ปี มีตำนานเกี่ยวกับใจกลางของเมืองที่เกิดจากความไม่ซื่อสัตย์ของพระราชินี ซึ่งประดับด้วยสัญลักษณ์ที่ยังคงอยู่ในตราเมือง ด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรมและการค้าในศตวรรษที่ 18 และ 19 กลาสโกว์กลายเป็นศูนย์กลางการต่อเรือและการค้าฝ้ายที่สำคัญ ปัจจุบัน เมืองนี้มีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมทางวัฒนธรรมและร้านค้าทันสมัย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ หลังจากการเยี่ยมชมที่นี่ คุณยังสามารถใช้เวลาเพียง 40 นาทีเพื่อไปยังทะเลสาบโลห์โลมอนด์ สถานที่ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของสกอตแลนด์ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้คุณค้นพบโลกใหม่ที่รอคอยอยู่

เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

โอบาน (Oban) มนต์ขลังแห่งชายฝั่งสกอตแลนด์ เสมือนชาร์จชีวิตใหม่ให้กับนักเดินทาง ด้วยความหมายแปลว่า "อ่าวเล็ก" ในภาษาเกลิค เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 8,500 คนนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเขตเวสต์ไฮแลนด์ และเป็น "Gateway to the Isles" ที่มอบทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขา ทะเลสาบ และหมู่เกาะที่ดึงดูดศิลปิน และนักเขียนจากทั่วทุกมุมโลกมายาวนาน เมื่อคุณเดินทางมาที่โอบาน คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะปราสาทดุนอลลี (Dunollie Castle) ที่มีอายุราว 600 ปี เป็นดั่งยามพิทักษ์ของอ่าวแห่งนี้ โอบานไม่เพียงแต่มีฉากหลังที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางไปสู่เกาะมัลล์ (Mull), คอลล์ (Coll), และไอเลย์ (Islay) สถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เมื่อราชินีวิคตอเรียเสด็จมาเยือนและให้ความเห็นว่าเป็น "หนึ่งในจุดที่งดงามที่สุดที่เราเคยพบ" ทำให้โอบานกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่มีวันเลือนลับ คุณสามารถเดินเที่ยวชมศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ หรือจะขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปสำรวจเกาะต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่หลากหลายและน่าหลงใหล

อูลลาปูล (Ullapool) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของทะเลสาบโลช บรูม (Loch Broom) ในสกอตแลนด์ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้รักการเดินป่าและการสำรวจธรรมชาติ โดยเฉพาะการล่องเรือไปยังหมู่เกาะซัมเมอร์ (Summer Isles) ที่สวยงาม เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1788 ในฐานะสถานีประมงเพื่อจับปลาเฮอริ่ง ปัจจุบันอูลลาปูลยังคงรักษาความเป็นเมืองประมงที่มีเรือประมงและเรือยอชต์จากต่างประเทศที่มาเยือน เมื่อมีเรือเฟอรีจากลีวิส (Lewis) มาถึง ท่าเรือของอูลลาปูลจะมีชีวิตชีวา คับคั่งไปด้วยผู้คนและบรรยากาศที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เมืองนี้มีความรู้สึกเหมือนเป็นหมู่บ้านนานาชาติ การเดินทางมาที่อูลลาปูลไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ยังเป็นโอกาสในการเปิดโลกให้กว้างขึ้นผ่านกิจกรรมการสำรวจธรรมชาติอันตระการตา หากคุณต้องการผจญภัยในทิวทัศน์ที่งดงามของสกอตแลนด์ ไม่ควรพลาดที่จะตั้งใจเยี่ยมชมอูลลาปูล เมืองแห่งความฝันที่รอการค้นพบจากนักเดินทางเช่นคุณ.

เมื่อกล่าวถึงการเดินทางสำรวจสกอตแลนด์ ท่าเรือ Leith เป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ตั้งอยู่บนริมแม่น้ำ Forth ในเอดินบะระ ท่าเรือนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเคยเป็นทางเข้าออกหลักในการค้า อันเป็นจุดรวมของวัฒนธรรมและศิลปะ ที่จะทำให้คุณประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่มาถึง Leith ไม่เพียงแต่มีท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นศูนย์กลางที่มีจุดหมายท่องเที่ยวมากมาย เช่น มหาวิทยาลัยฮัดเดอร์ฟิลด์และพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย ภายในยังมีร้านอาหารที่น่าสนใจ เสิร์ฟอาหารอร่อยที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากทะเลเหนือ คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดชิค ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ไม่ควรพลาดการเดินเล่นริมริมน้ำ ที่คุณจะได้เห็นเรือสำราญหลากหลายลำ แล่นผ่านไปอย่างงดงาม และถ้าคุณมีเวลา ควรแวะไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเบียร์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งคุณจะได้ลิ้มลองรสชาติของเบียร์ท้องถิ่น Leith จึงเป็นมากกว่าท่าเรือที่แวะจอด มันคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม อาหารอร่อย และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมที่จะสร้างความประทับใจในทุกการเดินทางของคุณ
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!





สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 มีพื้นที่ภายในรวมทั้งสิ้น 1,292 ตารางฟุต (120 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงสองแห่งขนาดรวม 244 ตารางฟุต (23 ตารางเมตร) ท่านสามารถรวมสวีท 849 และ 851 หรือสวีท 846 และ 848 เพื่อสร้างสวีท 8491 หรือ 8468 ภายในสวีทจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเพียงพอ พื้นที่รับประทานอาหารสำหรับหกคน สวนสวยที่มีหลังคาปิดด้วยอ่างอาบน้ำและเตียงนอนอันแสนสบาย ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล สวีทนี้มีสองห้องนอนพร้อมห้องน้ำอีกสองห้อง (หนึ่งในนั้นมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล) นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดแบบพับได้สำหรับผู้เข้าพักเพิ่มเติม ครัวขนาดเล็กมีบาร์เปียกและยังมาพร้อมกับทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการ อินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรี ซึ่งทำให้สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบายบนเรือสำราญของท่าน




ห้องพักวิลล่า Wintergarden ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 ซึ่งเป็นห้องสวีทกลางเรือ โดยมีพื้นที่ภายใน 989 ตารางฟุต (92 ตารางเมตร) และระเบียงขนาด 197 ตารางฟุต (18 ตารางเมตร) ห้องพักนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ สำหรับการรับประทานอาหาร ห้องนี้สามารถรองรับได้ถึง 6 ท่าน พร้อมอ่างจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ที่นอนโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อรองรับผู้เข้าพักหนึ่งท่าน ห้องครัวเล็กมีบาร์เปียก และยังมีโรงเรือนแบบกระจกซึ่งมีอ่างและเตียงชายหาด ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าสองตู้ และทีวีจอแบนสองเครื่อง พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตฟรีและบริการ Wi-Fi เพื่อความสะดวกสบายของคุณในทุกช่วงเวลาที่เข้าพักในห้องพักสุดหรูนี้


ซิกเนเจอร์สวีท ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าที่ 8 ห้องสวีทหมายเลข 800 และ 801 มีพื้นที่ภายในประมาณ 977 ตารางฟุต พร้อมระเบียงขนาด 960 ตารางฟุต (89 ตารางเมตร) ที่มอบวิวทะเลกว้างขวางและหน้าต่างหันหน้าไปข้างหน้า ห้องสวีทนี้เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน และมีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบวนระบบ รวมถึงห้องน้ำสำหรับแขก พื้นที่บริการอาหารพร้อมบาร์และทีวีจอแบนสองเครื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเข้าพักอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์ในซิกเนเจอร์สวีทแห่งนี้.


เจ้าของสวีท (Owner's Suites) ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 7, 8, 9 และ 10 มีพื้นที่ภายในขนาดกว้างระหว่าง 576 ถึง 597 ตารางฟุต (54 ถึง 55 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงขนาดตั้งแต่ 142 ถึง 778 ตารางฟุต (13 ถึง 72 ตารางเมตร) ซึ่งมอบมุมมองมหาสมุทรที่กว้างขวางและหน้าต่างด้านหน้าเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มที่ ห้องอาหารสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 4 ถึง 6 ท่าน พร้อมห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ทั้งยังมีพื้นที่ครัวที่มีบาร์เปียก สำหรับความบันเทิง ห้องนี้มีทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการอินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรีให้ใช้งานอีกด้วย สำหรับห้องที่รองรับผู้พิการ จะมีห้องอาบน้ำแบบปรับระดับให้บริการเท่านั้น

ห้องชุดการรับประกันเป็นห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ในการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร โดยมีขนาดกว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมของเรือสำราญ ห้องนี้มีการตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ทีวีจอแบน, ตู้เย็น, และเครื่องชงกาแฟ เพื่อทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ระเบียงส่วนตัวเปิดให้คุณสัมผัสกับวิวทะเลอันงดงาม และเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหลังจากวันที่เต็มไปด้วยกิจกรรม ตลอดจนการบริการระดับพรีเมียมที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเฉิดฉายยิ่งขึ้น


เพนท์เฮาส์สปาสวีทบนเรือสำราญทุกห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวที่งดงาม พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและประตูแก้วสู่ระเบียงส่วนตัว มีเตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้เซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่มีของพร้อมเสิร์ฟ โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์การเขียนที่มีชื่อของผู้เข้าพัก โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างและฝักบัวแยกต่างหาก มีเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และเครื่องเป่าผม รวมทั้งช่องเสียบไฟ 110/220V AC ทำให้เพนท์เฮาส์สปาสวีทนี้เป็นที่พักที่หรูหราและสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทบนเรือสำราญทุกห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และประตูบานกระจกเปิดสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมด้วยเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ขนาดเล็ก ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินรวมถึงเซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเต็มอย่างดี โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว ชุดเสื้อคลุมตัวนุ่ม รองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และเต้ารับไฟฟ้า 110/220V นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสองถึงสี่คน และห้องนอนแยกต่างหากเพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายอย่างสูงสุดในทุกการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทการันตี เป็นห้องพักที่มีความหรูหราตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยขนาดที่กว้างขวางและมุมมองที่สวยงาม ห้องนี้ประกอบด้วยห้องนอนแยกต่างหากและโต๊ะอาหารที่รองรับได้ถึงสี่คน เพื่อเอื้ออำนวยต่อการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีประตูกระจกที่นำไปสู่ระเบียงเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับสายลมทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องพักยังได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยทีวีจอแบนสองเครื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อนดูภาพยนตร์ในยามว่าง และบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการดื่มด่ำกับสิ่งที่คุณชื่นชอบ สำหรับห้องน้ำที่กว้างขวางก็มีอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และอ่างล้างหน้าใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลตัวเองที่ไม่เหมือนใคร เพลิดเพลินกับการพักผ่อนสุดหรูในเพนท์เฮาส์สวีทการันตี และสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจในวันหยุดของคุณ.


ห้องสวีทระเบียงทุกห้องมีหน้าต่างขนาดเต็มความยาวและประตูบานกระจกที่นำไปสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่สองเตียง มีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน และตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in นอกจากนี้ ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถเชื่อมต่อกับเพลงและภาพยนตร์ รวมถึงบาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มครบครัน โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำขนาดกว้างที่แยกโซนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำอย่างชัดเจน ห้องสวีทระเบียงเป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในทุกการเดินทางของคุณ

การรับประกันระเบียงมอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราในห้องสวีทที่กว้างขวาง ซึ่งมีหน้าต่างขนาดใหญ่และประตูบานกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดใหญ่หรือเตียงคู่ และโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าแบบเข้ารอบ ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกฝักบัวและอ่างอาบน้ำ รวมถึงทีวีจอแบนที่สามารถรับชมภาพยนตร์และเพลงต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างดี และโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความบันเทิง ด้วยตัวเลือกการรับประกันสวีท เราจะคัดสรรทำเลและห้องสวีทเฉพาะสำหรับคุณ พร้อมแจ้งให้ทราบก่อนวันเดินทาง ทำให้คุณมั่นใจว่าจะได้เข้าพักในห้องสวีทที่เลือกหรือห้องที่มีระดับสูงกว่าเสมอ

ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวคือห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ relaxation ในขณะที่ล่องเรือ ห้องพักนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเปิดรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูกว้างขวางและสดชื่น ภายในห้องตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ตั้งแต่เตียงนอนคุณภาพสูง ไปจนถึงบริการ Wi-Fi ที่รวดเร็ว ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายและเพลิดเพลินกับการพักผ่อนบนเรือสำราญที่หรูหรา