
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Ovation
Seabourn


โคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่นี่เคยเป็นศูนย์การค้าสำคัญในศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันจึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทั้งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในสแกนดิเนเวีย แต่ก็ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมที่ไม่สูงนักให้มีความสง่างามใกล้ชิดธรรมชาติ ห้ามพลาดที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น น้ำพุเกเฟียน (Gefion Fountain) ที่มีความสวยงาม แวะชมพระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) ซึ่งเป็นที่ประทับของราชวงศ์เดนมาร์ก และพลาดไม่ได้กับปราสาทโรเซนบอร์ก (Rosenborg Castle) ที่มีการจัดแสดงอัญมณีของราชวงศ์ นอกจากนี้ การนั่งเรือชมทิวทัศน์ในคลองต่างๆ ของโคเปนเฮเกนจะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศแบบสแกนดิเนเวียอย่างแท้จริง และหากมีโอกาส ควรไปเยือนหมู่บ้านประมงเก่าแก่ดราเกอร์ (Dragoer) ที่ทำให้ความทรงจำของคุณมีสีสันยิ่งขึ้น โคเปนเฮเกนเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ไม่น่าแปลกใจที่เมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจของนิทานอันเป็นที่รักจากฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน และยกย่องในบทเพลง "Wonderful Copenhagen" อย่างแท้จริง เมื่อเดินทางมายังเมืองนี้ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลือน

Skagen, เมืองที่ตั้งอยู่เหนือสุดของเดนมาร์ก เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามที่ไม่เหมือนใคร ที่นี่คือจุดที่ทะเลสองแห่งพบกัน — จุดบรรจบระหว่างทะเลเหนือและทะเลบอลติก ที่ทำให้ Skagen เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความงามตามธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง ภาพลักษณ์ของ Skagen ถูกครอบคลุมด้วยบ้านหลังคาเหลืองที่มีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยบรรยากาศแบบชายทะเลที่อบอุ่น สำหรับผู้ที่รักศิลปะ ในอดีต Skagen เคยเป็นที่ชุมนุมของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย ที่นี่คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Skagens ที่จัดแสดงผลงานสำคัญจากศิลปินเหล่านั้น นอกจากนี้ ทิวทัศน์อันสวยงามของชายหาดที่ทอดยาวและต้นสนที่เขียวชอุ่ม ถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่ผ่อนคลายสุดพิเศษ ในช่วงฤดูร้อน คุณยังสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น เช่น วินด์เซิร์ฟ และการเดินป่าร่วมด้วย หากท่านมีโอกาสได้เที่ยวมาที่ Skagen อย่าลืมแวะสำรวจประภาคารที่อยู่ในตำนาน และสัมผัสประสบการณ์ดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม เป็นความทรงจำที่คุณจะไม่ลืมเลือนอย่างแน่นอน ดินแดนแห่งนี้พร้อมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ!

ยินดีต้อนรับสู่วรกรรมแห่งวัลลาร์เซอร์เบคหรือท่าเรือที่น่าหลงใหลในโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญ แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นักเดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ศิลปะชั้นยอดจากโอเปร่าและโรงละครที่มีชื่อเสียง รวมถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่อัดแน่นไปด้วยผลงานจากศิลปินชั้นนำของประเทศ ในโกเธนเบิร์ก คุณจะได้พบกับประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตั้งแต่ท่าเรือโบราณที่สร้างเมือง จนถึงอาคารโรงงานในศตวรรษที่ 19 ที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการค้า มุมมองธรรมชาติที่สวยงามระหว่างชายฝั่งตะวันตกที่รุ่งเรืองและทุ่งหญ้าเขียวขจี ก็เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักการเดินป่าและสัมผัสธรรมชาติ ไม่เพียงแค่การท่องเที่ยวและสร้างความประทับใจ เทศกาลอาหารในโกเธนเบิร์กก็เป็นที่ฮือฮา โดยการประกวด "เชฟชาวสวีเดนแห่งปี" ที่มีผู้ชนะมากกว่าครึ่งหนึ่งจากเมืองนี้ เส้นทางเดินทางที่มีเสน่ห์นี้พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่อิ่มเอมและน่าจดจำให้กับคุณในทุกองค์ประกอบของการเดินทาง รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง!

ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์และเมืองที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ปลายฟยอร์ดออสโลที่งดงาม ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ที่เขียวชอุ่ม เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีพิพิธภัณฑ์กว่า 50 แห่ง ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีคำว่า “ศิลปะ” ที่พร้อมให้คุณค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นแกลเลอรีสุดหรู สวนประติมากรรมอันงดงาม หรือแม้แต่พระราชวังอันวิจิตร ออสโลยังมีอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ศตวรรษที่ 19 ที่สวยงาม ประกอบกับถนนกว้างขวาง ทําให้การสำรวจเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ประวัติศาสตร์ของออสโลยาวนานกว่า 1,000 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางการเดินเรือจากยุคไวกิ้งจนถึงการผจญภัยของธอร์ เฮเยอร์ดาห์ล ผู้ที่โด่งดังจากการเดินทางด้วยเรือคอนทิกิ ให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของออสโลผ่านทริปสุดพิเศษที่เรานำเสนอ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการเดินทางของคุณในเมืองที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะ ออสโลจะเปิดประตูให้คุณเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสวยงามและเรื่องราวที่น่าทึ่ง.
คริสเตียนซัน (Kristiansand) เมืองที่มีเสน่ห์ในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "Sommerbyen" หรือ "เมืองร้อนแห่งฤดูร้อน" สถานที่แห่งนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของนอร์เวย์ มีประชากรราว 78,000 คน ที่เดินทางเข้ามาที่นี่เพื่อสัมผัสกับชายหาดที่เปล่งประกายจากแสงแดดและท่าเรือที่งดงาม ในเดือนกรกฎาคมของทุกปี คริสเตียนซันยังก้าวสู่เวทีโลกด้วยเทศกาล Quart Festival ซึ่งนำเสนอดนตรีจากวงร็อคทั้งของท้องถิ่นและนานาชาติ สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มาเยือน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลตามตำนานที่ว่าในปี 1641 พระเจ้า Christian IV ได้ใช้ง่ามเดินของพระองค์ทำเครื่องหมายสี่มุมของเมือง และจากนั้นได้วางแผนถนนในรูปแบบตาราง ซึ่งจุดศูนย์กลางของเมืองที่เรียกว่า Kvadraturen ยังคงมีรูปแบบนี้แม้จะประสบกับเหตุไฟไหม้หลายครั้ง นอกจากนั้น ยังมี Posebyen ซึ่งเป็นชุมชนบ้านไม้ที่เชื่อมต่อกันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ และมีตลาดในวันเสาร์ในฤดูร้อนที่คึกคัก นอกจากนี้ ตลาดปลา Fisketorvet ที่ตั้งอยู่ใกล้กับมุมใต้ของตารางเมืองก็พร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทะเลสดใหม่ ตั้งแต่กุ้งหอยปูปลา ให้คุณเต็มอิ่มกับรสชาติท้องถิ่นที่คุณไม่ควรพลาด เติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณที่คริสเตียนซัน สัมผัสวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป!

แอนต์เวิร์ป (Antwerp) ถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดดเด่นอยู่ในประเทศเบลเยียม เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองแห่งเพชรและศิลปะที่สำคัญของยุโรป ด้วยบรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยสร้างสรรค์ผลงานที่นี่ เช่น รูเบนส์ และติซิปิเยอ ไม่เพียงแต่มีความงามของศิลปะเท่านั้น แต่แอนต์เวิร์ปยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเพชรที่มีชื่อเสียง ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและโชว์รูมเพชรที่สวยงาม นอกจากอุตสาหกรรมเพชรแล้ว เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของแฟชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการออกแบบที่ไม่ซ้ำใครและน่าค้นหา และยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น พิพิธภัณฑ์แม่บ้าน รูเบนส์ ซึ่งเป็นบ้านของศิลปินชื่อดัง พร้อมด้วยหอศิลป์อีกมากมาย สัมผัสบรรยากาศสุดหรูในย่านเก่าแก่ของแอนต์เวิร์ป เดินช้อปปิ้งที่ถนนแฟชั่น และเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง จึงไม่แปลกใจเลยที่แอนต์เวิร์ปจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันถึง ระหว่างการเดินทางสำรวจเมืองนี้ คุณจะได้ค้นพบความงดงามที่ซ่อนอยู่และสัมผัสถึงความสร้างสรรค์อันไม่มีที่สิ้นสุดในแอนต์เวิร์ป เมืองที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับคุณด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร.
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

ท่าเรือ Cowes บนเกาะ Isle of Wight เป็นสถานที่ที่เสมือนหนึ่งเป็นอังกฤษในรูปแบบย่อ สถานที่แห่งนี้มีชายหาดสวยงามและหมู่บ้านที่มีบ้านทรงโดมรอบกัก โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมที่ทุกคนจะมาร่วมงาน Cowes Week งานแข่งขันเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหราชอาณาจักรที่เปรียบเสมือน "Ascot ของนักเดินเรือ" และเต็มไปด้วยสีสันจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เกาะ Isle of Wight เป็นที่รู้จักในฐานะที่ประทับฤดูร้อนของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย และเป็นที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ที่น่าประทับใจ เช่น Osborne House ซึ่งมีการออกแบบอย่างงดงามโดยเจ้าชายอัลเบิร์ต สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ แหลม Needles ที่เป็นที่ตั้งของเสาหินปูนสูงตระหง่าน และหมู่บ้าน Shanklin ที่มีหน้าผาสีทอง ที่ Cowes ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งจากสินค้ามารีน แว่นตายอช และของที่ระลึกที่ทำจากทรายสีสันสดใส ร้านอาหารที่แนะนำคือ Amadeus Restaurant ซึ่งเสิร์ฟอาหารทะเลและเมนูอังกฤษยอดนิยม สัมผัสความงดงามของเกาะ Isle of Wight และสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในทุกย่างก้าว เมื่อคุณมาท่าเรือ Cowes ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันสวยงาม

ฟาวี (Fowey) เมืองท่าสไตล์อังกฤษที่ตั้งอยู่ในปากแม่น้ำท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการนำเข้าดินเหนียวและเป็นจุดนัดพบของผู้ที่หลงใหลในกีฬาทางทะเล ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับดาราและคนมีชื่อเสียงที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน ซึ่งคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศอันสงบและอบอุ่นจากร้านอาหารและที่พักที่มีให้เลือกหลากหลาย มาชมความงามในช่วง Regatta Week ณ กลางถึงปลายเดือนสิงหาคม หรืองาน Fowey Festival of Words and Music ในกลางเดือนพฤษภาคม ที่จะช่วยเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้ที่มาเยือน ฟาวีเชื่อมต่อกับเมืองอื่น ๆ ผ่านบริการเรือข้ามฟาก Bodinnick และ Polruan ที่รองรับทั้งรถยนต์และผู้โดยสาร อีกทั้งหากคุณเดินทางไปทางตะวันตกประมาณไม่กี่ไมล์ จะพบกับสวนที่แตกต่างกันสองแห่ง ได้แก่ Eden Project สวนพฤกษศาสตร์สุดล้ำจากทั่วโลก และ Lost Gardens of Heligan ที่ได้รับการฟื้นฟูให้มีชีวิตชีวาในยุควิกตอเรีย ช่วยเปิดประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อคุณมาเยือนฟาวี คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่เหมือนใครและสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางอีกครั้ง.


เกาะไอร์แลนด์เป็นที่รู้จักในชื่อเสียงของมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย และเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้คือ แกลเวย์ (Galway) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกในจังหวัดคอนน็อคต์ เมืองนี้มีที่ตั้งที่งดงามบนแม่น้ำคอริบ ระหว่างทะเลสาบคอริบและอ่าวแกลเวย์ โดยล้อมรอบด้วยเขตแกลเวย์ เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ล้ำยุค มีร้านค้าเฉพาะที่เจ้าของท้องถิ่นมักจะนำเสนอสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น เช่น งานฝีมือที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยมือ ศูนย์กลางของเมืองคือ อีร์สแควร์ (Eyre Square) สถานที่นัดพบที่นิยม ในขณะที่ร้านค้าและผับแบบดั้งเดิมที่มักจะมีเพลงพื้นบ้านไอริชสดให้ได้ฟังอย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ ถนนในย่านลาติน (Latin Quarter) ยังเรียงรายไปด้วยคาเฟ่พักผ่อน บูติก และแกลเลอรีศิลปะที่บอกเล่าความเป็นมาของเมืองที่โอบล้อมไปด้วยกำแพงเมืองยุคกลาง ด้วยชื่อเล่นว่า "เมืองแห่งเผ่า" แกลเวย์ได้สืบทอดมรดกของครอบครัวพ่อค้าที่มีอิทธิพลในประวัติศาสตร์เมือง ซึ่งสะท้อนถึงความภูมิใจและมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน การเยี่ยมชมแกลเวย์จึงเป็นการสำรวจสุนทรียภาพทางวัฒนธรรมและความงามธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการเดินทางของคุณ
Killybegs เมืองชายฝั่งที่เงียบสงบในแคว้น Donegal ของไอร์แลนด์ เป็นเมืองตกปลาอันดับหนึ่งของประเทศ ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศสดชื่นและอากาศทะเลที่เย็นสบาย ซึ่งดึงดูดให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเสน่ห์ของการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เรือประมงที่เรียงรายอยู่ริมท่าเรือพร้อมล่องไปในรุ่งเช้า เป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจในช่วงต้นวัน Killybegs ยังเป็นประตูสู่ทัศนียภาพชายฝั่งที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นการชมประภาคารขาวสะอาดที่คอยเตือนภัยแก่เรือในทะเล หรือการเดินเล่นไปตามชายฝั่งอันตื่นตาตื่นใจ ขึ้นไปชมความงามของ Slieve League ที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก ตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความตื่นเต้นเมื่อได้มองเหล่าผาสูงชันที่ดิ่งลงสู่ทะเล ใน Killybegs คุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่บรรยากาศการตกปลาจริง ไปจนถึงการสำรวจธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ หากคุณกำลังมองหาจุดหมายที่น่าพิสูจน์ และสัมผัสการเดินทางที่ไม่ธรรมดา Killybegs คือคำตอบสำหรับคุณในการผจญภัยครั้งหน้าในไอร์แลนด์

โอบาน (Oban) มนต์ขลังแห่งชายฝั่งสกอตแลนด์ เสมือนชาร์จชีวิตใหม่ให้กับนักเดินทาง ด้วยความหมายแปลว่า "อ่าวเล็ก" ในภาษาเกลิค เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 8,500 คนนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเขตเวสต์ไฮแลนด์ และเป็น "Gateway to the Isles" ที่มอบทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขา ทะเลสาบ และหมู่เกาะที่ดึงดูดศิลปิน และนักเขียนจากทั่วทุกมุมโลกมายาวนาน เมื่อคุณเดินทางมาที่โอบาน คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะปราสาทดุนอลลี (Dunollie Castle) ที่มีอายุราว 600 ปี เป็นดั่งยามพิทักษ์ของอ่าวแห่งนี้ โอบานไม่เพียงแต่มีฉากหลังที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางไปสู่เกาะมัลล์ (Mull), คอลล์ (Coll), และไอเลย์ (Islay) สถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เมื่อราชินีวิคตอเรียเสด็จมาเยือนและให้ความเห็นว่าเป็น "หนึ่งในจุดที่งดงามที่สุดที่เราเคยพบ" ทำให้โอบานกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่มีวันเลือนลับ คุณสามารถเดินเที่ยวชมศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ หรือจะขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปสำรวจเกาะต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่หลากหลายและน่าหลงใหล

อูลลาปูล (Ullapool) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของทะเลสาบโลช บรูม (Loch Broom) ในสกอตแลนด์ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้รักการเดินป่าและการสำรวจธรรมชาติ โดยเฉพาะการล่องเรือไปยังหมู่เกาะซัมเมอร์ (Summer Isles) ที่สวยงาม เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1788 ในฐานะสถานีประมงเพื่อจับปลาเฮอริ่ง ปัจจุบันอูลลาปูลยังคงรักษาความเป็นเมืองประมงที่มีเรือประมงและเรือยอชต์จากต่างประเทศที่มาเยือน เมื่อมีเรือเฟอรีจากลีวิส (Lewis) มาถึง ท่าเรือของอูลลาปูลจะมีชีวิตชีวา คับคั่งไปด้วยผู้คนและบรรยากาศที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เมืองนี้มีความรู้สึกเหมือนเป็นหมู่บ้านนานาชาติ การเดินทางมาที่อูลลาปูลไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ยังเป็นโอกาสในการเปิดโลกให้กว้างขึ้นผ่านกิจกรรมการสำรวจธรรมชาติอันตระการตา หากคุณต้องการผจญภัยในทิวทัศน์ที่งดงามของสกอตแลนด์ ไม่ควรพลาดที่จะตั้งใจเยี่ยมชมอูลลาปูล เมืองแห่งความฝันที่รอการค้นพบจากนักเดินทางเช่นคุณ.

ท่าเรือเมืองทอร์ชาวน์ (Tórshavn) ประเทศหมู่เกาะแฟโร ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาค แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย ท่าเรือที่งดงามเป็นที่ตั้งของเรือสำราญมากมาย และยังมีเสน่ห์ของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในทอร์ชาวน์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของบ้านเมืองเล็ก ๆ ที่น่าหลงใหล ปล่องภูเขาไฟรอบด้านและทิวทัศน์อันงดงาม เผยให้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เมืองนี้มีเสน่ห์ของบ้านไม้สีสันสดใสที่เรียงรายอยู่ริมถนน และการเดินสำรวจโดยรอบยังทำให้เห็นถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างชัดเจน นอกจากการสำรวจท่าเรือและย่านเมืองเก่า นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น การเดินป่าไปยังภูเขานูมูร์หรือนั่งเรือไปชมความงดงามของชั้นภูเขาและน้ำตกที่สวยงามไม่ไกลจากเมือง ทอร์ชาวน์จึงไม่ใช่เพียงแค่จุดหมายในการจอดเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่วัฒนธรรมและการผจญภัยในใจกลางธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย เพลิดเพลินกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนที่นี่เถิด!

ฮีมาอี ของไอซ์แลนด์ คือจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางด้วยเรือสำราญ สัมผัสกับบรรยากาศของเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของการระเบิดภูเขาไฟที่น่าพิศวงเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ซึ่งทำให้เกาะนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อ แต่ด้วยความกล้าหาญของผู้คนบนเกาะที่ได้ใช้น้ำทะเลหยุดยั้งลาวาจากภูเขาไฟเอลด์เฟล ทำให้ท่าเรือยังคงเปิดอยู่และอุตสาหกรรมการประมงที่มีความสำคัญยังคงยืนยาวต่อไป เดินเที่ยวตามถนนที่สวยงามในฮีมาอี ที่รายล้อมไปด้วยบ้านไม้สีขาว เรายังสามารถชมปราสาทหินภูเขาไฟที่ตระการตาที่เสมือนลอยอยู่เหนือน้ำ ส Revealing Nature of Iceland—through its landscapes, wildlife, and the warmth of its people—คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่มีที่ไหนเหมือน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติโดยใกล้ชิด ต้องไม่พลาดไปสำรวจชายฝั่งที่เต็มไปด้วยชีวิตทะเล รวมถึงนกพันธุ์หายากที่อพยพมาที่นี่ นอกจากการเดินชมหรือท่องเที่ยวแบบมีไกด์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุนี้ ฮีมาอี จึงเป็นจุดหมายที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ถึง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางหาทางออกใหม่ๆ ในชีวิต.

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) คือหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ให้บรรยากาศสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และภูเขาสูงตระหง่านที่งดงาม การเดินทางมาที่นี่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความมหัศจรรย์ ราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาดที่มีชีวิต จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกรนดาร์ฟยอร์ดูร์คือ "ภูเขาสการ์ฟตาเฟล" (Kirkjufell) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเฉพาะและได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ การขึ้นไปชมวิวจากยอดเขา คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังมีน้ำตก Kirchjufellsfoss ที่สวยงามท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม นอกจากธรรมชาติแล้ว เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถสัมผัสชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ดั้งเดิม ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและบ้านเรือนที่ถูกปรับปรุงให้สวยงาม ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ ณ เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่อันดับต้น ๆ ของประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม

ในประเทศไอซ์แลนด์ ท่าเรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไอซาฟยอร์ดูร์ (Isafjördur) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่น่าประทับใจตั้งอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของภูเขาหินสูงโปร่งทั้งสองข้าง แต่ยังตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ยื่นออกไปในน้ำฟยอร์ดสีดำลึกอีกด้วย การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสดใสและทันสมัยของเมืองเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวา พรั่งพร้อมไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติอร่อย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น ไอซาฟยอร์ดูร์ไม่เพียงแต่มีความสวยงามแบบธรรมชาติ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการผจญภัยกลางธรรมชาติที่งดงามของไอซ์แลนด์ ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือการเล่นสกี เดินป่า และกีฬาทางน้ำ ล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความดิบของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อย่าลืมสัมผัสกลิ่นอายแห่งการผจญภัยที่รอให้คุณค้นพบ ณ ท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนในการเดินทางของคุณในไอซ์แลนด์!

อาคูเรย์รีเป็นเมืองหลวงของภาคเหนือของไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เป็นเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ริมฟยอร์ดอันงดงามยาว 60 กิโลเมตร ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ทำให้ได้รับการปกป้องจากลมทะเลอันรุนแรง สถาปัตยกรรมไม้สไตล์ศตวรรษที่ 19 ยังบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่นี่ ขณะที่โบสถ์ลูเธอแรนที่มีหอคอยคู่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเขียวข้างริมฟยอร์ด ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของเมือง นอกจากความงามของเมืองแล้ว อาคูเรย์รียังมีภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง ด้านใต้ของเมืองมีภูเขาไรโอลิตที่มีรูปพีระมิดชื่อว่า ซูลูร์ และเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะอีกด้านคือเคอริง ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตเอจาฟยอร์ด คุณจะได้พบกับการเดินป่าและการสำรวจธรรมชาติอันรุ่งโรจน์ในพื้นที่นี้ มาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของอาคูเรย์รีดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และความงดงามของธรรมชาติ ที่นี่จะทำให้การเดินทางของคุณกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน และกระตุ้นให้คุณค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในทุกย่างก้าว

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติและวัฒนธรรมโบราณ ท่าเรือ Qaqortoq หรือที่รู้จักในชื่อ Julianehaab บนเกาะกรีนแลนด์คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ในภาคใต้ของเกาะกรีนแลนด์ Qaqortoq เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัย prehistoric จนถึงปัจจุบัน เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เมืองนี้ คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของทะเลฟยอร์ด และภูเขาที่ล้อมรอบเมืิอง น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มและทะเลสาบ Tasersuag รวมถึงภูมิประเทศที่สวยงามให้คุณได้สัมผัส ประวัติศาสตร์ของ Qaqortoq เริ่มขึ้นตั้งแต่ 4,300 ปีที่แล้ว เมืองนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนอร์สและชาวอินูอิตในศตวรรษที่ 10 และ 12 และได้รับการก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1774 ปัจจุบัน Qaqortoq กลายเป็นท่าเรือสำคัญที่มีศูนย์กลางในการประมงและกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การผลิตอาหารทะเล การผลิตหนังสัตว์ และการซ่อมแซมเรือ ที่นี่ไม่เพียงแต่นำเสนอคนรักการท่องเที่ยวในเรื่องราวและวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ยังมอบโอกาสในการสำรวจความงดงามตามธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ในแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกเลย

นานอร์ตาลิค (Nanortalik) เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในใจกลางธรรมชาติอันงดงามของกรีนแลนด์ ย่านนี้มีภูเขาสูงตระหง่านล้อมรอบ และถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของเกาะ ตัวเมืองมีประชากรน้อยกว่า 1,500 คน และชื่อ "นานอร์ตาลิค" แปลว่า "สถานที่ของหมีขั้วโลก" ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงหมีขั้วโลกที่曾เคยเห็นลอยอยู่บนแผ่นน้ำแข็งในฤดูร้อน หนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจของนานอร์ตาลิคคือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวอินูอิต โดยเฉพาะการจัดแสดงแคมป์ล่าสัตว์ในฤดูร้อน ที่ทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีอันงดงามของบรรพบุรุษชาวอินูอิต อีกทั้งยังมีช่างฝีมือท้องถิ่นที่แต่งกายชุดดั้งเดิมมาแบ่งปันเรื่องราวและวัฒนธรรมได้อย่างมีชีวิตชีวา หากคุณมองหาประสบการณ์การเดินทางที่พิเศษและเป็นเอกลักษณ์ นานอร์ตาลิคคือจุดหมายที่ชวนให้คุณหลงใหล พื้นที่นี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวของชาวอินูอิต แต่ยังมีธรรมชาติที่งดงามและการต้อนรับอันอบอุ่นจากชาวเมืองรอคุณอยู่ ถ้าคุณมีโอกาสไปเยือน อย่าลืมสัมผัสความมหัศจรรย์ของที่นี่ให้ได้!


ถ้าหากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางอันน่าตื่นเต้น ท่าเรือ L'Anse aux Meadows ในจังหวัดนิวฟันด์แลนด์และลาบราดอร์ของแคนาดาคือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่ประวัติศาสตร์ที่โด่งดังซึ่งเชื่อว่ามี Vikings จากกรีนแลนด์และไอซ์แลนด์เดินทางมาลงหลักปักฐานในช่วงปี 1000 ถือเป็นการตั้งถิ่นฐานยุโรปครั้งแรกในทวีปอเมริกาเหนือ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและความงดงามของธรรมชาติที่คงอยู่ L'Anse aux Meadows เป็นที่พักผ่อนที่ๆคุณสามารถชมวิวทะเลและภูเขาน้ำแข็งในฤดูร้อน พร้อมทั้งมีโอกาสเห็นวาฬและหมีขั้วโลกในฤดูใบไม้ผลิ ในชุมชนเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 40 คนนี้ คุณจะได้สัมผัสประวัติศาสตร์อันลึกลับของที่ตั้งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก สถานที่สำคัญคือ L’Anse Aux Meadows National Historic Site ซึ่งเป็นแกนกลางของการท่องเที่ยวในกิจกรรมที่เกี่ยวกับ Vikings เสนอโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Leif Erikson และการสำรวจบริเวณนี้ การเดินทางที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ และเสน่ห์ของธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครในโลก ด้วยการผจญภัยและความรู้ที่รอคุณอยู่ที่แคนาดา จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมการเดินทางมายัง L'Anse aux Meadows จะเป็นความฝันที่น่าพิสูจน์ไปตลอดชีวิตของคุณ

เมื่อเรือสำราญนำท่านมาถึงท่าเรือ Gaspé ในจังหวัดควิเบก ประเทศแคนาดา ท่านจะได้รับการต้อนรับด้วยทิวทัศน์อันงดงามของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง รับประสบการณ์ประทับใจในการเยี่ยมชมจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์นี้ ซึ่งเป็นประตูสู่การสำรวจความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของแคนาดา Gaspé ถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นพื้นที่ที่นักสำรวจในอดีตได้ตั้งรกรากแรก ๆ และมีจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น Percé Rock สัญลักษณ์อันโดดเด่นที่ยื่นออกทะเล นอกจากนี้ ท่านยังสามารถสัมผัสกับความงามตามธรรมชาติที่ Parc national de Forillon ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์ที่ให้ท่านได้เดินชมเส้นทางธรรมชาติและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเดิมทะเล สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม ท่าเรือ Gaspé ยังมีพิพิธภัณฑ์และศูนย์ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่จะแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและประเพณีอันล้ำค่าของชาวเอสกิโมและชาวพื้นเมืองอื่น ๆ ช่วยให้ท่านเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่จะทำให้การเดินทางของท่านเต็มไปด้วยความรู้และน่าหลงใหล อย่าพลาดที่จะเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่จากท้องถิ่นที่ร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่ ที่จะทำให้ท่านหลงใหลในการใช้ชีวิตอย่างแท้จริงใน Gaspé ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบในการเยือนแคนาดา.

ท่าเรือ Cap-aux-Meules ที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะ Magdalene ในจังหวัดควิเบคของแคนาดานั้น ถือเป็นศูนย์กลางแห่งความงดงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว บริเวณนี้มีทัศนียภาพที่สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางที่หลงใหลในความสงบหรือผู้ที่ต้องการสัมผัสการผจญภัยในธรรมชาติ เมื่อคุณลงจากเรือสำราญที่ท่าเรือ Cap-aux-Meules คุณจะได้พบกับชายหาดที่สวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด และวิวทิวทัศน์ที่ตระการตา โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกสนาน เช่น การว่ายน้ำและการเล่นกีฬาทางน้ำ นอกจากนี้คุณยังมีโอกาสได้ชิมอาหารทะเลสดใหม่และท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง เช่น Lobster และ Scallops ที่นี่คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งในด้านศิลปะ ดนตรี และเทศกาลต่างๆ ที่สืบทอดกันมายาวนาน นอกจากความงามของธรรมชาติแล้ว Cap-aux-Meules ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจหมู่เกาะ Magdalene อันมีเสน่ห์ ด้วยการพาไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายภาพมุมสูง นั่งเรือชมทิวทัศน์ของเกาะต่างๆ ที่สวยงาม การเดินทางครั้งนี้จะทำให้คุณเต็มไปด้วยความประทับใจและความทรงจำที่ไม่รู้ลืม เก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่ Cap-aux-Meules กันเถอะ!

เมื่อคุณมาถึงซิดนีย์ นอฟสโกเชีย ซึ่งเป็นประตูสู่เกาะเคปเบรตัน ทั้งจากเที่ยวบิน เรือเฟอร์รี่ หรือเรือสำราญ คุณจะพบกับเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ นี่คือเมืองเดียวของเกาะที่ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศในแบบเมืองใหญ่ แม้ว่าซิดนีย์จะไม่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหล็กที่รุ่งเรืองเหมือนในอดีต แต่เมืองนี้มีเสน่ห์ด้วยท่าเรือที่ได้รับการปรับปรุงและอาคารสไตล์ลอยัลลิสต์อันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ พิพิธภัณฑ์คนงานเหมืองในเมืองเกลซเบย์ ซึ่งมีชื่อเสียงจากน้ำแข็งที่เคยปกคลุมท่าเรือในฤดูหนาว และป้อมปราการที่ลุยส์บูร์ก ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีต รวมถึงทะเลสาบบราซดอร์ที่สวยงาม โดยไม่ว่าจะเป็นการเดินชมธรรมชาติหรือสำรวจประวัติศาสตร์ ซิดนีย์คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยการผจญภัยสำหรับผู้รักการเดินทาง คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของวิถีชีวิตของชาวแคนาดาในบรรยากาศที่น่าหลงใหลและสงบสุขในทุกมุมมอง

ฮาลิแฟกซ์ (Halifax) เมืองหลวงแห่งโนวาสโกเชีย (Nova Scotia) คือจุดหมายปลายทางที่เพียงคุณก้าวเท้าเข้ามา จะรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันงดงามและความเป็นสมัยใหม่ เกือบตลอดทั้งปี คุณจะแวดล้อมไปด้วยเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างมีสไตล์ บาร์และร้านอาหารที่มีชื่อเสียง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย ฮาลิแฟกซ์ตั้งอยู่ระหว่างทิวทัศน์ทะเลอันสวยงามและท่าเรือธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือขนส่งจำนวนมาก รวมถึงเรือสำราญ เรือข้ามฟาก และเรือท่องเที่ยว นับเป็นสถานที่ที่ควรเยือนไปสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นอกจากนี้ จุดเด่นทางสถาปัตยกรรมสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันยาวนาน เมืองแห่งนี้เป็นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจจังหวัดแอตแลนติกที่สวยงาม และหากคุณไม่สะดวกเดินทางไปที่อื่นๆ ฮาลิแฟกซ์ก็นำเสนอประสบการณ์ที่ครบถ้วน ซึ่งทำให้คุณสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจโบราณสถาน หรือใช้เวลาเดินเล่นที่ยาวที่สุดในโลกริมท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะพลิกฟื้นความฝันในการเดินทางได้ที่นี่อย่างแน่นอน
เชิญสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่น่าหลงใหล ณ ท่าเรือเชลเบิร์น (Shelburne) ในจังหวัดโนวาสโกเชีย แคนาดา ท่าเรือแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และเป็นที่รู้จักในนามหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามและเงียบสงบที่สุดในแคนาดา เชลเบิร์นตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกนำเสนอทัศนียภาพที่งดงามของทะเล มีการจัดแสดงวัฒนธรรมและมรดกทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่หลงใหลในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอดีต เมื่อเรือสำราญนำคุณมาถึงที่นี่ คุณจะได้สัมผัสความงดงามของศิลปะการทำเรือ และย้อนเวลาไปกับการเดินชมในย่านเมืองเก่าที่มีบ้านไม้ยุคอาณานิคม ตั้งแต่การเดินชมถนนที่ประดับด้วยต้นไม้ไปจนถึงการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถาน ที่ซึ่งจะพาคุณไปสัมผัสความทรงจำของชาวเรือและผู้ตั้งถิ่นฐานเป็นเวลา เชลเบิร์นยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบเพื่อสำรวจธรรมชาติที่สวยงามของโนวาสโกเชีย เช่น การเดินป่าสำรวจแนวชายฝั่ง ประสบการณ์การพายเรือคายัคในป่าชายเลน หรือเพลิดเพลินกับชายหาดที่เงียบสงบ ทุกสิ่งที่คุณพบที่นี่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน อย่าพลาดโอกาสที่จะสร้างความทรงจำที่มีค่าที่ท่าเรือเชลเบิร์น แห่งนี้!

พอร์ตแลนด์ รัฐเมน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเมน และตั้งอยู่บนคาบสมุทร Casco Bay ซึ่งถูกก่อตั้งในปี 1632 เมืองนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากการก่อสร้างเรือและการส่งออกไม้สนที่มีคุณภาพสูง ฟากฝั่งทะเลที่ทอดยาวมีท่าไม้ยาวเหยียดทำให้พอร์ตแลนด์เปลี่ยนเป็นเมืองที่มีบรรยากาศทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย การมาถึงของทางรถไฟช่วยให้การขนส่งสินค้าและวัตถุดิบจากแคนาดาและทุ่งกว้างของสหรัฐฯ สะดวกมากยิ่งขึ้น ท่านักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเก่าที่มีเสน่ห์ใน Old Port ซึ่งมีร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ ที่เสิร์ฟอาหารอร่อยหลากหลายประเภท ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ ร้านกาแฟ และร้านอาหารแบบชั้นสูง โดยเฉพาะที่ Portland Museum of Art ที่มีคอลเล็กชันศิลปะที่ยอดเยี่ยม เมื่อเรือพิพัฒนามาจอดที่ Terminal ของพอร์ตแลนด์ ผู้โดยสารสามารถเดินไปยัง Old Port District ได้ง่าย ๆ ใช้เวลาเพียงสองช่วงตึก นอกจากนี้ยังมีรถแท็กซี่คอยบริการ นักช้อปสามารถเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกจากร้านค้าหลายแห่งในพื้นที่ หรือจะออกไปเยือน Freeport เพื่อพบกับร้านค้าแบรนด์เนมที่ลดราคา ไม่ควรพลาดที่จะสำรวจ Portland Head Light และ Fort Williams Park ที่สวยงาม รวมถึง Kennebunkport หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ เป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูร้อนของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช ทำให้พอร์ตแลนด์เต็มไปด้วยความอิ่มเอมและแรงบันดาลใจในการเดินทางอย่างแท้จริง

ท่าเรือบอสตัน, แมสซาชูเซตส์ เป็นประตูสู่ประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างแท้จริง โอบล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้าและโรงแรมเก่าแก่ ท่ามกลางถนนหินกรวดโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอดีต บอสตันจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างความเป็นสมัยใหม่และความคลาสสิค นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของตลาดสมัยใหม่ รวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมในแหล่งการค้าต่างๆ เช่น ตลาด Faneuil Hall ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดัง นอกจากนี้ บอสตันยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พิพิธภัณฑ์บริจาคที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และการเดินตามเส้นทาง Freedom Trail ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสประวัติศาสตร์อเมริกันตั้งแต่เริ่มแรก การล่องเรือในอ่าวบอสตันยังเป็นข้อเสนอที่ไม่ควรพลาด เพื่อดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่งดงาม พร้อมชมแลนด์มาร์คที่สำคัญอย่าง USS Constitution และโรงละครที่มีชื่อเสียง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ พบกับประสบการณ์สุดพิเศษและสร้างความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนในบอสตัน เมืองที่มีแต่อดีตและความทันสมัยผสมผสานอย่างลงตัว คอยต้อนรับนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก

นิวยอร์ก ซิตี้ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยพลังอันเหลือล้น โดยมีแลนด์มาร์กชื่อดังจากวอลสตรีทสูงตระหง่านไปจนถึงแสงไฟนีออนของไทม์สแควร์ และเส้นทางในเซ็นทรัลพาร์คที่เงียบสงบ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางที่หลอมรวมความบันเทิง แฟชั่น สื่อ และการเงินอย่างกลมกลืน มูลนิธิแห่งศิลปะโมม่า (MoMA) และรูปปั้นเทพีเสรีภาพ ล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ความงามที่แท้จริงของนิวยอร์กยังคงรอให้คุณค้นพบอยู่ในมุมที่น้อยคนจะรู้จัก สำรวจถิ่นชุมชนทางเชื้อชาติที่หลากหลาย และร้านค้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ รวมถึงถนนประวัติศาสตร์ที่มีบ้านสไตล์บราวน์สโตน นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกเพลิดเพลินกับบาร์และร้านอาหารทันสมัยหลายแห่งที่สะท้อนวิถีชีวิตของเมืองนี้ได้อย่างชัดเจน ทุกมุมที่คุณเดินผ่านคือโอกาสที่คุณจะสัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลายและประสบการณ์ที่นำคุณเข้าสู่ชีวิตของชาวนิวยอร์กอย่างแท้จริง ตราบใดที่เหนือเมืองมีความฝัน ภายในนิวยอร์ก คุณสามารถค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่แสวงหาความหรูหราและประสบการณ์เหนือระดับ นิวยอร์กคือปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด.





สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 มีพื้นที่ภายในรวมทั้งสิ้น 1,292 ตารางฟุต (120 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงสองแห่งขนาดรวม 244 ตารางฟุต (23 ตารางเมตร) ท่านสามารถรวมสวีท 849 และ 851 หรือสวีท 846 และ 848 เพื่อสร้างสวีท 8491 หรือ 8468 ภายในสวีทจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเพียงพอ พื้นที่รับประทานอาหารสำหรับหกคน สวนสวยที่มีหลังคาปิดด้วยอ่างอาบน้ำและเตียงนอนอันแสนสบาย ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล สวีทนี้มีสองห้องนอนพร้อมห้องน้ำอีกสองห้อง (หนึ่งในนั้นมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล) นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดแบบพับได้สำหรับผู้เข้าพักเพิ่มเติม ครัวขนาดเล็กมีบาร์เปียกและยังมาพร้อมกับทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการ อินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรี ซึ่งทำให้สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบายบนเรือสำราญของท่าน




ห้องพักวิลล่า Wintergarden ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 ซึ่งเป็นห้องสวีทกลางเรือ โดยมีพื้นที่ภายใน 989 ตารางฟุต (92 ตารางเมตร) และระเบียงขนาด 197 ตารางฟุต (18 ตารางเมตร) ห้องพักนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ สำหรับการรับประทานอาหาร ห้องนี้สามารถรองรับได้ถึง 6 ท่าน พร้อมอ่างจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ที่นอนโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อรองรับผู้เข้าพักหนึ่งท่าน ห้องครัวเล็กมีบาร์เปียก และยังมีโรงเรือนแบบกระจกซึ่งมีอ่างและเตียงชายหาด ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าสองตู้ และทีวีจอแบนสองเครื่อง พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตฟรีและบริการ Wi-Fi เพื่อความสะดวกสบายของคุณในทุกช่วงเวลาที่เข้าพักในห้องพักสุดหรูนี้


ซิกเนเจอร์สวีท ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าที่ 8 ห้องสวีทหมายเลข 800 และ 801 มีพื้นที่ภายในประมาณ 977 ตารางฟุต พร้อมระเบียงขนาด 960 ตารางฟุต (89 ตารางเมตร) ที่มอบวิวทะเลกว้างขวางและหน้าต่างหันหน้าไปข้างหน้า ห้องสวีทนี้เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน และมีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบวนระบบ รวมถึงห้องน้ำสำหรับแขก พื้นที่บริการอาหารพร้อมบาร์และทีวีจอแบนสองเครื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเข้าพักอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์ในซิกเนเจอร์สวีทแห่งนี้.


เจ้าของสวีท (Owner's Suites) ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 7, 8, 9 และ 10 มีพื้นที่ภายในขนาดกว้างระหว่าง 576 ถึง 597 ตารางฟุต (54 ถึง 55 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงขนาดตั้งแต่ 142 ถึง 778 ตารางฟุต (13 ถึง 72 ตารางเมตร) ซึ่งมอบมุมมองมหาสมุทรที่กว้างขวางและหน้าต่างด้านหน้าเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มที่ ห้องอาหารสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 4 ถึง 6 ท่าน พร้อมห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ทั้งยังมีพื้นที่ครัวที่มีบาร์เปียก สำหรับความบันเทิง ห้องนี้มีทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการอินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรีให้ใช้งานอีกด้วย สำหรับห้องที่รองรับผู้พิการ จะมีห้องอาบน้ำแบบปรับระดับให้บริการเท่านั้น

ห้องชุดการรับประกันเป็นห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ในการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร โดยมีขนาดกว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมของเรือสำราญ ห้องนี้มีการตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ทีวีจอแบน, ตู้เย็น, และเครื่องชงกาแฟ เพื่อทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ระเบียงส่วนตัวเปิดให้คุณสัมผัสกับวิวทะเลอันงดงาม และเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหลังจากวันที่เต็มไปด้วยกิจกรรม ตลอดจนการบริการระดับพรีเมียมที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเฉิดฉายยิ่งขึ้น


เพนท์เฮาส์สปาสวีทบนเรือสำราญทุกห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวที่งดงาม พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและประตูแก้วสู่ระเบียงส่วนตัว มีเตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้เซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่มีของพร้อมเสิร์ฟ โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์การเขียนที่มีชื่อของผู้เข้าพัก โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างและฝักบัวแยกต่างหาก มีเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และเครื่องเป่าผม รวมทั้งช่องเสียบไฟ 110/220V AC ทำให้เพนท์เฮาส์สปาสวีทนี้เป็นที่พักที่หรูหราและสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทบนเรือสำราญทุกห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และประตูบานกระจกเปิดสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมด้วยเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ขนาดเล็ก ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินรวมถึงเซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเต็มอย่างดี โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว ชุดเสื้อคลุมตัวนุ่ม รองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และเต้ารับไฟฟ้า 110/220V นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสองถึงสี่คน และห้องนอนแยกต่างหากเพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายอย่างสูงสุดในทุกการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทการันตี เป็นห้องพักที่มีความหรูหราตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยขนาดที่กว้างขวางและมุมมองที่สวยงาม ห้องนี้ประกอบด้วยห้องนอนแยกต่างหากและโต๊ะอาหารที่รองรับได้ถึงสี่คน เพื่อเอื้ออำนวยต่อการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีประตูกระจกที่นำไปสู่ระเบียงเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับสายลมทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องพักยังได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยทีวีจอแบนสองเครื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อนดูภาพยนตร์ในยามว่าง และบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการดื่มด่ำกับสิ่งที่คุณชื่นชอบ สำหรับห้องน้ำที่กว้างขวางก็มีอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และอ่างล้างหน้าใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลตัวเองที่ไม่เหมือนใคร เพลิดเพลินกับการพักผ่อนสุดหรูในเพนท์เฮาส์สวีทการันตี และสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจในวันหยุดของคุณ.


ห้องสวีทระเบียงทุกห้องมีหน้าต่างขนาดเต็มความยาวและประตูบานกระจกที่นำไปสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่สองเตียง มีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน และตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in นอกจากนี้ ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถเชื่อมต่อกับเพลงและภาพยนตร์ รวมถึงบาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มครบครัน โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำขนาดกว้างที่แยกโซนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำอย่างชัดเจน ห้องสวีทระเบียงเป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในทุกการเดินทางของคุณ

การรับประกันระเบียงมอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราในห้องสวีทที่กว้างขวาง ซึ่งมีหน้าต่างขนาดใหญ่และประตูบานกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดใหญ่หรือเตียงคู่ และโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าแบบเข้ารอบ ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกฝักบัวและอ่างอาบน้ำ รวมถึงทีวีจอแบนที่สามารถรับชมภาพยนตร์และเพลงต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างดี และโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความบันเทิง ด้วยตัวเลือกการรับประกันสวีท เราจะคัดสรรทำเลและห้องสวีทเฉพาะสำหรับคุณ พร้อมแจ้งให้ทราบก่อนวันเดินทาง ทำให้คุณมั่นใจว่าจะได้เข้าพักในห้องสวีทที่เลือกหรือห้องที่มีระดับสูงกว่าเสมอ

ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวคือห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ relaxation ในขณะที่ล่องเรือ ห้องพักนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเปิดรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูกว้างขวางและสดชื่น ภายในห้องตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ตั้งแต่เตียงนอนคุณภาพสูง ไปจนถึงบริการ Wi-Fi ที่รวดเร็ว ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายและเพลิดเพลินกับการพักผ่อนบนเรือสำราญที่หรูหรา