
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Ovation
Seabourn


ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือ Brindisi ในอิตาลี ประสบการณ์ที่รอคุณอยู่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งความงดงามที่ไม่ได้รับผลกระทบจากกาลเวลา ที่นี่ มรดกทางประวัติศาสตร์และทิวทัศน์อันงดงามของแผ่นดินอิตาลีจะต้อนรับคุณด้วยความอบอุ่นของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนยอดเขา กระจายตัวอยู่ในทุ่งมะกอกและไร่องุ่นที่เขียวขจี ในแนวชายฝั่งที่สวยงาม จะพบ cliffs ที่ยิ่งใหญ่และถ้ำลึกลับที่ถูกสร้างขึ้นจากธรรมชาติร่วมกับชายหาดยาวขาวสะอาด ซึ่งให้ความรู้สึกสงบเงียบ Brindisi นั้นไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นสวรรค์สำหรับคนรักอาหารอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในพาสต้าเส้นสดในซอสสุดคลาสสิค หรือ Caprese salad ที่ทำจากมะเขือเทศและโมซาเรลล่าชีสท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีเค้กเลมอนและสปาเก็ตตี้อัลวอโกเล้ ที่ทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติของท้องถิ่นอย่างแท้จริง ด้วยความงามที่ซ่อนเร้นนี้ Brindisi จึงเป็นปลายทางที่ห้ามพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ มาพบกับโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและแรงบันดาลใจจากอิตาลีที่ไม่เหมือนใครกันเถอะ!

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

เมื่อพูดถึงการเดินทางที่หรูหราในยุโรป คงไม่มีที่ไหนเทียบเท่ากับกรีซ ประเทศที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ท่าเรือเดลฟี (Delphi) ตั้งอยู่ในภูมิภาคฟ็อสซิส ซึ่งนับเป็นหนึ่งในจุดหมายที่พลาดไม่ได้สำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เดลฟีไม่เพียงเป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นเมืองโบราณที่ถูกยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางของโลกในยุคกรีกโบราณ ความสำคัญของที่นี่สะท้อนให้เห็นจากวิหารของอโพโลซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญ ชมการออกแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม และร่องรอยของประวัติศาสตร์ที่ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน การเดินทางไปยังท่าเรือเดลฟีจะทำให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของภูมิประเทศที่สวยงาม ขุนเขาและวัดโบราณที่ตั้งอยู่ในมุมมองที่น่าทึ่ง ทำให้นักเดินทางทุกคนรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง หากคุณมีเวลามากพอ อย่าลืมสำรวจบริเวณรอบด้าน โดยเฉพาะอ่าวกัลลิคาสที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม และชายหาดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน สัมผัสกับรสชาติอาหารแบบกรีกแท้ ๆ ที่จะสร้างความประทับใจในทุกคำ ปล่อยให้เดลฟีเป็นจุดเริ่มต้นของการพาคุณออกสำรวจแห่งความงามและอารยธรรมอันล้ำค่านี้ และรับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมไปพร้อมกับความหรูหราในแบบของคุณเอง

กีธีโอ (Gythio) เป็นท่าเรือที่สวยงามในประเทศกรีซ ตั้งอยู่ทางชายฝั่ง Peloponnese เป็นประตูสู่ความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ เปิดประตูให้คุณได้สัมผัสกับความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ที่นี่คุณจะได้พบกับชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใส ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้สำรวจประวัติศาสตร์อันยาวนานในเมืองโบราณของเมือง Sparta และโรงละครโรมันที่อยู่ใกล้เคียง เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้รักประวัติศาสตร์ ทางเข้าท่าเรือตกแต่งด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีร้านค้าขายของที่ระลึกและร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารกรีกจานเด็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซูฟลากิ (Souvlaki) และมาซาเลน (Moussaka) ที่คุณไม่ควรพลาด การเที่ยวที่กีธีโอนั้นไม่เพียงแต่เติมเต็มความสุขให้กับจิตใจ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจในทุกการเดินทาง อนาคตและอดีตที่ผสมผสานอย่างลงตัว รอคอยคุณอยู่ที่ท่าเรือแห่งนี้ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าประทับใจตลอดไป

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

มอเนมวาเซีย (Monemvasia) คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งกรีซ ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเพโลพอนนีส โดยมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เมื่อชาวกรีกที่หนีการโจมตีของชาวสลาฟมาพบที่นี่เป็นที่หลบภัย ในช่วงเวลาที่รุ่งเรือง มอเนมวาเซียได้ควบคุมการเดินเรือระหว่างแผ่นดินเลบานอนและชายฝั่งยุโรป เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงได้ขยายไปตามแนวลาดชันของยอดเขาสูงถึง 300 เมตร และล้อมรอบด้วยทะเล ในยุคหนึ่ง เมืองนี้เคยเป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ แต่ประชาชนเริ่มย้ายไปยังแผ่นดินใหญ่ ทำให้ประชากรลดน้อยลง จนกระทั่งมีโครงการฟื้นฟูเพื่อรักษามรดกของมอเนมวาเซีย เมืองเก่าเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อขึ้นไปบนเมืองสูง ยังมีซากป้อมปราการโบราณและโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) ให้ได้สำรวจ พร้อมทัศนียภาพที่งดงามของภูมิประเทศโดยรอบ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของกรีซ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของทะเลและภูเขาในดินแดนแห่งเทพนิยาย.

ท่าเรือ Agios Nikólaos ตั้งอยู่บนเกาะครีต ประเทศกรีซ เป็นจุดหมายที่มีเสน่ห์และความงดงาม ซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนและการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในด้านทัศนียภาพที่โดดเด่น โดยเฉพาะทะเลสีฟ้าครามที่สะท้อนกับแสงแดดอย่างงดงาม เมื่อเดินทางมาถึง Agios Nikólaos คุณจะถูกดึงดูดไปยังทะเลสาบ Voulismeni ที่มีตำนานและเรื่องเล่าหลายหลาก ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาสนสถานและคาเฟ่เล็ก ๆ ที่พร้อมให้บริการเมนูครีตแท้ ๆ เช่น ซุปเลนทิลและขนมหวานแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีชายหาดที่สวยงามรอบๆ สำหรับผู้ที่รักการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Agios Nikólaos จะพาคุณย้อนเวลาไปยังอดีตของเมือง ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าใจและสัมผัสวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของกรีซ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยผู้รักการสำรวจหรือผู้ที่ต้องการเพียงการพักผ่อนอย่างสงบสุข Agios Nikólaos คือจุดหมายที่คุณห้ามพลาดเมื่อมีโอกาสไปเยือนเกาะครีต สัมผัสกับเสน่ห์แห่งท้องทะเลและวัฒนธรรมที่นี่ แล้วความทรงจำจะอยู่ในใจคุณตลอดไป

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

**เสน่ห์ของท่าเรือเชสเมในตุรกี: จุดหมายที่น่าหลงใหล** ท่าเรือเชสเม (Çeşme) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของตุรกี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับความงดงามของทะเลเอเจียนและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เชสเมมีชายหาดที่งดงามที่สุดในตุรกี พร้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามใสสะอาด เหมาะแก่การว่ายน้ำและกีฬาทางน้ำหลายประเภท ไม่เพียงแต่ท่าเรือที่มีเสน่ห์ เชสเมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย เช่น ปราสาทเชสเม ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยจักรวรรดิออตโตมัน ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขา ให้วิวที่สวยงามมองออกไปเห็นทะเล นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วเมือง รวมถึงตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน สำรวจตลาดอาหารทะเลสดใหม่ และอย่าลืมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่อร่อยสุดขีด เช่น พิซซ่าแบบตุรกีหรือ "ชายลาซาน" อาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ทำให้การเดินทางมาที่นี่ไม่เพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการสัมผัสกับรสชาติและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร หากคุณใฝ่ฝันที่จะสัมผัสบรรยากาศของชายทะเลที่สวยงามและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เชสเมคือปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ!

ท่าเรือคูซาดาซี (Kusadasi) เป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของประเทศตุรกี เมืองตากอากาศแสนคึกคักนี้มีทั้งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และชีวิตชายหาดที่น่าตื่นตา แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือเมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus) ที่ถูกขุดค้นมาเพียง 20% ของทั้งหมด ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหานครโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในยุโรป เอเฟซุส ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล เป็นมรดกโลกของยูเนสโกและมีความงดงามที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าสถาปัตยกรรมอย่างวิหารอาร์เทมิสซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจะเหลือเพียงเศษซาก แต่ห้องสมุดเซลซัสยังคงยืนหยัดอย่างน่าประทับใจ ส่งเสริมให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีค่า นอกจากนี้ ยังมีบ้านของพระแม่มารีอยู่ใกล้เคียงบนเขานกไนท์เกล ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าเป็นสถานที่ที่พระแม่มารีได้ใช้ชีวิตในช่วงท้ายของชีวิต เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชมทุกคน สำหรับผู้ที่ไม่สนใจประวัติศาสตร์ คูซาดาซีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยชายหาดที่สวยงามอย่างชายหาดเลดี้ส (Ladies’ Beach) และร้านอาหารที่เสิร์ฟเคบับตุรกีอร่อย ๆ อีกมากมาย การเดินทางไปยังชายหาดที่ใสสะอาดของกูเซลคัมลิ (Guzelcamli) และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ปามุคคาเล (Pamukkale) ก็จะทำให้ความฝันในการสำรวจโลกของคุณเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย

อิสตันบูล เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีป เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม อิสตันบูลเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์และออตโตมัน ได้รวบรวมสถาปัตยกรรมที่งดงาม อย่างเช่น โบสถ์อายา โซเฟีย (Aya Sofya) และมัสยิดที่ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นยอดอย่างซินาน (Sinan) เมื่อเดินทางไปยังย่านเก่า (Old City) นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน ตึกระฟ้าพุ่งสูงอยู่ใกล้กับพระราชวังโบราณ และการเดินทอดน่องในตลาดใหญ่ (Grand Bazaar) จะทำให้คุณต้องเข้ามาร่วมสนุกกับการช้อปปิ้งหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าท้องถิ่นไปจนถึงแบรนด์หรู อิสตันบูลยังมีชีวิตชีวากับแสงสีแห่งคืนอันสดใส และวัฒนธรรมการแสดงที่กำลังได้รับความนิยมในระดับสากล หลังจากได้สำรวจประวัติศาสตร์แล้ว อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศสมัยใหม่ของเมืองนี้ กับผู้คนที่เป็นมิตรและเต็มไปด้วยข้อเสนอของประสบการณ์ใหม่ ๆ สร้างความทรงจำที่จะอยู่ในใจคุณตราบนานเท่านาน

ท่าเรือชานัคคาลี (Çanakkale) ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างสุมาตราและยุโรป ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จอดเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในบริเวณนั้น เมื่อแวะมาที่ชานัคคาลี คุณจะพบกับความงดงามของชายฝั่งและทะเลอีเจียน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดคือ อนุสรณ์สถานการรบของกัลลิปโอลี (Gallipoli) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสนามรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ล้ำค่าที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสถึงความกล้าหาญของผู้คนในอดีต นอกจากนี้ ยังมีเมืองโบราณทรอย (Troy) ที่เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น จากวีรบุรุษในมหากาพย์อีเลียด นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่สะกดใจนักท่องเที่ยว ด้วยซากปรักหักพังที่เชื่อมโยงกับวรรณกรรมโลก ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ชานัคคาลีจึงเป็นปลายทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เดินทางมาที่นี่และเปิดโลกทัศน์ใหม่ในตุรกีที่น่าหลงใหล!
ท่าเรือวอลอส (Vólos) ตั้งอยู่ในเขตเทสซาลี ประเทศกรีซ เป็นจุดหมายปลายทางที่หลีกหนีจากความวุ่นวายและเปิดโอกาสให้คุณสัมผัสกับเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดเด่นของการเดินทางโดยเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทรัพย์สมบัติทางธรรมชาติที่งดงาม วอลอสเป็นเมืองที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่นข้างชายฝั่ง ลองจิบกาแฟที่ร้านคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมลิ้มรสขนมอบแบบกรีกที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ พื้นที่ใกล้เคียงยังมีภูเขาเพนดิโอ (Pelion) ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามมากที่สุดในกรีซ ซึ่งเหมาะแก่การเดินป่าและสำรวจธรรมชาติที่น่าหลงใหล อย่าพลาดที่จะสำรวจแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียงเช่น เดลฟี (Delphi) และมิวเซียมเพลิมิว (Pelion Museum) ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้คุณก้าวเข้าสู่ความลึกซึ้งของวัฒนธรรมกรีกโบราณ เมื่อคุณมาเยือนท่าเรือวอลอสแล้ว จะตั้งอยู่ในเส้นทางที่สมบูรณ์แบบเพื่อสำรวจความงามของกรีซ พร้อมสร้างความทรงจำอันยาวนานที่คุณจะไม่มีวันลืมในชีวิตการเดินทางครั้งนี้

พัตมอส (Pátmos) เป็นหนึ่งในเกาะที่มีเสน่ห์และยากต่อการเข้าถึงของกรีซ ซึ่งนับเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาสถานที่พักผ่อนที่ยังคงความบริสุทธิ์และสงบเงียบ โดยเกาะนี้ตั้งอยู่ระหว่างเกาะคาลิมนอสและเลอรอส ห่างจากเกาะคอสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ พัตมอสมีพื้นที่เพียง 34 ตารางกิโลเมตร แต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลและทิวทัศน์ที่งดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม ‘อารามแห่งวิวรณ์’ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา โดยเป็นสถานที่ที่นักบุญยอห์นได้รับวิสัยทัศน์แห่งการเปิดเผยในปี ค.ศ. 95 ความงดงามของพัตมอสไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ประวัติศาสตร์ ยังมีหมู่บ้านสามแห่งที่น่าสนใจ ได้แก่ สกาลา (Skala) โครา (Chora) และแคมบอส (Kambos) ที่มีเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ พัตมอสยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย โดยเป็นที่พักพิงของนักออกแบบ ศิลปิน และกวีที่ได้สร้างสรรค์บ้านเรือนอันสวยงามในโครา ในช่วงเดือนสิงหาคม เกาะนี้ยังคงความงดงามและเสน่ห์แม้จะมีนักท่องเที่ยวคับคั่ง ด้วยการรักษาความเป็นธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่งดงามไว้เป็นอย่างดี พัตมอสจึงเป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดในการสำรวจ!

เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ทำให้ผู้เดินทางรู้สึกอบอุ่นใจและเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ ด้วยความงดงามของเมืองหลวงที่แบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างลงตัว มีทั้งเมืองเก่าสไตล์โบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และเมืองใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เมืองเก่าแห่งโรดส์มีซอยแคบๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งปิดประตูแก่รถยนต์ ทำให้สามารถเดินชมโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์และคาทอลิก รวมถึงบ้านเรือนในสไตล์ตุรกีที่น่าตื่นตาตื่นใจ การเดินทางในเมืองเก่า โรดส์คือการเดินย้อนกลับไปในอดีต ทั้งยังมีอาคารสาธารณะในยุคกลางที่กลมกลืนด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามด้วยหินปูนจากลินโดส การบูรณะที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เสริมหรือสร้างบรรยากาศอันงดงามนี้ให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและภัยผจญภัยที่ลึกลับ โรดส์คือที่ที่คุณไม่ควรพลาด มาสัมผัสความมหัศจรรย์ของโรดส์และให้มันกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าในบทชีวิตการเดินทางของคุณเถอะ!

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.





สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 มีพื้นที่ภายในรวมทั้งสิ้น 1,292 ตารางฟุต (120 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงสองแห่งขนาดรวม 244 ตารางฟุต (23 ตารางเมตร) ท่านสามารถรวมสวีท 849 และ 851 หรือสวีท 846 และ 848 เพื่อสร้างสวีท 8491 หรือ 8468 ภายในสวีทจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเพียงพอ พื้นที่รับประทานอาหารสำหรับหกคน สวนสวยที่มีหลังคาปิดด้วยอ่างอาบน้ำและเตียงนอนอันแสนสบาย ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล สวีทนี้มีสองห้องนอนพร้อมห้องน้ำอีกสองห้อง (หนึ่งในนั้นมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล) นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดแบบพับได้สำหรับผู้เข้าพักเพิ่มเติม ครัวขนาดเล็กมีบาร์เปียกและยังมาพร้อมกับทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการ อินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรี ซึ่งทำให้สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบายบนเรือสำราญของท่าน




ห้องพักวิลล่า Wintergarden ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 ซึ่งเป็นห้องสวีทกลางเรือ โดยมีพื้นที่ภายใน 989 ตารางฟุต (92 ตารางเมตร) และระเบียงขนาด 197 ตารางฟุต (18 ตารางเมตร) ห้องพักนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ สำหรับการรับประทานอาหาร ห้องนี้สามารถรองรับได้ถึง 6 ท่าน พร้อมอ่างจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ที่นอนโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อรองรับผู้เข้าพักหนึ่งท่าน ห้องครัวเล็กมีบาร์เปียก และยังมีโรงเรือนแบบกระจกซึ่งมีอ่างและเตียงชายหาด ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าสองตู้ และทีวีจอแบนสองเครื่อง พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตฟรีและบริการ Wi-Fi เพื่อความสะดวกสบายของคุณในทุกช่วงเวลาที่เข้าพักในห้องพักสุดหรูนี้


ซิกเนเจอร์สวีท ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าที่ 8 ห้องสวีทหมายเลข 800 และ 801 มีพื้นที่ภายในประมาณ 977 ตารางฟุต พร้อมระเบียงขนาด 960 ตารางฟุต (89 ตารางเมตร) ที่มอบวิวทะเลกว้างขวางและหน้าต่างหันหน้าไปข้างหน้า ห้องสวีทนี้เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน และมีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบวนระบบ รวมถึงห้องน้ำสำหรับแขก พื้นที่บริการอาหารพร้อมบาร์และทีวีจอแบนสองเครื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเข้าพักอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์ในซิกเนเจอร์สวีทแห่งนี้.


เจ้าของสวีท (Owner's Suites) ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 7, 8, 9 และ 10 มีพื้นที่ภายในขนาดกว้างระหว่าง 576 ถึง 597 ตารางฟุต (54 ถึง 55 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงขนาดตั้งแต่ 142 ถึง 778 ตารางฟุต (13 ถึง 72 ตารางเมตร) ซึ่งมอบมุมมองมหาสมุทรที่กว้างขวางและหน้าต่างด้านหน้าเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มที่ ห้องอาหารสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 4 ถึง 6 ท่าน พร้อมห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ทั้งยังมีพื้นที่ครัวที่มีบาร์เปียก สำหรับความบันเทิง ห้องนี้มีทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการอินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรีให้ใช้งานอีกด้วย สำหรับห้องที่รองรับผู้พิการ จะมีห้องอาบน้ำแบบปรับระดับให้บริการเท่านั้น

ห้องชุดการรับประกันเป็นห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ในการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร โดยมีขนาดกว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมของเรือสำราญ ห้องนี้มีการตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ทีวีจอแบน, ตู้เย็น, และเครื่องชงกาแฟ เพื่อทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ระเบียงส่วนตัวเปิดให้คุณสัมผัสกับวิวทะเลอันงดงาม และเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหลังจากวันที่เต็มไปด้วยกิจกรรม ตลอดจนการบริการระดับพรีเมียมที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเฉิดฉายยิ่งขึ้น


เพนท์เฮาส์สปาสวีทบนเรือสำราญทุกห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวที่งดงาม พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและประตูแก้วสู่ระเบียงส่วนตัว มีเตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้เซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่มีของพร้อมเสิร์ฟ โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์การเขียนที่มีชื่อของผู้เข้าพัก โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างและฝักบัวแยกต่างหาก มีเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และเครื่องเป่าผม รวมทั้งช่องเสียบไฟ 110/220V AC ทำให้เพนท์เฮาส์สปาสวีทนี้เป็นที่พักที่หรูหราและสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทบนเรือสำราญทุกห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และประตูบานกระจกเปิดสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมด้วยเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ขนาดเล็ก ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินรวมถึงเซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเต็มอย่างดี โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว ชุดเสื้อคลุมตัวนุ่ม รองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และเต้ารับไฟฟ้า 110/220V นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสองถึงสี่คน และห้องนอนแยกต่างหากเพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายอย่างสูงสุดในทุกการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทการันตี เป็นห้องพักที่มีความหรูหราตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยขนาดที่กว้างขวางและมุมมองที่สวยงาม ห้องนี้ประกอบด้วยห้องนอนแยกต่างหากและโต๊ะอาหารที่รองรับได้ถึงสี่คน เพื่อเอื้ออำนวยต่อการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีประตูกระจกที่นำไปสู่ระเบียงเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับสายลมทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องพักยังได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยทีวีจอแบนสองเครื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อนดูภาพยนตร์ในยามว่าง และบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการดื่มด่ำกับสิ่งที่คุณชื่นชอบ สำหรับห้องน้ำที่กว้างขวางก็มีอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และอ่างล้างหน้าใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลตัวเองที่ไม่เหมือนใคร เพลิดเพลินกับการพักผ่อนสุดหรูในเพนท์เฮาส์สวีทการันตี และสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจในวันหยุดของคุณ.


ห้องสวีทระเบียงทุกห้องมีหน้าต่างขนาดเต็มความยาวและประตูบานกระจกที่นำไปสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่สองเตียง มีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน และตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in นอกจากนี้ ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถเชื่อมต่อกับเพลงและภาพยนตร์ รวมถึงบาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มครบครัน โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำขนาดกว้างที่แยกโซนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำอย่างชัดเจน ห้องสวีทระเบียงเป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในทุกการเดินทางของคุณ

การรับประกันระเบียงมอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราในห้องสวีทที่กว้างขวาง ซึ่งมีหน้าต่างขนาดใหญ่และประตูบานกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดใหญ่หรือเตียงคู่ และโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าแบบเข้ารอบ ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกฝักบัวและอ่างอาบน้ำ รวมถึงทีวีจอแบนที่สามารถรับชมภาพยนตร์และเพลงต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างดี และโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความบันเทิง ด้วยตัวเลือกการรับประกันสวีท เราจะคัดสรรทำเลและห้องสวีทเฉพาะสำหรับคุณ พร้อมแจ้งให้ทราบก่อนวันเดินทาง ทำให้คุณมั่นใจว่าจะได้เข้าพักในห้องสวีทที่เลือกหรือห้องที่มีระดับสูงกว่าเสมอ

ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวคือห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ relaxation ในขณะที่ล่องเรือ ห้องพักนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเปิดรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูกว้างขวางและสดชื่น ภายในห้องตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ตั้งแต่เตียงนอนคุณภาพสูง ไปจนถึงบริการ Wi-Fi ที่รวดเร็ว ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายและเพลิดเพลินกับการพักผ่อนบนเรือสำราญที่หรูหรา