
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Ovation
Seabourn


ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

มอเนมวาเซีย (Monemvasia) คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งกรีซ ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเพโลพอนนีส โดยมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เมื่อชาวกรีกที่หนีการโจมตีของชาวสลาฟมาพบที่นี่เป็นที่หลบภัย ในช่วงเวลาที่รุ่งเรือง มอเนมวาเซียได้ควบคุมการเดินเรือระหว่างแผ่นดินเลบานอนและชายฝั่งยุโรป เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงได้ขยายไปตามแนวลาดชันของยอดเขาสูงถึง 300 เมตร และล้อมรอบด้วยทะเล ในยุคหนึ่ง เมืองนี้เคยเป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ แต่ประชาชนเริ่มย้ายไปยังแผ่นดินใหญ่ ทำให้ประชากรลดน้อยลง จนกระทั่งมีโครงการฟื้นฟูเพื่อรักษามรดกของมอเนมวาเซีย เมืองเก่าเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อขึ้นไปบนเมืองสูง ยังมีซากป้อมปราการโบราณและโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) ให้ได้สำรวจ พร้อมทัศนียภาพที่งดงามของภูมิประเทศโดยรอบ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของกรีซ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของทะเลและภูเขาในดินแดนแห่งเทพนิยาย.

ท่าเรือ Agios Nikólaos ตั้งอยู่บนเกาะครีต ประเทศกรีซ เป็นจุดหมายที่มีเสน่ห์และความงดงาม ซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนและการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในด้านทัศนียภาพที่โดดเด่น โดยเฉพาะทะเลสีฟ้าครามที่สะท้อนกับแสงแดดอย่างงดงาม เมื่อเดินทางมาถึง Agios Nikólaos คุณจะถูกดึงดูดไปยังทะเลสาบ Voulismeni ที่มีตำนานและเรื่องเล่าหลายหลาก ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาสนสถานและคาเฟ่เล็ก ๆ ที่พร้อมให้บริการเมนูครีตแท้ ๆ เช่น ซุปเลนทิลและขนมหวานแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีชายหาดที่สวยงามรอบๆ สำหรับผู้ที่รักการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Agios Nikólaos จะพาคุณย้อนเวลาไปยังอดีตของเมือง ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าใจและสัมผัสวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของกรีซ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยผู้รักการสำรวจหรือผู้ที่ต้องการเพียงการพักผ่อนอย่างสงบสุข Agios Nikólaos คือจุดหมายที่คุณห้ามพลาดเมื่อมีโอกาสไปเยือนเกาะครีต สัมผัสกับเสน่ห์แห่งท้องทะเลและวัฒนธรรมที่นี่ แล้วความทรงจำจะอยู่ในใจคุณตลอดไป

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

**เสน่ห์ของท่าเรือเชสเมในตุรกี: จุดหมายที่น่าหลงใหล** ท่าเรือเชสเม (Çeşme) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของตุรกี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับความงดงามของทะเลเอเจียนและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เชสเมมีชายหาดที่งดงามที่สุดในตุรกี พร้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามใสสะอาด เหมาะแก่การว่ายน้ำและกีฬาทางน้ำหลายประเภท ไม่เพียงแต่ท่าเรือที่มีเสน่ห์ เชสเมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย เช่น ปราสาทเชสเม ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยจักรวรรดิออตโตมัน ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขา ให้วิวที่สวยงามมองออกไปเห็นทะเล นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วเมือง รวมถึงตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน สำรวจตลาดอาหารทะเลสดใหม่ และอย่าลืมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่อร่อยสุดขีด เช่น พิซซ่าแบบตุรกีหรือ "ชายลาซาน" อาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ทำให้การเดินทางมาที่นี่ไม่เพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการสัมผัสกับรสชาติและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร หากคุณใฝ่ฝันที่จะสัมผัสบรรยากาศของชายทะเลที่สวยงามและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เชสเมคือปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ!

ท่าเรือคูซาดาซี (Kusadasi) เป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของประเทศตุรกี เมืองตากอากาศแสนคึกคักนี้มีทั้งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และชีวิตชายหาดที่น่าตื่นตา แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือเมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus) ที่ถูกขุดค้นมาเพียง 20% ของทั้งหมด ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหานครโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในยุโรป เอเฟซุส ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล เป็นมรดกโลกของยูเนสโกและมีความงดงามที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าสถาปัตยกรรมอย่างวิหารอาร์เทมิสซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจะเหลือเพียงเศษซาก แต่ห้องสมุดเซลซัสยังคงยืนหยัดอย่างน่าประทับใจ ส่งเสริมให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีค่า นอกจากนี้ ยังมีบ้านของพระแม่มารีอยู่ใกล้เคียงบนเขานกไนท์เกล ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าเป็นสถานที่ที่พระแม่มารีได้ใช้ชีวิตในช่วงท้ายของชีวิต เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชมทุกคน สำหรับผู้ที่ไม่สนใจประวัติศาสตร์ คูซาดาซีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยชายหาดที่สวยงามอย่างชายหาดเลดี้ส (Ladies’ Beach) และร้านอาหารที่เสิร์ฟเคบับตุรกีอร่อย ๆ อีกมากมาย การเดินทางไปยังชายหาดที่ใสสะอาดของกูเซลคัมลิ (Guzelcamli) และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ปามุคคาเล (Pamukkale) ก็จะทำให้ความฝันในการสำรวจโลกของคุณเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย

อิสตันบูล เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีป เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม อิสตันบูลเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์และออตโตมัน ได้รวบรวมสถาปัตยกรรมที่งดงาม อย่างเช่น โบสถ์อายา โซเฟีย (Aya Sofya) และมัสยิดที่ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นยอดอย่างซินาน (Sinan) เมื่อเดินทางไปยังย่านเก่า (Old City) นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน ตึกระฟ้าพุ่งสูงอยู่ใกล้กับพระราชวังโบราณ และการเดินทอดน่องในตลาดใหญ่ (Grand Bazaar) จะทำให้คุณต้องเข้ามาร่วมสนุกกับการช้อปปิ้งหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าท้องถิ่นไปจนถึงแบรนด์หรู อิสตันบูลยังมีชีวิตชีวากับแสงสีแห่งคืนอันสดใส และวัฒนธรรมการแสดงที่กำลังได้รับความนิยมในระดับสากล หลังจากได้สำรวจประวัติศาสตร์แล้ว อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศสมัยใหม่ของเมืองนี้ กับผู้คนที่เป็นมิตรและเต็มไปด้วยข้อเสนอของประสบการณ์ใหม่ ๆ สร้างความทรงจำที่จะอยู่ในใจคุณตราบนานเท่านาน

ท่าเรือชานัคคาลี (Çanakkale) ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างสุมาตราและยุโรป ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จอดเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในบริเวณนั้น เมื่อแวะมาที่ชานัคคาลี คุณจะพบกับความงดงามของชายฝั่งและทะเลอีเจียน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดคือ อนุสรณ์สถานการรบของกัลลิปโอลี (Gallipoli) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสนามรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ล้ำค่าที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสถึงความกล้าหาญของผู้คนในอดีต นอกจากนี้ ยังมีเมืองโบราณทรอย (Troy) ที่เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น จากวีรบุรุษในมหากาพย์อีเลียด นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่สะกดใจนักท่องเที่ยว ด้วยซากปรักหักพังที่เชื่อมโยงกับวรรณกรรมโลก ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ชานัคคาลีจึงเป็นปลายทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เดินทางมาที่นี่และเปิดโลกทัศน์ใหม่ในตุรกีที่น่าหลงใหล!
ท่าเรือวอลอส (Vólos) ตั้งอยู่ในเขตเทสซาลี ประเทศกรีซ เป็นจุดหมายปลายทางที่หลีกหนีจากความวุ่นวายและเปิดโอกาสให้คุณสัมผัสกับเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดเด่นของการเดินทางโดยเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทรัพย์สมบัติทางธรรมชาติที่งดงาม วอลอสเป็นเมืองที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่นข้างชายฝั่ง ลองจิบกาแฟที่ร้านคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมลิ้มรสขนมอบแบบกรีกที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ พื้นที่ใกล้เคียงยังมีภูเขาเพนดิโอ (Pelion) ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามมากที่สุดในกรีซ ซึ่งเหมาะแก่การเดินป่าและสำรวจธรรมชาติที่น่าหลงใหล อย่าพลาดที่จะสำรวจแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียงเช่น เดลฟี (Delphi) และมิวเซียมเพลิมิว (Pelion Museum) ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้คุณก้าวเข้าสู่ความลึกซึ้งของวัฒนธรรมกรีกโบราณ เมื่อคุณมาเยือนท่าเรือวอลอสแล้ว จะตั้งอยู่ในเส้นทางที่สมบูรณ์แบบเพื่อสำรวจความงามของกรีซ พร้อมสร้างความทรงจำอันยาวนานที่คุณจะไม่มีวันลืมในชีวิตการเดินทางครั้งนี้

พัตมอส (Pátmos) เป็นหนึ่งในเกาะที่มีเสน่ห์และยากต่อการเข้าถึงของกรีซ ซึ่งนับเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาสถานที่พักผ่อนที่ยังคงความบริสุทธิ์และสงบเงียบ โดยเกาะนี้ตั้งอยู่ระหว่างเกาะคาลิมนอสและเลอรอส ห่างจากเกาะคอสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ พัตมอสมีพื้นที่เพียง 34 ตารางกิโลเมตร แต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลและทิวทัศน์ที่งดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม ‘อารามแห่งวิวรณ์’ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา โดยเป็นสถานที่ที่นักบุญยอห์นได้รับวิสัยทัศน์แห่งการเปิดเผยในปี ค.ศ. 95 ความงดงามของพัตมอสไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ประวัติศาสตร์ ยังมีหมู่บ้านสามแห่งที่น่าสนใจ ได้แก่ สกาลา (Skala) โครา (Chora) และแคมบอส (Kambos) ที่มีเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ พัตมอสยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย โดยเป็นที่พักพิงของนักออกแบบ ศิลปิน และกวีที่ได้สร้างสรรค์บ้านเรือนอันสวยงามในโครา ในช่วงเดือนสิงหาคม เกาะนี้ยังคงความงดงามและเสน่ห์แม้จะมีนักท่องเที่ยวคับคั่ง ด้วยการรักษาความเป็นธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่งดงามไว้เป็นอย่างดี พัตมอสจึงเป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดในการสำรวจ!

เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ทำให้ผู้เดินทางรู้สึกอบอุ่นใจและเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ ด้วยความงดงามของเมืองหลวงที่แบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างลงตัว มีทั้งเมืองเก่าสไตล์โบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และเมืองใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เมืองเก่าแห่งโรดส์มีซอยแคบๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งปิดประตูแก่รถยนต์ ทำให้สามารถเดินชมโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์และคาทอลิก รวมถึงบ้านเรือนในสไตล์ตุรกีที่น่าตื่นตาตื่นใจ การเดินทางในเมืองเก่า โรดส์คือการเดินย้อนกลับไปในอดีต ทั้งยังมีอาคารสาธารณะในยุคกลางที่กลมกลืนด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามด้วยหินปูนจากลินโดส การบูรณะที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เสริมหรือสร้างบรรยากาศอันงดงามนี้ให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและภัยผจญภัยที่ลึกลับ โรดส์คือที่ที่คุณไม่ควรพลาด มาสัมผัสความมหัศจรรย์ของโรดส์และให้มันกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าในบทชีวิตการเดินทางของคุณเถอะ!

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ที่ท่าเรือนาฟพลิโอน (Náfplion) ประเทศกรีซ เมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “โอเรีย” หรือ “สวยงาม” เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่โอบล้อมอ่าวอาร์กอส ตัวเมืองเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสถาปัตยกรรมแบบกรีก เวเนเชียน และตุรกี ถนนเล็ก ๆ ที่บางครั้งเปิดให้เดินขึ้นลงเส้นทางที่มีบันไดหิน ล้วนเสริมสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์ในเมืองนี้ หากคุณต้องการสัมผัสความงามของนาฟพลิโอน ควรใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในการสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน คุณอาจพบว่าการใช้เวลาหลายวันหรือสัปดาห์ที่นี่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสำรวจสถานที่โบราณโดยรอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ ปราสาทปาลามิดี (Palamidi) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมือง เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในสมัยเวเนเชียนที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 การขึ้นไปชมวิวจากปราสาทแห่งนี้จะทำให้คุณมีมุมมองที่งดงามของเมืองและทะเลอันสงบ นาฟพลิโอนคือเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

ท่าเรือเกาะ Korčula ตั้งอยู่ในทะเลเอเดรียติกทางใต้ของโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเกาะที่มีความงดงามซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับสวนอีเดนสมัยใหม่ ด้วยแสงแดดที่ส่องสว่างเฉลี่ยถึง 3,000 ชั่วโมงต่อปี เกาะ Korčula มอบความหลากหลายของพืชพรรณแบบเมดิเตอร์เรเนียนอันมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ เมืองหลักของเกาะชื่อเดียวกับเกาะ Korčula มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของเกาะ ความโดดเด่นของ Korčula มาจากการที่ตั้งอยู่ในเส้นทางการค้าทางทะเล ทำให้มีการเข้ามาของผู้คนจากหลายวัฒนธรรม ตั้งแต่ชาวกรีก คาบสมุทรอิลลิรีน โรมัน จนถึงชาวโครแอต นอกจากนี้ Korčula ยังเป็นบ้านเกิดของมาร์โก โปโล นักเดินทางชื่อดัง จากบ้านที่กล่าวกันว่าเป็นสถานที่เกิดของเขา ซึ่งอยู่ในเมือง คุณจะได้สัมผัสประเพณีต่างๆ เช่น การแสดงมอเรสก้าสุดตระการตา ซึ่งมีการแสดงมานานกว่า 400 ปี สำหรับผู้มาเยือนที่ท่าเรือ Korčula สิ่งที่น่าสนใจรอให้คุณสำรวจมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์เมือง และคลังศาสนาของบิชอป ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความงดงามตามธรรมชาติและบรรยากาศยุคกลางของเกาะ ที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นความทรงจำอันล้ำค่า

เกาะฮวาร์ ประเทศโครเอเชีย เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "เกาะที่มีแดดมากที่สุดในทะเลอาเดรียติก" ด้วยค่าเฉลี่ยชั่วโมงแสงแดดยาวนานถึง 2,724 ชั่วโมงต่อปี จึงไม่แปลกใจที่ที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พื้นที่นี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ พร้อมทั้งธรรมชาติที่งดงาม นอกจากทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่สวยงามแล้ว เกาะฮวาร์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น ปราสาทเฟอร์ตาเรน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้เลือกมากมาย ตั้งแต่การเดินป่าของนักผจญภัย ไปจนถึงการล่องเรือในทะเลเปิด สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหรา ฮวาร์เต็มไปด้วยร้านอาหารระดับมิชลิน สปาและโรงแรมหรู ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งขึ้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความโรแมนติกและความสุขในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาดหรือสำรวจประวัติศาสตร์ เรือสำราญที่จอดที่ท่าเรือฮวาร์จะนำคุณสู่โลกแห่งความฝันของราชวงศ์และความสวยงามที่คุณไม่ควรพลาด!

วอดิเช เกาะที่สวยงามตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลอาเดรียติกของโครเอเชีย เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือวอดิเช จะเป็นโอกาสอันดีในการสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือวอดิเช เป็นประตูสู่ชายหาดที่สวยงามและน้ำทะเลใสสะอาด ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ว่ายน้ำ ตกปลาหรือแม้กระทั่งพายเรือคายัค หากคุณรักในการสำรวจ วอดิเช ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบในการแล่นเรือไปยังเกาะใกล้เคียงที่มีเสน่ห์ เช่น เกาะโครชูล ซึ่งมีทิวทัศน์ที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ วอดิเช ยังเป็นที่ตั้งของอาคารทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ เช่น โบสถ์เซนต์นิโคลัส ที่ประดับด้วยงานศิลปะสุดพิเศษ สำหรับนักชิม คุณไม่ควรพลาดลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสเลิศ ที่มักมีส่วนผสมจากทะเลสดใหม่ การเดินทางมาที่วอดิเช ไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อนในสถานที่ที่สวยงาม แต่ยังเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับประสบการณ์ที่น่าหลงใหลในโครเอเชีย นั่งเรือสำราญแบบหรูหรา แล้วมาสัมผัสกันเถอะ!

พฤติกรรมแห่งความงามในยุโรปกลาง สู่ท่าเรือพีราน (Piran) ประเทศสโลวีเนีย ท่าเรือพีราน ตั้งอยู่ในแถบชายฝั่งทะเลอาเดรียติกของสโลวีเนีย เป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและสถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์แห่งกลิ่นอายยุโรป พีรานเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งถูกครอบงำด้วยวัฒนธรรมอิตาเลียน ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศแตกต่างออกไปจากเมืองอื่นๆ ในสโลวีเนีย เริ่มการเดินเล่นในตรอกซอกซอยอันงดงามของเมืองเก่า คุณจะพบกับตึกน้ำเงินเข้มและโบสถ์เซนต์จอร์จ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา มองเห็นทิวทัศน์ชายทะเลและทะเลที่สวยงาม และอย่าลืมแวะลิ้มรสอาหารทะเลขึ้นชื่อ ที่ร้านอาหารท้องถิ่นที่มีบรรยากาศอบอุ่น นอกจากท่าเรือและเมืองพีรานแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปยังเมืองใกล้เคียงเป็นวันหยุดสั้นๆ เช่น โปร์โตรซ์ หรือชื่นชมความงามของธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติและชายหาดที่สวยงาม การเดินทางมาที่พีรานจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และประสบการณ์อันน่าจดจำ เชิญคุณมาสำรวจความงดงามที่พีราน และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในทริปนี้!

เวนิสคือเมืองที่มีเสน่ห์และความงดงามที่ไม่เหมือนใคร หากคุณเคยเห็นภาพเบื้องหลังของเมืองนี้ในหนังสือหรืองานศิลปะต่างๆ ลองเดินทางมาแล้วคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย แคนัลที่ไหลผ่านกลางเมืองแทนที่ถนนทั่วไป สายน้ำที่เปล่งประกายรอบตัวสร้างความรู้สึกโรแมนติกและมีเสน่ห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด อาคารผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระราชวังและโบสถ์ ไม่เพียงแต่สวยงาม ยังสะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวนิส ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าอันมั่งคั่งระหว่างยุโรปและตะวันออก การเดินหลงทางในตรอกซอกซอยแคบๆ ของเวนิสเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันยอดเยี่ยม ที่จะทำให้คุณค้นพบเสน่ห์ซ่อนเร้นในทุกมุม ในที่สุด คุณอาจจะพบตัวเองในจัตุรัสซานมาร์โค สถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่มารวมตัวกันเพื่อดื่มกาแฟหรือเปอร์รีทีฟ เพลิดเพลินกับความงามและบรรยากาศอันเป็นมิตรในสถานที่แห่งนี้ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นในการสัมผัสเวนิส ในแบบที่ทุกโซเชียลมีเดียไม่สามารถถ่ายทอดได้หมดสิ้น คิดถึงการเดินทาง ลองให้เวนิสเป็นจุดหมายยอดเยี่ยมถัดไปในหัวใจของคุณเถอะ!





สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 มีพื้นที่ภายในรวมทั้งสิ้น 1,292 ตารางฟุต (120 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงสองแห่งขนาดรวม 244 ตารางฟุต (23 ตารางเมตร) ท่านสามารถรวมสวีท 849 และ 851 หรือสวีท 846 และ 848 เพื่อสร้างสวีท 8491 หรือ 8468 ภายในสวีทจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเพียงพอ พื้นที่รับประทานอาหารสำหรับหกคน สวนสวยที่มีหลังคาปิดด้วยอ่างอาบน้ำและเตียงนอนอันแสนสบาย ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล สวีทนี้มีสองห้องนอนพร้อมห้องน้ำอีกสองห้อง (หนึ่งในนั้นมีอ่างอาบน้ำแบบเวอร์พูล) นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดแบบพับได้สำหรับผู้เข้าพักเพิ่มเติม ครัวขนาดเล็กมีบาร์เปียกและยังมาพร้อมกับทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการ อินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรี ซึ่งทำให้สวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบายบนเรือสำราญของท่าน




ห้องพักวิลล่า Wintergarden ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 ซึ่งเป็นห้องสวีทกลางเรือ โดยมีพื้นที่ภายใน 989 ตารางฟุต (92 ตารางเมตร) และระเบียงขนาด 197 ตารางฟุต (18 ตารางเมตร) ห้องพักนี้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ สำหรับการรับประทานอาหาร ห้องนี้สามารถรองรับได้ถึง 6 ท่าน พร้อมอ่างจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ที่นอนโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อรองรับผู้เข้าพักหนึ่งท่าน ห้องครัวเล็กมีบาร์เปียก และยังมีโรงเรือนแบบกระจกซึ่งมีอ่างและเตียงชายหาด ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าสองตู้ และทีวีจอแบนสองเครื่อง พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตฟรีและบริการ Wi-Fi เพื่อความสะดวกสบายของคุณในทุกช่วงเวลาที่เข้าพักในห้องพักสุดหรูนี้


ซิกเนเจอร์สวีท ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าที่ 8 ห้องสวีทหมายเลข 800 และ 801 มีพื้นที่ภายในประมาณ 977 ตารางฟุต พร้อมระเบียงขนาด 960 ตารางฟุต (89 ตารางเมตร) ที่มอบวิวทะเลกว้างขวางและหน้าต่างหันหน้าไปข้างหน้า ห้องสวีทนี้เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน และมีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบวนระบบ รวมถึงห้องน้ำสำหรับแขก พื้นที่บริการอาหารพร้อมบาร์และทีวีจอแบนสองเครื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเข้าพักอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์ในซิกเนเจอร์สวีทแห่งนี้.


เจ้าของสวีท (Owner's Suites) ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 7, 8, 9 และ 10 มีพื้นที่ภายในขนาดกว้างระหว่าง 576 ถึง 597 ตารางฟุต (54 ถึง 55 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงขนาดตั้งแต่ 142 ถึง 778 ตารางฟุต (13 ถึง 72 ตารางเมตร) ซึ่งมอบมุมมองมหาสมุทรที่กว้างขวางและหน้าต่างด้านหน้าเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มที่ ห้องอาหารสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 4 ถึง 6 ท่าน พร้อมห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำจากุซซี่และห้องน้ำสำหรับแขก ทั้งยังมีพื้นที่ครัวที่มีบาร์เปียก สำหรับความบันเทิง ห้องนี้มีทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการอินเทอร์เน็ต/ Wi-Fi ฟรีให้ใช้งานอีกด้วย สำหรับห้องที่รองรับผู้พิการ จะมีห้องอาบน้ำแบบปรับระดับให้บริการเท่านั้น

ห้องชุดการรับประกันเป็นห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ในการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร โดยมีขนาดกว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมของเรือสำราญ ห้องนี้มีการตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ทีวีจอแบน, ตู้เย็น, และเครื่องชงกาแฟ เพื่อทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ระเบียงส่วนตัวเปิดให้คุณสัมผัสกับวิวทะเลอันงดงาม และเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหลังจากวันที่เต็มไปด้วยกิจกรรม ตลอดจนการบริการระดับพรีเมียมที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเฉิดฉายยิ่งขึ้น


เพนท์เฮาส์สปาสวีทบนเรือสำราญทุกห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวที่งดงาม พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและประตูแก้วสู่ระเบียงส่วนตัว มีเตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้เซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่มีของพร้อมเสิร์ฟ โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์การเขียนที่มีชื่อของผู้เข้าพัก โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างและฝักบัวแยกต่างหาก มีเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และเครื่องเป่าผม รวมทั้งช่องเสียบไฟ 110/220V AC ทำให้เพนท์เฮาส์สปาสวีทนี้เป็นที่พักที่หรูหราและสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทบนเรือสำราญทุกห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และประตูบานกระจกเปิดสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมด้วยเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ขนาดเล็ก ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินรวมถึงเซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนสองเครื่องพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเต็มอย่างดี โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว ชุดเสื้อคลุมตัวนุ่ม รองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และเต้ารับไฟฟ้า 110/220V นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสองถึงสี่คน และห้องนอนแยกต่างหากเพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายอย่างสูงสุดในทุกการเดินทางของคุณ


เพนท์เฮาส์สวีทการันตี เป็นห้องพักที่มีความหรูหราตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยขนาดที่กว้างขวางและมุมมองที่สวยงาม ห้องนี้ประกอบด้วยห้องนอนแยกต่างหากและโต๊ะอาหารที่รองรับได้ถึงสี่คน เพื่อเอื้ออำนวยต่อการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีประตูกระจกที่นำไปสู่ระเบียงเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับสายลมทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องพักยังได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยทีวีจอแบนสองเครื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อนดูภาพยนตร์ในยามว่าง และบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการดื่มด่ำกับสิ่งที่คุณชื่นชอบ สำหรับห้องน้ำที่กว้างขวางก็มีอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และอ่างล้างหน้าใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลตัวเองที่ไม่เหมือนใคร เพลิดเพลินกับการพักผ่อนสุดหรูในเพนท์เฮาส์สวีทการันตี และสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจในวันหยุดของคุณ.


ห้องสวีทระเบียงทุกห้องมีหน้าต่างขนาดเต็มความยาวและประตูบานกระจกที่นำไปสู่ระเบียงส่วนตัว พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย มีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่สองเตียง มีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน และตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in นอกจากนี้ ยังมีทีวีจอแบนที่สามารถเชื่อมต่อกับเพลงและภาพยนตร์ รวมถึงบาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มครบครัน โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำขนาดกว้างที่แยกโซนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำอย่างชัดเจน ห้องสวีทระเบียงเป็นพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในทุกการเดินทางของคุณ

การรับประกันระเบียงมอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราในห้องสวีทที่กว้างขวาง ซึ่งมีหน้าต่างขนาดใหญ่และประตูบานกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดใหญ่หรือเตียงคู่ และโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองคน นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าแบบเข้ารอบ ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกฝักบัวและอ่างอาบน้ำ รวมถึงทีวีจอแบนที่สามารถรับชมภาพยนตร์และเพลงต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างดี และโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความบันเทิง ด้วยตัวเลือกการรับประกันสวีท เราจะคัดสรรทำเลและห้องสวีทเฉพาะสำหรับคุณ พร้อมแจ้งให้ทราบก่อนวันเดินทาง ทำให้คุณมั่นใจว่าจะได้เข้าพักในห้องสวีทที่เลือกหรือห้องที่มีระดับสูงกว่าเสมอ

ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวคือห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ relaxation ในขณะที่ล่องเรือ ห้องพักนี้ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเปิดรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูกว้างขวางและสดชื่น ภายในห้องตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ตั้งแต่เตียงนอนคุณภาพสูง ไปจนถึงบริการ Wi-Fi ที่รวดเร็ว ห้องรับประกันด้านนอกแบบเดี่ยวจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายและเพลิดเพลินกับการพักผ่อนบนเรือสำราญที่หรูหรา