
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Pursuit
Seabourn


กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นเมืองที่ผสมผสานความงดงามและความมีชีวิตชีวาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย สามารถสังเกตได้จาก Plaza de Mayo อันมีเสน่ห์ดุจจัตุรัสใหญ่ในมาดริด และ Teatro Colón ที่สวยงามราวกับว่าได้ย้ายมาจากเวียนนา บัวโนสไอเรสยังมีความเป็นอเมริกาใต้ที่ชัดเจนจากการเดินเล่นในถนนที่ปูด้วยหินและรองเท้าหนังคุณภาพสูงที่วางขายในร้านค้าเล็กๆ แถมยังมีกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ขบวนพาเหรดของแฟนฟุตบอลที่แสดงถึงความรักในกีฬานี้ของชาวเมือง นอกจากวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลาย ชิมประสบการณ์ลิ้มลองไวน์ชั้นดี สเต็กเนื้อฉ่ำ และไอติมรสชาติต่างๆ ที่ได้มาเติมเต็มความอร่อยให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ท่าเรือในกรุงบัวโนสไอเรส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเสน่ห์แห่งเมืองนี้ พร้อมเปิดประสบการณ์การเดินทางที่สุดหรูหรา ในดินแดนที่มีทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยรอคุณอยู่

อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่

Puerto Williams เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่บนเกาะ Navarino ทางตอนใต้ของชิลี ถือเป็นที่ตั้งของเมืองที่อยู่ใกล้สุดกับขั้วโลกใต้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจทิวทัศน์ที่งดงามของแอนตาร์กติกาและช่องแคบดราเกนต์ สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและการผจญภัย ท่าเรือ Puerto Williams นอกจากจะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ยังมีความเป็นเอกลักษณ์จากวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เก่าแก่และน่าสนใจ คุณสามารถเดินชมรอบเมืองที่จะนำเสนอศิลปะการทำงานของชาวพื้นเมืองหรือสัมผัสบรรยากาศที่เรียบง่ายของชีวิตประมงที่นี่ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแต่การเดินทางเองเท่านั้น แต่การสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ทำให้การเดินทางนี้มีค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Puerto Williams ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในอุทยานแห่งชาติปาราอีซา ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่า ภูเขาที่สูงตระหง่านและน้ำตกที่สวยงาม การสำรวจความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่นี่ จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ค้นพบ Puerto Williams กับเรา สถานที่ที่ไม่มีวันลืมและทิ้งความประทับใจไว้ในหัวใจของคุณไปตลอดกาล

ท่าเรือการิบัลดี เป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีเสน่ห์และความงดงามในประเทศชิลี โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยภูเขาและน้ำแข็งของอุทยานแห่งชาติ Torres del Paine เพื่อมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดหยุดพักจากการเดินทางด้วยเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่ความงามของธารน้ำแข็งการิบัลดีที่ตระการตา เมื่อเยือนที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าครามที่ล้อมรอบด้วยภูเขา และสามารถชมการละลายของน้ำแข็งที่สร้างภาพลักษณ์ที่น่าหลงใหล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น การเดินป่าไปยังจุดชมวิวที่ดีที่สุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถฟังเสียงของน้ำแข็งที่แตกตัวเมื่อสัมผัสกับอากาศอันหนาวเย็นได้อย่างใกล้ชิด ศิลปะและวัฒนธรรมของชิลียังมีให้ค้นพบในหมู่บ้านชาวประมงใกล้เคียง ที่เป็นที่รู้จักจากอาหารทะเลสดใหม่และการต้อนรับที่อบอุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มความฝันของการเดินทางสำรวจ และเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่มีความประทับใจในใจไม่รู้ลืม ท่าเรือการิบัลดีจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบความงดงามของชิลีที่รอบรู้และหลากหลาย.

ปุนตาอาเรนาส เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่ในเขตปาตาโกเนียของชิลี และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำนึกถึงธรรมชาติที่งดงามในภูมิภาคนี้ เมืองที่สร้างขึ้นประมาณ 150 ปีที่แล้วนี้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และด้วยความเป็นเมืองแรกในปาตาโกเนีย คุณจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ที่สลับสานกับบ้านเรือนที่มีหลังคาโลหะหลายสี เมื่อมองจากมุมสูง เช่น ที่มิโรเดอร์ เซโรลาครูซ ที่นี่ คุณไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม Museo Naval y Marítimo ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานของชิลี รวมถึง Museo Regional de Magallanes ซึ่งเคยเป็นบ้านของตระกูลที่มีอำนาจในอดีต นอกจากนี้ ถ้าคุณรักความเป็นธรรมชาติ Parque Nacional Torres del Paine ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องเยี่ยมชม ซึ่งมีภูเขาไฟสวยงามและสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปยัง Isla Magdalena เพื่อชมพวกเพนกวินมาจิลลานิก ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ตัวโดยสามารถเดินชมได้โดยสบายๆ อย่าลืมนำน้ำอุ่นไปด้วย เพราะอากาศที่นั่นอาจเย็นสบาย แม้ในช่วงฤดูร้อน ปุนตาอาเรนาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งแต่ความสวยงามของธรรมชาติ การสำรวจอดีต จนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกช่วงเวลา
ท่าเรือ Karukinka Park ในประเทศชิลี ตั้งอยู่ในภูมิภาค Tierra del Fuego อันโดดเด่นแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ของชิลี การเดินทางมาที่นี่จะนำคุณสู่เกาะที่เต็มไปด้วยภูเขา ป่าทึบ และชายฝั่งที่งดงาม Karukinka Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งมีการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ การสัมผัสกับธรรมชาติในที่แห่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสงบและความงดงามของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศที่ยังคงบริสุทธิ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าสำรวจเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่ตระการตา หรือจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การปีนเขาและการพายเรือแคนูในทะเลสาบสีฟ้าใส นอกจากธรรมชาติแล้ว Karukinka Park ยังเป็นที่อยู่ของวัฒนธรรมพื้นเมืองที่น่าสนใจ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และประเพณีของชนเผ่าต่างๆ ในภูมิภาคนี้ และเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่ การเยือน Karukinka Park ในชิลีจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืม ที่ที่จะเติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณ และทำให้คุณได้รับแรงบันดาลใจในการเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันไม่มีที่สิ้นสุด.

ปุนตาอาเรนาส เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่ในเขตปาตาโกเนียของชิลี และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำนึกถึงธรรมชาติที่งดงามในภูมิภาคนี้ เมืองที่สร้างขึ้นประมาณ 150 ปีที่แล้วนี้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และด้วยความเป็นเมืองแรกในปาตาโกเนีย คุณจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ที่สลับสานกับบ้านเรือนที่มีหลังคาโลหะหลายสี เมื่อมองจากมุมสูง เช่น ที่มิโรเดอร์ เซโรลาครูซ ที่นี่ คุณไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม Museo Naval y Marítimo ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานของชิลี รวมถึง Museo Regional de Magallanes ซึ่งเคยเป็นบ้านของตระกูลที่มีอำนาจในอดีต นอกจากนี้ ถ้าคุณรักความเป็นธรรมชาติ Parque Nacional Torres del Paine ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องเยี่ยมชม ซึ่งมีภูเขาไฟสวยงามและสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปยัง Isla Magdalena เพื่อชมพวกเพนกวินมาจิลลานิก ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ตัวโดยสามารถเดินชมได้โดยสบายๆ อย่าลืมนำน้ำอุ่นไปด้วย เพราะอากาศที่นั่นอาจเย็นสบาย แม้ในช่วงฤดูร้อน ปุนตาอาเรนาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งแต่ความสวยงามของธรรมชาติ การสำรวจอดีต จนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกช่วงเวลา
ฟยอร์ดของชิลี คือ หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เปล่งประกายในสายตานักเดินทางผู้รักธรรมชาติ ความงามช้างเหนือของฟยอร์ดแห่งนี้เป็นประจักษ์พยานให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของภูมิประเทศที่เกิดจากการกระทำของธารน้ำแข็ง ซึ่งสร้างเป็นผืนน้ำสีฟ้าสดใส พร้อมภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่รายล้อม ทำให้แต่ละช่วงเวลาที่มองจะรู้สึกถึงความสงบและอารมณ์ที่หลุดพ้นจากความวุ่นวาย เมื่อเรือสำราญของคุณเข้าเทียบท่า คุณจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากกลิ่นอายของธรรมชาติ ที่ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเรือคายัคเพื่อสำรวจอีกฟากฝั่งที่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลน้ำลึก หรือการเดินป่าเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่ตระการตา ในฤดูร้อน คุณยังสามารถพบเห็นนกเพนกวินที่น่ารักคอยรอให้คุณเก็บภาพความทรงจำสุดประทับใจเช่นกัน นอกจากนี้ ควรพูดถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชิลี ที่ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์และตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยศิลปะและอาหารพื้นเมืองอันหลากหลาย ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน มาร่วมสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของฟยอร์ดชิลี แล้วคุณจะค้นพบว่า ชีวิตคือการเดินทางที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายไม่รู้จบ

เมื่อเรือล่องสำราญหยุดพักที่ท่าเรือ Pio X Glacier ในชิลี คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติที่ไม่มีใครเทียบเท่า นี่คือจุดหมายปลายทางอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีภูเขาน้ำแข็งหลากสีสันตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม เข้าชมธารน้ำแข็งที่มีอายุนับพันปี เคลื่อนไหวช้าๆ พร้อมกับเสียงปังของน้ำแข็งที่แตกออก สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน ไม่เพียงแต่ธรรมชาติที่ส breathtaking เท่านั้นเช่นเดียวกัน ท่าเรือ Pio X ยังเป็นประตูสู่อาณาจักรแห่งการผจญภัย ซึ่งคุณสามารถสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่า, การเดินเรือในน้ำแข็ง และการชมสัตว์ทะเลที่น่าตื่นเต้น เช่น นกเพนกวินและแมวน้ำในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ เพิ่มความหลากหลายให้การเดินทางของคุณด้วยการสำรวจศิลปวัฒนธรรมของชิลี ณ เมืองใกล้เคียง ลองชิมอาหารท้องถิ่นที่มีสูตรเฉพาะและมีชื่อเสียงในโทนเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ พร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศอันอบอุ่นของชาวชิลี ท่าเรือ Pio X Glacier ไม่ใช่เพียงจุดแวะพัก แต่คือประสบการณ์ที่จะครองใจคุณตลอดไป เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่ทั้งอัศจรรย์และน่าจดจำ!

ส่งตรงจากใจกลางแพทาโกเนีย ที่นี่คือ "คาเลตา ทอร์เทล" (Caleta Tortel) ท่าเรือที่ถูกขนานนามว่าเป็น "เมืองสะพานไม้" ด้วยความงดงามของทางเดินไม้ที่สร้างขึ้นจากไม้ไซเปรส เชื่อมต่อที่พักอาศัยและท่าเรือทั่วทั้งเขตด้วยสะพานและบันไดที่ทอดยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันสวยงามของภูเขา น้ำแข็ง และป่าไม้ที่บริสุทธิ์ แม้จะเป็นหนึ่งในเทศบาลที่มีพื้นที่กว้างขวางมากที่สุดในชิลี แต่คาเลตา ทอร์เทลมีประชากรเพียง 531 คนเท่านั้น ประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ย้อนกลับไปในปี 1520 เมื่อเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าคาวส์การซึ่งไม่มีชีวิตอยู่แล้ว การก่อตั้งอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในปี 1955 ผ่านการพัฒนาสถานที่เพื่อรองรับชุมชน การเดินทางมายังคาเลตา ทอร์เทล คือการสัมผัสกับความสวยงามที่ใกล้ชิดธรรมชาติ การเดินเตาะแตะบนสะพานไม้ท่ามกลางทัศนียภาพอันตระการตาจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณดำดิ่งสู่ความงามของโลกใบนี้ นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในภูมิภาคยังพร้อมต้อนรับนักสำรวจที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและล้ำค่า คาเลตา ทอร์เทล คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด สำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษและเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ จากมุมที่งดงามของโลกใบนี้
เมืองคัสโตร (Castro) ประเทศชิลี เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งตั้งอยู่บนเกาะชิลัว (Chiloe) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันแห่งวัฒนธรรม โดยเฉพาะบ้านไม้สีสันสดใสที่ตั้งอยู่บนเสาเรียงรายริมแม่น้ำ การเดินชมในย่านนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพฝันที่เปล่งประกาย ด้วยบ้านทรงปาลาฟิโต (palafitos) ที่ทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความมีชีวิตชีวาของชาวชิลี คัสโตรไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่าเยี่ยมชม แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจหมู่เกาะอันงดงามรอบข้าง ทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้ได้รับการฟื้นฟูจากผลกระทบของแผ่นดินไหวและไฟไหม้ในอดีต โดยเฉพาะแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงในปี 1960 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของชุมชนที่นี่ และตอนนี้คัสโตรได้กลายเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่น่าจดจำ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในการเฉลิมฉลองความงามและวัฒนธรรม บรรดาเมนูอาหารทะเลสดใหม่ และวิวธรรมชาติที่งดงาม คัสโตร คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังชิลีของคุณ
เมืองปูเออร์โต้ มอนต์ (Puerto Montt) เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากในเขตทะเลสาบของชิลี ด้วยบรรยากาศที่มีลมพัดเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองนี้เคยเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับผู้เดินทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่เขตนี้ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางประมง สิ่งทอ และการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค ปูเออร์โต้ มอนต์ เป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และตึกสำนักงานตั้งอยู่ในใจกลางเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีโอกาสมาเยือนในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงาม เช่น พลายา เปลูโก (Playa Pelluco) ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือสามารถขับรถไปตามชายฝั่งเพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเนินเขาที่ล้อมรอบ นอกจากนี้ ปูเออร์โต้ มอนต์ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจธรรมชาติอันงดงามของชิลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติออสตราล ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าและภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต อย่าลืมวางแผนการเดินทางมายังเมืองนี้ การล่องเรือในท่าเรือที่มีชื่อเสียงจะเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำ!

ซานอันโตนิโอ (San Antonio) ตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศชิลี เป็นจุดแวะที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่มาด้วยเรือสำราญ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ซานอันโตนิโอมีท่าจอดเรือที่ทันสมัย ซึ่งสามารถรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ พร้อมบริการที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อคุณมาถึงที่นี่ คุณจะถูกยั่วยวนด้วยทิวทัศน์ของหน้าผาและชายหาดที่สวยงาม มีโอกาสไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ชิลี และสองเมืองที่น่าพิศวงในบริเวณใกล้เคียงคือ ปอร์ตาแมดริน (Porte Madryn) และวิน่าเดลมาร์ (Viña del Mar) ซึ่งเป็นสุดยอดปลายทางที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีรสชาติอร่อย ในการเดินทางนี้ อย่าลืมชมความงดงามของอุทยานแห่งชาติซานติก้า (Cerro Castillo) และลองชิมไวน์ชิลีที่มีชื่อเสียงในระดับโลก เพียงก้าวออกจากเรือสำราญและคุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ที่ซานอันโตนิโอ สถานที่ที่สะท้อนถึงความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่รอคุณอยู่!


ดุซี่ ไอแลนด์ (Ducie Island) เป็นจุดหมายปลายทางที่แปลกตาและโรแมนติก โดยตั้งอยู่ในเขตของหมู่เกาะพิตแคร์น เมืองที่เงียบสงบนี้ถูกค้นพบในปี 1606 โดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส และมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรือด่วน Acadia ซึ่งประสบอุบัติเหติเสียหายบริเวณเกาะในปี 1881 เนื่องจากผู้เฝ้าดูแลเข้าใจผิดว่าเกาะคือก้อนเมฆจากหาดทรายขาวสะอาด ดุซี่ ไอแลนด์ แม้ว่าจะไม่มีประชากรอาศัยอยู่ แต่กลับเป็นที่อยู่ของนกน้ำกว่า 500,000 ตัวที่มาทำรังอย่างสวยงาม และมีพืชพันธุ์ที่เติบโต เช่น Beach Heliotrope และ Pemphis ที่ปกคลุมพื้นที่กว่า 70% ของเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นนกที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น นกเมอเฟียส (Murphy's Petrels) นกขาว (White Terns) และนกยักษ์ฟริกเกต (Great Frigate birds) สำหรับผู้ที่รักการดำน้ำตื้น สถานที่นี้ยังมีจุดดำน้ำบริเวณซากเรือ Acadia ที่น่าตื่นตาตื่นใจและน้ำในลุ่งของแอตอลล์ให้ได้สำรวจ สิ่งเหล่านี้ทำให้ดุซี่ ไอแลนด์ เป็นสวรรค์สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์อันเงียบสงบและเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ การเยือนที่นี่เท่ากับการก้าวเข้าสู่โลกอีกใบที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน

เกาะพิทเคิร์น หรือที่รู้จักกันในชื่อท่าเรือพิทเคิร์น เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ระหว่างเปรูและนิวซีแลนด์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านอาดัมส์ทาวน์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวที่มีประชากรอาศัยอยู่ โดยมีผู้คนเพียง 56 คนเท่านั้น ซึ่งสะท้อนถึงสไตล์การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ พิทเคิร์นมีความเป็นมาที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของกลุ่มกบฏจากเรือ HMS Bounty ที่มาหลบซ่อนตัวในช่วงศตวรรษที่ 18 ที่นี่มีพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม ขณะเดียวกันคุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งมีพระคัมภีร์ HMS Bounty และโบสถ์อาดัมส์ทาวน์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกให้คุณได้สัมผัส อย่าลืมสำรวจถ้ำของฟลิตเชอร์ คริสเตียน ซึ่งเป็นที่เก็บความลับในประวัติศาสตร์ หรือค้นหานกพีทเคิร์นรีดวอร์เบลเลอร์ซึ่งเป็นนกพื้นเมืองที่หายาก สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำที่เกาะพิทเคิร์น ท่าเรือที่มอบความสงบสุขและสวยงาม เป็นการเดินทางที่แปลกใหม่และเฉพาะตัวที่จะทำให้คุณได้รับความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน

ฟาการาวา (Fakarava) คือหนึ่งในจุดหมายที่ล้ำค่าของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่ตั้งอยู่ในแถบหมู่เกาะเวอรีตา ด้วยทิวทัศน์อันงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวละเอียด ฟาการาวาจึงเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายและสัมผัสความงามตามธรรมชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะเขตร้อน ท่าเรือฟาการาวาเป็นสถานที่ที่เรือสำราญชื่อดังหลายลำแวะจอด โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน ในขณะเดียวกัน ยังสามารถสำรวจแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ดำน้ำตื้นเพื่อตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของชีวิตใต้ทะเล ทั้งปลาเขตร้อนและปะการังสีสันสดใส ไม่ไกลจากท่าเรือ ยังมีกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นมากมาย เช่น การตกปลาในน้ำลึก หรือเดินทางสำรวจเกาะเล็กๆ ที่อยู่รอบๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ฟาการาวาเป็นสถานที่ที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมหมู่บ้านพื้นเมือง หรือการชิมอาหารทะเลสดใหม่ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หากคุณกำลังมองหาการหลบหนีจากความวุ่นวาย ฟาการาวา จะเป็นท่าเทียบเรือที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและประสบการณ์อันล้ำค่า สร้างความทรงจำที่แสนพิเศษท่ามกลางความงดงามแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก
ในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ประเทศฟรานซ์โพลีกีเนียคือสวรรค์บนดินที่เต็มไปด้วยความงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย หนึ่งในจุดหมายที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวคือ ท่าเรือแห่ง ทูโอ อะทอลล์ (Toau Atoll) ซึ่งเป็นท่าเรือที่เงียบสงบและมีน้ำทะเลสีฟ้าใส ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง ทูโอ อะทอลล์มีเกาะเล็กๆ และอ่าวที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นที่หลบภัยที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการดำดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังสีสันสดใส หรือการสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น พายเรือคายัคและเล่นเซิร์ฟ การเดินเล่นบนชายหาดที่เงียบสงบท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่งดงามคือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจวัฒนธรรมพื้นเมืองอันบริสุทธิ์ ที่จะนำพาท่านสู่ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวเกาะ ฟรานซ์โพลีกีเนียได้หยิบยกเอกลักษณ์ที่สำคัญเหล่านี้มาให้ทุกคนได้ลองดื่มด่ำ ตั้งแต่การลองชิมอาหารท้องถิ่นไปจนถึงการเข้าร่วมในเทศกาลพื้นเมือง เมื่อคุณมาที่ทูโอ อะทอลล์ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและความสงบสุขซึ่งสามารถเติมเต็มจิตใจ และทิ้งความทรงจำที่ยากจะลืมในทริปของคุณอย่างแน่นอน
อนา ท่าเรือสุดหรูในเฟรนช์โปลินีเซีย มอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่อาจลืมเลือนให้แก่ผู้มาเยือน ด้วยความงดงามของทะเลสีฟ้าใส และชายหาดขาวละเอียด ท่าเรือนี้เป็นเสมือนประตูสู่ความฝันของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและความสงบ อนาไม่เพียงมีเสน่ห์ที่ทิวทัศน์อันตระการตา แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจวัฒนธรรมและประเพณีของชาวโปลินีเซียนอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะบอราบอร่า ที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาไฟที่สวยงามและหาดทรายที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกิจกรรมดำน้ำตื้น ซึ่งจะพาไปสำรวจโลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและปะการังที่สวยงาม ด้วยการบริการที่นำเสนออย่างมีระดับ แพ็คเกจการท่องเที่ยวที่แสนน่าจดจำ และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ อนาจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมอบความสุขให้กับทุกคนที่มาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่หวานฉ่ำหรือครอบครัวที่ต้องการสร้างความทรงจำที่มีค่า พร้อมที่จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติในที่สุด

ปาเปตีเต้ (Papeete) คือประตูสู่สวรรค์แห่งทุนดราของโปลินีเซียน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา นอกจากจะเป็นฐานที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจเกาะตาฮิทีแล้ว ยังตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม และมหาสมุทรสีฟ้าครามที่เชื้อเชิญให้คุณเข้าไปดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล ในช่วงเวลาที่คุณใช้เวลาในเมือง คุณจะได้พบกับชายหาดสีดำสุดตระการตาที่บ่งบอกถึงมรดกภูเขาไฟ สถานที่ที่แสดงถึงความสวยงามของธรรมชาติที่งดงามเช่นเดียวกับลากูนที่มีน้ำใสแจ๋ว พร้อมสำหรับการดำน้ำตื้น และสามารถสนุกสนานกับการปีนเขาไปยังยอดเขาสีเขียว โดยการแวะพักในกระท่อมบนเสาไม้ที่ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำเจิดจรัส ช่วงเวลาในปาเปตีเต้ จะทำให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายในจังหวะชีวิตอันมีเสน่ห์ของโปลินีเซีย สัมผัสประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ เพียงแค่ก้าวออกจากเรือสำราญเพื่อเริ่มการผจญภัยในดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงามแห่งนี้ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืมเลือน

ในหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ที่เต็มไปด้วยความงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย "ไรอาเตา" (Raiatea) คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาถึงเฟรนช์โพลินีเซีย ท่าเรือไรอาเตานั้นเป็นเหมือนประตูสู่สวรรค์เขตร้อน โดยมีกระแสน้ำใสและทิวทัศน์ที่พิสุทธิ์แห่งหน้าผาและป่าฝนเขียวขจีรอบตัว เมื่อเรือสำราญมาถึงท่าเรือ ตั้งแต่อดีตนับร้อยปี ไรอาเตาเป็นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญในวัฒนธรรมของชาวโพลีนีเซีย ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจธรรมชาติที่งดงาม แหล่งดำน้ำที่เต็มไปด้วยปลาสีสันสดใส หรือการเดินทางไปยังวัดโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาหลายร้อยปี การชิมอาหารท้องถิ่นจะเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ยากจะลืมในไรอาเตา จากสมูทตี้มะพร้าวไปจนถึงจานไก่ในซอสสับปะรด ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติที่แท้จริงของหมู่เกาะแปซิฟิก ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะพักผ่อนริมชายหาด หรือผจญภัยในธรรมชาติ ไรอาเตาต่างมีให้คุณเสมอ สัมผัสความงามที่ไรอาเตาและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในทริปนี้!
อายุของความงามในกลุ่มเกาะคุกนั้นไม่อาจเปรียบเทียบได้เมื่อพูดถึง “ไอตูตากิ” (Aitutaki) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เกาะที่สวยที่สุดในโลก” โดยโทนี วีลเลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Lonely Planet พระอาทิตย์ตกที่นี่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีกลิ่นอายของโรแมนติกที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรงเมื่อสีสันแห่งการสะท้อนในท้องฟ้าตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าลึกและหาดทรายขาวบริสุทธิ์ ไอตูตากิไม่เพียงมีความงามตามธรรมชาติ แต่ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เริ่มต้นตั้งแต่การเยือนของลูกเรือ HMS Bounty ในปี 1789 ซึ่งต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นเมื่อผู้ตั้งถิ่นฐานโพลินีเซียนมาถึงในราวปี 900 และสร้างวัฒนธรรมการร้องเพลงและการเต้นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แม้ว่าจะมีการแนะนำศาสนาคริสต์เข้ามา แต่ความรักในการแสดงออกของประชาชนยังคงเหนือกว่ามาโดยตลอด หาดทรายที่นี่ให้คุณได้ผ่อนคลายสุดๆ ขณะที่คุณนอนเหยียดอยู่ในอานม้า ภายในอ่าวไอตูตากิ แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำสำคัญที่เต็มไปด้วยปลาทะเลนานาชนิด พร้อมโอกาสในการดำน้ำตื้นที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเกาะหนึ่งฟุต ที่คุณจะมีโอกาสได้รับตราประทับอันเป็นเอกลักษณ์จากเกาะนี้ นอกจากนี้ยังมีเกาะมอทูรากาวสวรรค์ของนกและปูที่คอยให้คุณได้สัมผัสกับความงามที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริง การเยือนไอตูตากิคือการสัมผัสกับความงามที่ลึกล้ำ ท่ามกลางเกาะอันงดงามที่รอคอยให้คุณได้เข้ามาสร้างความทรงจำอันยั่งยืน


ท่าเรืออาเปีย ตั้งอยู่ในซามัว เป็นประตูสู่ความงดงามของเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ โดยซามัวประกอบด้วยเกาะทั้งหมดสิบแห่งที่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามและภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ คลื่นซัดสาดในบริเวณชายฝั่งที่มีหาดทรายขาวสะอาด เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชีวิตความเป็นอยู่แบบฟาอา ซามัว ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี เมื่อคุณก้าวเข้ามาถึงอาเปีย คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่แสดงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งการต้อนรับที่อบอุ่นและการนำเสนอสินค้าหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลไม้สด แหล่งประวัติศาสตร์เช่น น้ำตกปลาคูส หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของซามัว การเยือนอาเปียไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังช่วยให้คุณสัมผัสถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและลึกซึ้งของชาวซามัว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน พร้อมเปิดประสบการณ์การผจญภัยในสวรรค์เขตร้อนแห่งนี้
เนียฟู (Neiafu) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศตองกา แห่งหมู่เกาะโพลีเนเซียนที่มีทั้งหมด 169 เกาะ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนใต้ของเกาะวาวาอู (Vava’u) เมืองนี้มีประชากรเพียง 6,000 คน แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามที่รอคอยให้คุณสัมผัส ท่าเรือที่มีชื่อว่า 'Port of Refuge' เป็นจุดหมายหลักสำหรับเรือสำราญ ผู้เดินทางสามารถนั่งเรือชมทิวทัศน์ที่สร้างความประทับใจจากน้ำที่ใสสะอาดในภูมิภาคนี้ ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน คุณสามารถพบกับวาฬหลังค่อมที่มาเยือนน้ำสงบแห่งนี้ หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในเนียฟูคือสวนพฤกษศาสตร์เอเนอิโอ (Eneio Botanical Garden) ซึ่งเป็นที่หลบภัยของนกพันธุ์หายากทั้งจากธรรมชาติและต่างแดน พร้อมกับพืชพันธุ์ที่หลากหลาย ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ เชิญคุณมาสำรวจความมหัศจรรย์ของตองกาในแบบที่ไม่เหมือนใคร!

นุกูอาลอฟา เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรตองก้า เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจในใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากล่องเรือสำราญอันหรูหรากลางทะเล นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะตองก้า ซึ่งเต็มไปด้วยแนวปะการังที่สวยงามและชายหาดทรายขาวนวล ความเงียบสงบของทะเลสีฟ้าครามและแหล่งน้ำตื้นอันสดใสจะนำคุณไปสู่ประสบการณ์การว่ายน้ำกับวาฬอย่างใกล้ชิด ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่คุณสามารถว่ายน้ำร่วมกับสัตว์ยักษ์ในน้ำทะเลเขตร้อน นอกจากนี้ บริเวณบ้านเมืองยังมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ รวมถึงประวัติศาสตร์การปกครองที่ชัดเจนและกิจกรรมการละเล่นพื้นเมือง จึงเป็นโอกาสที่ดีให้คุณได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของประชาชนท้องถิ่น หากคุณต้องการความสงบสุข ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด หรือการสำรวจธรรมชาติบริสุทธิ์ คุณจะพบกับประสบการณ์ที่น่าจดจำ รอคุณอยู่ที่นุกูอาลอฟา ล่องเรือสำราญที่นี่เพื่อสร้างความทรงจำอันแสนพิเศษในเส้นทางการเดินทางของคุณ!
เมื่อเรือสำราญของคุณล่องลอยมาถึงท่าเรือ Vanua Balavu ที่หมู่เกาะ Lau ประเทศฟิจิ คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์แห่งธรรมชาติที่งดงามอย่างแท้จริง ที่นี่เป็นดินแดนที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์ โดยถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่ขาวสะอาด เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ใฝ่หาความสงบและความงามของธรรมชาติ Vanua Balavu เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นและประเพณีที่หลากหลาย คุณสามารถสำรวจหมู่บ้านท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด พบกับการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวฟิจิที่ใจดี สนุกไปกับการสัมผัสประสบการณ์แบบดั้งเดิม ในขณะที่คุณเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันและศิลปะการทำงานฝีมือที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ทะเลรอบๆ Vanua Balavu ยังเป็นที่ตั้งของจุดดำน้ำและดำน้ำลึกที่น่าทึ่ง มีแนวปะการังที่มีสีสันและสัตว์ทะเลที่หลากหลาย ซึ่งทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำ ไม่เพียงแต่ความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่พร้อมพาให้คุณหลงใหล Vanua Balavu ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจหมู่เกาะฟิจิอันครบวงจร สร้างความทรงจำที่มีค่าไม่รู้ลืมในทุกช่วงเวลาของการเดินทางนี้
หมู่เกาะยาซาวาในฟิจิ เป็นสรวงสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางทะเลอันกว้างใหญ่ โดยท่าเรือที่สำคัญที่สุดคือหมู่บ้านนาบูเครุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะนี้ เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่น้ำทะเลใสสีฟ้าเขียวและธรรมชาติอันหลากหลายที่โอบล้อมด้วยภูเขาที่งดงาม นอกจากนี้ ที่นี่เคยเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์โรแมนติก แบลู ลากูน ทั้งในปี 1949 และ 1980 ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือน นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังมีโอกาสได้สัมผัสกับถ้ำหินปูนซาวา-อิ-ลาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น “หัวใจของยาซาวา” เพื่อเข้าถึงถ้ำนี้ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องว่ายน้ำจากทางเข้าที่ถูกน้ำลดในสระใต้ทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่มีบรรยากาศที่มอบประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าหลงใหลสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ ไม่เพียงแต่นาบูเครุและถ้ำซาวา-อิ-ลาว ที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ เช่น การดำน้ำตื้น และการเดินป่าเพื่อสัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมประเพณีที่ยังหลงเหลืออยู่ในชุมชนท้องถิ่น อย่างแน่นอนว่า ท่าเรือนี้จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่อาจลืมเลือนแก่ผู้ที่ตั้งใจมาเยือน

ท่าเรือลาวโทกา (Lautoka) ตั้งอยู่ในประเทศฟิจิ เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสำรวจความงดงามแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก เสน่ห์ของลาวโทกานั้นไม่เพียงแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์อันหลากหลายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเกษตรกรรมอ้อย โดยที่นี่ถูกขนานนามว่า "เมืองน้ำตาล" มีโรงงานแปรรูปอ้อยที่ใหญ่โตเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค การเดินทางจากนาดี (Nadi) สู่ลาวโทกาใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยจะผ่านไร่อ้อยฟีเจอร์มของภูมิภาค ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวฟิจิอย่างใกล้ชิด ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางสู่การล่องเรือสำรวจหมู่เกาะเบลูลากูน (Blue Lagoon) และบีชคอมเบอร์ (Beachcomber) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องของน้ำทะเลใสสะอาดและชายหาดที่ขาวนุ่ม นอกจากนั้น ลาวโทการองรับนักท่องเที่ยวที่มองหาสินค้าเสื้อผ้าในราคาย่อมเยา ด้วยบรรยากาศของเมืองแล้วยังมีร้านรวงจำหน่ายสินค้าจำนวนมาก ที่นี่จึงเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เหมาะสำหรับการสะสมของฝากกลับบ้าน และสัมผัสกับความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมฟิจิอย่างแท้จริง
