
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Pursuit
Seabourn


ซานอันโตนิโอ (San Antonio) ตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศชิลี เป็นจุดแวะที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่มาด้วยเรือสำราญ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ซานอันโตนิโอมีท่าจอดเรือที่ทันสมัย ซึ่งสามารถรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ พร้อมบริการที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อคุณมาถึงที่นี่ คุณจะถูกยั่วยวนด้วยทิวทัศน์ของหน้าผาและชายหาดที่สวยงาม มีโอกาสไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ชิลี และสองเมืองที่น่าพิศวงในบริเวณใกล้เคียงคือ ปอร์ตาแมดริน (Porte Madryn) และวิน่าเดลมาร์ (Viña del Mar) ซึ่งเป็นสุดยอดปลายทางที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีรสชาติอร่อย ในการเดินทางนี้ อย่าลืมชมความงดงามของอุทยานแห่งชาติซานติก้า (Cerro Castillo) และลองชิมไวน์ชิลีที่มีชื่อเสียงในระดับโลก เพียงก้าวออกจากเรือสำราญและคุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ที่ซานอันโตนิโอ สถานที่ที่สะท้อนถึงความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่รอคุณอยู่!


ดุซี่ ไอแลนด์ (Ducie Island) เป็นจุดหมายปลายทางที่แปลกตาและโรแมนติก โดยตั้งอยู่ในเขตของหมู่เกาะพิตแคร์น เมืองที่เงียบสงบนี้ถูกค้นพบในปี 1606 โดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส และมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรือด่วน Acadia ซึ่งประสบอุบัติเหติเสียหายบริเวณเกาะในปี 1881 เนื่องจากผู้เฝ้าดูแลเข้าใจผิดว่าเกาะคือก้อนเมฆจากหาดทรายขาวสะอาด ดุซี่ ไอแลนด์ แม้ว่าจะไม่มีประชากรอาศัยอยู่ แต่กลับเป็นที่อยู่ของนกน้ำกว่า 500,000 ตัวที่มาทำรังอย่างสวยงาม และมีพืชพันธุ์ที่เติบโต เช่น Beach Heliotrope และ Pemphis ที่ปกคลุมพื้นที่กว่า 70% ของเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นนกที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น นกเมอเฟียส (Murphy's Petrels) นกขาว (White Terns) และนกยักษ์ฟริกเกต (Great Frigate birds) สำหรับผู้ที่รักการดำน้ำตื้น สถานที่นี้ยังมีจุดดำน้ำบริเวณซากเรือ Acadia ที่น่าตื่นตาตื่นใจและน้ำในลุ่งของแอตอลล์ให้ได้สำรวจ สิ่งเหล่านี้ทำให้ดุซี่ ไอแลนด์ เป็นสวรรค์สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์อันเงียบสงบและเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ การเยือนที่นี่เท่ากับการก้าวเข้าสู่โลกอีกใบที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน

เกาะพิทเคิร์น หรือที่รู้จักกันในชื่อท่าเรือพิทเคิร์น เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ระหว่างเปรูและนิวซีแลนด์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านอาดัมส์ทาวน์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวที่มีประชากรอาศัยอยู่ โดยมีผู้คนเพียง 56 คนเท่านั้น ซึ่งสะท้อนถึงสไตล์การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ พิทเคิร์นมีความเป็นมาที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของกลุ่มกบฏจากเรือ HMS Bounty ที่มาหลบซ่อนตัวในช่วงศตวรรษที่ 18 ที่นี่มีพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม ขณะเดียวกันคุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งมีพระคัมภีร์ HMS Bounty และโบสถ์อาดัมส์ทาวน์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกให้คุณได้สัมผัส อย่าลืมสำรวจถ้ำของฟลิตเชอร์ คริสเตียน ซึ่งเป็นที่เก็บความลับในประวัติศาสตร์ หรือค้นหานกพีทเคิร์นรีดวอร์เบลเลอร์ซึ่งเป็นนกพื้นเมืองที่หายาก สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำที่เกาะพิทเคิร์น ท่าเรือที่มอบความสงบสุขและสวยงาม เป็นการเดินทางที่แปลกใหม่และเฉพาะตัวที่จะทำให้คุณได้รับความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน

ฟาการาวา (Fakarava) คือหนึ่งในจุดหมายที่ล้ำค่าของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่ตั้งอยู่ในแถบหมู่เกาะเวอรีตา ด้วยทิวทัศน์อันงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวละเอียด ฟาการาวาจึงเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายและสัมผัสความงามตามธรรมชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะเขตร้อน ท่าเรือฟาการาวาเป็นสถานที่ที่เรือสำราญชื่อดังหลายลำแวะจอด โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน ในขณะเดียวกัน ยังสามารถสำรวจแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ดำน้ำตื้นเพื่อตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของชีวิตใต้ทะเล ทั้งปลาเขตร้อนและปะการังสีสันสดใส ไม่ไกลจากท่าเรือ ยังมีกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นมากมาย เช่น การตกปลาในน้ำลึก หรือเดินทางสำรวจเกาะเล็กๆ ที่อยู่รอบๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ฟาการาวาเป็นสถานที่ที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมหมู่บ้านพื้นเมือง หรือการชิมอาหารทะเลสดใหม่ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หากคุณกำลังมองหาการหลบหนีจากความวุ่นวาย ฟาการาวา จะเป็นท่าเทียบเรือที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและประสบการณ์อันล้ำค่า สร้างความทรงจำที่แสนพิเศษท่ามกลางความงดงามแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก
ในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ประเทศฟรานซ์โพลีกีเนียคือสวรรค์บนดินที่เต็มไปด้วยความงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย หนึ่งในจุดหมายที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวคือ ท่าเรือแห่ง ทูโอ อะทอลล์ (Toau Atoll) ซึ่งเป็นท่าเรือที่เงียบสงบและมีน้ำทะเลสีฟ้าใส ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง ทูโอ อะทอลล์มีเกาะเล็กๆ และอ่าวที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นที่หลบภัยที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการดำดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังสีสันสดใส หรือการสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น พายเรือคายัคและเล่นเซิร์ฟ การเดินเล่นบนชายหาดที่เงียบสงบท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่งดงามคือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจวัฒนธรรมพื้นเมืองอันบริสุทธิ์ ที่จะนำพาท่านสู่ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวเกาะ ฟรานซ์โพลีกีเนียได้หยิบยกเอกลักษณ์ที่สำคัญเหล่านี้มาให้ทุกคนได้ลองดื่มด่ำ ตั้งแต่การลองชิมอาหารท้องถิ่นไปจนถึงการเข้าร่วมในเทศกาลพื้นเมือง เมื่อคุณมาที่ทูโอ อะทอลล์ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและความสงบสุขซึ่งสามารถเติมเต็มจิตใจ และทิ้งความทรงจำที่ยากจะลืมในทริปของคุณอย่างแน่นอน
อนา ท่าเรือสุดหรูในเฟรนช์โปลินีเซีย มอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่อาจลืมเลือนให้แก่ผู้มาเยือน ด้วยความงดงามของทะเลสีฟ้าใส และชายหาดขาวละเอียด ท่าเรือนี้เป็นเสมือนประตูสู่ความฝันของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและความสงบ อนาไม่เพียงมีเสน่ห์ที่ทิวทัศน์อันตระการตา แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจวัฒนธรรมและประเพณีของชาวโปลินีเซียนอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะบอราบอร่า ที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาไฟที่สวยงามและหาดทรายที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกิจกรรมดำน้ำตื้น ซึ่งจะพาไปสำรวจโลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและปะการังที่สวยงาม ด้วยการบริการที่นำเสนออย่างมีระดับ แพ็คเกจการท่องเที่ยวที่แสนน่าจดจำ และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ อนาจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมอบความสุขให้กับทุกคนที่มาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่หวานฉ่ำหรือครอบครัวที่ต้องการสร้างความทรงจำที่มีค่า พร้อมที่จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติในที่สุด

ปาเปตีเต้ (Papeete) คือประตูสู่สวรรค์แห่งทุนดราของโปลินีเซียน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเฟรนช์โปลินีเซีย ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา นอกจากจะเป็นฐานที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจเกาะตาฮิทีแล้ว ยังตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม และมหาสมุทรสีฟ้าครามที่เชื้อเชิญให้คุณเข้าไปดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล ในช่วงเวลาที่คุณใช้เวลาในเมือง คุณจะได้พบกับชายหาดสีดำสุดตระการตาที่บ่งบอกถึงมรดกภูเขาไฟ สถานที่ที่แสดงถึงความสวยงามของธรรมชาติที่งดงามเช่นเดียวกับลากูนที่มีน้ำใสแจ๋ว พร้อมสำหรับการดำน้ำตื้น และสามารถสนุกสนานกับการปีนเขาไปยังยอดเขาสีเขียว โดยการแวะพักในกระท่อมบนเสาไม้ที่ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำเจิดจรัส ช่วงเวลาในปาเปตีเต้ จะทำให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายในจังหวะชีวิตอันมีเสน่ห์ของโปลินีเซีย สัมผัสประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ เพียงแค่ก้าวออกจากเรือสำราญเพื่อเริ่มการผจญภัยในดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงามแห่งนี้ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืมเลือน

ในหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ที่เต็มไปด้วยความงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย "ไรอาเตา" (Raiatea) คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาถึงเฟรนช์โพลินีเซีย ท่าเรือไรอาเตานั้นเป็นเหมือนประตูสู่สวรรค์เขตร้อน โดยมีกระแสน้ำใสและทิวทัศน์ที่พิสุทธิ์แห่งหน้าผาและป่าฝนเขียวขจีรอบตัว เมื่อเรือสำราญมาถึงท่าเรือ ตั้งแต่อดีตนับร้อยปี ไรอาเตาเป็นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญในวัฒนธรรมของชาวโพลีนีเซีย ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจธรรมชาติที่งดงาม แหล่งดำน้ำที่เต็มไปด้วยปลาสีสันสดใส หรือการเดินทางไปยังวัดโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาหลายร้อยปี การชิมอาหารท้องถิ่นจะเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ยากจะลืมในไรอาเตา จากสมูทตี้มะพร้าวไปจนถึงจานไก่ในซอสสับปะรด ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติที่แท้จริงของหมู่เกาะแปซิฟิก ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะพักผ่อนริมชายหาด หรือผจญภัยในธรรมชาติ ไรอาเตาต่างมีให้คุณเสมอ สัมผัสความงามที่ไรอาเตาและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในทริปนี้!
อายุของความงามในกลุ่มเกาะคุกนั้นไม่อาจเปรียบเทียบได้เมื่อพูดถึง “ไอตูตากิ” (Aitutaki) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เกาะที่สวยที่สุดในโลก” โดยโทนี วีลเลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Lonely Planet พระอาทิตย์ตกที่นี่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีกลิ่นอายของโรแมนติกที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรงเมื่อสีสันแห่งการสะท้อนในท้องฟ้าตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าลึกและหาดทรายขาวบริสุทธิ์ ไอตูตากิไม่เพียงมีความงามตามธรรมชาติ แต่ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เริ่มต้นตั้งแต่การเยือนของลูกเรือ HMS Bounty ในปี 1789 ซึ่งต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นเมื่อผู้ตั้งถิ่นฐานโพลินีเซียนมาถึงในราวปี 900 และสร้างวัฒนธรรมการร้องเพลงและการเต้นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แม้ว่าจะมีการแนะนำศาสนาคริสต์เข้ามา แต่ความรักในการแสดงออกของประชาชนยังคงเหนือกว่ามาโดยตลอด หาดทรายที่นี่ให้คุณได้ผ่อนคลายสุดๆ ขณะที่คุณนอนเหยียดอยู่ในอานม้า ภายในอ่าวไอตูตากิ แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำสำคัญที่เต็มไปด้วยปลาทะเลนานาชนิด พร้อมโอกาสในการดำน้ำตื้นที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเกาะหนึ่งฟุต ที่คุณจะมีโอกาสได้รับตราประทับอันเป็นเอกลักษณ์จากเกาะนี้ นอกจากนี้ยังมีเกาะมอทูรากาวสวรรค์ของนกและปูที่คอยให้คุณได้สัมผัสกับความงามที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริง การเยือนไอตูตากิคือการสัมผัสกับความงามที่ลึกล้ำ ท่ามกลางเกาะอันงดงามที่รอคอยให้คุณได้เข้ามาสร้างความทรงจำอันยั่งยืน


ท่าเรืออาเปีย ตั้งอยู่ในซามัว เป็นประตูสู่ความงดงามของเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ โดยซามัวประกอบด้วยเกาะทั้งหมดสิบแห่งที่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามและภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ คลื่นซัดสาดในบริเวณชายฝั่งที่มีหาดทรายขาวสะอาด เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชีวิตความเป็นอยู่แบบฟาอา ซามัว ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี เมื่อคุณก้าวเข้ามาถึงอาเปีย คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่แสดงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งการต้อนรับที่อบอุ่นและการนำเสนอสินค้าหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลไม้สด แหล่งประวัติศาสตร์เช่น น้ำตกปลาคูส หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของซามัว การเยือนอาเปียไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังช่วยให้คุณสัมผัสถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและลึกซึ้งของชาวซามัว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน พร้อมเปิดประสบการณ์การผจญภัยในสวรรค์เขตร้อนแห่งนี้
เนียฟู (Neiafu) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศตองกา แห่งหมู่เกาะโพลีเนเซียนที่มีทั้งหมด 169 เกาะ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนใต้ของเกาะวาวาอู (Vava’u) เมืองนี้มีประชากรเพียง 6,000 คน แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามที่รอคอยให้คุณสัมผัส ท่าเรือที่มีชื่อว่า 'Port of Refuge' เป็นจุดหมายหลักสำหรับเรือสำราญ ผู้เดินทางสามารถนั่งเรือชมทิวทัศน์ที่สร้างความประทับใจจากน้ำที่ใสสะอาดในภูมิภาคนี้ ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน คุณสามารถพบกับวาฬหลังค่อมที่มาเยือนน้ำสงบแห่งนี้ หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในเนียฟูคือสวนพฤกษศาสตร์เอเนอิโอ (Eneio Botanical Garden) ซึ่งเป็นที่หลบภัยของนกพันธุ์หายากทั้งจากธรรมชาติและต่างแดน พร้อมกับพืชพันธุ์ที่หลากหลาย ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ เชิญคุณมาสำรวจความมหัศจรรย์ของตองกาในแบบที่ไม่เหมือนใคร!

นุกูอาลอฟา เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรตองก้า เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจในใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากล่องเรือสำราญอันหรูหรากลางทะเล นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะตองก้า ซึ่งเต็มไปด้วยแนวปะการังที่สวยงามและชายหาดทรายขาวนวล ความเงียบสงบของทะเลสีฟ้าครามและแหล่งน้ำตื้นอันสดใสจะนำคุณไปสู่ประสบการณ์การว่ายน้ำกับวาฬอย่างใกล้ชิด ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่คุณสามารถว่ายน้ำร่วมกับสัตว์ยักษ์ในน้ำทะเลเขตร้อน นอกจากนี้ บริเวณบ้านเมืองยังมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ รวมถึงประวัติศาสตร์การปกครองที่ชัดเจนและกิจกรรมการละเล่นพื้นเมือง จึงเป็นโอกาสที่ดีให้คุณได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของประชาชนท้องถิ่น หากคุณต้องการความสงบสุข ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด หรือการสำรวจธรรมชาติบริสุทธิ์ คุณจะพบกับประสบการณ์ที่น่าจดจำ รอคุณอยู่ที่นุกูอาลอฟา ล่องเรือสำราญที่นี่เพื่อสร้างความทรงจำอันแสนพิเศษในเส้นทางการเดินทางของคุณ!
เมื่อเรือสำราญของคุณล่องลอยมาถึงท่าเรือ Vanua Balavu ที่หมู่เกาะ Lau ประเทศฟิจิ คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์แห่งธรรมชาติที่งดงามอย่างแท้จริง ที่นี่เป็นดินแดนที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์ โดยถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่ขาวสะอาด เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ใฝ่หาความสงบและความงามของธรรมชาติ Vanua Balavu เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นและประเพณีที่หลากหลาย คุณสามารถสำรวจหมู่บ้านท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด พบกับการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวฟิจิที่ใจดี สนุกไปกับการสัมผัสประสบการณ์แบบดั้งเดิม ในขณะที่คุณเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันและศิลปะการทำงานฝีมือที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ทะเลรอบๆ Vanua Balavu ยังเป็นที่ตั้งของจุดดำน้ำและดำน้ำลึกที่น่าทึ่ง มีแนวปะการังที่มีสีสันและสัตว์ทะเลที่หลากหลาย ซึ่งทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำ ไม่เพียงแต่ความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่พร้อมพาให้คุณหลงใหล Vanua Balavu ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจหมู่เกาะฟิจิอันครบวงจร สร้างความทรงจำที่มีค่าไม่รู้ลืมในทุกช่วงเวลาของการเดินทางนี้
หมู่เกาะยาซาวาในฟิจิ เป็นสรวงสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางทะเลอันกว้างใหญ่ โดยท่าเรือที่สำคัญที่สุดคือหมู่บ้านนาบูเครุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะนี้ เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่น้ำทะเลใสสีฟ้าเขียวและธรรมชาติอันหลากหลายที่โอบล้อมด้วยภูเขาที่งดงาม นอกจากนี้ ที่นี่เคยเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์โรแมนติก แบลู ลากูน ทั้งในปี 1949 และ 1980 ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือน นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังมีโอกาสได้สัมผัสกับถ้ำหินปูนซาวา-อิ-ลาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น “หัวใจของยาซาวา” เพื่อเข้าถึงถ้ำนี้ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องว่ายน้ำจากทางเข้าที่ถูกน้ำลดในสระใต้ทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่มีบรรยากาศที่มอบประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าหลงใหลสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ ไม่เพียงแต่นาบูเครุและถ้ำซาวา-อิ-ลาว ที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ เช่น การดำน้ำตื้น และการเดินป่าเพื่อสัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมประเพณีที่ยังหลงเหลืออยู่ในชุมชนท้องถิ่น อย่างแน่นอนว่า ท่าเรือนี้จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่อาจลืมเลือนแก่ผู้ที่ตั้งใจมาเยือน

ท่าเรือลาวโทกา (Lautoka) ตั้งอยู่ในประเทศฟิจิ เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสำรวจความงดงามแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก เสน่ห์ของลาวโทกานั้นไม่เพียงแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์อันหลากหลายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเกษตรกรรมอ้อย โดยที่นี่ถูกขนานนามว่า "เมืองน้ำตาล" มีโรงงานแปรรูปอ้อยที่ใหญ่โตเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค การเดินทางจากนาดี (Nadi) สู่ลาวโทกาใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยจะผ่านไร่อ้อยฟีเจอร์มของภูมิภาค ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวฟิจิอย่างใกล้ชิด ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางสู่การล่องเรือสำรวจหมู่เกาะเบลูลากูน (Blue Lagoon) และบีชคอมเบอร์ (Beachcomber) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องของน้ำทะเลใสสะอาดและชายหาดที่ขาวนุ่ม นอกจากนั้น ลาวโทการองรับนักท่องเที่ยวที่มองหาสินค้าเสื้อผ้าในราคาย่อมเยา ด้วยบรรยากาศของเมืองแล้วยังมีร้านรวงจำหน่ายสินค้าจำนวนมาก ที่นี่จึงเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เหมาะสำหรับการสะสมของฝากกลับบ้าน และสัมผัสกับความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมฟิจิอย่างแท้จริง
หมู่เกาะฟิจิเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ท่าเรือ Nabukeru ในมหาสมุทรแปซิฟิก ท่าเรือนี้ตั้งอยู่บนเกาะ Yasawa ที่สวยงาม เป็นประตูสู่โลกแห่งการผจญภัยที่มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น การดำน้ำที่แนวปะการังที่มีสีสัน การเดินป่าในป่าเขตร้อน และการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อบอุ่นและเป็นมิตร ท่าเรือ Nabukeru เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการสำรวจชายหาดที่มีทรายขาวสะอาดและน้ำทะเลสวยใส อาทิ หาดที่มีชื่อเสียงอย่าง Blue Lagoon Beach ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเกาะ Yasawa นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำ เช่น การพายเรือคายัค การตกปลา หรือแม้แต่การว่ายน้ำกับฉลามและเต่าทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากกิจกรรมทางน้ำแล้ว ยังมีโอกาสสัมผัสกับวัฒนธรรมฟิจิ โดยการเยี่ยมชมหมู่บ้านท้องถิ่นที่นำเสนอวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม การทำอาหารฟิจิ และการแสดงเต้นรำที่มีชีวิตชีวา ทำให้ท่าเรือ Nabukeru ไม่ได้เป็นเพียงจุดหยุดพักสำหรับการผจญภัย แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำในใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอันงดงาม
ท่าเรืออัมบริมในประเทศวานูอาตู ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักของเรือสำราญเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่โลกแห่งมายาและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ ดินแดนแห่งนี้มีชายหาดทรายดำที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟที่ยังคงมีชีวิตชีวา ทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "เกาะแห่งเวทมนตร์" อัมบริมยังเป็นที่ตั้งของภาษาท้องถิ่นถึงห้าภาษา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของภาษากว่าร้อยภาษาที่หลากหลายของวานูอาตู หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นที่แท้จริง ไม่ควรพลาดกิจกรรม "Rom" ซึ่งเป็นการเต้นรำประเพณีที่ชุมชนรานอนจัดขึ้น ในการเต้นรำนี้ ผู้เข้าร่วมจะต้องเตรียมหน้ากากและชุดด้วยความลับ โดยการเต้นรำจะจัดขึ้นในโอกาสพิเศษเท่านั้น ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของความเชื่อและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน สัมผัสความงามของธรรมชาติและมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมที่อัมบริม เป็นการเดินทางที่เติมเต็มทั้งจิตใจและจิตวิญญาณ ให้คุณได้ค้นพบประสบการณ์ใหม่ในท่ามกลางความงามที่ไม่เหมือนใครแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก
เกาะเพนเทคอสต์ (Pentecost Island) เป็นเกาะเขตร้อนที่มีภูเขาเขียวขจี ยาวกว่า 37 ไมล์ ตั้งอยู่ในประเทศวานูอาตู เกาะนี้ได้รับชื่อมาจากวันทีชาวยุโรปคนแรกได้เห็นในปี 1768 โดยหลุยส์ อองตวน เดอ บูแก็งวิลล์ ที่สำคัญคือ ที่นี่ไม่มีเมืองใหญ่ ผู้คนส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ และเพาะปลูกอาหารในสวนของตัวเอง ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิม หนึ่งในประเพณีที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะเพนเทคอสต์ คือ การกระโดดดิน (land diving) ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเก็บเกี่ยวมันเทศ โดยจะมีการสร้างหอสูงจากต้นไม้และกิ่งก้านที่ผูกด้วยเถาวัลย์ ซึ่งใช้เวลามากถึง 5 สัปดาห์ในการสร้าง ชายหนุ่มที่เข้าร่วมพิธีจะต้องเลือกเถาวัลย์ของตนเองเพื่อใช้ในการกระโดดลงจากความสูงระหว่าง 60 ถึง 90 ฟุต ด้วยความหวังว่าจะได้ผลผลิตที่ดีในฤดูเก็บเกี่ยว หากคุณมีโอกาสได้เยี่ยมชมเกาะเพนเทคอสต์ คุณจะได้สัมผัสกับชีวิตที่เรียบง่ายแต่แสนงดงาม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างและยากจะลืมเลือน สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ยั่งยืนในที่แห่งนี้กันเถอะ!

ต้อนรับสู่เอสพิริตูซานโต ดินแดนที่ส่องประกายเจิดจรัสแห่งวานูอาตู ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมมาบรรจบกันอย่างลงตัว เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือนี้ คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของชายหาดขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส และธรรมชาติอันสมบูรณ์พร้อมกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ในเอสพิริตูซานโต คุณสามารถสำรวจจุดดำน้ำสุดมหัศจรรย์ อย่างเช่น SS President Coolidge เรือสินค้าที่จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งมีชีวิตใต้ทะเลมากมายรอให้คุณค้นหา หรือจะเดินทางไปยังมหัศจรรย์ของน้ำตกที่ดึงดูดตาคุณอย่างน้ำตกเจ็ดชั้น ธรรมชาติอันงดงามนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำ นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมพื้นเมือง อาทิ การแสดงดนตรีและการเต้นของชนเผ่าท้องถิ่น หรือพบปะและพูดคุยกับชาวบ้านที่มีเสน่ห์ซึ่งพร้อมจะเล่าเรื่องราวและแบ่งปันชีวิตประจำวันแก่คุณ ให้เรือสำราญของคุณพาคุณมาเปิดโลกใหม่ในเอสพิริตูซานโต สถานที่ที่ทุกจุดมุมมองมีเสน่ห์ดึงดูดใจ และมอบความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม
อลอตอว์ (Alotau) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิลน์เบย์ ตั้งอยู่ที่อ่าวตะวันออกเฉียงใต้ของปาปัวนิวกินี เมืองนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมซากและอนุสรณ์สถานที่เกี่ยวข้องกับสงครามนี้ได้อย่างชัดเจน ในการเดินทางสำรวจเมืองอลอตอว์ คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่งดงามของอ่าว รวมทั้งเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นที่คึกคัก ซึ่งไม่เพียงแต่มีชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังมีผู้ค้าเกาะจากแหล่งต่าง ๆ มาขายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อลอตอว์ยังเป็นท่าเรือสำคัญที่เชื่อมโยงไปยังเกาะต่าง ๆ ของภูมิภาคนี้ ดึงดูดผู้ค้าที่นำงานหัตถกรรมจากเกาะต่าง ๆ มาสร้างสีสันให้กับการเดินชมตลาด อาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ และสินค้าโบว์งานฝีมือ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด สำหรับผู้ที่รักการเดินทางและต้องการสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย อลอตอว์และพื้นที่รอบ ๆ จะทำให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของปาปัวนิวกินีอย่างแน่นอน มาเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจโลกใหม่ที่รอคุณอยู่ที่อลอตอว์กันเถอะ!

หมู่เกาะคอนฟลิกต์ (Conflict Island Group) ตั้งอยู่ในประเทศปาปัวนิวกินี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลที่สุดในแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร หมู่เกาะนี้ประกอบไปด้วยหลายเกาะเล็ก ๆ ที่มีธรรมชาติสวยงามและน้ำทะเลใสกระจ่าง ทำให้เป็นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการดำน้ำตื้นและเล่นเซิร์ฟ การเดินทางมายังหมู่เกาะคอนฟลิกต์ไม่เพียงแต่ให้โอกาสในการสำรวจโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสีสันของปะการังและสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ แต่ยังเป็นโอกาสในการสัมผัสวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์ โบสถ์ขนาดเล็กและหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวปาปัวที่กลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมเช่น การตกปลา การพายเรือคายัค และการสำรวจป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้การหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองเป็นเรื่องที่เข้ากันได้ง่ายดาย หากคุณกำลังมองหาทริปที่เต็มไปด้วยความสงบและความสวยงามของธรรมชาติ หมู่เกาะคอนฟลิกต์จะเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

เอเกตส์ (Agats) เมืองที่มีเสน่ห์และความงดงามอยู่ทางเหนือของเกาะนิวกีนีในอินโดนีเซีย เป็นท่าเรือที่จะนำคุณเข้าสู่โลกแห่งวัฒนธรรมและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมประสบการณ์อันยากจะลืมเลือน เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาลินู (Malinau River) ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ท่าเรือเอเกตส์ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในธรรมชาติ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจชนเผ่าชวา (Asmat) ผู้มีเอกลักษณ์ ทั้งภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์งานศิลปะแกะสลักไม้ที่ละเอียดและสวยงาม สัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าที่อยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติและเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีที่ยังคงถูกสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากการเยี่ยมชมชนเผ่าชวาแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางเข้าสู่ป่าฝนเขตร้อน เพื่อสัมผัสกับสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ที่หายาก หรือชมทิวทัศน์งดงามของท้องทะเล และเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่รายล้อม สิ่งเหล่านี้จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่ไม่มีวันลืม ให้เอเกตส์เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการเดินทางที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจ ให้คุณค้นพบความงามและความอบอุ่นของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยังคงอยู่ในความหมายแท้จริงของการเดินทาง



ท่าเรือ Vansittart Bay ตั้งอยู่ในเขตตะวันตกของออสเตรเลีย เป็นอ่าวที่มีความสวยงามและมีการป้องกันอย่างดี โดยล้อมรอบไปด้วยเกาะและอ่าวเล็ก ๆ มากมาย หนึ่งในจุดที่เด่นในอ่าวคือ เกาะ Jar ซึ่งเป็นที่ตั้งของภาพวาดหินโบราณที่มีชื่อเสียงในสไตล์ Gwion Gwion ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเฉพาะในภูมิภาค Kimberley ภาพวาดที่นี่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยถูกมองข้ามโดยนักวิจัยชาวยุโรปในช่วงแรก ๆ ซึ่งมักให้ความสนใจกับศิลปะ Wandjina ที่มีความโดดเด่นและน่าดึงดูดกว่า แต่ในปีหลัง ๆ ศิลปะ Gwion Gwion กลับได้รับการยอมรับในระดับโลก สะท้อนถึงคุณค่าของวัฒนธรรมที่มีอยู่ในดินแดนแห้งแล้งนี้ เมื่อคุณมีโอกาสได้เดินทางมาที่ Vansittart Bay เชิญชวนให้เข้าร่วมทีมสำรวจของคุณในการเดินชมพื้นที่ โดยผ่านรูปทรงหินที่น่าสนใจไปยังหอศิลป์ภาพวาด Gwion Gwion ที่บอกเล่าเรื่องราวของชนพื้นเมือง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม จะทำให้การเดินทางนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ลึกซึ้งและทรงคุณค่า.

ท่าเรือแอชมอร์ และคาร์เทียร์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในประเทศออสเตรเลีย ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เมื่อนึกถึงท่าเรือนี้ คุณจะนึกถึงแนวปะการังที่สวยงาม และสัตว์ทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างเช่น เต่าทะเลและดูกอง อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกทะเลและนกชายฝั่งมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์ที่มีนกประมาณ 100,000 ตัวอพยพมาอาศัยที่นี่ เช่น นกเกร็ทนอต นกครีสต์เทิร์น และนกทรอปิคเบิร์ดหางขาว นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว แอชมอร์ยังเป็นเขตอนุรักษ์ที่ให้การป้องกันสูงสุดแก่สัตว์ป่า แหล่งท่องเที่ยวนี้จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักการสำรวจและชื่นชมความงามของโลกใต้ทะเล หากคุณมีโอกาสแวะเยือนท่าเรือแห่งนี้ คุณจะได้พบบรรยากาศที่เงียบสงบ และโอกาสในการสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้น ชมการว่ายน้ำของปลาทะเลที่มีสีสันสดใส และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้ อาจเป็นช่วงเวลาที่ทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาและความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ท่าเรือ Hunter River & Mitchell Falls ตั้งอยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติ ด้วยทิวทัศน์ที่มีความหลากหลายและความน่าทึ่งของภูมิทัศน์ที่แปรผันตามฤดูกาล ท่าเรือนี้เป็นประตูสู่การสำรวจอุทยานแห่งชาติโคทส์ลู ราชาแห่งของน้ำตกที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น น้ำตกมิทเชลล์ ซึ่งตั้งตระหง่านในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหินทรายและหัวเข็มขัดของธรรมชาติ จากจุดชมวิว นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความงามของน้ำที่ร่วงหล่นอย่างอ่อนโยนลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง เป็นภาพที่เติมเต็มความรู้สึกและสร้างแรงบันดาลใจ การเดินทางไปยังท่าเรือแห่งนี้ยังมอบโอกาสให้ได้สัมผัสกับสัตว์ป่าที่หายากและน่าตื่นเต้น เช่น จระเข้และนกยักษ์ที่บินอยู่ในท้องฟ้าของออสเตรเลีย ถ้าคุณเป็นนักผจญภัย การล่องเรือในแม่น้ำฮันเตอร์จะนำคุณไปสู่สถานที่ที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ นอกจากนี้ การสำรวจถ้ำโบราณและการดำน้ำตื้นในบริเวณชายฝั่งก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ท่าเรือ Hunter River & Mitchell Falls ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่นำเสนอความงามทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นประสบการณ์ที่น่าจดจำในดินแดนที่ประทับใจทุกคนที่เยือน การมาที่นี่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณเปิดใจเพื่อค้นพบความมหัศจรรย์ในชีวิตของคุณเอง
คูรี เบย์ ตั้งอยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นท่าเรือที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสเดินทางไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่นี่ ท่าเรือแห่งนี้เรียงรายไปด้วยทิวทัศน์ทะเลที่สวยงามและสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ ศักยภาพในการดำน้ำตื้นที่มีน้ำใสและปะการังที่มีสีสันสดใส จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับโลกใต้ทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ คูรี เบย์ ยังล้อมรอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งธรรมชาติ เช่น เกาะร็อบินสัน ที่ทำให้คุณได้สัมผัสความเงียบสงบของอ่าวที่พาให้คุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของความงามแห่งธรรมชาติ ทั้งยังมีโอกาสสำรวจวัฒนธรรมของชาวออสเตรเลียพื้นเมือง ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลายเช่น การพายเรือคายัค ตกปลา หรือการสำรวจทางเดินธรรมชาติที่สดชื่น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจ คูรี เบย์ คืองานศิลปะแห่งธรรมชาติที่กระตุ้นให้คุณเติมเต็มฝันในการเดินทางอันน่าหลงใหล!
Montgomery Reef ตั้งอยู่ในเขต Western Australia เป็นหนึ่งในจุดหมายที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจของการท่องเที่ยวทางทะเลในออสเตรเลีย ท่าเรือนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเรือสำราญในการแวะจอดเพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางธรรมชาติที่ล้ำค่า Montgomery Reef เป็นสถานที่ที่น่ามหัศจรรย์ซึ่งสามารถมองเห็นได้ดีที่สุดเมื่อระดับน้ำลง จะทำให้แนวปะการังและหาดทรายโผล่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าอ่อนและภูเขาหินที่ทอดยาวเป็นฉากหลัง เป็นสวรรค์สำหรับคนรักการถ่ายภาพและผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ ไม่เพียงเท่านั้น Montgomery Reef ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเฉพาะถิ่นอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกทะเลและสัตว์ทะเลอย่างเต่าทะเลและฉลามตัวเล็ก นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมดำน้ำตื้นและสำรวจใต้ทะเลที่อุดมไปด้วยปะการังสีสันสดใส การเดินทางมายัง Montgomery Reef จะทำให้คุณได้สัมผัสกับการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร สนุกสนานไปกับความงามของธรรมชาติและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืม พร้อมทั้งเปิดรับประสบการณ์ใหม่ในโลกใต้ทะเลที่มีเสน่ห์แห่งนี้

ท่าเรือ Freshwater Cove ในออสเตรเลีย เป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ท่ามกลางความงามของหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้าคราม มีทัศนียภาพที่น่าหลงใหลและกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลายให้คุณได้สัมผัส เริ่มต้นการสำรวจด้วยการพายเรือคายัคหรือว่ายน้ำในน้ำที่ใสสะอาด โดยรอบยังมีภูเขาและป่าไม้เขียวขจีที่สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบและอบอุ่น ในบริเวณใกล้เคียง คุณจะพบกับชายหาด Freshwater Beach ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีกิจกรรมเซิร์ฟที่คับคั่งในทุกฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลในการเล่นเซิร์ฟที่นี่ถือเป็นหนึ่งในแหล่งที่ดีที่สุดของออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเท้าที่สวยงาม ซึ่งเชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ส่งผลให้การเดินทางของคุณเป็นการผจญภัยที่ไม่สิ้นสุด Freshwater Cove นอกจากจะเป็นที่จอดของเรือสำราญแล้ว ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเยือนออสเตรเลีย ด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย มาที่นี่แล้วคุณจะได้พบกับความงามที่จับใจ ความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน และแรงบันดาลใจในการเดินทางครั้งถัดไป.
Montgomery Reef ตั้งอยู่ในเขต Western Australia เป็นหนึ่งในจุดหมายที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจของการท่องเที่ยวทางทะเลในออสเตรเลีย ท่าเรือนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเรือสำราญในการแวะจอดเพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางธรรมชาติที่ล้ำค่า Montgomery Reef เป็นสถานที่ที่น่ามหัศจรรย์ซึ่งสามารถมองเห็นได้ดีที่สุดเมื่อระดับน้ำลง จะทำให้แนวปะการังและหาดทรายโผล่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าอ่อนและภูเขาหินที่ทอดยาวเป็นฉากหลัง เป็นสวรรค์สำหรับคนรักการถ่ายภาพและผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ ไม่เพียงเท่านั้น Montgomery Reef ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเฉพาะถิ่นอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกทะเลและสัตว์ทะเลอย่างเต่าทะเลและฉลามตัวเล็ก นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมดำน้ำตื้นและสำรวจใต้ทะเลที่อุดมไปด้วยปะการังสีสันสดใส การเดินทางมายัง Montgomery Reef จะทำให้คุณได้สัมผัสกับการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร สนุกสนานไปกับความงามของธรรมชาติและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืม พร้อมทั้งเปิดรับประสบการณ์ใหม่ในโลกใต้ทะเลที่มีเสน่ห์แห่งนี้

ท่าเรือ Talbot Bay ตั้งอยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น ท่าเรือนี้มักเป็นสถานที่จอดแวะของเรือสำราญในระหว่างการสำรวจแนวชายฝั่งที่ดิบดิบและงดงาม Talbot Bay โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่อันงดงาม น้ำทะเลใสสะอาดและภูเขาหินที่สูงตระหง่าน ประกอบไปด้วยช่องเขาที่เปิดให้เข้าถึงธรรมชาติในรูปแบบเต็มยศ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสกับ Phytoplankton ที่เปล่งแสงตระการตาในตอนกลางคืน รวมทั้งกิจกรรมดำน้ำตื้นที่ลืมไม่ลงกับสิ่งมีชีวิตทะเลที่หลากหลาย เช่น ปลาการ์ตูนและปะการังสวยงาม นอกจากความงดงามทางธรรมชาติ ยังมีจุดท่องเที่ยวใกล้เคียงที่ท้าทายนักผจญภัย เช่น Horizontal Falls สายน้ำทะเลที่สามารถเชื่อมโยงสองช่องเขาได้อย่างน่ามหัศจรรย์ โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับแรงที่พัดพาน้ำทะเลให้มีน้ำตกตามธรรมชาติ สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ Talbot Bay ไม่ใช่เพียงแค่จุดแวะระหว่างทาง แต่เป็นแหล่งที่หลอมรวมระหว่างความงามของธรรมชาติกับการผจญภัย ทั้งหมดนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ท่องเที่ยวเดินตามฝันที่ไม่สิ้นสุดในการสำรวจโลกใบนี้อย่างแท้จริง.

ท่าเรือลาเซพีด (Lacepede Islands) ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย คือสรวงสวรรค์ทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของคิมเบอร์ลีย์ ซึ่งประกอบด้วยเกาะจำนวน 4 แห่ง โดยเป็นแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ที่นี่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของสัตว์ป่า เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะพันธุ์หลักของเต่าทะเลพันธุ์กรีน และยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด เช่น นกหัวขวานหน้ากาก นกเพลคอน्ट และนกบราวน์บ๊อบบี้ ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่คุณเดินทางมาที่นี่ มาร่วมประสบการณ์ทัศนศึกษากับทีมออกสำรวจด้วยการขึ้นเรือซึมซับบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติอันงดงาม พร้อมเฝ้าดูชีวิตสัตว์ในสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความบอบบางของสภาพแวดล้อม การลงจอดบนเกาะลาเซพีดจึงไม่ได้รับอนุญาต เพื่อรักษาความสมดุลทางนิเวศน์ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่แสดงถึงความงามของธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ ท่าเรือลาเซพีดจะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ชวนฝัน และทำให้หัวใจของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการเดินทางตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเยือน.
โบรมนั้นเป็นเมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกด้วยชายหาดที่สวยงาม ประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรอินเดีย โบรมนำเสนอหาดเคเบิลที่มีชื่อเสียง ด้วยทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และการนั่งอูฐในยามพระอาทิตย์ตกที่เสน่ห์ดึงดูดใจ นอกจากนี้ โบรมนั้นเคยเป็นศูนย์กลางการเก็บไข่มุกที่สำคัญ ทำให้เมืองนี้ยังคงสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านอาหารและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ โบรมนั้นยังเป็นประตูสู่ภูมิภาคคิมเบอร์ลีย์ ที่มีทิวทัศน์ที่งดงามและสถานที่ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น สTreaircase to the Moon ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์ เสน่ห์ของโบรมนั้นทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผจญภัย การพักผ่อน และการสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ด้วยอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปีและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย โบรมนับเป็นจุดหมายปลายทางที่เตรียมพร้อมจะให้คุณสำรวจและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน ระหว่างการเดินทางสำราญของคุณมาที่นี่ คุณจะพบกับการผสมผสานของธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่จะทำให้คุณประทับใจอย่างแท้จริง


ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนเป็นห้องพักที่กว้างขวางพร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เปิดให้เห็นทัศนียภาพที่งดงาม ห้องนี้มีที่นั่งรับประทานอาหารสำหรับสี่คน และห้องน้ำที่มีอ่างน้ำวนให้คุณได้ผ่อนคลายเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำสำหรับแขกและโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงสำหรับหนึ่งคน ทำให้ห้องนี้เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนอย่างมีระดับในระหว่างการล่องเรือของคุณ

วิลล่า Wintergarden เป็นห้องพักที่กว้างขวางและมอบบรรยากาศแห่งความหรูหรา ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้แสงสว่างธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ พร้อมพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับสี่คน ที่ช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ในการร่วมรับประทานอาหาร นอกจากนี้ ห้องน้ำยังมีอ่างจากุซซี่เพื่อการผ่อนคลายไปพร้อมกับห้องน้ำสำหรับแขก และโซฟาปรับเปลี่ยนได้ที่สามารถแปลงเป็นเตียงสำหรับหนึ่งคน สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่เก็บของ ห้องยังมีตู้เสื้อผ้าสองใบและแพนทรีที่มีบาร์เปียก พร้อมด้วยพื้นที่กระจกที่เป็นโซลาริอมซึ่งมาพร้อมกับอ่างและเตียงนอนสำหรับการพักผ่อนในอากาศบริสุทธิ์ ในด้านความบันเทิง ห้องพักยังมีทีวีจอแบนสองเครื่องและบริการอินเทอร์เน็ต/ไวไฟฟรี เพื่อความสะดวกสบายในทุกช่วงเวลาของการพักผ่อนของท่าน


ซิกเนเจอร์สวีทเป็นห้องพักที่กว้างขวางพร้อมทิวทัศน์มหาสมุทรที่ตระการตา สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจนจากหน้าต่างที่หันไปทางด้านหน้า ห้องพักนี้เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารสำหรับ 4-6 คน มีห้องน้ำที่มีอ่างน้ำวนเพื่อการผ่อนคลายเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำสำหรับแขก แผนกครัวพร้อมบาร์แบบเปียก และทีวีจอแบนจำนวนสองเครื่อง สำหรับความสะดวกสบายเพิ่มเติม มีบริการอินเทอร์เน็ตและไวไฟฟรี ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับการเข้าพักที่หรูหราและสะดวกสบายบนเรือสำราญ

เจ้าของสวีทเป็นห้องพักที่มอบสัมผัสอันหรูหราและสะดวกสบาย ด้วยมุมมองทะเลที่กว้างขวางและหน้าต่างที่หันหน้าไปทางด้านหน้า ท่านจะสามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลที่งดงามจากภายในห้องพัก ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางและยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้ความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยมีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ความสะดวกสบายยังมีมากขึ้นด้วยตู้เก็บของขนาดใหญ่สำหรับเก็บเสื้อผ้าและอุปกรณ์การเดินทาง ตลอดจนมีตู้นิรภัยส่วนตัวสำหรับเก็บของมีค่า เจ้าของสวีทยังมีทีวีจอแบนสองเครื่อง เพื่อตอบสนองความบันเทิงของท่าน มีบาร์และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม สำหรับการรับประทานอาหารสามารถจัดโต๊ะสำหรับสี่ถึงหกคนได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่กว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำแบบวนและฝักบัว รวมถึงเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าอาบน้ำเพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการบริการอินเทอร์เน็ตและ Wi-Fi ฟรี เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ทุกเมื่อ

เพนท์เฮาส์สปาสวีทบนเรือ Seabourn Venture นำเสนอพื้นที่การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย พร้อมด้วยระเบียงส่วนตัวที่กว้างขวาง ห้องนอนสามารถเลือกได้ระหว่างเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมการออกแบบที่หรูหราและผ่อนคลาย ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่, ตู้นิรภัยส่วนตัว, และทีวีระบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกสรร นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้ครบครัน รวมถึงโต๊ะเขียนหนังสือที่มีเครื่องเขียนที่มีชื่อของท่าน และโต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำแยกจากห้องอาบน้ำ robe ฟูฟ่องและรองเท้าแตะ อุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพและความงามสุดหรู ไดร์เป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ขนาดห้องรวมประมาณ 527 ตารางฟุต (49 ตารางเมตร) ซึ่งรวมระเบียงขนาด 97 ตารางฟุต (9 ตารางเมตร) นับว่าเป็นประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่ควรพลาดในทุกๆ การเดินทาง.



เพนท์เฮาส์แพนโทน ร่า เป็นห้องสวีทที่กว้างขวาง มีพื้นที่ทั้งหมด 417 ตารางฟุต (39 ตารางเมตร) รวมถึงระเบียงกว้าง 85 ตารางฟุต (8 ตารางเมตร) ห้องนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมทั้งห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน ที่สามารถเลือกได้ระหว่างเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ ห้องนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินที่กว้างขวาง และมีเซฟส่วนตัวเพื่อความปลอดภัยของสิ่งของมีค่า นอกจากนี้ คุณจะพบกับโทรทัศน์จอแบน 2 เครื่อง ระบบทีวีที่สามารถเชื่อมต่อกับดนตรีและภาพยนตร์ รวมถึงมินิบาร์ที่เตรียมไว้เป็นอย่างดีและตู้เย็น ห้องน้ำขนาดใหญ่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความงามระดับหรู เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะเพื่อความสะดวกสบาย และปลั๊กไฟที่รองรับทั้ง 110V และ 220V เพลิดเพลินกับการเขียนหรือทำงานที่โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดหมายพิเศษเพื่อความเป็นส่วนตัว เพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าพักของคุณที่เพนท์เฮาส์แพนโทน ร่า เป็นประสบการณ์ที่หรูหราและไม่เหมือนใคร

เพนท์เฮาส์สวีทมีพื้นที่รวมประมาณ 527 ตารางฟุต (49 ตารางเมตร) รวมระเบียงขนาด 97 ตารางฟุต (9 ตารางเมตร) ห้องพักประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบายและระเบียงส่วนตัว พร้อมเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ ห้องนอนแยกต่างหากมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินและเซฟส่วนตัว ห้องน้ำกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก พร้อมอ่างล้างหน้าใหญ่และผลิตภัณฑ์สุขภาพชั้นเลิศ สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องรวมถึงทีวีจอแบน 2 เครื่อง บาร์น้ำดื่มที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม พร้อมตู้เย็น ที่ทำงานพร้อมเครื่องเขียนส่วนตัว เครื่องแต่งหน้า ชุดคลุมอาบน้ำ ฟองน้ำ และปลั๊กไฟ 110/220V นอกจากนี้ยังมีทีวีแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่มีเพลงและภาพยนตร์ให้เลือกชม ห้องเพนท์เฮาส์สวีทนี้จึงเป็นการหลีกหนีสู่ความหรูหราและสะดวกสบายในทุกๆ การเดินทางของคุณ

เพนท์เฮาส์สวีทการันตีเป็นห้องพักหรูที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและความหรูหรา ภายในห้องมีพื้นที่กว้างขวางและแยกส่วนที่นอนอย่างมีสไตล์ พร้อมทั้งโต๊ะอาหารที่สามารถนั่งได้สองถึงสี่คน สำหรับการรับประทานอาหารที่มีเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีประตูแก้วที่เปิดสู่ระเบียง ซึ่งทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องพักนี้มาพร้อมกับทีวีจอแบนสองเครื่องเพื่อความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง และบาร์ที่มีส่วนผสมครบครัน เพื่อให้คุณสามารถทำเครื่องดื่มในยามว่างได้ ห้องน้ำขนาดกว้างนั้นมีอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ ที่ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์การเข้าพักที่น่าประทับใจและสะดวกสบายอย่างแท้จริง

ห้องสวีทระเบียงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนในเรือสำราญ ขนาดห้องรวมประมาณ 355 ตารางฟุต (ประมาณ 33 ตารางเมตร) รวมระเบียงขนาด 75 ตารางฟุต (ประมาณ 7 ตารางเมตร) ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ขนาดใหญ่เพื่อเก็บสัมภาระการเดินทาง พร้อมทั้งตู้นิรภัยส่วนตัว และทีวีจอแบนที่สามารถเข้าถึงเพลงและภาพยนตร์ได้ นอกจากนี้ยังมีบาร์และตู้เย็นที่มีของเต็ม ตัวอย่างเช่น โต๊ะเขียนหนังสือที่มีเครื่องเขียนส่วนตัว และโต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว พร้อมด้วยอ่างล้างหน้าคู่ ชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และเต้ารับไฟฟ้าที่รองรับ 110/220V ห้องสวีทระเบียงจึงเป็นที่พักอันหรูหราที่มอบความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้เข้าพักในทุกการเดินทาง.

ห้องพักเวอรันดา สปาสวีทบนเรือ Seabourn Venture มอบประสบการณ์การเข้าพักที่แสนสะดวกสบายด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางและระเบียงส่วนตัว ชุดเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ขนาดใหญ่ พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in และตู้นิรภัยส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์ระบบอินเตอร์แอคทีฟที่ให้บริการเพลงและภาพยนตร์, บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างเต็มที่, โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนที่มีชื่อส่วนบุคคล, โต๊ะเครื่องแป้ง, ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก, เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะเนื้อนุ่ม, ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามระดับหรู รวมถึงไดร์เป่าผมและปลั๊กไฟ 110/220V ห้องพักบนดาดฟ้า 7 ได้แก่ ห้อง 741 และ 743 โดยมีพื้นที่รวมประมาณ 355 ตารางฟุต (33 ตารางเมตร) รวมถึงระเบียงขนาด 75 ตารางฟุต (7 ตารางเมตร) ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณมีความพิเศษยิ่งขึ้น.

พื้นที่โดยประมาณ: 33 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร ห้องชุดการรับประกันระเบียงบน Seabourn Venture มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว มีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ขนาดทวิน ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พิเศษที่เหมาะสำหรับอุปกรณ์การเดินทาง ตู้เซฟส่วนตัว ทีวีแบบฟลาตสกรีนที่มีเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ โต๊ะสำหรับแต่งหน้า ห้องน้ำขนาดกว้างขวางพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว เสื้อคลุมอาบน้ำฟูนุ่ม รองเท้าแตะ ไดร์เป่าผม และช่องไฟฟ้า 110/220V สำหรับการใช้งานต่างๆ ห้องชุดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหราและความสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง.

ขออภัย ฉันไม่สามารถให้ข้อมูลที่คุณต้องการได้ในขณะนี้