
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Venture
Seabourn


ดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์ กำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุค "Celtic Tiger" ที่ยิ่งใหญ่ สู่ความฟื้นตัวที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในยุโรปตะวันตก ดับลินในวันนี้คือการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และทันสมัย เพราะไม่ว่าคุณจะมาเยือนเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือเสน่ห์ใหม่ๆ จะพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยความบันเทิงที่ไม่รู้จบ วอล์กผ่านย่าน Temple Bar ย่านที่เคยอับโชคแต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยคาเฟ่และโรงแรมสุดเก๋ พร้อมบรรยากาศของปาร์ตี้ที่ไม่เคยหลับใหล นอกจากนี้ เขต Italian Quarter ที่แอบซ่อนความหรูหราด้วยร้านอาหารกลางแจ้งและการเรียนทำนองทังโก้ สะท้อนให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมเซลติก ที่ไม่ว่าจะเป็นการแสดง Riverdance หรือผลงานเพลงของ Hozier ก็สามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแล้ว ดับลินยังมีร้านค้า โรงแรม และแกลเลอรีศิลปะมากมาย ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางกรุงปารีส เมืองที่ค้นพบใหม่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าเย้ายวนใจ รอให้คุณสัมผัสและสร้างความทรงจำไม่รู้ลืมที่นี่ในเมืองที่เป็นนวัตกรรมและความมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง
เกาะคาลฟ์ ออฟ แมน (Calf of Man) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่เกาะแมน ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะแมนเอง ที่นี่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามและวิวทะเลที่ตระการตา นับว่าเป็นสถานที่สุดโรแมนติกและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน. เมื่อคุณเดินทางมาถึงที่ท่าเรือแห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และบรรยากาศที่เงียบสงบ การเดินทางสู่เกาะสามารถทำได้โดยเรือเฟอร์รี่จากเกาะแมน ทุกขั้นตอนการเดินทางช่างน่าตื่นเต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพของธรรมชาติอันสวยงามที่โอบล้อมรอบเกาะ. บนเกาะคาลฟ์ ออฟ แมน ยังมีเส้นทางเดินป่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยวชมธรรมชาติ ผู้เข้าชมสามารถเห็นนกทะเลที่หลากหลาย และชีวิตสัตว์ป่าในท้องถิ่น รวมถึงประภาคารที่โดดเด่นซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่ ไม่เพียงแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในดินแดนนี้ยังพร้อมที่จะท้าให้คุณค้นพบ เราขอเชิญชวนคุณให้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเกาะคาลฟ์ ออฟ แมน แห่งนี้!

ท่าเรือดั๊กกลาส ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะไอล์ออฟแมน อันงดงามในทะเลไอริช เป็นจุดแวะพักที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของอังกฤษ เกาะนี้มีขนาดเพียง 30 ไมล์ x 13 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ มีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและหน้าผาสูงชัน ผสมผสานกับบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่สมบูรณ์ เกาะไอล์ออฟแมนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ยุคหินใหม่ จนกลายเป็นที่พักอาศัยของนักบวชไอริชในศตวรรษที่ 5 และมีอิทธิพลจากชาวนอร์สในศตวรรษที่ 9 ซึ่งขายเกาะนี้ให้กับสกอตแลนด์ในปี 1266 แต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา สหราชอาณาจักรได้ครอบครองเกาะนี้ไว้ นอกจากนี้ เกาะยังมีความเฉพาะตัวในเรื่องของภาษาแมนซ์ ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองที่ยังคงมีผู้พูดอยู่เพียงน้อยนิด การเยี่ยมชมดั๊กกลาสจะเปิดโอกาสให้คุณได้ชมปราสาทที่งดงาม เส้นทางรถไฟเข็มแคบ และสำหรับผู้รักความท้าทาย สามารถเดินป่าสูงถึง 2,036 ฟุตที่ยอดเขาสนาฟเฟล พร้อมวิวทะเลที่งดงามตระการตา เกาะไอล์ออฟแมนจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเดินทางครั้งถัดไป.
ท่าเรือ Rothesay บนเกาะ Bute ประเทศสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และธรรมชาติอันงดงาม ยอดเขาและชายหาดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ รอคอยการสำรวจจากนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมชาวสกอตอย่างแท้จริง ท่าเรือนี้ไม่เพียงเป็นที่ตั้งของเรือสำราญที่จอดแวะ แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางสู่ความงามของเกาะ Bute ที่มีชื่อเสียงในด้านการต้อนรับอย่างอบอุ่น เมื่อเดินทางไป Rothesay คุณจะได้พบกับพระราชวัง Rothesay Castle อันเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ซึ่งยังคงเก็บรักษาเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ไว้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะและชายหาดที่เหมาะกับการพักผ่อน ทำให้คุณรู้สึกสงบและเพลิดเพลินกับวิวทะเลที่น่าทึ่ง การเดินทางไป Rothesay ยังเป็นโอกาสให้คุณได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ เช่น เซนต์ นิโคลัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์การส่งจอภาพ ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม Rothesay ไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นดินแดนแห่งความสงบ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์ในทุกย่างก้าวของการเดินทางที่นี่

ท่าเรือโทเบอร์มอรี (Tobermory) บนเกาะมูล (Isle of Mull) เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามในแบบสก็อตแลนด์ ต้อนรับนักเดินทางด้วยบรรยากาศที่มีสีสันจากบ้านเรือน คาเฟ่ และร้านค้าริมท่าเรือที่งดงาม เปรียบเสมือนภาพวาดที่มีชีวิตซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ได้มาเยือนรู้สึกคุ้นเคย เนื่องจากท่าเรือนี้เคยปรากฏในรายการโทรทัศน์ยอดนิยม “Balamory” ที่เป็นที่รักของเด็กๆ นอกจากความสวยงามของท่าเรือแล้ว โทเบอร์มอรียังเต็มไปด้วยเรื่องเล่าและตำนาน โดยเฉพาะเรื่องเรือเก่าสเปนที่จมอยู่ใต้ทะเลซึ่งถูกกล่าวขานว่ามีทองคำซ่อนอยู่ บริเวณนี้คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มูล (Mull Museum) เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น หรือจะเข้าร่วมทริปชมสัตว์ป่าโดยการล่องเรือ ชมชีวิตทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น นกอินทรีทองและโลมา อย่าพลาดที่จะไปชิมวิสกี้ที่โรงกลั่นโทเบอร์มอรี (Tobermory Distillery) ซึ่งมีอายุมากกว่า 200 ปี เป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดในสก็อตแลนด์ สัมผัสรสชาติสุดพิเศษก่อนคุณจะเดินทางต่อไป สร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในโทเบอร์มอรี ท่าเรือที่น่าหลงใหลแห่งนี้เตรียมพร้อมให้คุณค้นพบความมหัศจรรย์ที่รออยู่!
ท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเกาะอีอิกล์ (Isle of Eigg) ในสก็อตแลนด์คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางหรูหราต้องไม่พลาด ในการเดินทางโดยเรือสำราญ แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของทะเลจอร์เจียนและภูเขาที่สูงตระหง่านสุดตา เกาะอีอิกล์ถือเป็นที่หลบภัยที่แท้จริงเหนือความตื่นเต้นในชีวิตประจำวัน การสำรวจเกาะนี้สามารถเริ่มต้นจากท่าเรือ Eigg ที่เป็นศูนย์กลาง โดยที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และเพลิดเพลินไปกับการแสดงศิลปะแบบดั้งเดิม ที่จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวสก็อต นอกจากนี้ เกาะอีอิกล์ยังมีทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ เช่น ชายหาดที่เงียบสงบ และเส้นทางเดินป่าที่มีความยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งจะพาคุณไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อย่าพลาดการชมพระอาทิตย์ตกดินที่ริมชายหาดซึ่งจะมอบความโรแมนติกและบรรยากาศอันแสนพิเศษให้แก่การเดินทางของคุณ ที่อีอิกล์แห่งนี้ คุณจะได้ค้นพบความสงบและเสน่ห์ที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหนในโลก เตรียมตัวให้พร้อมกับการเดินทางสู่ความฝันที่แสนสวยงามนี้!

เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า ณ เมืองสตอร์โนเวย์ เกาะลูอิส คุณจะได้พบกับมิติใหม่ของการเดินทางซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของสก็อตแลนด์ เกาะลูอิสและแฮริส เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะฮีบรีดีนอก ทำให้เมืองสตอร์โนเวย์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ในเมืองนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชิมอาหารท้องถิ่นที่ร้านอาหารคุณภาพสูง รวมทั้งเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะ An Lanntair ที่มีนิทรรศการทั้งศิลปะร่วมสมัยและดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีวิหารเซนต์คลีเมนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีโครงสร้างสวยงามที่สุดในเขตนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจประวัติศาสตร์ ที่นี่มีแหล่งโบราณคดีที่น่าทึ่ง เช่น กลุ่มหินคาลานิสที่สร้างขึ้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงหอคอย Dun Carloway ที่มีอายุประมาณ 2,000 ปี สัมผัสกับความงามและวัฒนธรรมของสตอร์โนเวย์ในขณะที่สำรวจธรรมชาติสุดอลังการและประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันของเกาะนี้ อย่าลืมแวะเยี่ยมชมร้านทวีตฮาร์ริสที่เผยแพร่สินค้าทอมือสุดพิเศษและของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคุณในเกาะลูอิสแห่งนี้

เชิญพบกับหมู่เกาะเซนต์คิลดา (St. Kilda) ซึ่งเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของสกอตแลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากหมู่เกาะเฮ็บริดส์ภายนอกราว 40 ไมล์ทะเล ทัศนียภาพอันงดงามของหน้าผาและแท่นหินกลางทะเลเป็นที่ตั้งของประชากรนกทะเลที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ เซนต์คิลดาได้รับการยกย่องด้วยสถานะมรดกโลกจากยูเนสโกถึงสองครั้งด้วยกัน ไม่เพียงแต่ความงามทางธรรมชาติที่โดดเด่น แต่ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรม สถานที่ที่เรียกว่า Village Bay บนเกาะเฮอิตาเคยเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีประชากรเกิน 200 คน แต่ประชาชนได้อพยพออกไปในช่วงทศวรรษ 1930 ล่าสุดมีการบูรณะหมู่บ้านโดยมูลนิธิแห่งชาติสกอตแลนด์ ซึ่งสร้างความเชื่อมโยงอันน่าทึ่งกับอดีต ซึ่งในปัจจุบัน หนึ่งในผู้ดูแลรับหน้าที่เป็นเสมียนขายของและผู้ดูแลไปรษณีย์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการส่งโปสต์การ์ดกลับบ้านจากเซนต์คิลดา ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและอุดมด้วยธรรมชาติแห่งนี้ เซนต์คิลดาจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างและมีเสน่ห์ในโลกแห่งความเป็นจริง

เลอร์วิค เมืองเล็กที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเชตแลนด์ (Shetland Islands) ของสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือที่มีชีวิตชีวานี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 และยังคงรักษาความงามของอาคารหินที่เรียกว่า "ล๊อดเบอรีส์" ซึ่งเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต นี่คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ เมื่อเดินเรือเข้าท่าเลอร์วิค คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือที่ปัจจุบันยังมีความคึกคัก ด้วยถนนที่ปูด้วยแผ่นหินและวิวชายฝั่งที่งดงาม ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของเชตแลนด์ สำหรับนักเดินทางที่มาเยือน ยังมีโอกาสได้พบปะกับวัฒนธรรมชาวเซลติก ที่สำคัญ และการชมธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่ป่าเขียวขจีหรือสัตว์ป่าในท้องถิ่น ด้วยความเพลิดเพลินและน่าหลงใหลที่เลอร์วิคมอบให้ คุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร คอยต้อนรับความตื่นเต้นในทุกขั้นตอนของการสำรวจสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาคนี้
ท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจแห่ง Isle of Noss เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณเดินทางมาถึงสกอตแลนด์ ในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพนี้ คุณจะได้พบกับหน้าผาหินทรายที่งดงาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่อยู่อาศัยของนกทะเลมากมาย เช่น นกกาน้ำ นกพัฟฟิน นกกิเลม็อทส์ และนกคิทตีเวคส์ ซึ่งทำให้ Isle of Noss เป็นพื้นที่สงวนทางธรรมชาติที่ได้รับการประกาศในปี 1955 และยังถือเป็นหนึ่งในอาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป บนเกาะนี้ คุณสามารถสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากยอดเขาที่นกอาศัยอยู่ พร้อมเพลิดเพลินไปกับการเดินเขาข้ามทุ่งหญ้าที่มีแกะและม้าเชตแลนด์ที่กำลังกินหญ้าตามไหล่เขา ทำให้ทิวทัศน์ของ Isle of Noss ชวนให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดูนก ผู้รักธรรมชาติ หรือเพียงแค่อยากค้นพบความสงบของทะเลเหนือ การเยือน Isle of Noss จะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำและเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้เดินทางต่อไปในโลกที่กว้างใหญ่และสวยงามนี้อย่างไม่รู้จบ

ฮีมาอี ของไอซ์แลนด์ คือจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางด้วยเรือสำราญ สัมผัสกับบรรยากาศของเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของการระเบิดภูเขาไฟที่น่าพิศวงเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ซึ่งทำให้เกาะนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อ แต่ด้วยความกล้าหาญของผู้คนบนเกาะที่ได้ใช้น้ำทะเลหยุดยั้งลาวาจากภูเขาไฟเอลด์เฟล ทำให้ท่าเรือยังคงเปิดอยู่และอุตสาหกรรมการประมงที่มีความสำคัญยังคงยืนยาวต่อไป เดินเที่ยวตามถนนที่สวยงามในฮีมาอี ที่รายล้อมไปด้วยบ้านไม้สีขาว เรายังสามารถชมปราสาทหินภูเขาไฟที่ตระการตาที่เสมือนลอยอยู่เหนือน้ำ ส Revealing Nature of Iceland—through its landscapes, wildlife, and the warmth of its people—คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่มีที่ไหนเหมือน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติโดยใกล้ชิด ต้องไม่พลาดไปสำรวจชายฝั่งที่เต็มไปด้วยชีวิตทะเล รวมถึงนกพันธุ์หายากที่อพยพมาที่นี่ นอกจากการเดินชมหรือท่องเที่ยวแบบมีไกด์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุนี้ ฮีมาอี จึงเป็นจุดหมายที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ถึง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางหาทางออกใหม่ๆ ในชีวิต.

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) คือหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ให้บรรยากาศสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และภูเขาสูงตระหง่านที่งดงาม การเดินทางมาที่นี่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความมหัศจรรย์ ราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาดที่มีชีวิต จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกรนดาร์ฟยอร์ดูร์คือ "ภูเขาสการ์ฟตาเฟล" (Kirkjufell) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเฉพาะและได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ การขึ้นไปชมวิวจากยอดเขา คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังมีน้ำตก Kirchjufellsfoss ที่สวยงามท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม นอกจากธรรมชาติแล้ว เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถสัมผัสชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ดั้งเดิม ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและบ้านเรือนที่ถูกปรับปรุงให้สวยงาม ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ ณ เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่อันดับต้น ๆ ของประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม

ท่าเรือ Patreksfjörður ตั้งอยู่ในภูมิภาค Westfjords ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นจุดแวะที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์และความงามของภูมิทัศน์เหนือจินตนาการ ท่าเรือนี้เป็นประตูสู่การสำรวจความงดงามของเกาะไอซ์แลนด์ ที่เต็มไปด้วยแนวภูเขาละลานตา ทะเลสาบใสราวกับกระจก และน้ำตกอันยิ่งใหญ่ เช่น น้ำตก Dynjandi ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “เพชรเม็ดงาม” แห่งภูเขา การเดินเล่นตามริมฝั่งน้ำที่ Patreksfjörður จะทำให้คุณได้พบกับประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยโลเคชั่นที่ใกล้ชิดกับทะเล คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมสัตว์ป่า เช่น แมวน้ำ และนกทะเล ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ที่สำคัญยังมีโอกาสได้สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ผ่านพิพิธภัณฑ์ต่างๆ และร้านค้าเล็กๆ ที่นำเสนอสินค้าทำมือ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่นี่เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินเขา ตกปลา หรือการชมแสงเหนือในคืนที่มีความมืดมิด ทุกสิ่งทุกอย่างใน Patreksfjörður รอคอยที่จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามที่ยังคงเป็นธรรมชาติอยู่มากมาย

ไอซ์แลนด์เป็นที่รู้จักในเรื่องน้ำตกที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ หนึ่งในน้ำตกที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากคือ น้ำตกดิญญันดิ (Dynjandi) ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคเวสต์ฟยอร์ดส์ น้ำตกนี้ถือเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความงดงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ด้วยความสูงถึงประมาณ 330 ฟุต และความกว้างที่ด้านบนถึง 100 ฟุต น้ำตกนี้ถูกเรียกว่า "เสียงคำราม" เนื่องจากเสียงน้ำที่ตกลงมาช่างมหึมาและเต็มไปด้วยพลัง นอกจากนี้ น้ำตกดิญญันดยังได้รับชื่อเล่นว่า "ม่านเจ้าสาว" ด้วยลักษณะการกระจายของน้ำที่ไหลล้นลงมาอย่างสวยงาม เสมือนว่ามีม่านขาวให้ความรู้สึกอ่อนละมุนแผ่กระจายอยู่ทั่ว การเดินทางมาที่น้ำตกดิญญันดิไม่เพียงเพิ่มพูนประสบการณ์ในการชมธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสวยงาม เท่านั้น หากยังสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศอันเงียบสงบ รอบๆ น้ำตกมีทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ ชวนให้นักท่องเที่ยวหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เยี่ยมชมที่ต้องการภาพถ่ายที่น่าจดจำ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ไม่เหมือนใครในไอซ์แลนด์ น้ำตกดิญญันดิคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด!
ซอดาร์โครกูร์ (Sauðárkrókur) เป็นท่าเรือที่น่าหลงใหลในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในด้านความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยากจะลืมเลือน ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในเขตนอร์ธเวสต์ของประเทศ อันเป็นประตูสู่การสำรวจภูมิประเทศที่สวยงาม เช่น ฟยอร์ดและภูเขาที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ ซอดาร์โครกูร์มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่สร้างประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่าง การเดินเล่นในตัวเมืองจะทำให้คุณได้พบกับบ้านเรือนที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส และร้านค้าท้องถิ่นที่ขายงานฝีมือและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยาย นอกจากนั้น การเยือนซอดาร์โครกูร์ยังเป็นโอกาสในการสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าในพื้นที่เก็บตัวอย่างธรรมชาติ การชมวาฬในทะเล หรือการตักไข่มุกที่หายากจากหาดทรายสีดำ นี่คือสถานที่ที่นักเดินทางสามารถสร้างความทรงจำอันมีค่า ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและความงามของธรรมชาติ คุณจะรู้สึกถึงการหลุดพ้นจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน และสัมผัสถึงเสน่ห์ของการเดินทางที่แท้จริงในไอซ์แลนด์ที่ไม่ควรพลาด!


ฮีมาอี ของไอซ์แลนด์ คือจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางด้วยเรือสำราญ สัมผัสกับบรรยากาศของเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของการระเบิดภูเขาไฟที่น่าพิศวงเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ซึ่งทำให้เกาะนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อ แต่ด้วยความกล้าหาญของผู้คนบนเกาะที่ได้ใช้น้ำทะเลหยุดยั้งลาวาจากภูเขาไฟเอลด์เฟล ทำให้ท่าเรือยังคงเปิดอยู่และอุตสาหกรรมการประมงที่มีความสำคัญยังคงยืนยาวต่อไป เดินเที่ยวตามถนนที่สวยงามในฮีมาอี ที่รายล้อมไปด้วยบ้านไม้สีขาว เรายังสามารถชมปราสาทหินภูเขาไฟที่ตระการตาที่เสมือนลอยอยู่เหนือน้ำ ส Revealing Nature of Iceland—through its landscapes, wildlife, and the warmth of its people—คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่มีที่ไหนเหมือน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติโดยใกล้ชิด ต้องไม่พลาดไปสำรวจชายฝั่งที่เต็มไปด้วยชีวิตทะเล รวมถึงนกพันธุ์หายากที่อพยพมาที่นี่ นอกจากการเดินชมหรือท่องเที่ยวแบบมีไกด์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุนี้ ฮีมาอี จึงเป็นจุดหมายที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ถึง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางหาทางออกใหม่ๆ ในชีวิต.

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!






ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนบนเรือ Seabourn Venture มีพื้นที่กว้างขวางแบบอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่กลางเรือ โดยมีการจัดสรรพื้นที่สองชั้น พื้นที่ที่เป็นเอกลักษณ์นี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว ที่นอนขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และตู้นิรภัยส่วนตัว อีกทั้งยังมีโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างเต็มที่ โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์ stationery ส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำแยกและฝักบัว พร้อมด้วยเสื้อคลุมหนานุ่มและรองเท้าแตะ คุณจะได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามระดับหรู พร้อมไฟฟ้า 110/220V การออกแบบห้องนี้เปิดมุมมองที่สูงโปร่งและพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการต้อนรับแขก มีโต๊ะอาหารสำหรับสี่คน ห้องน้ำสำหรับแขกแยก และห้องเก็บของพร้อมบาร์เปียกที่มอบเครื่องดื่มสุดพิเศษตามความชอบ นอกจากนี้ บันไดที่มีการออกแบบอย่างปราณีตนำไปสู่ชั้นบนซึ่งมีห้องนอนหลัก มีเตียงระบบนอน Duxiana Axion 15 ที่สามารถปรับระดับได้ พร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ และตู้เสื้อผ้าที่ยาว มีเทคโนโลยีระดับสูง รวมถึงทีวี LG OLED ที่ม้วนเก็บได้ ห้องน้ำห้าชิ้นมีอ่างสปาและฝักบัวแยกอย่างครบครัน และแขกจะได้เพลิดเพลินกับการดูสัตว์ป่าและวิวจากกล้องส่องทางไกล Swarovski ATX ที่ติดตั้งอยู่ภายในห้อง พิเศษสุดด้วยระบบเสียง Bang & Olufsen Beolab 5 และหูฟัง Bluetooth Bang & Olufsen H4 ที่พร้อมให้บริการตลอดการเดินทาง.





วิลล่า Wintergarden บน Seabourn Venture มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราในพื้นที่กว้างขวางที่มีลักษณะเป็นอพาร์ตเมนต์จัดอยู่บนสองชั้น การเข้าห้องจะเปิดสู่ทิวทัศน์ที่ไร้อุปสรรค โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางซึ่งเพียงพอสำหรับการสังสรรค์ พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสี่คน ห้องน้ำแขก และห้อง Pantry ที่มีบาร์น้ำแข็งพร้อมเครื่องดื่มที่เลือกไว้ตามใจชอบ บันไดที่สลักเปลี่ยนไปสู่ชั้นบนซึ่งมีห้องนอนหลักที่ตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมเตียงขนาดควีนไซส์ Duxiana Axion 15 ที่สามารถปรับได้ โดยมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้ทิวทัศน์ที่งดงาม มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงทีวี LG OLED ที่ม้วนเก็บได้ ห้องน้ำที่ครบครันมีอ่างน้ำวนและพื้นที่อาบน้ำแยกต่างหาก พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามระดับพรีเมียม พื้นที่สำหรับการพักผ่อนนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ดูนก Swarovski ATX ที่สามารถใช้ภายในห้องพักได้เพื่อให้งานนันทนาการของคุณเต็มไปด้วยความสนุกสนาน รวมถึงระบบเสียง Bang & Olufsen Beolab 5 และหูฟัง Bluetooth Bang & Olufsen H4 เพื่อประสบการณ์บันเทิงที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการเดินทางของคุณ



ซิกเนเจอร์สวีทบนเรือ Seabourn Venture มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหรา โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัว ห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in และตู้เซฟส่วนตัว ภายในห้องยังมีโทรทัศน์ที่เชื่อมต่อกับความบันเทิงต่าง ๆ พร้อมด้วยเครื่องดื่มและตู้เย็นที่มีสกินแคร์และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสุดหรู รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทันสมัย พื้นที่รับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน พร้อมด้วยห้องน้ำที่หรูหราและสปาอ่างน้ำวนในห้องพัก ซึ่งสามารถเปิดประตูออกสู่ระเบียงขนาด 595 ตารางฟุต ที่มีอ่างน้ำวนพร้อมที่นั่งและโซฟา สามารถเดินทางไปยังวิวทะเลที่กว้างขวางได้อย่างง่ายดาย ซิกเนเจอร์สวีทนี้จึงเป็นที่พักที่เหมาะสำหรับการหาความสงบและความสุขในทริปล่องเรือครั้งต่อไปของคุณ


เจ้าของสวีทบนเรือ Seabourn Venture นำเสนอพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว ขนาดเตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง และตู้เสื้อผ้าใหญ่พิเศษเพื่อเก็บอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีตู้เซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเต็มอยู่แล้ว โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดหมายส่วนตัว และโต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอ่างที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงเสื้อคลุมหนานุ่ม ผ้าเช็ดตัว รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V ห้องมีทางเข้าใหญ่พร้อมตู้เสื้อผ้าที่เก็บอุปกรณ์และสัมภาระส่วนตัวได้สบาย พื้นที่นั่งเล่นมีทีวีความคมชัดสูง โต๊ะเขียนหนังสือ และโต๊ะอาหารขนาดสองที่นั่งสำหรับรับประทานอาหารในห้อง ขณะที่ประตูแก้วจะนำคุณสู่ระเบียงโค้งที่มีเก้าอี้อาบแดดและโต๊ะสำหรับสี่คน ห้องนอนแยกมีเตียงควีนไซส์และทีวีความคมชัดสูง พร้อมหน้าต่างใหญ่ โต๊ะแต่งหน้า และตู้เสื้อผ้าแบบเปิด ห้องน้ำห้าชิ้นถูกออกแบบด้วยประตูหลายบานที่สามารถสร้างห้องน้ำครึ่งหนึ่งได้ มาพร้อมกับฝักบัวและอ่างอาบน้ำแยก สัมผัสความหรูหราและความสะดวกสบายของการเดินเรือด้วยเจ้าของสวีท ซึ่งมอบวิวทะเลกว้างขวาง หน้าต่างหันไปข้างหน้า และพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน รวมถึงห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบวน และบริการอินเทอร์เน็ต/Wi-Fi ฟรีที่ให้บริการตลอดการเข้าพักของคุณ

เพนท์เฮาส์แพนโทน มีพื้นที่รวม 417 ตารางฟุต (39 ตารางเมตร) รวมทั้งระเบียงขนาด 85 ตารางฟุต (8 ตารางเมตร) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ห้องสวีทนี้มอบพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณชมวิวได้อย่างเต็มที่ ห้องนอนสามารถเลือกได้ทั้งเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ รวมถึงมุมจัดเก็บเสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง โต๊ะทำงานพร้อมเครื่องเขียนส่วนตัว และมีห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัวที่แยกจากกัน ให้ความรู้สึกที่หรูหราและสะดวกสบาย ด้วยผ้าขนหนูคุณภาพสูง เสื้อคลุมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและความงามระดับหรู พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยเช่น ทีวีแบบสัมผัสที่มีเพลงและภาพยนตร์ ผู้เข้าพักยังสามารถเพลิดเพลินไปกับบาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มครบครัน ห้องพักนี้เหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ โดยมีโต๊ะอาหารที่รองรับได้ตั้งแต่สองถึงสี่คน และประตูบานกระจกที่เปิดสู่ระเบียงเพื่อให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและเป็นส่วนตัวที่ไม่เหมือนใครในเพนท์เฮาส์แพนโทน.

เพนท์เฮาส์สวีท ขนาดประมาณ 527 ตารางฟุต (49 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงขนาด 97 ตารางฟุต (9 ตารางเมตร) เป็นห้องพักที่โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและการตกแต่งที่หรูหรา ภายในห้องพักมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัวและเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้ และตู้นิรภัยส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีกล่องทีวีอินเทอร์แอคทีฟที่ให้บริการเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างเต็มที่ โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเครื่องเขียนแบบเฉพาะบุคคล โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำขนาดกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะสุดหรู ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามสุดหรู ที่เป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V นอกจากนี้ ห้องพักยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสองถึงสี่คน ห้องนอนแยกต่างหาก และประตูเลื่อนกระจกเพื่อออกไปยังระเบียง พร้อมด้วยทีวีจอแบนสองเครื่อง ทำให้เพนท์เฮาส์สวีทนี้เป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนสุดหรูในบรรยากาศของการล่องเรือ

เพนท์เฮาส์สวีทการันตี เป็นห้องพักที่หรูหราและกว้างขวาง เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างมีระดับ ภายในห้องประกอบไปด้วยห้องนอนแยกที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่มาพร้อมกับโต๊ะอาหารที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่สองถึงสี่คน และประตูบานกระจกที่เปิดออกไปยังระเบียง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ห้องพักยังมีทีวีจอแบนถึงสองเครื่อง และบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน สำหรับการรื่นเริงในยามค่ำคืน ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และเคาน์เตอร์เครื่องแป้งกว้างขวาง ทำให้เพนท์เฮาส์สวีทการันตีเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนบนเรือสำราญที่เหนือระดับ.



在Seabourn Venture郵輪上,所有的ห้องสวีทระเบียงพาโนรามา都提供了一個舒適的生活區域,附有私人陽台。房間內配備了一張皇后床或兩張單人床,步入式衣櫥,個人保險箱,互動式電視(可播放音樂和電影),以及設備齊全的吧台和冰箱。專屬的書桌配有個性化文具,此外還置有化妝梳妝台和寬敞的浴室,浴室內設有獨立淋浴和大型放鬆浴缸,並附有豪華浴袍、拖鞋及健康美容產品,另外還備有吹風機和110/220V電源插座。 房間的半圓形獨立生活區域,擁有舒適的座椅和落地窗,讓您能夠盡情欣賞美不勝收的風景及迷人的日出和日落。浴室中的大型淋浴及放鬆浴缸正旁臨廣闊的窗戶,為您的住宿增添了一絲奢華與舒適。請注意,某些陽台的大小可能會有所不同。

ขออภัยในความไม่สะดวก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องพักประเภท เพนท์เฮาส์สปาสวีท จะมีการอัปเดตในเร็วๆ นี้

ห้องสวีทระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 33 ตารางเมตร (355 ตารางฟุต) รวมทั้งระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร (75 ตารางฟุต) ภายในห้องจะประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สำหรับอุปกรณ์เดินทาง ตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีเสียงเพลงและภาพยนตร์ บาร์ที่มีเครื่องดื่มและตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างเต็มที่ โต๊ะทำงานพร้อมผ้าห่มใช้เอง โต๊ะแต่งหน้าที่สะดวกสบาย ห้องน้ำกว้างขวางประกอบด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัว มีผ้าขนหนูนุ่มๆ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผมและปลั๊กไฟ 110/220V สถานที่ตั้งห้องสวีทนี้จะให้ความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายสำหรับการพักผ่อนในระหว่างการเดินทางของคุณ

เวอรันดา สปาสวีทบนเรือ Seabourn Venture มอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราและสะดวกสบาย ด้วยการจัดพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวที่มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ระเบียงส่วนตัวที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายหลังจากวันที่น่าตื่นเต้น มีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้ และตู้เซฟส่วนตัว เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินคุณ สัมผัสความบันเทิงด้วยทีวีที่มีระบบอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมเพลงและภาพยนตร์มากมาย ในขณะเดียวกันยังมีบาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่ สำหรับการพักผ่อน พร้อมการเขียนจดหมายสั้นๆ ด้วยเครื่องเขียนที่ปรับแต่งเอง โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำที่กว้างขวางแยกอ่างอาบน้ำและฝักบัว ภายในห้องอาบน้ำยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำนุ่มๆ รองเท้าแตะ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามสุดหรู เครื่องเป่าผม และช่องไฟฟ้า 110/220V ทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและมีสไตล์อย่างแท้จริง

สวีตเป็นห้องพักที่มีความหรูหราและกว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางทางทะเล ขนาดห้องพักที่กว้างขวางนี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านของคุณ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น เตียงขนาดใหญ่ ทีวี เครื่องปรับอากาศ และพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถมองเห็นวิวทะเลที่สวยงาม ห้องสวีตตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นของเรือ ซึ่งจะมอบความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่ผ่อนคลายสำหรับการพักผ่อนของคุณ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การล่องเรือที่ยอดเยี่ยม ห้องสวีตคือทางเลือกที่ไม่ควรพลาด ที่ให้คุณได้เพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาตลอดการเดินทางของคุณ