
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Seabourn Venture
Seabourn


อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่

กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นเมืองที่ผสมผสานความงดงามและความมีชีวิตชีวาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย สามารถสังเกตได้จาก Plaza de Mayo อันมีเสน่ห์ดุจจัตุรัสใหญ่ในมาดริด และ Teatro Colón ที่สวยงามราวกับว่าได้ย้ายมาจากเวียนนา บัวโนสไอเรสยังมีความเป็นอเมริกาใต้ที่ชัดเจนจากการเดินเล่นในถนนที่ปูด้วยหินและรองเท้าหนังคุณภาพสูงที่วางขายในร้านค้าเล็กๆ แถมยังมีกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ขบวนพาเหรดของแฟนฟุตบอลที่แสดงถึงความรักในกีฬานี้ของชาวเมือง นอกจากวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลาย ชิมประสบการณ์ลิ้มลองไวน์ชั้นดี สเต็กเนื้อฉ่ำ และไอติมรสชาติต่างๆ ที่ได้มาเติมเต็มความอร่อยให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ท่าเรือในกรุงบัวโนสไอเรส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเสน่ห์แห่งเมืองนี้ พร้อมเปิดประสบการณ์การเดินทางที่สุดหรูหรา ในดินแดนที่มีทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยรอคุณอยู่

อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่




อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่

ท่าเรือพอร์ตสแตนลีย์ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฟอล์คลแลนด์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะมาลวินาส) เป็นจุดหมายที่ซ่อนเร้นในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่คือเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และบรรยากาศที่เหมือนกับหมู่บ้านอังกฤษที่หลุดออกมาใกล้เคียง โดยบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมเต็มความงามให้กับทิวทัศน์ที่ถูกตั้งอยู่ในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้พอร์ตสแตนลีย์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีซากเรือ Lady Elizabeth ที่จมอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เป็นเครื่องเตือนใจถึงสภาพอากาศอันโหดร้ายที่แวดล้อมหมู่เกาะนี้ การเดินทางมายังฟอล์คลแลนด์ไม่ได้มีเพียงการพบกับภาพวิวอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับโลกของเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เพนกวิน Gentoo, Magellanic และ King ที่มักจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือแวะพักระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า ฟอล์คลแลนด์คือต่อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนที่ไม่เหมือนใคร

ท่าเรือฟอล์คแลนด์ (มาลวินาส) ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใฝ่ฝันอยากสัมผัสความงามที่ไม่เหมือนใครของธรรมชาติ ในพื้นที่นี้ คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ของธรรมชาติที่บริสุทธิ์และสัตว์ป่าที่หลากหลาย โดยเฉพาะนกเพนกวินและแมวน้ำที่มีความน่ารัก ภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาและชายหาดที่สวยงามยังเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เมื่อเรือสำราญจอดที่ท่าเรือฟอล์คแลนด์ คุณจะได้มีโอกาสสำรวจเมืองสแตนลีย์ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเป็นวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและตลาดท้องถิ่นให้คุณได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฟอล์คแลนด์อย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติโฟลด์ ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลายประเภทและการเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติ จะเติมเต็มความกระตือรือร้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในแต่ละก้าวของการเดินทางในฟอล์คแลนด์ คุณจะรู้สึกถึงมนต์เสน่ห์ที่ยากจะลืมเลือน การมาเยือนฟอล์คแลนด์ครั้งนี้จะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนในชีวิตของคุณ ไม่ ควรพลาด!

เมื่อเข้ามายังเมือง Puerto Madryn จากเส้นทาง Ruta 3 คุณอาจรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเมืองนี้คือหนึ่งในจุดเที่ยวที่สำคัญที่สุดในแพตาโกเนียชายฝั่ง การเดินทางจะพาคุณมายังถนนริมชายฝั่ง Rambla ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และเกสต์เฮาส์ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ในท่ามกลางวิวของอ่าว Golfo Nuevo ที่สวยงามและสงบ Puerto Madryn อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น คาบสมุทร Valdés และ Punta Tombo ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก ในช่วงฤดูวาฬที่มีระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม คุณจะได้เห็นวาฬที่แหวกว่ายในอ่าวอย่างใกล้ชิดและสามารถเดินไปยังท่าเรือเพื่อชมความงามเหล่านี้ได้ การวางแผนทริปต่าง ๆ ก็สะดวกสบายด้วยตัวแทนจัดทัวร์และบริษัทเช่ารถมากมายที่มีให้บริการ ร่วมสนุกในกิจกรรมระยะสั้นที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พร้อมให้ Puerto Madryn เป็นประตูสู่การผจญภัยที่น่าจดจำในดินแดนแห่งสัตว์ป่าชั้นนำของอาร์เจนตินา!

มอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำริโอเดอพลาตา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา มาพร้อมกับทางเดินเลียบชายฝั่งหรือที่เรียกว่า "มาลิโคน" ที่ทอดยาวไปตามแนวชายหาด ร้านอาหารที่หลากหลาย และสวนสาธารณะมากมาย ที่นี่ คุณจะได้พบกับชาวมอนเตวิเดโอ เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเล มอนเตวิเดโอมีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม โดยมีทั้งความเจริญก้าวหน้าของอาคารสมัยใหม่และเสน่ห์ของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่หรูหรา นอกจากนี้ ยังมีจัตุรัสและสวนสาธารณะเขียวขจีมากมาย ที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและสมบูรณ์แบบในการใช้เวลา เมื่ออากาศดี ถนนเลียบชายฝั่งที่ยาวถึง 22 กิโลเมตรจะเต็มไปด้วยผู้คนต่างเดินเล่น ตกปลาหรือลองขนมไอศกรีม โดยเฉพาะในช่วงเย็น ขณะที่คู่รักเริ่มออกมาสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของเมือง ความละเอียดอ่อนในชีวิตประจำวันที่นี่ทำให้มอนเตวิเดโอถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในละตินอเมริกา หญิงสาวที่จะเดินทางไปที่นี่ คงรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจที่จะกลับมาอีกครั้งในค่ำคืนที่สวยงามในฤดูร้อน.

ท่าเรือคัมโบรีอู (Camboriú) ตั้งอยู่ในรัฐซานตากาตารีนาของบราซิล เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์และความงดงามทางธรรมชาติที่น่าหลงใหล ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจชายฝั่งที่สวยงามของบราซิล เมืองคัมโบรีอูเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "เพิร์ลแห่งชายฝั่งใต้" ที่นี่คุณจะพบกับชายหาดที่ทอดยาวพร้อมกับทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลใสที่เหมาะแก่การพักผ่อนและกิจกรรมทางน้ำ เช่น โต้คลื่นและดำน้ำตื้น นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดได้แก่ พระราชวัง Beto Carrero World ซึ่งเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ และเสน่ห์ของป่าชายเลนที่ให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติในแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นไปตามเส้นทางเดินริมทะเลหรือสำรวจวัฒนธรรมของชาวเมืองในตลาดท้องถิ่น คัมโบรีอูจะมอบประสบการณ์ที่ตราตรึงใจให้กับคุณเป็นอย่างดี ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดแวะพักผ่อน แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน สำหรับนักเดินทางที่มองหาความหรูหราและการผจญภัยในตัวเมืองและธรรมชาติ براซิล คัมโบรีอูคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ.

ยินดีต้อนรับสู่เมืองริโอเดจาเนโร หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Cidade Maravilhosa" เมืองมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา ริโอเป็นที่ตั้งของวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากยอดเขาคอร์โควาโดที่มีพระเยซูกางแขน, หาดอิปาเนมา ที่เต็มไปด้วยสาวงาม, และเทศกาลคาร์นิวัลที่มีชีวิตชีวา ที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย เมื่อคุณออกจากสนามบินและมุ่งหน้าสู่โซนซัล (Zona Sul) คุณจะได้สัมผัสความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างความงามทางธรรมชาติและความยากจนในเมืองที่มีประชากรถึง 12 ล้านคน บนถนนที่นำไปสู่หาดโคปาคาบานา ด้านหนึ่งคือหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้า รายล้อมด้วยอาคารสูงทันสมัย จะเห็นภาพสุดคลาสสิคที่ทุกคนต้องการเก็บไว้เป็นความทรงจำ บริเวณนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและอารมณ์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดฮิปปี้ในวันอาทิตย์, บรรยากาศที่สดชื่นของร้านกาแฟริมถนน หรือแสงสว่างตระการตาบนยอดเขา Pão de Açúcar ในยามค่ำคืน ริโอเตรียมพร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหล พร้อมให้โอกาสคุณได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณของชาวคาริโอคาตลอดการเดินทางของคุณในเมืองนี้

ซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย (Salvador de Bahia) เมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งบราซิล เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและความงดงามของท้องทะเล เมืองที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทร surrounded by the stunning Baía de Todos os Santos และมหาสมุทรแอตแลนติก ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงทางดนตรีที่สำคัญของประเทศ ตัวเมืองแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Cidade Alta และ Cidade Baixa ที่เชื่อมต่อกันด้วย Elevador Lacerda ที่มีโครงสร้างสวยงาม ซัลวาดอร์เด่นชัดด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากแอฟริกัน โดยเฉพาะผู้คน Afro-Brazilian ที่มีมากถึง 70% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีวัดและโบสถ์ที่ประดับด้วยทองคำ ทำให้เมืองนี้ถูกยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว สถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับดนตรีและการเต้นรำแอฟริกัน รวมถึงการชมคาโปเอร่า ศิลปะการต่อสู้ที่เกิดจากแรงงานทาส พื้นที่ Pelourinho เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบ้านเรือนสีสันสดใสจากศตวรรษที่ 18-19 และพลาซ่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดตลอดคืน นอกจากนี้ ทะเลบริเวณชายฝั่งของเมืองยังมีชายหาดที่งดงามและสะอาดที่สุด ที่รอให้คุณมาสัมผัสความสุขแห่งการพักผ่อนในแสงดาวของซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย

เรซิฟ (Recife) เมืองสีสันแห่งบราซิลที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาแห่งการเจริญรุ่งเรืองของเมืองนี้เริ่มขึ้นในยุคที่ดัตช์เข้ามาปกครอง โดยมีการพัฒนาอย่างมากในสมัยของเคานต์มอริซิโอ เดอ นาซาว์ เมืองนี้ตั้งอยู่ในรัฐเปร์นัมบูโก้ (Pernambuco) ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่สำคัญของการต่อสู้ระหว่างชาวดัตช์และชาวโปรตุเกส เรซิฟมีสถาปัตยกรรมที่งดงามตลอดแนวย่านแม่น้ำ สะท้อนวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรป แม้ว่าโครงสร้างอาคารบางส่วนในยุค 19 ได้ถูกปรับปรุงใหม่ แต่ยังมีเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่สามารถพบนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ เรซิฟยังเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพแห่งที่สามของบราซิล และเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่มีคุณภาพ เมืองนี้นับว่ามีร้านอาหารมากมายที่เสิร์ฟอาหารอร่อยตั้งแต่จานท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลก การเดินเที่ยวชมเมืองเรซิฟก็ยังชวนให้ตื่นตาตื่นใจด้วยแม่น้ำที่ไหลผ่านถึงสามสาย และสะพาน 49 สะพานที่เชื่อมต่อกันอย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นชายหาด Boa Viagem ที่เต็มไปด้วยสาหร่ายหรือเขตเมืองเก่าที่มีชื่อว่า Recife Antigo ซึ่งให้บรรยากาศที่โรแมนติก เมืองเรซิฟมีเสน่ห์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอนค่ะ
ท่าเรือนาตาล (Natal) ตั้งอยู่ในรัฐรีโอกรานเดดูนอร์เต ประเทศบราซิล เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในการเดินทางด้วยเรือ สำราญและต้องการสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับนี้ ท่าเรือแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งพระอาทิตย์" เนื่องจากมีอุณหภูมิอบอุ่นและแสงแดดตลอดทั้งปี พร้อมด้วยทรายขาวและน้ำทะเลใสสะอาดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในบริเวณรอบท่าเรือ นาตาลมีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น "หาดปิจูชี" ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการเล่นเซิร์ฟและกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ หรือจะเป็น "หาดโดนาลด์" ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยงาม เป็นจุดเหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสความเป็นท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจใน "ป้อมนาตาล" ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อป้องกันการโจมตีของศัตรู นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมที่ทำให้เมืองนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หรูหรา ลืมไม่ได้ที่จะจองทริปสำราญที่ท่าเรือนาตาล นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ยากลืมเลือน!

เมื่อคุณมาถึงท่าเรือ Praia บนเกาะซานติอาโกในเคปเวิร์ด คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือ Praia เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการล่องเรือสำราญของคุณ ณ ที่นี้คุณสามารถสำรวจใจกลางเมืองเก่า ที่ตั้งอยู่ริมทะเล พร้อมกับอาคารโบราณที่มีหน้าต่างทรานซั่มสไตล์โปรตุเกส สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม คุณสามารถแวะที่พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยา ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของต้นกำเนิดที่หลากหลายของหมู่เกาะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาที่หลากหลายและที่มาของผู้คนในภูมิภาคนี้ จากนั้นในช่วงเย็น คุณสามารถเดินทางไปที่ท่าเรือเพื่อเยี่ยมชมรูปปั้นของ Diogo Gomes ผู้ค้นพบหมู่เกาะนี้ในปี 1460 สัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเคปเวิร์ดและโลกภายนอก ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นในตลาดท้องถิ่นหรือซึมซับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม Praia เป็นจุดหมายที่คุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน สร้างแรงบันดาลใจให้คุณใฝ่ฝันถึงการเดินทางครั้งต่อไปในวันข้างหน้า!

เมื่อคุณเดินทางมาถึง Mindelo ท่าเรือแห่งวัฒนธรรมของเกาะเซนต์วินเซนต์ในประเทศเคปเวิร์ด คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสันของเมืองเก่า ฟังดนตรีมอร์นาที่ดังกังวานตามบาร์ต่าง ๆ ขณะที่คุณสัมผัสรสชาติของสุราหรือน้ำตาลจากอ้อย ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น Mindelo โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมการเมืองจากอังกฤษและโปรตุเกส ที่สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาคารบ้านเรือนในโทนสีพาสเทลบวกกับตลาดเทศบาลที่คึกคักเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด คุณสามารถเดินชมและเลือกซื้อของฝากหรือลิ้มลองสินค้าท้องถิ่นที่อัดแน่นด้วยรสชาติและความสดใหม่ นอกจากการเดินเล่นในเมืองแล้ว ลองคิดถึงการไปเยี่ยมชมหน้าผาที่งดงามบริเวณชายฝั่งหรือล่องเรือชมวิวที่สวยงามรอบเกาะ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณ แต่ยังทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของเกาะอย่างแท้จริง เมื่อคุณออกเดินทางจาก Mindelo คุณจะทิ้งไว้แต่ความทรงจำที่อบอุ่นและประทับใจในหัวใจของคุณตลอดไป

ท่าเรือเตเนริฟในสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์อันหลากหลายของเกาะที่มีชื่อเสียงในหมู่ผู้รักการเดินทาง เตเนริฟนั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่าที่นี่ คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามอันสุดล้ำ อาทิ ภูเขาเทย์เด้ (Teide) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสเปน ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติเทย์เด้ ที่มีทิวทัศน์ที่หลากหลายจะทำให้คุณหลงใหลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เตเนริฟยังมีชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดลา ลามิรีม่า และซานตาครูซ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ และสนุกกับงานประเพณีท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือเตเนริฟ คุณจะได้เปิดประตูสู่ประสบการณ์อันน่าจดจำ ที่จะทำให้หัวใจของคุณรู้สึกกระตือรือร้นกับความงดงามอันหลากหลายของสเปน อย่าพลาดโอกาสในการสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในจุดหมายอันแสนพิเศษแห่งนี้!

ลันซาโรเต (Lanzarote) เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่งในสเปน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) เกาะนี้มีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต จึงมีลักษณะพื้นผิวที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ตลอดชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่แทบไม่มีฝน ทำให้ลันซาโรเตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ท่าเรือหลักและเมืองหลวงของเกาะคือ อาเรซีเฟ (Arrecife) นั้นมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยสวนสวยและริมน้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอ่งเกลือจานูเบียนที่มีสีขาวสว่างและภูเขาไฟไฟร์ที่มีทิวทัศน์ที่ดึงดูด ขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะพบกับถ้ำโลสเวอร์เดสที่มีบรรยากาศน่าขนลุก รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงสงบเงียบซึ่งถูกประดับแต่งด้วยความงามธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะลันซาโรเตยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพีสตูว์ (garbanzos compuestos) และมันฝรั่งกับผัก (papas arrugadas) ที่รสชาติสดใส ก่อนออกไปสำรวจ ให้ระวังโปรแกรมทัวร์ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่

ท่าเรือแทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ตั้งอยู่ ณ จุดกรอบของมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยฟินิเชียนและกรีกโบราณ แทนเจียร์ได้รับชื่อมาจาก Tinge มารดาของฮีราคลิทัส สัญลักษณ์แห่งตำนานที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งปรากฏชัดตั้งแต่อดีตเมื่อเคยเป็นจังหวัดของโรมันและผ่านการปกครองจากหลายประเทศ รวมถึงสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอังกฤษ เมืองแทนเจียร์ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่มองเห็นช่องแคบยิบรอลตาร์ และถือเป็นจุดเชื่อมโยงสองทวีป ทำให้เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพงดงามสุดตระการตา ไม่ว่าคุณจะสำรวจเมืองเก่ากับซุ้มประตูที่สวยงาม หรือเดินเล่นอย่างสบายในย่านใหม่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เก๋ไก๋ คุณจะพบกับศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว สำรวจด้านต่างๆ ของเมืองผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น ชิมอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หรือเยี่ยมชมตลาดพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ลงทุนในประสบการณ์ที่ให้คุณเข้าใจลึกซึ้งในจิตวิญญาณของแทนเจียร์ เรียนรู้ที่จะรักในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมิตรภาพที่อบอุ่นของชาวเมือง แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงเสน่ห์ที่ซ่อนเร้นของเมืองนี้ในทุกก้าวที่คุณเดินทาง


พอร์ติมาน (Portimão) เมืองท่าสำคัญของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลที่สวยงาม ได้รับการลงทุนอย่างมากในการพัฒนาเป็นท่าเรือสำราญที่น่าสนใจพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการประมงที่สำคัญแล้ว พอร์ติมานยังมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ด้วยถนนช้อปปิ้งที่หลากหลายและบรรยากาศที่กว้างขวางถึงจะมีธุรกิจบางแห่งต้องปิดตัวลงไป แต่ความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้ยังคงน่าดึงดูดอยู่ แนะนำให้คุณใช้เวลาสักครู่ในการเดินเล่นที่ริมน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสะพานเก่าและสะพานรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจการล่องเรือชมชายฝั่งที่งดงาม และอย่าลืมแวะจิบกาแฟหรือทานอาหารกลางแจ้งที่คาเฟ่ Doca da Sardinha ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยมของการรับประทานปลาซาร์ดีนย่างบนเตา พร้อมกับขนมปังสดและไวน์ท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณอิ่มท้อง แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมอีกด้วย พอร์ติมานจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดแวะพักระหว่างการเดินทาง แต่คือแรงบันดาลใจใหม่ในการสำรวจวัฒนธรรม อาหาร และทิวทัศน์ที่สืบทอดต่อกันมาในโปรตุเกส.

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง

เบรสต์ (Brest) เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สำคัญและมีเสน่ห์ในประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนชายฝั่งแอตแลนติก เป็นศูนย์กลางของการเดินเรือที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การสำรวจ เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่นี่ คุณจะมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย หนึ่งในเสน่ห์ที่ไม่ควรพลาดคือ "La Petite Palais" พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินของฝรั่งเศส รวมถึงการเดินเที่ยวที่ "Océanopolis" สถานที่ที่นำเสนอความหลากหลายทางชีวภาพของทะเล สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เยี่ยมชมทุกวัย นอกจากนี้ เมืองเบรสต์ยังเป็นประตูสู่บริเวณธรรมชาติที่สวยงามของภูมิภาค "Bretagne" หรือบริทานี ที่เต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงาม และเนินเขาที่เขียวชอุ่ม คุณสามารถใช้เวลาในการสำรวจหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ พร้อมทั้งลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง เช่น แพนเค้กบัควีท และซีฟู้ดสดใหม่ เบรสต์ เป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของวัฒนธรรมและธรรมชาติ ประสบการณ์นี้จะทำให้ความทรงจำของคุณเปล่งประกายตลอดไป ดังนั้น อย่าพลาดโอกาสในการเดินทางมาที่เบรสต์ ท่าเรือที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและความน่าหลงใหลของวัฒนธรรมฝรั่งเศสเข้าไว้ด้วยกัน

เซนต์-มาลโล (Saint-Malo) เมืองท่าแห่งความโรแมนติกที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งเหนือของฝรั่งเศส เป็นจุดหมายที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แห่งการเดินเรือและความงดงามของทะเล นับตั้งแต่สมัยก่อน เซนต์-มาลโลได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงนักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง ฌาค คาร์เตียร์ ผู้ซึ่งเคยประกาศสิทธิ์ในแคนาดาให้กับฝรั่งเศสในปี 1534 เมืองนี้เคยถูกเรียกว่า "เมืองโจรสลัด" เนื่องจากมีนักโจรสลัดชื่อก้องอย่าง โรเบิร์ต ซูร์คุฟ และดูเกย์-ทรูอิน ที่ทำให้เซนต์-มาลโลรุ่งเรืองจากการล่าเมืองต่างชาติ แม้ว่าในปี 1944 เซนต์-มาลโลจะได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ที่เกิดจากการต่อสู้ในสงคราม แต่เมืองเก่าก็ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความงามเช่นเดิม ปัจจุบัน, นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในถนนแคบพอ ๆ กับสัมผัสความงามของบ้านหินแกรนิตในย่าน Vieille Ville และชมปราสาทที่ตั้งตระหง่าน ท่าเรือแห่งนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนริมทะเล หากคุณต้องการหลีกหนีจากฝูงชน ควรมาที่นี่ในฤดูนอกฤดูท่องเที่ยว รอคอยที่จะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครของเซนต์-มาลโล สถานที่ที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์และการผจญภัยในตำนานไว้อย่างน่าหลงใหล.

ท่าเรือเชอร์บูร์ก (Cherbourg) ตั้งอยู่ในภูมิภาคนอร์มังดีของฝรั่งเศส เป็นท่าเรือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง วอโบแซง ตั้งแต่เริ่มต้นในอดีตที่เป็นแค่หมู่บ้านชาวประมง เชอร์บูร์กได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นท่าเรือเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะในช่วงสงครามนโปเลียน ความสวยงามของท่าเรือนี้ยิ่งได้รับการยกระดับเมื่อรวมกับชายฝั่งที่งดงามและทิวทัศน์ของนาใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยบ้านช่องครึ่งไม้ที่งดงาม นอกจากท่าเรือที่มีมาตรฐานสูงและท่าเรือยอชต์ขนาดใหญ่แล้ว เชอร์บูร์กยังมีที่เที่ยวชวนให้หลงใหลมากมาย เช่น อบลุกซ์ (Abbeys) และปราสาท (Châteaux) ที่ประกอบไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ชายหาดที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เช่น แหลมคาป เดอ ลา ฮาเก (Cap de la Hague) และพอยต์เดอ บาร์เฟอร์ลูร์ (Pointe de Barfleur) ยังช่วยเติมเต็มความสวยงามให้แก่ภูมิภาคนี้ เชอร์บูร์กยังเป็นที่รู้จักในฐานะท่าเรือแรกที่เรือ RMS Titanic แวะจอดหลังออกจากซาวธแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ และยังมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในสงคราม ช่วยทำให้ท่าเรือนี้เป็นสถานที่ที่มีทั้งประวัติศาสตร์และความงดงามรอให้นักเดินทางมาเยี่ยมชมและสัมผัสประสบการณ์ที่น่าพินิจพิเคราะห์

ท่าเรือรูออง (Rouen) ตั้งอยู่ในใจกลางแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เป็นจุดแวะพักที่เงียบสงบและมีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศฝรั่งเศส ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซน ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการค้าขาย ทำให้เป็นศูนย์กลางที่มีชีวิตชีวา เมื่อเรือสำราญเรือแวะจอดที่ท่าเรือรูออง คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ตั้งแต่โบสถ์เก่าแก่เซนต์โอนอรี (Saint-Ouen) ที่มีสถาปัตยกรรมโกธิคที่สวยงาม ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่างพิพิธภัณฑ์จอหรง (Musée des Beaux-Arts) ที่จัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินที่มีชื่อเสียง คุณยังสามารถใช้เวลาเดินเล่นในใจกลางเมืองรูออง ที่มีกระเบื้องเซรามิกสีสันสวยงามและร้านค้าที่มีเสน่ห์ ซึ่งเต็มไปด้วยของที่ระลึกและอาหารฝรั่งเศสเลิศรส โดยเฉพาะขนมปังบวกชีสที่คุณต้องไม่พลาด รูอองเป็นประตูสู่การสำรวจนอร์มังดี ที่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ๆ เช่น แทงค์ (Honfleur) และทุ่งหญ้าของโบแนฟ (Étretat) ที่มอบวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทริปนี้จะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืม ด้วยความงดงามและเรื่องราวที่รอให้คุณค้นพบที่ท่าเรือรูออง!

ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้






ห้องสวีทแกรนด์วินเทอร์การ์เดนบนเรือ Seabourn Venture มีพื้นที่กว้างขวางแบบอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่กลางเรือ โดยมีการจัดสรรพื้นที่สองชั้น พื้นที่ที่เป็นเอกลักษณ์นี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว ที่นอนขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และตู้นิรภัยส่วนตัว อีกทั้งยังมีโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างเต็มที่ โต๊ะทำงานพร้อมอุปกรณ์ stationery ส่วนตัว โต๊ะแต่งหน้า และห้องน้ำกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำแยกและฝักบัว พร้อมด้วยเสื้อคลุมหนานุ่มและรองเท้าแตะ คุณจะได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามระดับหรู พร้อมไฟฟ้า 110/220V การออกแบบห้องนี้เปิดมุมมองที่สูงโปร่งและพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการต้อนรับแขก มีโต๊ะอาหารสำหรับสี่คน ห้องน้ำสำหรับแขกแยก และห้องเก็บของพร้อมบาร์เปียกที่มอบเครื่องดื่มสุดพิเศษตามความชอบ นอกจากนี้ บันไดที่มีการออกแบบอย่างปราณีตนำไปสู่ชั้นบนซึ่งมีห้องนอนหลัก มีเตียงระบบนอน Duxiana Axion 15 ที่สามารถปรับระดับได้ พร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ และตู้เสื้อผ้าที่ยาว มีเทคโนโลยีระดับสูง รวมถึงทีวี LG OLED ที่ม้วนเก็บได้ ห้องน้ำห้าชิ้นมีอ่างสปาและฝักบัวแยกอย่างครบครัน และแขกจะได้เพลิดเพลินกับการดูสัตว์ป่าและวิวจากกล้องส่องทางไกล Swarovski ATX ที่ติดตั้งอยู่ภายในห้อง พิเศษสุดด้วยระบบเสียง Bang & Olufsen Beolab 5 และหูฟัง Bluetooth Bang & Olufsen H4 ที่พร้อมให้บริการตลอดการเดินทาง.





วิลล่า Wintergarden บน Seabourn Venture มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราในพื้นที่กว้างขวางที่มีลักษณะเป็นอพาร์ตเมนต์จัดอยู่บนสองชั้น การเข้าห้องจะเปิดสู่ทิวทัศน์ที่ไร้อุปสรรค โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางซึ่งเพียงพอสำหรับการสังสรรค์ พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสี่คน ห้องน้ำแขก และห้อง Pantry ที่มีบาร์น้ำแข็งพร้อมเครื่องดื่มที่เลือกไว้ตามใจชอบ บันไดที่สลักเปลี่ยนไปสู่ชั้นบนซึ่งมีห้องนอนหลักที่ตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมเตียงขนาดควีนไซส์ Duxiana Axion 15 ที่สามารถปรับได้ โดยมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้ทิวทัศน์ที่งดงาม มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงทีวี LG OLED ที่ม้วนเก็บได้ ห้องน้ำที่ครบครันมีอ่างน้ำวนและพื้นที่อาบน้ำแยกต่างหาก พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามระดับพรีเมียม พื้นที่สำหรับการพักผ่อนนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ดูนก Swarovski ATX ที่สามารถใช้ภายในห้องพักได้เพื่อให้งานนันทนาการของคุณเต็มไปด้วยความสนุกสนาน รวมถึงระบบเสียง Bang & Olufsen Beolab 5 และหูฟัง Bluetooth Bang & Olufsen H4 เพื่อประสบการณ์บันเทิงที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการเดินทางของคุณ



ซิกเนเจอร์สวีทบนเรือ Seabourn Venture มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหรา โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัว ห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in และตู้เซฟส่วนตัว ภายในห้องยังมีโทรทัศน์ที่เชื่อมต่อกับความบันเทิงต่าง ๆ พร้อมด้วยเครื่องดื่มและตู้เย็นที่มีสกินแคร์และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสุดหรู รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทันสมัย พื้นที่รับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน พร้อมด้วยห้องน้ำที่หรูหราและสปาอ่างน้ำวนในห้องพัก ซึ่งสามารถเปิดประตูออกสู่ระเบียงขนาด 595 ตารางฟุต ที่มีอ่างน้ำวนพร้อมที่นั่งและโซฟา สามารถเดินทางไปยังวิวทะเลที่กว้างขวางได้อย่างง่ายดาย ซิกเนเจอร์สวีทนี้จึงเป็นที่พักที่เหมาะสำหรับการหาความสงบและความสุขในทริปล่องเรือครั้งต่อไปของคุณ


เจ้าของสวีทบนเรือ Seabourn Venture นำเสนอพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว ขนาดเตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง และตู้เสื้อผ้าใหญ่พิเศษเพื่อเก็บอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีตู้เซฟส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเต็มอยู่แล้ว โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมกระดาษจดหมายส่วนตัว และโต๊ะแต่งหน้า ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอ่างที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงเสื้อคลุมหนานุ่ม ผ้าเช็ดตัว รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V ห้องมีทางเข้าใหญ่พร้อมตู้เสื้อผ้าที่เก็บอุปกรณ์และสัมภาระส่วนตัวได้สบาย พื้นที่นั่งเล่นมีทีวีความคมชัดสูง โต๊ะเขียนหนังสือ และโต๊ะอาหารขนาดสองที่นั่งสำหรับรับประทานอาหารในห้อง ขณะที่ประตูแก้วจะนำคุณสู่ระเบียงโค้งที่มีเก้าอี้อาบแดดและโต๊ะสำหรับสี่คน ห้องนอนแยกมีเตียงควีนไซส์และทีวีความคมชัดสูง พร้อมหน้าต่างใหญ่ โต๊ะแต่งหน้า และตู้เสื้อผ้าแบบเปิด ห้องน้ำห้าชิ้นถูกออกแบบด้วยประตูหลายบานที่สามารถสร้างห้องน้ำครึ่งหนึ่งได้ มาพร้อมกับฝักบัวและอ่างอาบน้ำแยก สัมผัสความหรูหราและความสะดวกสบายของการเดินเรือด้วยเจ้าของสวีท ซึ่งมอบวิวทะเลกว้างขวาง หน้าต่างหันไปข้างหน้า และพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับสี่ถึงหกคน รวมถึงห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบวน และบริการอินเทอร์เน็ต/Wi-Fi ฟรีที่ให้บริการตลอดการเข้าพักของคุณ

เพนท์เฮาส์แพนโทน มีพื้นที่รวม 417 ตารางฟุต (39 ตารางเมตร) รวมทั้งระเบียงขนาด 85 ตารางฟุต (8 ตารางเมตร) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ห้องสวีทนี้มอบพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณชมวิวได้อย่างเต็มที่ ห้องนอนสามารถเลือกได้ทั้งเตียงควีนไซส์หรือเตียงคู่ รวมถึงมุมจัดเก็บเสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง โต๊ะทำงานพร้อมเครื่องเขียนส่วนตัว และมีห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัวที่แยกจากกัน ให้ความรู้สึกที่หรูหราและสะดวกสบาย ด้วยผ้าขนหนูคุณภาพสูง เสื้อคลุมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและความงามระดับหรู พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยเช่น ทีวีแบบสัมผัสที่มีเพลงและภาพยนตร์ ผู้เข้าพักยังสามารถเพลิดเพลินไปกับบาร์และตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มครบครัน ห้องพักนี้เหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ โดยมีโต๊ะอาหารที่รองรับได้ตั้งแต่สองถึงสี่คน และประตูบานกระจกที่เปิดสู่ระเบียงเพื่อให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและเป็นส่วนตัวที่ไม่เหมือนใครในเพนท์เฮาส์แพนโทน.

เพนท์เฮาส์สวีท ขนาดประมาณ 527 ตารางฟุต (49 ตารางเมตร) พร้อมระเบียงขนาด 97 ตารางฟุต (9 ตารางเมตร) เป็นห้องพักที่โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและการตกแต่งที่หรูหรา ภายในห้องพักมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย พร้อมระเบียงส่วนตัวและเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ ตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้ และตู้นิรภัยส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีกล่องทีวีอินเทอร์แอคทีฟที่ให้บริการเพลงและภาพยนตร์ บาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างเต็มที่ โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเครื่องเขียนแบบเฉพาะบุคคล โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำขนาดกว้างขวางที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะสุดหรู ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามสุดหรู ที่เป่าผม และปลั๊กไฟ 110/220V นอกจากนี้ ห้องพักยังมีโต๊ะอาหารสำหรับสองถึงสี่คน ห้องนอนแยกต่างหาก และประตูเลื่อนกระจกเพื่อออกไปยังระเบียง พร้อมด้วยทีวีจอแบนสองเครื่อง ทำให้เพนท์เฮาส์สวีทนี้เป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนสุดหรูในบรรยากาศของการล่องเรือ

เพนท์เฮาส์สวีทการันตี เป็นห้องพักที่หรูหราและกว้างขวาง เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างมีระดับ ภายในห้องประกอบไปด้วยห้องนอนแยกที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่มาพร้อมกับโต๊ะอาหารที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่สองถึงสี่คน และประตูบานกระจกที่เปิดออกไปยังระเบียง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ห้องพักยังมีทีวีจอแบนถึงสองเครื่อง และบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน สำหรับการรื่นเริงในยามค่ำคืน ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และเคาน์เตอร์เครื่องแป้งกว้างขวาง ทำให้เพนท์เฮาส์สวีทการันตีเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนบนเรือสำราญที่เหนือระดับ.



在Seabourn Venture郵輪上,所有的ห้องสวีทระเบียงพาโนรามา都提供了一個舒適的生活區域,附有私人陽台。房間內配備了一張皇后床或兩張單人床,步入式衣櫥,個人保險箱,互動式電視(可播放音樂和電影),以及設備齊全的吧台和冰箱。專屬的書桌配有個性化文具,此外還置有化妝梳妝台和寬敞的浴室,浴室內設有獨立淋浴和大型放鬆浴缸,並附有豪華浴袍、拖鞋及健康美容產品,另外還備有吹風機和110/220V電源插座。 房間的半圓形獨立生活區域,擁有舒適的座椅和落地窗,讓您能夠盡情欣賞美不勝收的風景及迷人的日出和日落。浴室中的大型淋浴及放鬆浴缸正旁臨廣闊的窗戶,為您的住宿增添了一絲奢華與舒適。請注意,某些陽台的大小可能會有所不同。

ขออภัยในความไม่สะดวก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องพักประเภท เพนท์เฮาส์สปาสวีท จะมีการอัปเดตในเร็วๆ นี้

ห้องสวีทระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 33 ตารางเมตร (355 ตารางฟุต) รวมทั้งระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร (75 ตารางฟุต) ภายในห้องจะประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เตียงควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สำหรับอุปกรณ์เดินทาง ตู้นิรภัยส่วนตัว ทีวีจอแบนแบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีเสียงเพลงและภาพยนตร์ บาร์ที่มีเครื่องดื่มและตู้เย็นที่จัดเตรียมอย่างเต็มที่ โต๊ะทำงานพร้อมผ้าห่มใช้เอง โต๊ะแต่งหน้าที่สะดวกสบาย ห้องน้ำกว้างขวางประกอบด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัว มีผ้าขนหนูนุ่มๆ รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผมและปลั๊กไฟ 110/220V สถานที่ตั้งห้องสวีทนี้จะให้ความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายสำหรับการพักผ่อนในระหว่างการเดินทางของคุณ

เวอรันดา สปาสวีทบนเรือ Seabourn Venture มอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราและสะดวกสบาย ด้วยการจัดพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวที่มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ระเบียงส่วนตัวที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายหลังจากวันที่น่าตื่นเต้น มีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้ และตู้เซฟส่วนตัว เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินคุณ สัมผัสความบันเทิงด้วยทีวีที่มีระบบอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมเพลงและภาพยนตร์มากมาย ในขณะเดียวกันยังมีบาร์และตู้เย็นที่จัดเตรียมไว้อย่างเต็มที่ สำหรับการพักผ่อน พร้อมการเขียนจดหมายสั้นๆ ด้วยเครื่องเขียนที่ปรับแต่งเอง โต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำที่กว้างขวางแยกอ่างอาบน้ำและฝักบัว ภายในห้องอาบน้ำยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำนุ่มๆ รองเท้าแตะ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามสุดหรู เครื่องเป่าผม และช่องไฟฟ้า 110/220V ทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและมีสไตล์อย่างแท้จริง

สวีตเป็นห้องพักที่มีความหรูหราและกว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางทางทะเล ขนาดห้องพักที่กว้างขวางนี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านของคุณ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น เตียงขนาดใหญ่ ทีวี เครื่องปรับอากาศ และพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถมองเห็นวิวทะเลที่สวยงาม ห้องสวีตตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นของเรือ ซึ่งจะมอบความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่ผ่อนคลายสำหรับการพักผ่อนของคุณ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การล่องเรือที่ยอดเยี่ยม ห้องสวีตคือทางเลือกที่ไม่ควรพลาด ที่ให้คุณได้เพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาตลอดการเดินทางของคุณ