นัสเซาท์ (Nassau) เป็นท่าเรือที่มีความงดงามในบาฮามาส ซึ่งมีบรรยากาศคึกคักจากเรือสำราญที่จำนวนมากแวะมาเยือน ท่าเรือที่สงบเรียบร้อยแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสินค้าแบรนด์เนมระดับพรีเมียมต่าง ๆ ซึ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์การช้อปปิ้งบนถนนเบย์ (Bay Street) ที่มีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้มาฮอกานีและลิกนัม วิตา นอกจากนี้ นัสเซาท์ยังมีอาหารและงานฝีมือแท้ ๆ ของบาฮามาสให้เลือกซื้อมากมาย ชนิดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ด้วยการปรับปรุงย่านใจกลางเมือง ทำให้โรงแรมบริติชโคลอเนียลฮิลตันเป็นที่รู้จักอีกครั้ง พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของภัตตาคารสุดหรูและคาเฟ่แนวใหม่ ซึ่งนำเสนอการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัย การสำรวจนัสเซาท์ยังไม่ครบถ้วนหากไม่ได้เยี่ยมชมอาคารประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ยืนหยัดอยู่มายาวนาน เช่น อาคารสไตล์โคโลเนียลสีชมพูที่บ้านรัฐสภา และป้อมฟอร์ตชาร์ลอตต์ ซึ่งตราตรึงใจไปด้วยเรื่องราวของโจรสลัดในอดีต ท่านสามารถเลือกรับประสบการณ์ทัวร์ด้วยการนั่งรถม้าสะดวกสบาย เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของพื้นที่อย่างเต็มที่ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้นัสเซาท์เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งนี้!

แวะเยือนท่าเรือสแตนเนียล เคย์ในบาฮามาส นับเป็นประสบการณ์ที่หรูหราและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของท้องทะเลแห่งหมู่เกาะนี้ ท่าเรือแห่งนี้เป็นจุดหมายที่ขึ้นชื่อในหมู่นักเดินทางที่มองหาความเงียบสงบและงดงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะทะเลสีฟ้าครามที่โดดเด่น เมื่อคุณมาถึงสแตนเนียล เคย์ คุณจะได้สัมผัสกับอ่าวที่เงียบสงบและชายหาดที่ทอดยาว ด้วยทรายขาวละเอียดเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างต้องตะลึง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการังที่เต็มไปด้วยสีสัน หรือการเดินเรือสำรวจเกาะเล็ก ๆ ใกล้เคียง หนึ่งในไฮไลท์ของสแตนเนียล เคย์ คือการได้พบกับเต่าทะเลและปลาแปลกตาในน้ำทะเลใสสะอาดที่ดึงดูดสายตา นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลายามบ่ายในการชิลอยู่บนชายหาด หรือลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ที่ร้านอาหารท้องถิ่น หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของชายทะเลและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สแตนเนียล เคย์ในบาฮามาสคือทางเลือกที่ไม่ควรพลาด ให้ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลกใบใหม่ที่รอให้คุณสัมผัส!

ท่าเรือค็อกบอร์น ทาวน์ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะซานซัลวาดอร์ในหมู่เกาะบาฮามาส เป็นจุดหมายที่มีเสน่ห์และกระตุ้นความใฝ่ฝันสำหรับนักเดินทางที่ปรารถนาสัมผัสความงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ในเวลาเดียวกัน ท่าเรือนี้เป็นประตูสู่เกาะที่มีประวัติศาสตร์กันดาร ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส แวะจอดเรือในปี 1492 เมื่อคุณลงจากเรือสำราญที่ท่าเรือค็อกบอร์น ทาวน์ คุณจะพบชายหาดทรายขาวที่ละเอียดเหมือนแป้ง และน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาดที่ทำให้คุณไม่อาจต้านทานได้ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผสมผสานระหว่างประเพณีเก่าแก่และความร่วมสมัย ทำให้คุณได้สัมผัสกับความมีชีวิตชีวาของชีวิตบนเกาะที่นี่ นอกจากนั้น คุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ประวัติศาสตร์ที่มีให้เลือกมากมาย อาทิเช่น โรงงานน้ำตาลเก่าและโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม นอกจากนี้ กีฬาเช่น การดำน้ำตื้นและการตกปลา ยังรอให้คุณค้นพบความสนุกสนานในทะเลอันบริสุทธิ์ การเยือนค็อกบอร์น ทาวน์ จึงไม่เพียงแต่เป็นการเดินทาง แต่เป็นการค้นพบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน สัมผัสความงามและศิลปวัฒนธรรมของบาฮามาสในทุกก้าวย่างของการเดินทางที่นี่

คาบอ เดอ ลา เวล่า (Cabo de la Vela) คือท่าเรือที่สวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศโคลอมเบีย ที่นี่คือสถานที่ที่นักเดินทางสามารถสัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงามของชายฝั่งทะเล แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือภูเขา "Punta de los Flechas" ที่ถูกยกย่องว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์ตกที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ การเดินทางมายังคาบอ เดอ ลา เวล่าไม่เพียงแต่ส่งคุณสู่ท่าเรือแห่งนี้ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างจากหมู่บ้าน Wayuu ซึ่งมีวิถีชีวิตเรียบง่ายและการต้อนรับที่อบอุ่นจากคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับความงามของทุ่งทะเลทรายที่อยู่ใกล้เคียง และเยือน "Salinas de Roca" ซึ่งเป็นไข่มุกธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล การล่องเรือที่คาบอ เดอ ลา เวล่า เป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การสัมผัส คุณจะได้พบกับกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการโต้คลื่นหรือการเจ็ตสกี ซึ่งทุกการเดินทางที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน เชิญทุกท่านมาสำรวจเสน่ห์แห่งโคลอมเบียที่คาบอ เดอ ลา เวล่าแล้วให้ใจของคุณติดตามไปกับความงามอันไร้ข้อจำกัดของธรรมชาติที่นี่!

คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย

หมู่เกาะซานบลาส (San Blas Islands) ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลแคริบเบียน บริเวณชายฝั่งตะวันออกของโคลอน โดยประกอบไปด้วยเกาะเล็กและใหญ่ถึง 365 เกาะ มีเฉพาะประมาณ 50 เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เรียกได้ว่าเป็นสรวงสวรรค์ที่ยังคงความบริสุทธิ์และวัฒนธรรมดั้งเดิมเต็มเปี่ยม ชาวคูนา (Kuna) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่ปกครองดินแดนซานบลาส มีความภาคภูมิใจในประเพณีและภาษาท้องถิ่นของตน แม้จะได้รับอิทธิพลจากยุโรป หนึ่งในเกาะที่สำคัญคือเอล ปอร์เวนีร์ (El Porvenir) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลของชาวคูนา ที่นี่คุณจะได้พบกับศิลปะและงานฝีมือดั้งเดิม โดยเฉพาะ “โมลา” (Mola) ซึ่งเป็นงานปักที่มีลวดลายสวยงาม และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นของฝากที่ไม่ควรพลาด หญิงสาวในชุมชนสวมใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายพื้นบ้าน มีความโดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิตและธรรมชาติ การมาเยือนหมู่เกาะซานบลาส นอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายแล้ว คุณยังสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตที่แตกต่างและดื่มด่ำกับอารมณ์ของการเดินทางที่น่าจดจำ ที่นี่คือประตูสู่ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครในโลกแห่งการเดินเรือสำราญ.

บอกัส เดล โตโร (Bocas del Toro) คือสวรรค์ในท้องทะเลแคริบเบียนของปานามา ที่นี่ถูกเรียกว่า "ปากของวัว" ซึ่งนอกจากจะเป็นจังหวัดแล้ว ยังเป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ถึง 10 แห่ง รวมถึงเกาะโคลอน (Isla Colon) ที่มีเมืองบอกัส เดล โตโร ตั้งอยู่ โดยในภูมิภาคนี้ยังมีเกาะเล็ก ๆ อีกนับร้อยแห่ง ที่รอให้คุณสำรวจ หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของบอกัส เดล โตโร คืออุทยานแห่งชาติทะเลอิสลาบาสติมินโตส (Isla Bastimentos National Marine Park) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของปานามา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 32,000 เอเคอร์ ปกป้องป่าไม้ ชั้นสน มังคุด และสัตว์ป่า เช่น ลิง หมีและเต่าทะเล ที่มาจับคู่กันในชายหาดที่เต็มไปด้วยทรายขาวบริสุทธิ์และน้ำทะเลใสสะอาด นอกจากการสำรวจธรรมชาติอันงดงามแล้ว คุณยังสามารถนั่งบนชายหาดที่มีต้นปาล์มเรียงราย ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามและน้ำทะเลในลุ่มชิรีกิ (Chiriqui Lagoon) ที่ใสสะอาด นี่คือจุดหมายปลายทางที่มอบความผ่อนคลาย และการผจญภัยพร้อมส่งเสริมประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมในความทรงจำของคุณ