
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse II
Scenic Ocean Cruises


เมื่อพูดถึงเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่สุดในฝรั่งเศส คงจะไม่สามารถมองข้ามเมืองนีซได้ เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เก่าแก่ถึง 230,000 ปี และถือเป็นเพชรเม็ดงามบนโค้งริมหาดสีน้ำเงิน เมืองนีซมีประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล โดยในสมัยโบราณมีชาวกรีกได้จัดตั้งท่าเรือที่นี่ ตั้งชื่อว่า “นิกาเรีย” ซึ่งกลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญของเมืองมาร์เซย์ เมืองนีซได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมอิตาเลียนในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของบ้านซาวอยติดต่อกันนานถึง 500 ปี ส่งผลให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและสวยงาม ดินแดนที่ปัจจุบันถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ "promenade des Anglais" เส้นทางริมทะเลสายงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทุกย่างก้าวจะได้พบกับร้านค้าหรือร้านอาหารที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิก นอกจากความสวยงามของชายหาด ท่าเรือนีซยังมีการปรับปรุงให้ทันสมัย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาชมสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ที่นี่ยังเหมาะสำหรับครอบครัว เพราะมีป้าย “Family Plus” ที่รองรับผู้ที่มีเด็กเล็กด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางอย่างแท้จริง เมืองนีซคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!

คานส์ (Cannes) เมืองชายทะเลสุดหรูของฝรั่งเศส ที่มีสภาพอากาศอันเอื้ออำนวยตลอดทั้งปี ทำให้เป็นหนึ่งในรีสอร์ตยอดนิยมของยุโรป ในอดีต คานส์เคยเป็นจุดเฝ้าระวังของนักบวชที่อาศัยอยู่บนเกาะเซนต์ฮอนอเรตในยุคกลาง ท่าเรือที่นี่เดิมเป็นเพียงท่าเรือประมง จนกระทั่งในปี 1834 ขุนนางอังกฤษอย่างลอร์ดบรูแฮมได้หลงรักสถานที่นี้ในระหว่างการแวะพักไม่คาดคิดและตั้งใจสร้างบ้านพักที่นี่ และนี่ก็ทำให้คานส์กลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดหรูสำหรับชนชั้นสูง คานส์ได้รับการยกระดับความน่าสนใจด้วยเทศกาลภาพยนตร์ประจำปีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ใครหลายคนมักจะรู้สึกเหมือนดาราภาพยนตร์เมื่อได้เดินเล่นบนเลอ ครัวเซ็ต (La Croisette) ทางเดินริมหาดที่สวยงาม ซึ่งรายล้อมไปด้วยร้านอาหารสุดหรูและชายหาดส่วนตัวที่มีชื่อเสียง ที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นปาล์มและบุคคลสำคัญ ร้านบูติกสุดเก๋และโรงแรมหรู เช่น โรงแรมคาร์ลตัน ที่เป็นฉากของภาพยนตร์ชื่อดัง “To Catch a Thief” คานส์จึงเป็นดินแดนแห่งความฝัน และเสน่ห์ของโคตแดนดาอาซูร์ (Côte d'Azur) ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน

ท่าเรือเมนตอน (Menton) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ใกล้กับพรมแดนอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามของชายฝั่งริเวียร่า การเดินทางมาที่นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในทะเลและธรรมชาติ ท่าเรือแห่งนี้มีสภาพอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี รายล้อมไปด้วยภูเขาและชายหาดที่สวยงาม คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นที่ริมชายหาดหรือสำรวจสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยพืชพรรณเขากีฟดอกไม้ที่สวยงาม นอกจากนี้ เมนตอนยังมีเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยตึกเก่าแก่และร้านค้าเล็ก ๆ ที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกในอดีต ไม่เพียงแต่ท่าเรือ เมนตอนยังเป็นที่ตั้งของเทศกาลส้มที่มีชื่อเสียง จัดขึ้นในช่วงต้นปี โดยภายในงานมีการประดับตกแต่งด้วยส้มและเลมอนในรูปแบบต่าง ๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างมาก มองไปยังระยะไกล ท่าเรือเมนตอนจึงไม่ใช่แค่จุดจอดเรือสำราญ แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีมนต์ขลังซึ่งรอคอยให้คุณค้นพบและสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำทั้งในด้านอาหาร วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวในแบบที่คุณจะไม่มีวันลืม.

ท่าเรือโพร์โทเวเนเระ (Portovenere) ถือเป็นหมู่บ้านชายทะเลที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของลิกูเรีย โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ท่าเรือแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์จากบ้านเรือนโทนสีสันสดใสและรูปแบบการใช้ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบ้าน "เทอเรตโต้" เหล่านี้มีอายุกว่า 1,000 ปี เชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันการโจมตีจากชาวปีซานและโจรสลัดในอดีต เมื่อเดินเข้าไปในซอยเล็กๆ หรือ “คาร์รูกกิ” คุณจะพบกับร้านค้ามากมาย บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสวนสวยๆ ที่นำคุณขึ้นไปสู่วิมานที่สูงที่สุด นั่นคือ ปราสาทโดเรีย (Castle Doria) บนเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นมะกอก วิวทะเลที่สวยงาม ยังมีโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (Chiesa di San Pietro) ซึ่งมีประวัติศาสตร์โดดเด่น เป็นที่ตั้งของวัดโบราณอุทิศให้กับเทพีเวนัส ที่ทำให้ชื่อโพร์โทเวเนเระเกิดขึ้นจากความรักในท้องทะเลนี้ นอกจากนี้ ยังมีถ้ำของไบรอน (Byron's Cave) ที่นักกวีชื่อก้องเคยสนุกสนานกับการว่ายน้ำออกไปในทะเลเพื่อซึมซับกับเสียงคลื่นและธรรมชาติรอบข้าง เตรียมพบกับความงามที่ลงตัวของโพร์โทเวเนเระ แหล่งท่องเที่ยวที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสุดคลาสสิกของอิตาลีที่คุณไม่ควรพลาด!

ลิเวอร์โน่ (Livorno) เป็นท่าเรือที่นับเป็นเพชรเม็ดงามของอิตาลี และได้เปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต เมืองนี้เริ่มต้นจากการที่เคยถูกแบ่งเป็นของปิซาและเจนัว ก่อนที่จะถูกซื้อโดยฟลอเรนซ์ในปี 1421 เพื่อเปิดเส้นทางสู่ทะเล คอสิโมที่ 1 ได้เริ่มก่อสร้างท่าเรือในปี 1571 ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางทางทะเลสำคัญ ตลอดศตวรรษที่ 18 ลิเวอร์โน่เจริญรุ่งเรืองเป็นท่าเรือที่สำคัญ โดยเป็นที่ตั้งของกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติ เช่น ชาวโรมันคาทอลิกจากอังกฤษ และชาวยิวและมอริชจากสเปน นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์ Quattro Mori ที่สร้างเพื่อระลึกถึงเฟร์ดินานโดที่ 1 แม้ว่าหลายส่วนของสถาปัตยกรรมในเมืองจะมีอายุหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ลิเวอร์โน่เต็มไปด้วยสีสันของตลาดและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะ Mercato Nuovo ที่มีสินค้าท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย ตั้งแต่อาหารสดจนถึงผลิตภัณฑ์อเมริกัน ที่พบได้จากฐานทัพอเมริกัน Camp Darby ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง หากคุณมีเวลา ลิเวอร์โน่เป็นสถานที่ที่ควรแวะรับประทานอาหารกลางวันหรือมื้อเย็นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความหลากหลายแห่งนี้ จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจในเอกลักษณ์ของเมืองที่สวยงามและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง

ท่าเรือบาสเชีย ตั้งอยู่ในเมืองบาสเชีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางตอนเหนือของเกาะคอร์ซิกา เมืองนี้มีบรรยากาศอิตาเลียนที่โดดเด่น ผสานอุตสาหกรรมและการค้าได้อย่างลงตัว ตลอดจนความน่าสนใจของประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม มีสองย่านที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ เทอรา เวคเชีย ย่านเก่าแก่ที่แสนมีเสน่ห์ และเทอรา โนวา ย่านที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลางเก่าแก่ บาสเชียเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งรวมถึงจัตุรัสเซนต์นิโคลัส จุดรวมของเมืองที่เปิดโล่งสู่ทะเล พร้อมกับคาเฟ่และต้นไม้ร่มรื่นที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอกจากนี้ ย่านโบราณยังมีโบสถ์ประดับประดาอย่างงดงาม และทิวทัศน์อันงดงามของท่าเรือเก่า ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต สำหรับการช็อปปิ้ง ถนน Boulevard Paoli และ Rue Cesar Campinchi อยู่ห่างจากท่าเรือเพียงไม่ถึง 500 เมตร รวมทั้งสามารถลิ้มรสอาหารฝรั่งเศสและคอร์ซิกาได้ที่ร้านอาหารบริเวณท่าเรือ โดยที่นี่ยังมีของฝากน่าสนใจ เช่น น้ำผึ้ง ไวน์ และลิเคียวร์ การเที่ยวชมที่ท่าเรือบาสเชียจะเปิดโอกาสให้คุณดื่มด่ำบรรยากาศของเกาะคอร์ซิกาในแบบที่แท้จริง การเดินเล่นในย่านเก่าและสัมผัสประวัติศาสตร์จะทำให้คุณมีความทรงจำอันล้ำค่า ไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางสุดหรูจากเรือสำราญของคุณ!

ท่าเรือ Porto Cervo ตั้งอยู่บนชายฝั่งอันงดงามของซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วทุกมุมโลก ชื่อนี้สะท้อนถึงความหรูหราที่ซ่อนอยู่ในความเป็นธรรมชาติ แวดล้อมด้วยทะเลสีฟ้าครามและภูเขาเขียวขจี ทำให้ Porto Cervo เป็นจุดที่น่าสนใจในการหยุดพักและสำรวจประเทศอิตาลี ท่าเรือแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มและสาวงามที่มาโชว์ความงาม แต่ยังเป็นจะเป็นสัญลักษณ์ของความสงบนิ่งและความหรูหราที่ซ่อนเร้นอยู่ หลังจากได้สัมผัสความงามของอ่าวอันระยิบระยับแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามถนนที่ถูกประดับด้วยร้านค้าบูติกที่เสนอสินค้าหรูหราจากแบรนด์ระดับโลก หรือเพลิดเพลินกับการชิมไวน์ชั้นเลิศจากภูมิภาคนี้ สำหรับผู้ที่แสวงหาความตื่นเต้น อย่าพลาดที่จะสำรวจหมู่เกาะเหล่านี้ โดยทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่รวมถึงการดำน้ำหรือการเล่นเรือใบ ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ท่าเรือ Porto Cervo จึงถือเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์สุดพิเศษ ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและธรรมชาติอันงดงาม ในสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสร้างความทรงจำในช่วงเวลาพักผ่อนนี้

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง












ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ เป็นที่พักสุดหรูที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และไม่เหมือนใคร ซึ่งถือเป็นความสุขระดับสูงสุดในระหว่างการล่องเรือ ห้องเพนท์เฮาส์นี้มีขนาดใหญ่ถึง 195 m² ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Deck 9 มอบวิวที่ดีที่สุดบนเรือ พร้อมด้วยระเบียงขนาดกว้างที่จะทำให้คุณได้สัมผัสการพักผ่อนอย่างหรูหรา ด้วยสระสปาส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดด ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอบไอน้ำแบบคู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษจากบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างดีตลอดการเข้าพัก ในห้องสวีทคุณจะได้พบกับพื้นที่สำหรับทานอาหารที่รองรับได้ถึงแปดคน พร้อมมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดีตลอดวัน ทุกสิ่งในห้องถูกจัดเตรียมให้อยู่ในระดับวีไอพี เช่น การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้า และสิทธิ์ในการเลือกทัวร์ริมฝั่งได้ก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีการบริการซักรีดฟรี รวมทั้งระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ จึงเป็นประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่ควรพลาด สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความหรูหราและการดูแลที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา









สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและความสบายจากบนดาดฟ้าของเรือสำราญ Scenic Eclipse ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าในชั้น 6 และ 8 ซึ่งมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน สวีทนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 105-110 ตร.ม. มอบความสง่างามและสไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมระเบียงโค้งกว้างที่เหมาะแก่การชมภาพทิวทัศน์และสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ภายในมีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกต่างหาก คุณสามารถอ่านหนังสือจากห้องสมุดในสวีทหรือเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่จัดเตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับประทานอาหารในบรรยากาศส่วนตัวที่แสนหรูหรา นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้หน้าต่างระเบียงแบบดรอปดาวน์เพื่อเข้าถึงวิวภายนอกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับกล้องส่องทางไกลที่จัดเตรียมไว้ในห้อง ห้องน้ำที่หรูหราเต็มไปด้วยอุปกรณ์และบริการต่างๆ รวมถึงการอาบน้ำด้วยวิตามินที่มีการบำบัดด้วยสี ห้องอาบน้ำใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ ส่วนบริการพิเศษสำหรับผู้เข้าพักในพานอรามาและแกรนด์พานอรามาสวีท ได้แก่ การจองห้องอาหารพิเศษแบบเร่งด่วน การเลือกเส้นทางท่องเที่ยวที่รับประกัน รวมถึงบริการวีไอพีในการขึ้นและลงเรือ ด้วยความสะดวกสบายจากห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา การตกแต่งภายในที่มีแสงสว่างพิเศษ รวมถึงระบบเสียงโรงภาพยนตร์ที่มีลำโพง Bose® ความสะดวกสบายทั้งหมดที่จะสร้างความประทับใจในการล่องเรือของคุณ




ห้องสปาสวีท (สปาสวีท) เป็นพื้นที่หลีกหนีที่หรูหราสำหรับการฟื้นคืนชีพ ด้วยขนาดตั้งแต่ 46-50 ตารางเมตร ห้องสปาสวีทตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 8 และ 9 ภายในเรือประกอบด้วยพื้นที่พักผ่อนสะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์แบบสี่เสาภายใต้การออกแบบของ Scenic Slumber Bed และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ผ่อนคลาย หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ลักษณะเด่นของห้องสปาสวีทรวมถึงอ่างน้ำแบบสปาหรูหราที่ออกแบบโดย Philippe Starck สำหรับ Scenic Eclipse I และอ่างสปาทรงกลมที่มองเห็นวิวระเบียงสำหรับ Scenic Eclipse II ซึ่งให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย พร้อมบริการดูแลแบบส่วนตัวจากบัตเลอร์ ระเบียงส่วนตัวช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของทะเล และอาจเป็นโอกาสแรกในการสังเกตสัตว์ป่าหรือทิวทัศน์ที่งดงาม ห้องสปาสวีทนี้จึงเป็นการหลีกหนีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายและเติมพลังให้กับตัวคุณเอง





ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงคือการหลบภัยส่วนตัวที่กว้างขวางของคุณ ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู รวมถึงเตียงคิงไซส์นุ่มสบาย เมนูหมอน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้าง และพื้นที่สำหรับนั่งเล่น เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการสำรวจ ห้องสวีทมีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 5 ถึง 8 โดยมีประตูแก้วเลื่อนตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ห้องระเบียงส่วนตัวเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการพักผ่อน ขณะที่โลกใหม่ผ่านเข้ามา คุณจะได้สัมผัสกับบริการอันยอดเยี่ยม อาทิเช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมอำนวยความสะดวก ความหรูหราของห้องน้ำที่มีอุปกรณ์เสริมจาก Dyson รวมถึงบริการเครื่องดื่มและรับประทานอาหารภายในห้องที่ตอบสนองความต้องการของคุณ อีกทั้งยังมีระบบบรรเทาอากาศที่ให้อากาศบริสุทธิ์ 100% และระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงนี้จึงไม่เพียงแต่มีความหรูหรา แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนอีกด้วย




ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูของเราได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยมีประตูกระจกแบบเลื่อนที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดออกสู่ระเบียงหรือเทอเรซส่วนตัวให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามดับถือพลังธรรมชาติ ห้องพักขนาด 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 5 ถึง 8 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมถึงเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบายและพื้นที่นั่งเล่นที่ลงตัว สำหรับการผ่อนคลายหลังจากการสำรวจ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่นั่งเล่นและหลับนอนแยกจากกัน แต่ยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ชื่นชมมหาสมุทรและชีวิตทางทะเลที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น ชุดอาบน้ำที่หรูหรา เครื่องเป่าผม Dyson และบริการของบัตเลอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ที่เต็มไปด้วยไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามความชื่นชอบของคุณ รวมถึงบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพัก เพื่อความบันเทิง มีระบบ HDR TV และลำโพง Bose® รวมถึงระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อความสดชื่นอย่างเต็มที่ และยังมีการระบายเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของสังคมคลาสการเดินเรือ Bureau Veritas ทำให้ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรู กลายเป็นที่พักที่เหมาะแก่การหลบหนีจากความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับความงามของทะเลอย่างแท้จริง