
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse II
Scenic Ocean Cruises


ท่าเรือวัลปาราอีโซ (Valparaíso) ของชิลี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เสน่ห์แห่งวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของเมืองนี้เกิดจากศิลปกรรมที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วย cerros (เนินเขา) ถึง 45 ลูกที่ตั้งตระหง่านเหนือมหาสมุทร พี่น้องชาววัลปาราอีโซจะเข้าใจความสำคัญของการเดินทางด้วยทางเดินที่คดเคี้ยวและลิฟต์ไม้ (ascensores) เพื่อขึ้นไปยังมุมต่าง ๆ ภายในเมือง เมืองนี้มีบ้านสีสันสดใสเรียงรายอยู่ตามเชิงเขา ส่วนใหญ่สร้างจากเหล็กกล้าที่ถอดออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้แต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัลปาราอีโซเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญที่สุดในอเมริกาใต้ ก่อนที่คลองปานามาจะเปิดใช้ และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านเส้นทางการค้า สถานะของเมืองยังคงเป็นท่าเรือหลักของชิลี สำหรับบรรดานักท่องเที่ยว การเดินเล่นสัมผัสกับวัฒนธรรมของเมืองผ่าน El Plan ซึ่งเป็นพื้นที่ร้านค้าและร้านอาหารแนวใหม่ นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นั่นคุณจะพบกับบรรยากาศที่คึกคักและวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของทะเล การเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะและประวัติศาสตร์จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางที่มองเห็นความงดงามของชีวิตชาวพอร์ตในทุกขั้นตอน
ท่าเรือพิงกวิโน เดอฮัมบอลด์ (Pingüino de Humboldt National Reserve) ตั้งอยู่ในเขตชายฝั่งของชิลี เป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความงามทางธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างลงตัว เปรียบเสมือนสวรรค์ของนักเดินทางที่ใฝ่หาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อคุณเดินทางมายังท่าเรือแห่งนี้ คุณจะได้พบกับความงามของทิวทัศน์ทะเลและเกาะที่มีชื่อเสียง รวมทั้งนกเพนกวินฮัมบอลด์ที่น่ารักซึ่งเป็นให้แนวชีวิตและมีเสน่ห์โดดเด่น นอกจากนี้ยังมีสัตว์น้ำที่หลากหลาย ทั้งแมวน้ำและปลากระเบน ทำให้วันหยุดของคุณเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นอกจากการชมธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นได้ในบริเวณโดยรอบ เช่น ทริปเรือที่พาท่านไปสำรวจเกาะต่าง ๆ รวมถึงการชิมอาหารทะเลสดใหม่จากแหล่งประมงในพื้นที่ ด้วยวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเป็นแบคกราวด์ สร้างบรรยากาศในการพักผ่อนและประทับใจตลอดไป หากคุณกำลังมองหาการผจญภัยใหม่ในชิลี ท่าเรือพิงกวิโน เดอฮัมบอลด์คือจุดเริ่มต้นที่ไม่ควรพลาด ไม่เพียงแต่จะให้คุณได้สัมผัสกับความงามแห่งธรรมชาติ แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้เข้าถึงประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในวัฒนธรรมชิลีอีกด้วย


ท่าเรือซาลาเวอรี (Salaverry) ตั้งอยู่ห่างจากลิมาไปทางเหนือประมาณ 9 ชั่วโมง เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทาง ผู้ที่มาเยือนมักจะนำประสบการณ์ที่หลากหลายกลับไป ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจเมืองตรุจิโล (Trujillo) หรือซึมซับวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในปี 1534 โดยฟรานซิสโก ปิซาร์โรย์ และยังคงรักษาความงามแบบโคโลเนียลเอาไว้ได้อย่างดี ด้วยบ้านเรือนสไตล์คาโซนาที่เรียงรายริมถนน ไม่ไกลจากเมืองนี้คือชานชาน (Chan Chan) เมืองหลวงโบราณของคนชิมู ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,500 ปี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ โดยภูมิภาคนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของม้าเพอรูเวียนปาโซ (Peruvian Paso) ที่มีความสง่างาม พร้อมด้วยชายหาดที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิจกรรมกีฬาทางน้ำ เช่น เซิร์ฟ ท่าเรือซาลาเวอรีไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่วัฒนธรรมอันลึกซึ้ง แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุดในดินแดนที่อบอวลไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามทางธรรมชาติ แบบที่ทุกคนสามารถมาสัมผัสได้ ตั้งแต่การเดินเล่นที่ชายหาด ไปจนถึงการสำรวจกันในเมือง ประสบการณ์ทุกอย่างรอคุณอยู่ในท่าเรือแห่งนี้!

เมืองมานตาในเอกวาดอร์ เป็นหนึ่งในปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น มานตาเป็นท่าเรือที่สำคัญติดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพและทะเลที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทางน้ำและกิจกรรมต่างๆ เช่น การดำน้ำตื้น การตกปลา และการล่องเรือชมวิว เมื่อเยือนมานตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเกาะเอนโบนหรือตลาดของเมือง ซึ่งมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของอาหารท้องถิ่น เดินเล่นไปตามชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดอวาเซนกา ที่ถือเป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยม หรือชื่นชมงานฝีมือของชาวบ้านที่ตลาดศิลปะ นอกจากนี้ การสำรวจพื้นที่ใกล้เคียง เช่น อุทยานแห่งชาติยัสนี หรือลองเข้าร่วมการท่องเที่ยวเพื่อดูวาฬในช่วงฤดูที่เหมาะสม จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความประทับใจอย่างแท้จริง มานตาไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในโลกอันมหัศจรรย์ของเอกวาดอร์อย่างแท้จริง
ท่าเรือแห่งความมหัศจรรย์ ที่ "อุทยานแห่งชาติอุทรียา" บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของโคลอมเบีย คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ใฝ่ฝันถึงความงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยท่าเรือนี้ถือเป็นประตูไปสู่การสำรวจเสน่ห์แห่งอุทยาน ซึ่งเต็มไปด้วยป่าฝนหนาทึบ ชายหาดที่ทอดยาว และป่าชายเลนเขียวขจี ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้พบกับวาฬหลังค่อมที่นำลูกน้อยมาให้เห็นในน้ำทะเลใส แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล ที่นี่ถือเป็นสวรรค์แห่งความหลากหลายทางชีวภาพ มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้งลิง กบ และนกมากกว่า 400 สายพันธุ์ อุทยานแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่สำหรับการเดินป่าและดูนก แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจและอาหารทะเลสดใหม่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่ชาญฉลาดสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบความงามของธรรมชาติและการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร ในป่าเขียวชอุ่มและบรรยากาศที่บริสุทธิ์นี้ จะสร้างความประทับใจให้คุณตลอดไป
ท่าเรือเอนเซนาดา เดอ อูตเรีย (Ensenada de Utria) ตั้งอยู่ในประเทศโคลอมเบีย ถือเป็นจุดหมายปลายทางอันงดงามที่มีเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง ท่าเรือแห่งนี้รายล้อมไปด้วยป่าฝนอันเขียวขจีและน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ส่องประกาย โดยมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอนดีสในเบื้องหลัง ขึ้นชื่อว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติอูตเรีย ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดจอดเรือสำราญเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น เช่น การล่องเรือชมปลาวาฬในช่วงฤดูผสมพันธุ์ หรือการดำน้ำดูปะการังในแนวปะการังที่มีสีสันสดใส นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสำรวจหมู่เกาะรอบๆ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ และพบปะกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเอมีร่า เอนเซนาดา เดอ อูตเรีย เป็นสถานที่ที่รวมความสงบเงียบและความงดงามที่ไม่มีใครเหมือน ช่วยสร้างประสบการณ์ที่หรูหราและน่าจดจำ ทำให้นักเดินทางทุกคนได้พบกับความสงบและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พร้อมทั้งเปิดกว้างสู่การสัมผัสใกล้ชิดกับชีวิตทางทะเลและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง อย่าพลาดที่จะทำให้หนึ่งในวาระการเดินทางของคุณเป็นความทรงจำอันล้ำค่าในที่แห่งนี้!
ดาร์เคียน เนชันแนลปาร์ค เป็นหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงปานามา ด้วยความยิ่งใหญ่ของป่าเขตร้อนที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ดินแดนแห่งนี้เป็นบ้านของนกหายากและมีสีสันไม่ว่าจะเป็น Crimson-collared Tanager ที่สะดุดตา หรือ Chestnut-fronted Macaws และ Snow-bellied Hummingbirds ที่หาชมได้ยาก ในขณะเดียวกัน คุณยังมีโอกาสเห็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น tapirs และ Black-headed Spider Monkeys ที่อาศัยอยู่ในเขตแดนที่ปราศจากถนน การเดินทางเข้าสู่ดาร์เคียนนั้นต้องใช้เรือเป็นหลัก เพราะความหนาแน่นของป่าทำให้การเข้าถึงง่ายขึ้นด้วยทางน้ำ นอกจากนี้ยังมีชุมชนพื้นเมืองอย่าง Embera ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไว้อย่างดี เช่น การทำจักสานและแกะสลัก ซึ่งผู้เที่ยวสามารถซื้อเป็นของที่ระลึกได้ ดาร์เคียน เนชันแนลปาร์ค นอกจากจะเป็นสวรรค์ของนักดูนกและนักผจญภัยแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหนีความวุ่นวาย พบกับธรรมชาติในโลกที่เงียบสงบ รดน้ำพลังชีวิตแห่งการสร้างสรรค์ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการสัมผัสความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นเมืองที่นี่อีกแล้ว

เมื่อคุณลงเรือที่ท่าเรือ Playa del Muerto ประเทศปานามา คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของชายฝั่งแคริบเบียน ในฝั่งนี้ รอคอยคุณด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลาย ท่าเรือ Playa del Muerto เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความสวยงามของเกาะที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างดี จากท่าเรือนี้ คุณสามารถเดินทางสู่ชายหาดที่บริสุทธิ์ อาทิเช่น Playa Tortuga ที่มีน้ำทะเลสวยใสและหาดทรายขาวละเอียด ideal สำหรับการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมทางน้ำ ซึ่งรวมถึงการดำน้ำดูปะการังที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ อิ่มใจไปกับบรรยากาศของทะเลและสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น นอกจากนี้ คุณยังสามารถเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติ Darrien ซึ่งมีความหลากหลายทางพันธุ์พืชและสัตว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ คาเฟ่และร้านอาหารท้องถิ่นจะทำให้คุณได้ลิ้มลองเมนูแสนอร่อย เพลิดเพลินไปกับรสชาติที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมของปานามา ท่องเที่ยวที่ท่าเรือ Playa del Muerto คือการสร้างประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ลงเรือสำราญและมาเปิดโลกใบใหม่ของคุณที่นี่เถอะ!



หมู่เกาะซานบลาส (San Blas Islands) ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลแคริบเบียน บริเวณชายฝั่งตะวันออกของโคลอน โดยประกอบไปด้วยเกาะเล็กและใหญ่ถึง 365 เกาะ มีเฉพาะประมาณ 50 เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เรียกได้ว่าเป็นสรวงสวรรค์ที่ยังคงความบริสุทธิ์และวัฒนธรรมดั้งเดิมเต็มเปี่ยม ชาวคูนา (Kuna) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่ปกครองดินแดนซานบลาส มีความภาคภูมิใจในประเพณีและภาษาท้องถิ่นของตน แม้จะได้รับอิทธิพลจากยุโรป หนึ่งในเกาะที่สำคัญคือเอล ปอร์เวนีร์ (El Porvenir) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลของชาวคูนา ที่นี่คุณจะได้พบกับศิลปะและงานฝีมือดั้งเดิม โดยเฉพาะ “โมลา” (Mola) ซึ่งเป็นงานปักที่มีลวดลายสวยงาม และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นของฝากที่ไม่ควรพลาด หญิงสาวในชุมชนสวมใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายพื้นบ้าน มีความโดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิตและธรรมชาติ การมาเยือนหมู่เกาะซานบลาส นอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายแล้ว คุณยังสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตที่แตกต่างและดื่มด่ำกับอารมณ์ของการเดินทางที่น่าจดจำ ที่นี่คือประตูสู่ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครในโลกแห่งการเดินเรือสำราญ.

คาบอ เดอ ลา เวล่า (Cabo de la Vela) คือท่าเรือที่สวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศโคลอมเบีย ที่นี่คือสถานที่ที่นักเดินทางสามารถสัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงามของชายฝั่งทะเล แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือภูเขา "Punta de los Flechas" ที่ถูกยกย่องว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดในการชมพระอาทิตย์ตกที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ การเดินทางมายังคาบอ เดอ ลา เวล่าไม่เพียงแต่ส่งคุณสู่ท่าเรือแห่งนี้ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างจากหมู่บ้าน Wayuu ซึ่งมีวิถีชีวิตเรียบง่ายและการต้อนรับที่อบอุ่นจากคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับความงามของทุ่งทะเลทรายที่อยู่ใกล้เคียง และเยือน "Salinas de Roca" ซึ่งเป็นไข่มุกธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล การล่องเรือที่คาบอ เดอ ลา เวล่า เป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การสัมผัส คุณจะได้พบกับกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการโต้คลื่นหรือการเจ็ตสกี ซึ่งทุกการเดินทางที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน เชิญทุกท่านมาสำรวจเสน่ห์แห่งโคลอมเบียที่คาบอ เดอ ลา เวล่าแล้วให้ใจของคุณติดตามไปกับความงามอันไร้ข้อจำกัดของธรรมชาติที่นี่!

เกาะคูราเซา (Curaçao) เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามแห่งหนึ่งในแคริบเบียน โดยเฉพาะที่ท่าเรือวิลเลมสตัด (Willemstad) ที่สะท้อนความงามของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 17 ที่นี่คุณจะได้พบกับหลังคากระเบื้องสีแดงที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสร้างขึ้นจากเรือสำเภา และยังคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน วิลเลมสตัดแบ่งออกเป็นสองฝั่งหลัก ได้แก่ พุนดา (Punda) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวสีสันของประวัติศาสตร์ในขณะที่อีกฝั่งคือโอทรอแบนดา (Otrobanda) ซึ่งมีถนนแคบ ๆ พร้อมบ้านเรือนที่น่ารักและมีเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่กำลังถูกฟื้นฟูให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้มาเยือนสามารถข้ามซานตาอันนาเบย์ได้หลายวิธี อาทิ ขับรถข้ามสะพานจูเลียนา หรือเดินข้ามสะพานลอยควีนเอ็มมา (Queen Emma) ที่มีชื่อเล่นว่า "โอลด์เลดี้" นอกจากนี้ ยังมีบริการเรือฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ด้วยการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ที่บริเวณริมทะเล ทำให้วิลเลมสตัดเป็นจุดหมายที่ไม่น่าเบื่อในการสัมผัสบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เป็นประสบการณ์การเดินทางที่คุณไม่ควรพลาด!

ท่าเรือที่สวยงามสุดแห่งหนึ่งในเวสต์อินดีส ซันต์วินเซนต์ แอนด์ เดอะเกรนาไดนส์ นั่นคือ ท่าเรือโทบาโกเคย์ส (Tobago Cays) สถานที่ที่เป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในธรรมชาติและทะเลใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการังและอุทยานทางทะเลที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในเขตทะเลแคริบเบียน มีกลุ่มเกาะเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและทรายขาวบริสุทธิ์ การเดินทางมายังท่าเรือโทบาโกเคย์สเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคหรือใช้งานบริการเรือสปีดโบ๊ทเพื่อสำรวจสันทรายและเกาะที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเห็นเต่าทะเลที่ว่ายน้ำผ่านไปมา ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ท่าเรือโทบาโกเคย์สยังเต็มไปด้วยบริการที่ครบครัน ทั้งร้านอาหารท้องถิ่นที่มีอาหารทะเลสด ๆ พร้อมวิวทะเลที่งดงาม ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับการเดินทาง ครั้งหนึ่งคุณได้เยือนท่าเรือนี้ คุณจะรู้สึกถึงความซาบซึ้งในความงามของธรรมชาติและความผ่อนคลายที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลก มาร่วมเติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณที่โทบาโกเคย์ส และให้ตัวคุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งแคริบเบียน!

เกาะเมย์รู (Mayreau) เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กเพียง 1.5 ตารางไมล์ (3.9 ตารางกิโลเมตร) และเป็นเกาะที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในหมู่เกาะเกรเนดีนส์ เกาะนี้ตั้งอยู่ในประเทศเซนต์ วินเซนต์ซึ่งตั้งอยู่ในทะเล Caribbean ที่สวยงาม โดยมีสองเกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มเกรเนดีนส์คือ มัสติค (Mustique) และเบคี (Bequia) ผู้มาเยือนส่วนใหญ่จะเดินทางมายังเกาะเมย์รูด้วยเรือสำราญ หรือเรือเฟอร์รี่ และยังมีบริการเรือยอชท์ให้เช่า เกาะนี้ปราศจากถนนหลักและสนามบิน มีเพียงหมู่บ้านชื่อว่า "หมู่บ้านที่ไม่มีชื่อ" แต่สิ่งนี้กลับทำให้บรรยากาศของเกาะนี้มีความสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคืออ่าวซาลีน (Saline Bay) ซึ่งมีชายหาดกว้างขวางที่สวยงาม และผู้ค้าในท้องถิ่นที่ขายเสื้อยืดและงานหัตถกรรมของท้องถิ่น อีกทั้งการเดินขึ้นไปยังหมู่บ้านบนเขาจะมอบทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นเกาะเมย์รู ตูบาโกเคย์ (Tobago Cays) และเกาะแครีอากู (Carriacou) ด้วยความงดงามของทิวทัศน์และกิจกรรมดำน้ำตื้นที่นี่ เมย์รูจึงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในทริปนี้

ท่าเรือซูเฟรียร์ (Soufrière) ตั้งอยู่ในเซนต์ลูเชีย เป็นเมืองโบราณซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงอาณานิคมฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1746 เมืองเล็กๆ นี้มีเสน่ห์ในตัวเอง โดยตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟที่ชื่อเดียวกัน การเดินทางมายังท่าเรือซูเฟรียร์จะนำคุณไปสัมผัสกับมนตร์เสน่ห์ของอดีตที่ยังคงอยู่ ด้วยอาคารไม้ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมอาณานิคมฝรั่งเศสและสร้างขึ้นล้อมรอบตลาดที่เต็มไปด้วยสีสัน เมื่อเรือสำราญจอดอยู่ในอ่าวซูเฟรียร์ คุณจะรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นในตลาด โดยมีภาพวาดสีสันสดใสประดับอยู่ นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการสำรวจความงดงามของธรรมชาติที่โดดเด่นของเซนต์ลูเชีย ทั้งภูเขาพิตอง (Pitons) ที่สูงตระหง่านและภูมิทัศน์ที่แสนร่มรื่น เช่น สวนพฤกษศาสตร์ น้ำตกที่สวยงาม รวมถึง "ภูเขาไฟขับรถเข้าได้" ที่ไม่ควรพลาด ซูเฟรียร์จึงเป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่คุณจะได้ผ่อนคลาย แต่ยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของเซนต์ลูเชีย สัมผัสถึงความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้รอคอยให้คุณได้มาเยือนและสร้างความทรงจำใหม่ที่น่าจดจำในทุกมุมมองของการเดินทางของคุณ.

ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส












ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ เป็นที่พักสุดหรูที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และไม่เหมือนใคร ซึ่งถือเป็นความสุขระดับสูงสุดในระหว่างการล่องเรือ ห้องเพนท์เฮาส์นี้มีขนาดใหญ่ถึง 195 m² ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Deck 9 มอบวิวที่ดีที่สุดบนเรือ พร้อมด้วยระเบียงขนาดกว้างที่จะทำให้คุณได้สัมผัสการพักผ่อนอย่างหรูหรา ด้วยสระสปาส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดด ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอบไอน้ำแบบคู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษจากบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างดีตลอดการเข้าพัก ในห้องสวีทคุณจะได้พบกับพื้นที่สำหรับทานอาหารที่รองรับได้ถึงแปดคน พร้อมมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดีตลอดวัน ทุกสิ่งในห้องถูกจัดเตรียมให้อยู่ในระดับวีไอพี เช่น การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้า และสิทธิ์ในการเลือกทัวร์ริมฝั่งได้ก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีการบริการซักรีดฟรี รวมทั้งระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ จึงเป็นประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่ควรพลาด สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความหรูหราและการดูแลที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา









สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและความสบายจากบนดาดฟ้าของเรือสำราญ Scenic Eclipse ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าในชั้น 6 และ 8 ซึ่งมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน สวีทนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 105-110 ตร.ม. มอบความสง่างามและสไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมระเบียงโค้งกว้างที่เหมาะแก่การชมภาพทิวทัศน์และสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ภายในมีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกต่างหาก คุณสามารถอ่านหนังสือจากห้องสมุดในสวีทหรือเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่จัดเตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับประทานอาหารในบรรยากาศส่วนตัวที่แสนหรูหรา นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้หน้าต่างระเบียงแบบดรอปดาวน์เพื่อเข้าถึงวิวภายนอกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับกล้องส่องทางไกลที่จัดเตรียมไว้ในห้อง ห้องน้ำที่หรูหราเต็มไปด้วยอุปกรณ์และบริการต่างๆ รวมถึงการอาบน้ำด้วยวิตามินที่มีการบำบัดด้วยสี ห้องอาบน้ำใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ ส่วนบริการพิเศษสำหรับผู้เข้าพักในพานอรามาและแกรนด์พานอรามาสวีท ได้แก่ การจองห้องอาหารพิเศษแบบเร่งด่วน การเลือกเส้นทางท่องเที่ยวที่รับประกัน รวมถึงบริการวีไอพีในการขึ้นและลงเรือ ด้วยความสะดวกสบายจากห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา การตกแต่งภายในที่มีแสงสว่างพิเศษ รวมถึงระบบเสียงโรงภาพยนตร์ที่มีลำโพง Bose® ความสะดวกสบายทั้งหมดที่จะสร้างความประทับใจในการล่องเรือของคุณ




ห้องสปาสวีท (สปาสวีท) เป็นพื้นที่หลีกหนีที่หรูหราสำหรับการฟื้นคืนชีพ ด้วยขนาดตั้งแต่ 46-50 ตารางเมตร ห้องสปาสวีทตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 8 และ 9 ภายในเรือประกอบด้วยพื้นที่พักผ่อนสะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์แบบสี่เสาภายใต้การออกแบบของ Scenic Slumber Bed และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ผ่อนคลาย หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ลักษณะเด่นของห้องสปาสวีทรวมถึงอ่างน้ำแบบสปาหรูหราที่ออกแบบโดย Philippe Starck สำหรับ Scenic Eclipse I และอ่างสปาทรงกลมที่มองเห็นวิวระเบียงสำหรับ Scenic Eclipse II ซึ่งให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย พร้อมบริการดูแลแบบส่วนตัวจากบัตเลอร์ ระเบียงส่วนตัวช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของทะเล และอาจเป็นโอกาสแรกในการสังเกตสัตว์ป่าหรือทิวทัศน์ที่งดงาม ห้องสปาสวีทนี้จึงเป็นการหลีกหนีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายและเติมพลังให้กับตัวคุณเอง





ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงคือการหลบภัยส่วนตัวที่กว้างขวางของคุณ ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู รวมถึงเตียงคิงไซส์นุ่มสบาย เมนูหมอน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้าง และพื้นที่สำหรับนั่งเล่น เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการสำรวจ ห้องสวีทมีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 5 ถึง 8 โดยมีประตูแก้วเลื่อนตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ห้องระเบียงส่วนตัวเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการพักผ่อน ขณะที่โลกใหม่ผ่านเข้ามา คุณจะได้สัมผัสกับบริการอันยอดเยี่ยม อาทิเช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมอำนวยความสะดวก ความหรูหราของห้องน้ำที่มีอุปกรณ์เสริมจาก Dyson รวมถึงบริการเครื่องดื่มและรับประทานอาหารภายในห้องที่ตอบสนองความต้องการของคุณ อีกทั้งยังมีระบบบรรเทาอากาศที่ให้อากาศบริสุทธิ์ 100% และระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงนี้จึงไม่เพียงแต่มีความหรูหรา แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนอีกด้วย




ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูของเราได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยมีประตูกระจกแบบเลื่อนที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดออกสู่ระเบียงหรือเทอเรซส่วนตัวให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามดับถือพลังธรรมชาติ ห้องพักขนาด 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 5 ถึง 8 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมถึงเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบายและพื้นที่นั่งเล่นที่ลงตัว สำหรับการผ่อนคลายหลังจากการสำรวจ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่นั่งเล่นและหลับนอนแยกจากกัน แต่ยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ชื่นชมมหาสมุทรและชีวิตทางทะเลที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น ชุดอาบน้ำที่หรูหรา เครื่องเป่าผม Dyson และบริการของบัตเลอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ที่เต็มไปด้วยไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามความชื่นชอบของคุณ รวมถึงบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพัก เพื่อความบันเทิง มีระบบ HDR TV และลำโพง Bose® รวมถึงระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อความสดชื่นอย่างเต็มที่ และยังมีการระบายเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของสังคมคลาสการเดินเรือ Bureau Veritas ทำให้ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรู กลายเป็นที่พักที่เหมาะแก่การหลบหนีจากความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับความงามของทะเลอย่างแท้จริง