
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse
Scenic Ocean Cruises


เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

เกาะฟลัตเทย์ (Flatey Island) ตั้งอยู่ในน้ำทะเลบริเวณอ่าวบรานด์กาเบียร์ (Breidafjordur) ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าอัศจรรย์ซึ่งมีความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เกาะนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "อัญมณีแห่งฟยอร์ด" ด้วยภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวสดใส จุดชมวิวทะเลที่งดงาม และทิวทัศน์ของภูเขาที่รายล้อม ทำให้ฟลัตเทย์กลายเป็นที่นิยมสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความสงบและความงามตามธรรมชาติ หนึ่งในเสน่ห์ของเกาะฟลัตเทย์คือการเป็นพื้นที่อนุรักษ์นกที่สำคัญ ซึ่งมีนกน้ำและนกทะเลมากมายหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินป่า และการสำรวจธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ได้จากโบสถ์เก่าแก่และบ้านเรือนที่ตกทอดมายาวนาน หากคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติและต้องการหลบหนีจากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ ฟลัตเทย์จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสุขและความสงบในใจ สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมในการเดินทางที่สวยงามแห่งนี้ พร้อมทำให้คุณรักในความงามของโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น!



Vigur Island เป็นสวรรค์เล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในน้ำทะเลใสของฟยอร์ด Ísafjarðardjúp ทางตะวันออกของเมือง Ísafjörður ประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีความยาวประมาณ 1.6 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 412 เมตร เกาะนี้เป็นที่ตั้งของครอบครัวเกษตรกรเพียงครอบครัวเดียว ประกอบด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น กังหันลมที่เก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1840 และเคยใช้ในการบดข้าวสาลีนำเข้าจากเดนมาร์กจนถึงปี 1917 นอกจากนี้ เกาะยังมีกระดานพายอายุ 200 ปีที่ยังคงใช้ในการขนส่งแกะไปยังแผ่นดินใหญ่ ช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมความงดงามของนกทะเล เช่น นก Puffin แอตแลนติก นก Tern อาร์กติก และนก Guillemot แบล็ค ซึ่งจะมาหากินที่เกาะเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถเห็นรังของนก Eider และเรียนรู้กระบวนการเก็บและทำความสะอาดขนเป็ด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีชื่อเสียงจากเกาะแห่งนี้ Vigur Island เป็นจุดหมายที่เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์และความสงบ สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันถึงการเดินทางที่ห่างไกลจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน ค้นพบธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของไอซ์แลนด์ได้ที่นี่!
สกากาฟยอร์ður (Skagafjörður) แหล่งท่าเรือที่ดีที่สุดที่เรือสำราญหลากหลายลำแวะจอดเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ในเขตทางเหนือ, สกากาฟยอร์ður โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เฉพาะตัว ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นการค้นหาแต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขา ตั้งแต่อุทยานแห่งชาติทริงเวลลิร์ (Þingvellir) ที่มีเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไปจนถึงน้ำตกกิลฟอส (Gullfoss) ที่สวยงามเหนือการบรรยาย ในพื้นที่ใกล้เคียงนักท่องเที่ยวจะได้พบกับฟาร์มม้าไอซ์แลนด์ที่ขึ้นชื่อ ซึ่งสามารถสัมผัสการขี่ม้ารอบขอบฟ้ายามเย็นอันงดงามได้ นอกจากนี้ สกากาฟยอร์ðurยังเต็มไปด้วยโอกาสในการชิมอาหารพื้นเมืองที่สดใหม่ โดยเฉพาะอาหารทะเลที่เป็นแหล่งความภาคภูมิใจของไอซ์แลนด์ การมาเยือนสกากาฟยอร์ður ไม่เพียงแต่ทำให้คุณสัมผัสกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้จิตใจของคุณเบิกบานและเติมเต็มด้วยความทรงจำอันสวยงาม ที่รอคอยให้คุณมาสัมผัสอย่างแท้จริง!


ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรืออิตโทคคอร์ทูมิท (Ittoqqortoormiit) ในเกรนแลนด์ จะเป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มความฝันของคุณ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในฟยอร์ดที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก อย่างฟยอร์ดสกอร์สบีซันด์ (Scoresbysund) ซึ่งเต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติที่ยากจะหาค่าได้ เมื่อคุณเยี่ยมชมฟยอร์ดแห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับขนาดอันมหึมาของภูเขาน้ำแข็งที่ลอยตัวอย่างสง่างาม ส่วนที่ราบต่ำของภูเขามีผักและหญ้าที่เปล่งปลั่ง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่น่าหลงใหล เช่น มูสค็อก แฟร์รี่ และนกฮูกหิมะ นอกจากนี้ยังมีโอกาสพบกับวาฬ แมวน้ำ และปลาหน้ายาว ซึ่งทำให้การเดินทางของคุณมีสีสันและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น เชิญสัมผัสความงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งจากชุมชนชาวอิเนอุตโบราณ ที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ของอิตโทคคอร์ทูมิท ที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยอาร์กติกที่ไม่มีวันลืม!

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่ซ้ำใครและเต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ ท่าเรือที่ Ella Island ในเกาะกรีนแลนด์เป็นจุดหมายที่ต้องไม่พลาด ด้วยทำเลที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาน้ำแข็งสีฟ้าและทะเลที่สงบ เฉดสีของท้องฟ้าสลับกันอย่างงดงาม สร้างภาพลวงตาที่เหมือนกับความฝัน Ella Island มีชื่อเสียงในฐานะจุดเริ่มต้นของการสำรวจภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถล่องเรือชมความสวยงามของน้ำแข็งขนาดใหญ่และภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของฟยอร์ดที่มีชื่อเสียง เช่น Ilimmarfik ที่ให้คุณได้สัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เรายังสามารถสำรวจวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวกรีนแลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และประเพณีที่น่าสนใจ อาทิ การลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่แปลกใหม่ และเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตการตายของเหล่าชาวเอสกิโม Ella Island จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือธรรมดา หากแต่เป็นประตูสู่โลกใหม่ที่รอให้คุณได้สัมผัส มาสร้างความทรงจำอันงดงามไปพร้อมกันที่นี่กันเถอะ!
ท่าเรือ Nordfjord ในประเทศนอร์เวย์ เป็นภูมิภาคที่โดดเด่นด้วยความงดงามของธรรมชาติที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมอันหลากหลาย รอบๆ ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางของฟยอร์ดที่มีชื่อเสียง ที่สามารถมองเห็นภูเขาสูงตระหง่านและน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส เมื่อมาเยือน Nordfjord นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับประสบการณ์การเดินป่าผ่านเส้นทางธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งนำคุณเข้าไปสู่องค์ประกอบทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งน้ำตกที่ไหลเอื่อยและเสียงเพลงของธรรมชาติที่ยามเช้า นอกจากนี้ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของภูมิภาคนี้ยังมอบโอกาสในการโชว์ตัวถ้ำน้ำแข็ง และวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นดาวในยามค่ำคืนที่สดใส นอกจากการสำรวจธรรมชาติแล้ว คุณสามารถสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เหนียวแน่นได้ที่หมู่บ้านชุมชนท้องถิ่น ที่ซึ่งมีอาหารนอร์วีเจี้ยนเลิศรส และตลาดงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์ รวมทั้งการพบปะกับชาวนอร์วีเจี้ยน ที่พร้อมแบ่งปันเรื่องราวและประเพณีต่าง ๆ Nordfjord จึงไม่ใช่เพียงท่าเรือที่มีเสน่ห์ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และแรงบันดาลใจสำหรับนักเดินทางที่รักความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสแล้วในทริปหรูหราที่จะน่าจดจำตลอดไป!

เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) คือหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ให้บรรยากาศสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และภูเขาสูงตระหง่านที่งดงาม การเดินทางมาที่นี่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความมหัศจรรย์ ราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาดที่มีชีวิต จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกรนดาร์ฟยอร์ดูร์คือ "ภูเขาสการ์ฟตาเฟล" (Kirkjufell) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเฉพาะและได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ การขึ้นไปชมวิวจากยอดเขา คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังมีน้ำตก Kirchjufellsfoss ที่สวยงามท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม นอกจากธรรมชาติแล้ว เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถสัมผัสชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ดั้งเดิม ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและบ้านเรือนที่ถูกปรับปรุงให้สวยงาม ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ ณ เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่อันดับต้น ๆ ของประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!


ในประเทศไอซ์แลนด์ ท่าเรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไอซาฟยอร์ดูร์ (Isafjördur) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่น่าประทับใจตั้งอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของภูเขาหินสูงโปร่งทั้งสองข้าง แต่ยังตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ยื่นออกไปในน้ำฟยอร์ดสีดำลึกอีกด้วย การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสดใสและทันสมัยของเมืองเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวา พรั่งพร้อมไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติอร่อย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น ไอซาฟยอร์ดูร์ไม่เพียงแต่มีความสวยงามแบบธรรมชาติ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการผจญภัยกลางธรรมชาติที่งดงามของไอซ์แลนด์ ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือการเล่นสกี เดินป่า และกีฬาทางน้ำ ล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความดิบของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อย่าลืมสัมผัสกลิ่นอายแห่งการผจญภัยที่รอให้คุณค้นพบ ณ ท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนในการเดินทางของคุณในไอซ์แลนด์!

ท่าเรือ Fridtjof Nansen ในเกาะกรีนแลนด์คือจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในโลกที่เงียบสงบ น้ำแข็ง และวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือสำราญให้มาสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ท่าเรือที่ได้รับการตั้งชื่อตามนักสำรวจชาวนอร์เวย์ Fridtjof Nansen สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความสำคัญทางการสำรวจในภูมิภาคนี้ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่า Fridtjof Nansen คุณจะได้พบกับภูมิประเทศที่ตระการตา วิถีชีวิตของชาวเอสกิโมที่น่าทึ่ง และกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การเดินป่าไปยังธารน้ำแข็ง การชมวาฬ และการผจญภัยในการสำรวจภูเขาน้ำแข็งที่สูงตระหง่าน คุณจะมีโอกาสได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวและยังได้เยี่ยมชมแหล่งประมงที่มีชื่อเสียง เพื่อลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ ที่สามารถหาทานได้เฉพาะในพื้นที่นี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยที่มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนในธรรมชาติอันงดงาม ท่าเรือ Fridtjof Nansen คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่น่าจดจำ พร้อมที่จะเปิดโลกใหม่ให้คุณเข้าถึงเส้นทางที่ไม่รู้จักและความงามที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน

เมื่อคุณปรารถนาที่จะเดินทางสู่ความสวยงามอันลึกลับของกรีนแลนด์ ท่าเรือสกุลดูเก้น (Skjoldungen) คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ด้วยภูมิประเทศที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักบนชายฝั่งตะวันออกที่เต็มไปด้วยภูเขาที่สูงตระหง่าน ประดับด้วยหิมะขาวโพลนและหุบเขาที่สลักจากน้ำแข็ง ทิวทัศน์อันชวนตะลึงนี้จะสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ที่พื้นน้ำของฟยอร์ดรูปตัว U คุณจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็ง Thrym ที่ค่อยๆ ถอยกลับและท้าทายธรรมชาติ นอกจากนี้ คุณยังมีโอกาสพบกับวาฬที่แหวกว่ายในน้ำที่ใสสะอาด สร้างสีสันให้กับการเดินทางที่เหนือจินตนาการ ไม่น่าแปลกใจที่สกุลดูเก้นกลายเป็นสวรรค์สำหรับนักผจญภัยและผู้รักธรรมชาติ ความงามที่ดิบและไม่เหมือนใครในพื้นที่นี้ ชวนให้คุณตกหลุมรักกับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดสายตา แต่ยังสัมผัสได้ถึงหัวใจของธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์และสวยงามอย่างแท้จริง ท่องเที่ยวสู่สกุลดูเก้น กับความสง่างามของกรีนแลนด์ รอให้คุณสัมผัสอยู่หรือไม่?

เมื่อพูดถึงการเดินทางที่ประทับใจในทะเลที่สวยงามของเกาะกรีนแลนด์ ท่าเรือ Prince Christian Sound เป็นหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด ดินแดนที่สื่อถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ห่างไกล จุดเชื่อมระหว่างทะเลลาบราดอร์กับทะเลอิรมิงเจอร์นี้มีความยาวถึง 100 กิโลเมตร และบางจุดแคบเพียง 500 เมตร นับเป็นฟยอร์ดที่มีแต่ความงดงามตระการตา ท่ามกลางทิวทัศน์ที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและหน้าผาที่สูงตระหง่าน คุณจะรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปสู่ยุคไวกิ้ง โดยมีน้ำแข็งลอยอยู่แสนสงบที่บ่งบอกถึงอายุขัยของธรรมชาติ และวิวทิวทัศน์อันน่ารักแห่งนี้จะเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณให้มีความประทับใจมากยิ่งขึ้น การเยี่ยมชม Prince Christian Sound จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความเงียบและความสันโดษที่คุณไม่เคยพบเจอมาก่อน แนะนำให้สวมเสื้อผ้าอุ่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการชมวิวที่น่าอัศจรรย์นี้ ที่ซึ่งทุกวินาทีกับธรรมชาติจะอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป ชีวิตสมัยใหม่จะหายไปและคุณจะเชื่อมต่อกับธรรมชาติโดยแท้จริงในมุมมองที่หาไม่ได้จากที่อื่น
การเดินทางที่ท่านไม่ควรพลาดในแผ่นดินที่เก่าแก่และงดงามแห่งนี้คือ ท่าเรือเฮอริยอล์ฟส์เนส (Herjolfsnes) ในเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นประตูสู่ธรรมชาติที่น่าหลงใหลและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ นอกจากท่าเรือที่เป็นจุดแวะพักบนเส้นทางของเรือสำราญแล้ว ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและทิวทัศน์ที่น่าพิศวงรอคอยให้ท่านได้สำรวจ จากเฮอริยอล์ฟส์เนส นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงแนวชายฝั่งที่ราบเรียบและหอเก็บของแองโกโร่ที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งเปรียบเสมือนปราการศักดิ์สิทธิ์แห่งยุคกลางของชาวไวกิ้ง ท่านจะได้สัมผัสกับเรื่องราวที่ถูกซ่อนอยู่ในผืนดินแห่งนี้ รวมถึงการค้นพบชิ้นส่วนของหนังสือที่เก่าแก่และอากาศที่บริสุทธิ์ทุกลมหายใจ ยิ่งไปกว่านั้น การสำรวจเสน่ห์ของหมู่บ้านท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมของชาวกรีนแลนด์ จะทำให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่อิ่มเอมเต็มที่จากการเรียนรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ของพวกเขา สัมผัสความสงบและความมหัศจรรย์ในแต่ละมุมมองที่ท่าเรือเฮอริยอล์ฟส์เนส มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล

นอกเหนือจากความหนาวเย็นสะท้านของเทือกเขาและอาณาเขตที่ยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง Nuuk หรือที่รู้จักกันในนาม “คาบเกี่ยว” เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ยาวนานของกรีนแลนด์ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย สถานที่สำคัญได้แก่ บ้านของฮานส์ เอเกเด ผู้เผยแพร่ศาสนาหนึ่งในผู้ก่อตั้งเมือง และรัฐสภา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับโบสถ์แห่งพระผู้ช่วยให้รอด อวดโฉมความเรียบง่ายแต่สง่างาม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรีนแลนด์ ที่จัดแสดงชุดพื้นเมืองที่น่าทึ่ง รวมถึงมัมมี่ Qilakitsoq ที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนี้ Katuaq Cultural Center อันมีรูปทรงที่ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากแสงออโรร่า ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมวัฒนธรรมที่สำคัญของเมือง พร้อมรองรับผู้คนได้กว่า 10% ของประชากร Nuuk ท่าจอดเรือใน Nuuk ไม่เพียงเป็นจุดแวะพักผ่อนอันสงบสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแผ่นดินที่มีชีวิตชีวาของกรีนแลนด์ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ยาวนาน พร้อมทั้งสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ!

เอเวกิดสฟยอร์เดน (Evighedsfjorden) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวในกรีนแลนด์ ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดจอดเรือสำราญที่สำคัญแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ช่วยให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลในความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเอสกิโม ท่าเรือที่ตั้งอยู่ในเฟยร์เวสตน์ (Frederiksdal) นี้ เหล่าผู้ที่มาที่นี่จะได้ตื่นตาตื่นใจกับภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของแนวหินและธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งวิวทิวทัศน์ยิ่งงดงามราวกับภาพฝัน สำหรับกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินได้ในเอเวกิดสฟยอร์เดน เริ่มต้นจากการล่องเรือไปตามฟยอร์ด เพื่อสัมผัสกับความเงียบสงบและบรรยากาศอันบริสุทธิ์ของทะเลเหนือ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พบเจอกับสัตว์ทะเลที่สวยงาม เช่น วาฬและนกทะเลต่างๆ วัฒนธรรมของชาวกรีนแลนด์ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มข้นในการเดินทาง เช่น การรับประทานอาหารพื้นเมืองที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติของทะเลเหนือ เอเวกิดสฟยอร์เดน เป็นจุดหมายปลายทางที่สร้างแรงบันดาลใจและทำให้ความฝันในการเดินทางของคุณเป็นจริง ด้วยอะดรีนาลีนที่หลั่งไหลและประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนในอ้อมกอดของธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของกรีนแลนด์

ยินดีต้อนรับสู่ท่าเรือ Disko Bay ในกรีนแลนด์ จุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยความงามและความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและประทับใจอย่างยิ่ง Disko Bay ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของกรีนแลนด์ เป็นพื้นที่ที่มีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ภูเขาหิมะที่สูงตระหง่านจนถึงน้ำทะเลที่ใสสะอาด ซึ่งมีภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการชมธารน้ำแข็ง ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับความสงบและสวยงามของธรรมชาติเปล่งประกายด้วยสีสันอันน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากการชมทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว คุณยังสามารถสนุกกับกิจกรรมอันน่าตื่นเต้น เช่น การเดินเขา แคมป์ปิ้ง หรือการล่องเรือชมหมีขั้วโลก หากคุณมีโอกาสทะเลาะกับชาวบ้านที่มีชีวิตเร่าร้อน คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชนเผ่าอินูอิตและพิธีกรรมดั้งเดิมของพวกเขา ซึ่งเป็นความทรงจำที่ประทับใจไม่รู้ลืม Disko Bay เป็นสถานที่ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่มีความฝันในการเดินทางและสัมผัสโลกใหม่ ๆ ได้อย่างแท้จริง ท่านจะได้พบกับความงามที่ซ่อนเร้นและความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติจากดินแดนที่ห่างไกลนี้ ด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจและประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม จงเดินทางไปกับเราและค้นพบโลกใบใหม่ที่รอคุณอยู่!

สนุกไปกับการเดินทางสู่ Ilulissat หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แหล่งกำเนิดของภูเขาน้ำแข็ง” ภายในฟยอร์ดที่งดงามแห่งนี้ ผลผลิตน้ำแข็งถึง 20 ล้านตันต่อวัน ทำให้สถานที่แห่งนี้นับเป็นหนึ่งในมรดกธรรมชาติที่สำคัญของกรีนแลนด์ โดยคำว่า “Ilulissat” ในภาษาคาลาลลิซุตแปลว่า "ภูเขาน้ำแข็ง" เมือง Ilulissat เป็นเมืองที่มีความสงบสุข มีประชากรประมาณ 4,500 คน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามในกรีนแลนด์ สภาพอากาศที่นี่มักจะเย็นสบายเนื่องจากความใกล้ชิดกับฟยอร์ด ที่นี่ยังมีสุนัขลากเลื่อนอาศัยอยู่แทบไม่ต่างจากจำนวนคน ทำให้บรรยากาศของเมืองเต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่ในบ้านเดิมของ Knud Rasmussen นักสำรวจที่มีชื่อเสียง อีกทั้งการเดินทางล่องเรือไปชมทัศนียภาพอันตระการตาของภูเขาน้ำแข็งสร้างความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ณ Ilulissat หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หลงใหลในกรีนแลนด์ที่คุณต้องไม่พลาด!

ท่าเรือ Kangerlussuaq Havn ตั้งอยู่ในใจกลางความมหัศจรรย์ของกรีนแลนด์ มีความหมายว่า "ฟยอร์ดใหญ่" ในภาษาคาเลลลิสซุต สถานที่นี้เป็นชุมชนขนาดเล็กประมาณ 500 คน และเป็นจุดตั้งอยู่บนที่ราบที่ปลายฟยอร์ดที่มีชื่อเดียวกัน Kangerlussuaq เป็นที่ตั้งของสนามบินเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในกรีนแลนด์ ส่งผลให้เศรษฐกิจของที่นี่พึ่งพาการเดินทางทางอากาศและการท่องเที่ยวเป็นหลัก การเดินทางมาที่นี่จะพาคุณไปสู่การค้นพบธรรมชาติอันเต็มไปด้วยความหลากหลาย เช่น ฝูงมอสส์อ็อกซ์ กวางคาริบู และนก Gyrfalcon ที่อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่หลากหลายรอบๆ ท่าเรือ ด้วยประสบการณ์ที่หลากหลาย Kangerlussuaq มอบโอกาสในการสำรวจความงามอันรอการค้นพบของอาร์กติก ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านภูเขาหรือการสำรวจฟยอร์ดที่พาไปสู่อุโมงค์ของธารน้ำแข็งที่งดงาม ให้ Kangerlussuaq เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในดินแดนแห่งน้ำแข็งและภูเขาที่ไม่เหมือนใคร ที่ซึ่งความงามของธรรมชาติจะทำให้หัวใจคุณเต้นแรงอย่างแน่นอน!

ซิซิมิอุท (Sisimiut) คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่มีจิตวิญญาณการผจญภัย ตั้งอยู่ทางเหนือของวงกลมอาร์กติก ประเทศกรีนแลนด์ ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือที่ปลอดภัยจากน้ำแข็งในฤดูหนาวและเป็นเมืองที่มีหิมะและน้ำแข็งหนาแน่นสำหรับการนั่งเลื่อนสุนัขในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ เมืองซิซิมิอุทมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,500 ปี ทำให้ที่นี่เป็นจุดสัมผัสของวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เมืองซิซิมิอุทไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมของกรีนแลนด์ตอนเหนือ แต่ยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้ การทำประมงเชิงพาณิชย์เป็นกิจกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับเมือง นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังสามารถได้สัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น การเดินป่าในธรรมชาติอันสวยงาม การชมสัตว์ป่า และการสัมผัสวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมือง หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ซิซิมิอุทคือที่ที่คุณต้องมาเยือน โดยคุณจะได้สัมผัสกับความงามของอาร์กติกและความน่าสนใจของวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของกรีนแลนด์อย่างแท้จริง

สนุกไปกับการเดินทางสู่ Ilulissat หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แหล่งกำเนิดของภูเขาน้ำแข็ง” ภายในฟยอร์ดที่งดงามแห่งนี้ ผลผลิตน้ำแข็งถึง 20 ล้านตันต่อวัน ทำให้สถานที่แห่งนี้นับเป็นหนึ่งในมรดกธรรมชาติที่สำคัญของกรีนแลนด์ โดยคำว่า “Ilulissat” ในภาษาคาลาลลิซุตแปลว่า "ภูเขาน้ำแข็ง" เมือง Ilulissat เป็นเมืองที่มีความสงบสุข มีประชากรประมาณ 4,500 คน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามในกรีนแลนด์ สภาพอากาศที่นี่มักจะเย็นสบายเนื่องจากความใกล้ชิดกับฟยอร์ด ที่นี่ยังมีสุนัขลากเลื่อนอาศัยอยู่แทบไม่ต่างจากจำนวนคน ทำให้บรรยากาศของเมืองเต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่ในบ้านเดิมของ Knud Rasmussen นักสำรวจที่มีชื่อเสียง อีกทั้งการเดินทางล่องเรือไปชมทัศนียภาพอันตระการตาของภูเขาน้ำแข็งสร้างความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ณ Ilulissat หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หลงใหลในกรีนแลนด์ที่คุณต้องไม่พลาด!


เอเวกิดสฟยอร์เดน (Evighedsfjorden) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวในกรีนแลนด์ ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดจอดเรือสำราญที่สำคัญแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ช่วยให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลในความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเอสกิโม ท่าเรือที่ตั้งอยู่ในเฟยร์เวสตน์ (Frederiksdal) นี้ เหล่าผู้ที่มาที่นี่จะได้ตื่นตาตื่นใจกับภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของแนวหินและธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งวิวทิวทัศน์ยิ่งงดงามราวกับภาพฝัน สำหรับกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินได้ในเอเวกิดสฟยอร์เดน เริ่มต้นจากการล่องเรือไปตามฟยอร์ด เพื่อสัมผัสกับความเงียบสงบและบรรยากาศอันบริสุทธิ์ของทะเลเหนือ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พบเจอกับสัตว์ทะเลที่สวยงาม เช่น วาฬและนกทะเลต่างๆ วัฒนธรรมของชาวกรีนแลนด์ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มข้นในการเดินทาง เช่น การรับประทานอาหารพื้นเมืองที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติของทะเลเหนือ เอเวกิดสฟยอร์เดน เป็นจุดหมายปลายทางที่สร้างแรงบันดาลใจและทำให้ความฝันในการเดินทางของคุณเป็นจริง ด้วยอะดรีนาลีนที่หลั่งไหลและประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนในอ้อมกอดของธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของกรีนแลนด์
อิคาลูอิต (Iqaluit) เป็นเมืองหลวงของดินแดนใหม่ล่าสุดของแคนาดา นูนาเวต (Nunavut) ซึ่งคำว่า "นูนาเวต" ภาษาอินอกทิต (Inuktitut) แปลว่า "ดินแดนของเรา" เมืองตั้งอยู่ที่ปากอ่าวฟรอเบอเชอร์ (Frobisher Bay) ซึ่งเชื่อมต่อกับมหาสมุทรแอตแลนติกทางเหนือและขยายเข้าสู่เกาะบาฟฟิน (Baffin Island) แห่งนี้ อ่าวฟรอเบอเชอร์มีความยาวจนเคยถูกมองว่าเป็นประตูเข้าสู่เส้นทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในอิคาลูอิต นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นูนาแทตซูนาคูติงกิท (Nunatta Sunakkutaangit Museum) ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะของชาวเอสกิโม รวมถึงสิ่งเก็บเกี่ยวทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า และนิทรรศการงานพิมพ์ท้องถิ่นที่น่าสนใจ ขายเป็นของที่ระลึกในร้านของพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ อาคารที่ตั้งสภานูนาเวต (Nunavut Legislative Assembly Building) ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น การเยือนอิคาลูอิตจะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ที่จะทำให้คุณสัมผัสความงดงามของวัฒนธรรมอันเข้มข้นและวิถีชีวิตของชาวแคนาดาในมหานครที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ อย่าพลาดโอกาสในการสำรวจดินแดนที่ยังคงความบริสุทธิ์นี้เพื่อสร้างความทรงจำที่ไม่ซ้ำแบบใครในทุกๆ การเดินทางค่ะ
ท่าเรือ Monumental Island ในช่องแคบบรรยากาศของ Davis Strait ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลในเขต Nunavut ของประเทศแคนาดา เกาะนี้ได้รับการตั้งชื่อตาม Sir John Franklin นักสำรวจขั้วโลกที่อุทิศตนในการค้นหา Northwest Passage จุดเด่นของเกาะนี้คือความงดงามของธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ เมื่อเดินทางมาถึง Monumental Island นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่น่าทึ่งของทะเลอาร์กติก เรือสำราญที่จอดเทียบท่าจะพานักเดินทางไปสู่ชายฝั่งที่เต็มไปด้วยนก Black Guillemots ที่กำลังดำน้ำหาปลาอาร์กติกโค้ดและ capelin นกเหล่านี้จะหิ้วปลาเล็กๆ กลับไปยังรังอย่างทุ่มเท หรืออีกหนึ่งความตื่นเต้น สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการมองเห็นกลุ่มแมวน้ำที่มีอวัยวะฟันเขี้ยวขนาดใหญ่กำลังแสดงอยู่ตามชายฝั่ง แต่สิ่งที่ทำให้ Monumental Island เป็นที่จดจำมากที่สุดคือความเป็นไปได้ในการเห็นหมีขั้วโลกที่น่าเกรงขาม ยืนอยู่บนพื้นหินดำซึ่งสร้างความตัดกันอย่างสวยงามกับขนสีขาวของมัน สถานที่แห่งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในโลกแห่งความงดงามที่ยากจะหาได้จากที่ไหนอีก
ท่าเรือเกรซี่สวยงาม Lady Franklin Island ใน Nunavut เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความลึกลับ ตั้งอยู่ที่ทางเข้าของ Cumberland Sound ปลายแหลม Hall Peninsula บนเกาะ Baffin เกาะนี้ถูกตั้งชื่อตามภรรยาของเซอร์จอห์น แฟรงคลิน นักสำรวจขั้วโลกที่มีชื่อเสียง ซึ่งพยายามค้นหาทางผ่านที่เหนือที่สุดของโลก ผู้ที่ได้เยือน Lady Franklin Island จะพบกับความงดงามทางธรณีวิทยาที่น่าทึ่ง โดยมีหน้าผาสูงชันที่ประกอบไปด้วยหินอาร์เคียน ซึ่งถือว่าเป็นหินที่เก่าแก่ที่สุดในแคนาดา น้ำรอบ ๆ เกาะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นนกทะเลหลายสายพันธุ์ เป็ด แมวน้ำ และแม้แต่แมวน้ำดุ๊กดิ๊ก สุดพิเศษคือโอกาสในการพบ Puffins แอตแลนติก และนก Sabine’s Gull ที่หายาก การเยี่ยมชมท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้เห็นความงามของธรรมชาติ แต่ยังเป็นโอกาสในการสัมผัสกับโลกอันสงบสุขของธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรบกวน ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเดินทางที่ปรารถนาจะค้นพบความสวยงามที่ไม่มีที่สิ้นสุดในแคนาดา แน่นอนว่า Lady Franklin Island จะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม.
ท่าเรือที่ Lower Savage Islands ในเขต Nunavut ประเทศแคนาดา เป็นสถานที่ที่มีความงดงามธรรมชาติอย่างแท้จริง สัมผัสความสงบและความสวยงามของทะเลเหนือ ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลที่คงความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เป็นจุดที่เรือสำราญแวะจอด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่ตื่นตาตื่นใจจากภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่กลางน้ำใส และความหลากหลายของสัตว์ทะเลซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมอันบริสุทธิ์ นอกจากการสำรวจท่าเรือ Lower Savage Islands แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมอันล้ำค่าและประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวเอสกิโม ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองในพื้นที่ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ โดยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การตกปลา การเดินป่า หรือการเข้าชมศิลปะพื้นบ้านที่สร้างสรรค์จากวัสดุธรรมชาติ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางอันน่าตื่นเต้นไปยัง Lower Savage Islands ซึ่งจะทำให้คุณประทับใจในความงามของธรรมชาติ และสร้างประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมในดินแดนแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในความลึกลับของขั้วโลกเหนือและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าค้นหา
ท่าเรือเคปดอร์เซ็ต (Cape Dorset) ตั้งอยู่บนเกาะดอร์เซ็ตในเขตนูนาวุต ประเทศแคนาดา เป็นหมู่บ้านของชนเผ่าอินูอิตที่มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมและศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งใต้ของเกาะบัฟฟิน หมู่บ้านนี้ตั้งชื่อตามภูเขาสูง 800 ฟุตที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ โดยมีชื่อดั้งเดิมว่า คิงไกท์ (Kinngait) ที่หมายถึง "ภูเขาสูง" เคปดอร์เซ็ตนับเป็นสวรรค์ของผู้ที่รักธรรมชาติ ด้วยทิวทัศน์อันงดงามที่มีสัตว์ป่าต่าง ๆ เช่น แกะเรนเดียร์ นกทะเล วาฬ และแมวน้ำ แหล่งโบราณคดีที่สำคัญที่สุดในพื้นที่นี้ยังเป็นที่ที่ชาวโบราณชนเผ่าทูลมีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนานถึงสามพันปี นอกจากนี้ ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมื่อกัปตันลุค ฟ็อกซ์ เป็นชาวยุโรปคนแรกที่มาเยือนในปี 1631 ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อท่าเรือเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้สนับสนุนของเขา ในปี 1913 บริษัทฮัดสันส์เบย์ได้สร้างโพสต์การค้า แต่กลับกลายเป็นว่าศิลปะในชุมชนเคปดอร์เซ็ตกลับเฟื่องฟู เพราะตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา ชุมชนนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งศิลปะอินูอิต" โดยมากกว่าร้อยละ 20 ของประชาชนในพื้นที่ทำงานในวงการศิลปะ การเดินทางมาที่นี่จึงไม่เพียงแต่ได้สัมผัสธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างเต็มที่
มีความยินดีที่จะพานักเดินทางทุกท่านสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหล ณ ท่าเรือ Digges Island ใน Nunavut ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่มีความเฉพาะตัวในภูมิภาคอาร์กติกที่ไม่เหมือนใคร Digges Island ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา เป็นสถานที่ที่คุณจะได้พบกับความงดงามของธรรมชาติที่ยังคงอยู่ในสภาพดิบ เงียบสงบ และมีเสน่ห์เหนือกาลเวลา ท่าเรือแห่งนี้จะเป็นประตูสู่การสำรวจภูมิทัศน์อันงดงาม พื้นที่นี้โดดเด่นด้วยภูเขาน้ำแข็งที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับทัศนียภาพอันกว้างใหญ่ และนิยมเป็นจุดสำหรับการชมประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของชาวอินูอิต นอกจากการชมวิวทะเลและเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง อาทิเช่น การเดินเล่นบนชายหาดที่มีสันเขาโอบล้อม คุณยังสามารถสัมผัสกับผ่านการล่องเรือไปยังสถานที่หายากที่แห่งนี้ ทั้งนี้ผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริงกับสัตว์ป่าและนกอาร์กติก หรือลงมือทำกิจกรรมที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น เมื่อไปเยือน Digges Island คุณจะได้พบกับความสงบสุขในธรรมชาติ และค้นพบความงามที่แท้จริงของชีวิตในภูมิภาคอาร์กติก รอให้คุณมาเป็นเจ้าของความทรงจำที่น่าประทับใจในดินแดนที่สง่างามนี้!
ท่าเรือ Cap Wolstenholme เป็นหนึ่งในจุดหมายที่น่าสนใจในแคนาดา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตที่ห่างไกลของควิเบก รายล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามที่เต็มไปด้วยความงดงามของภูมิทัศน์ธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร สำหรับผู้ที่หลงใหลในการสำรวจ ท่าเรือแห่งนี้เป็นประตูสู่การผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม เมื่อเรือสำราญจอดลอยอยู่ที่ท่าเรือ คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ของน้ำทะเลและภูเขา โดยมีท้องฟ้าสีครามตัดกับคลื่นทะเล ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสชีวิตท้องถิ่น คุณสามารถเดินทางไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย รวมถึงการลองชิมอาหารท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยรสชาติ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น การเดินป่า ตกปลาและการสำรวจสัตว์ป่า ในพื้นที่เหนือที่เป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดผู้ที่มีใจรักการผจญภัยมากมาย ไม่ว่าคุณจะมาที่ Cap Wolstenholme เพื่อพักผ่อนหรือค้นหาประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ท่าเรือแห่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ของแคนาดา นำคุณเข้าใกล้กับศิลปะการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ในมุมที่คุณไม่ควรพลาด!
เอริก โคฟ (Erik Cove) เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สำคัญในประเทศแคนาดา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองที่มีทิวทัศน์งดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดเชื่อมโยงการเดินทางอันยอดเยี่ยมสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจพื้นที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย เมื่อเรือสำราญเทียบท่า ณ เอริก โคฟ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่คุณภาพสวยงาม เวียงวังที่น่าหลงใหล และกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นหลากหลาย เช่น การสำรวจอุทยานแห่งชาติ ที่มีเส้นทางเดินป่าที่นำพาคุณไปสู่จุดชมวิวที่ดีที่สุด หรือจะเป็นการเดินเล่นในตลาดท้องถิ่นที่มีอารยธรรมและอาหารที่น่าลิ้มลอง ไม่เพียงแต่ธรรมชาติ นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์ โดยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และศูนย์วัฒนธรรม ที่บอกเล่าเรื่องราวของชุมชนในท้องถิ่น ทั้งนี้ การเดินทาง ณ เอริก โคฟ จะเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความสุขและแรงบันดาลใจ ขอเชิญคุณมาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้ และค้นพบเสน่ห์ของแคนาดาได้ด้วยตัวคุณเอง!

ท่าเรือ SAGLEK FJORD ใน Newfoundland and Labrador ประเทศแคนาดา เป็นจุดหมายที่เหมาะแก่ผู้ที่หลงใหลในการสำรวจธรรมชาติและความงามของภูมิประเทศที่ยังบริสุทธิ์ การเข้ามาที่ท่าเรือสลักเล็กนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับภูมิทัศน์อันตระการตาของฟยอร์ดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยภูเขาสูงชันและน้ำทะเลสีฟ้าครามสวยงาม สำหรับนักเดินทางที่ต้องการเข้าถึงประสบการณ์ที่เพียบพร้อมไปด้วยการผจญภัย Saglek Fjord มากกว่าการเป็นแค่ท่าเรือที่จอดเรือสำราญ ยังเป็นประตูสู่กิจกรรมหลากหลาย เช่น การเดินป่าในเส้นทางที่งดงามและการสำรวจสัตว์น้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงการชมวาฬและนกทะเลที่พากันมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ไม่ไกลจากท่าเรือยังมีโอกาสที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวอินูอิต (Inuit) ซึ่งเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่มีวิถีชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติ จากการเรียนรู้เรื่องราวและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ สรุปได้ว่า Saglek Fjord ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่หยุดพักที่สวยงาม หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลกอันบริสุทธิ์ซึ่งจะสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมให้กับผู้เดินทางทุกคน.
ริโกเล็ต (Rigolet) คือหนึ่งในท่าเรือที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบและเป็นเอกลักษณ์ในนิวฟันด์แลนด์และลาบราดอร์ ประเทศแคนาดา ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอ่าวแฮร์เบอร์ เป็นหมู่บ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองปัจจุบัน หากคุณมีโอกาสได้เดินทางมาที่นี่ จะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจฉากหลังอันน่าตื่นตาของอุทยานแห่งชาติเมอเจอรีเบย์ (Mushua). คุณสามารถเช่าเรือคายัคหรือลงเรือสำราญเพื่อล่องไปตามน้ำ เพื่อชื่นชมสัตว์น้ำที่มีชีวิตชีวาเช่น วาฬและนกน้ำที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ นอกจากนี้ ริโกเล็ตยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง รวมถึงศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความเชื่อของชนพื้นเมืองในภูมิภาคนี้ การเดินทางมาที่ริโกเล็ตจะทำให้คุณได้สัมผัสความสงบ ความสวยงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่รอคอยให้คุณมาสัมผัสและสร้างความทรงจำอันประทับใจในชีวิตของคุณ
ท่าเรือเซนต์แอนโธนี ตั้งอยู่ในภูมิภาคนิวฟันด์แลนด์และแล็บราดอร์ของแคนาดา เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และอารยธรรมทางทะเลที่น่าสนใจ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในอ่าวเซนต์แอนโธนี ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามของคลื่นทะเลและทิวเขาเขียวชอุ่ม เนื่องจากธรรมชาติบริสุทธิ์และเงียบสงบ จึงเป็นที่เรียกร้องสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย เมื่อเยือนท่าเรือนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจประวัติศาสตร์การทำประมงของพื้นที่ รวมถึงพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบแคนาดาของจอห์น คาบอต และเรื่องราวการเดินทางที่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ยังมีการเดินทางไปชมปลาวาฬที่อ่าวหรือการเดินเขาไปชมทิวทัศน์ที่งดงาม เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด การเดินทางมายังเซนต์แอนโธนีจะทำให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตอันสงบและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลของชาวแคนาดา พร้อมทั้งบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สร้างความทรงจำในวันหยุดที่น่าประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน ร่วมเดินทางกับเราสำหรับประสบการณ์สุดหรูในลักษณะเฉพาะของแคนาดา!

เซนต์จอห์นส์ (St. John's) ตั้งอยู่ในจังหวัดนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ของแคนาดา เป็นท่าเรือที่หลอมรวมประวัติศาสตร์และความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เมืองนี้มีประชากรในเขตเมืองประมาณ 200,000 คน และมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากอาคารสถาปัตยกรรมวิคตอเรียและบ้านแถวสีสันสดใสที่ตั้งอยู่เคียงคู่กับอาคารสำนักงานทันสมัย ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอังกฤษและไอริชผ่านเสียงเพลงพื้นบ้านและดนตรีร็อคที่บรรเลงในท้องถนน สถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างชายหาดกลุ่มเบย์ (Balong Bay) และอ่าวเซนต์จอห์น (St. John's Harbour) เปิดโอกาสให้คุณสำรวจประวัติศาสตร์ของการค้ามหาสมุทรซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาเกลือในยุคก่อน เซนต์จอห์นส์ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะและความบันเทิงอย่างไม่ขาดสาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมแกลเลอรีและร้านค้าหัตถกรรมท้องถิ่นได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ ความสงบเงียบและการใช้ชีวิตแบบช้าๆ ของเมืองนี้ ยิ่งทำให้เหล่านักเดินทางปรารถนาที่จะเข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและเป็นกันเองของเมืองนี้อย่างไม่รู้เบื่อ

ฮาลิแฟกซ์ (Halifax) เมืองหลวงแห่งโนวาสโกเชีย (Nova Scotia) คือจุดหมายปลายทางที่เพียงคุณก้าวเท้าเข้ามา จะรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันงดงามและความเป็นสมัยใหม่ เกือบตลอดทั้งปี คุณจะแวดล้อมไปด้วยเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างมีสไตล์ บาร์และร้านอาหารที่มีชื่อเสียง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย ฮาลิแฟกซ์ตั้งอยู่ระหว่างทิวทัศน์ทะเลอันสวยงามและท่าเรือธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือขนส่งจำนวนมาก รวมถึงเรือสำราญ เรือข้ามฟาก และเรือท่องเที่ยว นับเป็นสถานที่ที่ควรเยือนไปสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นอกจากนี้ จุดเด่นทางสถาปัตยกรรมสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันยาวนาน เมืองแห่งนี้เป็นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจจังหวัดแอตแลนติกที่สวยงาม และหากคุณไม่สะดวกเดินทางไปที่อื่นๆ ฮาลิแฟกซ์ก็นำเสนอประสบการณ์ที่ครบถ้วน ซึ่งทำให้คุณสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจโบราณสถาน หรือใช้เวลาเดินเล่นที่ยาวที่สุดในโลกริมท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะพลิกฟื้นความฝันในการเดินทางได้ที่นี่อย่างแน่นอน





















ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของถือเป็นความหรูหราที่เหนือระดับอย่างแท้จริง ขนาดกว้างถึง 195 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 9 ห้องนี้ให้คุณได้สัมผัสวิวที่ดีที่สุดจากบนเรือ พร้อมทั้งมีระเบียงส่วนตัวที่มีอ่างสปาและพื้นที่นั่งเล่นเพื่อความผ่อนคลาย ห้องนอนและห้องนั่งเล่นแยกออกจากกัน มีพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถรองรับแขกได้ถึงแปดคน ซึ่งจะทำให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่คอยดูแลทุกความต้องการของคุณ ห้องน้ำขนาดใหญ่มีการออกแบบเพื่อความผ่อนคลายโดยเฉพาะ พร้อมฝักบัวไอน้ำคู่และอ่างสปาบำบัดที่จะช่วยให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ คุณจะได้รับสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารและกิจกรรมที่น่าสนใจ อีกทั้งการขึ้นเรือและลงเรือจะมีการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเดินทาง ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของยังมาพร้อมกับพื้นที่ระเบียงที่มีที่นั่งอาบแดด และสามารถเปลี่ยนเป็นที่นอนสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง สินค้าภายในห้องมีบริการไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มอื่นๆ ตามความชอบของแขก พร้อมของว่างและขนมที่ถูกจัดส่งถึงห้อง มอบความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริงสำหรับการเดินทางอันหรูหราในครั้งนี้










สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท บนเรือสำราญ Scenic Eclipse ซึ่งตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าที่ 6 และ 8 ของเรือ สวีทที่งดงามเหล่านี้มีระเบียงโค้งที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการชมทัศนียภาพของสัตว์ป่าและภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง เมื่ออยู่ภายในสวีทขนาด 105-110 ตารางเมตร นี้ บรรยากาศของความหรูหราและสไตล์จะถูกยกระดับไปอีกขั้น สวีทนี้ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นแยกและห้องนอนที่มีการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมบริการบัตเลอร์ที่คอยจัดเตรียมเครื่องดื่มและอาหารในสวีทของคุณ มีสถานที่ให้พักผ่อนภายในห้องนั่งเล่นที่คุณสามารถอ่านอีบุ๊กจากห้องสมุดในสวีท ขณะที่ยังได้สัมผัสการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ภายในห้องนอนคุณยังสามารถเข้าถึงวิวด้านนอกผ่านหน้าต่างระเบียงที่สามารถลดลงได้ ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ห้องน้ำที่หรูหราในพานอรามาสวีทมีเครื่องอาบน้ำแบบหมอกมีสีสัน อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ และอ่างคู่พร้อมอุปกรณ์วีไอพี สำหรับความสะดวกสบายที่เหนือระดับ พิเศษยิ่งขึ้นคือการบริการด้านการจองและการเข้าถึงที่สะดวกสบายในร้านอาหารรวมถึงการเลือกกิจกรรมสำรวจที่สามารถทำได้ที่ท่าเรือ รองรับประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุด พร้อมด้วยระเบียงที่กว้างขวางและการบริการที่เป็นส่วนตัว สัมผัสความพิเศษในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท เพื่อการเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันหรูหรา














สปาสวีทของเราเป็นที่พักที่ให้ความหรูหราและความสงบสุขอย่างสูงสุด หลังจากวันที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น คุณจะได้กลับมาผ่อนคลายที่ห้องส่วนตัวของคุณ ซึ่งมีพื้นที่ขนาด 46-50 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 และ 9 ห้องนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นอนที่แยกต่างหากพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ชนิดสลัมเบอร์ที่ออกแบบมาอย่างดี มีพื้นที่นั่งเล่นและระเบียงส่วนตัวเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับวิวที่งดงาม ในพื้นที่สปา คุณสามารถสัมผัสความหรูหราของอ่างอาบน้ำที่ออกแบบโดย Philippe Starck หรืออ่างอาบน้ำทรงกลมที่มองเห็นจากระเบียงให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับสายลมทะเล พร้อมน้ำอุ่นที่เตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัวและแก้วแชมเปญในมือ เพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ระเบียงส่วนตัวของคุณเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการชมสัตว์ป่าหรือละลานตากับทิวทัศน์อันงดงาม ห้องพักยังมีบริการพิเศษมากมาย เช่น บัตเลอร์ส่วนตัว บริการซักรีดฟรี และบริการจัดสำรองโต๊ะอาหาร พร้อมทั้งระบบควบคุมอุณหภูมิที่ทันสมัย ทำให้คุณได้รับอากาศสดชื่นเต็มที่ สปาสวีท เป็นที่พักในฝันของนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความหรูหราและความสะดวกสบายในการเดินทางทางทะเล




ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงเป็นที่ซ่อนตัวส่วนตัวของคุณที่มีขนาดกว้างขวาง ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 5 ถึง 8 มีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู อาทิเช่น เตียงคิงไซส์นุ่มสบาย พร้อมเมนูหมอน เลานจ์สำหรับพักผ่อนหลังจากการสำรวจโลกใหม่ๆ ในแต่ละวัน คุณจะได้สัมผัสวิวที่งดงามจากระเบียงส่วนตัวที่เปิดออกด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงจากพื้นจดเพดาน ให้คุณได้ชมวิวทะเลและโลกใต้น้ำที่น่าประทับใจ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องประกอบด้วย ห้องน้ำส่วนตัวที่มีฝักบัวและอ่างล้างหน้า พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำสุดหรู เครื่องอบผม Dyson ระบบควบคุมอุณหภูมิและการระบายอากาศที่ทันสมัย เพื่อให้อากาศสดใหม่ 100% และความเงียบสงบสูงสุดตามมาตรฐานของสถาบัน Bureau Veritas นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัว บาร์ขนาดเล็กฟรีที่มีไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามที่คุณชอบ รวมถึงกาแฟ illy และชาสูตรพิเศษที่เติมเต็มทุกวัน สร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือกว่าให้กับคุณในทุกๆ ช่วงเวลา.









ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูที่กว้างขวางของเราได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบโดยมีประตูบานเลื่อนกระจกจากพื้นถึงเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงหรือเฉลียงส่วนตัว ให้คุณได้ผ่อนคลายในพื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหากพร้อมด้วยเครื่องดื่มที่คุณเลือก ขนาดห้องอยู่ระหว่าง 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 5 ถึง 8 ทุกห้องสวีทมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราที่สุด เช่น เตียงคิงไซส์ที่นุ่มสบาย, เมนูหมอน และพื้นที่นั่งเล่นที่ให้คุณได้พักผ่อนหลังจากวันแห่งการค้นพบ ดื่มด่ำกับการชมวิวจากหน้าต่างสู่โลกกว้าง ห้องสวีทที่กว้างขวางและออกแบบอย่างมีสไตล์นี้มีประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์ที่สวยงามงดงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ระเบียงหรือเฉลียงส่วนตัวของคุณคือสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายในขณะที่คุณสังเกตโลกใหม่ที่เคลื่อนที่ไป ห้องสวีทนี้ยังมาพร้อมกับบริการผู้ช่วยส่วนตัว, มินิบาร์ที่มีไวน์, แชมเปญ และสุราที่เติมให้ตรงตามความชอบของคุณ รวมถึงกาแฟอิลลี่และชาเฉพาะที่เติมให้ใหม่ทุกวัน, ระบบเสียง HDTV และลำโพง Bose® นอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้รับอากาศบริสุทธิ์ 100% และการป้องกันเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานเกรดของสังคมทางทะเล Bureau Veritas ครบครันด้วยบริการที่เหนือระดับเพื่อการพักผ่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด