
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse II
Scenic Ocean Cruises


เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

**อีตาลี: ท่าเรือที่สวยงามของคาปรี** เมื่อพูดถึงความงดงามของเกาะคาปรี เหนือสิ่งอื่นใดคือภูมิทัศน์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจนเป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยโรมัน ที่นี่คือสวรรค์บนดินที่มอบความประทับใจจากทิวทัศน์ของภูเขาที่ขรุขระ และทะเลที่มีถ้ำสวย อากาศดีตลอดทั้งปีช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเกาะแห่งนี้อย่างยิ่ง การเดินทางสู่คาปรีนั้นสามารถเริ่มต้นจากท่าเรือ Marina Grande ที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือข้ามฟากไปยัง Capri Town ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียง โดยมี "Piazzetta" เป็นใจกลางของเกาะ เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ที่เพียบพร้อมด้วยคาเฟ่และร้านค้าหรูที่พร้อมให้คุณสัมผัส สำหรับผู้ที่รักการสำรวจ ควรเยี่ยมชม Anacapri เมืองที่ตั้งอยู่สูงขึ้นซึ่งมี Monte Solaro ให้บริการ Chair Lift ขึ้นไปชมวิวที่งดงาม อีกทั้ง Blue Grotto ถ้ำสีน้ำเงินที่เป็นไฮไลท์ของการผจญภัยที่สามารถเข้าถึงได้จาก Marina Grande แต่โปรดทราบว่าการเข้าถึงถ้ำขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ คาปรียังมีร้านค้าที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงแบรนด์แฟชั่นดีไซเนอร์ และของที่ระลึก มีร้านอาหารกลางแจ้งและร้านอาหารชั้นนำหลายร้านที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดและพาสต้าอันเลื่องชื่อ มาสัมผัสการเดินทางสุดหรูและอิ่มเอมไปกับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมในคาปรี เมืองแห่งความรักและความงามที่คือสัญลักษณ์ของอิตาลี

เมื่อท่านมาถึงอามัลฟี เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเขียวชอุ่มของเทือกเขาลัตทารี และติดกับอ่าวซาเลโน ท่านจะรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าสู่อดีตที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะหนึ่งในมหาอำนาจทางการเดินเรือที่สำคัญที่สุดในอิตาลี อามัลฟีเคยเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐทางทะเล ที่คู่แข่งสำคัญของเจนัวและปิซาในศตวรรษที่ 11 และ 12 ท่าเรือที่เคยรองรับเรือรบยิ่งใหญ่แห่งอิตาลี ปัจจุบันเต็มไปด้วยเฟอร์รี่และเรือประมงสีฟ้า-ขาว ที่จอดเรียงรายอยู่ริมฝั่ง ขณะที่ถนนสายหลักมีร้านค้ามากมายและคาเฟ่ที่นำเสนอขนมหวานแบบดั้งเดิม ในแต่ละมุมของเมือง ท่านจะได้พบกับความงามของสวนมะนาวที่บานสะพรั่ง สะท้อนให้เห็นถึงการค้าอันรุ่งเรืองกับประเทศเลบานอน ตริโปลี และอัลจีเรีย นอกจากนี้ อามัลฟียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โบสถ์เก่าแก่และโรงงานผลิตกระดาษโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และพระราชวังที่ได้เปลี่ยนมาเป็นโรงแรมหรูหรา พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว พิสูจน์ให้เห็นว่าที่นี่ยังคงมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และความงามอันน่าหลงใหล โดยมีบรรยากาศของวันวานที่ส่งทอดมาถึงปัจจุบัน ทำให้ทุกการเดินทางที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่ารำลึกและคุ้มค่าต่อการสำรวจ.

อิตาลีคือแหล่งรวมความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล โดยเฉพาะที่ท่าเรือ Lipari ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะอัยโอลีที่มีชื่อเสียง ท่าเรือ Lipari เป็นประตูสู่การสำรวจและค้นพบความมหัศจรรย์ของเกาะอันตระการตา เต็มไปด้วยบ้านเรือนสีพาสเทลที่โดดเด่นสะดุดตา เมื่อเดินไปตามถนนในเมือง คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ของแหล่งผลิตไวน์และสวนที่งดงาม ในฝั่งเหนือของเกาะที่ชื่อ Acquacalda คุณจะได้พบกับทุ่งต้น Agave ป่าไม้ที่มีเอกลักษณ์ และสนุกไปกับการสำรวจเหมืองหินโป่งและหินอ obsidian ที่สะท้อนความเป็นอิตาลีในอดีต นอกจากนี้ ที่ San Calogero ทางฝั่งตะวันตก มีออนเซ็นและบ่อโคลนที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น ซากปราสาทจากศตวรรษที่ 16 และโบสถ์จากศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่บนที่สูง ทำให้ท่านสามารถมองเห็นวิวทะเลที่มีเสน่ห์ได้อย่างชัดเจน นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวจะต้องหลงรัก ลิปารีรอคอยการมาเยือนของคุณ เชิญร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์หรูหราในดินแดนแห่งนี้เถอะ!

ท่าเรือทาออร์มินา (Taormina) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคกลาง อีกทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ความงดงามของทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทะเลและภูเขาเอทนา (Mt. Etna) ที่มีปีกหิมะปกคลุม ทำให้ทาออร์มินากลายเป็นภาพมุมกว้างที่น่าทึ่ง ซึ่งดีที่สุดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ชาวกรีกจากนาคซอส (Naxos) ตั้งรกรากเมื่อศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ยิ่งไปกว่านั้น วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างของโกเธ่และดี. เอช. ลอเรนซ์ ก็ได้เขียนถึงความงามของที่นี่ ทำให้เมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน นอกจากถนนที่มีร้านค้าแบรนด์เนมเรียงรายแล้ว ทาออร์มินายังมีเส้นทางเดินเขาที่สวยงามที่เลาะเลียบไปตามเนินเขารอบๆ ซึ่งนำคุณไปสู่วิวที่หาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะการไต่ขึ้นไปยังคาสเตลโมล่า (Castelmola) เพื่อสัมผัสความเป็นอมตะของทัศนียภาพที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งนี้ เชิญสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจในทาออร์มินาและค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รอให้คุณมาเยือน!
ท่าเรือโปซซัลโล (Pozzallo) ตั้งอยู่ในภูมิภาคซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญที่นักเดินทางสามารถเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจในอิตาลีได้อย่างสะดวกสบาย ภายในท่าเรือซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศสดใสและการต้อนรับที่อบอุ่น นักท่องเที่ยวสามารถพบกับบริการเรือสำราญที่ไปยังจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นไม่ว่าจะเป็นมอลตาหรือเมืองอื่นในซิซิลี เมื่อออกสำรวจจากโปซซัลโล ไม่ควรพลาดที่จะแวะชมเมืองรอบ ๆ อาทิเช่น ริชชิโอเน (Ragusa) ที่มีสถาปัตยกรรมบาร์เรกและโบสถ์ที่สวยงาม หรือเมืองนอตโต (Noto) ที่มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค ที่แห่งนี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้น ซิซิลียังเต็มไปด้วยธรรมชาติที่น่าหลงใหล อาทิเช่น อุทยานแห่งชาติเอตนาที่มีภูเขาไฟเอ็ตนาที่ยิ่งใหญ่ หรือชายหาดที่สวยงามตามแนวชายฝั่ง หากคุณกำลังมองหาความสงบหรือความตื่นเต้น ท่าเรือโปซซัลโลพร้อมที่จะนำคุณไปสู่การผจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุดในอิตาลี ประเทศที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์รอคอยคุณอยู่!

ท่าเรือมีกอ (Mgarr) ที่เกาะโกโซ (Gozo) ประเทศมอลตา เป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามตามธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ด้วยทัศนียภาพของอ่าวสีฟ้าใสและโขดหินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นี่คือประตูสู่การสำรวจอัญมณีซ่อนเร้นของเกาะโกโซ จากท่าเรือมีกอ คุณสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น คณะเทอน (Azure Window) ซึ่งเป็นชิ้นงานธรรมชาติที่โดดเด่น หรือจะเป็นไซต์ประวัติศาสตร์เช่น วัดจิจิการ์ (Ggantija Temples) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก นอกจากนี้ เกาะโกโซยังมีชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดลมู (Ramla Bay) ที่มีทรายแดงและน้ำทะเลใสสะอาด การเดินทางมายังท่าเรือมีกอ ยังมอบโอกาสในการตื่นตาตื่นใจไปกับอาหารสดใหม่ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ปรุงสดใหม่จากท้องทะเลมอลตา สร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เงียบสงบและหรูหราให้แก่ผู้มาเยือน ที่มีกอ เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รับรองว่าทุกท่านจะได้สัมผัสกับความทรงจำที่แสนพิเศษและคุ้มค่าที่สุดในการเดินทางมาสำรวจเกาะอโดนที่จะพาคุณหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน สร้างแรงบันดาลใจและผลักดันให้คุณมีความฝันในการเดินทางที่ไม่สิ้นสุด

วัลเลตตา เมืองหลวงสุดหรูของประเทศมอลตา นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการเดินทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีตของพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการสีครีมอันงดงาม จะทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อก้าวเข้าสู่อาณาเขตแห่งนี้ การสำรวจเมืองวัลเลตตานั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินสำรวจถนนสายหลักอย่าง Triq Repubblika ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก พร้อมด้วย Triq Mercante ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเริ่มต้นการเดินทางในวัลเลตตาคือ City Gate ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมือง ใช้เวลาพักผ่อนที่ออฟฟิศข้อมูลนักท่องเที่ยวบน Triq Mercante เพื่อรับแผนที่และข้อมูลสำคัญก่อนการเดินทาง ต่อด้วยการเลือกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และสถานที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้ง วัลเลตตาไม่เพียงแต่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่รอคอยให้คุณเดินทางมาสัมผัสและสร้างความทรงจำใหม่ในทุกย่างก้าว

เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เมืองซีราคูซา หรือที่รู้จักกันในชื่อ Syracuse คุณจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลาไปสู่ยุครุ่งเรืองของอารยธรรมตะวันตก ที่นี่มีเสน่ห์วัยย้อนจากอดีตที่น่าหลงใหล เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 734 ก่อนคริสต์ศักราช โดยชาวกรีกจากเมืองโครินธ์ และเติบโตกลายเป็นเมืองรัฐที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในตะวันตก ซีราคูซายังมีประวัติศาสตร์การทหารที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะในสงครามกับกรุงเอเธนส์ ปัจจุบัน ซีราคูซามีมรดกทางศิลปะบาโรกที่งดงาม รวมถึงโบราณสถานของกรีกและโรมันที่ยังคงหลงเหลือให้เห็น เช่น ท่า Duomo ที่มีชื่อเสียงซึ่งเล่าเรื่องราวของเมืองในหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจอย่างเพลิดเพลิน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ พื้นที่ทางโบราณคดี (Parco Archeologico) และเกาะออร์ตีกา (Ortygia) ที่เชื่อมโยงกับแผ่นดินด้วยสะพานขนาดเล็ก ในขณะที่สำรวจแต่ละมุมของซีราคูซา คุณจะพบกับร้านค้าและคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเลิศหรู ชิมอาหารทะเลสดใหม่ที่นี่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม และไม่ต้องสงสัย ซีราคูซาคือจุดหมายปลายทางที่จะสร้างความทรงจำที่คุณจะไม่อาจลืมได้เมื่อออกเดินทางสู่ความงามของอิตาลี

มอเนมวาเซีย (Monemvasia) คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งกรีซ ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเพโลพอนนีส โดยมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เมื่อชาวกรีกที่หนีการโจมตีของชาวสลาฟมาพบที่นี่เป็นที่หลบภัย ในช่วงเวลาที่รุ่งเรือง มอเนมวาเซียได้ควบคุมการเดินเรือระหว่างแผ่นดินเลบานอนและชายฝั่งยุโรป เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงได้ขยายไปตามแนวลาดชันของยอดเขาสูงถึง 300 เมตร และล้อมรอบด้วยทะเล ในยุคหนึ่ง เมืองนี้เคยเป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ แต่ประชาชนเริ่มย้ายไปยังแผ่นดินใหญ่ ทำให้ประชากรลดน้อยลง จนกระทั่งมีโครงการฟื้นฟูเพื่อรักษามรดกของมอเนมวาเซีย เมืองเก่าเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อขึ้นไปบนเมืองสูง ยังมีซากป้อมปราการโบราณและโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) ให้ได้สำรวจ พร้อมทัศนียภาพที่งดงามของภูมิประเทศโดยรอบ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของกรีซ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของทะเลและภูเขาในดินแดนแห่งเทพนิยาย.

ที่ท่าเรือนาฟพลิโอน (Náfplion) ประเทศกรีซ เมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “โอเรีย” หรือ “สวยงาม” เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่โอบล้อมอ่าวอาร์กอส ตัวเมืองเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสถาปัตยกรรมแบบกรีก เวเนเชียน และตุรกี ถนนเล็ก ๆ ที่บางครั้งเปิดให้เดินขึ้นลงเส้นทางที่มีบันไดหิน ล้วนเสริมสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์ในเมืองนี้ หากคุณต้องการสัมผัสความงามของนาฟพลิโอน ควรใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในการสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน คุณอาจพบว่าการใช้เวลาหลายวันหรือสัปดาห์ที่นี่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสำรวจสถานที่โบราณโดยรอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ ปราสาทปาลามิดี (Palamidi) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมือง เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในสมัยเวเนเชียนที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 การขึ้นไปชมวิวจากปราสาทแห่งนี้จะทำให้คุณมีมุมมองที่งดงามของเมืองและทะเลอันสงบ นาฟพลิโอนคือเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

สเปตเซส (Spetses) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอีเจียนของกรีซ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความงดงามที่ลึกลับรอคุณอยู่ เกาะนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะที่น่าเที่ยวสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติอันสวยงาม เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ท่าเรือหลักของสเปตเซสเป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจเกาะ ด้วยน้ำทะเลใสสะอาดและบรรยากาศที่สงบเงียบ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมบ้านเรือนแบบดั้งเดิมที่ทาสีสวยงาม หรือจะเลือกนั่งเรือหางยาวออกไปสัมผัสกับชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาด Agia Marina ที่มีน้ำทะเลใสและหาดทรายขาว นอกจากนี้ สเปตเซสยังเป็นที่รู้จักในฐานะจุดต่อสู้สำคัญในสงครามเอกราชของกรีซ คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และอนุสาวรีย์ที่บอกเล่าเรื่องราวของความกล้าหาญของบรรพบุรุษ และไม่ควรพลาดการจัดงานเทศกาลเรือสำราญประจำปีที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก การเดินทางไปยังสเปตเซสจะเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวของคุณด้วยความหรูหราและความโรแมนติกในบรรยากาศอันลงตัวของโลกเก่า เปิดประตูให้คุณค้นพบความงามที่ซ่อนอยู่ของกรีซอย่างแท้จริง

เฮดรา (Hydra) คือเกาะสวรรค์ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งกรีซ เพียงหนึ่งชั่วโมงโดยเรือจากกรุงเอเธนส์ เกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จักในหมู่คนดัง โดยเฉพาะเลโอนาร์ด โคเฮน ที่เคยมีบ้านที่นี่ในทศวรรษที่ 60 เฮดรานั้นเต็มไปด้วยถนนที่สวยงาม บ้านเรือนสีขาวมีเสน่ห์ ซึ่งเน้นความเรียบง่ายและความชิลล์ของชีวิต เกาะนี้ห้ามไม่ให้มีรถยนต์และการก่อสร้างใหม่ ทำให้บรรยากาศของเฮดรายังคงระลึกถึงวันเวลาที่ช้าลง คุณจะได้พบกับลาของคนท้องถิ่นเดินเล่นตามถนนหิน และเรือประมงที่ลอยละล่องในท่าเรือที่สงบ นอกจากความงามของที่พักและทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เฮดรายังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ศิลปะ และวัฒนธรรมที่เปล่งประกาย ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้รักการผ่อนคลายและต้องการสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขในทุกช่วงเวลา เชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในเฮดรา สถานที่ที่คุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.












ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ เป็นที่พักสุดหรูที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และไม่เหมือนใคร ซึ่งถือเป็นความสุขระดับสูงสุดในระหว่างการล่องเรือ ห้องเพนท์เฮาส์นี้มีขนาดใหญ่ถึง 195 m² ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Deck 9 มอบวิวที่ดีที่สุดบนเรือ พร้อมด้วยระเบียงขนาดกว้างที่จะทำให้คุณได้สัมผัสการพักผ่อนอย่างหรูหรา ด้วยสระสปาส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดด ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอบไอน้ำแบบคู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษจากบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างดีตลอดการเข้าพัก ในห้องสวีทคุณจะได้พบกับพื้นที่สำหรับทานอาหารที่รองรับได้ถึงแปดคน พร้อมมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดีตลอดวัน ทุกสิ่งในห้องถูกจัดเตรียมให้อยู่ในระดับวีไอพี เช่น การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้า และสิทธิ์ในการเลือกทัวร์ริมฝั่งได้ก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีการบริการซักรีดฟรี รวมทั้งระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ จึงเป็นประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่ควรพลาด สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความหรูหราและการดูแลที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา









สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและความสบายจากบนดาดฟ้าของเรือสำราญ Scenic Eclipse ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าในชั้น 6 และ 8 ซึ่งมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน สวีทนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 105-110 ตร.ม. มอบความสง่างามและสไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมระเบียงโค้งกว้างที่เหมาะแก่การชมภาพทิวทัศน์และสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ภายในมีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกต่างหาก คุณสามารถอ่านหนังสือจากห้องสมุดในสวีทหรือเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่จัดเตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับประทานอาหารในบรรยากาศส่วนตัวที่แสนหรูหรา นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้หน้าต่างระเบียงแบบดรอปดาวน์เพื่อเข้าถึงวิวภายนอกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับกล้องส่องทางไกลที่จัดเตรียมไว้ในห้อง ห้องน้ำที่หรูหราเต็มไปด้วยอุปกรณ์และบริการต่างๆ รวมถึงการอาบน้ำด้วยวิตามินที่มีการบำบัดด้วยสี ห้องอาบน้ำใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ ส่วนบริการพิเศษสำหรับผู้เข้าพักในพานอรามาและแกรนด์พานอรามาสวีท ได้แก่ การจองห้องอาหารพิเศษแบบเร่งด่วน การเลือกเส้นทางท่องเที่ยวที่รับประกัน รวมถึงบริการวีไอพีในการขึ้นและลงเรือ ด้วยความสะดวกสบายจากห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา การตกแต่งภายในที่มีแสงสว่างพิเศษ รวมถึงระบบเสียงโรงภาพยนตร์ที่มีลำโพง Bose® ความสะดวกสบายทั้งหมดที่จะสร้างความประทับใจในการล่องเรือของคุณ




ห้องสปาสวีท (สปาสวีท) เป็นพื้นที่หลีกหนีที่หรูหราสำหรับการฟื้นคืนชีพ ด้วยขนาดตั้งแต่ 46-50 ตารางเมตร ห้องสปาสวีทตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 8 และ 9 ภายในเรือประกอบด้วยพื้นที่พักผ่อนสะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์แบบสี่เสาภายใต้การออกแบบของ Scenic Slumber Bed และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ผ่อนคลาย หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ลักษณะเด่นของห้องสปาสวีทรวมถึงอ่างน้ำแบบสปาหรูหราที่ออกแบบโดย Philippe Starck สำหรับ Scenic Eclipse I และอ่างสปาทรงกลมที่มองเห็นวิวระเบียงสำหรับ Scenic Eclipse II ซึ่งให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย พร้อมบริการดูแลแบบส่วนตัวจากบัตเลอร์ ระเบียงส่วนตัวช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของทะเล และอาจเป็นโอกาสแรกในการสังเกตสัตว์ป่าหรือทิวทัศน์ที่งดงาม ห้องสปาสวีทนี้จึงเป็นการหลีกหนีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายและเติมพลังให้กับตัวคุณเอง





ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงคือการหลบภัยส่วนตัวที่กว้างขวางของคุณ ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู รวมถึงเตียงคิงไซส์นุ่มสบาย เมนูหมอน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้าง และพื้นที่สำหรับนั่งเล่น เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการสำรวจ ห้องสวีทมีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 5 ถึง 8 โดยมีประตูแก้วเลื่อนตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ห้องระเบียงส่วนตัวเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการพักผ่อน ขณะที่โลกใหม่ผ่านเข้ามา คุณจะได้สัมผัสกับบริการอันยอดเยี่ยม อาทิเช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมอำนวยความสะดวก ความหรูหราของห้องน้ำที่มีอุปกรณ์เสริมจาก Dyson รวมถึงบริการเครื่องดื่มและรับประทานอาหารภายในห้องที่ตอบสนองความต้องการของคุณ อีกทั้งยังมีระบบบรรเทาอากาศที่ให้อากาศบริสุทธิ์ 100% และระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงนี้จึงไม่เพียงแต่มีความหรูหรา แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนอีกด้วย




ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูของเราได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยมีประตูกระจกแบบเลื่อนที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดออกสู่ระเบียงหรือเทอเรซส่วนตัวให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามดับถือพลังธรรมชาติ ห้องพักขนาด 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 5 ถึง 8 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมถึงเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบายและพื้นที่นั่งเล่นที่ลงตัว สำหรับการผ่อนคลายหลังจากการสำรวจ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่นั่งเล่นและหลับนอนแยกจากกัน แต่ยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ชื่นชมมหาสมุทรและชีวิตทางทะเลที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น ชุดอาบน้ำที่หรูหรา เครื่องเป่าผม Dyson และบริการของบัตเลอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ที่เต็มไปด้วยไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามความชื่นชอบของคุณ รวมถึงบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพัก เพื่อความบันเทิง มีระบบ HDR TV และลำโพง Bose® รวมถึงระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อความสดชื่นอย่างเต็มที่ และยังมีการระบายเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของสังคมคลาสการเดินเรือ Bureau Veritas ทำให้ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรู กลายเป็นที่พักที่เหมาะแก่การหลบหนีจากความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับความงามของทะเลอย่างแท้จริง