
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse II
Scenic Ocean Cruises


ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

เกาะครีต (Crete) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลที่สุดในกรีซ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและทิวทัศน์ที่งดงาม ปัจจุบัน นับเป็นท่าเรือหลักที่เรือสำราญแวะจอด โดยเฉพาะเมืองเฮราคลิออน (Heraklion) เมืองหลวงของเกาะ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทั้งตลาดท้องถิ่นและร้านค้าหรูหรา อาคารสถาปัตยกรรมยุคเวเนเซียนดั้งเดิมทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงอดีตที่มีเสน่ห์ นอกจากความงดงามของเมืองเฮราคลิออแล้ว ครีตยังมีหาดทรายสีทองที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น หาดเอลาฟอนีซิ (Elafonissi) และหาดบาลอส (Balos) ที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่างพระราชวังนอสซอส (Knossos) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกที่เล่าเรื่องราวของอารยธรรมไมซีนีอันรุ่งเรือง การเดินทางไปยังเกาะครีตนับเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ มอบโอกาสให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาหารท้องถิ่นที่อร่อย และกิจกรรมที่ท้าทายจากการสำรวจธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ขอเชิญคุณมาร่วมสร้างความทรงจำที่ไม่เหมือนใครที่ครีต บนเส้นทางสู่การเดินทางที่หรูหราและน่าตื่นเต้น!

ท่าเรือทาออร์มินา (Taormina) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคกลาง อีกทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ความงดงามของทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทะเลและภูเขาเอทนา (Mt. Etna) ที่มีปีกหิมะปกคลุม ทำให้ทาออร์มินากลายเป็นภาพมุมกว้างที่น่าทึ่ง ซึ่งดีที่สุดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ชาวกรีกจากนาคซอส (Naxos) ตั้งรกรากเมื่อศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ยิ่งไปกว่านั้น วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างของโกเธ่และดี. เอช. ลอเรนซ์ ก็ได้เขียนถึงความงามของที่นี่ ทำให้เมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน นอกจากถนนที่มีร้านค้าแบรนด์เนมเรียงรายแล้ว ทาออร์มินายังมีเส้นทางเดินเขาที่สวยงามที่เลาะเลียบไปตามเนินเขารอบๆ ซึ่งนำคุณไปสู่วิวที่หาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะการไต่ขึ้นไปยังคาสเตลโมล่า (Castelmola) เพื่อสัมผัสความเป็นอมตะของทัศนียภาพที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งนี้ เชิญสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจในทาออร์มินาและค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รอให้คุณมาเยือน!

อิตาลีคือแหล่งรวมความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล โดยเฉพาะที่ท่าเรือ Lipari ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะอัยโอลีที่มีชื่อเสียง ท่าเรือ Lipari เป็นประตูสู่การสำรวจและค้นพบความมหัศจรรย์ของเกาะอันตระการตา เต็มไปด้วยบ้านเรือนสีพาสเทลที่โดดเด่นสะดุดตา เมื่อเดินไปตามถนนในเมือง คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ของแหล่งผลิตไวน์และสวนที่งดงาม ในฝั่งเหนือของเกาะที่ชื่อ Acquacalda คุณจะได้พบกับทุ่งต้น Agave ป่าไม้ที่มีเอกลักษณ์ และสนุกไปกับการสำรวจเหมืองหินโป่งและหินอ obsidian ที่สะท้อนความเป็นอิตาลีในอดีต นอกจากนี้ ที่ San Calogero ทางฝั่งตะวันตก มีออนเซ็นและบ่อโคลนที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น ซากปราสาทจากศตวรรษที่ 16 และโบสถ์จากศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่บนที่สูง ทำให้ท่านสามารถมองเห็นวิวทะเลที่มีเสน่ห์ได้อย่างชัดเจน นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวจะต้องหลงรัก ลิปารีรอคอยการมาเยือนของคุณ เชิญร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์หรูหราในดินแดนแห่งนี้เถอะ!

ท่าเรือ Porto Cervo ตั้งอยู่บนชายฝั่งอันงดงามของซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วทุกมุมโลก ชื่อนี้สะท้อนถึงความหรูหราที่ซ่อนอยู่ในความเป็นธรรมชาติ แวดล้อมด้วยทะเลสีฟ้าครามและภูเขาเขียวขจี ทำให้ Porto Cervo เป็นจุดที่น่าสนใจในการหยุดพักและสำรวจประเทศอิตาลี ท่าเรือแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เด็กหนุ่มและสาวงามที่มาโชว์ความงาม แต่ยังเป็นจะเป็นสัญลักษณ์ของความสงบนิ่งและความหรูหราที่ซ่อนเร้นอยู่ หลังจากได้สัมผัสความงามของอ่าวอันระยิบระยับแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามถนนที่ถูกประดับด้วยร้านค้าบูติกที่เสนอสินค้าหรูหราจากแบรนด์ระดับโลก หรือเพลิดเพลินกับการชิมไวน์ชั้นเลิศจากภูมิภาคนี้ สำหรับผู้ที่แสวงหาความตื่นเต้น อย่าพลาดที่จะสำรวจหมู่เกาะเหล่านี้ โดยทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่รวมถึงการดำน้ำหรือการเล่นเรือใบ ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ท่าเรือ Porto Cervo จึงถือเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์สุดพิเศษ ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและธรรมชาติอันงดงาม ในสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสร้างความทรงจำในช่วงเวลาพักผ่อนนี้

เมืองมาฮอน (Mahon) เมืองหลวงของเกาะเมนอร์ก้า (Menorca) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์และเป็นที่รู้จักกันดีจากท่าเรือที่ลึกและกว้างใหญ่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทำเลที่ตั้งที่สำคัญ มาฮอนจึงเคยเป็นที่มั่นของหลายประเทศในอดีต และเป็นสถานที่ที่นักสำรวจระดับโลกเคยมาเยือน จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ อุโมงค์เซนต์ร็อค (Arch of Saint Roc) ซึ่งเป็นซากท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองของเมือง มีอาคารสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น สไตล์จอร์เจียน (Georgian) ที่แสดงถึงร่องรอยของการปกครองในอดีต รวมทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก (Neo-Classical), บาร็อค (Baroque) และโรมาเนสก์ (Romanesque) ที่ยังคงสวยงามอยู่ เมืองนี้ไม่เพียงแต่น่าชม แต่ยังเต็มไปด้วยถนนเล็กๆ ที่รอให้คุณค้นพบ และพื้นที่กลางเมืองที่ได้รับการตกแต่งสวยงาม พร้อมร้านกาแฟที่ให้บริการอย่างอบอุ่น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศคือ ก่อนหรือหลังเวลาซีเอสตา (siesta) ที่ร้านค้าจะหยุดทำการในช่วงบ่าย สัมผัสมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาที่มาฮอน นอกเหนือจากการเยี่ยมชมเทือกเขาหรือชายหาดงดงาม ที่รอคอยให้คุณมาค้นพบความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของสเปนในแบบที่คุณไม่เคยลืม

อิบิซา (Ibiza) เกาะสุดหรูแห่งประเทศสเปน โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานทั้งความหรูหราของโลกสมัยใหม่กับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อกเหนือท่าเรือคือเมือง Dalt Vila ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1999 แวดล้อมไปด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงอารยธรรมโบราณ ภายในยังมีวิหารโกธิคที่สวยงามสะดุดตา การเดินเล่นใน Sa Penya คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ถนนหินปูนที่แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของเมือง เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งสินค้าแนวสร้างสรรค์ ลิ้มลองขนมหวานท้องถิ่น และค้นพบรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งชิลล์ในคาเฟ่ริมทะเล หรือเพลิดเพลินกับคืนเร้าใจในคลับชื่อดัง ความหลากหลายนี้สร้างเสน่ห์ให้กับอิบิซา การเยือนอิบิซาไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสกับความบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นการเดินทางสู่อดีตที่ทำให้คุณค้นพบความงามและวัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้ในทุกมุมมอง เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในหัวใจของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน!

คาร์ตาเฆนา ตั้งอยู่ในภูมิภาคมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นท่าเรือสำคัญของกองทัพเรือสเปน จากอ่าวที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่พักพิงของเรือสินค้าต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ เมืองนี้ก่อตั้งโดยคาร์เธจในปี 223 ก่อนคริสต์ศักราช และได้รับชื่อว่า "การ์ตาโก โนวา" นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่เฟื่องฟู จนกระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าของไบเซนไทน์อีกด้วย ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆนายังคงมีความสำคัญด้านการทหาร ตั้งแต่สมัยของพระเจ้าเฟลิเป II ซึ่งได้สร้างกำแพงป้องกันเมืองเพื่อคุ้มครองท่าเรือ จนถึงยุคราชวงศ์บูร์บอนในศตวรรษที่ 18 เมืองนี้ยังคงมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโบราณสถานที่ฟื้นฟู เช่น โรงละครโรมันที่ได้รับการเปิดเผยและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1988 เมื่อคุณมีเวลาว่าง อย่าลืมสัมผัสเสน่ห์ของคาร์ตาเฆนาผ่านการล่องเรือรอบท่าเรือที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งให้บริการหลายครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ความงดงามของเมืองนี้จะทำให้คุณหลงรักและฝันถึงการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!












ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ เป็นที่พักสุดหรูที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และไม่เหมือนใคร ซึ่งถือเป็นความสุขระดับสูงสุดในระหว่างการล่องเรือ ห้องเพนท์เฮาส์นี้มีขนาดใหญ่ถึง 195 m² ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Deck 9 มอบวิวที่ดีที่สุดบนเรือ พร้อมด้วยระเบียงขนาดกว้างที่จะทำให้คุณได้สัมผัสการพักผ่อนอย่างหรูหรา ด้วยสระสปาส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดด ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอบไอน้ำแบบคู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษจากบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างดีตลอดการเข้าพัก ในห้องสวีทคุณจะได้พบกับพื้นที่สำหรับทานอาหารที่รองรับได้ถึงแปดคน พร้อมมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดีตลอดวัน ทุกสิ่งในห้องถูกจัดเตรียมให้อยู่ในระดับวีไอพี เช่น การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้า และสิทธิ์ในการเลือกทัวร์ริมฝั่งได้ก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีการบริการซักรีดฟรี รวมทั้งระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ จึงเป็นประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่ควรพลาด สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความหรูหราและการดูแลที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา









สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและความสบายจากบนดาดฟ้าของเรือสำราญ Scenic Eclipse ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าในชั้น 6 และ 8 ซึ่งมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน สวีทนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 105-110 ตร.ม. มอบความสง่างามและสไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมระเบียงโค้งกว้างที่เหมาะแก่การชมภาพทิวทัศน์และสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ภายในมีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกต่างหาก คุณสามารถอ่านหนังสือจากห้องสมุดในสวีทหรือเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่จัดเตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับประทานอาหารในบรรยากาศส่วนตัวที่แสนหรูหรา นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้หน้าต่างระเบียงแบบดรอปดาวน์เพื่อเข้าถึงวิวภายนอกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับกล้องส่องทางไกลที่จัดเตรียมไว้ในห้อง ห้องน้ำที่หรูหราเต็มไปด้วยอุปกรณ์และบริการต่างๆ รวมถึงการอาบน้ำด้วยวิตามินที่มีการบำบัดด้วยสี ห้องอาบน้ำใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ ส่วนบริการพิเศษสำหรับผู้เข้าพักในพานอรามาและแกรนด์พานอรามาสวีท ได้แก่ การจองห้องอาหารพิเศษแบบเร่งด่วน การเลือกเส้นทางท่องเที่ยวที่รับประกัน รวมถึงบริการวีไอพีในการขึ้นและลงเรือ ด้วยความสะดวกสบายจากห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา การตกแต่งภายในที่มีแสงสว่างพิเศษ รวมถึงระบบเสียงโรงภาพยนตร์ที่มีลำโพง Bose® ความสะดวกสบายทั้งหมดที่จะสร้างความประทับใจในการล่องเรือของคุณ




ห้องสปาสวีท (สปาสวีท) เป็นพื้นที่หลีกหนีที่หรูหราสำหรับการฟื้นคืนชีพ ด้วยขนาดตั้งแต่ 46-50 ตารางเมตร ห้องสปาสวีทตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 8 และ 9 ภายในเรือประกอบด้วยพื้นที่พักผ่อนสะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์แบบสี่เสาภายใต้การออกแบบของ Scenic Slumber Bed และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ผ่อนคลาย หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ลักษณะเด่นของห้องสปาสวีทรวมถึงอ่างน้ำแบบสปาหรูหราที่ออกแบบโดย Philippe Starck สำหรับ Scenic Eclipse I และอ่างสปาทรงกลมที่มองเห็นวิวระเบียงสำหรับ Scenic Eclipse II ซึ่งให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย พร้อมบริการดูแลแบบส่วนตัวจากบัตเลอร์ ระเบียงส่วนตัวช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของทะเล และอาจเป็นโอกาสแรกในการสังเกตสัตว์ป่าหรือทิวทัศน์ที่งดงาม ห้องสปาสวีทนี้จึงเป็นการหลีกหนีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายและเติมพลังให้กับตัวคุณเอง





ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงคือการหลบภัยส่วนตัวที่กว้างขวางของคุณ ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู รวมถึงเตียงคิงไซส์นุ่มสบาย เมนูหมอน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้าง และพื้นที่สำหรับนั่งเล่น เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการสำรวจ ห้องสวีทมีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 5 ถึง 8 โดยมีประตูแก้วเลื่อนตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ห้องระเบียงส่วนตัวเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการพักผ่อน ขณะที่โลกใหม่ผ่านเข้ามา คุณจะได้สัมผัสกับบริการอันยอดเยี่ยม อาทิเช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมอำนวยความสะดวก ความหรูหราของห้องน้ำที่มีอุปกรณ์เสริมจาก Dyson รวมถึงบริการเครื่องดื่มและรับประทานอาหารภายในห้องที่ตอบสนองความต้องการของคุณ อีกทั้งยังมีระบบบรรเทาอากาศที่ให้อากาศบริสุทธิ์ 100% และระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงนี้จึงไม่เพียงแต่มีความหรูหรา แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนอีกด้วย




ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูของเราได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยมีประตูกระจกแบบเลื่อนที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดออกสู่ระเบียงหรือเทอเรซส่วนตัวให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามดับถือพลังธรรมชาติ ห้องพักขนาด 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 5 ถึง 8 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมถึงเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบายและพื้นที่นั่งเล่นที่ลงตัว สำหรับการผ่อนคลายหลังจากการสำรวจ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่นั่งเล่นและหลับนอนแยกจากกัน แต่ยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ชื่นชมมหาสมุทรและชีวิตทางทะเลที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น ชุดอาบน้ำที่หรูหรา เครื่องเป่าผม Dyson และบริการของบัตเลอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ที่เต็มไปด้วยไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามความชื่นชอบของคุณ รวมถึงบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพัก เพื่อความบันเทิง มีระบบ HDR TV และลำโพง Bose® รวมถึงระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อความสดชื่นอย่างเต็มที่ และยังมีการระบายเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของสังคมคลาสการเดินเรือ Bureau Veritas ทำให้ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรู กลายเป็นที่พักที่เหมาะแก่การหลบหนีจากความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับความงามของทะเลอย่างแท้จริง