
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse II
Scenic Ocean Cruises


เมื่อพูดถึงเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่สุดในฝรั่งเศส คงจะไม่สามารถมองข้ามเมืองนีซได้ เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เก่าแก่ถึง 230,000 ปี และถือเป็นเพชรเม็ดงามบนโค้งริมหาดสีน้ำเงิน เมืองนีซมีประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล โดยในสมัยโบราณมีชาวกรีกได้จัดตั้งท่าเรือที่นี่ ตั้งชื่อว่า “นิกาเรีย” ซึ่งกลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญของเมืองมาร์เซย์ เมืองนีซได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมอิตาเลียนในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของบ้านซาวอยติดต่อกันนานถึง 500 ปี ส่งผลให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและสวยงาม ดินแดนที่ปัจจุบันถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ "promenade des Anglais" เส้นทางริมทะเลสายงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทุกย่างก้าวจะได้พบกับร้านค้าหรือร้านอาหารที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิก นอกจากความสวยงามของชายหาด ท่าเรือนีซยังมีการปรับปรุงให้ทันสมัย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาชมสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ที่นี่ยังเหมาะสำหรับครอบครัว เพราะมีป้าย “Family Plus” ที่รองรับผู้ที่มีเด็กเล็กด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางอย่างแท้จริง เมืองนีซคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!

ท่าเรือมาร์เซย์ (Marseille) เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2013 ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมหาศาล ด้วยการลงทุนกว่า 660 ล้านยูโร เพื่อสร้างศูนย์ศิลป์ใหม่ ๆ มากมาย ท่าเรือได้รับการปรับปรุงอย่างงดงาม ถนนหนทางและย่านต่าง ๆ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ มาร์เซย์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา มีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ตั้งแต่คราวที่ชาวฟินีเชียนและกรีกมายังท่าเรือในปี 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนกระทั่งสงครามและการเปลี่ยนแปลงมากมายได้สร้างรูปแบบใหม่ให้กับเมือง วันนี้ มาเยือนที่ท่าเรือเก่า (Vieux Port) คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลาย ทั้งร้านค้า หอศิลป์และร้านอาหารที่ลงทุนสร้างใหม่อย่างทันสมัย มาร์เซย์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวของวัฒนธรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น หรือการแสดงศิลปะที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้นและมีเสน่ห์ ต้องไม่พลาดที่จะเยือนมาร์เซย์ซึ่งเต็มไปด้วย charm และ history ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

เซนต์-ทรอเปซ หรือ Saint-Tropez เมืองเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่เพียงแค่เป็นท่าเรือที่งดงาม แต่มันยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองนี้ทำให้เราหลงใหลตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าสู่ท่าเรือ มีร้านกาแฟสวยงามที่เสิร์ฟกาแฟในราคาสูง ถึงแม้จะมีทัศนียภาพของเมืองเก่าที่สวยงาม แต่ก็มีกฎเกณฑ์ที่แตกต่างออกไปที่ทำให้การเดินทางมาที่นี่สุดวิเศษ เซนต์-ทรอเปซเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเพราะ "บริจิตต์ บาร์โด" ดาราฮอลลีวูดชื่อดังที่เคยมากับโรเจอร์ วาดิม เมื่อปี 1956 จุดเริ่มต้นแห่งความโด่งดังทำให้เมืองนี้กลายเป็นแหล่งรวมของเศรษฐีและคนมีชื่อเสียงจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งยังเต็มไปด้วยงานปาร์ตี้สุดหรูและยอมหรูซึ่งผู้คนต่างมารวมตัวกันเพื่อสนุกสนานในบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับชายหาดที่งดงาม ร้านขายของที่มีเสน่ห์ และบ้านเรือนไฮโซที่โดดเด่น เช่นเดียวกับนักเขียนและศิลปินชื่อดังที่ในอดีตเคยมาเยือน ที่เซนต์-ทรอเปซเป็นสถานที่ที่มีความลับซ่อนอยู่มากมาย แม้จะมีคนหนาแน่นในฤดูร้อน แต่ความเย้ายวนใจและเสน่ห์ของที่นี่กลับทำให้เราไม่อาจต้านทานได้ และยากที่จะหาเมืองไหนที่สามารถดึงดูดบรรดานักท่องเที่ยวได้เท่านี้อีกแล้ว

คานส์ (Cannes) เมืองชายทะเลสุดหรูของฝรั่งเศส ที่มีสภาพอากาศอันเอื้ออำนวยตลอดทั้งปี ทำให้เป็นหนึ่งในรีสอร์ตยอดนิยมของยุโรป ในอดีต คานส์เคยเป็นจุดเฝ้าระวังของนักบวชที่อาศัยอยู่บนเกาะเซนต์ฮอนอเรตในยุคกลาง ท่าเรือที่นี่เดิมเป็นเพียงท่าเรือประมง จนกระทั่งในปี 1834 ขุนนางอังกฤษอย่างลอร์ดบรูแฮมได้หลงรักสถานที่นี้ในระหว่างการแวะพักไม่คาดคิดและตั้งใจสร้างบ้านพักที่นี่ และนี่ก็ทำให้คานส์กลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดหรูสำหรับชนชั้นสูง คานส์ได้รับการยกระดับความน่าสนใจด้วยเทศกาลภาพยนตร์ประจำปีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ใครหลายคนมักจะรู้สึกเหมือนดาราภาพยนตร์เมื่อได้เดินเล่นบนเลอ ครัวเซ็ต (La Croisette) ทางเดินริมหาดที่สวยงาม ซึ่งรายล้อมไปด้วยร้านอาหารสุดหรูและชายหาดส่วนตัวที่มีชื่อเสียง ที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นปาล์มและบุคคลสำคัญ ร้านบูติกสุดเก๋และโรงแรมหรู เช่น โรงแรมคาร์ลตัน ที่เป็นฉากของภาพยนตร์ชื่อดัง “To Catch a Thief” คานส์จึงเป็นดินแดนแห่งความฝัน และเสน่ห์ของโคตแดนดาอาซูร์ (Côte d'Azur) ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน
ท่าเรือแอนติเบส (Antibes) ตั้งอยู่ในภูมิภาคโปรวองซ์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ โดยก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 5 โดยพ่อค้านักเดินเรือชาวกรีก ภายในเมืองเก่าที่มีลักษณะคล้ายเขาวงกต มีถนนเล็กๆ สวยงามล้อมรอบด้วยดอกไม้ และมีส่วนที่เป็นยุคโรมันและกลาง รวมถึงกำแพงเมืองที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง แอนติเบสแบ่งออกเป็นสามส่วนที่น่าสนใจ ได้แก่ เมืองเก่า แห่งแอนติเบส, จวนเลส์ปินส์ (Juan les Pins) รีสอร์ทชายหาดที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักจากเทศกาลแจ๊สระหว่างประเทศ และคาปด’แอนติเบส (Cap d’Antibes) แหลมไม้ที่เป็นที่พักของคนมีชื่อเสียง นอกจากนี้ แอนติเบสยังมีท่าเรือยอชต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นั่นคือ ท่าเรือโวบ็อง (Port Vauban) ที่เรือยอชต์หรูจอดอยู่ แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการเที่ยวชมหมู่บ้านบนเขาแบบมีกำแพงล้อมรอบอย่างเซนต์พอลเดอวองซ์ (St. Paul de Vence) นักท่องเที่ยวสามารถสนุกกับการช้อปปิ้งสินค้าโบราณ และชิมอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย อาทิ ซีฟู้ดสดใหม่และผักสตูว์ (ratatouille) พร้อมไวน์ของพื้นท้องถิ่น สำหรับผู้สนใจเยี่ยมชมในบรรยากาศส่วนตัว เรามีบริการจัดทริปแบบส่วนตัวให้เลือกมากมาย สามารถจองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ของเรา การเดินทางสู่แอนติเบสคือการเปิดประตูสู่ความงามที่น่าหลงใหลของฝรั่งเศส!

คาลวี (Calvi) ตั้งอยู่บนเกาะคอร์ซิกา ประเทศฝรั่งเศส เป็นเพชรเม็ดงามแห่งริเวียร่า ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "โอเอซิสแห่งความสุข" โดยนักเขียน Dorothy Carrington คาลวีเติบโตมาจากการค้าขายกับเจนัว และในขณะที่เกาะคอร์ซิกาประกาศเอกราช ผู้คนที่นี่ยังคงภักดีต่อเจนัวอย่างเหนียวแน่น อีกทั้งที่นี่ยังมีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่เกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในศตวรรษที่ 18 คาลวีต้องเผชิญกับการโจมตีจากนักสู้ระดับชาติของคอร์ซิกา แต่วันนี้เมืองนี้กลับกลายเป็นจุดหมายที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาสัมผัสกับหาดทรายขาวยาวกว่า 6 กิโลเมตร ที่ตั้งตระหง่านของป้อมปราการที่มองเห็นตัวเมืองเก่า ร้านอาหารรื่นเริง และชีวิตกลางคืนที่เต็มไปด้วยสีสัน คาลวีไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ ๆ ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่รอคอยให้คุณมาสำรวจ เชิญชวนคุณให้มาสัมผัสชีวิตใหม่ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามและบรรยากาศที่มีเสน่ห์ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้เดินทางอย่างไม่มีที่สิ้นสุด.
ซานเรโม เมืองริมทะเลที่สุดแสนโรแมนติกแห่งอิตาลี เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือซานเรโม นักท่องเที่ยวจะได้รับการต้อนรับด้วยวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม ซึ่งโดดเด่นด้วยชายหาดทอดยาวและบรรยากาศของเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสัน ซานเรโมไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าเย้ายวนใจ เมืองนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่จัดงานเทศกาลดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น โบสถ์ San Remo Casino ที่มีการออกแบบแบบอิตาลีที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเก่าแก่ สวนพฤกษชาติ Villa Ormond ที่เป็นสถานที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น นอกจากที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแล้ว ซานเรโมยังเป็นแดนสวรรค์ของนักชิม ด้วยร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอย่างพิซซ่าและพาสต้าสุดอร่อย พร้อมด้วยไวน์ชั้นดีจากภูมิภาคลิกูเรีย ในการเดินทางที่สะดวกสบายและหรูหรา คุณจะได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครของซานเรโม สถานที่ที่เติมเต็มความฝันและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกการเดินทางของคุณอย่างแท้จริง

โมนาโก เป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางหรูหราที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในที่พักอันเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก ด้วยวิวคาสิโนที่สวยงามและอาคารในสไตล์เบลล์โพค สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้จบ ท่าเรือมอนติคาร์โล เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเยือน Hôtel de Paris ที่เป็นเอกลักษณ์ของปี 1864 และห้องอาหารระดับตำนานอย่าง Louis XV พร้อมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่คาสิโน ที่ท่านสามารถย้อนเวลาสัมผัสบรรยากาศอันหรูหราและภาพลักษณ์ของมอนาโกในอดีต การเดินทางสู่โมนาโกไม่เคยสะดวกสบายขนาดนี้มาก่อน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นทางรถไฟที่เชื่อมต่อในปี 1868 ส่งผลให้โมนาโกต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่มาหาความหรูหราและการพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร ระหว่างการสำรวจท่าเรือ La Condamine ท่านสามารถเดินทางไปยังโมนาโก-วิลล์ ซึ่งมีทั้งพระราชวังเก่าแก่และพิพิธภัณฑ์มหาสมุทร ท่านจะไม่ต้องกังวลเรื่องการปีนบันได เพราะมีลิฟต์และบันไดเลื่อนให้อำนวยความสะดวก เมื่อมาเยือนโมนาโก สัมผัสความเลิศหรูและความประทับใจในบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างแรงบันดาลใจให้คุณอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

เมื่อพูดถึงความงดงามของประเทศอิตาลี คาร์รารา (Carrara) เป็นหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด ท่าเรืออันงดงามแห่งนี้ตั้งอยู่ในแคว้นทัสคานี ขึ้นชื่อในเรื่องของหินอ่อนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งดึงดูดศิลปินและนักสร้างสรรค์ทั่วโลก การมาเยือนคาร์รารานั้นมิสามารถพลาดได้กับการสำรวจเหมืองหินอ่อนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิธีการขุดหินอ่อนจากภูเขาและสัมผัสกับศิลปะที่เกิดจากมัน ยิ่งไปกว่านั้น คาร์รารายังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น พิพิธภัณฑ์หินอ่อน คาร์รารา ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะและประวัติความเป็นมาของหินอ่อน นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบของเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า และคาเฟ่ที่มีเสน่ห์ ลิ้มลองอาหารรสเลิศจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่สดใหม่ ที่จะทำให้คุณหลงใหลไปกับรสชาติอิตาเลียนแบบดั้งเดิม การมาเยือนคาร์รารานับเป็นการเดินทางสู่การค้นพบทั้งศิลปะและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยหรือผู้รักศิลปะ ที่นี่มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน
พบกับท่าเรือ Porto Ercole ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามบนชายฝั่งของภูมิภาคทัสคานี ประเทศอิตาลี คงจะพลาดไม่ได้เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่นี่ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่าวที่โอบล้อมด้วยภูเขา แต่ยังมีประวัติศาสตร์ที่หล่อหลอมความงามของสถานที่นี้อีกด้วย Porto Ercole เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีเอกลักษณ์ โดยมีถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือการชิม "Cacciucco" ซุปปลาที่มีรสชาติกลมกล่อม และไม่ลืมแวะชมวัด Santa Barbara ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งมอบทิวทัศน์อันงดงามของอ่าว นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร โดยการเดินทางไปยังเกาะ Giannutri และ Giglio ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำและสำรวจโลกใต้ทะเลอันมหัศจรรย์ ท่าเรือ Porto Ercole จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณได้สำรวจความงดงามและเสน่ห์ของอิตาลีภาคใต้ในแบบที่ไม่เคยลืมเลือนหนึ่งในการเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์ที่ประทับใจตลอดไป

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง












ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ เป็นที่พักสุดหรูที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และไม่เหมือนใคร ซึ่งถือเป็นความสุขระดับสูงสุดในระหว่างการล่องเรือ ห้องเพนท์เฮาส์นี้มีขนาดใหญ่ถึง 195 m² ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Deck 9 มอบวิวที่ดีที่สุดบนเรือ พร้อมด้วยระเบียงขนาดกว้างที่จะทำให้คุณได้สัมผัสการพักผ่อนอย่างหรูหรา ด้วยสระสปาส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดด ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอบไอน้ำแบบคู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษจากบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างดีตลอดการเข้าพัก ในห้องสวีทคุณจะได้พบกับพื้นที่สำหรับทานอาหารที่รองรับได้ถึงแปดคน พร้อมมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดีตลอดวัน ทุกสิ่งในห้องถูกจัดเตรียมให้อยู่ในระดับวีไอพี เช่น การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้า และสิทธิ์ในการเลือกทัวร์ริมฝั่งได้ก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีการบริการซักรีดฟรี รวมทั้งระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ จึงเป็นประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่ควรพลาด สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความหรูหราและการดูแลที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา









สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและความสบายจากบนดาดฟ้าของเรือสำราญ Scenic Eclipse ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าในชั้น 6 และ 8 ซึ่งมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน สวีทนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 105-110 ตร.ม. มอบความสง่างามและสไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมระเบียงโค้งกว้างที่เหมาะแก่การชมภาพทิวทัศน์และสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ภายในมีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกต่างหาก คุณสามารถอ่านหนังสือจากห้องสมุดในสวีทหรือเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่จัดเตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับประทานอาหารในบรรยากาศส่วนตัวที่แสนหรูหรา นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้หน้าต่างระเบียงแบบดรอปดาวน์เพื่อเข้าถึงวิวภายนอกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับกล้องส่องทางไกลที่จัดเตรียมไว้ในห้อง ห้องน้ำที่หรูหราเต็มไปด้วยอุปกรณ์และบริการต่างๆ รวมถึงการอาบน้ำด้วยวิตามินที่มีการบำบัดด้วยสี ห้องอาบน้ำใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ ส่วนบริการพิเศษสำหรับผู้เข้าพักในพานอรามาและแกรนด์พานอรามาสวีท ได้แก่ การจองห้องอาหารพิเศษแบบเร่งด่วน การเลือกเส้นทางท่องเที่ยวที่รับประกัน รวมถึงบริการวีไอพีในการขึ้นและลงเรือ ด้วยความสะดวกสบายจากห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา การตกแต่งภายในที่มีแสงสว่างพิเศษ รวมถึงระบบเสียงโรงภาพยนตร์ที่มีลำโพง Bose® ความสะดวกสบายทั้งหมดที่จะสร้างความประทับใจในการล่องเรือของคุณ




ห้องสปาสวีท (สปาสวีท) เป็นพื้นที่หลีกหนีที่หรูหราสำหรับการฟื้นคืนชีพ ด้วยขนาดตั้งแต่ 46-50 ตารางเมตร ห้องสปาสวีทตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 8 และ 9 ภายในเรือประกอบด้วยพื้นที่พักผ่อนสะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์แบบสี่เสาภายใต้การออกแบบของ Scenic Slumber Bed และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ผ่อนคลาย หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ลักษณะเด่นของห้องสปาสวีทรวมถึงอ่างน้ำแบบสปาหรูหราที่ออกแบบโดย Philippe Starck สำหรับ Scenic Eclipse I และอ่างสปาทรงกลมที่มองเห็นวิวระเบียงสำหรับ Scenic Eclipse II ซึ่งให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย พร้อมบริการดูแลแบบส่วนตัวจากบัตเลอร์ ระเบียงส่วนตัวช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของทะเล และอาจเป็นโอกาสแรกในการสังเกตสัตว์ป่าหรือทิวทัศน์ที่งดงาม ห้องสปาสวีทนี้จึงเป็นการหลีกหนีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายและเติมพลังให้กับตัวคุณเอง





ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงคือการหลบภัยส่วนตัวที่กว้างขวางของคุณ ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู รวมถึงเตียงคิงไซส์นุ่มสบาย เมนูหมอน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้าง และพื้นที่สำหรับนั่งเล่น เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการสำรวจ ห้องสวีทมีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 5 ถึง 8 โดยมีประตูแก้วเลื่อนตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ห้องระเบียงส่วนตัวเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการพักผ่อน ขณะที่โลกใหม่ผ่านเข้ามา คุณจะได้สัมผัสกับบริการอันยอดเยี่ยม อาทิเช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมอำนวยความสะดวก ความหรูหราของห้องน้ำที่มีอุปกรณ์เสริมจาก Dyson รวมถึงบริการเครื่องดื่มและรับประทานอาหารภายในห้องที่ตอบสนองความต้องการของคุณ อีกทั้งยังมีระบบบรรเทาอากาศที่ให้อากาศบริสุทธิ์ 100% และระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงนี้จึงไม่เพียงแต่มีความหรูหรา แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนอีกด้วย




ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูของเราได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยมีประตูกระจกแบบเลื่อนที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดออกสู่ระเบียงหรือเทอเรซส่วนตัวให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามดับถือพลังธรรมชาติ ห้องพักขนาด 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 5 ถึง 8 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมถึงเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบายและพื้นที่นั่งเล่นที่ลงตัว สำหรับการผ่อนคลายหลังจากการสำรวจ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่นั่งเล่นและหลับนอนแยกจากกัน แต่ยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ชื่นชมมหาสมุทรและชีวิตทางทะเลที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น ชุดอาบน้ำที่หรูหรา เครื่องเป่าผม Dyson และบริการของบัตเลอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ที่เต็มไปด้วยไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามความชื่นชอบของคุณ รวมถึงบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพัก เพื่อความบันเทิง มีระบบ HDR TV และลำโพง Bose® รวมถึงระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อความสดชื่นอย่างเต็มที่ และยังมีการระบายเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของสังคมคลาสการเดินเรือ Bureau Veritas ทำให้ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรู กลายเป็นที่พักที่เหมาะแก่การหลบหนีจากความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับความงามของทะเลอย่างแท้จริง