
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse
Scenic Ocean Cruises


ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

ท่าเรือที่เมืองวีโก (Vigo) ประเทศสเปน เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองวีโกมีท่าเรือธรรมชาติที่งดงามและถือเป็นท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยในปี 1702 สถานที่นี้เคยเป็นสมรภูมิที่ฝ่ายอังกฤษและชาวดัตช์สามารถเอาชนะกองเรือฝรั่งเศสและสเปนได้ เมืองวีโกเต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยมีท่าเรือที่สวยงามให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสกับบรรยากาศของการประมง ต่อมา การเดินเที่ยวชมเมืองทำให้คุณได้พบกับสถาปัตยกรรมแบบยุคศตวรรษที่ 17 และภูมิประเทศที่สวยงามโดยรอบ เมืองเก่าที่มีเสน่ห์เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่แคบและจตุรัสที่มีร่มเงาเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ การเดินทางไปยังเมืองทุย (Tui) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร หรือเมืองซานติอาโก เดอ คอมโพสเตลลาที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์รวมการแสวงบุญเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาทีจากวีโก จะเป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความทรงจำในการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน อย่าพลาดที่จะค้นหาความงามของวีโกและเสน่ห์ที่รอคอยคุณอยู่ในแต่ละซอกมุมของเมืองนี้!

เฟอโรล (Ferrol) เมืองท่าแห่งสเปนที่มีความเชื่อมโยงกับทะเลมายาวนานถึงสองพันปี เป็นศูนย์กลางการสร้างเรือที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่อดีตที่เริ่มเป็นท่าเรือเล็ก ๆ สำหรับการประมงในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช เฟอโรลผ่านการพิชิตของวานดัล, ซูเอบิส, อาหรับ และคริสเตียน จนกระทั่งกลับมาเป็นศูนย์กลางทางทะเลอีกครั้งในศตวรรษที่ 18 ภายใต้การดูแลของราชวงศ์บูร์บง เนื่องจากท่าเรือธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่เฟอโรลอินเล็ต เฟอโรลยังได้นับว่าเป็นประตูสู่จังหวัดกาลิเซีย (Galicia) ทางตอนเหนือของสเปน ซี่งขึ้นชื่อในเรื่องภูเขาเขียวขจี, หุบเขาลึก และแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ นอกจากนี้ เฟอโรลยังใกล้เมืองซานติอาโก เดอ คอมโพสเตล่า (Santiago de Compostela) เมืองศักดิ์สิทธิ์ในยุคกลางที่มีชื่อเสียง ภายในตัวเมืองเฟอโรลมีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และภาษาเป็นอย่างดี การเดินเล่นในศูนย์กลางเมืองที่มีถนนขนานหกสายและพลาซ่าทั้งสองด้าน จะนำคุณไปสู่ร้านค้า, ร้านอาหาร และบาร์ที่ดีที่สุด เฟอโรลจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์อันหรูหราและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ.
อาวิเลส (Avilés) เมืองท่าแห่งความงดงามในสเปนที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางอันน่าหลงใหลให้กับผู้มาเยือน ด้วยสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่โดดเด่นและประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่สำคัญๆ เช่น ย่านเมืองเก่า (Casco Antiguo) ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์โกธิกและภัตตาคารที่ให้บริการอาหารท้องถิ่นอันเลื่องชื่อ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า คุณจะมีโอกาสเยี่ยมชมศูนย์วัฒนธรรม "อุทยานอาร์ติกิง" ที่เป็นที่สุดของการสร้างสรรค์ โดยจัดแสดงงานศิลปะและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของแคว้นอัสตูเรียส นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินเล่นในสวนสาธารณะ Duque de Wellington ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม พร้อมกับลิ้มรสของกินชั้นเลิศจากตลาดท้องถิ่น หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างจากเมืองใหญ่อื่นๆ อาวิเลสก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ดินแดนที่เต็มไปด้วยความงามแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมยาวนานที่พร้อมที่จะพาคุณไปสู่โลกใหม่ เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางของคุณให้แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นที่อาวิเลส เมืองแห่งความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม

บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!
ท่าเรือปาซาจีส (Pasajes) ตั้งอยู่ในประเทศสเปน เป็นท่าเรือที่มีบรรยากาศสร้างสรรค์และงดงามแห่งหนึ่งในภูมิภาคบาสก์ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่หลงใหลในอรรถรสของชีวิตในทะเล ท่ามกลางทัศนียภาพที่ตระการตา ท่าเรือปาซาจีสมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สร้างขึ้นจากการเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญ ซึ่งยังคงรักษาความงดงามดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี สิ่งที่น่าสนใจนอกจากท่าเรือยังมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่รอบๆ ซึ่งเรียกว่า Pasajeros ที่มีอาคารเก่าแก่และร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในการเสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ อีกทั้งผู้มาเยือนยังสามารถเดินทางไปสัมผัสความงามของภูเขาและทะเลที่ล้อมรอบ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเรือในอ่าวซานเซบาสเตียน หรือลองชิมปลาและอาหารพื้นเมืองที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากการได้สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ท่าเรือปาซาจีสยังมอบประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราและมีเสน่ห์ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมที่จะออกสำรวจโลกใบนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด!

ท่าเรือคองการเนอ (Concarneau) ตั้งอยู่ในเขตฟินิสแทร์ (Finistère) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวและเมืองเก่าที่มีอาคารสีสันสดใส สร้างบรรยากาศเสน่ห์ให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้ลืม นอกจากท่าเรือที่ใช้เป็นที่จอดเรือสำราญแล้ว คองการเนอยังเป็นที่ตั้งของ Fortress Isle ซึ่งเป็นเกาะที่มีป้อมปราการซึ่งตั้งอยู่กลางทะเล ผู้ที่มาเยือนสามารถเดินสำรวจเกาะและชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมโบราณและวิวที่งดงามของมหาสมุทร เบื้องหลังนี้ยังมีตลาดประจำวัน ที่คุณสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศท้องถิ่น ผ่านการชิมอาหารทะเลสดใหม่และของฝากจากชาวประมง การเดินทางมายังคองการเนอเป็นเสมือนการเดินทางสู่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแบบฝรั่งเศสที่ส่งเสริมให้คุณมีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เป็นสถานที่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงใหลและได้สัมผัสกับอารมณ์ความเป็นชาวฝรั่งเศสในทุกย่างก้าว รับรองว่าจะเป็นความทรงจำที่จะอยู่ในใจคุณตลอดไปเมื่อสำรวจท่าเรือแห่งนี้

ดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์ กำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุค "Celtic Tiger" ที่ยิ่งใหญ่ สู่ความฟื้นตัวที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในยุโรปตะวันตก ดับลินในวันนี้คือการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และทันสมัย เพราะไม่ว่าคุณจะมาเยือนเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือเสน่ห์ใหม่ๆ จะพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยความบันเทิงที่ไม่รู้จบ วอล์กผ่านย่าน Temple Bar ย่านที่เคยอับโชคแต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยคาเฟ่และโรงแรมสุดเก๋ พร้อมบรรยากาศของปาร์ตี้ที่ไม่เคยหลับใหล นอกจากนี้ เขต Italian Quarter ที่แอบซ่อนความหรูหราด้วยร้านอาหารกลางแจ้งและการเรียนทำนองทังโก้ สะท้อนให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมเซลติก ที่ไม่ว่าจะเป็นการแสดง Riverdance หรือผลงานเพลงของ Hozier ก็สามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแล้ว ดับลินยังมีร้านค้า โรงแรม และแกลเลอรีศิลปะมากมาย ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางกรุงปารีส เมืองที่ค้นพบใหม่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าเย้ายวนใจ รอให้คุณสัมผัสและสร้างความทรงจำไม่รู้ลืมที่นี่ในเมืองที่เป็นนวัตกรรมและความมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง

เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

เดินทางสู่เกาะไอออนาในสกอตแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคเฮบริเดส (Hebrides) สัมผัสความงดงามของธรรมชาติและความอ่อนโยนของวิถีชีวิตท้องถิ่นบนเกาะเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 130 คนนี้ นับเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความสงบและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง สิ่งที่ทำให้ไอออนาเป็นที่รู้จักก็คือ Abbey of Iona ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของมรดกทางพระพุทธศาสนาแบบเกลิค (Gaelic) ที่นี่คุณจะได้ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามซึ่งเล่าเรื่องราวของอดีตอันรุ่งโรจน์ของสถานที่แห่งนี้ เมื่อคุณเดินทางมายังไอออนา คุณจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะเมื่อท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงอาทิตย์จะส่องประกายสะท้อนบนทะเลเปล่งประกายระยิบระยับ จึงไม่แปลกใจที่หลายคนหลงใหลในเสน่ห์ของเกาะนี้ อย่าพลาดโอกาสที่จะสำรวจธรรมชาติที่เขียวขจี ชมสัตว์ป่าที่น่ารักและลงนามในความทรงจำที่ไม่มีวันลืม ขึ้นเรือสำราญไปยังไอออนาแล้วให้คุณได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ท่องเที่ยวอันหรูหราที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!

สเตฟฟา ไอแลนด์ (Staffa Island) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามในสกอตแลนด์ ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักในเสน่ห์ของธรรมชาติและเอกลักษณ์อันน่าทึ่งของสถานที่นี้ ตั้งอยู่ในทะเลฮิบไรด์ส์ (Hebrides) ที่มีชื่อเสียง สเตฟฟา ไอแลนด์เป็นที่รู้จักจากถ้ำฟิงัล (Fingal's Cave) ซึ่งมีโครงสร้างหินบะซอลต์ที่งดงามและเสียงที่ก้องกังวานในช่วงเวลาที่คลื่นซัดเข้ามา การเดินทางมายังสเตฟฟา ไอแลนด์นั้นเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น คุณจะได้เพลิดเพลินกับการนั่งเรือจากเกาะอุมลัม (Ulva) ที่พาคุณผ่านชมทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ของท้องทะเลและเกาะเล็กๆ ที่งดงาม หากคุณมีโชคดี คุณอาจพบกับปลาวาฬหรือแมวน้ำขณะอยู่ในทะเล นอกจากถ้ำฟิงัลแล้ว สเตฟฟา ไอแลนด์ยังมีจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และการเดินป่าที่นำคุณดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามและบริสุทธิ์ สเตฟฟา ไอแลนด์ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด แต่ยังเป็นแห่งที่ทำให้คุณสัมผัสกับความเป็นสกอตแลนด์ในรูปแบบที่ลึกซึ้ง ด้วยภูมิทัศน์ที่ต่างจากที่อื่น และประสบการณ์ที่น่าจดจำที่รอคอยให้คุณมาสำรวจ !

โอบาน (Oban) มนต์ขลังแห่งชายฝั่งสกอตแลนด์ เสมือนชาร์จชีวิตใหม่ให้กับนักเดินทาง ด้วยความหมายแปลว่า "อ่าวเล็ก" ในภาษาเกลิค เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 8,500 คนนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเขตเวสต์ไฮแลนด์ และเป็น "Gateway to the Isles" ที่มอบทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขา ทะเลสาบ และหมู่เกาะที่ดึงดูดศิลปิน และนักเขียนจากทั่วทุกมุมโลกมายาวนาน เมื่อคุณเดินทางมาที่โอบาน คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะปราสาทดุนอลลี (Dunollie Castle) ที่มีอายุราว 600 ปี เป็นดั่งยามพิทักษ์ของอ่าวแห่งนี้ โอบานไม่เพียงแต่มีฉากหลังที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางไปสู่เกาะมัลล์ (Mull), คอลล์ (Coll), และไอเลย์ (Islay) สถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เมื่อราชินีวิคตอเรียเสด็จมาเยือนและให้ความเห็นว่าเป็น "หนึ่งในจุดที่งดงามที่สุดที่เราเคยพบ" ทำให้โอบานกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่มีวันเลือนลับ คุณสามารถเดินเที่ยวชมศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ หรือจะขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปสำรวจเกาะต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่หลากหลายและน่าหลงใหล
สัมผัสมนต์เสน่ห์ใน Sound of Mull ท่าเรือที่งดงามของสกอตแลนด์ ที่นี่คือจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันจะสำรวจความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือ Sound of Mull ตั้งอยู่ในภูมิภาคฮไฮแลนด์ เป็น gateway สู่ความสวยงามของเกาะมุล ซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณจะได้ชมทัศนียภาพที่สะกดใจ น้ำทะเลสีฟ้าคราม ล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวขจี และฟ้าอันกว้างใหญ่เปิดโอกาสให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ เมื่อคุณเดินทางมายัง Sound of Mull คุณจะพบกับโอกาสมากมายในการทำกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ตั้งแต่การชมปลาโลมาและวาฬที่โดดเด่น สู่การสำรวจหมู่บ้านประมงที่มีเสน่ห์ และแน่นอนว่าห้ามพลาดที่จะลิ้มลองเมนูอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่ ซึ่งมีวัตถุดิบหลักมาจากทะเลเลื่องชื่อ ที่นี่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย เช่น ปราสาทดูนโฟลล์ และโบราณสถานอื่นๆ ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต เสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ สัมผัสความงามอันน่าอัศจรรย์ของ Sound of Mull วันนี้ และให้ตัวเองได้สัมผัสกับความย้อนยุคที่ไม่เหมือนใครที่รอคุณอยู่ในทริปอันหรูหรานี้!

เชิญพบกับหมู่เกาะเซนต์คิลดา (St. Kilda) ซึ่งเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของสกอตแลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากหมู่เกาะเฮ็บริดส์ภายนอกราว 40 ไมล์ทะเล ทัศนียภาพอันงดงามของหน้าผาและแท่นหินกลางทะเลเป็นที่ตั้งของประชากรนกทะเลที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ เซนต์คิลดาได้รับการยกย่องด้วยสถานะมรดกโลกจากยูเนสโกถึงสองครั้งด้วยกัน ไม่เพียงแต่ความงามทางธรรมชาติที่โดดเด่น แต่ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรม สถานที่ที่เรียกว่า Village Bay บนเกาะเฮอิตาเคยเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีประชากรเกิน 200 คน แต่ประชาชนได้อพยพออกไปในช่วงทศวรรษ 1930 ล่าสุดมีการบูรณะหมู่บ้านโดยมูลนิธิแห่งชาติสกอตแลนด์ ซึ่งสร้างความเชื่อมโยงอันน่าทึ่งกับอดีต ซึ่งในปัจจุบัน หนึ่งในผู้ดูแลรับหน้าที่เป็นเสมียนขายของและผู้ดูแลไปรษณีย์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการส่งโปสต์การ์ดกลับบ้านจากเซนต์คิลดา ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและอุดมด้วยธรรมชาติแห่งนี้ เซนต์คิลดาจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างและมีเสน่ห์ในโลกแห่งความเป็นจริง


ท่าเรือ Portree บนเกาะ Skye ในสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์อันโรแมนติกและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เกาะ Skye เป็นที่รู้จักในเรื่องของภูเขา Cuillin ที่มายืมความสวยงามแบบธรรมชาติ ตั้งอยู่ใกล้กับแผ่นดินใหญ่ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการค้นหาความลึกลับและมนต์เสน่ห์ของภูเขาและทะเล การได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยเฉพาะแสงสีทองที่สาดส่องจนค่อนคืน นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจเกาะได้อย่างง่ายดายด้วยถนนสายหลักที่ห้อมล้อมขึ้นทางเหนือและใต้ของเกาะ ประเด็นเด่นคือบ้านเก่าแก่ที่บางหลังยังมีผู้อาศัย ซึ่งมีผนังหินหนาและหลังคาหญ้าตามที่เห็นในภาพถ่ายที่หลากหลาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง มีเส้นทางที่สวยงามของ Sleat Peninsula ที่เชื่อมโยงทิวทัศน์อันสะกดตา จนท่านต้องเพลิดเพลินไปกับการขับรถไปทั่วทั้งเกาะ Portree ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญ ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในธรรมชาติที่แท้จริง ที่จะเติมเต็มจิตวิญญาณของนักเดินทางทุกคน ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบและความงามที่น่าอัศจรรย์ เกาะ Skye คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในชีวิตของคุณ

เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า ณ เมืองสตอร์โนเวย์ เกาะลูอิส คุณจะได้พบกับมิติใหม่ของการเดินทางซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของสก็อตแลนด์ เกาะลูอิสและแฮริส เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะฮีบรีดีนอก ทำให้เมืองสตอร์โนเวย์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ในเมืองนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชิมอาหารท้องถิ่นที่ร้านอาหารคุณภาพสูง รวมทั้งเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะ An Lanntair ที่มีนิทรรศการทั้งศิลปะร่วมสมัยและดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีวิหารเซนต์คลีเมนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีโครงสร้างสวยงามที่สุดในเขตนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจประวัติศาสตร์ ที่นี่มีแหล่งโบราณคดีที่น่าทึ่ง เช่น กลุ่มหินคาลานิสที่สร้างขึ้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงหอคอย Dun Carloway ที่มีอายุประมาณ 2,000 ปี สัมผัสกับความงามและวัฒนธรรมของสตอร์โนเวย์ในขณะที่สำรวจธรรมชาติสุดอลังการและประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันของเกาะนี้ อย่าลืมแวะเยี่ยมชมร้านทวีตฮาร์ริสที่เผยแพร่สินค้าทอมือสุดพิเศษและของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคุณในเกาะลูอิสแห่งนี้

เลอร์วิค เมืองเล็กที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเชตแลนด์ (Shetland Islands) ของสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือที่มีชีวิตชีวานี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 และยังคงรักษาความงามของอาคารหินที่เรียกว่า "ล๊อดเบอรีส์" ซึ่งเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต นี่คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ เมื่อเดินเรือเข้าท่าเลอร์วิค คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือที่ปัจจุบันยังมีความคึกคัก ด้วยถนนที่ปูด้วยแผ่นหินและวิวชายฝั่งที่งดงาม ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของเชตแลนด์ สำหรับนักเดินทางที่มาเยือน ยังมีโอกาสได้พบปะกับวัฒนธรรมชาวเซลติก ที่สำคัญ และการชมธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่ป่าเขียวขจีหรือสัตว์ป่าในท้องถิ่น ด้วยความเพลิดเพลินและน่าหลงใหลที่เลอร์วิคมอบให้ คุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร คอยต้อนรับความตื่นเต้นในทุกขั้นตอนของการสำรวจสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาคนี้

ยินดีต้อนรับสู่เมืองเคิร์ควอลล์ ซึ่งเป็นเมืองหลักของหมู่เกาะออร์คนีย์ที่สกอตแลนด์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวประวัติศาสตร์ในทุกซอกมุม ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวและบรรยากาศที่คึกคัก ความประทับใจแรกเมื่อเข้าเมืองคือโบสถ์คันทาร์เบอรี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์มากมายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของออร์คนีย์ การเดินเล่นในย่านเก่าแก่ของเคิร์ควอลล์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามแห่งทัศนียภาพที่ทอดยาวไปยังท่าเรือและท้องทะเลที่สดใส เรือสำราญที่แวะมาที่นี่จะมอบโอกาสให้คุณได้สำรวจร้านค้าและคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมด้วยสิ่งของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ นอกจากเคิร์ควอลล์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่สวยงามและแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียง ผู้เดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ในขณะที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวออร์คนีย์ สัมผัสความมหัศจรรย์นี้ในครั้งต่อไปเมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่เคิร์ควอลล์และคอยต้อนรับความฝันแห่งการเดินทาง!

อเบอร์ดีน เป็นเมืองท่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และมีความสำคัญในสกอตแลนด์ โดยมีประชากรประมาณ 220,000 คน ถือเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ เมืองนี้ได้ชื่อว่า "เมืองแกรนิต" หรือ "เมืองเทา" เนื่องจากอาคารหลากหลายหลังสร้างจากแกรนิตสีเทาที่ขุดขึ้นในท้องถิ่น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ถึงกลางศตวรรษที่ 20 แกรนิตอเบอร์ดีนยังเคยใช้ในการสร้างอาคารสำคัญๆ อย่างเช่น อาคารรัฐสภาในลอนดอนและสะพานวอเตอร์ลู นอกจากนี้ อเบอร์ดีนยังได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงน้ำมันแห่งยุโรป" เนื่องจากมีการค้นพบน้ำมันในทะเลเหนือในช่วงทศวรรษที่ 1970 ทำให้ท่าเรือของเมืองนี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และสนามบินเฮลิคอปเตอร์ที่เชื่อมต่อไปยังแหล่งน้ำมันในทะเลเหนือ เป็นหนึ่งในสนามบินเฮลิคอปเตอร์ที่คึกคักที่สุดในโลก การเดินทางมายังอเบอร์ดีนจะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์วรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ที่งดงามและทะเลที่สวยงาม ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราและน่าจดจำสำหรับนักเดินทางทุกคน





















ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของถือเป็นความหรูหราที่เหนือระดับอย่างแท้จริง ขนาดกว้างถึง 195 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 9 ห้องนี้ให้คุณได้สัมผัสวิวที่ดีที่สุดจากบนเรือ พร้อมทั้งมีระเบียงส่วนตัวที่มีอ่างสปาและพื้นที่นั่งเล่นเพื่อความผ่อนคลาย ห้องนอนและห้องนั่งเล่นแยกออกจากกัน มีพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถรองรับแขกได้ถึงแปดคน ซึ่งจะทำให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่คอยดูแลทุกความต้องการของคุณ ห้องน้ำขนาดใหญ่มีการออกแบบเพื่อความผ่อนคลายโดยเฉพาะ พร้อมฝักบัวไอน้ำคู่และอ่างสปาบำบัดที่จะช่วยให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ คุณจะได้รับสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารและกิจกรรมที่น่าสนใจ อีกทั้งการขึ้นเรือและลงเรือจะมีการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเดินทาง ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของยังมาพร้อมกับพื้นที่ระเบียงที่มีที่นั่งอาบแดด และสามารถเปลี่ยนเป็นที่นอนสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง สินค้าภายในห้องมีบริการไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มอื่นๆ ตามความชอบของแขก พร้อมของว่างและขนมที่ถูกจัดส่งถึงห้อง มอบความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริงสำหรับการเดินทางอันหรูหราในครั้งนี้










สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท บนเรือสำราญ Scenic Eclipse ซึ่งตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าที่ 6 และ 8 ของเรือ สวีทที่งดงามเหล่านี้มีระเบียงโค้งที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการชมทัศนียภาพของสัตว์ป่าและภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง เมื่ออยู่ภายในสวีทขนาด 105-110 ตารางเมตร นี้ บรรยากาศของความหรูหราและสไตล์จะถูกยกระดับไปอีกขั้น สวีทนี้ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นแยกและห้องนอนที่มีการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมบริการบัตเลอร์ที่คอยจัดเตรียมเครื่องดื่มและอาหารในสวีทของคุณ มีสถานที่ให้พักผ่อนภายในห้องนั่งเล่นที่คุณสามารถอ่านอีบุ๊กจากห้องสมุดในสวีท ขณะที่ยังได้สัมผัสการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ภายในห้องนอนคุณยังสามารถเข้าถึงวิวด้านนอกผ่านหน้าต่างระเบียงที่สามารถลดลงได้ ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ห้องน้ำที่หรูหราในพานอรามาสวีทมีเครื่องอาบน้ำแบบหมอกมีสีสัน อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ และอ่างคู่พร้อมอุปกรณ์วีไอพี สำหรับความสะดวกสบายที่เหนือระดับ พิเศษยิ่งขึ้นคือการบริการด้านการจองและการเข้าถึงที่สะดวกสบายในร้านอาหารรวมถึงการเลือกกิจกรรมสำรวจที่สามารถทำได้ที่ท่าเรือ รองรับประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุด พร้อมด้วยระเบียงที่กว้างขวางและการบริการที่เป็นส่วนตัว สัมผัสความพิเศษในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท เพื่อการเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันหรูหรา














สปาสวีทของเราเป็นที่พักที่ให้ความหรูหราและความสงบสุขอย่างสูงสุด หลังจากวันที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น คุณจะได้กลับมาผ่อนคลายที่ห้องส่วนตัวของคุณ ซึ่งมีพื้นที่ขนาด 46-50 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 8 และ 9 ห้องนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นอนที่แยกต่างหากพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ชนิดสลัมเบอร์ที่ออกแบบมาอย่างดี มีพื้นที่นั่งเล่นและระเบียงส่วนตัวเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับวิวที่งดงาม ในพื้นที่สปา คุณสามารถสัมผัสความหรูหราของอ่างอาบน้ำที่ออกแบบโดย Philippe Starck หรืออ่างอาบน้ำทรงกลมที่มองเห็นจากระเบียงให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับสายลมทะเล พร้อมน้ำอุ่นที่เตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัวและแก้วแชมเปญในมือ เพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ระเบียงส่วนตัวของคุณเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการชมสัตว์ป่าหรือละลานตากับทิวทัศน์อันงดงาม ห้องพักยังมีบริการพิเศษมากมาย เช่น บัตเลอร์ส่วนตัว บริการซักรีดฟรี และบริการจัดสำรองโต๊ะอาหาร พร้อมทั้งระบบควบคุมอุณหภูมิที่ทันสมัย ทำให้คุณได้รับอากาศสดชื่นเต็มที่ สปาสวีท เป็นที่พักในฝันของนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความหรูหราและความสะดวกสบายในการเดินทางทางทะเล




ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงเป็นที่ซ่อนตัวส่วนตัวของคุณที่มีขนาดกว้างขวาง ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 5 ถึง 8 มีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู อาทิเช่น เตียงคิงไซส์นุ่มสบาย พร้อมเมนูหมอน เลานจ์สำหรับพักผ่อนหลังจากการสำรวจโลกใหม่ๆ ในแต่ละวัน คุณจะได้สัมผัสวิวที่งดงามจากระเบียงส่วนตัวที่เปิดออกด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงจากพื้นจดเพดาน ให้คุณได้ชมวิวทะเลและโลกใต้น้ำที่น่าประทับใจ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องประกอบด้วย ห้องน้ำส่วนตัวที่มีฝักบัวและอ่างล้างหน้า พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำสุดหรู เครื่องอบผม Dyson ระบบควบคุมอุณหภูมิและการระบายอากาศที่ทันสมัย เพื่อให้อากาศสดใหม่ 100% และความเงียบสงบสูงสุดตามมาตรฐานของสถาบัน Bureau Veritas นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัว บาร์ขนาดเล็กฟรีที่มีไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามที่คุณชอบ รวมถึงกาแฟ illy และชาสูตรพิเศษที่เติมเต็มทุกวัน สร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือกว่าให้กับคุณในทุกๆ ช่วงเวลา.









ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูที่กว้างขวางของเราได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบโดยมีประตูบานเลื่อนกระจกจากพื้นถึงเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงหรือเฉลียงส่วนตัว ให้คุณได้ผ่อนคลายในพื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหากพร้อมด้วยเครื่องดื่มที่คุณเลือก ขนาดห้องอยู่ระหว่าง 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 5 ถึง 8 ทุกห้องสวีทมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราที่สุด เช่น เตียงคิงไซส์ที่นุ่มสบาย, เมนูหมอน และพื้นที่นั่งเล่นที่ให้คุณได้พักผ่อนหลังจากวันแห่งการค้นพบ ดื่มด่ำกับการชมวิวจากหน้าต่างสู่โลกกว้าง ห้องสวีทที่กว้างขวางและออกแบบอย่างมีสไตล์นี้มีประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์ที่สวยงามงดงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ระเบียงหรือเฉลียงส่วนตัวของคุณคือสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายในขณะที่คุณสังเกตโลกใหม่ที่เคลื่อนที่ไป ห้องสวีทนี้ยังมาพร้อมกับบริการผู้ช่วยส่วนตัว, มินิบาร์ที่มีไวน์, แชมเปญ และสุราที่เติมให้ตรงตามความชอบของคุณ รวมถึงกาแฟอิลลี่และชาเฉพาะที่เติมให้ใหม่ทุกวัน, ระบบเสียง HDTV และลำโพง Bose® นอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้รับอากาศบริสุทธิ์ 100% และการป้องกันเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานเกรดของสังคมทางทะเล Bureau Veritas ครบครันด้วยบริการที่เหนือระดับเพื่อการพักผ่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด