
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Eclipse II
Scenic Ocean Cruises


เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!

ท่าเรือแทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ตั้งอยู่ ณ จุดกรอบของมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยฟินิเชียนและกรีกโบราณ แทนเจียร์ได้รับชื่อมาจาก Tinge มารดาของฮีราคลิทัส สัญลักษณ์แห่งตำนานที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งปรากฏชัดตั้งแต่อดีตเมื่อเคยเป็นจังหวัดของโรมันและผ่านการปกครองจากหลายประเทศ รวมถึงสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอังกฤษ เมืองแทนเจียร์ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่มองเห็นช่องแคบยิบรอลตาร์ และถือเป็นจุดเชื่อมโยงสองทวีป ทำให้เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพงดงามสุดตระการตา ไม่ว่าคุณจะสำรวจเมืองเก่ากับซุ้มประตูที่สวยงาม หรือเดินเล่นอย่างสบายในย่านใหม่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เก๋ไก๋ คุณจะพบกับศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว สำรวจด้านต่างๆ ของเมืองผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น ชิมอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หรือเยี่ยมชมตลาดพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ลงทุนในประสบการณ์ที่ให้คุณเข้าใจลึกซึ้งในจิตวิญญาณของแทนเจียร์ เรียนรู้ที่จะรักในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมิตรภาพที่อบอุ่นของชาวเมือง แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงเสน่ห์ที่ซ่อนเร้นของเมืองนี้ในทุกก้าวที่คุณเดินทาง


พอร์ติมาน (Portimão) เมืองท่าสำคัญของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลที่สวยงาม ได้รับการลงทุนอย่างมากในการพัฒนาเป็นท่าเรือสำราญที่น่าสนใจพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการประมงที่สำคัญแล้ว พอร์ติมานยังมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ด้วยถนนช้อปปิ้งที่หลากหลายและบรรยากาศที่กว้างขวางถึงจะมีธุรกิจบางแห่งต้องปิดตัวลงไป แต่ความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้ยังคงน่าดึงดูดอยู่ แนะนำให้คุณใช้เวลาสักครู่ในการเดินเล่นที่ริมน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสะพานเก่าและสะพานรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจการล่องเรือชมชายฝั่งที่งดงาม และอย่าลืมแวะจิบกาแฟหรือทานอาหารกลางแจ้งที่คาเฟ่ Doca da Sardinha ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยมของการรับประทานปลาซาร์ดีนย่างบนเตา พร้อมกับขนมปังสดและไวน์ท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณอิ่มท้อง แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมอีกด้วย พอร์ติมานจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดแวะพักระหว่างการเดินทาง แต่คือแรงบันดาลใจใหม่ในการสำรวจวัฒนธรรม อาหาร และทิวทัศน์ที่สืบทอดต่อกันมาในโปรตุเกส.

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

ท่าเรือเลเซา (Leixões) ตั้งอยู่ในภูมิภาคนอร์ทของโปรตุเกส เป็นประตูสู่เมืองที่เต็มไปด้วยอารยธรรมและวัฒนธรรมอย่างโอปอร์โต (Oporto) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยโรมันเมื่อสร้างป้อมเพื่อเป็นจุดค้าที่สำคัญ ในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 โอปอร์โตได้เติบโตขึ้นจากความมั่งคั่งที่เกิดจากการสำรวจทางทะเลของโปรตุเกส และยังเป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือเลเซามีความสำคัญในการขนส่งทางทะเล เนื่องจากเป็นท่าเรือที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเข้ามาของเรือสำราญ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปในโอปอร์โตได้ หลายคนมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการสำรวจศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ โดยเฉพาะย่านประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก นอกจากนี้ เลเซายังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดของโปรตุเกส ซึ่งได้คว้าแชมป์ถ้วย Taça de Portugal ในปี 1961 ท่านจะได้พบกับประสบการณ์อันหรูหรา ทั้งในเรื่องของอาหารและการท่องเที่ยว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป

เฟอโรล (Ferrol) เมืองท่าแห่งสเปนที่มีความเชื่อมโยงกับทะเลมายาวนานถึงสองพันปี เป็นศูนย์กลางการสร้างเรือที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่อดีตที่เริ่มเป็นท่าเรือเล็ก ๆ สำหรับการประมงในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช เฟอโรลผ่านการพิชิตของวานดัล, ซูเอบิส, อาหรับ และคริสเตียน จนกระทั่งกลับมาเป็นศูนย์กลางทางทะเลอีกครั้งในศตวรรษที่ 18 ภายใต้การดูแลของราชวงศ์บูร์บง เนื่องจากท่าเรือธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่เฟอโรลอินเล็ต เฟอโรลยังได้นับว่าเป็นประตูสู่จังหวัดกาลิเซีย (Galicia) ทางตอนเหนือของสเปน ซี่งขึ้นชื่อในเรื่องภูเขาเขียวขจี, หุบเขาลึก และแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ นอกจากนี้ เฟอโรลยังใกล้เมืองซานติอาโก เดอ คอมโพสเตล่า (Santiago de Compostela) เมืองศักดิ์สิทธิ์ในยุคกลางที่มีชื่อเสียง ภายในตัวเมืองเฟอโรลมีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และภาษาเป็นอย่างดี การเดินเล่นในศูนย์กลางเมืองที่มีถนนขนานหกสายและพลาซ่าทั้งสองด้าน จะนำคุณไปสู่ร้านค้า, ร้านอาหาร และบาร์ที่ดีที่สุด เฟอโรลจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์อันหรูหราและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ.
อาวิเลส (Avilés) เมืองท่าแห่งความงดงามในสเปนที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางอันน่าหลงใหลให้กับผู้มาเยือน ด้วยสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่โดดเด่นและประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่สำคัญๆ เช่น ย่านเมืองเก่า (Casco Antiguo) ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์โกธิกและภัตตาคารที่ให้บริการอาหารท้องถิ่นอันเลื่องชื่อ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า คุณจะมีโอกาสเยี่ยมชมศูนย์วัฒนธรรม "อุทยานอาร์ติกิง" ที่เป็นที่สุดของการสร้างสรรค์ โดยจัดแสดงงานศิลปะและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของแคว้นอัสตูเรียส นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินเล่นในสวนสาธารณะ Duque de Wellington ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม พร้อมกับลิ้มรสของกินชั้นเลิศจากตลาดท้องถิ่น หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างจากเมืองใหญ่อื่นๆ อาวิเลสก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ดินแดนที่เต็มไปด้วยความงามแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมยาวนานที่พร้อมที่จะพาคุณไปสู่โลกใหม่ เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางของคุณให้แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นที่อาวิเลส เมืองแห่งความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม

บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!

เมื่อพูดถึง Belle-Île-en-Mer ซึ่งหมายถึง “เกาะสวยในทะเล” นักเดินทางอาจคิดว่าชื่อนี้ฟังดูโรแมนติกเกินจริง แต่จริงๆ แล้วเกาะนี้เป็นที่หลงใหลของศิลปินและจิตรกร จากฉากธรรมชาติที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะแนวชายฝั่งทางใต้ที่รกร้างและถูกขัดเกลาจากกระแสคลื่น ซึ่งเคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพวาดที่มีชื่อเสียงของ Claude Monet อย่าง “Les Aiguilles de Port Coton” ไม่เพียงแต่มีชายฝั่งที่ดิบเถื่อน เกาะ Belle-Île มีอีกด้านที่นุ่มนวล ด้วยชายหาดที่มีทรายละเอียดและท่าเรือที่งามงามสองแห่งบนชายฝั่งตอนเหนือ สำหรับผู้ที่รักประวัติศาสตร์ ท่าเรือ Le Palais ที่นี่เป็นที่ตั้งของ Citadelle de Belle Ile ป้อมปราการที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ซึ่งถูกกล่าวถึงโดย Alexandre Dumas ในหนังสือเรื่อง "The Three Musketeers" ป้อมปราการที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มอบความรู้เกี่ยวกับชีวิตในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจเส้นทางธรรมชาติ หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน Belle-Île-en-Mer นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับความงดงามไม่ซ้ำใครในฝรั่งเศส พร้อมรอคอยการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่แสนประทับใจ.
ท่าเรือฮิวทาวน์ในเกาะเซนต์แมรี่ บนหมู่เกาะสกิลลี่ ประเทศอังกฤษ นับเป็นประตูสู่ประสบการณ์แห่งความงามและความสงบที่คุณต้องไม่พลาด ด้วยทิวทัศน์ของทะเลอันกว้างขวางและชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด การเดินสำรวจบริเวณรอบๆ ท่าเรือจะทำให้หัวใจคุณเต้นแรงกับบรรยากาศที่ใช่ ฟินไปกับวิวสวยๆ ของทะเลอันใสสะอาดและเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีเสน่ห์ เกาะเซนต์แมรี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเสน่ห์ที่สุดในหมู่เกาะสกิลลี่ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง เกาะนี้มีคลองและสวนที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันในการสร้างสรรค์พื้นที่ที่สวยงาม ในขณะที่ถนนเล็กๆ ด้านในซ่อนเร้นร้านค้าและคาเฟ่น่ารักๆ ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้กับวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่าบนเส้นทางที่สวยงาม หรือการล่องเรือไปสัมผัสท้องทะเลอันเงียบสงบที่รายล้อมด้วยธรรมชาติที่ประทับใจ นอกจากนี้ เกาะเซนต์แมรี่ยังเป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมในการพบเจอชีวิตสัตว์น้ำที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน มาร่วมสัมผัสประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์กับท่าเรือฮิวทาวน์และเกาะเซนต์แมรี่ เพื่อสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในทริปการเดินทางของคุณ!

ฟาวี (Fowey) เมืองท่าสไตล์อังกฤษที่ตั้งอยู่ในปากแม่น้ำท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการนำเข้าดินเหนียวและเป็นจุดนัดพบของผู้ที่หลงใหลในกีฬาทางทะเล ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับดาราและคนมีชื่อเสียงที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน ซึ่งคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศอันสงบและอบอุ่นจากร้านอาหารและที่พักที่มีให้เลือกหลากหลาย มาชมความงามในช่วง Regatta Week ณ กลางถึงปลายเดือนสิงหาคม หรืองาน Fowey Festival of Words and Music ในกลางเดือนพฤษภาคม ที่จะช่วยเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้ที่มาเยือน ฟาวีเชื่อมต่อกับเมืองอื่น ๆ ผ่านบริการเรือข้ามฟาก Bodinnick และ Polruan ที่รองรับทั้งรถยนต์และผู้โดยสาร อีกทั้งหากคุณเดินทางไปทางตะวันตกประมาณไม่กี่ไมล์ จะพบกับสวนที่แตกต่างกันสองแห่ง ได้แก่ Eden Project สวนพฤกษศาสตร์สุดล้ำจากทั่วโลก และ Lost Gardens of Heligan ที่ได้รับการฟื้นฟูให้มีชีวิตชีวาในยุควิกตอเรีย ช่วยเปิดประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อคุณมาเยือนฟาวี คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่เหมือนใครและสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางอีกครั้ง.

ในใจกลางของเกาะเกิร์นซีย์ จะมีท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่าง เซนต์ปีเตอร์พอร์ต ท่าเรือที่น่าหลงใหลนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่คุณจะประทับใจตั้งแต่ก้าวแรก ด้วยถนนที่ปูด้วยหินและดอกไม้สวยงามที่เบ่งบานตามมุมถนนทุกเส้น รวมถึงโบสถ์เล็กๆ ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติก เป็นเมืองหลวงของเกิร์นซีย์ เซนต์ปีเตอร์พอร์ตมีทุกสิ่งที่คุณต้องการในการสำรวจสัมผัสประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งและชายหาดที่สวยงาม ที่สำคัญคือ ป้อมปราการเก่าแก่ของคาสเซิลคอร์เน็ต ที่มีอายุกว่าร้อยปี ตั้งตระหง่านอยู่เหนือท่าเรือ เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดที่คุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของอ่าว และชายฝั่งของเกาะอื่นๆ ในช่องแคบอังกฤษ นอกจากนี้ ภายในคาสเซิลยังมีสวนสวย สถานที่จัดแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ของเกิร์นซีย์ ทำให้คุณต้องใช้เวลาสำรวจอย่างเพลิดเพลิน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่าง หรือผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ เซนต์ปีเตอร์พอร์ตสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างครบถ้วน

ท่าเรือพูล (Poole) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ในเขตดอร์เซต ประเทศอังกฤษ ท่าเรือพูลเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญ และเป็นสถานที่ที่เรือสำราญหลายลำเลือกแวะจอดเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจความงดงามของภูมิภาคนี้ พูลมีชายหาดที่โด่งดังอย่างบอร์นมุธ (Bournemouth) ซึ่งเป็นที่นิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ด้วยทรายขาวสะอาดและน้ำทะเลใส คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศชายทะเลที่ผ่อนคลาย อาทิ การเดินเล่นริมทะเลหรือกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย เช่น พายเรือ หรือดำน้ำตื้น นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่งดงามของอุทยานแห่งชาติดอร์เซต (Dorset National Park) ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นตาตื่นใจและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่เพียงเท่านั้น พูลยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ ปราสาทพูล (Poole Castle) ที่สร้างขึ้นในยุคกลาง และมีตลาดประวัติศาสตร์ที่เปิดให้เดินเล่นได้ในบรรยากาศที่อบอุ่น หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างและน่าจดจำ ท่าเรือพูลจะเติมเต็มความฝันของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ เตรียมตัวสัมผัสกับเสน่ห์และความงดงามแห่งโลกแห่งอาณาเขตของท้องทะเลนี้!

เมืองฮอนฟลอร์ (Honfleur) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของ Côte Fleurie ในฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเมืองชายทะเลที่มีความงดงามแบบคลาสสิคที่ไม่เหมือนใคร ด้วยบ้านไม้กึ่งปูนที่เรียงรายอยู่ตามถนนอิฐประดับ ซึ่งสร้างบรรยากาศสวยงามชวนฝัน เมืองนี้ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูที่งดงาม โดยเฉพาะเมืองเก่าฝั่งท่าเรือ Vieux Bassin ซึ่งเปรียบเสมือนแก่นของสังคมตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ที่ท่าเรือแห่งนี้ ใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ มีบ้านหินสองชั้นที่มีหลังคาแบบลาดชัน และบ้านสูงที่ตกแต่งด้วยแผ่นหินที่ทำให้ทิวทัศน์รอบด้านมีเสน่ห์เกินบรรยาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางทะเลสำคัญ รวมถึงการเดินทางไปยังแคนาดาในอดีต และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินอิมเพรสชันนิสต์ที่ได้มาเยี่ยมชมและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ วันนี้ เมืองฮอนฟลอร์ยังคงมีชีวิตชีวา แม้จะมีผู้คนมาเยือนเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดสะพาน Pont de Normandie ในปี 1995 ที่เชื่อมต่อลุ่มน้ำเหนือของนอร์มานดี เป็นสะพานแขวนที่สูงกว่าหอไอเฟล ยิ่งทำให้ฮอนฟลอร์เป็นจุดหมายที่ต้องไปสัมผัสด้วยตนเองในทริปที่หรูหราและเต็มไปด้วยความประทับใจแห่งนี้
เมืองออสเทนเด (Oostende) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเหนือในประเทศเบลเยียม เป็นท่าเรือสำคัญที่โดดเด่นไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและวัฒนธรรมที่เข้มข้น สถานที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยหาดทรายสีทองทอดยาวและบรรยากาศที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับการพักผ่อนและการสำรวจ เมื่อคุณเดินทางมาถึงออสเทนเด คุณจะพบกับเสน่ห์ของสถานที่ที่หลากหลาย ตั้งแต่อาคารประวัติศาสตร์ เช่น ตึกคอนเสิร์ต Kursaal ที่โดดเด่น ไปจนถึงตลาดปลาอันมีชื่อเสียงที่สามารถลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ที่มีให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่ที่สร้างบรรยากาศอบอุ่น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย สามารถเข้าชมสถาบันพิพิธภัณฑ์และศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองออสเทนเดที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับผลงานของศิลปินท้องถิ่น นอกจากนี้ การเดินเล่นตามชายหาดในช่วงพระอาทิตย์ตกดินก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยทุกสิ่งที่เสนอ ออสเทนเดจึงเป็นจุดหมายที่ลงตัวสำหรับการล่องเรือสำราญ โดยมีท่าเรือที่สะดวกสบายและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ รอให้คุณมาเปิดประสบการณ์ใหม่ที่นี่ค่ะ













ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ เป็นที่พักสุดหรูที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต และไม่เหมือนใคร ซึ่งถือเป็นความสุขระดับสูงสุดในระหว่างการล่องเรือ ห้องเพนท์เฮาส์นี้มีขนาดใหญ่ถึง 195 m² ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Deck 9 มอบวิวที่ดีที่สุดบนเรือ พร้อมด้วยระเบียงขนาดกว้างที่จะทำให้คุณได้สัมผัสการพักผ่อนอย่างหรูหรา ด้วยสระสปาส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดด ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมฝักบัวอบไอน้ำแบบคู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการพักผ่อน นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษจากบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างดีตลอดการเข้าพัก ในห้องสวีทคุณจะได้พบกับพื้นที่สำหรับทานอาหารที่รองรับได้ถึงแปดคน พร้อมมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดีตลอดวัน ทุกสิ่งในห้องถูกจัดเตรียมให้อยู่ในระดับวีไอพี เช่น การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้า และสิทธิ์ในการเลือกทัวร์ริมฝั่งได้ก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีการบริการซักรีดฟรี รวมทั้งระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทเพนท์เฮาส์เจ้าของ จึงเป็นประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่ควรพลาด สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความหรูหราและการดูแลที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา









สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในพานอรามา & แกรนด์พานอรามาสวีท ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและความสบายจากบนดาดฟ้าของเรือสำราญ Scenic Eclipse ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าในชั้น 6 และ 8 ซึ่งมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน สวีทนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 105-110 ตร.ม. มอบความสง่างามและสไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมระเบียงโค้งกว้างที่เหมาะแก่การชมภาพทิวทัศน์และสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ภายในมีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกต่างหาก คุณสามารถอ่านหนังสือจากห้องสมุดในสวีทหรือเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่จัดเตรียมโดยบัตเลอร์ส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับประทานอาหารในบรรยากาศส่วนตัวที่แสนหรูหรา นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้หน้าต่างระเบียงแบบดรอปดาวน์เพื่อเข้าถึงวิวภายนอกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับกล้องส่องทางไกลที่จัดเตรียมไว้ในห้อง ห้องน้ำที่หรูหราเต็มไปด้วยอุปกรณ์และบริการต่างๆ รวมถึงการอาบน้ำด้วยวิตามินที่มีการบำบัดด้วยสี ห้องอาบน้ำใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ ส่วนบริการพิเศษสำหรับผู้เข้าพักในพานอรามาและแกรนด์พานอรามาสวีท ได้แก่ การจองห้องอาหารพิเศษแบบเร่งด่วน การเลือกเส้นทางท่องเที่ยวที่รับประกัน รวมถึงบริการวีไอพีในการขึ้นและลงเรือ ด้วยความสะดวกสบายจากห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์หรูหรา การตกแต่งภายในที่มีแสงสว่างพิเศษ รวมถึงระบบเสียงโรงภาพยนตร์ที่มีลำโพง Bose® ความสะดวกสบายทั้งหมดที่จะสร้างความประทับใจในการล่องเรือของคุณ




ห้องสปาสวีท (สปาสวีท) เป็นพื้นที่หลีกหนีที่หรูหราสำหรับการฟื้นคืนชีพ ด้วยขนาดตั้งแต่ 46-50 ตารางเมตร ห้องสปาสวีทตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 8 และ 9 ภายในเรือประกอบด้วยพื้นที่พักผ่อนสะดวกสบาย พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์แบบสี่เสาภายใต้การออกแบบของ Scenic Slumber Bed และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ผ่อนคลาย หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ลักษณะเด่นของห้องสปาสวีทรวมถึงอ่างน้ำแบบสปาหรูหราที่ออกแบบโดย Philippe Starck สำหรับ Scenic Eclipse I และอ่างสปาทรงกลมที่มองเห็นวิวระเบียงสำหรับ Scenic Eclipse II ซึ่งให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย พร้อมบริการดูแลแบบส่วนตัวจากบัตเลอร์ ระเบียงส่วนตัวช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของทะเล และอาจเป็นโอกาสแรกในการสังเกตสัตว์ป่าหรือทิวทัศน์ที่งดงาม ห้องสปาสวีทนี้จึงเป็นการหลีกหนีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายและเติมพลังให้กับตัวคุณเอง





ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงคือการหลบภัยส่วนตัวที่กว้างขวางของคุณ ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู รวมถึงเตียงคิงไซส์นุ่มสบาย เมนูหมอน ตู้เสื้อผ้าแบบกว้าง และพื้นที่สำหรับนั่งเล่น เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการสำรวจ ห้องสวีทมีขนาดตั้งแต่ 32 ถึง 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 5 ถึง 8 โดยมีประตูแก้วเลื่อนตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและชีวิตทางทะเล ห้องระเบียงส่วนตัวเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการพักผ่อน ขณะที่โลกใหม่ผ่านเข้ามา คุณจะได้สัมผัสกับบริการอันยอดเยี่ยม อาทิเช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมอำนวยความสะดวก ความหรูหราของห้องน้ำที่มีอุปกรณ์เสริมจาก Dyson รวมถึงบริการเครื่องดื่มและรับประทานอาหารภายในห้องที่ตอบสนองความต้องการของคุณ อีกทั้งยังมีระบบบรรเทาอากาศที่ให้อากาศบริสุทธิ์ 100% และระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง ห้องสวีทแกรนด์ดีลักซ์ระเบียงนี้จึงไม่เพียงแต่มีความหรูหรา แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนอีกด้วย




ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรูของเราได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยมีประตูกระจกแบบเลื่อนที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดออกสู่ระเบียงหรือเทอเรซส่วนตัวให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามดับถือพลังธรรมชาติ ห้องพักขนาด 32 - 34 ตารางเมตร ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 5 ถึง 8 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมถึงเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบายและพื้นที่นั่งเล่นที่ลงตัว สำหรับการผ่อนคลายหลังจากการสำรวจ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่นั่งเล่นและหลับนอนแยกจากกัน แต่ยังมีระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ชื่นชมมหาสมุทรและชีวิตทางทะเลที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น ชุดอาบน้ำที่หรูหรา เครื่องเป่าผม Dyson และบริการของบัตเลอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ที่เต็มไปด้วยไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มตามความชื่นชอบของคุณ รวมถึงบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพัก เพื่อความบันเทิง มีระบบ HDR TV และลำโพง Bose® รวมถึงระบบปรับอากาศที่ทันสมัยเพื่อความสดชื่นอย่างเต็มที่ และยังมีการระบายเสียงที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของสังคมคลาสการเดินเรือ Bureau Veritas ทำให้ระเบียงและห้องสวีทระเบียงแบบหรู กลายเป็นที่พักที่เหมาะแก่การหลบหนีจากความวุ่นวาย และดื่มด่ำกับความงามของทะเลอย่างแท้จริง