
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Jasper
Scenic


ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้

เมืองดอร์ดเรชท์ (Dordrecht) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามและมีเสน่ห์ที่เรือสำราญหลายลำเลือกแวะจอดเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้ เมืองนี้มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านเมืองเก่าที่มีอาคารโบราณและคลองเล็กๆ ที่สวยงาม สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของเมืองในอดีต ดอร์ดเรชท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างพิพิธภัณฑ์ Dordrecht Museum ซึ่งจัดแสดงศิลปะและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังสามารถเดินเล่นตามริมคลอง ชิมอาหารขึ้นชื่อ รวมถึงขนมหวานยอดนิยมจากร้านค้าในท้องถิ่น การคุณสามารถล่องเรือในแม่น้ำเพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามรอบๆ เมือง หรือสัมผัสกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ เช่น ตลาดนัดและเทศกาลที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ด้วยบรรยากาศที่มีเสน่ห์และความหลากหลายของกิจกรรม ดอร์ดเรชท์จึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณได้มาเยือนเนเธอร์แลนด์ มาร่วมสร้างความทรงจำใหม่ๆ ระหว่างการเดินทางสำราญที่นี่คุณจะมีโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รอให้คุณค้นพบ!

ท่าเรือ Bruinisse ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจในภูมิภาค Zeeland ที่มีความงามไม่สิ้นสุด โดยตั้งอยู่ระหว่างน้ำทะเลที่สวยงามและธรรมชาติที่เขียวขจี ท่าเรือแห่งนี้เป็นที่รู้จักในนามศูนย์กลางการประมงและการท่องเที่ยวที่สำคัญ ท่าเรือ Bruinisse มีบรรยากาศที่เงียบสงบ สิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวคือการเดินเล่นริมท่าเรือ ดูการทำงานของเรือประมง และสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวประมงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในช่วงฤดูร้อน ชาวเมืองจะจัดงานเทศกาลต่างๆ เช่น งานกินปู ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสรสชาติอันยอดเยี่ยมของอาหารทะเลสดใหม่ นอกจากกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้นแล้ว ท่าเรือ Bruinisse ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ใน Zeeland อาทิ หมู่บ้านประวัติศาสตร์ Zierikzee และชายหาดอันสวยงามที่ Oosterschelde นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือในคลองที่งดงาม ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คุณได้เห็นทิวทัศน์ที่หลากหลายของภูมิภาค ด้วยความน่าหลงใหลและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ท่าเรือ Bruinisse คือประตูสู่การเดินทางอันมีเสน่ห์ในเนเธอร์แลนด์ ที่จะทำให้คุณมีความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในการเดินทางครั้งนี้อย่างแน่นอน

แอนต์เวิร์ป (Antwerp) ถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดดเด่นอยู่ในประเทศเบลเยียม เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองแห่งเพชรและศิลปะที่สำคัญของยุโรป ด้วยบรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยสร้างสรรค์ผลงานที่นี่ เช่น รูเบนส์ และติซิปิเยอ ไม่เพียงแต่มีความงามของศิลปะเท่านั้น แต่แอนต์เวิร์ปยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเพชรที่มีชื่อเสียง ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและโชว์รูมเพชรที่สวยงาม นอกจากอุตสาหกรรมเพชรแล้ว เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของแฟชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการออกแบบที่ไม่ซ้ำใครและน่าค้นหา และยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น พิพิธภัณฑ์แม่บ้าน รูเบนส์ ซึ่งเป็นบ้านของศิลปินชื่อดัง พร้อมด้วยหอศิลป์อีกมากมาย สัมผัสบรรยากาศสุดหรูในย่านเก่าแก่ของแอนต์เวิร์ป เดินช้อปปิ้งที่ถนนแฟชั่น และเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง จึงไม่แปลกใจเลยที่แอนต์เวิร์ปจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันถึง ระหว่างการเดินทางสำรวจเมืองนี้ คุณจะได้ค้นพบความงดงามที่ซ่อนอยู่และสัมผัสถึงความสร้างสรรค์อันไม่มีที่สิ้นสุดในแอนต์เวิร์ป เมืองที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับคุณด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร.

ท่าเรือ Arnhem อันเลื่องชื่อ ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นจุดหมายที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในบรรยากาศที่หรูหรา ตัวเมือง Arnhem มีชื่อเสียงในการเป็นสถานที่สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นซึ่งสะท้อนให้เห็นในพิพิธภัณฑ์และอนุสาวรีย์ต่าง ๆ ที่มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ พิพิธภัณฑ์ Openluchtmuseum ที่มีการจัดแสดงชีวิตประจำวันของชาวดัตช์ในอดีต พร้อมสวนสวยที่ให้ผลลัพธ์มุมมองที่สวยงาม อีกทั้งท่านสามารถเดินเล่นในสวนพฤกษศาสตร์ Hoge Veluwe ที่มีสะพานไม้สวยงามกลางทุ่งหญ้าและป่าสน สำหรับนักเดินทางที่หลงใหลในศิลปะ อาร์นเฮมยังเต็มไปด้วยแกลเลอรี่งานศิลปะที่หลากหลาย รวมไปถึงปฏิทินกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ทั้งเทศกาลดนตรีและกิจกรรมวัฒนธรรม ที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเยือน มาเยือน Arnhem และค้นพบเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่ยืนยงในราคาสำหรับการเดินทางหรูหราของคุณ ท่าเรือที่เชื่อมโยงคุณกับโลกแห่งความมหัศจรรย์แห่งการท่องเที่ยวรอคุณอยู่ที่นี่!

ดุ๊ยส์เบิร์ก (Düsseldorf) เมืองที่มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์แห่งประเทศเยอรมนี เป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญที่เรือสำราญมักแวะจอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงดงามของเมืองนี้ เมืองแห่งแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์อันงดงาม ที่นี่คุณจะได้พบกับย่านเก่าเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเหนือกาลเวลา รวมถึงอนุสาวรีย์และโบสถ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น โบสถ์ St. Lambertus ที่มีหอคอยเบี้ยวเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีถนนคูอาดสตราซเซ่ (Königsallee) ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมและคาเฟ่บรรยากาศสุดหรู เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่หาไม่ได้จากที่ไหน เมื่อเดินตามริมแม่น้ำไรน์ คุณจะได้สัมผัสกับวิวที่สวยงามของท่าเรือและอาคารโมเดิร์นที่สร้างความสมดุลให้กับบรรยากาศแบบดั้งเดิม และอย่าลืมลิ้มลองอาหารขึ้นชื่ออย่าง "Rheinischer Sauerbraten" หรือ "มีทสตูว์" ที่ทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยรสชาติอันหลากหลาย ดุ๊ยส์เบิร์กจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดหมายปลายทางที่ธรรมดา แต่เป็นประตูสู่ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและศิลปะที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งนี้.

โคเคม (Cochem) เป็นเมืองเล็กในประเทศเยอรมนีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโมเซลล์ ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาเขียวขจีและไร่องุ่นที่น่าหลงใหล เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ด้วยท่าเรือที่สะดวกสบายสำหรับเรือสำราญ โคเคมได้กลายเป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจในเส้นทางเดินเรือสำราญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเมื่อใบไม้เปลี่ยนสี หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือปราสาทโคเคม (Reichsburg Cochem) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา มอบวิวที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ ใกล้ ๆ กันยังมีถนนสายไวน์ที่เด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินกับการชิมไวน์ท้องถิ่นได้ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์โรเซ่ที่ผลิตจากองุ่นแบบพิเศษที่ปลูกในภูมิประเทศที่สวยงามแห่งนี้ นอกจากนี้ แหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารท้องถิ่นอีกมากมายจะทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงการต้อนรับอบอุ่นและมิตรภาพของชาวเยอรมัน เมืองโคเคมจึงไม่เพียงแค่เป็นท่าเรือสำหรับการหยุดพักที่สะดวก แต่อยู่ในใจของนักเดินทางที่ปรารถนาจะเติมเต็มความงดงามและเสน่ห์ในรูปแบบของการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร.

พบกับเมืองเบอร์นคาสเทล-คูส ที่ประดับด้วยเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และความงดงามโดยรอบริมฝั่งแม่น้ำโมเซล เมืองนี้มักถูกเรียกว่า "เพชรเม็ดงามแห่งโมเซล" ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามของอาคารโบราณและภูมิทัศน์ที่เขียวขจีของสวน葡萄ที่ทอดตัวยาวไปตลอดสองฝั่งแม่น้ำ ท่าเรือที่เมืองเบอร์นคาสเทล-คูส เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่การสำรวจวัฒนธรรมและการชิมไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะไวน์ Riesling ที่โด่งดัง เมื่อมาเยือน สามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือบนแม่น้ำโมเซล เพื่อสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามและสงบเรียบ นอกจากโรงบ่มไวน์ที่มีชื่อเสียง คุณยังสามารถเยี่ยมชมปราสาทเบิร์นคาสเทล (Burg Landshut) ซึ่งตั้งอยู่สูงส่งบนเขา ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำได้อย่างตระการตา หรือเดินเล่นตามถนนสายแฟร์นไคลด์ (Fachwerk) ที่มีสถาปัตยกรรมไม้ขวางที่น่าหลงใหล เบอร์นคาสเทล-คูส ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นสถานที่ที่เปิดประตูสู่การเดินทางผ่านกลิ่นอายวัฒนธรรม โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนอย่างไม่รู้ลืม

โคเบลนซ์ (Koblenz) เมืองที่เก่าแก่และสวยงามตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันตกของประเทศเยอรมัน ศูนย์กลางสำคัญที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไรน์และแม่น้ำโมเซลล์ ที่นี่เป็นที่มาของประวัติศาสตร์มากมายที่ยาวนานนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 8 ซึ่งนครโคเบลนซ์นั้นเรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสำรวจได้อย่างเต็มที่เพียงแค่เดินเท้า การขึ้นกระเช้าลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์จะทำให้คุณได้เห็นวิวที่งดงามได้อย่างชัดเจน หรือลองเยี่ยมชมป้อมปราการเอเฮนไบรท์เซน (Ehrenbreitstein) ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ โคเบลนซ์ยังเป็นหนึ่งในพื้นที่มรดกโลกขององค์การยูเนสโกกับหุบเขาไรน์ตอนกลาง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสำรวจได้อย่างน่าตื่นเต้น สิ่งที่ไม่ควรพลาดในโคเบลนซ์ ได้แก่ ปราสาทสโทลเซนเฟลส์, พระราชวังอิเล็กทอรัล และเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่โรยด้วยความโรแมนติกและสแควร์สวยงาม เมื่อเดินผ่านคริสตจักรของพระแม่มารีย์ถึงมหาวิหารนักบุญคาสเตอร์ จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าหลงใหล นอกจากนี้เรายังมีไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างไรส์ลิ่งและสปัตบูร์กันเดอร์ ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโรมันที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

เมืองแมนไฮม์ในประเทศเยอรมนี คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำไรน์และเนคการ์ เมืองนี้มีการออกแบบเมืองตามตารางที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมส่งเสริมสุนทรียภาพด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยและประวัติศาสตร์ที่ยังคงอยู่ในทุกซอกมุม หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือตึกพระราชวังแมนไฮม์ ซึ่งเด่นชัดด้วยความงดงามและสง่างาม ถือเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี นอกจากนี้ ลุยเซินพาร์คที่เขียวขจี ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติ เมืองแมนไฮม์ยังเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมและการค้า ทำให้มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยโอกาสต่างๆ นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปะ เช่น โรงละคร พิพิธภัณฑ์ และเทศกาลดนตรี ก็ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักท่องเที่ยว สำรวจแมนไฮม์เพื่อพบกับประสบการณ์ที่หลากหลายในเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรมที่รุ่งเรือง เป็นการเดินทางที่คุณไม่ควรพลาด!

ท่าเรือที่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) นับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรสำรวจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฝรั่งเศส ท่าเรือที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิลล์ (Ill) นี้ไม่เพียงแต่เป็นที่หยุดพักของเรือสำราญที่ล่องมีเสน่ห์ในยุโรป แต่ยังเป็นประตูสู่วัฒนธรรมที่หลากหลาย ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่มีชื่อเสียงอย่างโดมมหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองแห่งนี้ นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจเมืองเก่าสตราสบูร์กซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยสามารถเดินเล่นในตรอกซอยแคบ ๆ อันเต็มไปด้วยอาคารโบราณและร้านค้าเล็ก ๆ ที่ขายสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ทั้งนี้ เมืองยังมีเสน่ห์ของสวนสาธารณะเบอซา (Parc de l'Orangerie) ที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติ สำหรับผู้ที่รักการชิมอาหาร ไม่ควรพลาดการลองชิม "ชะเปล (Choucroute)" อาหารพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาคนี้ การเยือนสตราสบูร์กจึงเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงกับความงดงามของวัฒนธรรมรอบตัว ในการเดินทางครั้งนี้ คุณจะได้สัมผัสไม่เพียงแต่ความสวยงาม ยังมีความงดงามของชีวิตที่เต็มไปด้วยความหลากหลายซุกซ่อนอยู่ในทุกมุมของเมืองนี้ มาร่วมสร้างความทรงจำในฝรั่งเศสกับเราเถอะ!

เบรอีซัช (Breisach) เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ติดชายแดนฝรั่งเศส โดยตั้งอยู่ริมน้ำไรน์ในหุบเขาไรน์ สถานที่แห่งนี้มีอายุกว่า 4,000 ปี และเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด เมืองเบรอีซัชเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจอดีตผ่านพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมือง ที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรตั้งแต่อดีตสมัยหิน ไปจนถึงยุคเซลติกและโรมัน รวมถึงยุคกลางจนถึงปัจจุบัน หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ซึ่งมีความงดงามและสมบูรณ์แบบ ทั้งจากแท่นบูชาของมาสเตอร์ HL จิตรกรรมฝาผนังโดยมาร์ติน ชองกาเกอร์ รวมถึง สถาปัตยกรรมแบบโกธิกสูงและโรมาเนสก์ นอกจากนี้ยังมี Radbrunnenturm ซึ่งมีบ่อที่ลึกถึง 41 เมตร ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมทำให้ได้สัมผัสกับความเป็นมาอย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแค่โครงสร้างทางประวัติศาสตร์เท่านั้น เบรอีซัชยังมีบ้านน้ำเงินซึ่งเป็นศูนย์กลางชุมชนชาวยิวในอดีต ปัจจุบันเป็นที่แสดงความทรงจำเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของเมือง ชวนให้ทุกคนได้เดินทางย้อนเวลาไปกับเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และความงามที่ยังคงอยู่ในเบรอีซัช จึงเป็นจุดหมายที่น่าหลงใหลสำหรับผู้ที่รักการเดินทางและประวัติศาสตร์.

บาเซิล เมืองที่ตั้งอยู่ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่โดดเด่นด้วยความสวยงามและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งอยู่บริเวณมุมของแม่น้ำไรน์ ทำให้บาเซิลมีภูมิอากาศที่ต้องมนต์ สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การเดินเล่นและสำรวจความเป็นไปของเมือง เมืองบาเซิลเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์มาตั้งแต่ในช่วงเรอเนซองส์ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ Kunstmuseum ซึ่งเป็นเจ้าของผลงานอันล้ำค่าของปีกัสโซ ซึ่งเขาได้มอบผลงานให้กับเมืองนี้เมื่อปี 1967 ด้วยความภาคภูมิใจและรู้สึกประทับใจในวัฒนธรรมที่นี่ นอกจากนี้ บาเซิลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น โบราณสถานอ็อกสต้า รอริคา (Augusta Raurica) ที่เป็นหนึ่งในสวนโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และกิจกรรมมากมายในช่วงฤดูร้อนที่สร้างสรรค์ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการว่ายน้ำในแม่น้ำไรน์ รับประทานอาหารนอกบ้าน หรือสัมผัสกับเทศกาลและคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา บาเซิลยังมีร้านอาหารที่ได้รับรางวัล GaultMillau และมิชลินมากมาย พร้อมกับการแสดงทางศิลปะที่หลากหลาย ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครในเมืองนี้ เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเดินทางสู่เมืองที่ล้ำค่าทางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งนี้เถอะ!




มองจากยอดเขาเทือกเขาแอลป์สวิส ซุกซ่อนอยู่ในมุมอันงดงามของทะเลสาบเจนีวา เมืองมอนเทรอซ์ (Montreux) เป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้คุณหลงใหลด้วยเสน่ห์อันแสนโรแมนติกและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งจัดเทศกาลดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับวังชิลลอน (Chillon Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่มีอายุกว่า 1,000 ปี สัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสวิส การเดินทางมายังมอนเทรอซ์ไม่เพียงแค่ได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกสรร ตั้งแต่การเดินเล่นเลียบทะเลสาบ ไปจนถึงการสำรวจแหล่งผลิตไวน์ในภูมิภาค Lavaux ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก นอกจากนี้ คุณยังสามารถนั่งรถไฟขึ้นไปยังยอดเขาโรชเดอเนอร์ (Rochers-de-Naye) เพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลสาบและเทือกเขาที่รายล้อม สำหรับท่านที่รักการท่องเที่ยวอย่างหรูหรา การพักผ่อนในรีสอร์ทสุดหรูพร้อมบริการที่เหนือระดับและอาหารเลิศรส จะทำให้การเดินทางของคุณในมอนเทรอซ์เต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน นี่คือช่วงเวลาที่คุณจะรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาตลอดทั้งการเดินทางในสวิสเซอร์แลนด์ ที่มอนเทรอซ์, ทุกวันที่คุณอยู่ที่นี่ เป็นวันที่มีค่าสำหรับการสร้างประสบการณ์ที่ตราตรึงใจในดินแดนแห่งสวนดอกไม้และเนินเขาอันเป็นเอกลักษณ์แห่งนี้.

เจนีวา เมืองแห่งความสง่างามและวัฒนธรรมที่เปล่งประกายอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญที่ต้องการให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำ จากท่าเรือคุณจะได้เห็นทะเลสาบเจนีวาอันเงียบสงบและสวยงาม พร้อมวิวขุนเขาที่โอบล้อมสร้างบรรยากาศแห่งความโรแมนติก เดินทางต่อไปกับการสำรวจศิลปะและประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาด คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อันมีชื่อเสียงเช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ และพิพิธภัณฑ์สหประชาชาติที่ตั้งอยู่ในอาคารขนาดใหญ่ที่งดงาม นอกจากนี้ อย่าลืมแวะที่สวนอเวนิวเพื่อชมดอกไม้และน้ำพุที่สวยงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง เจนีวานำเสนอสินค้าจากแบรนด์หรู เช่น นาฬิกาสวิสและแฟชั่นสุดอลังการ หากคุณต้องการลองลิ้มรสอาหารท้องถิ่น ร้านอาหารรอบท่าเรือมีเมนูสุดพิเศษซึ่งมีความหลากหลายและล้ำเลิศรอให้คุณมาสัมผัส ประสบการณ์การเดินทางในเจนีวาจึงเป็นการผสานความหรูหราเข้ากับธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างลงตัว ร่วมสร้างความทรงจำที่อาจจะไม่มีวันลืมเลือน และเริ่มการเดินทางของคุณวันนี้!







ห้องสวีทเจ้าของราชา บนดาดฟ้า Diamond Deck เป็นที่สุดของความหรูหราที่มาพร้อมกับพื้นที่กว้างขวางถึง 315 ตารางฟุต บริการที่ดีเยี่ยม การดูแลอย่างรอบคอบ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงระเบียงกลางแจ้ง พื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำขนาดใหญ่ ห้องสวีทนี้มีเตียงควีนไซส์ Scenic Slumber Bed ที่สะดวกสบาย และที่นั่ง Scenic Sun Lounge ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้ในทันที ด้วยบริการเฉพาะตัวจากบัตเลอร์ รวมถึงการทำความสะอาดเสื้อผ้าและรองเท้าอย่างไม่จำกัด การบริการชาร้อนและกาแฟเช้าตรู่ รวมถึงของว่างอร่อยที่ส่งถึงห้องทุกวัน สามารถเพลิดเพลินกับการทานอาหารที่ Table La Rive หรือ Table d’Or โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า รวมถึงเครดิตในบอร์ดมูลค่า 200 ยูโรสำหรับใช้ใน Wellness Centre และบริการรับส่งส่วนตัวในยุโรป ห้องน้ำที่กว้างขวางมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ที่เติมให้ทุกวัน และบริการเตรียมเตียงในตอนกลางคืน เพียงแค่ขั้นตอนการเลือกหมอนที่คุณต้องการ ใช้เวลาผ่อนคลายอย่างแท้จริงในห้องสวีทที่สะดวกสบายแห่งนี้




ห้องสวีทรอยัลพานอรามาที่ตั้งอยู่บนชั้น Diamond Deck เป็นสุดยอดแห่งความหรูหราที่มอบพื้นที่กว้างขวาง บริการที่ไร้ที่ติ และรายละเอียดที่พ thoughtful อย่างพิถีพิถัน ห้องสวีทนี้มีระเบียงกลางแจ้งและพื้นที่นั่งเล่นให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ พร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แยกเป็นส่วนตัว โดยภายในมีเตียง Scenic Slumber ขนาดควีนที่หรูหรา และ Scenic Sun Lounge ที่เปิดชมวิวได้กว้างโดยกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังได้รับเชิญเป็นพิเศษให้รับประทานอาหารที่ Table La Rive หรือ Table d’Or รวมถึงการจองห้องอาหารที่มีลำดับความสำคัญ บริการต้อนรับด้วยแชมเปญขนาด 750 มล. ฟรี พร้อมเครดิต onboard 200 ยูโรเพื่อใช้ใน Wellness Centre การบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่รวมถึงบริการซักรีด ขัดรองเท้า พร้อมชาและกาแฟในยามเช้า และขนมคานาเป้ที่ส่งถึงห้องทุกวัน นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ที่เติมใหม่ทุกวัน เมนูหมอนที่ปรับให้เหมาะสม รวมถึงบริการจัดเตียงในยามค่ำคืน เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าใส่ในบ้าน รวมถึงตู้นิรภัยในห้องพัก เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและน่าจดจำในทุกด้าน



ห้องสวีทระเบียงหลวงที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Diamond Deck คือที่สุดแห่งความหรูหราด้วยพื้นที่กว้างขวาง การบริการที่ยอดเยี่ยม และการตกแต่งที่คิดมาอย่างพิถีพิถัน ห้องนี้มีระเบียงกลางแจ้ง พื้นที่นั่งเล่นสำหรับการผ่อนคลาย และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำพร้อมผลิตภัณฑ์อาบน้ำคุณภาพสูง ห้องสวีทนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Scenic Slumber Bed ที่มอบความสะดวกสบายอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมี Scenic Sun Lounge ที่ให้มุมมองที่กว้างขวางเพียงแค่กดปุ่ม เพลิดเพลินไปกับบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่ให้บริการซักรีดไม่จำกัด บริการทำความสะอาดรองเท้า ชาและกาแฟในช่วงเช้า และการส่งคานาเป้หรือผลไม้ทุกวัน รวมไปถึงบาร์ในห้องพักที่เติมใหม่ทุกวันและเมนูหมอนที่หลากหลายที่ช่วยให้การพักผ่อนเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังมีการเชิญชวนพิเศษในการรับประทานอาหารที่ Table La Rive หรือ Table d’Or พร้อมการจองล่วงหน้าที่มีสิทธิพิเศษที่สถานที่รับประทานอาหารที่เลือกไว้ และเครดิตในเรือมูลค่า €200 เพื่อใช้ใน Wellness Centre ทำให้การเข้าพักในห้องสวีทนี้เป็นประสบการณ์ที่หรูหราและไม่เหมือนใครในทุกๆ ด้าน




ห้องสวีทระเบียงตั้งอยู่บนดาดฟ้า Sapphire และ Diamond ตกแต่งอย่างมีสไตล์และโดดเด่นด้วยระเบียงกลางแจ้งที่กว้างขวางพร้อมพื้นที่ Scenic Sun Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ภายในห้องมีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมอ่างล้างหน้าหรูหราและฝักบัวที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง ห้องนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Scenic Slumber Bed ที่ให้ความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมบริการพิเศษจากบัตเลอร์สำหรับทุกห้อง พร้อมด้วยบริการซักรีดฟรีหนึ่งครั้งต่อห้อง และบริการชากาแฟตั้งแต่เช้า สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องยังรวมถึงบริการเครื่องดื่มในห้องซึ่งมีมินิบาร์ที่เติมเต็มทุกวัน เมนูหมอนที่มีความหลากหลาย รวมถึงหมอนกันแพ้ หมอนเนื้อความจำ และหมอนอื่น ๆ ที่ช่วยให้การนอนหลับของคุณมีคุณภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังมีบริการจัดเตียงในตอนกลางคืน เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าใส่ในห้อง รวมถึงตู้เซฟในห้องและบริการทำความสะอาดรองเท้าอยู่เสมอ เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและหรูหราอย่างแท้จริง



ห้องสวีทสุดหรูพร้อมระเบียง ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดที่ด้านหน้าเรือบนดาดฟ้า Sapphire และ Diamond ซึ่งมอบประสบการณ์ที่หรูหราและกว้างขวางกว่าห้องพักอื่น ๆ ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดของ Scenic Sun Lounge ที่สามารถเปิดรับวิวได้ในมุมกว้างเพียงแค่กดปุ่ม ภายในห้องพักประกอบไปด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ที่เรียกว่า Scenic Slumber Bed ที่มอบความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ ห้องน้ำกว้างขวางมีอุปกรณ์อาบน้ำคุณภาพสูงเพื่อความผ่อนคลายเหนือระดับ นอกจากนี้ ห้องพักยังมอบบริการที่หลากหลาย เช่น การบริการผู้ช่วยส่วนตัวที่มากับทุกห้องพัก การบริการซักรีดฟรีหนึ่งครั้งต่อห้อง ความสะดวกสบายในการดื่มชากาแฟยามเช้า บริการเครื่องดื่มภายในห้องพัก มินิบาร์ที่เติมทุกวัน เมนูหมอนซึ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภท รวมถึงหมอนป้องกันอายุ หมอนลดภูมิแพ้ และหมอนหนุนรูปทรงความทรงจำ พร้อมการบริการเปิดเตียงทุกคืน พร้อมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าสลิปเปอร์ และระบบรักษาความปลอดภัยในห้องพัก ด้วยบริการขัดรองเท้าและบริการจอดรถ การพักผ่อนในห้องสวีทสุดหรูพร้อมระเบียงนี้จะสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในทุกการเดินทาง



ห้องสวีทระเบียงจูเนียร์ที่กว้างขวางเหล่านี้ ตั้งอยู่บนดาดฟ้าซาฟไฟร์และเพชร มาพร้อมระเบียงส่วนตัวที่ยาวเต็มที่ พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นแบบ Scenic Sun Lounge และห้องน้ำในห้องที่หรูหราพร้อมอ่างล้างมือขนาดใหญ่และฝักบัว เราขอเสนอเตียง Scenic Slumber ขนาดควีนสุดหรู พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถใช้ได้ในทุกสภาพอากาศเพียงกดปุ่มเดียว ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์หรูหราที่ให้ความรู้สึก ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิพิเศษในการรับประทานอาหารที่ Table La Rive/Table d’Or พร้อมการจองที่_priority สำหรับร้านอาหารที่เลือกสรร และบริการบัตเลอร์ส่วนตัวสำหรับทุกห้องสวีท สิทธิประโยชน์อื่นๆ รวมถึงบริการซักรีดฟรีหนึ่งครั้งต่อห้องสวีท, การรีดเสื้อผ้าสองชิ้นต่อวัน, บริการอาหารเช้าในห้องพร้อมชาหรือกาแฟตอนเช้า, การจัดส่งขนมคานาเป้หรือผลไม้ทุกวัน, มินิบาร์ที่เติมทุกวัน, เมนูหมอนที่รวมถึงหมอนกันริ้วรอย, หมอนกันภูมิแพ้ และหมอนรองคอแบบเมมโมรี่โฟม, บริการเตรียมที่นอนในตอนเย็น, เสื้อคลุมอบตัวและรองเท้าแตะ, รวมถึงตู้นิรภัยในห้องสวีท เพื่อให้การเข้าพักของท่านเป็นไปอย่างสะดวกสบายและหรูหรา


ห้องสวีทระเบียงเดี่ยว ตั้งอยู่บนดาดฟ้าซาฟไฟร์ เป็นที่พักอันยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางเดี่ยว คุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากระเบียงขนาดเต็มพร้อมพื้นที่นั่งเล่น Scenic Sun Lounge ที่สามารถเปิดออกได้เพียงกดปุ่มเดียว ห้องน้ำของคุณได้รับการตกแต่งอย่างมีระดับด้วยอ่างล้างหน้าหรูหราและฝักบัวที่สร้างความสะดวกสบายอย่างแท้จริง ในห้องสวีทนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Scenic Slumber Bed ที่ให้ความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่พร้อมดูแลคุณตลอดการเข้าพัก บริการซักรีดฟรีหนึ่งครั้งต่อการเข้าพัก และความสะดวกสบายอื่น ๆ รวมถึงบริการ ชาและกาแฟตอนเช้า และบริการเครื่องดื่มในห้องพัก พร้อมกับมินิบาร์ที่เติมให้ใหม่ทุกวัน เพื่อให้คุณได้สัมผัสช่วงเวลาผ่อนคลายอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีเมนูหมอนพิเศษให้เลือก เช่น หมอนป้องกันวัยและหมอนเนื้อนุ่ม รวมถึงบริการจัดเตรียมเตียงในตอนเย็น สำหรับการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบในห้องสวีทระเบียงเดี่ยวนี้


ห้องสวีทมาตรฐานบนชั้น Jewel Deck มอบประสบการณ์ที่น่าหลงใหลในการล่องเรือแม่น้ำ ด้วยความสะดวกสบายและความหรูหราที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุด ห้องนี้ตกแต่งด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ที่หรูหรา มีห้องน้ำกว้างขวางพร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่พร้อมดูแลคุณอย่างเต็มที่ พร้อมบริการซักรีดฟรีหนึ่งครั้งต่อห้องในระหว่างการเข้าพักของคุณ ลิ้มลองชาร้อนและกาแฟในตอนเช้าทุกวัน พร้อมกับมินิบาร์ที่เติมให้ทุกวัน คุณยังสามารถเลือกหมอนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหมอนเพื่อสุขภาพ หมอนกันแพ้ หรือหมอนเมโมรีโฟม บริการขัดรองเท้าและบริการวาล เล็กๆ น้อยๆ ก็มีให้ รวมถึงการเตรียมเตียงก่อนนอนในทุกคืน และมีตู้นิรภัยภายในห้องเพื่อความอุ่นใจตลอดการเข้าพัก