
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Scenic Crystal
Scenic



โคโลญ (Cologne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศนี้ มีอายุกว่า 2,000 ปี และถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค เมืองโคโลญเป็นที่รู้จักกันดีจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดคือมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ที่ตั้งตระหง่านคู่ระหว่างตึกเก่าในย่านเก่า (Old Town) เมื่อมาเยือนย่านเก่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมศาลากลางเก่า (Old Town Hall) และโบสถ์โรมันเซนต์มาร์ติน (Great St Martin) นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โมเสคดีโอโนซัส (Roman Dionysus mosaic) และบ้านโอเวอร์สโทลเซน (Overstolzenhaus) ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การค้นหาด้วย อีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นในโคโลญคือสะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ซึ่งคู่รักทั้งจากในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาทำพิธีผูกสัมพันธ์โดยการติดล็อกที่ราวสะพาน แล้วทิ้งกุญแจลงสู่แม่น้ำไรน์ เพื่อหวังความรักที่ยืนยาวอย่างมั่นคง การแสดงคาบาเร่ต์และวัฒนธรรม LGBTQ+ ที่เปิดเผยของเมืองนี้ ยังเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับประสบการณ์การเยี่ยมชมโคโลญอีกด้วย มาประสบการณ์ความงดงามแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความรักในโคโลญแล้วคุณจะหลงใหลไม่รู้ลืม!

เมืองบอนน์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์กลางประเทศเยอรมนี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าค้นหาสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความสง่างามและวัฒนธรรม เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีตะวันตก ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งวรรณกรรมและมีชื่อเสียงจากการเป็นบ้านเกิดของนักประพันธ์ชื่อดังอย่าง ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือบอนน์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์เบโธเฟน ที่ให้คุณได้สัมผัสชีวิตและผลงานของนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ และสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ นอกจากนั้น เมืองบอนน์ยังมีตลาดเก่าที่มีชีวิตชีวาและร้านค้าโบราณซึ่งขายของที่ระลึกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าลืมลิ้มลองความอร่อยของอาหารพื้นเมืองหรือชิมเบียร์เยอรมันแท้ที่นี่อีกด้วย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางเพื่อสัมผัสความงามทางธรรมชาติ สามารถนั่งเรือสำราญไปตามแม่น้ำไรน์และชมทัศนียภาพสองฝั่งที่มีปราสาทโบราณและไร่องุ่นเรียงราย สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและยากที่จะลืมเลือนสำหรับทุกคนที่มาเยือนบอนน์


เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

มิลเทนแบร์ก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบาวาเรีย ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ เมืองนี้เติบโตจากรากฐานในยุคกลางผ่านการปลูกองุ่น การค้าไวน์ การประมง และการเดินเรือ จนกลายเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างสวยงามในปัจจุบัน เมื่อคุณมาที่มิลเทนแบร์ก อย่าพลาดที่จะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมืองมิลเทนแบร์ก ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารไม้ครึ่งหลังที่เรียกว่า “อัลเต อัมต์สเคลเลอรี” ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมไปจนถึงยุคโรมัน นอกจากนี้ การเยี่ยมชมปราสาทมิลเทนแบร์กซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบิร์กมิลเทนแบร์ก ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะคลาสสิคและร่วมสมัยในบรรยากาศที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ยอดหอคอยของปราสาทซึ่งสูงถึง 27 เมตร เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายและดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์แสนงดงามของหุบเขาไมน์ที่อยู่เบื้องล่าง ช่วงเวลาอันสงบสุขที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกหลงใหลในเสน่ห์ของมิลเทนแบร์กอย่างแท้จริง

เวิร์ธไฮม (Wertheim) เป็นเมืองท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมายน์ในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามทางธรรมชาติ พร้อมด้วยประวัติศาสตร์อันหลากหลายที่รอให้คุณได้ค้นพบ จากจุดนี้ คุณสามารถขึ้นเรือสำราญและสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราในระหว่างการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวอันน่าหลงใหล เมืองเวิร์ธไฮมเป็นที่รู้จักด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ลงตัว โดยเฉพาะปราสาทเวิร์ธไฮมที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และตอนนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ การเดินเล่นในย่านเมืองเก่าที่มีบ้านเรือนยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยการชิมไวน์ท้องถิ่นซึ่งมีชื่อเสียงมากในแถบนี้ หรือเข้าร่วมงานเทศกาลประจำปีที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง เวิร์ธไฮมจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและล้ำค่าในการเดินทางไปบนเรือสำราญ พร้อมกับประสบการณ์วัฒนธรรมที่เข้มข้นในเยอรมนี

วือซบวร์ก เมืองอันงดงามในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ สลับซับซ้อนด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและไวน์ฟรังโกเนียนที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังเรสซิเดนซ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดดเด่นด้วยบันไดอันวิจิตร ภาพเขียนประดับขนาดใหญ่ และห้องโถงอันโอ่อ่า เมื่อเดินทางมายังวือซบวร์ก ต้องไม่พลาดปราสาทเฟสตุง มาริอ์เบิร์ก ซึ่งตั้งตระหง่านโดดเด่น ให้มุมมองที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ นอกจากนี้สะพานเก่าแก่ Alt Mainbrücke ยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย สำหรับคนรักไวน์ วือซบวร์กมีโรงกลั่นไวน์มากมายพร้อมทั้งนำเสนอการทัวร์และชิมไวน์ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำไวน์ในบรรยากาศสบายๆ ที่ยังคงรักษาภูมิทัศน์ดั้งเดิมของอาหารบาวาเรียน เช่น ซุปไวน์ กีรัปฟ์เตอร์ (ชีสทา) และเซาเออร์บราตัน (เนื้อวัวตุ๋นในไวน์) ที่ทานคู่กับไวน์ท้องถิ่น วือซบวร์กเป็นจุดหมายปลายทางที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามของเยอรมนีอย่างแท้จริง

บัมแบร์ก (Bamberg) คือเมืองอันงดงามในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ประกอบด้วยเจ็ดเขา และที่จุดบรรจบของแม่น้ำเรกนิทซ์และไมน์ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ที่นี่มักดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างศาลากลาง (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเรกนิทซ์ โดยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามให้ได้ชม อีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจคือบัมแบร์กคาประตู (Bamberg Cathedral) ที่มี 4 หอคอยและการแกะสลักหินอันละเอียดอ่อน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของเมือง สามารถแวะไปที่เขตตลาดสวน โดยมีบ้านประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นที่ปลูกและส่งออกผลผลิต เช่น หัวหอม และลูกไลเซอรีซ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง บัมแบร์กยังมีร้านค้าเก๋ๆ เจ้าของท้องถิ่นตั้งอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ และเมื่อสิ้นสุดวัน อย่าลืมแวะไปสัมผัสเบียร์เยอรมันรสเลิศที่ผับเบียร์ของเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีโรงเบียร์ดั้งเดิมถึง 9 แห่ง ค้นพบมนต์เสน่ห์ของบัมแบร์กและให้ความใฝ่ฝันในการเดินทางมาสัมผัสเมืองอันมีชื่อเสียงนี้!

นูเร็มเบิร์ก คือ เมืองในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือของบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของบาวาเรีย เมืองนี้มีเอกลักษณ์ด้วยอาคารหลังคาแดงและสถาปัตยกรรมยุคกลางที่งดงาม ปราสาทจักรพรรดิที่ตั้งอยู่บริเวณเหนือเมืองเคยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของจักรวรรดิโรมัน สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เยอรมันนิชเนชันแนลมิวเซียม (Germanisches Nationalmuseum) คือ แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ มูลนิธินี้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ใช้ภาษาเยอรมัน โดยมีนิทรรศการที่หลากหลายตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงปัจจุบัน การเดินเที่ยวชมเมืองแบบเดินเท้าจะทำให้คุณได้พบกับน้ำพุ สระว่ายน้ำ โบสถ์ และสมบัติศิลปะที่น่าสนใจ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สีสันและวัฒนธรรมอันหลากหลายของเมืองนี้โดยละเอียด นอกจากนี้ยังมีตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน นูเร็มเบิร์ก คริสต์กิ้นเดิ้ลสมัต (Nuremberg Christkindlesmarkt) ที่จะทำให้คุณสามารถหาซื้อของตกแต่งมือทำและสัมผัสรสชาติของขนมขิง ไวน์อุ่น และไส้กรอกย่างจากร้านที่ตั้งเรียงรายกว่า 180 ร้าน เตรียมพร้อมที่จะให้ความรู้สึกอัศจรรย์ในการเดินทางสู่เมืองที่มีเสน่ห์นี้ ที่จะรายล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่!

เรเกนสบูร์ก เป็นเมืองเก่าแก่อยู่ในบาวาเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำดานูบ ที่ซึ่งไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเรเกนและนาอ์บ เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสะพานหินสมัยศตวรรษที่ 12 ที่มี 16 โค้ง ซึ่งข้ามแม่น้ำดานูบเข้าสู่เมืองเก่า ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในเยอรมนี สถาปัตยกรรมที่เด่นของเรเกนสบูร์กคือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สไตล์โกธิก ซึ่งมีคู่ยอดแหลมสูงชะลูดที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความงดงาม สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ประตูโรมันโบราณจากศตวรรษที่ 2 และพระราชวังทูนและทักซิสสมัยศตวรรษที่ 18 จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาช้านาน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอุทยานและสวนสาธารณะที่ล้อมรอบ รวมถึงเส้นทางเดินและจักรยานริมน้ำที่มอบความสงบและความสุขให้แก่การเดินทางในเมืองโบราณแห่งนี้ ขอบอกเลยว่าเรเกนสบูร์ก คือจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเยอรมนีอย่างแท้จริง

เมืองพาสเซา ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนีติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย ได้แก่ ดานูบ อินน์ และอิลซ์ มาบรรจบกัน ซึ่งมักเรียกกันว่า "เมืองสามแม่น้ำ" แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในพาสเซาคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และพิพิธภัณฑ์แก้ว ที่นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ย่านเมืองเก่าของพาสเซา เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น ปราสาทเฟสเต้ โอเบอร์เฮาส์ และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ที่มีความสวยงามตระการตา สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกสำหรับการเดินสำรวจริมแม่น้ำและซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ พาสเซายังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา โดยมีการแสดงละครและคาบาเรต์ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสความสนุกสนานที่โรงละครเก่าของเจ้าชายบิชอป รวมถึงเมนูอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารบาวาเรียและออสเตรียที่อบอุ่นเต็มไปด้วยรสชาติที่สืบทอดจากวัฒนธรรมดั้งเดิม อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองอันสวยงามแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดหมายที่สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ของศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัว!

ท่าเรือชลเกิน (Schlögen) ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์เหนือริมแม่น้ำดานูบ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามของธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ยามพระอาทิตย์ตก ซึ่งจะทำให้พวกเขาหลงใหลในความโรแมนติกของบรรยากาศรอบๆ นอกจากการล่องเรือ ณ ท่าเรือนี้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจเส้นทางเดินป่าที่รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของชลเกินถือเป็นที่ตั้งของกิจกรรมต่างๆ เช่น การปั่นจักรยาน ท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ หรือแม้แต่การเยี่ยมชมไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น ไร่องุ่นชลเกินที่ผลิตไวน์ชั้นเลิศที่ควรลิ้มลอง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ฝากความฝันไว้กับการเดินทาง ท่าเรือชลเกินจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ในออสเตรีย สร้างแรงบันดาลใจและความปรารถนาในการเดินทางไปยังสถานที่ที่สวยงามแห่งนี้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ดือร์นสไตน์ (Dürnstein) เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรีย ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่มรดกโลกและภูมิภาคไวน์วาคาอู (Wachau) ที่มีชื่อเสียง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่งดงาม ทำให้ดือร์นสไตน์กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวคอไวน์ไม่ควรพลาด บรรดานักชิมสามารถสนุกไปกับการชิมไวน์และเข้าพักในไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงหลากหลายแห่ง นอกจากนี้ การเดินสำรวจเมืองยังเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน เพราะมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามอยู่ทั่วถึง ช่วยให้ท่านได้สัมผัสวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของหุบเขาดานูบ เด็ก ๆ ก็สามารถสนุกไปกับการเล่นในพื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งมีสนามเด็กเล่นและเส้นทางธีมให้สำรวจ ขณะเดียวกัน สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มีน้ำอุ่นเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส อย่าง Kuenringerbad ก็เป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองที่น่าประทับใจ สามารถเลือกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวเมืองจากมุมสูง หรือจะเดินขึ้นเขาสำรวจซากปราสาทดือร์นสไตน์ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าค้นหา เมืองนี้คือป้อมปราการในอดีตที่มีความงามจากธรรมชาติรอบตัว รอให้คุณมาเยี่ยมชมและสัมผัสเสน่ห์ของออสเตรียอย่างแท้จริง

เมืองเครมส์ (Krems an der Donau) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรีย เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ ด้วยทำเลที่ตั้งบนริมฝั่งแม่น้ำดานูบและอยู่ห่างจากกรุงเวียนนาเพียง 70 กิโลเมตร เครมส์เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในหุบเขาวาคาว (Wachau Valley) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่มีมากกว่า 1,000 ปี ผ่านทางถนน ซอย วัด และปราสาทที่ยังคงความงดงาม นอกจากนี้ เมืองนี้ก็มีความร่วมสมัยในการจัดแสดงศิลปะทันสมัยและวรรณกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเดินชมเมืองที่ได้รับความนิยมจะพาท่านไปสำรวจย่านเก่าแก่ของเครมส์ รวมถึง "Art Mile" และพิพิธภัณฑ์เครมส์ (Museum Krems) ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง นอกจากนี้ ความหลากหลายของอาหารและเครื่องดิ่มก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด โดยร้านอาหารและบาร์ไวน์ที่ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารและชิมไวน์ที่น่าจดจำ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันอบอุ่นและการต้อนรับจากชาวเมือง ทำให้เครมส์เป็นจุดหมายที่น่าจดจำในทริปท่องเที่ยวของคุณ





ท่าเรือที่วิวัฒนาการสู่ประสบการณ์แห่งการเดินทางอันหรูหรา ประเทศโครเอเชีย ด้วยชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพอันงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย นำเสนอสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอย่าง “อุทยานแห่งชาติพลิตวิซ พร้อมน้ำตกพลิตวิซ” ซึ่งถือเป็นมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อเรือสำราญของคุณเข้าเทียบท่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับเส้นทางเดินป่าในพาร์คนี้ที่ทอดยาวไปตามทะเลสาบที่มีน้ำสีมรกตใส จุดที่สวยที่สุดคือ น้ำตกสูงใหญ่ที่น cascading ลงมาให้เห็นอย่างงดงาม เพียงเดินตามทางเดินไม้ที่สร้างอย่างประณีต คุณจะได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง น้ำเสียงของน้ำตกจะอบอวลดั่งเสียงเพลงที่ช่วยเติมเต็มอารมณ์ได้อย่างมีสไตล์ นอกจากการชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การพายเรือคายัคหรือการถ่ายภาพเพื่อบันทึกความทรงจำ มาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางอันหรูหราในโครเอเชียที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนพบกับสวรรค์บนดิน พร้อมที่จะให้ความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนกลับคืนมาอย่างแน่นอน!











ห้องสวีทเจ้าของราชา บนดาดฟ้า Diamond Deck เป็นที่สุดของความหรูหราที่มาพร้อมกับพื้นที่กว้างขวางถึง 315 ตารางฟุต การบริการที่ไร้ที่ติ และการตกแต่งที่ละเอียดละออ ห้องนี้มีระเบียงกลางแจ้งและพื้นที่นั่งเล่นที่แสนสบาย พร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำ พร้อมผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับการอัพเกรด ภายในห้องจะมีเตียงขนาดควีนไซส์ Scenic Slumber Bed ที่ให้ความสบายสุดๆ และยังมี Scenic Sun Lounge ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อย่างกว้างขวางเพียงแค่กดปุ่ม นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่รวมถึงการซักรีด เสื้อผ้า, บริการกดที่พัก, ชากาแฟตอนเช้า และการจัดส่งขนมคาแนปé หรือผลไม้ทุกวัน รวมถึงเครดิตในบอร์ด €200 สำหรับใช้ใน Wellness Centre การบริการพิเศษอื่นๆ ได้แก่ การจองร้านอาหารที่เลือกได้อย่างมีลำดับความสำคัญ และการเชิญชวนให้มาทานอาหารที่ Table La Rive หรือ Table d’Or อีกทั้งยังมีกระเช้าสุราฟรี 750 มล. พร้อมบริการต่างๆ เช่น มินิบาร์ที่เติมทุกวัน เมนูหมอน และบริการจัดเตียงในตอนกลางคืน เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของท่านในทุกๆ รายละเอียด






ห้องสวีทรอยัลพานอรามา ซึ่งตั้งอยู่บน Diamond Deck เป็นห้องพักสุดหรูที่มอบพื้นที่กว้างขวาง บริการที่ไม่มีที่ติ และความพิถีพิถันที่คิดมาอย่างดี ห้องพักนี้มีระเบียงกลางแจ้ง พื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายภายหลังจากวันเดินทาง ห้องนอนมาพร้อมกับเตียงคู่ขนาดควีนที่หรูหรา Scenic Slumber Bed และมุมพักผ่อน Scenic Sun Lounge ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสวิวอันงดงามในพริบตา ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ พร้อมแยกฝักบัวและอ่างอาบน้ำ อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำที่ปรับปรุงใหม่ ผู้เข้าพักจะได้รับสิทธิพิเศษในการรับประทานอาหารที่ Table La Rive หรือ Table d’Or และสามารถจองร้านอาหารที่เลือกได้อย่างมีลำดับความสำคัญ นอกจากนี้ยังมีบริการต้อนรับด้วยแชมเปญฟรีขนาด 750 มิลลิลิตร เครดิตบนเรือ €200 ใช้จ่ายใน Wellness Centre รวมถึงการบริการบัตเลอร์ส่วนตัวซึ่งมีบริการซักรีดและทำความสะอาดรองเท้าอย่างไม่จำกัด บริการชาร้อนและกาแฟตอนเช้า และการส่งขนมขบเคี้ยวหรือผลไม้ทุกวัน ส่วนมิินิบาร์จะถูกเติมเต็มทุกวัน เพื่อให้ผู้เข้าพักรู้สึกสะดวกสบายและผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในห้องสวีทรอยัลพานอรามา





ห้องสวีทระเบียงหลวงตั้งอยู่บนชั้น Diamond Deck เป็นห้องพักที่เต็มไปด้วยความหรูหรา และให้ความสะดวกสบายในพื้นที่กว้างขวางพร้อมบริการที่ไม่มีที่ติ ห้องนี้มีระเบียงกลางแจ้งที่ให้นั่งพักผ่อนพร้อมพื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างมีระดับ ห้องพักนี้ยังมีเตียงควีนไซส์ Scenic Slumber Bed เพื่อการนอนหลับที่ดีเยี่ยม, Scenic Sun Lounge ที่สามารถปรับมุมมองได้ด้วยการกดปุ่มเดียว ห้องน้ำขนาดใหญ่มีการแยกส่วนระหว่างฝักบัวและอ่างอาบน้ำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมอบบริการพิเศษ เช่น การจองโต๊ะที่ Table La Rive หรือ Table d’Or แบบพิเศษ, การสำรองที่นั่งล่วงหน้าที่ร้านอาหารที่เลือก, และขวดแชมเปญต้อนรับขนาด 750 มล. รวมถึงเครดิตบนเรือมูลค่า €200 สำหรับใช้ใน Wellness Centre บริการรับส่งส่วนตัวในยุโรป, บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่มีซักรีดสั่งทำไร้ขีดจำกัด, การจ่ายรองเท้า และบริการชาและกาแฟในยามเช้า พร้อมด้วยการจัดส่งขนมหรือผลไม้ประจำวัน ห้องมินิบาร์ที่เติมใหม่ทุกวัน, เมนูหมอนที่หลากหลาย, และบริการเตรียมเตียงในตอนกลางคืน รวมไปถึงเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าสบาย นอกจากนี้ยังมีตู้นิรภัยในห้องพักเพื่อความปลอดภัยของท่านอีกด้วย



ห้องสวีทสุดหรูพร้อมระเบียงตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดที่ด้านหน้าของเรือในทั้ง Sapphire Deck และ Diamond Deck นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของห้องสวีทส่วนตัวพร้อมระเบียง พร้อมด้วย Scenic Sun Lounge ที่สุดยอด แต่มีพื้นที่ให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น การตกแต่งภายในที่หรูหราและกว้างขวางทำให้ท่านสามารถสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบในบรรยากาศที่เงียบสงบและหรูหรา



ห้องสวีทระเบียงจูเนียร์ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Sapphire และ Diamond โดยมีพื้นที่กว้างขวางพร้อมระเบียงส่วนตัวยาวเต็มที่มาพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำในตัวที่ตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมอ่างล้างหน้าใหญ่และฝักบัว โดยห้องสวีทนี้ได้รับการออกแบบเพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงความสะดวกสบายและบรรยากาศที่เงียบสงบในการเข้าพักในเรือสำราญ。







ห้องสวีทระเบียง ตั้งอยู่บนชั้น Sapphire และ Diamond เป็นห้องที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ มีระเบียงกลางแจ้งขนาดยาวพร้อม Scenic Sun Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ และมีห้องน้ำส่วนตัวที่มาพร้อมกับอ่างล้างหน้าหรูหราและฝักบัว ห้องจะมีเตียงขนาดใหญ่พิเศษ Scenic Slumber Bed ที่ทำให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสบาย สำหรับการชื่นชมวิวอันงดงามด้วยการกดปุ่มใน Scenic Sun Lounge และห้องน้ำที่กว้างขวางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา รวมถึงบริการบัตler ส่วนตัวสำหรับทุกห้องสวีท, บริการซักรีดฟรีครั้งหนึ่งต่อห้อง, ชาและกาแฟยามเช้าฟรี, บริการเครื่องดื่มในห้องพัก, มินิบาร์ที่เติมเต็มทุกวัน, เมนูหมอนที่หลากหลาย รวมถึงหมอนที่ช่วยลดริ้วรอย, หมอนที่มีอาการแพ้น้อย และหมอน memory-foam, บริการจัดเตียงตอนกลางคืน, เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ รวมถึงตู้นิรภัยในห้องพัก และบริการทำความสะอาดรองเท้าและบริการจอดรถสุดพิเศษ ที่นี่คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่แสวงหาความหรูหราและความสะดวกสบายในขณะล่องเรือ.


ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Sapphire ห้องสวีทระเบียงเดี่ยว เหมาะสำหรับนักเดินทางคนเดียวที่ต้องการสัมผัสความหรูหราในทุกช่วงเวลา เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมจากระเบียงขนาดเต็มที่มี Scenic Sun Lounge ให้ความสะดวกสบายในการชมวิวได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ห้องน้ำที่มีระดับยังมาพร้อมกับอ่างล้างหน้าหรูหราและฝักบัวที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสปา ห้องสวีทนี้ยังมีเตียงคิงไซส์ Scenic Slumber Bed ที่ให้ความสบายสูงสุด พร้อมกับบริการรับฝากสัมภาระส่วนตัวที่เข้าถึงได้ง่ายและบริการซักรีดฟรีหนึ่งครั้งต่อห้อง อีกทั้งยังมีบริการชากาแฟในช่วงเช้าและบริการเครื่องดื่มภายในห้อง รวมถึงมินิบาร์ที่เติมใหม่ทุกวัน เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเป็นไปอย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกหมอนตามความชอบได้หลากหลาย รวมถึงหมอนป้องกันการเกิดริ้วรอย หมอนทนภูมิแพ้ และหมอนหนุนแบบหน่วยความจำ พร้อมด้วยบริการจัดเตียงทุกคืน ชุดโรบและรองเท้าแตะ ห้องนิรภัยในห้องสวีท และบริการขัดรองเท้าและจัดเตรียมทุกอย่าง เพื่อสร้างประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหราและสะดวกสบายที่สุด


ห้องสวีทมาตรฐานตั้งอยู่บนชั้น Jewel Deck โดยมีหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อให้คุณได้ชมวิวที่สวยงามอย่างเต็มตา ห้องนี้ออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางและการจัดวางอย่างชาญฉลาด แสดงถึงความหรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ในพื้นที่ห้องนอนมีเตียงขนาดพระราชา Scenic 'Slumber bed' พร้อมชุดผ้าปูที่นอนจากผ้าฝ้ายอียิปต์และเมนูหมอน ห้องน้ำมีการตกแต่งอย่างดี มีฝักบัวพร้อมอุปกรณ์อาบน้ำจาก L'Occitane ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องเป่าผม เสื้อคลุมอาบน้ำ และรองเท้าแตะให้บริการ ห้องสวีทยังมีมินิบาร์ภายในห้องที่เติมเต็มทุกวัน โทรทัศน์จอแบนที่เชื่อมต่อกับ Mac Mini, WiFi ฟรี และบริการโทรศัพท์ก็พร้อมให้บริการ รวมไปถึงตู้เซฟสำหรับเก็บของมีค่า ผู้เข้าพักในห้องสวีทนี้สามารถใช้บริการบัตเลอร์ที่รวมถึงบริการจัดการเสื้อผ้าและเคลือบรองเท้า รวมถึงเครื่องดื่มและค็อกเทลเสริม เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ