
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

สกินนิก เจม
Scenic


ท่าเรือในกรุงปารีส ถือเป็นหนึ่งในมุมที่สวยงามและน่าหลงใหลที่สุดของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรมอันลึกลับ ถนนเลียบแม่น้ำแซน ช่วยให้คุณสัมผัสความงามของเมืองแห่งความรักในทุกมุมมอง ขับเคลื่อนการเดินทางของคุณจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งอย่างราบรื่น โดยไม่พลาดการชื่นชมความงามของสถานที่สำคัญ เช่น หอไอเฟล และมหาวิหารนอเทรอดาม การสำรวจปารีสจากท่าเรือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ทางเรือที่ทอดยาว ให้คุณได้สัมผัสกับภาพวิวที่งดงามของอาคารประวัติศาสตร์ จุดที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ ความงามของบายแซร์ อันเต็มไปด้วยสีสันของการใช้ชีวิตของคนในเมืองและบรรยากาศที่แสนโรแมนติก นอกจากนี้ ในรอบๆ ท่าเรือยังมีกิจกรรมมากมายให้คุณได้เพลิดเพลิน ทั้งการลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสเลิศรส ณ ร้านอาหารริมน้ำ หรือการเดินช็อปปิ้งในย่านแฟชั่น การเดินทางของคุณจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสประสบการณ์อันหรูหราและเป็นเอกลักษณ์นี้ ที่จะสร้างความทรงจำอันยิ่งใหญ่ในหัวใจของคุณอย่างแน่นอน มาเปิดตำนานแห่งความรักและศิลปะที่ปารีสกันเถอะ!

Les Andelys, เมืองเล็กๆ ในประเทศฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเซน (Seine) เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ นี่คือท่าเรือที่เรือสำราญหลายลำแวะจอดเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงดงามของภูมิภาคนอร์มังดี (Normandy) ที่น่าหลงใหล เมื่อคุณมาถึง Les Andelys คุณจะต้องไม่พลาดการเยี่ยมชมปราสาทชาร์ลองต์ (Château Gaillard) สร้างโดยพระเจ้ริชาร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ ในศตวรรษที่ 12 ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูง มอบทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำเซน จนทำให้คุณประทับใจในความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินเล่นในย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอาคารสีสันสดใส และร้านค้าท้องถิ่นที่นำเสนอสินค้าหัตถกรรมและอาหารท้องถิ่น โดยเฉพาะชีสและไวน์นอร์มังดีที่มีชื่อเสียง หากคุณต้องการสัมผัสวัฒนธรรมฝรั่งเศสอย่างแท้จริง การล่องเรือบนแม่น้ำเซนจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด Les Andelys จึงเป็นเสมือนภาพมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสงบและความรุ่งเรือง เป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณเดินทางอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ค้นพบความสุขในทุกๆ ช่วงเวลาของการเดินทางในประเทศที่มีเสน่ห์นี้!



ท่าเรือ Caudebec-en-Caux ตั้งอยู่ในแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เป็นจุดหมายสำหรับการท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างความงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ในการเยือนที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับอารยธรรมฝรั่งเศสที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำเซน ซึ่งไหลผ่านท่าจอดเรืออย่างสงบและปัจจุบัน การเดินทางมาที่ท่าเรือ Caudebec-en-Caux นับว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ เมื่อคุณได้พบกับบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมงดงามตามแบบฉบับของนอร์มังดี รวมถึงโบสถ์เซนต์-จอร์จที่มีอายุกว่าศตวรรษ ที่ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โกธิคซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าและตลาดท้องถิ่นที่รอคอยให้คุณได้สัมผัสรสชาติของอาหารอร่อยๆ จากวัตถุดิบท้องถิ่น การเดินทางสำรวจรอบๆ ท่าเรือ จะพาคุณไปสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น หมู่บ้านเล็กๆ ที่เรียกว่า Jumièges ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของซากปรักหักพังของอารามเก่าแก่ที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนนอร์มังดี Caudebec-en-Caux คือสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวแบบหรูหรา ที่ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต มาสัมผัสความมหัศจรรย์นี้ด้วยตัวคุณเองและสร้างความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม.

Vernon, เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซน ใกล้กรุงปารีส เป็นจุดหมายที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฝรั่งเศส ผ่านการเดินทางด้วยเรือสำราญ เมืองแห่งนี้มีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทำให้ผู้เดินทางรู้สึกได้สัมผัสถึงบรรยากาศของฝรั่งเศสอย่างแท้จริง หนึ่งในสถานที่ที่ต้องเยี่ยมชมคือ โบสถ์เซนต์ – จอร์จ ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม พร้อมทั้งความสงบเงียบที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีปราสาทของชาร์ลเลมาญ ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 และเป็นจุดเด่นทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมื่อเสร็จจากการสำรวจ วิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเซนจะชวนให้คุณหยุดพักผ่อนชมความงามของธรรมชาติ พร้อมกับการลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสแท้ ๆ ในร้านอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีตลาดและงานเทศกาลต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ Vernon ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำในดินแดนของความโรแมนติก ที่รอคอยให้คุณมาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางครั้งนี้

ท่าเรือ La Roche-Guyon สถานที่อันงดงามที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซน สร้างความประทับใจด้วยบรรยากาศที่หรูหราและประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์ ด้วยสถานที่ตั้งในภูมิภาคอีล-เดอ-ฟรองซ์ La Roche-Guyon เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะแก่การสำรวจแห่งหนึ่งเมื่อเรือสำราญแวะจอด สิ่งที่ทำให้ La Roche-Guyon โดดเด่นคือปราสาทซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาสูงตระหง่าน หลงใหลในสถาปัตยกรรมที่รวมแง่มุมสมัยกลางและการออกแบบที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีสวนสวยที่ถูกจัดการอย่างมีศิลปะ ทำให้การเดินเล่นในพื้นที่นี้เต็มไปด้วยความสงบและสุนทรียภาพ ไม่เพียงแต่ปราสาทเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นฐานสำคัญของกิจกรรมทางน้ำและกีฬาทางอากาศ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการพายเรือคายัค หรือการขับรถจักรยานยนต์น้ำในแม่น้ำเซน ขณะเดียวกันก็ไม่ควรพลาดสัมผัสชาและขนมอบอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค จาก La Roche-Guyon นักเดินทางสามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญอื่นๆ ในรัศมีใกล้เคียง เช่น ปราสาท Château de Bizy หรือเมืองกีฟวร์ ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบฝรั่งเศสที่หาชมได้ยาก ท่านจะได้สร้างความทรงจำที่หรูหราและเต็มไปด้วยอารมณ์ในทุกช่วงเวลาเมื่อมาเยือนที่นี่ในครั้งเดียว

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์สุดหรูในการเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศส คอนฟลาน-แซ็ง-ออรีน (Conflans-Sainte-Honorine) คือหนึ่งในจุดแวะที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงดงามของตลาดน้ำฝรั่งเศส ทั้งยังมีประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งและทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำเซนและแม่น้ำอูร์ค รวมถึงเป็นศูนย์กลางทางน้ำที่สำคัญในสมัยโบราณ คอนฟลาน-แซ็ง-ออรีน เต็มไปด้วยเวิร์คช็อปการทำเรือที่ส่งกลิ่นอายโบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินลัดเลาะไปตามแนวแม่น้ำที่เต็มไปด้วยเรือสำราญและการแสดงจัดแสดงต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสให้คุณสำรวจเมืองเก่าอันมีเสน่ห์ เดินชมโบสถ์เซนต์-มอริส ที่สง่างาม หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การขนส่งที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปเห็นความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมการเดินเรือฝรั่งเศส เมื่อย่างกายไปตามท่าเรือ คอนฟลาน-แซ็ง-ออรีน มั่นใจว่าจะเติมเต็มความฝันในการสำรวจฝรั่งเศสของคุณ พร้อมด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เก็บความทรงจำที่น่าประทับใจ และให้การเดินทางของคุณเป็นที่จดจำนานนาน.



โคโลญ (Cologne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศนี้ มีอายุกว่า 2,000 ปี และถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค เมืองโคโลญเป็นที่รู้จักกันดีจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดคือมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ที่ตั้งตระหง่านคู่ระหว่างตึกเก่าในย่านเก่า (Old Town) เมื่อมาเยือนย่านเก่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมศาลากลางเก่า (Old Town Hall) และโบสถ์โรมันเซนต์มาร์ติน (Great St Martin) นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โมเสคดีโอโนซัส (Roman Dionysus mosaic) และบ้านโอเวอร์สโทลเซน (Overstolzenhaus) ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การค้นหาด้วย อีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นในโคโลญคือสะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ซึ่งคู่รักทั้งจากในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาทำพิธีผูกสัมพันธ์โดยการติดล็อกที่ราวสะพาน แล้วทิ้งกุญแจลงสู่แม่น้ำไรน์ เพื่อหวังความรักที่ยืนยาวอย่างมั่นคง การแสดงคาบาเร่ต์และวัฒนธรรม LGBTQ+ ที่เปิดเผยของเมืองนี้ ยังเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับประสบการณ์การเยี่ยมชมโคโลญอีกด้วย มาประสบการณ์ความงดงามแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความรักในโคโลญแล้วคุณจะหลงใหลไม่รู้ลืม!

เมืองบอนน์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์กลางประเทศเยอรมนี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าค้นหาสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความสง่างามและวัฒนธรรม เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีตะวันตก ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งวรรณกรรมและมีชื่อเสียงจากการเป็นบ้านเกิดของนักประพันธ์ชื่อดังอย่าง ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือบอนน์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์เบโธเฟน ที่ให้คุณได้สัมผัสชีวิตและผลงานของนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ และสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ นอกจากนั้น เมืองบอนน์ยังมีตลาดเก่าที่มีชีวิตชีวาและร้านค้าโบราณซึ่งขายของที่ระลึกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าลืมลิ้มลองความอร่อยของอาหารพื้นเมืองหรือชิมเบียร์เยอรมันแท้ที่นี่อีกด้วย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางเพื่อสัมผัสความงามทางธรรมชาติ สามารถนั่งเรือสำราญไปตามแม่น้ำไรน์และชมทัศนียภาพสองฝั่งที่มีปราสาทโบราณและไร่องุ่นเรียงราย สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและยากที่จะลืมเลือนสำหรับทุกคนที่มาเยือนบอนน์


เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

มิลเทนแบร์ก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบาวาเรีย ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ เมืองนี้เติบโตจากรากฐานในยุคกลางผ่านการปลูกองุ่น การค้าไวน์ การประมง และการเดินเรือ จนกลายเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างสวยงามในปัจจุบัน เมื่อคุณมาที่มิลเทนแบร์ก อย่าพลาดที่จะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมืองมิลเทนแบร์ก ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารไม้ครึ่งหลังที่เรียกว่า “อัลเต อัมต์สเคลเลอรี” ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมไปจนถึงยุคโรมัน นอกจากนี้ การเยี่ยมชมปราสาทมิลเทนแบร์กซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบิร์กมิลเทนแบร์ก ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะคลาสสิคและร่วมสมัยในบรรยากาศที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ยอดหอคอยของปราสาทซึ่งสูงถึง 27 เมตร เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายและดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์แสนงดงามของหุบเขาไมน์ที่อยู่เบื้องล่าง ช่วงเวลาอันสงบสุขที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกหลงใหลในเสน่ห์ของมิลเทนแบร์กอย่างแท้จริง

เวิร์ธไฮม (Wertheim) เป็นเมืองท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมายน์ในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามทางธรรมชาติ พร้อมด้วยประวัติศาสตร์อันหลากหลายที่รอให้คุณได้ค้นพบ จากจุดนี้ คุณสามารถขึ้นเรือสำราญและสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราในระหว่างการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวอันน่าหลงใหล เมืองเวิร์ธไฮมเป็นที่รู้จักด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ลงตัว โดยเฉพาะปราสาทเวิร์ธไฮมที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และตอนนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ การเดินเล่นในย่านเมืองเก่าที่มีบ้านเรือนยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยการชิมไวน์ท้องถิ่นซึ่งมีชื่อเสียงมากในแถบนี้ หรือเข้าร่วมงานเทศกาลประจำปีที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง เวิร์ธไฮมจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและล้ำค่าในการเดินทางไปบนเรือสำราญ พร้อมกับประสบการณ์วัฒนธรรมที่เข้มข้นในเยอรมนี

วือซบวร์ก เมืองอันงดงามในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ สลับซับซ้อนด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและไวน์ฟรังโกเนียนที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังเรสซิเดนซ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดดเด่นด้วยบันไดอันวิจิตร ภาพเขียนประดับขนาดใหญ่ และห้องโถงอันโอ่อ่า เมื่อเดินทางมายังวือซบวร์ก ต้องไม่พลาดปราสาทเฟสตุง มาริอ์เบิร์ก ซึ่งตั้งตระหง่านโดดเด่น ให้มุมมองที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ นอกจากนี้สะพานเก่าแก่ Alt Mainbrücke ยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย สำหรับคนรักไวน์ วือซบวร์กมีโรงกลั่นไวน์มากมายพร้อมทั้งนำเสนอการทัวร์และชิมไวน์ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำไวน์ในบรรยากาศสบายๆ ที่ยังคงรักษาภูมิทัศน์ดั้งเดิมของอาหารบาวาเรียน เช่น ซุปไวน์ กีรัปฟ์เตอร์ (ชีสทา) และเซาเออร์บราตัน (เนื้อวัวตุ๋นในไวน์) ที่ทานคู่กับไวน์ท้องถิ่น วือซบวร์กเป็นจุดหมายปลายทางที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามของเยอรมนีอย่างแท้จริง

บัมแบร์ก (Bamberg) คือเมืองอันงดงามในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ประกอบด้วยเจ็ดเขา และที่จุดบรรจบของแม่น้ำเรกนิทซ์และไมน์ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ที่นี่มักดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างศาลากลาง (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเรกนิทซ์ โดยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามให้ได้ชม อีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจคือบัมแบร์กคาประตู (Bamberg Cathedral) ที่มี 4 หอคอยและการแกะสลักหินอันละเอียดอ่อน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของเมือง สามารถแวะไปที่เขตตลาดสวน โดยมีบ้านประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นที่ปลูกและส่งออกผลผลิต เช่น หัวหอม และลูกไลเซอรีซ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง บัมแบร์กยังมีร้านค้าเก๋ๆ เจ้าของท้องถิ่นตั้งอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ และเมื่อสิ้นสุดวัน อย่าลืมแวะไปสัมผัสเบียร์เยอรมันรสเลิศที่ผับเบียร์ของเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีโรงเบียร์ดั้งเดิมถึง 9 แห่ง ค้นพบมนต์เสน่ห์ของบัมแบร์กและให้ความใฝ่ฝันในการเดินทางมาสัมผัสเมืองอันมีชื่อเสียงนี้!

นูเร็มเบิร์ก คือ เมืองในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือของบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของบาวาเรีย เมืองนี้มีเอกลักษณ์ด้วยอาคารหลังคาแดงและสถาปัตยกรรมยุคกลางที่งดงาม ปราสาทจักรพรรดิที่ตั้งอยู่บริเวณเหนือเมืองเคยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของจักรวรรดิโรมัน สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เยอรมันนิชเนชันแนลมิวเซียม (Germanisches Nationalmuseum) คือ แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ มูลนิธินี้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ใช้ภาษาเยอรมัน โดยมีนิทรรศการที่หลากหลายตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงปัจจุบัน การเดินเที่ยวชมเมืองแบบเดินเท้าจะทำให้คุณได้พบกับน้ำพุ สระว่ายน้ำ โบสถ์ และสมบัติศิลปะที่น่าสนใจ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สีสันและวัฒนธรรมอันหลากหลายของเมืองนี้โดยละเอียด นอกจากนี้ยังมีตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน นูเร็มเบิร์ก คริสต์กิ้นเดิ้ลสมัต (Nuremberg Christkindlesmarkt) ที่จะทำให้คุณสามารถหาซื้อของตกแต่งมือทำและสัมผัสรสชาติของขนมขิง ไวน์อุ่น และไส้กรอกย่างจากร้านที่ตั้งเรียงรายกว่า 180 ร้าน เตรียมพร้อมที่จะให้ความรู้สึกอัศจรรย์ในการเดินทางสู่เมืองที่มีเสน่ห์นี้ ที่จะรายล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่!

เรเกนสบูร์ก เป็นเมืองเก่าแก่อยู่ในบาวาเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำดานูบ ที่ซึ่งไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเรเกนและนาอ์บ เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสะพานหินสมัยศตวรรษที่ 12 ที่มี 16 โค้ง ซึ่งข้ามแม่น้ำดานูบเข้าสู่เมืองเก่า ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในเยอรมนี สถาปัตยกรรมที่เด่นของเรเกนสบูร์กคือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สไตล์โกธิก ซึ่งมีคู่ยอดแหลมสูงชะลูดที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความงดงาม สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ประตูโรมันโบราณจากศตวรรษที่ 2 และพระราชวังทูนและทักซิสสมัยศตวรรษที่ 18 จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาช้านาน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอุทยานและสวนสาธารณะที่ล้อมรอบ รวมถึงเส้นทางเดินและจักรยานริมน้ำที่มอบความสงบและความสุขให้แก่การเดินทางในเมืองโบราณแห่งนี้ ขอบอกเลยว่าเรเกนสบูร์ก คือจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเยอรมนีอย่างแท้จริง

เมืองพาสเซา ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนีติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย ได้แก่ ดานูบ อินน์ และอิลซ์ มาบรรจบกัน ซึ่งมักเรียกกันว่า "เมืองสามแม่น้ำ" แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในพาสเซาคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และพิพิธภัณฑ์แก้ว ที่นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ย่านเมืองเก่าของพาสเซา เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น ปราสาทเฟสเต้ โอเบอร์เฮาส์ และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ที่มีความสวยงามตระการตา สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกสำหรับการเดินสำรวจริมแม่น้ำและซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ พาสเซายังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา โดยมีการแสดงละครและคาบาเรต์ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสความสนุกสนานที่โรงละครเก่าของเจ้าชายบิชอป รวมถึงเมนูอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารบาวาเรียและออสเตรียที่อบอุ่นเต็มไปด้วยรสชาติที่สืบทอดจากวัฒนธรรมดั้งเดิม อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองอันสวยงามแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดหมายที่สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ของศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัว!

ท่าเรือชลเกิน (Schlögen) ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์เหนือริมแม่น้ำดานูบ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามของธรรมชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ยามพระอาทิตย์ตก ซึ่งจะทำให้พวกเขาหลงใหลในความโรแมนติกของบรรยากาศรอบๆ นอกจากการล่องเรือ ณ ท่าเรือนี้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจเส้นทางเดินป่าที่รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของชลเกินถือเป็นที่ตั้งของกิจกรรมต่างๆ เช่น การปั่นจักรยาน ท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ หรือแม้แต่การเยี่ยมชมไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น ไร่องุ่นชลเกินที่ผลิตไวน์ชั้นเลิศที่ควรลิ้มลอง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ฝากความฝันไว้กับการเดินทาง ท่าเรือชลเกินจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ในออสเตรีย สร้างแรงบันดาลใจและความปรารถนาในการเดินทางไปยังสถานที่ที่สวยงามแห่งนี้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ดือร์นสไตน์ (Dürnstein) เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรีย ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่มรดกโลกและภูมิภาคไวน์วาคาอู (Wachau) ที่มีชื่อเสียง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่งดงาม ทำให้ดือร์นสไตน์กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวคอไวน์ไม่ควรพลาด บรรดานักชิมสามารถสนุกไปกับการชิมไวน์และเข้าพักในไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงหลากหลายแห่ง นอกจากนี้ การเดินสำรวจเมืองยังเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน เพราะมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามอยู่ทั่วถึง ช่วยให้ท่านได้สัมผัสวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของหุบเขาดานูบ เด็ก ๆ ก็สามารถสนุกไปกับการเล่นในพื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งมีสนามเด็กเล่นและเส้นทางธีมให้สำรวจ ขณะเดียวกัน สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มีน้ำอุ่นเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส อย่าง Kuenringerbad ก็เป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองที่น่าประทับใจ สามารถเลือกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวเมืองจากมุมสูง หรือจะเดินขึ้นเขาสำรวจซากปราสาทดือร์นสไตน์ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าค้นหา เมืองนี้คือป้อมปราการในอดีตที่มีความงามจากธรรมชาติรอบตัว รอให้คุณมาเยี่ยมชมและสัมผัสเสน่ห์ของออสเตรียอย่างแท้จริง

เมืองเครมส์ (Krems an der Donau) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรีย เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ ด้วยทำเลที่ตั้งบนริมฝั่งแม่น้ำดานูบและอยู่ห่างจากกรุงเวียนนาเพียง 70 กิโลเมตร เครมส์เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในหุบเขาวาคาว (Wachau Valley) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่มีมากกว่า 1,000 ปี ผ่านทางถนน ซอย วัด และปราสาทที่ยังคงความงดงาม นอกจากนี้ เมืองนี้ก็มีความร่วมสมัยในการจัดแสดงศิลปะทันสมัยและวรรณกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเดินชมเมืองที่ได้รับความนิยมจะพาท่านไปสำรวจย่านเก่าแก่ของเครมส์ รวมถึง "Art Mile" และพิพิธภัณฑ์เครมส์ (Museum Krems) ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง นอกจากนี้ ความหลากหลายของอาหารและเครื่องดิ่มก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด โดยร้านอาหารและบาร์ไวน์ที่ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารและชิมไวน์ที่น่าจดจำ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันอบอุ่นและการต้อนรับจากชาวเมือง ทำให้เครมส์เป็นจุดหมายที่น่าจดจำในทริปท่องเที่ยวของคุณ






ห้องสวีทหนึ่งห้องนอนราชา ขนาด 455 ตารางฟุต ถือเป็นห้องพักที่กว้างขวางที่สุดห้องหนึ่งบนแม่น้ำในยุโรป ตั้งอยู่ที่ด้านหลังของ Diamond Deck ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามของท landscape ที่ไหลผ่าน พร้อมทั้งมีห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารที่แยกส่วนอย่างชัดเจน อีกทั้งห้องน้ำสุดหรูที่มีขนาดใหญ่ ทำให้คุณรู้สึกมีความสะดวกสบายและหรูหราในการเข้าพักอย่างแท้จริง





ห้องสวีทระเบียงหลวงตั้งอยู่บน Diamond Deck เป็นที่สุดของความหรูหราพร้อมพื้นที่กว้างขวาง การบริการที่ไร้ที่ติและการตกแต่งที่คำนึงถึงความสะดวกสบาย มีระเบียงกลางแจ้งและพื้นที่เลานจ์ที่กว้างขวาง พร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ ภายในห้องสวีทนี้จะมีเตียง Scenic Slumber Bed ขนาดควีนสุดหรู มีล็อบบี้สำหรับพักผ่อนพร้อมระบบ Scenic Sun Lounge เพื่อให้คุณสามารถรับชมวิวได้อย่างเต็มตาที่เพียงกดปุ่มเท่านั้น ห้องน้ำขนาดใหญ่มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการอาบน้ำที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษในการรับประทานอาหารที่ Table La Rive หรือ Table d’Or พร้อมการสำรองที่นั่งล่วงหน้าที่ร้านอาหารที่เลือกไว้ มีการมอบขวดแชมเปญต้อนรับ 750ml และเครดิต onboard มูลค่า €200 สำหรับใช้ในศูนย์สุขภาพ การบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่รวมถึงการซักรีด ฟรี การขัดรองเท้า การนำชายามเช้าและกาแฟถึงห้อง และการส่งขนมคาวหวานหรือผลไม้ทุกวัน ห้องยังมีมินิบาร์ที่เติมใหม่ทุกวัน เมนูหมอน รวมถึงหมอนต้านริ้วรอย อีกทั้งยังมีบริการเตรียมเตียงทุกคืน ผ้าขนหนูและรองเท้าแตะ และตู้นิรภัยในห้อง สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้ในห้องสวีทระเบียงหลวงสุดพิเศษนี้ที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความหรูหราแบบเต็มง่ายในขณะล่องเรือ。


ห้องสวีทสุดหรูพร้อมระเบียง ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดที่ด้านหน้าของเรือ บนชั้น Sapphire และ Diamond มีลักษณะครบถ้วนของห้องสวีทส่วนตัวที่มีระเบียง รวมถึงพื้นที่เพิ่มเติมที่กว้างขวางสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่น่าทึ่งอย่าง Scenic Sun Lounge เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่สุดแสนพิเศษในทุกช่วงเวลาที่คุณอยู่บนเรือ




ห้องสวีทระเบียงตั้งอยู่บนชั้น Sapphire และ Diamond ซึ่งตกแต่งอย่างมีสไตล์ ระเบียงกลางแจ้งขนาดยาวเป็นเอกลักษณ์ของห้องนี้ พร้อมด้วย Scenic Sun Lounge ที่ให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่กว้างขวางได้เพียงแค่กดปุ่ม นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำส่วนตัวที่ประดับด้วยอ่างล้างหน้าหรูหราและฝักบัว ห้องนี้มีเตียงขนาดควีนไซส์ Scenic Slumber Bed ที่ให้ความสบายและการบริการบัตเลอร์ส่วนตัวสำหรับทุกห้องสวีท รวมถึงบริการซักรีดฟรีหนึ่งครั้งต่อห้อง ตลอดจนบริการชาและกาแฟยามเช้า บริการเครื่องดื่มในห้อง และมินิบาร์ที่เติมใหม่ทุกวัน คุณสามารถเลือกหมอนตามที่ต้องการซึ่งรวมถึงหมอนกันน้ำหนัก หมอนลดอาการแพ้ และหมอนจำแนกตามรูปคอ นอกจากนี้ยังมีบริการเตรียมเตียงในตอนกลางคืน เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าใส่ในบ้าน ตู้นิรภัยในห้อง และบริการขัดรองเท้าพร้อมบริการจอดรถอีกด้วย ห้องสวีทนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการล่องเรือที่หรูหราและน่าจดจำ.



ห้องสวีทมาตรฐาน ตั้งอยู่บนดาดฟ้า Jewel Deck ซึ่งมีหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อให้คุณได้สัมผัสวิวที่สวยงาม โดยออกแบบมาอย่างกว้างขวางและมีการจัดการพื้นที่อย่างชาญฉลาด พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและเฟอร์นิเจอร์หรูหราตามมาตรฐาน ในห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์แบบ Scenic 'Slumber bed' ปูด้วยผ้าลินินจากอียิปต์และมีเมนูหมอนให้เลือก ห้องน้ำมีฝักบัวครบครันพร้อมผลิตภัณฑ์ L'Occitane, เครื่องเป่าผม เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ ห้องสวีทยังมีมินิบาร์ภายในห้องที่ให้บริการฟรีซึ่งเติมใหม่ทุกวัน พร้อมด้วยโทรทัศน์จอแบนเชื่อมต่อกับ Mac Mini, WiFi ฟรี และการใช้โทรศัพท์ นอกจากนี้ยังมีตู้นิรภัยสำหรับเก็บของมีค่า ผู้เข้าพักในห้องนี้จะได้รับบริการบัตเลอร์ที่รวมถึงการจอดรถ, บริการขัดรองเท้า, เครื่องดื่มและค็อกเทล เพื่อให้การเข้าพักของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและสะดวกสบาย