
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

ซิลเวอร์ ดอว์น
ซิลเวอร์ซี


ท่าเรือเซาแธมป์ตัน นับเป็นท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ปากอ่าวเซาแธมป์ตัน ระหว่างแม่น้ำเทสต์และอิตเชน เมืองแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยกลาง โดยมีการส่งออกขนสัตว์และหนังสัตว์จากพื้นที่รอบ ๆ และนำเข้าผลิตภัณฑ์ไวน์จากบอร์โดซ์ แม้เซาแธมป์ตันจะต้องเผชิญกับการทำลายล้างอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เมืองนี้ก็ได้ฟื้นฟูและสร้างสรรค์ใหม่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยอาคารยุคกลางที่ยังคงเหลืออยู่ เช่น บาร์เกต (Bargate) ที่ถือเป็นหนึ่งในประตูเมืองที่สวยงามที่สุดในอังกฤษ นอกจากท่าเรืออันทันสมัยแล้ว เซาแธมป์ตันยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับนักเดินทาง ที่สามารถสำรวจเมืองแห่งประวัติศาสตร์และเต็มไปด้วยศิลปะ เช่น พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่นำเสนอผลงานศิลปะระดับโลก และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการออกไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองใกล้เคียง อย่างบอร์นมัธ และสนามกอล์ฟที่สวยงาม การมาที่เซาแธมป์ตันจึงไม่เพียงแค่การเริ่มต้นการเดินทางด้วยเรือสำราญ แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงดงามทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอังกฤษอย่างไม่รู้จบ

เมืองฮอนฟลอร์ (Honfleur) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของ Côte Fleurie ในฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเมืองชายทะเลที่มีความงดงามแบบคลาสสิคที่ไม่เหมือนใคร ด้วยบ้านไม้กึ่งปูนที่เรียงรายอยู่ตามถนนอิฐประดับ ซึ่งสร้างบรรยากาศสวยงามชวนฝัน เมืองนี้ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูที่งดงาม โดยเฉพาะเมืองเก่าฝั่งท่าเรือ Vieux Bassin ซึ่งเปรียบเสมือนแก่นของสังคมตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ที่ท่าเรือแห่งนี้ ใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ มีบ้านหินสองชั้นที่มีหลังคาแบบลาดชัน และบ้านสูงที่ตกแต่งด้วยแผ่นหินที่ทำให้ทิวทัศน์รอบด้านมีเสน่ห์เกินบรรยาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางทะเลสำคัญ รวมถึงการเดินทางไปยังแคนาดาในอดีต และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินอิมเพรสชันนิสต์ที่ได้มาเยี่ยมชมและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ วันนี้ เมืองฮอนฟลอร์ยังคงมีชีวิตชีวา แม้จะมีผู้คนมาเยือนเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดสะพาน Pont de Normandie ในปี 1995 ที่เชื่อมต่อลุ่มน้ำเหนือของนอร์มานดี เป็นสะพานแขวนที่สูงกว่าหอไอเฟล ยิ่งทำให้ฮอนฟลอร์เป็นจุดหมายที่ต้องไปสัมผัสด้วยตนเองในทริปที่หรูหราและเต็มไปด้วยความประทับใจแห่งนี้

เซนต์-มาลโล (Saint-Malo) เมืองท่าแห่งความโรแมนติกที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งเหนือของฝรั่งเศส เป็นจุดหมายที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แห่งการเดินเรือและความงดงามของทะเล นับตั้งแต่สมัยก่อน เซนต์-มาลโลได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงนักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง ฌาค คาร์เตียร์ ผู้ซึ่งเคยประกาศสิทธิ์ในแคนาดาให้กับฝรั่งเศสในปี 1534 เมืองนี้เคยถูกเรียกว่า "เมืองโจรสลัด" เนื่องจากมีนักโจรสลัดชื่อก้องอย่าง โรเบิร์ต ซูร์คุฟ และดูเกย์-ทรูอิน ที่ทำให้เซนต์-มาลโลรุ่งเรืองจากการล่าเมืองต่างชาติ แม้ว่าในปี 1944 เซนต์-มาลโลจะได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ที่เกิดจากการต่อสู้ในสงคราม แต่เมืองเก่าก็ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความงามเช่นเดิม ปัจจุบัน, นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในถนนแคบพอ ๆ กับสัมผัสความงามของบ้านหินแกรนิตในย่าน Vieille Ville และชมปราสาทที่ตั้งตระหง่าน ท่าเรือแห่งนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนริมทะเล หากคุณต้องการหลีกหนีจากฝูงชน ควรมาที่นี่ในฤดูนอกฤดูท่องเที่ยว รอคอยที่จะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครของเซนต์-มาลโล สถานที่ที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์และการผจญภัยในตำนานไว้อย่างน่าหลงใหล.



บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!

ซันตันดาร์ (Santander) เป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันทาเบรีย ประเทศสเปน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงามของชายฝั่งทะเลและบรรยากาศที่สงบเงียบ เป็นสถานที่ที่เรือสำราญหลายลำเลือกแวะจอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมสเปนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อคุณก้าวลงจากเรือสำราญ คุณจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวซันตันดาร์ ที่อยู่รายรอบด้วยภูเขาและหาดทรายที่ละเอียด สถานที่ที่ควรไม่พลาดคือ "ปัลาซิโอ เด ลอส มาร์เกซ เด โฮดา" ซึ่งเป็นวังสไตล์นีโอคลาสสิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 20 และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม นอกจากนี้ยังมี "สวนพฤกษศาสตร์แห่งซันตันดาร์" เป็นสถานที่ที่มีกลิ่นอายธรรมชาติรื่นรมย์ เหมาะแก่การเดินเล่นสัมผัสความสดชื่น ถ้าคุณหลงใหลในประวัติศาสตร์ อย่าลืมเยี่ยมชม "พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่" ซึ่งรวมผลงานศิลปะจากศิลปินมากมาย และการเดินเล่นที่ภูเขา "เอล มาเจสติก" จะทำให้คุณได้เห็นภาพวิดีโอที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ทั้งนี้ ซันตันดาร์จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่จะสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมให้กับคุณ

ท่าเรือกิฮอน (Gijón) ประเทศสเปน เป็นจุดหมายที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัย ตั้งอยู่ริมทะเลในภูมิภาคอAsturias กิฮอนเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ด้วยหลักฐานทางโบราณคดีจากสมัยโรมัน เช่น สปา Campo Valdés ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 1 ที่เป็นจุดเด่นใจกลางเมืองและเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของเมือง ในอดีต กิฮอนเกือบถูกทำลายในศตวรรษที่ 14 แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นท่าเรือและเมืองอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรือง พื้นที่เมืองเต็มไปด้วยร้านกาแฟ อาหารท้องถิ่น และ sidrerías ร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแอปเปิ้ลซีดรา (Cider) ที่คุณไม่ควรพลาด ยามที่คุณเดินทางมาถึง ท่านยังสามารถพบกับชายหาดที่งดงามซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ เพิ่มเติมด้วยกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจ ทำให้กิฮอนไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รอคอยให้คุณได้สัมผัสและค้นพบเสน่ห์ของเมืองนี้อย่างแท้จริง


ท่าเรือที่เมืองวีโก (Vigo) ประเทศสเปน เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองวีโกมีท่าเรือธรรมชาติที่งดงามและถือเป็นท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยในปี 1702 สถานที่นี้เคยเป็นสมรภูมิที่ฝ่ายอังกฤษและชาวดัตช์สามารถเอาชนะกองเรือฝรั่งเศสและสเปนได้ เมืองวีโกเต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยมีท่าเรือที่สวยงามให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสกับบรรยากาศของการประมง ต่อมา การเดินเที่ยวชมเมืองทำให้คุณได้พบกับสถาปัตยกรรมแบบยุคศตวรรษที่ 17 และภูมิประเทศที่สวยงามโดยรอบ เมืองเก่าที่มีเสน่ห์เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่แคบและจตุรัสที่มีร่มเงาเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ การเดินทางไปยังเมืองทุย (Tui) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร หรือเมืองซานติอาโก เดอ คอมโพสเตลลาที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์รวมการแสวงบุญเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาทีจากวีโก จะเป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความทรงจำในการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน อย่าพลาดที่จะค้นหาความงามของวีโกและเสน่ห์ที่รอคอยคุณอยู่ในแต่ละซอกมุมของเมืองนี้!

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา



เจ้าของสวีทเป็นห้องพักที่โดดเด่นและหรูหรา พร้อมให้คุณเลือกได้ทั้งแบบหนึ่งห้องนอนหรือสองห้องนอน เหมาะสำหรับครอบครัว ห้องนี้มีพื้นที่กว้างขวาง โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ซึ่งมีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน เช่น ระบบเสียงจาก Bose ทีวีขนาด 55 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันอินเทอร์แอกทีฟ และเครื่องชงกาแฟ Illy ไม่ว่าคุณจะอยู่ในห้องหรือนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคขนาดใหญ่ เจ้าของสวีทยังมอบความสะดวกสบายอีกมากมายตลอดทั้งวัน! ห้องแบบหนึ่งห้องนอนมีพื้นที่ 88–98 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 12 ตารางเมตร ส่วนแบบสองห้องนอนมีขนาด 119–129 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 12 ตารางเมตร ซึ่งความแตกต่างในพื้นที่เกิดจากทางเดินที่กว้างขึ้น แต่ไม่กระทบกับพื้นที่ใช้งานหลัก ห้องพักยังมีห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่ และการจัดเก็บเสื้อผ้าที่สะดวกสบาย พร้อมด้วยตู้นิรภัยส่วนตัว นอกจากนี้ เจ้าของสวีทยังมีบริการที่หลากหลาย เช่น บริการบัตเลอร์ รูปแบบความบันเทิงด้วย Wi-Fi ฟรี วัสดุป้องกันเสียง พร้อมอุปกรณ์การสื่อสารที่ทันสมัย ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุดในทุก ๆ เสี้ยววินาทีเมื่ออยู่บนเรือสำราญนี้



ห้องสวีทแกรนด์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้เดินทางที่ต้องการความหรูหรา โดยตั้งอยู่ที่ด้านหน้าเรือ จึงให้ทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด ห้องสวีทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความสะดวกสบายอย่างแท้จริง อบอุ่นด้วยพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยเตียงอาบแดด ที่คุณสามารถสร้างความทรงจำที่มีค่าได้อย่างเต็มที่ ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่หรูหราและห้องนอนที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ได้รับการออกแบบอย่างมีสไตล์ ห้องสวีทแบบหนึ่งห้องนอนมีขนาด 137–146 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 44–53 ตารางเมตร ส่วนแบบสองห้องนอนมีขนาด 174–183 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 50–59 ตารางเมตร คุณจะได้สัมผัสกับความหรูหราผ่านบริการบัตเลอร์ที่คอยดูแลคุณตลอดการเข้าพัก รวมถึงการทำความสะอาดซักรีดฟรีและบริการอาหารค่ำในร้านอาหาร La Dame การเข้าพักในห้องสวีทแกรนด์จึงมาพร้อมกับความสะดวกสบายที่มีให้ถึงสองชั่วโมงในการโทรไปยังทั่วโลกในแต่ละช่วงการเดินทาง พร้อมรับชมรายการต่าง ๆ บนทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง ระบบเสียงที่เชื่อมต่อบลูทูธ และการเชื่อมต่อ Wi-Fi ความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องชงกาแฟ เอสเพรสโซ และชุดเครื่องนอนที่หรูหราตามที่คุณต้องการ ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่และพื้นที่เก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีตู้เซฟส่วนตัว เตรียมพร้อมสัมผัสการเดินทางที่หรูหราในห้องสวีทแกรนด์ที่ไม่เหมือนใครนี้



ห้องชุดราชวงศ์บนเรือของเราเป็นห้องพักที่โดดเด่นที่สุด โดยมีเพียงสองห้องในเรือ ทำให้มีความหรูหราและกว้างขวางอย่างมาก ภายในห้องชุดจะมีพื้นที่กว้างขวาง และมีห้องนั่งเล่นที่ทันสมัยพร้อมระบบความบันเทิงที่ล้ำสมัย เตียงคู่ที่สามารถจัดเรียงติดกันได้ตามความต้องการ และยังมีห้องนอนไกล้เคียงให้ความสะดวกสบายในกรณีที่ต้องการเดินทางกับครอบครัว นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi ไม่จำกัด ห้องน้ำที่ทำด้วยหินอ่อนสุดหรู และระเบียงไม้สักขนาดกว้างขวาง ห้องชุดราชวงศ์จึงเหมาะสมสำหรับทุกคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความหรูหรา ห้องชุดนี้มีขนาด 105 ตร.ม. สำหรับหนึ่งห้องนอน รวมระเบียงขนาด 12 ตร.ม. หรือสามารถเลือกขนาด 142 ตร.ม. สำหรับสองห้องนอน รวมระเบียงขนาด 18 ตร.ม. โดยภายในยังมีโซฟาเบดที่สะดวกสบายสำหรับแขกที่สาม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รับแขกของห้องชุด นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอดการเข้าพัก รวมถึงบริการซักอบรีดฟรี ดินเนอร์สำหรับสองท่านที่ La Dame หนึ่งครั้งต่อการเดินทาง และแชมเปญในวันที่มาถึง ความสะดวกสบายในห้องชุดยังรวมถึงเครื่องชงเอสเพรสโซ โต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะแต่งตัว เตียงขนาดคิงไซส์ และบริการอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้การเข้าพักของคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

เงินทองห้องสวีทเป็นหนึ่งในห้องพักที่มีความหรูหราสูงสุดและเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของผู้เข้าพัก โดยเฉพาะในการล่องเรือหรูหรา ห้องพักนี้มีให้เลือกทั้งแบบหนึ่งห้องนอน สองห้องนอน หรือแบบเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้รถเข็น ซึ่งทุกแบบมอบความสะดวกสบายครบครันสำหรับนักเดินทางที่มีรสนิยมชั้นสูง ห้องเงินทองมีขนาดกว้างขวาง เช่น แบบห้องหนึ่งนอนมีขนาด 73 ตารางเมตร รวมระเบียง 12 ตารางเมตร และแบบสองนอนขนาด 104 ตารางเมตร รวมระเบียงเดียวกัน การได้สัมผัสวิวทะเลจากระเบียงหรู หรือการผ่อนคลายในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ เป็นประสบการณ์ที่มีค่าในทุกจังหวะของการเดินทาง ห้องเงินทองยังมีความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์ครบครัน เช่น มีห้องนั่งเล่น พื้นที่สำหรับนอนที่มีเตียงคิงไซส์ โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมทั้งบริการพิเศษต่างๆ จากพ่อบ้าน นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เน็ตไร้สายคุณภาพระดับพรีเมียมและอุปกรณ์สื่อสารทันสมัย รวมทั้งทีวีจอแบนขนาดใหญ่และระบบเสียงที่รองรับ Bluetooth การพักผ่อนในห้องเงินทองนี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสงบ มีบริการเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ เมนูหมอน และตู้เย็นส่วนตัวที่สามารถจัดเตรียมในสิ่งที่คุณชอบได้โดยเฉพาะ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์หรูหรา เช่น เสื้อคลุมอาบน้ำและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายระดับพรีเมียม ห้องเงินทองห้องสวีทจึงเป็นสถานที่พักผ่อนที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการเดินทางบนท้องทะเลที่งดงาม



ห้องสวีทระเบียงดีลักซ์เป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบหลังจากวันที่คุณได้สำรวจ แต่ละเนื้อที่กว้างขวางและตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู เช่น บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้ให้ตามความชอบของคุณโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม ห้องสวีทนี้ยังมีระเบียงไม้สัก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ชื่อของห้องสวีทนี้โดดเด่น เหมาะสำหรับการสร้างความทรงจำที่สวยงาม ห้องสวีทมีขนาด 36 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร มีทั้งพื้นที่นั่งเล่นและห้องน้ำที่แยกเป็นสัดส่วน พร้อมกับอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม ห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ที่มีตู้นิรภัยส่วนตัว คุณนอกจากจะได้นอนบนเตียงขนาดควีนไซส์แล้ว ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือและที่ชาร์จ USB-C ติดผนังให้บริการเพื่อความสะดวกสบาย ในการเชื่อมต่อ คุณสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สายแบบไม่จำกัดและชมภาพยนตร์ผ่านโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีบริการบัตเลอร์ที่จะจัดเตรียมแชมเปญต้อนรับคุณเมื่อมาถึง และบรรดาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น เมนูหมอน เสื้อคลุมอาบน้ำหรู โทรศัพท์สายตรง และรองเท้าแตะ เพื่อให้การพักผ่อนบนเรือสำราญของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด


ห้องสวีทระเบียงระดับสูง ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยม มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับกับวิวสวยงามจากระเบียงไม้สัก ห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางและห้องน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่ ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของคุณ เข้าพักผ่อนอย่างมีความสุข สั่งบริการรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมงจากบัตเลอร์ส่วนตัวและเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยรับรองว่าคุณจะไม่อยากออกจากที่นี่เลย ห้องนอนขนาด 36 ตารางฟุต รวมระเบียง 6 ตารางเมตร คุณจะพบกับการจัดสรรที่หรูหรามากมาย เช่น ระเบียง, พื้นที่นั่งเล่น, ห้องอาบน้ำแยก และห้องน้ำเต็มรูปแบบ พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินที่มีเซฟส่วนตัว อีกทั้งยังมีเตียงขนาดควีนไซส์, โต๊ะเขียนหนังสือ และที่นอนหรูหรา ในด้านเทคโนโลยี ห้องนี้มี Wi-Fi มาตรฐานไม่มีขีดจำกัด, โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่พร้อมห้องสมุดสื่อที่ตอบสนองความบันเทิง, โทรศัพท์ที่สามารถโทรออกตรง และช่องชาร์จ USB-C บนผนัง รวมถึงปลั๊กสองแรงดัน 110/220 โวลต์ สำหรับบริการบนเรือ ท่านจะได้รับการบริการจากบัตเลอร์ และแชมเปญต้อนรับเมื่อเดินทางมาถึง นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ เช่น เมนูหมอน, ตู้เย็นพร้อมบาร์ที่ให้เลือกรายการตามต้องการ, เสื้อคลุมอาบน้ำฟูฟ่อง, ของใช้ในห้องน้ำสุดหรู, ร่ม, เครื่องเป่าผม และรองเท้าแตะ เพื่อให้การเข้าพักของคุณไร้ที่ติที่สุด


ห้องสวีทระเบียงคลาสสิกเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความผ่อนคลาย ห้องสวีทนี้มีขนาด 36 ตารางเมตร รวมระเบียงที่มีขนาด 6 ตารางเมตร ซึ่งช่วยให้คุณได้สัมผัสวิวทะเลอย่างใกล้ชิด เตียงที่สะดวกสบายสามารถเลือกได้ทั้งแบบคู่หรือตัวเดียว พร้อมกับที่นอนคุณภาพสูงที่จะทำให้คุณได้นอนหลับอย่างเต็มที่ ส่วนที่นั่งในห้องก็เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารภายในห้อง ห้องนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า ซึ่งสะดวกเข้าถึงบันได และให้บริการที่ครบครัน เช่น อินเทอร์เน็ต Wi-Fi และโทรทัศน์จอใหญ่ที่มาพร้อมห้องสมุดสื่ออินเตอร์แอคทีฟ นอกจากนี้ยังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัวและแชมเปญต้อนรับในขณะที่คุณเช็คอิน สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ได้แก่ เมนูหมอน เตาไมโครเวฟ ที่เก็บเครื่องดื่มในตู้เย็นตามความชอบ และของใช้หรูหราในห้องน้ำ ห้องสวีทระเบียงคลาสสิกนี้จึงเป็นห้องที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและความหรูหราในระหว่างการเดินทางทางน้ำ

พาโนรามาสวีท ห้องพักสุดหรูที่ออกแบบมาเพื่อความสบายและผ่อนคลาย ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหราและมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา ทำให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นเวลาเช้าหรือเย็น ห้องนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 9 และอยู่ในส่วนหน้า (Forward) ของเรือ พร้อมให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยที่คุณคาดหวังจากเรือสำราญหรูหรา รวมถึงพื้นที่นั่งเล่น ห้องน้ำแยกโซนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้เซฟส่วนตัว เตียงขนาดควีนไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ และในด้านเทคโนโลยีมี Wi-Fi แบบไม่จำกัด โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ และช่องเสียบ USB-C สำหรับมือถือ นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์เพื่อดูแลคุณอย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยการต้อนรับด้วยแชมเปญเมื่อเข้ามาในห้องพัก และความพิเศษมากมาย เช่น เมนูหมอน ค็อกเทลในตู้เย็นและบาร์ที่จัดเตรียมตามความพึงพอใจของคุณ เสื้อคลุมอาบน้ำหรู และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้ความสะดวกสบายในระหว่างการพักผ่อนบนเรือสำราญแห่งนี้

วิสต้าสวีท มอบการพักผ่อนที่สะดวกสบายและกว้างขวาง พร้อมวิวทะเลที่ยอดเยี่ยม เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับทัศนียภาพทะเลกว้างใหญ่ และสามารถเพลิดเพลินกับอาหารเช้าขณะฟังเสียงคลื่นที่กระทบข้างเรือ นอกจากนี้ยังมีระบบความบันเทิงในห้องที่ทันสมัยและโซฟาที่นุ่มสบาย บางวิสต้าสวีทยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าปกติ เหมาะสำหรับแขกที่มีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว หากคุณกำลังมองหาบ้านหลังที่สองขณะอยู่ในทะเล วิสต้าสวีทคือคำตอบของคุณ ห้องมีขนาด 32 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 4 ของเรือ ในส่วนหน้าของเรือ โดยห้องพักนี้มีหน้าต่างชมวิว ขนาดเตียงควีนไซส์ พร้อมกับมุมพักผ่อนและโต๊ะเขียนหนังสือ มีห้องน้ำแยกส่วน และอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินที่มีตู้นิรภัยส่วนตัว สะดวกสบายด้วย Wi-Fi พื้นฐานไม่จำกัด โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่พร้อมคลังข้อมูลสำรวจ ควบคู่ไปกับบริการบัตเลอร์และแชมเปญต้อนรับเมื่อมาถึง นอกจากนี้ยังมีเมนูหมอน ตู้เย็นที่จัดเตรียมสิ่งของตามที่คุณชื่นชอบ ชุดคลุมอาบน้ำที่หรูหรา ผลิตภัณฑ์อาบน้ำระดับพรีเมียม และด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ร่ม ไดร์เป่าผม และรองเท้าแตะ เพื่อทำให้การพักผ่อนของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น