
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

ซิลเวอร์ คลาวด์
ซิลเวอร์ซี


โคเบะ (Kobe) ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลในของญี่ปุ่น เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งแต่เปิดรับนักค้าและนักลงทุนต่างชาติในปี 1868 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดประเทศญี่ปุ่นสู่โลกภายนอก ทำให้โคเบะกลายเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างเด่นชัด ปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ถึง 98 ประเทศ ทำให้สามารถสัมผัสประสบการณ์การชิมอาหารนานาชาติ รวมถึงเนื้อโกเบที่มีชื่อเสียงในระดับโลก แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1995 จะทำให้โคเบะต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างหนัก แต่เมืองนี้ได้ฟื้นฟูและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และแหล่งช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวา หลากหลายพิพิธภัณฑ์ และร้านอาหารคุณภาพ โดยท่าเรือโคเบะยังคงเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางการค้าและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ โคเบะยังเป็นประตูสู่เมืองโบราณที่สำคัญอย่างเกียวโตและนารา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในบรรยากาศที่สงบและงดงามได้ ด้วยแสงสีของชีวิตยามค่ำคืนในบาร์อบอุ่นและไนท์คลับหรูหรา โคเบะจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ใหม่ในญี่ปุ่น

ท่าเรือโคจิ (Kochi Port) ในประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิโกะกุ ท่าเรือนี้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับการเดินเรือสำราญ โดยมีการให้บริการที่สะดวกสบายและบริการต่าง ๆ ที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ เมื่อมาถึงโคจิ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น เช่น ปราสาทโคจิที่สวยงามซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยยังคงความงดงามในสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งยังมีสวนปราสาทที่ร่มรื่นเหมาะแก่การเดินเล่นและสัมผัสบรรยากาศ นอกจากนี้ ตลาดสดโคจิ (Kochi Sunday Market) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่คุณจะได้สัมผัสชีวิตประจำวันของคนท้องถิ่น พร้อมซื้อของฝากที่มีชื่อเสียง เช่น ผลไม้สดและของทำมือที่สร้างจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่เพียงแค่ท่าสำหรับการหยุดพักของเรือสำราญ โคจิยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าหลงใหล นับเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางที่หรูหราและน่าจดจำในประเทศญี่ปุ่น ด้วยเสน่ห์อันยิ่งใหญ่และเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ทำให้โคจิเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต


ท่าเรือชิมาบาระ ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในจุดหมายชมวิวที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือสำราญ ท่าเรือแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่มรดกทางวัฒนธรรมที่งดงามและธรรมชาติสะอาดรอบด้าน เมื่อคุณก้าวลงจากเรือ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมศิลปะ ที่นี่มีปราสาทชิมาบาระที่มีความรุ่งเรืองในสมัยศตวรรษที่ 17 และสวนในสไตล์ญี่ปุ่นที่งดงาม เป็นสถานที่ที่สามารถให้คุณย้อนเวลาไปยังยุคซามูไร นอกจากนี้ อย่าพลาดที่จะสำรวจแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในบริเวณใกล้เคียง อย่าง “อุม่ะ รถ” ที่จะนำพาคุณเข้าสู่โลกแห่งการผ่อนคลาย ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ควบคู่ไปกับการละเมียดละไมของสุนทรียะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชิมาบาระเป็นมากกว่าท่าเรือ มันคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่รู้จบในแดนอาทิตย์อุทัย ที่นี่รอคอยที่จะต้อนรับคุณ ด้วยความเต็มใจและความงดงามที่ยากจะลืมเลือน ตื่นเต้นไปกับการเดินทางที่จะทำให้คุณหลงใหลในความงามและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น!

ท่าเรือซะไคมินาโตะ ตั้งอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยทะเลญี่ปุ่นตามทิศตะวันออก ช่องแคบซะไคทางทิศเหนือ และทะเลสาบนาคาอุมิทางทิศตะวันตก เมืองนี้ถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากท่าเรือซะไคมินาโตะ ผู้เดินทางสามารถไปสำรวจเมืองมัตซูเอะ ที่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองน้ำ” โดยมีทะเลสาบชินจิและทะเลสาบนาคาอุมิอยู่ใกล้เคียง ที่นี่มีปราสาทไม้เก่าแก่ที่ยังคงอยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่สามารถชมได้ นอกจากนี้ การล่องเรือบนแม่น้ำฮอริคาวาและการสำรวจรอบ ๆ ปราสาทก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ในขณะที่เมืองยาซูกิ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะอดาชิ ซึ่งมีการจัดเก็บผลงานศิลปะร่วมสมัยญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยสวนขนาด 165,000 ตารางเมตร ที่จัดแสดงพรรณไม้และหินตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน สวนเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “สวนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น” หลายปีติดต่อกัน การเยี่ยมชมซะไคมินาโตะ ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่ยังได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายที่จะเติมเต็มความสุขให้กับการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน
หมู่เกาะโอกิ (Oki Islands) ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์อย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างจากการท่องเที่ยวบนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะหากคุณเดินทางมาทางเรือสำราญ ภายในหมู่เกาะนี้ประกอบไปด้วยเกาะหลายเกาะ ทั้งเกาะนาคาชิ (Nakashima) และเกาะโดชู (Dōgo) ซึ่งแต่ละเกาะมีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เมื่อคุณมาถึงท่าเรือของหมู่เกาะโอกิ คุณจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนจากชีวิตในเมืองใหญ่ ที่นี่ไม่เพียงแต่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม แต่ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การดำน้ำตื้นชมปะการัง การเดินป่าในธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และการสัมผัสกับวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่ยังคงเก็บรักษาไว้ นอกจากนี้ หมู่เกาะโอกิยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เช่น วัดซันซุยจิที่ตั้งอยู่บนยอดเขา และพิพิธภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์โบราณของพื้นที่ ช่วยเพิ่มมิติให้กับการสำรวจและการเรียนรู้ของคุณในระหว่างที่คุณได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ การเดินทางมายังหมู่เกาะโอกิ ตลอดจนการสำรวจสถานที่ต่างๆ ที่นี่ จะช่วยสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจและทำให้หัวใจของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการผจญภัยและการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต

ท่าเรือคานาซาวะ ตั้งอยู่ในจังหวัดอิชิคาวะ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งทางประวัติศาสตร์กับเกียวโตและเอโดะ (โตเกียว) คานาซาวะได้รับการอนุรักษ์ให้มีสภาพดีจากการทำลายล้างในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เขตเมืองเก่าทั้งหลายยังคงอยู่ในสภาพดีและน่าเยี่ยมชม อัญมณีที่สำคัญของเมืองคือ "เคนโระเคน" สวนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามสวนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทคานาซาวะ สวนนี้มีพื้นที่กว่า 11.4 เฮกตาร์ โดยมีบ่อน้ำตามธรรมชาติ ภูเขา และบ้านต่าง ๆ สมาชิกในสวนและเป็นที่ตั้งของน้ำพุที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่ใช้แรงดันน้ำธรรมชาติ อีกหนึ่งจุดเด่นของคานาซาวะคือย่านฮิงาชิชยะกาย ซึ่งเป็นเขตเกอิชาที่ใหญ่ที่สุด มีบ้านเก่าแก่ที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิม และมีร้านค้ามากมายสร้างบรรยากาศย้อนยุค นอกจากนี้ คานาซาวะยังมีชื่อเสียงในด้านงานชั้นยอด เช่น งานเคลือบลายลักษณ์, เครื่องปั้นดินเผาสไตล์คุตานิ และชุดกิโมโนที่ประดับอย่างประณีต คานาซาวะ ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักงานศิลปะและวัฒนธรรมที่แท้จริงของญี่ปุ่น โอกาสนี้เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเปิดโลกใหม่ของประสบการณ์วัฒนธรรมในเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์นี้!
เกาะซาโด (Sado Island) เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับหกของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดนีงาตะ โดยมีชื่อเสียงในด้านการเกษตรและการประมง จุดเด่นที่น่าทึ่งบนเกาะนี้คือ สวนป่ายูริ (Tori Forest Park) ซึ่งเป็นที่มาตรฐานสำหรับการฟื้นฟูนกอิบิสที่มีปีกสวยงาม (Crested Ibis) กลับสู่ธรรมชาติ หลังจากที่ประชากรของนกชนิดนี้ลดลงอย่างน่าใจหายในปี 1981 จนเหลือลงเพียง 12 ตัว ทางญี่ปุ่นและจีนจึงได้ร่วมมือดำเนินโครงการเพาะพันธุ์ จนกระทั่งสำเร็จในการปล่อยนกกลับสู่ป่าในปี 2012 นอกจากนี้ เกาะซาโดยังมีความน่าสนใจอีกมากมาย โดยเฉพาะเหมืองทองซาโด (Sado Gold Mine) ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 400 ปี นักท่องเที่ยวผู้มีใจรักการผจญภัยสามารถสำรวจลงไปในอุโมงค์ลึก และสัมผัสประสบการณ์การทำเหมืองทองที่เป็นเอกลักษณ์ได้ ความงามของซาโดไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่นกและเหมืองทอง ยังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เข้มข้น รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสความทางฝั่งตะวันออกแห่งนี้ จึงไม่แปลกที่ซาโดจะเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับการผจญภัยในดินแดนญี่ปุ่นที่สวยงาม.


ท่าเรืออาโอโมริในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและเทศกาลท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลเนบุตะ มัตสึริ ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 7 สิงหาคมของทุกปี เทศกาลนี้เป็นหนึ่งในงานเฉลิมฉลองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น กับขบวนแห่ลอยประดับไฟที่มีขนาดใหญ่ แสดงถึงรูปปั้นซามูไรที่น่าประทับใจ พรั่งพร้อมไปด้วยการเต้นรำที่รื่นเริงจากนักเต้น "เฮเนโต" ที่วิ่งเคียงข้างขบวนลอย คุณจะได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์และพลังแห่งชัยชนะหลังจากการต่อสู้ นอกจากนี้ อาโอโมริยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดๆ จากอ่าวอาโอโมริ โดยเฉพาะ "โอมา โน มะกุโร" (ทูน่าจากโอมา) และผลไม้ผักสดใหม่ เช่น กระเทียมที่มีชื่อเสียง ซึ่งนับว่าเป็นความใส่ใจต่อรสชาติและคุณภาพของอาหารท้องถิ่น ไม่ว่าคุณจะเลือกเยี่ยมชมในช่วงฤดูร้อนหรือมาในช่วงเวลาที่แตกต่าง คุณจะต้องการที่จะสัมผัสประสบการณ์ที่เย้ายวนใจในเมืองนี้ และในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับการเดินทางอันหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นตามคาบสมุทรที่มีเสน่ห์นี้


เมืองโอตารุ (Otaru) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นท่าเรือที่มีความงดงามและหลากหลาย ตั้งแต่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปจนถึงวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านเนินเขาที่สวยงามและสกีรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการประมงปลาซาร์ดีนที่สำคัญในอดีต ไฮไลท์หลักของโอตารุคือคลองที่ทอดยาวจากท่าเรือไปยังโกดังเก่า ซึ่งได้มีการบูรณะและปรับปรุงให้กลายเป็นร้านอาหารและบูติคสุดเก๋ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคท่ามกลางสถาปัตยกรรมแบบหินและอิฐที่สวยงาม การเดินเล่นริมคลองในช่วงยามค่ำคืน จะนำคุณเข้าสู่โลกที่มีแสงไฟนวลตาและเสียงดนตรีอันไพเราะ การเยี่ยมชมโอตารุจะเปิดประตูสู่ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะเป็นการชิมซูชิสดใหม่จากตลาดปลา หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการผลิตเครื่องแก้วที่มีชื่อเสียง การเดินทางมายังโอตารุจึงเป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ล้ำลึกที่สุดในญี่ปุ่น เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนต้องการอิ่มเอมกับความทรงจำอันงดงามที่นี่อย่างแน่นอน


เจ้าของสวีทบนเรือสำราญนี้นำเสนอการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของพื้นที่สะดวกสบายและบริการชั้นเลิศ ซึ่งให้ประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราผสมผสานกับการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร ห้องพักขนาด 55 ตารางเมตรพร้อมระเบียง (8 ตารางเมตร) สำหรับแบบหนึ่งห้องนอน หรือตัวเลือกแบบสองห้องนอนซึ่งรวมเข้ากับวิสต้าสวีท โดยมีพื้นที่รวม 77 ตารางเมตร ห้องพักมีอุปกรณ์ครบครัน เช่น เตียงขนาดคิงไซส์, พื้นที่รับประทานอาหารแยก, ห้องนั่งเล่นพร้อมที่นั่ง, ห้องน้ำที่มีฝักบัวและอ่างอาบน้ำแบบกระจัดกระจาย, ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินพร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว, และระบบสื่อสารทันสมัยที่มี Wi-Fi ไม่จำกัด พร้อมทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง รวมถึงฟังก์ชัน Bluetooth สำหรับเสียง ท่านยังจะได้รับบริการจากบัตเลอร์, การซักรีดฟรี, การบริการคานาเป้ประจำวัน, การต้อนรับด้วยช็อกโกแลต, ผลไม้ต้อนรับ, และการรับประทานอาหารค่ำในร้านอาหารลาฟาม, รวมทั้งได้รับแชมเปญเมื่อมาถึงสร้างความรู้สึกพิเศษทุกครั้งที่ท่านเข้าพักในเจ้าของสวีทที่หรูหรานี้



ห้องสวีทใหญ่ได้รับการออกแบบอย่างมีความชำนาญและตกแต่งอย่างงดงาม เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวกับนักท่องเที่ยวอื่น ๆ และเพื่อนใหม่ โดยมีขนาดกว้างขวางทั้งภายในและภายนอก เหมาะสำหรับการพักผ่อนและย้อนเล่าถึงความประทับใจในแต่ละวัน ห้องนี้มีให้เลือกในรูปแบบหนึ่งห้องนอนขนาด 95 ตารางเมตร รวมระเบียง 14 ตารางเมตร หรือสองห้องนอนเมื่อเชื่อมต่อกับห้องสวีทระเบียง โดยขนาดรวมถึงระเบียง 122 ตารางเมตร พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน รวมถึงห้องนั่งเล่นที่มีที่นั่งสบาย ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการทานอาหารในพื้นที่แยกต่างหาก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราที่สุด เช่น เตียงขนาดคิงไซส์ ระบบเสียงที่เชื่อมต่อบลูทูธ และทีวีจอแบนขนาดใหญ่สองเครื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ให้ความสะดวกสบาย พร้อมด้วยบริการซักรีดฟรีและการบริการที่พักที่สุดแสนจะหรูหรา ซึ่งทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจและความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง




ห้องสวีทราชาเป็นสถานที่ที่มีความสง่างามและน่าภูมิใจ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหลังจากวันที่สำรวจและชมภาพถ่ายต่าง ๆ ของคุณ ด้วยการถ่ายทอดสดการบรรยายสู่ห้องของคุณ ห้องนี้จึงเป็นจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตที่ดีบนทะเล ห้องสวีทราชาสามารถเลือกได้ในรูปแบบห้องนอนหนึ่งห้องหรือห้องนอนสองห้อง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับห้องสวีทระเบียง ห้องนอนหนึ่งขนาด 69 ตารางเมตรรวมระเบียงขนาด 12 ตารางเมตร ในขณะที่ห้องนอนสองขนาด 96 ตารางเมตรรวมระเบียงขนาด 16.5 ตารางเมตร ผู้เข้าพักจะสัมผัสได้ถึงความสะดวกสบายจากเตียงควีนไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา เช่น ระบบเสียงที่เชื่อมต่อบลูทูธและทีวีจอแบนขนาดใหญ่สองเครื่องพร้อมห้องสมุดข้อมูล มีบริการบัตเลอร์และการซักรีดฟรี รวมถึงการเฉลิมฉลองด้วยแชมเปญเมื่อเข้าพัก ห้องสวีทราชามากไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงเอสเพรสโซ่ ผ้าขนหนูนุ่มพิเศษ ชุดเครื่องนอนหรู และชั้นวางของเดินเข้าที่มีตู้นิรภัยส่วนตัว เพียงแค่ย่างก้าวเข้าสู่ห้องนี้ คุณจะได้สัมผัสกับการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมและความสะดวกสบายอย่างแท้จริง





ห้องสวีทเงินทองห้องเป็นที่พักที่มีสไตล์และความ sophisticated มาพร้อมระเบียงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับถ่ายภาพและชม鸟。ตั้งอยู่กลางเรือ ห้องนี้มีการออกแบบที่ลงตัวและมีความสะดวกสบาย。ห้องมาพร้อมกับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่,ห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อน,และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง ห้องสวีทนี้สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สามท่าน。ขนาดห้องรวมระเบียงอยู่ที่ 54 ตร.ม. โดยระเบียงมีขนาด 8 ตร.ม. ภายในห้องสวีทจะมีโซฟานอนที่นอนสบายสำหรับผู้เข้าพักคนที่สาม,และตกแต่งด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น เตียงขนาดควีนไซส์ โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง และที่นอนหรูหรา。ห้องนี้ยังมีบริการ Wi-Fi พรีเมียม,โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง,ระบบเสียงที่เชื่อมต่อ Bluetooth,以及ปลั๊ก USB-C การทำงานที่การชาร์จได้สะดวก。 สิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมรวมถึงบริการบัตเลอร์,ซักรีดฟรี,และแชมเปญต้อนรับ,นอกจากนี้ยังมีเครื่องชงกาแฟ,เมนูหมอน,ตู้เย็นที่จัดเตรียมตามความชอบ,เสื้อคลุมอาบน้ำ,และผลิตภัณฑ์อาบน้ำสุดหรู。ห้องสวีทเงินทองห้องจึงเป็นทางเลือกที่น่าประทับใจสำหรับการพักผ่อนบนเรือที่หรูหรา。


เมดัลเลียน สวีท คือห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากความสบายของเตียงในวันเริ่มต้นการผจญภัยบนมหาสมุทร ห้องพักขนาด 48 ตารางเมตร มีพื้นที่ระเบียง 7.6 ตารางเมตร ที่กว้างขวาง และห้องนั่งเล่นที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน โดยสามารถรองรับแขกได้ถึงสามคน ห้องจะมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินพร้อมเซฟส่วนตัว, พื้นที่รับประทานอาหารแยกต่างหาก, ห้องน้ำที่มีฝักบัวและวัสดุหรูหรา รวมถึงเตียงขนาดควีนไซส์ที่มีที่นอนอย่างดี ห้องเมดัลเลียน สวีท ตั้งอยู่ในตำแหน่งกลางเรือบนดาดฟ้าที่ 5, 6 และ 7 พร้อมบริการอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น บริการพนักงานดูแลส่วนตัว, สัญญาณ Wi-Fi พรีเมียมไม่จำกัด, ทีวีจอแบนขนาดใหญ่สองเครื่อง, และไลบรารีสื่อที่ใช้งานได้ รวมถึงการชาร์จอุปกรณ์ USB-C ที่ติดผนัง ในทุกการเข้าพัก, คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยแชมเปญ, บริการซักรีดฟรี,และบริการพิเศษอื่น ๆ เช่น เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ, เมนูหมอน, ตู้เย็นที่มีเครื่องดื่มไว้ตามที่คุณชื่นชอบ รวมถึงเสื้อคลุมอาบน้ำที่นุ่มสบายและอุปกรณ์อาบน้ำหรูหรา สร้างประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่มีวันลืมให้กับคุณ.



ห้องสวีทระเบียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Silversea ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย มีพื้นที่กว้างขวางและเป็นกันเอง โดยมีประตูกระจกขนาดตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่เปิดออกไปยังระเบียงส่วนตัวที่ตกแต่งด้วยไม้สัก ที่คุณสามารถนั่งพักผ่อนและชื่นชมบรรยากาศอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นพระอาทิตย์ขึ้นที่แอนตาร์กติกาหรือแสงอาทิตย์ในยามค่ำคืน ห้องสวีท Deluxe Veranda ยังมีทำเลที่ตั้งที่ดีและมีความสะดวกสบายเช่นเดียวกับห้องสวีทระเบียง ห้องจำนวน 1 ห้องนอนมีขนาด 27 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 4.5 ตารางเมตร ส่วนห้องจำนวน 2 ห้องนอนก็มีขนาดเท่ากัน ห้องอยู่บนดาดฟ้า 5, 6 และ 7 โดยมีทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเรือ คุณจะพบกับการตกแต่งที่มีเสน่ห์ อาทิเช่น พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะเขียนหนังสือ เตียงขนาดควีนไซส์ และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว การติดต่อสื่อสารและสื่อบันเทิงได้รับการปรับแต่งให้สะดวกสบายด้วย Wi-Fi อินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัด ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ที่มีห้องสมุดสื่อแบบอินเตอร์แอคทีฟ มือถือสามารถชาร์จได้โดยใช้ USB-C ในขณะที่เต้าเสียบไฟฟ้าของห้องรองรับทั้งแรงดันไฟฟ้า 110/220V บริการระดับห้าดาวจากพนักงานดูแลพร้อมด้วยบริการพิเศษอย่างรับประทานแชมเปญเมื่อเดินทางถึง พร้อมด้วยชุดอำนวยความสะดวกอาทิเช่น เมนูหมอน ตู้เย็นและบาร์ส่วนตัวที่จัดเตรียมตามความชอบของคุณ เสื้อคลุมอาบน้ำที่นุ่มสบาย และอุปกรณ์อาบน้ำหรูหรา เตรียมพร้อมให้คุณได้สัมผัสความหรูหราและผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในการเดินทางครั้งนี้

วิสตา สวีทเป็นที่พักที่เหมือนบ้านห่างไกลจากบ้านของคุณ เมื่อคุณได้ปล่อยให้ผู้สำรวจในตัวคุณออกไปผจญภัย พื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางช่วยให้คุณสามารถผ่อนคลายและทบทวนบันทึกต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งถัดไป หน้าต่างขนาดใหญ่เปิดให้ชมวิวทะเลแบบแพนโอรามา เป็นที่เหมาะสำหรับการสังเกตชีวิตสัตว์น้ำในท้องถิ่น สวีทนี้มีขนาด 22 ตารางเมตร และมีการเข้าถึงที่เหมาะสมกับผู้ใช้วีลแชร์ในห้องหมายเลข 449 และ 451 ห้องตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 4 โดยมีตำแหน่งอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ข้อดีของสวีทนี้รวมถึงมีหน้าต่างขนาดใหญ่ พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะเครื่องแป้งมาตรฐาน ห้องอาบน้ำแยกต่างหาก และห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ที่มีตู้นิรภัยส่วนตัวเฟอร์นิเจอร์ที่มีในห้องประกอบด้วยเตียงควีนไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ และที่นอนหรูหรา ในด้านสื่อและการสื่อสาร คุณจะได้รับบริการ Wi-Fi แบบไม่จำกัด โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่พร้อมห้องสมุดสื่ออินterแอกทีฟ โทรศัพท์สำหรับกดตรง และที่ชาร์จ USB-C ติดผนัง นอกจากนี้ยังมีปลั๊กไฟสองมาตรฐาน 110/220 โวลต์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในระหว่างการเข้าพัก บริการพิเศษภายในเรือรวมถึงบริการบัตเลอร์และแชมเปญเมื่อมาถึง คุณจะได้สัมผัสบริการที่มอบความสะดวกสบาย ตั้งแต่เมนูหมอน ตู้เย็นและบาร์ที่เตรียมสิ่งที่คุณชอบ ชุดเสื้อคลุมอาบน้ำฟูฟ่อง สินค้าอาบน้ำสุดหรู ร่ม ไดร์เป่าผม และรองเท้าแตะ ทำให้การพักผ่อนในวิสตา สวีทกลายเป็นประสบการณ์ที่หรูหราและน่าจดจำ