
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Silver Spirit
ซิลเวอร์ซี


ฟูซินา (Fusina) คือท่าเรือที่มีเสน่ห์อยู่ในภูมิภาคแวนีเซีย (Venice) ของประเทศอิตาลี โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำพอ (Po River) ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และวิวที่งดงามของเมืองเวนิส ท่าเรือฟูซินานับว่าเป็นประตูเปิดสู่การสำรวจและสัมผัสวัฒนธรรมอันสลับซับซ้อนของอิตาลี เมื่อเรือสำราญเข้าเทียบท่าที่ฟูซินา นักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงคลื่นซัดกับเรือ บรรยากาศที่เย็นสบาย และกลิ่นอายของอาหารทะเลสดใหม่ ที่รอคอยให้คุณได้ลิ้มรส ทั้งนี้ฟูซินาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าชมอัญมณีทางสถาปัตยกรรมของเวนิส เช่น โบสถ์ซานมาร์โก (St. Mark’s Basilica) และ Palazzo Ducale โดยสามารถเดินทางด้วยเรือกอนโดล่าหรือแม้กระทั่งเดินชมบริเวณรอบ ๆ นอกจากความงามของเมือง ยังมีอาหารอิตาเลียนอันโดดเด่น พร้อมไวน์ยอดนิยมที่พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่ไม่เหมือนใครในบรรยากาศโรแมนติก ฟูซินานับว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความทรงจำที่จะไม่ลืมเลือนในชีวิต

ท่าเรือที่น่าหลงใหลอย่างท่าเรือเมืองเตรียสเต (Trieste) ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี เป็นซีกหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ตัดกับความเป็นมาของอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยคุณภาพความเป็นเมืองท่าที่สำคัญและศูนย์กลางการเงินเมื่อหลายทศวรรษก่อน เตรียสเตยังเป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงในวงการวรรณกรรม โดยนักเขียนชื่อดังอย่างอิตาโล สเวโว (Italo Svevo) และเจมส์ จอยซ์ (James Joyce) ต่างได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศอันหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมือง คุณจะได้สัมผัสความงามในการผสมผสานของสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิกและอาร์ตนูโว ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงรุ่งเรืองของเมือง เตรียสเตยังมอบบรรยากาศที่เงียบสงบแต่แฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยและงดงาม ในขณะที่คุณเดินชมถนนที่เรียงรายไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ สามารถสำรวจชายหาดที่มีวิวทะเลสวยงามและสัมผัสกับวัฒนธรรมและอาหารอิตาเลียนอันเลื่องชื่อได้อีกด้วย เตรียสเต คือจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสทั้งประวัติศาสตร์และความสวยงามในอิตาลีที่ไม่เหมือนใคร

โรวีญ (Rovinj) เป็นอัญมณีที่แท้จริงของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งอยู่ริมทะเลสวยงามที่ทอดตัวเป็นประกาย ใจกลางเมืองโดดเด่นด้วยหอระฆังรูปดินสอของวิหารเซนต์ยูเฟเมียในสไตล์เวนิส บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์นี้ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกย้อนยุคไปยังซอยแคบๆ และพลุกพล่านของเวนิสได้อย่างชัดเจน เมืองนี้ไม่เพียงแต่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนโดยเคยอยู่ภายใต้การปกครองของราชอาณาจักรอิตาลีระหว่างปี 1919 ถึง 1947 เท่านั้น แต่ยังนำเสนอวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีสองภาษาทางการที่สร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมให้กับท้องถิ่น นอกจากความงามของเมืองเก่าแล้ว โรวีญยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจธรรมชาติที่งดงามรอบๆ อย่างเช่น ป่าเขาเขียวขจีริมทะเล และเกาะน้อยใหญ่ที่เต็มไปด้วยความงามธรรมชาติ พลาดไม่ได้หากคุณต้องการสัมผัสกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น รวมถึงการดำน้ำตื้น ใครที่มาเยือนโรวีญจะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจ และเรื่องราวที่คุ้มค่าที่จะนำกลับบ้านอย่างแน่นอน


ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

Bari เมืองหลวงของจังหวัดอาปูเลีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลอเดรียติกของอิตาลีตอนใต้ เป็นท่าเรือที่มีความคึกคักและสำคัญทั้งด้านการค้าและอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับนักเดินทางที่ต้องการข้ามฟากไปยังประเทศกรีซ เมือง Bari ประกอบไปด้วยสองส่วนที่โดดเด่นคือเมืองใหม่และเมืองเก่า โดยเมืองเก่า หรือ Citta Vecchia ตั้งอยู่บนแหลมระหว่างท่าเรือเก่าและท่าเรือใหม่ มีเส้นทางคดเคี้ยวและแคบ สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ ในขณะที่เมืองใหม่ที่มีการวางผังอย่างเป็นระเบียบ สวยงามและทันสมัยขึ้นตั้งแต่ปี 1930 หัวใจของเมืองใหม่คือ Piazza della Liberta และถนน Corso Vittorio Emanuele II ที่เชื่อมเมืองเก่าและเมืองใหม่เข้าด้วยกัน ถัดไปที่ปลายสุดของ Corso คือ Lungomare Nazario Sauro ทางเดินเลียบชายทะเลซึ่งมีทิวทัศน์ที่งดงามมองเห็นท่าเรือเก่า สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลอมรวมกันมาอย่างลงตัวใน Bari ซึ่งถูกครอบครองโดยหลากหลายอารยธรรมตั้งแต่อดีต เช่น นอร์แมน มอริส และสเปน ปัจจุบัน Bari จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสำรวจและดื่มด่ำไปกับความงามที่หลากหลายของอิตาลีอย่างแท้จริง สร้างแรงบันดาลใจให้คุณใฝ่ฝันอยากเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์นี้สักครั้งในชีวิต

ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

สปลิต (Split) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่ยากจะเลือนลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงพระราชวังของจักรพรรดิไดโอกลีเชียน ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 เป็นผลงานอันงดงามที่ทุกคนไม่ควรพลาด ภายในกำแพงของพระราชวังนี้ มีความยิ่งใหญ่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี เมื่อผู้เข้าชมเดินผ่านประตูสู่ประวัติศาสตร์ จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอดีตที่ยาวนาน เดิมที เมืองนี้เป็นที่หลบภัยของผู้คนจากการรุกรานในสมัยที่ซาลอนนา (Salona) ถูกโจมตี ชาวเมืองสร้างบ้านเรือนใหม่ภายในวัง จนกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะในยุคที่เวนิสเข้าครอบครอง สปลิตกลายเป็นหนึ่งในท่าเรือการค้าหลักของทะเลอดริยาติก วันนี้ สปลิต ถือเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เดินทางได้สัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมเรอเนสซองส์และแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ที่มีความหมาย ทั้งยังมีทิวทัศน์ที่งดงามจากทะเลที่อยู่ใกล้เคียง สปลิตจึงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่จะตราตรึงในความทรงจำอย่างไม่มีวันลืม

ซาดาร์ (Zadar) เมืองหลวงของดัลมาเชียที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ที่มักถูกมองข้ามโดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังสปลิตหรือดูบรอฟนิก แต่ที่นี่คือเมืองที่มอบความสวยงามสดใสและความมีชีวิตชีวาแม้จะมีอดีตที่ซับซ้อน Old Town ของซาดาร์ตั้งอยู่บนแหลมที่ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ประกอบไปด้วยถนนลาดยางหินอ่อนที่เรียงรายไปด้วยซากโรมัน โบสถ์ในยุคกลาง พระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซาดาร์เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญมาก่อนที่โรมจะเข้าครอบครองในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช โดยมรดกทางสถาปัตยกรรมที่งดงามยังคงอยู่ในซากฟอรัมที่สามารถเห็นได้ในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่โดดเด่นที่สุดคือการก่อสร้างโบสถ์เซ็นต์โดนัท (St. Donat's Basilica) ในศตวรรษที่ 9 ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับเมือง แม้ซาดาร์จะเคยเผชิญกับสงครามและการยึดครองในหลายยุคหลายสมัย แต่วันนี้เมืองนี้กลับเปล่งประกายด้วยความสดใสของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ที่สำคัญยังมีสัญญาณอธิบายภาษาอังกฤษรอบเมืองเก่า ช่วยให้ผู้มาเยือนสามารถสำรวจคัดเลือกความน่าสนใจในที่แห่งนี้ได้อย่างสบายใจ เตรียมพบกับความมหัศจรรย์ของเมืองซาดาร์ที่นี่ ตรงกลางของดัลมาเชียที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามรอคอยคุณอยู่!

ฟูซินา (Fusina) คือท่าเรือที่มีเสน่ห์อยู่ในภูมิภาคแวนีเซีย (Venice) ของประเทศอิตาลี โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำพอ (Po River) ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และวิวที่งดงามของเมืองเวนิส ท่าเรือฟูซินานับว่าเป็นประตูเปิดสู่การสำรวจและสัมผัสวัฒนธรรมอันสลับซับซ้อนของอิตาลี เมื่อเรือสำราญเข้าเทียบท่าที่ฟูซินา นักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงคลื่นซัดกับเรือ บรรยากาศที่เย็นสบาย และกลิ่นอายของอาหารทะเลสดใหม่ ที่รอคอยให้คุณได้ลิ้มรส ทั้งนี้ฟูซินาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าชมอัญมณีทางสถาปัตยกรรมของเวนิส เช่น โบสถ์ซานมาร์โก (St. Mark’s Basilica) และ Palazzo Ducale โดยสามารถเดินทางด้วยเรือกอนโดล่าหรือแม้กระทั่งเดินชมบริเวณรอบ ๆ นอกจากความงามของเมือง ยังมีอาหารอิตาเลียนอันโดดเด่น พร้อมไวน์ยอดนิยมที่พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่ไม่เหมือนใครในบรรยากาศโรแมนติก ฟูซินานับว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความทรงจำที่จะไม่ลืมเลือนในชีวิต







เจ้าของสวีท คือชื่อที่บ่งบอกถึงความหรูหราและสง่างามของห้องพักนี้โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่มองหาความสะดวกสบายและบริการในระดับสูงสุดบนเรือสำราญ ห้องพักนี้มีให้เลือกทั้งแบบหนึ่งห้องนอน ขนาด 120 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 12 ตารางเมตร หรือแบบสองห้องนอน ขนาด 114 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 12 ตารางเมตร โดยสามารถเชื่อมต่อกับห้อง Panorama Suite ได้ สะดวกสบายด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง มีมุมรับประทานอาหารเฉพาะ แบ่งออกเป็นสองโซน ซึ่งจะมีโซฟาเบดสำหรับผู้เข้าพักคนที่สามในบริเวณรับแขก ห้องพักตั้งอยู่บนชั้น 8 ของเรือ ทำให้ได้รับวิวกลางน้ำอย่างชัดเจน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ รหัสอินเทอร์เน็ตไร้สายพรีเมียม และทีวีจอแบนขนาดใหญ่สองเครื่องที่มีห้องสมุดสื่ออินเทอร์แอกทีฟ นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงที่รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ที่สำคัญคือบริการบัตเลอร์ที่จะคอยดูแลคุณตลอดระยะเวลาที่พัก รวมถึงบริการซักรีดฟรี แชมเปญตอนเข้าพัก และการรับประทานอาหารค่ำสําหรับสองคน ณ ร้าน La Dame หนึ่งค่ำคืนต่อการเดินทาง เพิ่มความพิเศษด้วยความสะดวกสบายและคุณภาพที่สมบูรณ์แบบในเจ้าของสวีท ห้องพักที่ตอบโจทย์คนรักความหรูหราบนเรือสำราญอย่างแท้จริง



ห้องสวีทใหญ่ได้รับการออกแบบอย่างเชี่ยวชาญและตกแต่งอย่างงดงาม มอบประสบการณ์ที่เหมาะสมสำหรับการพบปะแสนสบายกับเพื่อนๆ ขณะล่องเรือ หรือสำหรับการรับประทานอาหารค่ำแบบเงียบๆ ภายในห้องพัก ห้องสวีทนี้มีให้เลือกทั้งแบบหนึ่งห้องนอน ขนาด 132–142 ตารางเมตร รวมพื้นที่ระเบียงขนาด 52–62 ตารางเมตร และแบบสองห้องนอน ขนาด 175 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 55–65 ตารางเมตร โดยมีโซฟาเบดที่สะดวกสบายสำหรับแขกที่สามในพื้นที่การต้อนรับของห้อง ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 8 และ 9 ส่วนหน้า ห้องสวีทนี้มีระเบียงสำหรับนั่งเล่น มุมรับประทานอาหารแยกต่างหาก ห้องนั่งเล่นพร้อมพื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบ whirlpool รวมถึงพัดลม, อ่างล้างหน้าแบบคู่, และตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in พร้อมตู้เซฟส่วนตัว ตกแต่งด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง และที่นอนระดับหรู พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสื่อและการสื่อสาร เช่น อินเทอร์เน็ต Wi-Fi ระดับพรีเมียมไม่จำกัด, โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง พร้อมคลังสื่ออินเตอร์แอคทีฟ, ระบบเสียงที่เชื่อมต่อ Bluetooth, โทรศัพท์ตรง, พร้อมที่ชาร์จ USB-C ที่ติดผนัง และเต้ารับพลังงานที่รองรับทั้ง 110/220 โวลต์ ห้องสวีทยังมีบริการพิเศษ เช่น บริการบัตเลอร์, การซักรีดฟรี, การรับประทานอาหารค่ำสำหรับสองคนที่ La Dame หนึ่งคืนต่อการเดินทาง, การโทรศัพท์ทั่วโลกฟรี 2 ชั่วโมงต่อช่วงการเดินทาง และแชมเปญต้อนรับเมื่อมาถึง อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ได้แก่ เครื่องชงเอสเพรสโซ, เมนูหมอน, ตู้เย็นและบาร์ที่จัดเต็มตามความต้องการของแขก, เสื้อคลุมอาบน้ำ, ผลิตภัณฑ์อาบน้ำหรู, ร่ม, ไดร์เป่าผม และรองเท้าแตะเพื่อความสบายที่อบอุ่นตลอดการเข้าพัก




ห้องชุดราชวงศ์เป็นที่พักที่สง่างามและมีอำนาจ ออกแบบมาเพื่อการสังสรรค์อย่างสมบูรณ์แบบ มอบพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางที่คุณสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ โดยมีให้เลือกทั้งแบบหนึ่งห้องนอนขนาด 92 ตารางเมตร รวมระเบียง หรือแบบสองห้องนอนขนาด 127 ตารางเมตร ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับห้องชุดระเบียงได้ สังเกตว่าผู้เข้าพักคนที่สามจะนอนบนโซฟาเบดที่สะดวกสบายในพื้นที่ต้อนรับของห้องชุด ห้องชุดราชวงศ์ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 7 มีลักษณะเด่นคือระเบียงส่วนตัว พื้นที่รับประทานอาหารแยกต่างหาก และห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ โต๊ะทำงาน และโต๊ะเครื่องแป้งที่หรูหรา อุปกรณ์และบริการต่าง ๆ นั้นครบครัน ตั้งแต่ Wi-Fi ความเร็วสูง โทรทัศน์ขนาดใหญ่สองเครื่อง ระบบเสียงที่เชื่อมต่อบลูทูธ โทรศัพท์ที่สามารถโทรออกโดยตรง และที่ชาร์จมือถือ USB-C ติดผนัง นอกจากนี้ ห้องชุดนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ การซักรีดและทำความสะอาดฟรี อาหารค่ำสำหรับสองคนที่ La Dame หนึ่งคืนต่อการเดินทาง รวมถึงแชมเปญสำหรับการต้อนรับและการใช้โทรศัพท์ทั่วโลกสองชั่วโมงต่อการเดินทางหนึ่งช่วง ห้องชุดราชวงศ์ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม เช่น เครื่องชงเอสเปรสโซ เมนูหมอน ตู้เย็นพร้อมเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบ เสื้อคลุมอาบน้ำสุดหรู ของใช้ในห้องน้ำคุณภาพสูง และรองเท้าแตะที่นุ่มสบาย ความหรูหราที่คุณสมควรได้รับในทุกการเดินทาง






步入เงินทองห้องสวีทหลังนี้ แล้วสัมผัสถึงความสงบจากลมทะเลที่พัดผ่านมา คุณจะได้ผ่อนคลายในเตียงควีนไซส์ที่ให้ความสบายสุดพิเศษ พร้อมทั้งเตรียมตัวสำหรับค่ำคืนในห้องน้ำหินอ่อนที่สวยงาม การตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุด เปิดมุมมองทะเลที่งดงามที่สุด โดยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางทำให้คุณสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ชีวิตค่ำคืนอันอบอุ่นจะกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ห้องสวีทนี้มีการจัดเตรียมในรูปแบบสองห้องนอน เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบาย พื้นที่ใช้สอยของห้องหนึ่งอยู่ที่ 69 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 12 ตารางฟุต และสำหรับห้องสองอยู่ที่ 100 ตารางเมตร รวมระเบียงเช่นกัน เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันครบครัน เช่น ระเบียงส่วนตัว, มุมรับประทานอาหาร, พื้นที่นั่งเล่น, ห้องน้ำคู่, ฝักบัวแยก, อ่างน้ำวน, และตู้เสื้อผ้า Walk-in ที่มีเซฟส่วนตัว ห้องนอนมาพร้อมเตียงควีนไซส์, โต๊ะเขียนหนังสือ, โต๊ะเครื่องแป้ง, และที่นอนคุณภาพสูง สำหรับการเชื่อมต่อและการสื่อสาร มีบริการ Wi-Fi พรีเมียมไม่จำกัด, ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่องพร้อมห้องสมุดสื่ออินเทอร์แอกทีฟ, ระบบเสียงที่เชื่อมต่อ Bluetooth, โทรศัพท์โทรตรง, และที่ชาร์จ USB-C ที่ติดผนัง บริการของเรายังประกอบด้วยบริการบัตเลอร์, บริการซักรีดฟรี, และแชมเปญเมื่อคุณเดินทางมาถึง นอกจากนี้ยังมีเครื่องชงเอสเพรสโซ, เมนูหมอน, ตู้เย็นและบาร์ที่จัดเตรียมตามความชอบของคุณ, เสื้อคลุมอาบน้ำฟูนุ่ม, สินค้าอาบน้ำหรู และบริการอื่นๆ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในระหว่างการเข้าพัก



ห้องสวีทแบบระเบียงดีลักซ์เป็นที่พักที่มอบความสะดวกสบายในพื้นที่กว้างขวาง ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางของเรือสำราญ ด้วยตำแหน่งกลางเรือที่ได้รับความนิยมและความสะดวกสบายที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ห้องสวีทแบบระเบียงดีลักซ์จึงเหมาะสำหรับนักเดินทางที่ฉลาด เลือกสรรความเป็นส่วนตัวภายในและภายนอกได้อย่างลงตัว การตกแต่งที่หรูหรา พร้อมห้องน้ำที่ทำจากหินอ่อนและพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง ทำให้เหมือนกับบ้านหลังที่สองของคุณ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของห้องนี้อาจอยู่ในพื้นที่ระเบียงส่วนตัวที่สามารถเปิดออกได้ด้วยประตูกระจกสูงจากพื้นถึงเพดาน ซึ่งทำให้ทุกค่ำคืนที่พระอาทิตย์ตกดิน รู้สึกเหมือนเป็นเวลาส่วนตัวของคุณเพียงคนเดียว ห้องนี้มีขนาด 35 ตารางเมตร รวมพื้นที่ระเบียง 6 ตารางเมตร และมีเตียงควีนไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ เซิร์ฟเวอร์แม่บ้าน พร้อมบริการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย เช่น แชมเปญเมื่อมาถึง และบริการที่ปรึกษาส่วนตัว ด้วย Wi-Fi ฟรี และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ตอบสนองทุกความต้องการ เช่น ทีวีแบนใหญ่และชาร์จ USB-C ห้องสวีทแบบระเบียงดีลักซ์จึงเป็นที่พักที่เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริงในทริปสุดหรูของคุณ



ห้องสวีทระเบียงระดับพรีเมียมตั้งอยู่บนดาดฟ้าสูง และนำเสนอวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงาม ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบาย รายละเอียดที่ตั้งใจและสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายทำให้ห้องสวีทอันน่าตื่นตานี้เป็นบ้านที่อบอุ่นในระหว่างการเดินทางทางทะเล สิ่งที่พิเศษที่สุดของห้องนี้คือระเบียงส่วนตัวที่เปิดออกด้วยประตูกระจกใสจากพื้นจรดเพดาน ทำให้คุณรู้สึกว่าพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเป็นของคุณเพียงผู้เดียว ห้องมีขนาด 35 ตารางเมตรรวมระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร โดยสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ 3 ท่านซึ่งจะนอนบนโซฟาเบดที่สะดวกสบายในพื้นที่รับแขกของห้อง ห้องสวีทนี้ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าที่ 7, 8 และ 9 โดยมีทิศทางไปข้างหน้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ระเบียง พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะเครื่องแป้งมาตรฐาน ห้องอาบน้ำแยกต่างหาก ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน พร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว เตียงขนาดควีนไซส์ โต๊ะทำงาน และที่นอนหรูหรา นอกจากนี้ยังมีบริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่ไม่จำกัด ทีวีจอใหญ่ พร้อมห้องสมุดสื่ออินเทอร์แอคทีฟ โทรศัพท์ที่สามารถโทรโดยตรง และช่องชาร์จ USB-C ที่ติดผนัง บริการพิเศษที่มอบให้ภายในห้องรวมถึงบริการบัตเลอร์และแชมเปญเมื่อเดินทางมาถึง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเช่น เมนูหมอน ตู้เย็นและบาร์ที่พร้อมเปิดให้คุณเติมเต็มสิ่งที่คุณชอบ เสื้อคลุมอาบน้ำฟูฟ่อง อุปกรณ์อาบน้ำชั้นเลิศ ร่ม ไดร์เป่าผม และรองเท้าแตะ สิ่งเหล่านี้ทำให้ห้องสวีทระเบียงระดับพรีเมียมเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างหรูหราบนท้องทะเล



ห้องสวีทระเบียงคลาสสิก ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้าต่ำสุดในส่วนหัวของเรือ มอบพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและมีความสะดวกสบายสำหรับนักเดินทาง ด้วยการตกแต่งที่หรูหราและห้องน้ำที่ทำจากหินอ่อนที่สวยงาม พร้อมพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนบ้านที่คุณรัก ห้องสวีทแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่น่าประทับใจ นั่นคือระเบียงส่วนตัวที่คุณสามารถออกไปสัมผัสบรรยากาศชวนฝันได้ โดยประตูกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานจะเปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ทำให้ทุกพระอาทิตย์ตกดินในห้องสวีทของคุณรู้สึกเหมือนเป็นช่วงเวลาพิเศษเฉพาะคุณ ห้องสวีทขนาด 35 ตารางเมตร รวมพื้นที่ระเบียง 6 ตารางเมตร พร้อมทั้งเตียงขนาดควีนไซส์ โต๊ะทำงาน และที่นั่งที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เช่น โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ อินเทอร์เน็ตไร้สายไม่จำกัด และบริการบัตเลอร์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิดเมื่อคุณขึ้นเรือ เรียกได้ว่า ห้องสวีทระเบียงคลาสสิก เป็นการหลีกหนีจากชีวิตประจำวันที่ให้ความหรูหราและสบายอย่างแท้จริง


พาโนรามาสวีทเป็นห้องพักที่มีพื้นที่กว้างขวางเหมาะสำหรับผู้เดินทาง ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 9 ห้องนี้มอบความสะดวกสบายและความใส่ใจในรายละเอียดที่คุณคาดหวัง เมื่อเข้ามาในห้อง คุณจะพบการตกแต่งที่หรูหรา ห้องน้ำจากหินอ่อนที่โดดเด่น และพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางทำให้ที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองที่อบอุ่น พื้นที่นั่งเล่นของพาโนรามาสวีทมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพักผ่อน และหน้าต่างบานใหญ่เปิดให้เห็นวิวมหาสมุทรแบบพาโนรามา ห้องนอนมีขนาด 31 ตารางเมตร พร้อมหน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะทำงาน และเตียงขนาดควีนไซส์ที่มีที่นอนหรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ห้องน้ำที่แยกเฉพาะพร้อมฝักบัวเดี่ยวและตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินที่มีเซฟส่วนตัว บริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ไม่จำกัด โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่พร้อมคลังสื่อแบบโต้ตอบ โทรศัพท์สายตรง และที่ชาร์จ USB-C ติดผนัง ควบคู่กับบริการบัตเลอร์ที่พร้อมให้บริการ รวมถึงแชมเปญต้อนรับเมื่อมาถึง นอกจากนี้ยังมีเมนูหมอน ตู้เย็นและบาร์พร้อมเครื่องดื่มตามที่คุณชื่นชอบ เสื้อคลุมอาบน้ำหรูหรา อุปกรณ์อาบน้ำคุณภาพสูง ร่ม และเครื่องเป่าผม พร้อมด้วยรองเท้าแตะเพื่อความสะดวกสบายทุกช่วงเวลาบนเรือ

วิสตา สวีท เป็นสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบ ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง พร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เปิดมุมมองทะเลแบบพาโนรามา เป็นฉากหลังที่เพอร์เฟกต์สำหรับการทานอาหารเช้าในเตียงระหว่างการล่องเรือ วิสตา สวีท เหมาะสำหรับการเข้าพักสูงสุดถึงสามท่าน โดยมีขนาด 32 ตารางเมตร โดยท่านที่สามจะนอนบนโซฟาเบดที่สะดวกสบายในพื้นที่รับแขกของสวีท ห้องนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้า 4 ของเรือ ในส่วนที่อยู่ข้างหน้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ห้องอาบน้ำที่แยกออกมา เตียงขนาดควีนไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีตู้นิรภัยส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เน็ต Wi-Fi แบบไม่จำกัด โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ และบริการโทรศัพท์ด่วน นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ตลอดการเข้าพัก พร้อมเสิร์ฟแชมเปญเมื่อท่านมาถึง เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ห้องยังมีเมนูหมอน ตู้เย็นที่มีบาร์ตามที่ท่านต้องการ ชุดคลุมอาบน้ำของขวัญ และผลิตภัณฑ์อาบน้ำสุดหรู อีกทั้งยังมีร่ม ไดร์เป่าผม และรองเท้าแตะให้บริการ ทำให้การเข้าพักของท่านในวิสตา สวีท เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและสะดวกสบาย