
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เงินเงา
ซิลเวอร์ซี


เมื่อพูดถึงเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่สุดในฝรั่งเศส คงจะไม่สามารถมองข้ามเมืองนีซได้ เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เก่าแก่ถึง 230,000 ปี และถือเป็นเพชรเม็ดงามบนโค้งริมหาดสีน้ำเงิน เมืองนีซมีประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล โดยในสมัยโบราณมีชาวกรีกได้จัดตั้งท่าเรือที่นี่ ตั้งชื่อว่า “นิกาเรีย” ซึ่งกลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญของเมืองมาร์เซย์ เมืองนีซได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมอิตาเลียนในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของบ้านซาวอยติดต่อกันนานถึง 500 ปี ส่งผลให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและสวยงาม ดินแดนที่ปัจจุบันถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ "promenade des Anglais" เส้นทางริมทะเลสายงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทุกย่างก้าวจะได้พบกับร้านค้าหรือร้านอาหารที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิก นอกจากความสวยงามของชายหาด ท่าเรือนีซยังมีการปรับปรุงให้ทันสมัย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาชมสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ที่นี่ยังเหมาะสำหรับครอบครัว เพราะมีป้าย “Family Plus” ที่รองรับผู้ที่มีเด็กเล็กด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางอย่างแท้จริง เมืองนีซคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!

ท่าเรือ Portoferraio บนเกาะเอลบา ซึ่งตั้งอยู่ในอาร์คิปาลิโกของทัสคานี เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเรือสำราญ เกาะเอลบานั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในอาร์คิปาลิโก โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่งดงามและภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่ม ด้วยแหล่งน้ำใต้ดินที่ทำให้พื้นที่นี้มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามกว่าที่อื่น นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับความหลากหลายของพืชพรรณในแบบกึ่งเขตร้อน รวมถึงทิวเขาที่สลับซับซ้อน ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เกาะเอลบาเป็นจุดพักผ่อนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อน การเดินทางรอบเกาะเพื่อสำรวจสถานที่ต่างๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แม้ว่าการเช่ารถจะสะดวก แต่อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้บริการรถบัสสาธารณะที่มีให้บริการหลายครั้งในแต่ละวัน ผู้มาเยือนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตารางเดินรถได้จากสำนักงานการท่องเที่ยวท้องถิ่น สัมผัสกับความงามที่ไม่เหมือนใครและความสงบในบรรยากาศของ Portoferraio และเกาะเอลบา สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ พร้อมประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม.
เมื่อเรือสำราญของคุณมาจอดที่ Porto Santo Stefano เมืองชายทะเลที่งดงามในประเทศอิตาลี คุณจะพบกับบรรยากาศอันเงียบสงบที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและความมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บน คาบสมุทรกราณาดา ที่เป็นที่รู้จักในชื่อ "Tuscan Coast" นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลายและภูมิทัศน์ที่งดงามตระการตาของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อเดินเล่นตามท่าเรือ คุณจะได้พบกับร้านค้าและร้านอาหารที่จะเสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่และไวน์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง สำหรับผู้ที่มีใจรักการผจญภัย สามารถลงเรือสำรวจหมู่เกาะอาร์เจนเทราและโกลฟา ที่มีชายหาดส่วนตัวและน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ชวนให้หลงใหล นอกจากนี้ Porto Santo Stefano ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสำรวจเมืองเก่าโบราณอย่างเอลบาและมอนเตอคริสโต ทั้งสองเมืองเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง อย่าลืมต้องหยุดถ่ายภาพตัวเองกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลเพราะที่นี่ คือ สถานที่ที่จะทำให้คุณมีความทรงจำที่ไม่มีวันลืม หากคุณกำลังมองหาการเดินทางที่หรูหราและเหนือระดับ Porto Santo Stefano คือจุดหมายที่ต้องมาเยือนในครั้งนี้!

ซอร์เรนโต (Sorrento) เป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่เป็นทางผ่านไปยังปอมเปอี (Pompeii), เกาะคาปรี (Capri) และชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi) แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง เมืองที่ตั้งอยู่บนหน้าผาหินปูนนี้ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ขณะที่ต้นส้มและต้นมะนาวส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซอร์เรนโตร่ำรวยไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในย่านประวัติศาสตร์ที่มีถนนเล็ก ๆ ที่ปูด้วยหินแบบโบราณ และอาคารที่มีระเบียงสวยงาม ลมเย็น ๆ ที่พัดมาตลอดระยะทางทำให้คุณรู้สึกสดชื่นเมื่อเดินผ่าน พื้นที่กลางเมืองถูกตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่กวีชื่อดังทอร์ควาโต ทัสโซ (Torquato Tasso) ที่เกิดที่นี่ในปี ค.ศ. 1544 นอกจากภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว ซอร์เรนโตยังมีงานฝีมือที่น่าสนใจให้ชม โดยช่างฝีมือที่ทำงานในร้านค้าต่าง ๆ มักยินดีให้คุณได้เห็นการทำงานของพวกเขา พร้อมกับบาร์และร้านดนตรีมากมายในตรอกซอกซอยใกล้กับเพียซซ่า ทัสโซ (Piazza Tasso) ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ซอร์เรนโตเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางไปยังอิตาลี เติมเต็มความฝันด้วยการสำรวจความสวยงามและเสน่ห์ของเมืองนี้ อีกหนึ่งจุดหมายที่อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์อันไร้รอยต่อที่คอยต้อนรับคุณออกไปค้นหาโลกใบใหม่!


ซารันด์ (Sarandë) เป็นเมืองชายทะเลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคใต้ของประเทศแอลเบเนีย บนชายฝั่งของทะเลไอออนิอัน ซึ่งสามารถเดินทางมาจากเกาะคอร์ฟูของกรีซได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเรือเฟอร์รี่ เมืองซารันด์ได้ชื่อมาจากอารามคริสต์นิกายแรกซึ่งอุทิศให้กับนักบุญ 40 องค์ ความมหัศจรรย์ของซารันด์นั้นไม่เพียงแต่ในประวัติศาสตร์ แต่ยังรวมไปถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา จากการพัฒนาในช่วงหลังผ่านสถาปัตยกรรมคอมมิวนิสต์ที่เริ่มจะจางหาย มีร้านค้าขนาดเล็กและบาร์มากมายที่เพิ่มเสน่ห์แบบเมดิเตอร์เรเนียนให้กับเมือง ท่าเรือซารันด์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือโบราณของออนเคสมัส (Onchesmos) ขึ้นชื่อในเรื่องอากาศที่อบอุ่นและซากโบราณสถานที่ใกล้เคียงอย่างบูตรินต์ (Butrint) ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างสปริงน้ำตาอีฟ (Blue Eye Spring) ที่มีน้ำใสเป็นประกายอันน่าหลงใหล และใกล้เคียงมีสุสานใต้ดินของโบสถ์นักบุญ 40 ที่เพิ่งค้นพบ เมื่อคุณเยือนซารันด์ อย่าลืมชิมอาหารท้องถิ่น เช่น ชีสเคบับ (shisqubap) และไอศกรีมแสนอร่อย (akullore) ที่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในดินแดนแห่งนี้อย่างแน่นอน!

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

มอนโอโปลา (Monopoli) เมืองชายทะเลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาปูเลีย (Apulia) ของอิตาลี เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยความงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถานที่ที่เรือสำราญมักจะนำพานักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าหลงใหลของทะเลเอเดรียติก ท่าเรือมอนโอโปลานั้นมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยน้ำทะเลใสสีฟ้าครามที่ทอดยาวไปเกือบตลอดแนวชายฝั่ง ผู้เข้าชมจะได้เดินเล่นไปตามถนนในเมืองเก่าที่ปูด้วยหินอ่อน พร้อมสัมผัสกับบ้านเรือนสีขาวซึ่งสร้างขึ้นในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ความเป็นมาของเมืองนี้ยังถูกเสริมสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกที่น่าทึ่ง เช่น โบสถ์เซนต์อันโดนิโอ (Chiesa di Sant'Antonio) ที่มีความงดงามในทุกรายละเอียด นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจชายหาดที่แถบชายฝั่ง เช่น โผลีน่า (Polignano a Mare) ที่มีหน้าผาสูงและวิวทะเลอันงดงาม พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆ เช่น ดำน้ำตื้นและพายเรือคายัค ซึ่งจะทำให้ทุกการเดินทางเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน ในระหว่างที่คุณหยุดพักที่มอนโอโปลา อย่าลืมชิมอาหารทะเลสดใหม่ และเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นที่จะทำให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมอย่างแท้จริง การเยือนมอนโอโปลาไม่เพียงแน่นอนว่าจะทำให้คุณทึ่งกับความงามของเมืองนี้ แต่ยังจะเป็นการเปิดโลกใหม่แห่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความทรงจำอันมีค่าในหัวใจของคุณตลอดไป

ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

ซิบีนิก (Šibenik) เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ยืนเหนือริมทะเลอาดรียติก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค-ฟื้นฟูศิลปวิทยา โดดเด่นด้วยมหาวิหารที่มีหินดาลเมเชียนสีเทาอ่อน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO มหาวิหารตั้งอยู่บนจัตุรัสสูงที่มองเห็นทัศนียภาพของน้ำทะเล ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยถนนแคบๆ ปูด้วยหิน ที่นำคุณเข้าสู่อดีตอันเขียวชอุ่มของพื้นที่ ซิบีนิกเคยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญ แต่ในช่วงหลังจากสงครามเพื่อเอกราชของโครเอเชีย เมืองนี้เผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ถึงกระนั้น ความงามของมหาวิหารและบรรยากาศท่ามกลางอาคารที่มีหลังคาโทนดินยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยี่ยมชม นอกจากสำรวจเมืองแล้ว คุณยังสามารถใช้ซิบีนิกเป็นฐานสำหรับการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติครุก้า (Krka National Park) ซึ่งมีน้ำตกที่สวยงามและสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่น่าหลงใหล ทำให้การเยือนซิบีนิกเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและยากที่จะลืมเลือนในทริปท่องเที่ยวของคุณ.

โรวีญ (Rovinj) เป็นอัญมณีที่แท้จริงของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งอยู่ริมทะเลสวยงามที่ทอดตัวเป็นประกาย ใจกลางเมืองโดดเด่นด้วยหอระฆังรูปดินสอของวิหารเซนต์ยูเฟเมียในสไตล์เวนิส บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์นี้ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกย้อนยุคไปยังซอยแคบๆ และพลุกพล่านของเวนิสได้อย่างชัดเจน เมืองนี้ไม่เพียงแต่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนโดยเคยอยู่ภายใต้การปกครองของราชอาณาจักรอิตาลีระหว่างปี 1919 ถึง 1947 เท่านั้น แต่ยังนำเสนอวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีสองภาษาทางการที่สร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมให้กับท้องถิ่น นอกจากความงามของเมืองเก่าแล้ว โรวีญยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจธรรมชาติที่งดงามรอบๆ อย่างเช่น ป่าเขาเขียวขจีริมทะเล และเกาะน้อยใหญ่ที่เต็มไปด้วยความงามธรรมชาติ พลาดไม่ได้หากคุณต้องการสัมผัสกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น รวมถึงการดำน้ำตื้น ใครที่มาเยือนโรวีญจะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจ และเรื่องราวที่คุ้มค่าที่จะนำกลับบ้านอย่างแน่นอน

พฤติกรรมแห่งความงามในยุโรปกลาง สู่ท่าเรือพีราน (Piran) ประเทศสโลวีเนีย ท่าเรือพีราน ตั้งอยู่ในแถบชายฝั่งทะเลอาเดรียติกของสโลวีเนีย เป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและสถาปัตยกรรมที่มีเสน่ห์แห่งกลิ่นอายยุโรป พีรานเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งถูกครอบงำด้วยวัฒนธรรมอิตาเลียน ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศแตกต่างออกไปจากเมืองอื่นๆ ในสโลวีเนีย เริ่มการเดินเล่นในตรอกซอกซอยอันงดงามของเมืองเก่า คุณจะพบกับตึกน้ำเงินเข้มและโบสถ์เซนต์จอร์จ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา มองเห็นทิวทัศน์ชายทะเลและทะเลที่สวยงาม และอย่าลืมแวะลิ้มรสอาหารทะเลขึ้นชื่อ ที่ร้านอาหารท้องถิ่นที่มีบรรยากาศอบอุ่น นอกจากท่าเรือและเมืองพีรานแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปยังเมืองใกล้เคียงเป็นวันหยุดสั้นๆ เช่น โปร์โตรซ์ หรือชื่นชมความงามของธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติและชายหาดที่สวยงาม การเดินทางมาที่พีรานจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และประสบการณ์อันน่าจดจำ เชิญคุณมาสำรวจความงดงามที่พีราน และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในทริปนี้!

ฟูซินา (Fusina) คือท่าเรือที่มีเสน่ห์อยู่ในภูมิภาคแวนีเซีย (Venice) ของประเทศอิตาลี โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำพอ (Po River) ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และวิวที่งดงามของเมืองเวนิส ท่าเรือฟูซินานับว่าเป็นประตูเปิดสู่การสำรวจและสัมผัสวัฒนธรรมอันสลับซับซ้อนของอิตาลี เมื่อเรือสำราญเข้าเทียบท่าที่ฟูซินา นักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงคลื่นซัดกับเรือ บรรยากาศที่เย็นสบาย และกลิ่นอายของอาหารทะเลสดใหม่ ที่รอคอยให้คุณได้ลิ้มรส ทั้งนี้ฟูซินาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าชมอัญมณีทางสถาปัตยกรรมของเวนิส เช่น โบสถ์ซานมาร์โก (St. Mark’s Basilica) และ Palazzo Ducale โดยสามารถเดินทางด้วยเรือกอนโดล่าหรือแม้กระทั่งเดินชมบริเวณรอบ ๆ นอกจากความงามของเมือง ยังมีอาหารอิตาเลียนอันโดดเด่น พร้อมไวน์ยอดนิยมที่พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่ไม่เหมือนใครในบรรยากาศโรแมนติก ฟูซินานับว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความทรงจำที่จะไม่ลืมเลือนในชีวิต




ชื่อห้องพัก "เจ้าของสวีท" กล่าวได้อย่างชัดเจนว่าเป็นที่พักสุดหรูหรา ตั้งอยู่บนเรือสำราญที่มีความงดงามและคลาสสิก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ของความสะดวกสบายและบริการที่ดีที่สุด ตัวห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบหนึ่งหรือสองห้องนอน ขนาดหนึ่งห้องนอนมีพื้นที่ 85 ตร.ม. รวมระเบียงขนาด 20 ตร.ม. ส่วนแบบสองห้องนอนมีพื้นที่ 117 ตร.ม. รวมระเบียงขนาดเดียวกัน โดยแขกคนที่สามจะนอนบนโซฟาเบดที่แยกในพื้นที่รับรองของห้อง ห้องนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 7 ในตำแหน่งกลางเรือ โดยมีระเบียงส่วนตัว พื้นที่รับประทานอาหารแยกต่างหาก และห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่นั่งเล่นสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม ข้อดีอีกอย่างคือ ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินที่มาพร้อมเซฟส่วนตัว ภายในห้องพักมีเตียงควีนไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ และโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมด้วยคณะแฟชั่นที่หรูหราเพื่อความสบายสูงสุด บริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi แบบไม่จำกัด โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง และระบบเสียงที่สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth รวมถึงโทรศัพท์สำหรับโทรตรงและที่ชาร์จอุปกรณ์พกพาแบบ USB-C การบริการภายในห้องพักประกอบไปด้วยบริการบัตเลอร์ ซักรีดและการทำความสะอาดฟรี รวมถึงอาหารเย็นสำหรับสองท่านที่ห้องอาหาร La Dame หนึ่งครั้งต่อการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีแชมเปญต้อนรับที่จะทำให้ประสบการณ์ของคุณพิเศษยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเครื่องชงเอสเปรสโซเมนูหมอน และมินิบาร์ที่เติมเต็มตามความชอบของคุณ จะมีเสื้อคลุมแบรนด์เนม อุปกรณ์อาบน้ำสุดหรู ร่ม และรองเท้าแตะสำหรับการพักผ่อนอย่างสบาย



ห้องสวีทใหญ่ (Grand Suite) เป็นหนึ่งในห้องพักที่ดีที่สุดของ Silversea ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สร้างความสะดวกสบายและคุณภาพให้กับการเดินเรือของคุณ ห้องพักนี้ออกแบบอย่างเชี่ยวชาญและตกแต่งอย่างหรูหรา เหมาะสำหรับการสังสรรค์กับเพื่อนๆ ขณะล่องเรือ หรือจะใช้เวลาในค่ำคืนเงียบสงบรับประทานอาหาร “ที่บ้าน” ก็เป็นสิ่งที่เพลิดเพลินได้ ห้องสวีทนี้มีให้เลือกในรูปแบบหนึ่งห้องนอน (ขนาด 87-101 ตารางเมตร รวมระเบียง) หรือตามแบบสองห้องนอน (ขนาด 133 ตารางเมตร รวมระเบียง) โดยสามารถเชื่อมต่อกับห้อง Veranda Suite ของ Silversea ได้ ห้องสวีทนี้ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้า 6, 7 หรือ 8 ในส่วนหน้าของเรือ มีระเบียงส่วนตัว, พื้นที่รับประทานอาหารแยก, ห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำแบบคู่, ห้องอาบน้ำแยก, ห้องน้ำขนาดเต็ม, และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินพร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว คุณจะนอนบนเตียงขนาด Queen พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย เช่น โต๊ะเขียนหนังสือและโต๊ะเครื่องแป้ง การติดต่อสื่อสารในห้องพักมี Wi-Fi แบบพรีเมียมไม่จำกัด, โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่องพร้อมห้องสมุดมีเดียอินเทอร์แอคทีฟ, ระบบเสียงที่รองรับ Bluetooth, โทรศัพท์ที่โทรตรง และช่องชาร์จ USB-C นอกจากนี้ยังมีบริการหัวหน้าพนักงาน, บริการซักรีดฟรี, อาหารค่ำสำหรับสองคนในห้องอาหาร La Dame หนึ่งคืนในแต่ละการเดินทาง และแชมเปญเมื่อคุณมาถึง คุณจะได้รับอุปกรณ์ครบครัน เช่น เครื่องชงเอสเพรสโซ, ตัวเลือกหมอน, ตู้เย็นพร้อมบาร์ที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มตามที่คุณต้องการ, โรเบต์อาบน้ำที่นุ่มสบาย, สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอาบน้ำระดับหรู, ร่ม, เครื่องเป่าผม และรองเท้าแตะ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่เหมือนใครในสไตล์ที่หรูหรา.



ห้องชุดราชวงศ์ เป็นห้องที่เต็มไปด้วยความสง่างาม มีบรรยากาศที่น่าเกรงขาม เพราะออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการต้อนรับแขก ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง พร้อมให้บริการสำหรับทั้งแบบหนึ่งห้องนอน (90–94 ตารางเมตร รวมระเบียง 10–11 ตารางเมตร) และแบบสองห้องนอน (126 ตารางเมตร รวมระเบียง 16–17 ตารางเมตร) โดยสามารถเชื่อมต่อกับห้องเวอรันดาได้ ห้องชุดนี้มีพื้นที่นั่งเล่นพิเศษที่สะดวกสบาย และพื้นที่รับประทานอาหารที่แยกไว้ ซึ่งมีเตียงขนาดควีนไซส์ และการตกแต่งที่หรูหราด้วยที่นอนคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำแยกที่มีอ่างอาบน้ำขนาดเต็มและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมทั้งอ่างล้างหน้าคู่และตู้เสื้อผ้าสำหรับเก็บของ พร้อมตู้นิรภัยส่วนบุคคล สำหรับความบันเทิง ห้องชุดนี้มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต Wi-Fi แบบพรีเมียม ไม่จำกัด รวมทั้งโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่สองเครื่องที่มีห้องสมุดสื่อแบบอินเทอร์แอคทีฟ และระบบเสียงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเล่อร์ตลอดการเข้าพัก พร้อมบริการซักอบรีดและการทำความสะอาดฟรี รวมถึงการรับประทานอาหารค่ำสำหรับสองคนในร้านอาหาร La Dame หนึ่งครั้งต่อการเดินทาง ห้องชุดราชวงศ์ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น เครื่องชงเอสเปรสโซ เมนูหมอน ตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มตามความชอบ ชุดเสื้อคลุมอาบน้ำหรูหรา และสิ่งอำนวยความสะดวกในการอาบน้ำขนาดหรู นำเสนอความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกช่วงเวลาของการเดินทาง.




ห้องสวีทเงินทองเป็นห้องพักที่มีสไตล์และมีความซับซ้อน ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางโดยมีขนาด 61–65 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 10–11 ตารางเมตร ห้องพักตั้งอยู่กลางเรือ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 3 ท่าน โดยผู้เข้าพักท่านที่สามจะนอนบนเตียงโซฟาที่สะดวกสบายในพื้นที่รับแขกของห้อง ในห้องสวีทนี้มีบริการที่น่าประทับใจ เช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัว การซักรีดฟรี รวมถึงบริการเรียกขนมยามว่างทุกวันและต้อนรับด้วยช็อกโกแลตและผลไม้ นอกจากนี้ยังมีแชมเปญรอคุณมาถึง ขณะที่บริการในห้องให้คุณเพลิดเพลินกับ Wi-Fi พรีเมียมแบบไม่จำกัด ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง ระบบเสียงและการเชื่อมต่อ Bluetooth รวมถึงโทรศัพท์ที่สามารถโทรตรงได้ นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีการบริการที่น่ารักมากมาย เช่น เครื่องชงเอสเปรสโซ และเมนูหมอนให้คุณเลือกใช้ตามความชอบ ห้องน้ำมาตรฐานมีอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม พร้อมด้วยตู้ง wardrobe เดินเข้าและเซฟส่วนตัว สำหรับความสะดวกสบายที่สุด ห้องสวีทยังมีชุดอุปกรณ์หรูหราที่ให้ความรู้สึกเฉกเช่นบ้าน รวมทั้งชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำคุณภาพสูง การเข้าพักในห้องสวีทเงินทองจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่หรูหราและไม่เหมือนใครในทุกครั้งที่คุณเลือกเดินทางกับเรา



ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นการผสมผสานแห่งความหรูหราและความสะดวกสบาย โดยมีขนาด 49 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 8 ตารางเมตร ก่อให้เกิดพื้นที่อันกว้างขวางและอบอุ่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง กับประตูกระจกจากพื้นจรดเพดานที่นำเข้ามาให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดภายในมุมพักผ่อนที่มีโซฟาและที่นั่งที่สบาย ภายในห้องแสดงให้เห็นถึงความหรูหรา ผ่านการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางด้วยความสุนทรีย์ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางและห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบเต็มขนาด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้น ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่มอบความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ เตียงควีนไซส์พร้อมที่นอนระดับหรู ระบบเสียง Bluetooth และ Wi-Fi ความเร็วสูงแบบไม่จำกัด รวมถึงบริการช่วยเหลือตลอดการเข้าพัก ที่สำคัญยังมีบริการบัตเลอร์ที่จะดูแลคุณตลอดเวลา พิเศษยิ่งขึ้นด้วยบริการซักรีดฟรี ขนมคานาเป้บริการทุกวัน รวมถึงการต้อนรับด้วยช็อกโกแลตและผลไม้ ห้องสวีทระดับพรีเมียมนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่พักที่ดี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความแตกต่างและความหรูหราอย่างแท้จริง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการล่องเรือที่สุดแสนจะพิเศษของคุณ.



ห้องสวีทระเบียงดีลักซ์เป็นที่พักที่ให้ความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางของเรือ โดยมีทำเลที่ตั้งในระดับกลางของเรือที่ได้รับความนิยม ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมด้วยห้องน้ำที่มีหินอ่อนและพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน ห้องสวีทนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับนักเดินทางที่เก่งกาจ หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของห้องสวีทคือระเบียงส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับประตูบานกระจกขนาดใหญ่จากพื้นถึงเพดาน ทำให้คุณสามารถสัมผัสความงดงามของพระอาทิตย์ตกได้อย่างเป็นส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่ขนาด 32 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร โดยมีเตียงขนาดคิงไซซ์ โต๊ะเขียนหนังสือ และโต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงความสะดวกในการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ซึ่งเชื่อมต่อกับโทรทัศน์จอแบนที่มีห้องสมุดสื่อสารอยู่ด้วย นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีบริการบัตเลอร์ที่พร้อมให้บริการ รวมถึงแชมเปญเมื่อเดินทางมาถึงเป็นการต้อนรับอย่างมีระดับ ด้วยการเลือกหมอนพิเศษและการตั้งค่าตู้เย็นตามความชอบของคุณ ห้องสวีทระเบียงดีลักซ์คือที่พักที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบายและประสบการณ์การพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมบนเรือสำราญ



ห้องสวีทระเบียงระดับพรีเมียมตั้งอยู่บนดาดฟ้าสูง พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงาม ห้องสวีทนี้มีความสะดวกสบายและความหรูหราแบบที่คุณคาดหวังได้เมื่ออยู่บนเรือสำราญ พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและการเน้นรายละเอียดที่น่าประทับใจ ทำให้ห้องสวีทนี้เหมือนบ้านอันอบอุ่นในมหาสมุทร อาจจะกล่าวได้ว่าคุณสมบัติที่ดีที่สุดของห้องสวีทนี้อยู่ตรงบริเวณนอกห้อง เนื่องจากประตูกระจกบานใหญ่จากพื้นจรดเพดานเปิดเข้าสู่ระเบียงส่วนตัว ทำให้ทุกค่ำคืนพร้อมวิวพระอาทิตย์ตกนั้นเป็นของคุณเพียงผู้เดียว ห้องสวีทนี้มีพื้นที่ 32 ตารางเมตร รวมทั้งระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็นที่มีห้องหมายเลข 535 และ 537 นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่สามารถปรับใช้สำหรับแขกคนที่สาม ห้องสวีทยังมีการตกแต่งอย่างลงตัว รวมทั้งอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม, พื้นที่นั่งเล่น, และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินที่มีตู้นิรภัยส่วนตัว ฟอร์นิเจอร์ภายในประกอบด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมที่นอนระดับสูง บริการที่มีให้ ได้แก่ การบริการบัตเลอร์ แชมเปญเมื่อเดินทางมาถึง รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนขนาดใหญ่พร้อมห้องสมุดสื่อที่มีการโต้ตอบ และปลั๊กไฟที่มีโวลต์คู่สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในขณะล่องเรือ


ห้องสวีทระเบียงคลาสสิกนำเสนอสถานที่พักผ่อนที่กว้างขวางสำหรับผู้เดินทาง ตั้งอยู่บนดาดฟ้าหลักที่ด้านหน้า ห้องสวีทนี้มอบความสะดวกสบายและรายละเอียดที่น่าประทับใจทั้งภายในและภายนอกได้อย่างเต็มที่ ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา มีห้องน้ำหินอ่อนที่สวยงามและพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง ทำให้ห้องนี้เป็นบ้านที่สะดวกสบายไม่ต่างจากบ้านของคุณเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุดในห้องนี้อาจอยู่ที่ระเบียงส่วนตัวที่เปิดออกจากประตูกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ให้คุณได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกอย่างใกล้ชิดราวกับว่าสิ่งนั้นเป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียว ขนาดห้องนอนอยู่ที่ 32 ตารางเมตรรวมระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร โดยผู้เข้าพักคนที่สามสามารถนอนบนโซฟาเบดที่สะดวกสบายในพื้นที่ต้อนรับของห้องได้ ห้องสวีทนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 5 และ 6 ในส่วนกลางและด้านหน้า ประกอบด้วยระเบียง พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะเครื่องแป้งแบบคู่ อ่างอาบน้ำขนาดเต็มพร้อมฝักบัวแยกต่างหาก และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีเซฟส่วนบุคคล ภายในห้องมีเตียงขนาดควีน ไม้เขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง และที่นอนหรูหรา นอกจากนี้ ยังมอบความสะดวกสบายในการสื่อสารอย่างไม่จำกัดด้วย Wi-Fi แบบมาตรฐาน โทรทัศน์จอใหญ่ และการชาร์จโทรศัพท์แบบ USB-C รวมทั้งบริการนายเรือที่ดูแลคุณตลอดการเดินทาง โดยท่านจะได้รับแชมเปญเมื่อมาถึง ห้องสวีทนี้ยังมีเมนูหมอน ตู้เย็นพร้อมเครื่องดื่มตามความชอบ เสื้อคลุมอาบน้ำหรูหรา อุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหรา ร่ม เครื่องเป่าผมและรองเท้าแตะ เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือระดับในการพักผ่อนบนเรือสุดหรูกับห้องสวีทระเบียงคลาสสิกนี้


สงบเงียบและหรูหรา คำอธิบายของห้องวิสตา สวีท แสดงให้เห็นถึงพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางเหมาะแก่การผ่อนคลาย พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่เผยให้เห็นทิวทัศน์มหาสมุทรแบบพาโนรามา กลายเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการรับประทานอาหารเช้าในเตียง ห้องที่มีขนาด 27 ตารางเมตรนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าของเรือบนดาดฟ้าที่ 4, 5 และ 7 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิเช่น โซฟาและโต๊ะทำงาน โต้ะเครื่องแป้งพร้อมเตียงคิงไซส์ที่ให้ความสบายด้วยฟูกระดับพรีเมียม ห้องน้ำมีอ่างเต็มขนาดและฝักบัวแยก รวมถึงตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ที่มาพร้อมตู้เซฟส่วนตัว ในด้านของสื่อและการสื่อสาร ห้องวิสตา สวีท มีบริการ Wi-Fi ที่ไม่มีขีดจำกัด ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ พร้อมห้องสมุดสื่ออินเตอร์แอคทีฟ โทรศัพท์แบบตรง และช่องชาร์จ USB-C ที่ติดผนังเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ที่จะมอบประสบการณ์การเข้าพักที่เหนือระดับ โดยมอบแชมเปญให้เมื่อเดินทางมาถึง พร้อมเมนูหมอนที่คุณสามารถเลือกได้ และตู้เย็นที่มีบาร์เซ็ตที่เจ้าหน้าที่เติมเต็มตามความชอบของคุณ สัมผัสความหรูหราจากชุดเสื้อคลุมอาบน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกในการอาบน้ำที่มีคุณภาพ พับร่มไว้ในห้อง คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เพราะที่นี่มีเครื่องเป่าผมและรองเท้าแตะให้พร้อม เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องวิสตา สวีทแห่งนี้



เมดัลเลียน สวีท นำเสนอความหรูหราและความสะดวกสบายในพื้นที่กว้างขวางถึง 49 ตารางเมตร รวมทั้งระเบียงที่มีพื้นที่ 8 ตารางฟุต ภายในห้องพักมีประตูบานกระจกจากพื้นจรดเพดานที่นำเสนอวิวยอดเยี่ยม พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่ผ่อนคลายสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์พร้อมที่นอนระดับหรู, โต๊ะเขียนหนังสือ, และโต๊ะเครื่องแป้ง นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำขนาดเต็มและห้องอาบน้ำแยกต่างหาก อีกทั้งยังมีตู้เสื้อผ้าแบบเดิยงที่มาพร้อมกับตู้นิรภัยส่วนตัว ในด้านเทคโนโลยี ห้องพักมีอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ระดับพรีเมียมแบบไม่จำกัด, ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่องพร้อมห้องสมุดสื่ออินเทอร์แอคทีฟ, และระบบเสียงที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์มือถือมีช่อง USB-C และไฟฟ้าสองแรงดัน 110/220 โวลต์ การบริการบนเรือมาพร้อมกับบริการบัตเลอร์, การซักรีดและการทำความสะอาดฟรี, การเสิร์ฟขนมระหว่างวัน, ช็อคโกแลตต้อนรับ, และผลไม้ตามมา รวมถึงแชมเปญเมื่อมาถึง และการรับประทานอาหารที่โต๊ะของเจ้าหน้าที่ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องประกอบด้วยเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ, เมนูหมอน, ตู้เย็นพร้อมมินิบาร์ที่บรรจุตามความชอบของท่าน, เสื้อคลุมอาบน้ำ, ของใช้ในห้องน้ำระดับหรู, ร่ม, เครื่องเป่าผม, และรองเท้านุ่มสบาย ห้องเมดัลเลียน สวีท คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดในการล่องเรือสุดหรูที่ผสมผสานความสะดวกสบายและความหรูหราได้อย่างลงตัว.