
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เงินเงา
ซิลเวอร์ซี


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!


แนะนำท่าเรือที่ยอดเยี่ยมในหมู่เกาะบริเตน เวอร์จิน ไอแลนด์ กับท่าเรือเกรทฮาร์เบอร์ บนเกาะจอสต์ แวน ไดค์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "เกาะเท้าเปล่า" สถานที่ที่เล็กที่สุดในกลุ่มเกาะนี้ มีชื่อเสียงในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับเรือยอชท์ ด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นมิตร การเดินทางที่นี่ทำให้คุณได้สัมผัสกับชายหาดที่บริสุทธิ์ รายล้อมไปด้วยต้นมะพร้าวและต้นมะไฟ ที่สร้างบรรยากาศแสนผ่อนคลาย เกาะนี้มีประชากรน้อยกว่า 200 คน และชาวเกาะเป็นที่รู้จักในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ว่าจะเป็นบาร์และร้านอาหารริมชายหาดที่ให้บริการเครื่องดื่มขึ้นชื่อเช่น ‘The Painkiller’ ที่มีที่มาจาก Soggy Dollar Bar หรืออึกทึกใน Foxy’s ที่ White Bay ซึ่งเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ทำจากรัมท้องถิ่นและเบียร์เย็นฉ่ำ นอกจากนี้ ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจรอให้คุณค้นหา ตั้งแต่ซากโรงงานน้ำตาลเก่าแก่ไปจนถึงเส้นทางเดินเที่ยวรอบเกาะที่นำคุณสู่จุดสูงสุดของ Majohnny Point ที่มีวิวมหาสมุทรแคริบเบียนอันงดงาม เรียกได้ว่าจอสต์ แวน ไดค์ คือสถานที่ที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถ้าหากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและความประทับใจ จอสต์ แวน ไดค์ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!

เกาะแซงต์บาร์เธเลมี (Saint Barthélemy) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหราสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในความงดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะท่าเรือกุสตาเวีย (Gustavia) ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเกาะนี้ นอกจากจะเป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด การสำรวจท่าเรือกุสตาเวียภายในระยะเวลาสองชั่วโมงเป็นเรื่องง่ายดาย เพลิดเพลินไปกับการเดินชมร้านค้าหรูหราและบูติกต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง จนกระทั่งล็อกเวลาเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เนื่องจากหลายร้านจะปิดตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสามหรือสี่โมงเย็น แต่ไม่ต้องห่วง ร้านค้าและบาร์จะเปิดจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มให้คุณได้ใช้จ่ายกันอย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกัน การจอดรถอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล แต่ถ้าคุณมุ่งหน้าไปยัง rue de la République จะพบสถานที่จอดรถที่กลุ่มเรือแล่นไปมาทำให้การมาที่นี่ง่ายขึ้น อีกทั้งการเดินชมวิวทะเลสวย ๆ ยังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ใครหลายคนหลงรัก สนุกสนานกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจในกุสตาเวีย เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หรูหราเหนือระดับในเกาะแซงต์บาร์เธเลมีแห่งนี้!


เกาะคูราเซา (Curaçao) เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามแห่งหนึ่งในแคริบเบียน โดยเฉพาะที่ท่าเรือวิลเลมสตัด (Willemstad) ที่สะท้อนความงามของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 17 ที่นี่คุณจะได้พบกับหลังคากระเบื้องสีแดงที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสร้างขึ้นจากเรือสำเภา และยังคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน วิลเลมสตัดแบ่งออกเป็นสองฝั่งหลัก ได้แก่ พุนดา (Punda) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวสีสันของประวัติศาสตร์ในขณะที่อีกฝั่งคือโอทรอแบนดา (Otrobanda) ซึ่งมีถนนแคบ ๆ พร้อมบ้านเรือนที่น่ารักและมีเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่กำลังถูกฟื้นฟูให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้มาเยือนสามารถข้ามซานตาอันนาเบย์ได้หลายวิธี อาทิ ขับรถข้ามสะพานจูเลียนา หรือเดินข้ามสะพานลอยควีนเอ็มมา (Queen Emma) ที่มีชื่อเล่นว่า "โอลด์เลดี้" นอกจากนี้ ยังมีบริการเรือฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ด้วยการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ที่บริเวณริมทะเล ทำให้วิลเลมสตัดเป็นจุดหมายที่ไม่น่าเบื่อในการสัมผัสบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล เป็นประสบการณ์การเดินทางที่คุณไม่ควรพลาด!

ในใจกลางแห่งทะเลแคริบเบียน มีเกาะที่ซึ่งความสวยงามธรรมชาติและวัฒนธรรมผสมผสานอย่างลงตัว นั่นคือ บอนแนร์ เกาะเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณท่าเรือคราเลนไดค์ (Kralendijk) ที่เป็นทั้งประตูสู่การผจญภัยใต้ท้องทะเลและแหล่งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าค้นพบ เมื่อเรือสำราญของคุณลอยลำถึงท่าเรือคราเลนไดค์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร เช่นเดียวกับบ้านเรือนที่ถูกทาสีสดใสตามแบบสถาปัตยกรรมดัทช์ เดินเล่นบนถนนที่มีเสน่ห์พร้อมสัมผัสกลิ่นไอของทะเล คุณสามารถเลือกที่จะสำรวจดำน้ำ แหวกว่ายในน้ำใส และชมความงามของแนวปะการังที่โด่งดัง สามารถพบกับสัตว์ทะเลนานาชนิดที่รอคอยให้คุณได้สัมผัส นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารบรรยากาศดีที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อยล้ำ ชมงานศิลปะจากศิลปินท้องถิ่น และรับรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของเกาะบอนแนร์ ที่นี่ไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำและการเดินทางที่ไม่รู้ลืม ล่องเรือมาแล้ว คุณจะรู้สึกว่านี่คือสวรรค์สำหรับผู้ที่รักในการเดินทาง.




การเดินทางสู่ท่าเรือปานามา สู่เมืองปานามาซิตี้ จะมอบประสบการณ์ที่น่าหลงใหลอย่างไม่รู้ลืม ตั้งแต่เราเดินทางมาถึงในยามเช้าตรู่ เมืองจะสะท้อนให้เห็นแสงสีเงินอ่อนๆ ที่เปลี่ยนเป็นแสงทองของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ขึ้นในยามเช้า อาคารสูงตระหง่านทำให้เมืองนี้เปล่งประกายด้วยความทันสมัยอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ ฟวยร์เต อมาดอร์ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ใกล้เมืองแต่ก็มีกลิ่นอายความงดงามที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์มิราฟลอเรส ของคลองปานามาเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดอลังการที่ควรเยี่ยมชม ซึ่งมี ทั้งการแสดง 3 มิติและระเบียงชมวิวที่เยี่ยมยอด สำหรับผู้ที่หลงใหลในอาหารทะเล เมืองนี้มีร้านอาหารและตลาดที่นำเสนอกุ้งซาชิมิสดใหม่ที่มีรสชาติแสนอร่อย พร้อมกับขนมปังกรอบและเบียร์เย็นๆ ถือเป็นวิถีการกินแบบปานามาที่ไม่ควรพลาด ควบคู่ไปกับความงามของเมืองใหญ่ ยังมีกิจกรรมนันทนาการท่ามกลางธรรมชาติทั้งชายหาดที่สวยงามและป่าฝนที่เขียวขจี ที่สามารถเข้าถึงได้เพียงการเดินทางสั้นๆ โดยแท็กซี่ หากคุณฝันถึงการเดินทางที่หรูหราและเต็มไปด้วยสีสัน ปานามาซิตี้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เพื่อสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในที่เดียว!


การเดินทางสู่ท่าเรือปานามา สู่เมืองปานามาซิตี้ จะมอบประสบการณ์ที่น่าหลงใหลอย่างไม่รู้ลืม ตั้งแต่เราเดินทางมาถึงในยามเช้าตรู่ เมืองจะสะท้อนให้เห็นแสงสีเงินอ่อนๆ ที่เปลี่ยนเป็นแสงทองของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ขึ้นในยามเช้า อาคารสูงตระหง่านทำให้เมืองนี้เปล่งประกายด้วยความทันสมัยอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ ฟวยร์เต อมาดอร์ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ใกล้เมืองแต่ก็มีกลิ่นอายความงดงามที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์มิราฟลอเรส ของคลองปานามาเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดอลังการที่ควรเยี่ยมชม ซึ่งมี ทั้งการแสดง 3 มิติและระเบียงชมวิวที่เยี่ยมยอด สำหรับผู้ที่หลงใหลในอาหารทะเล เมืองนี้มีร้านอาหารและตลาดที่นำเสนอกุ้งซาชิมิสดใหม่ที่มีรสชาติแสนอร่อย พร้อมกับขนมปังกรอบและเบียร์เย็นๆ ถือเป็นวิถีการกินแบบปานามาที่ไม่ควรพลาด ควบคู่ไปกับความงามของเมืองใหญ่ ยังมีกิจกรรมนันทนาการท่ามกลางธรรมชาติทั้งชายหาดที่สวยงามและป่าฝนที่เขียวขจี ที่สามารถเข้าถึงได้เพียงการเดินทางสั้นๆ โดยแท็กซี่ หากคุณฝันถึงการเดินทางที่หรูหราและเต็มไปด้วยสีสัน ปานามาซิตี้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เพื่อสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในที่เดียว!


เมืองมานตาในเอกวาดอร์ เป็นหนึ่งในปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น มานตาเป็นท่าเรือที่สำคัญติดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพและทะเลที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทางน้ำและกิจกรรมต่างๆ เช่น การดำน้ำตื้น การตกปลา และการล่องเรือชมวิว เมื่อเยือนมานตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเกาะเอนโบนหรือตลาดของเมือง ซึ่งมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของอาหารท้องถิ่น เดินเล่นไปตามชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดอวาเซนกา ที่ถือเป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยม หรือชื่นชมงานฝีมือของชาวบ้านที่ตลาดศิลปะ นอกจากนี้ การสำรวจพื้นที่ใกล้เคียง เช่น อุทยานแห่งชาติยัสนี หรือลองเข้าร่วมการท่องเที่ยวเพื่อดูวาฬในช่วงฤดูที่เหมาะสม จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความประทับใจอย่างแท้จริง มานตาไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สวยงาม แต่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในโลกอันมหัศจรรย์ของเอกวาดอร์อย่างแท้จริง


ลิมา เมืองหลวงของประเทศเปรู มักถูกมองข้ามเมื่อพูดถึงเมืองใหญ่ในอเมริกาใต้ แต่ลิมามีเสน่ห์ที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยทำเลริมทะเลที่งดงาม สถานที่ทางประวัติศาสตร์จากยุคโคโลเนียล ร้านอาหารระดับโลก และชีวิตกลางคืนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้ว่าลิมาจะมีการจราจรหนาแน่นและมลพิษ แต่เมื่อได้สำรวจผ่านอาคารสูงตระหง่านรอบๆ พลาซ่า เดอ อาร์มาส และเดินทางไปที่สวนในซานอิซิโดร หรือชมถนนเล็กๆ ในชุมชนบาร์รังโก คุณจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์และความงดงามที่ซ่อนอยู่ ในปี ค.ศ. 1535 แฟนซิสโก ปิซาร์โรได้ก่อตั้งเมืองนี้ในทำเลที่ลงตัว โดดเด่นด้วยความสำเร็จในฐานะเมืองหลวงของอาณาจักรโคโลเนียลสเปนเป็นเวลา 300 ปี ความรุ่งเรืองนี้ยังคงเห็นได้จากอาคารโบราณที่ยังคงมีอยู่รอบพลาซ่า เดอ อาร์มาส แม้ว่าสถานที่บางแห่งจะอยู่ในสภาพที่น่าเสียดาย แต่สถาปัตยกรรมที่สวยงามยังคงเล่าเรื่องราวของความมั่งคั่งที่เก่าแก่นี้ ในปัจจุบัน ลิมากำลังฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง หลังจากปีแห่งความรุนแรงในอดีต เมืองนี้ได้กลับมามีชีวิตชีวาและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง หลายคนวางแผนจะใช้เวลาที่นี่เพียงวันเดียว แต่กลับยืดเวลาออกไปเป็นสองหรือสามวันเพื่อชื่นชมความงามของเมืองแห่งนี้อย่างเต็มที่ ลิมาจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการเดินทางที่หรูหราและสง่างามในอเมริกาใต้.



เมืองปูเออร์โต้ มอนต์ (Puerto Montt) เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากในเขตทะเลสาบของชิลี ด้วยบรรยากาศที่มีลมพัดเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองนี้เคยเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับผู้เดินทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่เขตนี้ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางประมง สิ่งทอ และการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค ปูเออร์โต้ มอนต์ เป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และตึกสำนักงานตั้งอยู่ในใจกลางเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีโอกาสมาเยือนในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงาม เช่น พลายา เปลูโก (Playa Pelluco) ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือสามารถขับรถไปตามชายฝั่งเพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเนินเขาที่ล้อมรอบ นอกจากนี้ ปูเออร์โต้ มอนต์ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจธรรมชาติอันงดงามของชิลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติออสตราล ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าและภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต อย่าลืมวางแผนการเดินทางมายังเมืองนี้ การล่องเรือในท่าเรือที่มีชื่อเสียงจะเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำ!
เมืองคัสโตร (Castro) ประเทศชิลี เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งตั้งอยู่บนเกาะชิลัว (Chiloe) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันแห่งวัฒนธรรม โดยเฉพาะบ้านไม้สีสันสดใสที่ตั้งอยู่บนเสาเรียงรายริมแม่น้ำ การเดินชมในย่านนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพฝันที่เปล่งประกาย ด้วยบ้านทรงปาลาฟิโต (palafitos) ที่ทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความมีชีวิตชีวาของชาวชิลี คัสโตรไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่าเยี่ยมชม แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจหมู่เกาะอันงดงามรอบข้าง ทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้ได้รับการฟื้นฟูจากผลกระทบของแผ่นดินไหวและไฟไหม้ในอดีต โดยเฉพาะแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงในปี 1960 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของชุมชนที่นี่ และตอนนี้คัสโตรได้กลายเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่น่าจดจำ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในการเฉลิมฉลองความงามและวัฒนธรรม บรรดาเมนูอาหารทะเลสดใหม่ และวิวธรรมชาติที่งดงาม คัสโตร คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังชิลีของคุณ


ท่าเรือฟยอร์ดของชิลีเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าอัศจรรย์ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตามชายฝั่งของชิลี ฟยอร์ดที่สวยงามแห่งนี้ถูกขนานนามว่า "จุดสิ้นสุดของโลก" โดยชาวสเปนที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาในศตวรรษที่ 18 ด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟที่มีหิมะปกคลุมและธารน้ำแข็งที่ไหลลัดเลาะไปตามหุบเขาอันสวยงาม ที่นี่คุณจะได้สัมผัสถึงความงดงามแห่งธรรมชาติที่ยากจะลืมเลือน ฟยอร์ดชิลีไม่ได้มีเพียงบรรยากาศที่อลังการ ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของสัตว์ป่าที่หลากหลาย เช่น วาฬที่หาได้จากดาดฟ้าของเรือสำราญ นกเพนกวินแมกเจลลันที่แสนขี้เล่น หรือแม้กระทั่งนกคอนดอร์แอนเดียนที่หายาก หากคุณเป็นคนรักการถ่ายภาพ คุณจะพบกับความหลากหลายของสีสันที่สะกดตา และวิวทิวทัศน์ที่หลากหลายไม่เหมือนที่ไหน การสำรวจฟยอร์ดของชิลีจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดออกจากโลกแห่งความจริง ล่องเรือไปตามน้ำที่ใสสะอาด ระหว่างเส้นทางที่เต็มไปด้วยภูเขาที่มีเอกลักษณ์ ทำให้การเดินทางนี้กลายเป็นความฝันที่คุณไม่ควรพลาดในทริปฮันนีมูนหรือการพักผ่อนสุดหรู.

ปุนตาอาเรนาส เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่ในเขตปาตาโกเนียของชิลี และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำนึกถึงธรรมชาติที่งดงามในภูมิภาคนี้ เมืองที่สร้างขึ้นประมาณ 150 ปีที่แล้วนี้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และด้วยความเป็นเมืองแรกในปาตาโกเนีย คุณจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ที่สลับสานกับบ้านเรือนที่มีหลังคาโลหะหลายสี เมื่อมองจากมุมสูง เช่น ที่มิโรเดอร์ เซโรลาครูซ ที่นี่ คุณไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม Museo Naval y Marítimo ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานของชิลี รวมถึง Museo Regional de Magallanes ซึ่งเคยเป็นบ้านของตระกูลที่มีอำนาจในอดีต นอกจากนี้ ถ้าคุณรักความเป็นธรรมชาติ Parque Nacional Torres del Paine ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องเยี่ยมชม ซึ่งมีภูเขาไฟสวยงามและสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปยัง Isla Magdalena เพื่อชมพวกเพนกวินมาจิลลานิก ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ตัวโดยสามารถเดินชมได้โดยสบายๆ อย่าลืมนำน้ำอุ่นไปด้วย เพราะอากาศที่นั่นอาจเย็นสบาย แม้ในช่วงฤดูร้อน ปุนตาอาเรนาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งแต่ความสวยงามของธรรมชาติ การสำรวจอดีต จนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกช่วงเวลา


อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่

ท่าเรือพอร์ตสแตนลีย์ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฟอล์คลแลนด์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะมาลวินาส) เป็นจุดหมายที่ซ่อนเร้นในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่คือเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และบรรยากาศที่เหมือนกับหมู่บ้านอังกฤษที่หลุดออกมาใกล้เคียง โดยบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมเต็มความงามให้กับทิวทัศน์ที่ถูกตั้งอยู่ในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้พอร์ตสแตนลีย์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีซากเรือ Lady Elizabeth ที่จมอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เป็นเครื่องเตือนใจถึงสภาพอากาศอันโหดร้ายที่แวดล้อมหมู่เกาะนี้ การเดินทางมายังฟอล์คลแลนด์ไม่ได้มีเพียงการพบกับภาพวิวอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับโลกของเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เพนกวิน Gentoo, Magellanic และ King ที่มักจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือแวะพักระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า ฟอล์คลแลนด์คือต่อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนที่ไม่เหมือนใคร


เมื่อเข้ามายังเมือง Puerto Madryn จากเส้นทาง Ruta 3 คุณอาจรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเมืองนี้คือหนึ่งในจุดเที่ยวที่สำคัญที่สุดในแพตาโกเนียชายฝั่ง การเดินทางจะพาคุณมายังถนนริมชายฝั่ง Rambla ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และเกสต์เฮาส์ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ในท่ามกลางวิวของอ่าว Golfo Nuevo ที่สวยงามและสงบ Puerto Madryn อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น คาบสมุทร Valdés และ Punta Tombo ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก ในช่วงฤดูวาฬที่มีระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม คุณจะได้เห็นวาฬที่แหวกว่ายในอ่าวอย่างใกล้ชิดและสามารถเดินไปยังท่าเรือเพื่อชมความงามเหล่านี้ได้ การวางแผนทริปต่าง ๆ ก็สะดวกสบายด้วยตัวแทนจัดทัวร์และบริษัทเช่ารถมากมายที่มีให้บริการ ร่วมสนุกในกิจกรรมระยะสั้นที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พร้อมให้ Puerto Madryn เป็นประตูสู่การผจญภัยที่น่าจดจำในดินแดนแห่งสัตว์ป่าชั้นนำของอาร์เจนตินา!



มอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำริโอเดอพลาตา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา มาพร้อมกับทางเดินเลียบชายฝั่งหรือที่เรียกว่า "มาลิโคน" ที่ทอดยาวไปตามแนวชายหาด ร้านอาหารที่หลากหลาย และสวนสาธารณะมากมาย ที่นี่ คุณจะได้พบกับชาวมอนเตวิเดโอ เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเล มอนเตวิเดโอมีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม โดยมีทั้งความเจริญก้าวหน้าของอาคารสมัยใหม่และเสน่ห์ของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่หรูหรา นอกจากนี้ ยังมีจัตุรัสและสวนสาธารณะเขียวขจีมากมาย ที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและสมบูรณ์แบบในการใช้เวลา เมื่ออากาศดี ถนนเลียบชายฝั่งที่ยาวถึง 22 กิโลเมตรจะเต็มไปด้วยผู้คนต่างเดินเล่น ตกปลาหรือลองขนมไอศกรีม โดยเฉพาะในช่วงเย็น ขณะที่คู่รักเริ่มออกมาสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของเมือง ความละเอียดอ่อนในชีวิตประจำวันที่นี่ทำให้มอนเตวิเดโอถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในละตินอเมริกา หญิงสาวที่จะเดินทางไปที่นี่ คงรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจที่จะกลับมาอีกครั้งในค่ำคืนที่สวยงามในฤดูร้อน.

เมื่อคุณก้าวเข้าไปในโลกแห่งความหรูหรา ณ Punta del Este ประเทศอุรุกวัย คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับ Hamptons หรือ St-Tropez เมืองนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่ความพิเศษจะส่งเสริมให้เกิดปาร์ตี้ไม่รู้จบ ขณะเดียวกัน Punta del Este ยังคงเป็นสถานที่หลากหลายที่เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือนักธุรกิจที่ปรารถนาความสงบในบรรยากาศที่มีระดับ บริเวณชายฝั่งมีชีวิตชีวาในตัวเมืองที่มีชายหาดทอดยาว ขณะที่ด้านในก็มีฟาร์มและคฤหาสน์หรูหราที่เรียกว่า "chacras" หรือ "estancias" ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างสงบ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสันอย่าง La Barra และ José Ignacio ซึ่งตกกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน Punta del Este ได้ชื่อมาจาก "จุดตะวันออก" ซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกระหว่าง Río de la Plata และมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง Punta Ballena ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน หากคุณมีโอกาสได้เยือนที่นี่ รับรองว่าจะไม่มีใครผิดหวัง กับความงดงามที่ซ่อนอยู่รอให้คุณไปค้นพบ.





ชื่อห้องพัก "เจ้าของสวีท" กล่าวได้อย่างชัดเจนว่าเป็นที่พักสุดหรูหรา ตั้งอยู่บนเรือสำราญที่มีความงดงามและคลาสสิก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ของความสะดวกสบายและบริการที่ดีที่สุด ตัวห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบหนึ่งหรือสองห้องนอน ขนาดหนึ่งห้องนอนมีพื้นที่ 85 ตร.ม. รวมระเบียงขนาด 20 ตร.ม. ส่วนแบบสองห้องนอนมีพื้นที่ 117 ตร.ม. รวมระเบียงขนาดเดียวกัน โดยแขกคนที่สามจะนอนบนโซฟาเบดที่แยกในพื้นที่รับรองของห้อง ห้องนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 7 ในตำแหน่งกลางเรือ โดยมีระเบียงส่วนตัว พื้นที่รับประทานอาหารแยกต่างหาก และห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่นั่งเล่นสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม ข้อดีอีกอย่างคือ ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินที่มาพร้อมเซฟส่วนตัว ภายในห้องพักมีเตียงควีนไซส์ โต๊ะเขียนหนังสือ และโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมด้วยคณะแฟชั่นที่หรูหราเพื่อความสบายสูงสุด บริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi แบบไม่จำกัด โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง และระบบเสียงที่สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth รวมถึงโทรศัพท์สำหรับโทรตรงและที่ชาร์จอุปกรณ์พกพาแบบ USB-C การบริการภายในห้องพักประกอบไปด้วยบริการบัตเลอร์ ซักรีดและการทำความสะอาดฟรี รวมถึงอาหารเย็นสำหรับสองท่านที่ห้องอาหาร La Dame หนึ่งครั้งต่อการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีแชมเปญต้อนรับที่จะทำให้ประสบการณ์ของคุณพิเศษยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเครื่องชงเอสเปรสโซเมนูหมอน และมินิบาร์ที่เติมเต็มตามความชอบของคุณ จะมีเสื้อคลุมแบรนด์เนม อุปกรณ์อาบน้ำสุดหรู ร่ม และรองเท้าแตะสำหรับการพักผ่อนอย่างสบาย



ห้องสวีทใหญ่ (Grand Suite) เป็นหนึ่งในห้องพักที่ดีที่สุดของ Silversea ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สร้างความสะดวกสบายและคุณภาพให้กับการเดินเรือของคุณ ห้องพักนี้ออกแบบอย่างเชี่ยวชาญและตกแต่งอย่างหรูหรา เหมาะสำหรับการสังสรรค์กับเพื่อนๆ ขณะล่องเรือ หรือจะใช้เวลาในค่ำคืนเงียบสงบรับประทานอาหาร “ที่บ้าน” ก็เป็นสิ่งที่เพลิดเพลินได้ ห้องสวีทนี้มีให้เลือกในรูปแบบหนึ่งห้องนอน (ขนาด 87-101 ตารางเมตร รวมระเบียง) หรือตามแบบสองห้องนอน (ขนาด 133 ตารางเมตร รวมระเบียง) โดยสามารถเชื่อมต่อกับห้อง Veranda Suite ของ Silversea ได้ ห้องสวีทนี้ตั้งอยู่ที่ดาดฟ้า 6, 7 หรือ 8 ในส่วนหน้าของเรือ มีระเบียงส่วนตัว, พื้นที่รับประทานอาหารแยก, ห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำแบบคู่, ห้องอาบน้ำแยก, ห้องน้ำขนาดเต็ม, และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินพร้อมตู้นิรภัยส่วนตัว คุณจะนอนบนเตียงขนาด Queen พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย เช่น โต๊ะเขียนหนังสือและโต๊ะเครื่องแป้ง การติดต่อสื่อสารในห้องพักมี Wi-Fi แบบพรีเมียมไม่จำกัด, โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่องพร้อมห้องสมุดมีเดียอินเทอร์แอคทีฟ, ระบบเสียงที่รองรับ Bluetooth, โทรศัพท์ที่โทรตรง และช่องชาร์จ USB-C นอกจากนี้ยังมีบริการหัวหน้าพนักงาน, บริการซักรีดฟรี, อาหารค่ำสำหรับสองคนในห้องอาหาร La Dame หนึ่งคืนในแต่ละการเดินทาง และแชมเปญเมื่อคุณมาถึง คุณจะได้รับอุปกรณ์ครบครัน เช่น เครื่องชงเอสเพรสโซ, ตัวเลือกหมอน, ตู้เย็นพร้อมบาร์ที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มตามที่คุณต้องการ, โรเบต์อาบน้ำที่นุ่มสบาย, สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอาบน้ำระดับหรู, ร่ม, เครื่องเป่าผม และรองเท้าแตะ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่ไม่เหมือนใครในสไตล์ที่หรูหรา.



ห้องชุดราชวงศ์ เป็นห้องที่เต็มไปด้วยความสง่างาม มีบรรยากาศที่น่าเกรงขาม เพราะออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการต้อนรับแขก ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง พร้อมให้บริการสำหรับทั้งแบบหนึ่งห้องนอน (90–94 ตารางเมตร รวมระเบียง 10–11 ตารางเมตร) และแบบสองห้องนอน (126 ตารางเมตร รวมระเบียง 16–17 ตารางเมตร) โดยสามารถเชื่อมต่อกับห้องเวอรันดาได้ ห้องชุดนี้มีพื้นที่นั่งเล่นพิเศษที่สะดวกสบาย และพื้นที่รับประทานอาหารที่แยกไว้ ซึ่งมีเตียงขนาดควีนไซส์ และการตกแต่งที่หรูหราด้วยที่นอนคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำแยกที่มีอ่างอาบน้ำขนาดเต็มและฝักบัวแยกต่างหาก พร้อมทั้งอ่างล้างหน้าคู่และตู้เสื้อผ้าสำหรับเก็บของ พร้อมตู้นิรภัยส่วนบุคคล สำหรับความบันเทิง ห้องชุดนี้มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต Wi-Fi แบบพรีเมียม ไม่จำกัด รวมทั้งโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่สองเครื่องที่มีห้องสมุดสื่อแบบอินเทอร์แอคทีฟ และระบบเสียงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเล่อร์ตลอดการเข้าพัก พร้อมบริการซักอบรีดและการทำความสะอาดฟรี รวมถึงการรับประทานอาหารค่ำสำหรับสองคนในร้านอาหาร La Dame หนึ่งครั้งต่อการเดินทาง ห้องชุดราชวงศ์ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น เครื่องชงเอสเปรสโซ เมนูหมอน ตู้เย็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มตามความชอบ ชุดเสื้อคลุมอาบน้ำหรูหรา และสิ่งอำนวยความสะดวกในการอาบน้ำขนาดหรู นำเสนอความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกช่วงเวลาของการเดินทาง.




ห้องสวีทเงินทองเป็นห้องพักที่มีสไตล์และมีความซับซ้อน ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางโดยมีขนาด 61–65 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 10–11 ตารางเมตร ห้องพักตั้งอยู่กลางเรือ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 3 ท่าน โดยผู้เข้าพักท่านที่สามจะนอนบนเตียงโซฟาที่สะดวกสบายในพื้นที่รับแขกของห้อง ในห้องสวีทนี้มีบริการที่น่าประทับใจ เช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัว การซักรีดฟรี รวมถึงบริการเรียกขนมยามว่างทุกวันและต้อนรับด้วยช็อกโกแลตและผลไม้ นอกจากนี้ยังมีแชมเปญรอคุณมาถึง ขณะที่บริการในห้องให้คุณเพลิดเพลินกับ Wi-Fi พรีเมียมแบบไม่จำกัด ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง ระบบเสียงและการเชื่อมต่อ Bluetooth รวมถึงโทรศัพท์ที่สามารถโทรตรงได้ นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีการบริการที่น่ารักมากมาย เช่น เครื่องชงเอสเปรสโซ และเมนูหมอนให้คุณเลือกใช้ตามความชอบ ห้องน้ำมาตรฐานมีอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม พร้อมด้วยตู้ง wardrobe เดินเข้าและเซฟส่วนตัว สำหรับความสะดวกสบายที่สุด ห้องสวีทยังมีชุดอุปกรณ์หรูหราที่ให้ความรู้สึกเฉกเช่นบ้าน รวมทั้งชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำคุณภาพสูง การเข้าพักในห้องสวีทเงินทองจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่หรูหราและไม่เหมือนใครในทุกครั้งที่คุณเลือกเดินทางกับเรา



ห้องสวีทระดับพรีเมียมเป็นการผสมผสานแห่งความหรูหราและความสะดวกสบาย โดยมีขนาด 49 ตารางเมตร รวมระเบียงขนาด 8 ตารางเมตร ก่อให้เกิดพื้นที่อันกว้างขวางและอบอุ่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง กับประตูกระจกจากพื้นจรดเพดานที่นำเข้ามาให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดภายในมุมพักผ่อนที่มีโซฟาและที่นั่งที่สบาย ภายในห้องแสดงให้เห็นถึงความหรูหรา ผ่านการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางด้วยความสุนทรีย์ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางและห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบเต็มขนาด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้น ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่มอบความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ เตียงควีนไซส์พร้อมที่นอนระดับหรู ระบบเสียง Bluetooth และ Wi-Fi ความเร็วสูงแบบไม่จำกัด รวมถึงบริการช่วยเหลือตลอดการเข้าพัก ที่สำคัญยังมีบริการบัตเลอร์ที่จะดูแลคุณตลอดเวลา พิเศษยิ่งขึ้นด้วยบริการซักรีดฟรี ขนมคานาเป้บริการทุกวัน รวมถึงการต้อนรับด้วยช็อกโกแลตและผลไม้ ห้องสวีทระดับพรีเมียมนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่พักที่ดี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความแตกต่างและความหรูหราอย่างแท้จริง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการล่องเรือที่สุดแสนจะพิเศษของคุณ.



ห้องสวีทระเบียงดีลักซ์เป็นที่พักที่ให้ความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางของเรือ โดยมีทำเลที่ตั้งในระดับกลางของเรือที่ได้รับความนิยม ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมด้วยห้องน้ำที่มีหินอ่อนและพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน ห้องสวีทนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับนักเดินทางที่เก่งกาจ หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของห้องสวีทคือระเบียงส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับประตูบานกระจกขนาดใหญ่จากพื้นถึงเพดาน ทำให้คุณสามารถสัมผัสความงดงามของพระอาทิตย์ตกได้อย่างเป็นส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่ขนาด 32 ตารางเมตร รวมถึงระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร โดยมีเตียงขนาดคิงไซซ์ โต๊ะเขียนหนังสือ และโต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงความสะดวกในการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ซึ่งเชื่อมต่อกับโทรทัศน์จอแบนที่มีห้องสมุดสื่อสารอยู่ด้วย นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีบริการบัตเลอร์ที่พร้อมให้บริการ รวมถึงแชมเปญเมื่อเดินทางมาถึงเป็นการต้อนรับอย่างมีระดับ ด้วยการเลือกหมอนพิเศษและการตั้งค่าตู้เย็นตามความชอบของคุณ ห้องสวีทระเบียงดีลักซ์คือที่พักที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบายและประสบการณ์การพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมบนเรือสำราญ



ห้องสวีทระเบียงระดับพรีเมียมตั้งอยู่บนดาดฟ้าสูง พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงาม ห้องสวีทนี้มีความสะดวกสบายและความหรูหราแบบที่คุณคาดหวังได้เมื่ออยู่บนเรือสำราญ พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและการเน้นรายละเอียดที่น่าประทับใจ ทำให้ห้องสวีทนี้เหมือนบ้านอันอบอุ่นในมหาสมุทร อาจจะกล่าวได้ว่าคุณสมบัติที่ดีที่สุดของห้องสวีทนี้อยู่ตรงบริเวณนอกห้อง เนื่องจากประตูกระจกบานใหญ่จากพื้นจรดเพดานเปิดเข้าสู่ระเบียงส่วนตัว ทำให้ทุกค่ำคืนพร้อมวิวพระอาทิตย์ตกนั้นเป็นของคุณเพียงผู้เดียว ห้องสวีทนี้มีพื้นที่ 32 ตารางเมตร รวมทั้งระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็นที่มีห้องหมายเลข 535 และ 537 นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่สามารถปรับใช้สำหรับแขกคนที่สาม ห้องสวีทยังมีการตกแต่งอย่างลงตัว รวมทั้งอ่างอาบน้ำขนาดเต็ม, พื้นที่นั่งเล่น, และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินที่มีตู้นิรภัยส่วนตัว ฟอร์นิเจอร์ภายในประกอบด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมที่นอนระดับสูง บริการที่มีให้ ได้แก่ การบริการบัตเลอร์ แชมเปญเมื่อเดินทางมาถึง รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีทีวีจอแบนขนาดใหญ่พร้อมห้องสมุดสื่อที่มีการโต้ตอบ และปลั๊กไฟที่มีโวลต์คู่สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในขณะล่องเรือ


ห้องสวีทระเบียงคลาสสิกนำเสนอสถานที่พักผ่อนที่กว้างขวางสำหรับผู้เดินทาง ตั้งอยู่บนดาดฟ้าหลักที่ด้านหน้า ห้องสวีทนี้มอบความสะดวกสบายและรายละเอียดที่น่าประทับใจทั้งภายในและภายนอกได้อย่างเต็มที่ ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา มีห้องน้ำหินอ่อนที่สวยงามและพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง ทำให้ห้องนี้เป็นบ้านที่สะดวกสบายไม่ต่างจากบ้านของคุณเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุดในห้องนี้อาจอยู่ที่ระเบียงส่วนตัวที่เปิดออกจากประตูกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ให้คุณได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกอย่างใกล้ชิดราวกับว่าสิ่งนั้นเป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียว ขนาดห้องนอนอยู่ที่ 32 ตารางเมตรรวมระเบียงขนาด 6 ตารางเมตร โดยผู้เข้าพักคนที่สามสามารถนอนบนโซฟาเบดที่สะดวกสบายในพื้นที่ต้อนรับของห้องได้ ห้องสวีทนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าที่ 5 และ 6 ในส่วนกลางและด้านหน้า ประกอบด้วยระเบียง พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะเครื่องแป้งแบบคู่ อ่างอาบน้ำขนาดเต็มพร้อมฝักบัวแยกต่างหาก และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มีเซฟส่วนบุคคล ภายในห้องมีเตียงขนาดควีน ไม้เขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง และที่นอนหรูหรา นอกจากนี้ ยังมอบความสะดวกสบายในการสื่อสารอย่างไม่จำกัดด้วย Wi-Fi แบบมาตรฐาน โทรทัศน์จอใหญ่ และการชาร์จโทรศัพท์แบบ USB-C รวมทั้งบริการนายเรือที่ดูแลคุณตลอดการเดินทาง โดยท่านจะได้รับแชมเปญเมื่อมาถึง ห้องสวีทนี้ยังมีเมนูหมอน ตู้เย็นพร้อมเครื่องดื่มตามความชอบ เสื้อคลุมอาบน้ำหรูหรา อุปกรณ์อาบน้ำที่หรูหรา ร่ม เครื่องเป่าผมและรองเท้าแตะ เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือระดับในการพักผ่อนบนเรือสุดหรูกับห้องสวีทระเบียงคลาสสิกนี้


สงบเงียบและหรูหรา คำอธิบายของห้องวิสตา สวีท แสดงให้เห็นถึงพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางเหมาะแก่การผ่อนคลาย พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่เผยให้เห็นทิวทัศน์มหาสมุทรแบบพาโนรามา กลายเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการรับประทานอาหารเช้าในเตียง ห้องที่มีขนาด 27 ตารางเมตรนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าของเรือบนดาดฟ้าที่ 4, 5 และ 7 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิเช่น โซฟาและโต๊ะทำงาน โต้ะเครื่องแป้งพร้อมเตียงคิงไซส์ที่ให้ความสบายด้วยฟูกระดับพรีเมียม ห้องน้ำมีอ่างเต็มขนาดและฝักบัวแยก รวมถึงตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ที่มาพร้อมตู้เซฟส่วนตัว ในด้านของสื่อและการสื่อสาร ห้องวิสตา สวีท มีบริการ Wi-Fi ที่ไม่มีขีดจำกัด ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ พร้อมห้องสมุดสื่ออินเตอร์แอคทีฟ โทรศัพท์แบบตรง และช่องชาร์จ USB-C ที่ติดผนังเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์ที่จะมอบประสบการณ์การเข้าพักที่เหนือระดับ โดยมอบแชมเปญให้เมื่อเดินทางมาถึง พร้อมเมนูหมอนที่คุณสามารถเลือกได้ และตู้เย็นที่มีบาร์เซ็ตที่เจ้าหน้าที่เติมเต็มตามความชอบของคุณ สัมผัสความหรูหราจากชุดเสื้อคลุมอาบน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกในการอาบน้ำที่มีคุณภาพ พับร่มไว้ในห้อง คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เพราะที่นี่มีเครื่องเป่าผมและรองเท้าแตะให้พร้อม เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องวิสตา สวีทแห่งนี้



เมดัลเลียน สวีท นำเสนอความหรูหราและความสะดวกสบายในพื้นที่กว้างขวางถึง 49 ตารางเมตร รวมทั้งระเบียงที่มีพื้นที่ 8 ตารางฟุต ภายในห้องพักมีประตูบานกระจกจากพื้นจรดเพดานที่นำเสนอวิวยอดเยี่ยม พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่ผ่อนคลายสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์พร้อมที่นอนระดับหรู, โต๊ะเขียนหนังสือ, และโต๊ะเครื่องแป้ง นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำขนาดเต็มและห้องอาบน้ำแยกต่างหาก อีกทั้งยังมีตู้เสื้อผ้าแบบเดิยงที่มาพร้อมกับตู้นิรภัยส่วนตัว ในด้านเทคโนโลยี ห้องพักมีอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ระดับพรีเมียมแบบไม่จำกัด, ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่องพร้อมห้องสมุดสื่ออินเทอร์แอคทีฟ, และระบบเสียงที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์มือถือมีช่อง USB-C และไฟฟ้าสองแรงดัน 110/220 โวลต์ การบริการบนเรือมาพร้อมกับบริการบัตเลอร์, การซักรีดและการทำความสะอาดฟรี, การเสิร์ฟขนมระหว่างวัน, ช็อคโกแลตต้อนรับ, และผลไม้ตามมา รวมถึงแชมเปญเมื่อมาถึง และการรับประทานอาหารที่โต๊ะของเจ้าหน้าที่ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องประกอบด้วยเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ, เมนูหมอน, ตู้เย็นพร้อมมินิบาร์ที่บรรจุตามความชอบของท่าน, เสื้อคลุมอาบน้ำ, ของใช้ในห้องน้ำระดับหรู, ร่ม, เครื่องเป่าผม, และรองเท้านุ่มสบาย ห้องเมดัลเลียน สวีท คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดในการล่องเรือสุดหรูที่ผสมผสานความสะดวกสบายและความหรูหราได้อย่างลงตัว.