
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

MS Treasures
เทาック



โคโลญ (Cologne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศนี้ มีอายุกว่า 2,000 ปี และถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค เมืองโคโลญเป็นที่รู้จักกันดีจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดคือมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ที่ตั้งตระหง่านคู่ระหว่างตึกเก่าในย่านเก่า (Old Town) เมื่อมาเยือนย่านเก่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมศาลากลางเก่า (Old Town Hall) และโบสถ์โรมันเซนต์มาร์ติน (Great St Martin) นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โมเสคดีโอโนซัส (Roman Dionysus mosaic) และบ้านโอเวอร์สโทลเซน (Overstolzenhaus) ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การค้นหาด้วย อีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นในโคโลญคือสะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ซึ่งคู่รักทั้งจากในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาทำพิธีผูกสัมพันธ์โดยการติดล็อกที่ราวสะพาน แล้วทิ้งกุญแจลงสู่แม่น้ำไรน์ เพื่อหวังความรักที่ยืนยาวอย่างมั่นคง การแสดงคาบาเร่ต์และวัฒนธรรม LGBTQ+ ที่เปิดเผยของเมืองนี้ ยังเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับประสบการณ์การเยี่ยมชมโคโลญอีกด้วย มาประสบการณ์ความงดงามแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความรักในโคโลญแล้วคุณจะหลงใหลไม่รู้ลืม!

เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

มิลเทนแบร์ก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบาวาเรีย ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ เมืองนี้เติบโตจากรากฐานในยุคกลางผ่านการปลูกองุ่น การค้าไวน์ การประมง และการเดินเรือ จนกลายเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างสวยงามในปัจจุบัน เมื่อคุณมาที่มิลเทนแบร์ก อย่าพลาดที่จะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมืองมิลเทนแบร์ก ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารไม้ครึ่งหลังที่เรียกว่า “อัลเต อัมต์สเคลเลอรี” ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมไปจนถึงยุคโรมัน นอกจากนี้ การเยี่ยมชมปราสาทมิลเทนแบร์กซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบิร์กมิลเทนแบร์ก ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะคลาสสิคและร่วมสมัยในบรรยากาศที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ยอดหอคอยของปราสาทซึ่งสูงถึง 27 เมตร เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายและดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์แสนงดงามของหุบเขาไมน์ที่อยู่เบื้องล่าง ช่วงเวลาอันสงบสุขที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกหลงใหลในเสน่ห์ของมิลเทนแบร์กอย่างแท้จริง

วือซบวร์ก เมืองอันงดงามในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ สลับซับซ้อนด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและไวน์ฟรังโกเนียนที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังเรสซิเดนซ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดดเด่นด้วยบันไดอันวิจิตร ภาพเขียนประดับขนาดใหญ่ และห้องโถงอันโอ่อ่า เมื่อเดินทางมายังวือซบวร์ก ต้องไม่พลาดปราสาทเฟสตุง มาริอ์เบิร์ก ซึ่งตั้งตระหง่านโดดเด่น ให้มุมมองที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ นอกจากนี้สะพานเก่าแก่ Alt Mainbrücke ยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย สำหรับคนรักไวน์ วือซบวร์กมีโรงกลั่นไวน์มากมายพร้อมทั้งนำเสนอการทัวร์และชิมไวน์ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำไวน์ในบรรยากาศสบายๆ ที่ยังคงรักษาภูมิทัศน์ดั้งเดิมของอาหารบาวาเรียน เช่น ซุปไวน์ กีรัปฟ์เตอร์ (ชีสทา) และเซาเออร์บราตัน (เนื้อวัวตุ๋นในไวน์) ที่ทานคู่กับไวน์ท้องถิ่น วือซบวร์กเป็นจุดหมายปลายทางที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามของเยอรมนีอย่างแท้จริง

บัมแบร์ก (Bamberg) คือเมืองอันงดงามในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ประกอบด้วยเจ็ดเขา และที่จุดบรรจบของแม่น้ำเรกนิทซ์และไมน์ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ที่นี่มักดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างศาลากลาง (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเรกนิทซ์ โดยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามให้ได้ชม อีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจคือบัมแบร์กคาประตู (Bamberg Cathedral) ที่มี 4 หอคอยและการแกะสลักหินอันละเอียดอ่อน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของเมือง สามารถแวะไปที่เขตตลาดสวน โดยมีบ้านประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นที่ปลูกและส่งออกผลผลิต เช่น หัวหอม และลูกไลเซอรีซ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง บัมแบร์กยังมีร้านค้าเก๋ๆ เจ้าของท้องถิ่นตั้งอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ และเมื่อสิ้นสุดวัน อย่าลืมแวะไปสัมผัสเบียร์เยอรมันรสเลิศที่ผับเบียร์ของเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีโรงเบียร์ดั้งเดิมถึง 9 แห่ง ค้นพบมนต์เสน่ห์ของบัมแบร์กและให้ความใฝ่ฝันในการเดินทางมาสัมผัสเมืองอันมีชื่อเสียงนี้!

นูเร็มเบิร์ก คือ เมืองในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือของบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของบาวาเรีย เมืองนี้มีเอกลักษณ์ด้วยอาคารหลังคาแดงและสถาปัตยกรรมยุคกลางที่งดงาม ปราสาทจักรพรรดิที่ตั้งอยู่บริเวณเหนือเมืองเคยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของจักรวรรดิโรมัน สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เยอรมันนิชเนชันแนลมิวเซียม (Germanisches Nationalmuseum) คือ แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ มูลนิธินี้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ใช้ภาษาเยอรมัน โดยมีนิทรรศการที่หลากหลายตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงปัจจุบัน การเดินเที่ยวชมเมืองแบบเดินเท้าจะทำให้คุณได้พบกับน้ำพุ สระว่ายน้ำ โบสถ์ และสมบัติศิลปะที่น่าสนใจ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สีสันและวัฒนธรรมอันหลากหลายของเมืองนี้โดยละเอียด นอกจากนี้ยังมีตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน นูเร็มเบิร์ก คริสต์กิ้นเดิ้ลสมัต (Nuremberg Christkindlesmarkt) ที่จะทำให้คุณสามารถหาซื้อของตกแต่งมือทำและสัมผัสรสชาติของขนมขิง ไวน์อุ่น และไส้กรอกย่างจากร้านที่ตั้งเรียงรายกว่า 180 ร้าน เตรียมพร้อมที่จะให้ความรู้สึกอัศจรรย์ในการเดินทางสู่เมืองที่มีเสน่ห์นี้ ที่จะรายล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่!

เรเกนสบูร์ก เป็นเมืองเก่าแก่อยู่ในบาวาเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำดานูบ ที่ซึ่งไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเรเกนและนาอ์บ เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสะพานหินสมัยศตวรรษที่ 12 ที่มี 16 โค้ง ซึ่งข้ามแม่น้ำดานูบเข้าสู่เมืองเก่า ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในเยอรมนี สถาปัตยกรรมที่เด่นของเรเกนสบูร์กคือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สไตล์โกธิก ซึ่งมีคู่ยอดแหลมสูงชะลูดที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความงดงาม สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ประตูโรมันโบราณจากศตวรรษที่ 2 และพระราชวังทูนและทักซิสสมัยศตวรรษที่ 18 จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาช้านาน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอุทยานและสวนสาธารณะที่ล้อมรอบ รวมถึงเส้นทางเดินและจักรยานริมน้ำที่มอบความสงบและความสุขให้แก่การเดินทางในเมืองโบราณแห่งนี้ ขอบอกเลยว่าเรเกนสบูร์ก คือจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเยอรมนีอย่างแท้จริง

เมืองพาสเซา ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนีติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย ได้แก่ ดานูบ อินน์ และอิลซ์ มาบรรจบกัน ซึ่งมักเรียกกันว่า "เมืองสามแม่น้ำ" แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในพาสเซาคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และพิพิธภัณฑ์แก้ว ที่นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ย่านเมืองเก่าของพาสเซา เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น ปราสาทเฟสเต้ โอเบอร์เฮาส์ และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ที่มีความสวยงามตระการตา สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกสำหรับการเดินสำรวจริมแม่น้ำและซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ พาสเซายังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา โดยมีการแสดงละครและคาบาเรต์ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสความสนุกสนานที่โรงละครเก่าของเจ้าชายบิชอป รวมถึงเมนูอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารบาวาเรียและออสเตรียที่อบอุ่นเต็มไปด้วยรสชาติที่สืบทอดจากวัฒนธรรมดั้งเดิม อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองอันสวยงามแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดหมายที่สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ของศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัว!
เมืองเมลค์ (Melk) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบในประเทศออสเตรีย และเป็นจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมอย่างยิ่งหากคุณมีโอกาสไปเยือนภูมิภาคนี้ เมืองเล็กๆ นี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจาก “อAbbey เมลค์” อารามที่มีอายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งตั้งอยู่สูงเหนือเมือง สถาปัตยกรรมบาโรกอันงดงามของอารามนี้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของหุบเขาวาคเซา (Wachau Valley) ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 2000 การเดินเล่นในเมืองเก่าเมลค์ คุณจะได้พบกับจัตุรัสต่างๆ เช่น จัตุรัสศาลากลางและจัตุรัสหลัก รวมไปถึงไปรษณีย์เก่าที่ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ เมลค์ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือริมแม่น้ำ การปั่นจักรยาน หรือการเดินชมทิวทัศน์ของบ้านไร่องุ่นที่เรียงรายไปตามเนินเขา นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลศิลปะและดนตรีบาโรกที่จัดขึ้นทุกปีในช่วง “วันบาโรกเมลค์” ซึ่งเป็นงานระดับนานาชาติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิที่ต้นไม้แอปริคอตบานสะพรั่ง บรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยความรื่นรมย์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้การเยือนเมลค์เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการเดินทางหรูหราของคุณ.

เวียนนา เมืองหลวงที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยมรดทางดนตรีและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ซึ่งถือเป็นเมืองที่พูดภาษาเยอรมันมากที่สุดในโลกนอกเบอร์ลิน โดยในปี 2001 เวียนนาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก การเดินทางมายังเวียนนา คือการได้สัมผัสสถาปัตยกรรมที่งดงาม ซึ่งมีปราสาทและวังมากมาย รวมถึงมหาวิหารเซนต์สตีเฟนอันมีชื่อเสียง และพระราชวังเชินบรุนน์ นอกจากจะมีงานแสดงดนตรีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่วิธีการเล่นร็อคถึงโอเปร่าที่เวียนนา สเตท โอเปร่า ผู้ที่รักศิลปะไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะประวัติศาสตร์ (KHM) ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะทั้งสมัยใหม่และดั้งเดิม ณ สถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวเมืองจากทาวเวอร์ดานูบและชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในร้านกาแฟและภัตตาคารที่เสิร์ฟอาหารทั้งแบบดั้งเดิมและสากล พร้อมกับไวน์ท้องถิ่นอันยอดเยี่ยมที่จะทำให้การเดินทางในเวียนนาเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่รู้ลืม

เมืองบราติสลาว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสโลวาเกีย ตั้งอยู่ริมน้ำดานูบ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างออสเตรียและฮังการี เมืองนี้มีภูเขาลิตเติล คาร์พาเทียนและไร่องุ่นล้อมรอบ พร้อมด้วยปราสาทบราติสลาว่าที่ถูกปรับปรุงใหม่ ซึ่งตั้งตระง่านมองเห็นตัวเมืองและพื้นที่โดยรอบปรากฏให้เห็นภาพวิวที่งดงาม รวมถึงเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ บราติสลาว่าเป็นมรดกของความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น หอนาฬิกาเก่า, สะพานยูเอฟโอ, มหาวิหารเซนต์มาร์ติน, ประตูมิχαอิล และโบสถ์สีน้ำเงินเซนต์เอลิซาเบธ เมืองนี้ยังมีสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปกลาง มีชื่อเสียงสำหรับนักเดินและนักปั่นจักรยาน ไม่เพียงแค่ทิวทัศน์อันงดงาม บราติสลาว่ายังขึ้นชื่อเรื่องเบียร์ที่ผลิตในท้องถิ่น มีโรงเบียร์ขนาดเล็กและห้องใต้ดินเบียร์จำนวนมาก รวมถึงอาหารท้องถิ่นที่ผสมผสานอิทธิพลจากวัฒนธรรมยุโรปหลายแห่ง โดยมีอาหารจานเด็ดอย่างเป็ดย่างกับลอคเซ่ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ร่วมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบันในบราติสลาว่า ไขว่คว้าความฝันในการเดินทางที่จะทำให้คุณหลงรักในทุกความละเอียดของเมืองนี้.





ห้องพักประเภทที่ 7 | ดาดฟ้าเพชร มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบาย ห้องนี้มีเตียงแฝดขนาดยุโรป 2 เตียงที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ขนาดรวม 200 ซม. x 180 ซม. (เตียงแต่ละเตียงขนาด 200 ซม. x 90 ซม.) มีพื้นที่เก็บสัมภาระใต้วางเตียงได้ถึง 4 ใบ ห้องนี้ตกแต่งอย่างมีระดับด้วยโซฟานอนแบบดึงออกขนาด 190 ซม. x 110 ซม. ที่นั่งสโมสร 2 ตัว และโต๊ะกาแฟ พร้อมพื้นที่ทำงานและโทรทัศน์ ห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และลิ้นชัก พร้อมด้วยชุดเครื่องนอนคุณภาพสูงที่ใช้ผ้าฝ้าย 400 เส้นด้าย ห้องน้ำส่วนตัวมีพื้นที่กว้างขวางพร้อมฝักบัวที่มีฝักบัวฝน (ไม่มีอ่างอาบน้ำ) รวมถึงผลิตภัณฑ์อาบน้ำ Molton Brown ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Tauck พร้อมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ ภายในห้องพักยังมีระเบียงฝรั่งเศสแบบสูงถึงเพดาน 2 แห่ง ขนาดแต่ละแห่งกว้าง 98 นิ้ว x สูง 75 นิ้ว พร้อมประตูเลื่อน เปิดรับวิวสวย ๆ มีเตียงเสริมสำหรับเด็กในปรัชญาที่มีเสน่ห์นี้ รวมถึงเครื่องชงกาแฟ มินิบาร์ที่จัดเตรียมน้ำและน้ำอัดลมแช่เย็นทุกวัน ทีวีขนาด 32 นิ้ว บริการอาหารเช้าภายในห้อง มีเครื่องรีดผ้าและโต๊ะรีดผ้า พร้อมช่องจ่ายไฟ 220V และ 110V ในห้องและห้องน้ำ ห้องนี้ยังมีสัญญาณ Wi-Fi บนเรือ พร้อมเครดิตเรือ (หนึ่งเครดิตต่อห้อง) สำหรับใช้บริการต่าง ๆ บนเรือเช่น สปาและซื้อของที่ร้านของขวัญ สร้างความพิเศษและความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในการเดินทางของคุณ


ห้องพักประเภทที่หก | ชั้นเรือเพชรแดง มีเตียงคู่สไตล์ยุโรปขนาด 200 ซม. x 160 ซม. ซึ่งสามารถเลื่อนเข้าหากันได้ เมื่อแยกออกจะได้เตียงขนาด 200 ซม. x 80 ซม. แต่ละเตียง ห้องพักนี้สามารถจัดเก็บกระเป๋าเดินทางได้ถึง 4 ใบใต้เตียง สัมผัสความสะดวกสบายด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหรา รวมถึงเก้าอี้สองตัวและโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าพร้อมลิ้นชักที่เก็บของได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยเครื่องนอนผ้าฝ้าย 400 เส้นด้ายผสมกันพร้อมกับผ้าห่มและหมอนที่ทำจากผ้าฝ้ายมาร์โกที่มีไส้ขนเป็ดมากถึง 90% ห้องน้ำส่วนตัวมีฝักบัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกจาก Molton Brown ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Tauck รวมถึงเสื้อคลุมอาบน้ำจากผ้าเทอรี่และรองเท้าแตะ โรงแรมนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นพิเศษด้วยระเบียงฝรั่งเศสสูงจากพื้นจรดเพดาน 98 นิ้ว พร้อมประตูเลื่อนที่เปิดได้ ใช้บริการตู้เย็นที่มีน้ำและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้ให้ฟรี ซึ่งจะถูกเติมทุกวัน นอกจากนี้ยังมีทีวี LED ขนาด 32 นิ้ว และเต้าเสียบไฟฟ้า 220v และ 110v ในห้องพักและห้องน้ำ พร้อมกับการจัดเก็บสิ่งของใต้เตียงอย่างง่าย โทรศัพท์ ตู้นิรภัย และการควบคุมอุณหภูมิที่เป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีบริการ Wi-Fi บนเรือให้บริการอีกด้วย



ห้องพักประเภท 5 | ชั้นเพชร บนเรือสำราญนี้ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราแก่ผู้เข้าพัก ขนาดเตียงคู่ยุโรปสองเตียงสามารถเลื่อนมาติดกันได้ มีขนาด 200 ซม. x 160 ซม. (หรือ 200 ซม. x 80 ซม. เมื่อต้องการแยกเตียง) ซึ่งช่วยให้เก็บสัมภาระได้ถึง 4 ใบใต้เตียงอย่างสะดวก ห้องพักมีการตกแต่งด้วยเก้าอี้สองตัวพร้อมโต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าสร้างในที่มีลิ้นชัก นอกจากนี้ยังมีชุดเครื่องนอนผ้าฝ้ายเกรด 400 ซึ่งประกอบด้วยผ้านวมและหมอนที่ทำจากฝ้ายมาคอ พร้อมด้วยขนเป็ด 90% ทำให้คุณได้สัมผัสกับการนอนหลับที่แสนสบาย ห้องน้ำส่วนตัวมีการตกแต่งอย่างดี พร้อมฝักบัวและผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Molton Brown ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Tauck พร้อมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะทำจากผ้าขนหนู ห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รวมถึงระเบียงฝรั่งเศสแบบพื้นถึงเพดาน ขนาด 98 นิ้ว x 75 นิ้ว ซึ่งสามารถเปิดได้ด้วยประตูเลื่อน ห้องน้ำที่มีฝักบัว ตู้เย็นที่เก็บน้ำดื่มและเครื่องดื่มอัดลมฟรีซึ่งเติมใหม่ทุกวัน ทีวี LED ขนาด 32 นิ้ว ช่องเสียบไฟ 220 โวลต์และ 110 โวลต์ในห้องและห้องน้ำ มีพื้นที่เก็บสัมภาระใต้เตียง โทรศัพท์ ตู้นิรภัย และระบบควบคุมอุณหภูมิส่วนตัว รวมถึงบริการ Wi-Fi บนเรือ ทำให้การเข้าพักของคุณสบายและมีความสุขอย่างไม่มีที่ติ



ในห้องพักประเภท 4 ซึ่งตั้งอยู่บนดาดฟ้ารหัส "แดง" จะเป็นห้องที่ตอบสนองความต้องการของนักเดินทางอย่างแท้จริง ด้วยเตียงคู่แบบยุโรปที่สามารถจัดเรียงเข้าหากันได้ ขนาด 200 ซม. x 160 ซม. (เมื่อแยกเป็นสองเตียง ขนาด 200 ซม. x 80 ซม. แต่ละเตียง) ห้องพักมีความกว้างขวาง สามารถจัดเก็บกระเป๋าเดินทางได้ถึง 4 ชุดใต้เตียง. การตกแต่งภายในห้องนั้น ประกอบไปด้วยเก้าอี้สองตัวพร้อมโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าบิลต์อินที่มีลิ้นชัก รวมถึงชุดเครื่องนอนที่ทำจากฝ้าย 400 เส้นและผ้านวมสีขาว พร้อมหมอนที่ทำจากฝ้ายมาคอและมีการเติมขนเป็ดถึง 90% เพื่อความสบายสูงสุดในขณะที่นอนหลับ. ห้องน้ำส่วนตัวที่มีความสะดวกสบาย พร้อมฝักบัวและอุปกรณ์อาบน้ำที่มีคุณภาพจาก Molton Brown – สินค้าเฉพาะของ Tauck นอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำเนื้อผ้าลูกฟูกและรองเท้าแตะให้คุณ. สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนี้รวมถึงระเบียงฝรั่งเศสสูงจากพื้นจรดเพดานขนาด 98 นิ้ว x 75 นิ้ว มีประตูเลื่อนเพื่อเปิดออกไปสู่ภายนอก ตู้เย็นที่มีน้ำและเครื่องดื่มอัดลมให้บริการฟรีและเติมให้ทุกวัน ทีวี LED ขนาด 32 นิ้ว ช่องจ่ายไฟ 220v และ 110v ในห้องและห้องน้ำ พื้นที่เก็บของใต้เตียง ทีวี โทรศัพท์ เซฟและการควบคุมอุณหภูมิส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบริการ Wi-Fi บนเรือให้ใช้ได้อีกด้วย.



เราขอนำเสนอห้องพักสุดหรูในระดับ "3 ชนิด | ดาดฟ้าทองคำ" ที่ตอบสนองทุกความต้องการในการเข้าพักอย่างแท้จริง ห้องพักนี้มีเตียงคู่แบบยุโรปขนาด 200 ซม. x 180 ซม. ซึ่งสามารถเลื่อนมารวมกันได้ เพื่อความสะดวกสบายสามารถเก็บสัมภาระได้ถึง 4 ชิ้นใต้เตียง ห้องมีขนาดกว้างขวาง พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ครบครัน ประกอบด้วยเก้าอี้สองตัวและโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าติดผนังพร้อมลิ้นชัก และชุดเครื่องนอนฝ้ายที่มีเส้นใยสูง 400 เส้น รวมถึงผ้านวมขาวและหมอนที่ทำจากผ้าฝ้ายมาคอตที่มีการเติมขนนก 90% ห้องน้ำภายในห้องพักเป็นแบบส่วนตัว พร้อมอ่างอาบน้ำและสุขภัณฑ์ที่มีความหรูหรา ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจาก Molton Brown ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Tauck พร้อมผ้าเช็ดตัวที่ดูดซับดีและรองเท้าแตะนุ่มสบาย นอกจากนี้ ห้องพักนี้ยังมีบัลโคนีแบบฝรั่งเศสขนาดใหญ่ที่เปิดออกได้ มาพร้อมกับตู้เย็นที่จัดเตรียมน้ำดื่มและน้ำอัดลมแบบฟรีที่เติมใหม่ทุกวัน ทีวี LED ขนาด 32 นิ้ว และปลั๊กไฟที่รองรับ 220v และ 110v เพื่อให้ความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังมีโทรศัพท์ เซฟส่วนตัว และการควบคุมอุณหภูมิภายในห้อง ด้วยการเชื่อมต่อ wi-fi ที่มีให้บริการบนเรือ รับรองว่าทุกการเข้าพักจะเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างแท้จริง


ห้องพักประเภท 2 | ด้านมรกต มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับ ด้วยเตียงคู่ขนาดยุโรปที่สามารถจัดเรียงได้ตามต้องการ ใหญ่พอเหมาะที่ 200 ซม. x 160 ซม. (เตียงแต่ละเตียงขนาด 200 ซม. x 80 ซม.) มีพื้นที่จัดเก็บกระเป๋าเดินทางถึง 4 ใบใต้เตียง สัมผัสความสะดวกสบายด้วยเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องที่มีเก้าอี้สองตัวพร้อมโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินพร้อมลิ้นชัก และผ้าปูที่นอนฝ้าย 400 เส้นด้าย พร้อมกับผ้านวมสีขาวและหมอนจากผ้าฝ้ายมาคอ ด้วยการเติมขนเป็ดถึง 90% ห้องน้ำส่วนตัวมีการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน พร้อมฝักบัวแยกต่างหาก และอุปกรณ์อาบน้ำจาก Molton Brown ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Tauck พร้อมชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะจากผ้าเช็ดตัว สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องยังรวมถึงตู้เย็นที่จัดเตรียมน้ำดื่มและน้ำอัดลมในวันต่อวัน ทีวี LED ขนาด 32 นิ้ว จุดปลั๊กไฟ 220v และ 110v ทั้งในห้องและในห้องน้ำ การจัดเก็บกระเป๋าใต้เตียงที่สะดวก โทรศัพท์ ตู้เซฟ และการควบคุมสภาพอากาศแบบแยกส่วน รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi บนเรือ การเข้าพักในห้องประเภทนี้เป็นการหลอมรวมของความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างแท้จริงในทุกๆ รายละเอียด.



ห้องพักแบบ 1 ชั้น | ดาดฟ้าไพลิน เป็นห้องที่ออกแบบมาอย่างมีกลิ่นอายของความหรูหรา พร้อมเตียงทวินยุโรป 2 เตียงที่สามารถเลื่อนมารวมกันได้ มีขนาด 200 ซม. x 156 ซม. (เตียงแต่ละเตียงขนาด 200 ซม. x 78 ซม.) สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางได้ถึง 4 ใบใต้เตียงเพื่อความสะดวกในการจัดเก็บ ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัว เช่น เก้าอี้ 2 ตัวพร้อมโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าที่สร้างขึ้นโดยมีลิ้นชัก ชุดเครื่องนอนที่ใช้ผ้าฝ้ายเกรด 400 เส้นด้าย และหมอนกับผ้านวมที่ทำจากผ้าฝ้ายมาคอซึ่งนุ่มสบายด้วยการกรอกด้วยขนเป็ด 90% ห้องน้ำในตัวมีพื้นที่ส่วนตัวและมีฝักบัว และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกจาก Molton Brown ที่มีเฉพาะในเรือของ Tauck รวมถึง bathrobe ผ้าทอแบบเทอร์รี่และรองเท้าแตะ ห้องพักยังมีหน้าต่างขนาด 2 ฟุต x 3 ฟุต 2 บาน ตู้เย็นที่จัดเตรียมน้ำดื่มและเครื่องดื่มอัดลมฟรี ให้บริการทุกวัน ทีวี LED ขนาด 32 นิ้ว และปลั๊กไฟขนาด 220 โวลต์และ 110 โวลต์ทั้งในห้องพักและห้องน้ำ อีกทั้งยังมีโทรศัพท์, ตู้นิรภัย และการควบคุมอากาศภายในห้องเป็นส่วนตัว รวมถึงบริการ Wi-Fi ในเรือที่ให้คุณเชื่อมต่ออยู่เสมอ ความสะดวกสบายและความหรูหรานี้จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นที่น่าจดจำอย่างแน่นอน