
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เรือดูชเชสริเวอร์
ยูนิโลด์ บูติค ริเวอร์ ครูซส์


กรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศ เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา หนึ่งในแลนด์มาร์กที่น่าทึ่งที่สุดคือ "ปาลาตูล ปาลาเมนทูลุย" (Palatul Parlamentului) ซึ่งเป็นอาคารรัฐบาลที่ใหญ่โตในยุคคอมมิวนิสต์ มีห้องถึง 1,100 ห้อง สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจในอดีต ย่านลิปสคานี (Lipscani) ที่อยู่ใกล้เคียง เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสกับชีวิตยามค่ำคืนที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารที่หลากหลาย นอกจากนั้น ยังมีโบสถ์สเตฟรอโปลีออส (Stavropoleos Church) สถาปัตยกรรมที่งดงามของศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นโยกเธอรัล และพระราชวังเคอร์เตอา เวเค (Curtea Veche Palace) ที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าชายวลาดที่ 3 หรือที่รู้จักกันในนาม "วลาดไม้กระดาน" บูคาเรสต์ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแต่ยังมีความทันสมัย ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความพิเศษในทริปของตน.

กรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศ เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา หนึ่งในแลนด์มาร์กที่น่าทึ่งที่สุดคือ "ปาลาตูล ปาลาเมนทูลุย" (Palatul Parlamentului) ซึ่งเป็นอาคารรัฐบาลที่ใหญ่โตในยุคคอมมิวนิสต์ มีห้องถึง 1,100 ห้อง สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจในอดีต ย่านลิปสคานี (Lipscani) ที่อยู่ใกล้เคียง เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสกับชีวิตยามค่ำคืนที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารที่หลากหลาย นอกจากนั้น ยังมีโบสถ์สเตฟรอโปลีออส (Stavropoleos Church) สถาปัตยกรรมที่งดงามของศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นโยกเธอรัล และพระราชวังเคอร์เตอา เวเค (Curtea Veche Palace) ที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าชายวลาดที่ 3 หรือที่รู้จักกันในนาม "วลาดไม้กระดาน" บูคาเรสต์ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแต่ยังมีความทันสมัย ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความพิเศษในทริปของตน.

กรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศ เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา หนึ่งในแลนด์มาร์กที่น่าทึ่งที่สุดคือ "ปาลาตูล ปาลาเมนทูลุย" (Palatul Parlamentului) ซึ่งเป็นอาคารรัฐบาลที่ใหญ่โตในยุคคอมมิวนิสต์ มีห้องถึง 1,100 ห้อง สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจในอดีต ย่านลิปสคานี (Lipscani) ที่อยู่ใกล้เคียง เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสกับชีวิตยามค่ำคืนที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารที่หลากหลาย นอกจากนั้น ยังมีโบสถ์สเตฟรอโปลีออส (Stavropoleos Church) สถาปัตยกรรมที่งดงามของศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นโยกเธอรัล และพระราชวังเคอร์เตอา เวเค (Curtea Veche Palace) ที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าชายวลาดที่ 3 หรือที่รู้จักกันในนาม "วลาดไม้กระดาน" บูคาเรสต์ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแต่ยังมีความทันสมัย ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความพิเศษในทริปของตน.

ท่าเรือรูเซ่ (Ruse) คือประตูสู่การค้นพบความงดงามของบัลแกเรีย ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานที่บัลแกเรียเสนอให้ เมื่อก้าวเข้าสู่เมืองรูเซ่ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะอาคารสไตล์บาโรกและนีโอคลาสสิกที่ยังคงรักษาความงดงามไว้ได้อย่างดี ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมสวนสาธารณะและอนุสาวรีย์ของพระเจ้าฟีเดอริคที่ตั้งตระหง่าน บริเวณนี้เหมาะสำหรับการถ่ายรูปและเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนั้น ยังมีเสน่ห์ของอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจ รวมถึงการชิมไวน์พื้นเมืองที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างไม่รู้ลืม สิ่งที่ทำให้รูเซ่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าทึ่ง คือการเดินทางที่สะดวกสบายไปยังเมืองหลวงโซเฟีย หรือเมืองประวัติศาสตร์เช่นพลอฟดิฟ ไม่ว่าคุณจะมองหาความสงบหรือการผจญภัย ท่าเรือรูเซ่จะนำคุณเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการเดินทางครั้งนี้

เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะนำเสนอท่าเรือที่ยอดเยี่ยมในเมืองวีดิน (Vidin) ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบและเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ วีดินไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่ใช้สำหรับเรือสำราญเท่านั้น แต่มันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคนี้ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานจนน่าเชื่อขวัญ อาคารเก่าแก่และปราสาทวีดิน (Vidin Fortress) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 จะช่วยเชื่อมต่อคุณกับเรื่องราวของยุคกลาง เมื่อคุณเดินผ่านประตูปราสาทเหล่านี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ วีดินยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โบสถ์เซนต์บอร์น (St. Boryana Church) ที่มีศิลปะสถาปัตยกรรมที่งดงาม และตลาดท้องถิ่นที่คุณสามารถลองชิมอาหารบัลแกเรียแท้ๆ ได้ เมื่อคุณมาเยือนวีดิน คุณไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของเมืองนี้ แต่ยังได้ท่องเที่ยวในเส้นทางอันแสนพิเศษที่นำคุณไปสู่ทุกความฝันในการเดินทางของคุณ โดยเฉพาะการนั่งเรือสำราญที่แหวกว่ายไปในแม่น้ำดานูบที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบตัวคุณ ขอต้อนรับสู่การเดินทางอันน่าหลงใหลในวีดิน ที่คุณจะไม่มีวันลืม!

ท่าเรือ Iron Gates ตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างโรมาเนียและเซอร์เบีย เป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่เรือสำราญมักแวะจอด เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับภูมิทัศน์ที่สวยงามและวัฒนธรรมที่หลากหลายของภูมิภาคนี้ ช่องเขา Iron Gates อันงดงาม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ ที่ถูกล้อมรอบด้วยผาหินชันและป่าเขียวชอุ่ม เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและชื่นชมธรรมชาติ นอกจากความงามธรรมชาติแล้ว ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นก็น่าสนใจเช่นกัน คุณสามารถสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ผ่านการเยี่ยมชมเส้นทางโบราณและแหล่งโบราณคดี ที่สำคัญได้แก่ ป้อมปราการโบราณในบริเวณใกล้เคียงซึ่งสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต การเดินชมวีหาดริมน้ำ หรือเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่มีรสชาติเข้มข้น โดยเฉพาะปลาและผลผลิตจากแม่น้ำ ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ทางท่าเรือยังมีบริการทัวร์กีฬาทางน้ำที่ตื่นเต้นให้เลือกหลายรูปแบบ ท่าเรือ Iron Gates ไม่เพียงแต่จะเป็นจุดจอดของการเดินเรือ แต่ยังเป็นบันไดสู่การค้นพบความงามและวัฒนธรรมอันหลากหลายของโรมาเนีย อย่าพลาดโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์อันล้ำค่าในระหว่างการเดินทางของคุณ!

เบลเกรด เมืองหลวงของเซอร์เบีย ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบระหว่างแม่น้ำดานูบและซาว่า เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญมากทางการค้าและการท่องเที่ยว การเยือนเบลเกรดเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของเมืองนี้ เมื่อแวะมาที่ท่าเรือในเบลเกรด ผู้โดยสารจะได้รับการต้อนรับด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำและเมืองเก่า ซึ่งมีที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดอย่างปราสาทเบลเกรด (Belgrade Fortress) ที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ เห็นเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญและจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถเดินเล่นในเขตที่มีชีวิตชีวาอย่างสตรีทสกาดาร์ลิยา (Skadarlija) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่เสิร์ฟอาหารเซอร์เบียแท้ ๆ เบลเกรดยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของงานเทศกาลดนตรีและศิลปะที่จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มาที่นี่เพื่อสัมผัสกับมนต์เสน่ห์และความบันเทิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดในเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้ และเปิดประตูสู่การผจญภัยสุดหรูที่ยากจะลืมเลือน!

ท่าเรือวูโควาร์ (Vukovar) ตั้งอยู่ในใจกลางของโครเอเชีย เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของประเทศนี้ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำดานูบ (Danube) ที่ไหลผ่านเมืองทำให้บรรยากาศรอบนอกนี้ชวนฝันและโรแมนติกอย่างยิ่ง วูโควาร์ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งการฟื้นฟู หลังจากประสบกับสงครามในอดีต เมืองนี้กลับมาฟื้นฟูและกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ปราสาทวูโควาร์ที่ได้รับการบูรณะใหม่ และพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวช่วงสงครามอันน่าหดหู่ของพื้นที่ นอกจากนั้น วูโควาร์ยังเป็นประตูสู่เส้นทางการสำรวจท่องเที่ยวในภูมิภาคที่ใหญ่ขึ้น คุณสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมเมืองดวงดาว (Đakovo) ที่มีโบสถ์สวยงามและอาคารประวัติศาสตร์ เครื่องดื่มท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ เช่น ไวน์จากไร่องุ่นบริเวณนี้ จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณให้สมบูรณ์แบบ มาร่วมค้นหาความงดงามและเสน่ห์ของวูโควาร์ มาท่องเที่ยวในสวรรค์ของโครเอเชีย ที่รอคอยให้คุณได้สัมผัสความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร!

บูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ หากคุณแวะมาเยือน ท่าเรือแห่งนี้จะมอบประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน ด้วยความเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก บูดาเปสต์สร้างความประทับใจด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างสะพานเชน (Chain Bridge) ซึ่งเชื่อมระหว่างเขตบูดาและเขตเปสต์ รวมถึงอาคารรัฐสภาที่มีการออกแบบที่โดดเด่นและโบสถ์แมทธิอัส (Matthias Church) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ยังมีพระราชวังที่งดงามอยู่ในเขตปราสาท ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของเมือง อย่าลืมสัมผัสวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนฮังการี โดยเฉพาะที่คาเฟ่ดั้งเดิมที่มีอยู่ทั่วเมือง ร่วมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่างซุปโกแลนด์ (Goulash Soup) ซึ่งเป็นอาหารกลางวันที่ได้รับความนิยมอย่างสูง การเดินทางมายังบูดาเปสต์ไม่เพียงแต่จะได้เยี่ยมชมท่าเรือที่งดงาม แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกก้าวย่างของคุณในเมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน

บูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ หากคุณแวะมาเยือน ท่าเรือแห่งนี้จะมอบประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน ด้วยความเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก บูดาเปสต์สร้างความประทับใจด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างสะพานเชน (Chain Bridge) ซึ่งเชื่อมระหว่างเขตบูดาและเขตเปสต์ รวมถึงอาคารรัฐสภาที่มีการออกแบบที่โดดเด่นและโบสถ์แมทธิอัส (Matthias Church) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ยังมีพระราชวังที่งดงามอยู่ในเขตปราสาท ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของเมือง อย่าลืมสัมผัสวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนฮังการี โดยเฉพาะที่คาเฟ่ดั้งเดิมที่มีอยู่ทั่วเมือง ร่วมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่างซุปโกแลนด์ (Goulash Soup) ซึ่งเป็นอาหารกลางวันที่ได้รับความนิยมอย่างสูง การเดินทางมายังบูดาเปสต์ไม่เพียงแต่จะได้เยี่ยมชมท่าเรือที่งดงาม แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกก้าวย่างของคุณในเมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน

บูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ หากคุณแวะมาเยือน ท่าเรือแห่งนี้จะมอบประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน ด้วยความเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก บูดาเปสต์สร้างความประทับใจด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างสะพานเชน (Chain Bridge) ซึ่งเชื่อมระหว่างเขตบูดาและเขตเปสต์ รวมถึงอาคารรัฐสภาที่มีการออกแบบที่โดดเด่นและโบสถ์แมทธิอัส (Matthias Church) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ยังมีพระราชวังที่งดงามอยู่ในเขตปราสาท ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของเมือง อย่าลืมสัมผัสวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนฮังการี โดยเฉพาะที่คาเฟ่ดั้งเดิมที่มีอยู่ทั่วเมือง ร่วมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่างซุปโกแลนด์ (Goulash Soup) ซึ่งเป็นอาหารกลางวันที่ได้รับความนิยมอย่างสูง การเดินทางมายังบูดาเปสต์ไม่เพียงแต่จะได้เยี่ยมชมท่าเรือที่งดงาม แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกก้าวย่างของคุณในเมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน

เวียนนา เมืองหลวงที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยมรดทางดนตรีและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ซึ่งถือเป็นเมืองที่พูดภาษาเยอรมันมากที่สุดในโลกนอกเบอร์ลิน โดยในปี 2001 เวียนนาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก การเดินทางมายังเวียนนา คือการได้สัมผัสสถาปัตยกรรมที่งดงาม ซึ่งมีปราสาทและวังมากมาย รวมถึงมหาวิหารเซนต์สตีเฟนอันมีชื่อเสียง และพระราชวังเชินบรุนน์ นอกจากจะมีงานแสดงดนตรีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่วิธีการเล่นร็อคถึงโอเปร่าที่เวียนนา สเตท โอเปร่า ผู้ที่รักศิลปะไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะประวัติศาสตร์ (KHM) ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะทั้งสมัยใหม่และดั้งเดิม ณ สถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวเมืองจากทาวเวอร์ดานูบและชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในร้านกาแฟและภัตตาคารที่เสิร์ฟอาหารทั้งแบบดั้งเดิมและสากล พร้อมกับไวน์ท้องถิ่นอันยอดเยี่ยมที่จะทำให้การเดินทางในเวียนนาเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่รู้ลืม

เวียนนา เมืองหลวงที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยมรดทางดนตรีและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ซึ่งถือเป็นเมืองที่พูดภาษาเยอรมันมากที่สุดในโลกนอกเบอร์ลิน โดยในปี 2001 เวียนนาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก การเดินทางมายังเวียนนา คือการได้สัมผัสสถาปัตยกรรมที่งดงาม ซึ่งมีปราสาทและวังมากมาย รวมถึงมหาวิหารเซนต์สตีเฟนอันมีชื่อเสียง และพระราชวังเชินบรุนน์ นอกจากจะมีงานแสดงดนตรีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่วิธีการเล่นร็อคถึงโอเปร่าที่เวียนนา สเตท โอเปร่า ผู้ที่รักศิลปะไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะประวัติศาสตร์ (KHM) ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะทั้งสมัยใหม่และดั้งเดิม ณ สถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวเมืองจากทาวเวอร์ดานูบและชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในร้านกาแฟและภัตตาคารที่เสิร์ฟอาหารทั้งแบบดั้งเดิมและสากล พร้อมกับไวน์ท้องถิ่นอันยอดเยี่ยมที่จะทำให้การเดินทางในเวียนนาเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่รู้ลืม

แม้ว่าออสเตรียจะไม่ใช่ประเทศที่มีทะเล แต่ท่าเรือไวเซ่นเคียร์เคน (Weissenkirchen) ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจความงดงามของแม่น้ำดานูบ (Danube River) ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาควัฐนอร์ด มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่งดงามและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เฉพาะตัว เมื่อเรือสำราญจอดที่ไวเซ่นเคียร์เคน คุณจะได้สัมผัสกับความงามของบ้านเรือนแบบดั้งเดิมที่ตั้งอยู่เรียงรายไปตามแม่น้ำ โดนเฉพาะสถาปัตยกรรมแบบบารอคและกลางยุคที่ทำให้ผู้มาเยือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต รื่นรมย์ไปกับการเดินเล่นในหมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านกาแฟที่บริการของว่างชั้นเลิศ สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย ท่านสามารถสำรวจเส้นทางการเดินป่าสู่เนินเขาและไร่องุ่น ที่นี่มีไวน์ขาว ที่มีชื่อเสียงระดับโลกซึ่งสามารถลองชิมและซื้อกลับบ้านเป็นของฝากได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือดำเนินไปตามแม่น้ำดานูบเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆ ท่าเรือ ไวเซ่นเคียร์เคน รอคอยให้คุณได้มาเยือนและสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในระหว่างการเดินทางอันแสนพิเศษของคุณ!

เมืองพาสเซา ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนีติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย ได้แก่ ดานูบ อินน์ และอิลซ์ มาบรรจบกัน ซึ่งมักเรียกกันว่า "เมืองสามแม่น้ำ" แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในพาสเซาคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และพิพิธภัณฑ์แก้ว ที่นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ย่านเมืองเก่าของพาสเซา เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น ปราสาทเฟสเต้ โอเบอร์เฮาส์ และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ที่มีความสวยงามตระการตา สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกสำหรับการเดินสำรวจริมแม่น้ำและซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ พาสเซายังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา โดยมีการแสดงละครและคาบาเรต์ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสความสนุกสนานที่โรงละครเก่าของเจ้าชายบิชอป รวมถึงเมนูอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารบาวาเรียและออสเตรียที่อบอุ่นเต็มไปด้วยรสชาติที่สืบทอดจากวัฒนธรรมดั้งเดิม อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองอันสวยงามแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดหมายที่สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ของศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัว!

เรเกนสบูร์ก เป็นเมืองเก่าแก่อยู่ในบาวาเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำดานูบ ที่ซึ่งไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเรเกนและนาอ์บ เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสะพานหินสมัยศตวรรษที่ 12 ที่มี 16 โค้ง ซึ่งข้ามแม่น้ำดานูบเข้าสู่เมืองเก่า ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในเยอรมนี สถาปัตยกรรมที่เด่นของเรเกนสบูร์กคือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สไตล์โกธิก ซึ่งมีคู่ยอดแหลมสูงชะลูดที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความงดงาม สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ประตูโรมันโบราณจากศตวรรษที่ 2 และพระราชวังทูนและทักซิสสมัยศตวรรษที่ 18 จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาช้านาน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอุทยานและสวนสาธารณะที่ล้อมรอบ รวมถึงเส้นทางเดินและจักรยานริมน้ำที่มอบความสงบและความสุขให้แก่การเดินทางในเมืองโบราณแห่งนี้ ขอบอกเลยว่าเรเกนสบูร์ก คือจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเยอรมนีอย่างแท้จริง

นูเร็มเบิร์ก คือ เมืองในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือของบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของบาวาเรีย เมืองนี้มีเอกลักษณ์ด้วยอาคารหลังคาแดงและสถาปัตยกรรมยุคกลางที่งดงาม ปราสาทจักรพรรดิที่ตั้งอยู่บริเวณเหนือเมืองเคยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของจักรวรรดิโรมัน สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เยอรมันนิชเนชันแนลมิวเซียม (Germanisches Nationalmuseum) คือ แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ มูลนิธินี้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ใช้ภาษาเยอรมัน โดยมีนิทรรศการที่หลากหลายตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงปัจจุบัน การเดินเที่ยวชมเมืองแบบเดินเท้าจะทำให้คุณได้พบกับน้ำพุ สระว่ายน้ำ โบสถ์ และสมบัติศิลปะที่น่าสนใจ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สีสันและวัฒนธรรมอันหลากหลายของเมืองนี้โดยละเอียด นอกจากนี้ยังมีตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน นูเร็มเบิร์ก คริสต์กิ้นเดิ้ลสมัต (Nuremberg Christkindlesmarkt) ที่จะทำให้คุณสามารถหาซื้อของตกแต่งมือทำและสัมผัสรสชาติของขนมขิง ไวน์อุ่น และไส้กรอกย่างจากร้านที่ตั้งเรียงรายกว่า 180 ร้าน เตรียมพร้อมที่จะให้ความรู้สึกอัศจรรย์ในการเดินทางสู่เมืองที่มีเสน่ห์นี้ ที่จะรายล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่!

บัมแบร์ก (Bamberg) คือเมืองอันงดงามในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ประกอบด้วยเจ็ดเขา และที่จุดบรรจบของแม่น้ำเรกนิทซ์และไมน์ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ที่นี่มักดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างศาลากลาง (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเรกนิทซ์ โดยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามให้ได้ชม อีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจคือบัมแบร์กคาประตู (Bamberg Cathedral) ที่มี 4 หอคอยและการแกะสลักหินอันละเอียดอ่อน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของเมือง สามารถแวะไปที่เขตตลาดสวน โดยมีบ้านประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นที่ปลูกและส่งออกผลผลิต เช่น หัวหอม และลูกไลเซอรีซ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง บัมแบร์กยังมีร้านค้าเก๋ๆ เจ้าของท้องถิ่นตั้งอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ และเมื่อสิ้นสุดวัน อย่าลืมแวะไปสัมผัสเบียร์เยอรมันรสเลิศที่ผับเบียร์ของเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีโรงเบียร์ดั้งเดิมถึง 9 แห่ง ค้นพบมนต์เสน่ห์ของบัมแบร์กและให้ความใฝ่ฝันในการเดินทางมาสัมผัสเมืองอันมีชื่อเสียงนี้!

วือซบวร์ก เมืองอันงดงามในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ สลับซับซ้อนด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและไวน์ฟรังโกเนียนที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังเรสซิเดนซ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดดเด่นด้วยบันไดอันวิจิตร ภาพเขียนประดับขนาดใหญ่ และห้องโถงอันโอ่อ่า เมื่อเดินทางมายังวือซบวร์ก ต้องไม่พลาดปราสาทเฟสตุง มาริอ์เบิร์ก ซึ่งตั้งตระหง่านโดดเด่น ให้มุมมองที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ นอกจากนี้สะพานเก่าแก่ Alt Mainbrücke ยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย สำหรับคนรักไวน์ วือซบวร์กมีโรงกลั่นไวน์มากมายพร้อมทั้งนำเสนอการทัวร์และชิมไวน์ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำไวน์ในบรรยากาศสบายๆ ที่ยังคงรักษาภูมิทัศน์ดั้งเดิมของอาหารบาวาเรียน เช่น ซุปไวน์ กีรัปฟ์เตอร์ (ชีสทา) และเซาเออร์บราตัน (เนื้อวัวตุ๋นในไวน์) ที่ทานคู่กับไวน์ท้องถิ่น วือซบวร์กเป็นจุดหมายปลายทางที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามของเยอรมนีอย่างแท้จริง

เวิร์ธไฮม (Wertheim) เป็นเมืองท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมายน์ในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามทางธรรมชาติ พร้อมด้วยประวัติศาสตร์อันหลากหลายที่รอให้คุณได้ค้นพบ จากจุดนี้ คุณสามารถขึ้นเรือสำราญและสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราในระหว่างการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวอันน่าหลงใหล เมืองเวิร์ธไฮมเป็นที่รู้จักด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่ลงตัว โดยเฉพาะปราสาทเวิร์ธไฮมที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และตอนนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ การเดินเล่นในย่านเมืองเก่าที่มีบ้านเรือนยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยการชิมไวน์ท้องถิ่นซึ่งมีชื่อเสียงมากในแถบนี้ หรือเข้าร่วมงานเทศกาลประจำปีที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง เวิร์ธไฮมจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่แตกต่างและล้ำค่าในการเดินทางไปบนเรือสำราญ พร้อมกับประสบการณ์วัฒนธรรมที่เข้มข้นในเยอรมนี

ฟรังค์เฟิร์ต เมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ในประเทศเยอรมนี ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ ยังมีท่าเรือที่เป็นจุดเริ่มต้นสู่การสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย การแวะพักที่ท่าเรือฟรังค์เฟิร์ตจะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ในฟรังค์เฟิร์ต คุณสามารถเที่ยวชมเสาสูงเสียดฟ้าอย่าง "แฟรงเฟิร์ต อัลเทอ เอนกาล" หรือเดินเล่นที่โบราณสถานอย่าง "โรเมอร์" ที่มีประวัติยาวนานกว่า 600 ปี นอกจากนี้ สวนพฤกษศาสตร์ "Palmengarten" คือสถานที่ที่เติมเต็มความสดชื่นและเติมเต็มช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในธรรมชาติ ฟรังค์เฟิร์ตยังเป็นแหล่งรวมอาหารอันมีชื่อเสียง โดยเฉพาะ "แฟรงค์เฟิร์ต วูร์สต์" และขนมปังเบียร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เพียงแต่ได้อิ่มท้อง ยังได้สัมผัสกับรสชาติและวัฒนธรรมการกินที่มีเสน่ห์ การมาเยือนฟรังค์เฟิร์ตไม่เพียงแค่เป็นการแวะจอดยังท่าเรือ แต่ยังเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่จะทำให้คุณได้พบกับประสบการณ์อันล้ำค่าในเยอรมนี ที่จะหลอมรวมคุณกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ ตื่นตาตื่นใจได้แล้ววันนี้!

เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

โคโลญ (Cologne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศนี้ มีอายุกว่า 2,000 ปี และถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค เมืองโคโลญเป็นที่รู้จักกันดีจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดคือมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ที่ตั้งตระหง่านคู่ระหว่างตึกเก่าในย่านเก่า (Old Town) เมื่อมาเยือนย่านเก่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมศาลากลางเก่า (Old Town Hall) และโบสถ์โรมันเซนต์มาร์ติน (Great St Martin) นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โมเสคดีโอโนซัส (Roman Dionysus mosaic) และบ้านโอเวอร์สโทลเซน (Overstolzenhaus) ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การค้นหาด้วย อีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นในโคโลญคือสะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ซึ่งคู่รักทั้งจากในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาทำพิธีผูกสัมพันธ์โดยการติดล็อกที่ราวสะพาน แล้วทิ้งกุญแจลงสู่แม่น้ำไรน์ เพื่อหวังความรักที่ยืนยาวอย่างมั่นคง การแสดงคาบาเร่ต์และวัฒนธรรม LGBTQ+ ที่เปิดเผยของเมืองนี้ ยังเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับประสบการณ์การเยี่ยมชมโคโลญอีกด้วย มาประสบการณ์ความงดงามแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความรักในโคโลญแล้วคุณจะหลงใหลไม่รู้ลืม!

ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้




สวีตหรูหราที่มีวิวแม่น้ำ ขนาด 214 ตารางฟุต (20 ตารางเมตร) มาพร้อมกับระเบียงแบบฝรั่งเศสเพื่อให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงาม นอกจากนี้ สวีตนี้ยังมีเตียง Savoir® จากอังกฤษที่ทำด้วยมือ, ตู้เสื้อผ้าที่ฝังในผนัง, ไดร์เป่าผม, ตู้นิรภัย, ระบบควบคุมอุณหภูมิ, โทรทัศน์จอแบนพร้อมศูนย์ข้อมูลและการเชื่อมต่อดาวเทียม ห้องน้ำหินอ่อนมีผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายจาก Asprey, ผ้าขนหนูนุ่มๆ, เครื่องทำความร้อนผ้าขนหนู, กระจกขยายที่มีแสงหลัง, และกระจกที่มีความร้อน พร้อมด้วยชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะที่ให้ความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษมากมาย เช่น บริการบัตเลอร์ในห้อง, การช่วยแพ็คและแกะกระเป๋า, อาหารเช้าในห้อง, ชุดผลไม้และคุกกี้ในทุกวัน พร้อมขนมอร่อยยามเย็น, เครื่องชงกาแฟ Nespresso และชาคุณภาพสูง, มินิบาร์ที่จัดเต็ม, ไวน์ตามคำร้องขอ, การขัดรองเท้า, และบริการซักรีดฟรี เพื่อให้พักผ่อนอย่างหรูหราและสะดวกสบายที่สุดในสวีตแห่งนี้

ห้องโดยสารระเบียงฝรั่งเศส ขนาด 151 ตารางฟุต (14 ตารางเมตร) ตกแต่งอย่างหรูหรา สามารถเพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำจากระเบียงแบบฝรั่งเศส ที่มาพร้อมกับเตียงที่ทำด้วยมือจาก Savoir® ประเทศอังกฤษ ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน ไดร์เป่าผม ตู้นิรภัย ระบบควบคุมอุณหภูมิส่วนบุคคล ทีวีจอแบนพร้อมศูนย์ข้อมูลและดาวเทียม ห้องน้ำหินอ่อนจัดเตรียมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก Asprey ผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม กระจกที่ทำให้ร้อนและกระจกขยายที่มีไฟส่องสว่าง ชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าสลิปเปอร์ที่มีความสบาย เพื่อให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างแท้จริงในทุกๆ ที่นั่งในห้องนี้

ห้องสวีทระดับพรีเมียมนี้มีการตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมวิวแม่น้ำขนาด 151 ตารางฟุต (14 ตารางเมตร) มาพร้อมกับเตียง Savoir® แบรนด์อังกฤษที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือ มีตู้เสื้อผ้าบูรณาการ, ไดร์เป่าผม, ตู้เซฟ, เครื่องปรับอากาศที่ปรับได้เอง และทีวีจอแบนที่มาพร้อมกับศูนย์ข้อมูลและดาวเทียม ห้องน้ำหินอ่อนตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย Asprey, ผ้าขนหนูนุ่มฟูน, กระจกทำความร้อน, กระจกขยายที่มีแสงไฟ, และเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะที่ให้ความสบาย ช่วยให้คุณมีความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนบนเรือสำราญนี้

ห้องโดยสารแบบคลาสสิกนี้มีการตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมวิวแม่น้ำขนาด 151 ตารางฟุต (ประมาณ 14 ตารางเมตร) มาพร้อมกับเตียง Savoir® ที่ทำด้วยมือจากอังกฤษ การจัดเก็บสิ่งของสะดวกสบายด้วยตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน รวมถึงอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม ตู้เซฟ เทอร์โมสแตทที่ปรับอุณหภูมิได้ โทรทัศน์แผ่นดิสก์ LED พร้อมศูนย์ข้อมูลและดาวเทียม ห้องน้ำหินอ่อนอันหรูหราเสริมความสะดวกด้วยผลิตภัณฑ์อาบน้ำ Asprey ผ้าขนหนูนุ่มสบาย กระจกอุ่น ผิวกระจกส่องเพิ่มเติม ระบบไฟ LED ให้แสงสว่าง รวมถึงเสื้อคลุมและรองเท้าแตะที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เรียกได้ว่าทุกการเดินทางของคุณจะเต็มไปด้วยความสะดวกสบายจากการใช้ชีวิตระดับสูงในห้องโดยสารนี้ โดยมีหน้าต่างที่อยู่ระดับน้ำเพื่อให้คุณสามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด