
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เรือสำราญ Rotterdam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ฟอร์ตลอเดอร์เดล เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริด้า คือจุดหมายปลายทางที่แสนงดงามและมีชีวิตชีวา เหมาะแก่การสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ริมชายหาดที่สวยงาม คุณจะได้พบกับลาดยาโอลาส (Las Olas Boulevard) ที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตเมือง มีร้านค้า บูติก และคาเฟ่ที่ทันสมัย ตั้งเรียงรายตลอดเส้นทาง 2 ไมล์ อันเป็นความพิเศษที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากชีวิตกลางคืนและวัฒนธรรมที่จัดเต็ม ฟอร์ตลอเดอร์เดลยังมีหาดทรายที่สวยสดงดงาม โซนที่พักหรูหราพร้อมวิวทะเลที่น่าประทับใจ ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่โรงแรมเก่าแก่ที่เคยเป็นเสน่ห์ในอดีต เมืองนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางสำหรับทั้งการเดินเรือและกีฬาทางน้ำ โดยมีกลุ่มยอชต์ที่ตั้งเรียงตามแนวชายฝั่ง ฟอร์ตลอเดอร์เดล จึงไม่ใช่แค่จุดหมายของการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่ที่กระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้นแก่ผู้ที่รักในทะเลและชีวิตค่ำคืนที่มีสีสัน. หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่หลากหลายและมีความน่าหลงใหล ฟอร์ตลอเดอร์เดลจะทำให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะอยู่ในใจตลอดไป

ท่าเรือคิงส์วอร์ฟในเบอร์มิวดา ถือเป็นประตูสู่สวรรค์ของคนรักทะเลและการผจญภัยอย่างแท้จริง เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามและเสน่ห์ของเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เกาะเบอร์มิวดา ซึ่งตั้งรกรากโดยบริษัทเวอร์จิเนียในปี ค.ศ. 1609 ถือเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมอังกฤษและความงามทางธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ท่าเรือคิงส์วอร์ฟจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเบอร์มิวดา แต่ยังนำพาคุณไปยังแหล่งดำน้ำตื้นที่มีปะการังสวยงามซึ่งอุดมไปด้วยปลาเขตร้อนหลากสี ทำให้นักดำน้ำได้สัมผัสความมหัศจรรย์ใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีซากเรืออับปางที่สร้างเรื่องราวและเป็นจุดสนใจที่ไม่ควรพลาด เบอร์มิวดายังเป็นที่อยู่อาศัยของคนดังหลายคน เช่น ไมเคิล ดักลาส และแคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ ร่วมสร้างบรรยากาศที่หรูหราและเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตแบบเขตร้อน เมื่อคุณมาถึงเบอร์มิวดาแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงความงดงามที่ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมและธรรมชาติ อย่ารอช้าที่จะค้นพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในแดนสวรรค์แห่งนี้!

ฟัลมุธ (Falmouth) เป็นเมืองท่าที่มีเสน่ห์ในอังกฤษ ที่เต็มไปด้วยความคึกคักจากการประมง การแล่นเรือยอชท์ และกิจกรรมทางการค้า ซึ่งล้วนเสริมสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจเบื้องหลังภูมิประเทศที่สวยงามของเมือง ในศตวรรษที่ 18 ฟัลมุธเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในการขนส่งจดหมายไปยังอเมริกาเหนือ และคุณสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ได้จากบ้านเรือนที่ปกคลุมด้วยกระเบื้องหิน ซึ่งสร้างโดยกัปตันเรือพัสดุที่ร่ำรวยในหมู่บ้านฟลัชชิง (Flushing) ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอ่าว การเดินทางระหว่างสองเมืองนี้สามารถทำได้โดยบริการเฟอร์รีที่สะดวกสบาย ที่ท่าจอดเรือ Custom House Quay คุณจะพบกับ King’s Pipe ซึ่งเป็นเตาเผาที่ใช้สำหรับเผาสินค้าผิดกฎหมายที่ถูกยึดไว้ นอกจากประวัติศาสตร์แล้ว ฟัลมุธยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจชายฝั่งที่สวยงาม คุณสามารถเดินเล่นไปตามชายหาด ชิมอาหารทะเลสดใหม่ หรือสำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ทุกมุมของฟัลมุธล้วนสื่อถึงความงดงามและความมีชีวิตชีวาของการเดินทางที่ไม่ควรพลาดในช่วงชีวิตของคุณ

ท่าเรือพอร์ทสมัธ (Portsmouth) ตั้งอยู่ในอังกฤษ เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ของประเทศ และมีเสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าหลงใหล เนื่องจากส่วนใหญ่ของเมืองตั้งอยู่บนเกาะพอร์ตซี ซึ่งเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานในรูปแบบถนนและรถไฟ พร้อมทั้งมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สามารถติดตามได้ตั้งแต่สมัยโรมัน พอร์ทสมัธมีชื่อเสียงในฐานะเป็นฐานทัพเรือที่สำคัญ และเป็นที่อยู่ของอู่ต่อเรือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก การเยือนที่นี่จะพาท่านไปสัมผัสกับเรือที่มีชื่อเสียงอย่าง HMS Victory, HMS Warrior และ Mary Rose ที่ถูกยกขึ้นจากท้องทะเลในปี 1982 นอกจากนี้ท่านยังสามารถชมสัญลักษณ์เมืองอย่าง Spinnaker Tower ที่สูงถึง 560 ฟุต ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักรนอกกรุงลอนดอน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวรรณกรรม พอร์ทสมัธยังเป็นบ้านเกิดของ Charles Dickens นักเขียนชื่อดัง และยังมีพิพิธภัณฑ์เมืองที่จัดแสดงเกี่ยวกับ Sir Arthur Conan Doyle ซึ่งยิ่งทำให้เมืองนี้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอรรถรสทางวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ท่าเรือพอร์ทสมัธจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้คุณมีประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง

ท่าเรือเลออาฟร์ (Le Havre) ตั้งอยู่ในนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ก่อตั้งโดยกษัตริย์ฟรานซิสที่ 1 ในปี 1517 ที่นี้เคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน กลไกการพัฒนาของเมืองเป็นไปตามแผนที่สร้างสรรค์โดยสถาปนิกชื่อดังชาวเบลเยียม ออกุสต์ แปร์เร ซึ่งได้ออกแบบให้เมืองมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะหลังจากที่เมืองต้องเผชิญกับการทำลายล้างในสงครามโลกครั้งที่สอง การฟื้นฟูเมืองเลออาฟร์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 2005 ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความงดงามและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ท่าเรือเก่าและโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่ลงตัว ร่วมเดินทางไปกับทัวร์หรูที่ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันเหลือเชื่อในเมืองเลออาฟร์แห่งนี้ ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น

ท่าเรือเซ็บรูเก (Zeebrugge) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเหนือของเบลเยียม เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญและคึกคักที่สุดในยุโรปในยุคปัจจุบัน โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1895 ความสำคัญของท่าเรือนี้ชัดเจนเมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ซึ่งพยายามถูกทำลายหลายครั้งในช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง แต่ยังคงยืนหยัดเป็นท่าเรือหลักในการประมงของเบลเยียม การเยี่ยมชมเซ็บรูเกจะเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง เมื่อคุณมีโอกาสได้เดินทางไปยังเมืองบรูจ (Bruges) ที่อยู่ใกล้เคียง เมืองนี้ได้รับการออกแบบให้เปล่งประกายด้วยสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปยังรีสอร์ทชายทะเลที่มีชายหาดทรายยาวได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้รถรางที่วิ่งตลอดแนวชายฝั่งเบลเยียม แต่ควรทราบว่าในเบลเยียมไม่อนุญาตให้นำอาหารลงฝั่ง จึงไม่ควรพลาดในการสัมผัสกับรสชาติท้องถิ่นอันหลากหลายที่มีให้เลือกในเมืองและรอบท่าเรือ ด้วยท่าเรือเซ็บรูเกที่พร้อมจะเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยใหม่ คุณจะได้รับแรงบันดาลใจให้สำรวจสมบัติทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของเบลเยียมในทุกก้าวที่เดินทาง

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้

ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์และเมืองที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ปลายฟยอร์ดออสโลที่งดงาม ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ที่เขียวชอุ่ม เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีพิพิธภัณฑ์กว่า 50 แห่ง ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีคำว่า “ศิลปะ” ที่พร้อมให้คุณค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นแกลเลอรีสุดหรู สวนประติมากรรมอันงดงาม หรือแม้แต่พระราชวังอันวิจิตร ออสโลยังมีอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ศตวรรษที่ 19 ที่สวยงาม ประกอบกับถนนกว้างขวาง ทําให้การสำรวจเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ประวัติศาสตร์ของออสโลยาวนานกว่า 1,000 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางการเดินเรือจากยุคไวกิ้งจนถึงการผจญภัยของธอร์ เฮเยอร์ดาห์ล ผู้ที่โด่งดังจากการเดินทางด้วยเรือคอนทิกิ ให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของออสโลผ่านทริปสุดพิเศษที่เรานำเสนอ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการเดินทางของคุณในเมืองที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะ ออสโลจะเปิดประตูให้คุณเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสวยงามและเรื่องราวที่น่าทึ่ง.
คริสเตียนซัน (Kristiansand) เมืองที่มีเสน่ห์ในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "Sommerbyen" หรือ "เมืองร้อนแห่งฤดูร้อน" สถานที่แห่งนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของนอร์เวย์ มีประชากรราว 78,000 คน ที่เดินทางเข้ามาที่นี่เพื่อสัมผัสกับชายหาดที่เปล่งประกายจากแสงแดดและท่าเรือที่งดงาม ในเดือนกรกฎาคมของทุกปี คริสเตียนซันยังก้าวสู่เวทีโลกด้วยเทศกาล Quart Festival ซึ่งนำเสนอดนตรีจากวงร็อคทั้งของท้องถิ่นและนานาชาติ สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มาเยือน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลตามตำนานที่ว่าในปี 1641 พระเจ้า Christian IV ได้ใช้ง่ามเดินของพระองค์ทำเครื่องหมายสี่มุมของเมือง และจากนั้นได้วางแผนถนนในรูปแบบตาราง ซึ่งจุดศูนย์กลางของเมืองที่เรียกว่า Kvadraturen ยังคงมีรูปแบบนี้แม้จะประสบกับเหตุไฟไหม้หลายครั้ง นอกจากนั้น ยังมี Posebyen ซึ่งเป็นชุมชนบ้านไม้ที่เชื่อมต่อกันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ และมีตลาดในวันเสาร์ในฤดูร้อนที่คึกคัก นอกจากนี้ ตลาดปลา Fisketorvet ที่ตั้งอยู่ใกล้กับมุมใต้ของตารางเมืองก็พร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทะเลสดใหม่ ตั้งแต่กุ้งหอยปูปลา ให้คุณเต็มอิ่มกับรสชาติท้องถิ่นที่คุณไม่ควรพลาด เติมเต็มความฝันในการเดินทางของคุณที่คริสเตียนซัน สัมผัสวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป!

สตาวังเงอร์ เมืองท่าเล็กแต่มีเสน่ห์ของนอร์เวย์ ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก เฟื่องฟูในศตวรรษที่ 19 ในฐานะท่าเรือประมง และห่างไกลจากความซบเซาในอุตสาหกรรมการประมง สตาวังเงอร์ได้เสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการเดินหน้าสู่อุตสาหกรรมการต่อเรือและน้ำมัน ส่งผลให้เมืองนี้มีบรรยากาศที่ทั้งทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สถานที่สำคัญในเมืองคือมหาวิหารสตาวังเงอร์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1125 ซึ่งเป็นมหาวิหารในยุคกลางแห่งเดียวในนอร์เวย์ที่ยังคงสภาพดั้งเดิม สิ่งที่น่าสนใจรอบๆ เมืองนี้คือฟยอร์ดลิเซฟยอร์ด มีทิวทัศน์อันงดงาม สาภาระรอบด้วยหน้าผาสูงชันและหินรูปทรงแปลกตา นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินทางไปยังฮาฟรส์ฟยอร์ดซึ่งเป็นสถานที่ที่กษัตริย์ฮารัลด์แห่งไวกิ้งเข้าต่อสู้อย่างสำคัญเพื่อเริ่มต้นการรวมชาติของนอร์เวย์ สำหรับผู้ที่มองหาความรู้เพิ่มเติม สามารถแวะชมพิพิธภัณฑ์น้ำมัน ซึ่งจะทำให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ในบริบทของเมืองและประเทศ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ลงตัวระหว่างวัฒนธรรมและธรรมชาติ สตาวังเงอร์คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ!

ท่าเรือ Skjolden ที่ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่เสาะแสวงหาความงามของธรรมชาติที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้ ในบรรยากาศของฟยอร์ดที่สวยงาม ท่ามกลางภูเขาที่สูงตระหง่านและหุบเขาน้ำแข็งแสนบริสุทธิ์ คุณจะได้พบกับเกาะ Skjoldungen ที่ยังไม่ถูกตั้งรกราก เป็นผืนดินที่ซ่อนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความงามของนอร์เวย์อย่างแท้จริง การเดินทางมายัง Skjolden ไม่เพียงให้คุณสัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงาม แต่ยังมีโอกาสมองเห็นสัตว์ป่าที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำเครา, วาฬออร์กาป่า หรือแม้กระทั่งนกท้องถิ่นอย่างนกคอแดงและนกกา โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ที่ความหลากหลายทางชีวภาพจะทำให้คุณต้องตะลึง นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือลงเล่นกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย เสน่ห์แห่งธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของพื้นที่นี้รอคุณมาสำรวจกันอยู่ เชิญคุณมาสัมผัสความสุขอันแสนวิเศษที่ Skjolden และปล่อยให้ใจคุณกว้างไกลไปกับการเดินทางที่นั่น!

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้


ห้องสวีทที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่างนี้มีความหรูหราที่มาพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องพักผ่อนที่มีไมโครเวฟ ตู้เย็น และบาร์ในตัว รวมทั้งหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวที่มีอ่างน้ำวน ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งคือเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่ใช้ที่นอน Euro-Top ชั้นหนานุ่มสบาย ภายในห้องน้ำมีอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีโซฟาที่นอนออกแบบมาให้รองรับแขกได้อีก 2 คน และห้องน้ำสำหรับแขก สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบเสียงส่วนตัว การเข้าใช้ Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกส่วนตัว และบริการต่างๆ ที่มอบให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยรวมแล้ว พื้นที่ประมาณ 1,290 ตารางฟุต รวมระเบียงส่วนตัวเป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันหยุดสุดหรูของคุณในห้องสวีท巔峰套房。

ห้องสวีทที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ มีหน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน พร้อมระเบียงส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าสองทาง อ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่และฝักบัว รวมถึงฝักบัวเพิ่มอีกหนึ่งตัว ห้องนี้มีเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดคิงไซส์—เตียงที่มีชื่อเสียง Mariner's Dream™ พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย รวมถึงโซฟาที่สามารถปรับเป็นเตียงไม้สำหรับคนหนึ่งคน ห้องมีขนาดประมาณ 465-502 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง ทำให้ ห้องสวีท "海神水療套房" นั้นเป็นที่พักที่เพรียบพร้อมและสะดวกสบายในทุกมุมมอง.

ห้องพักประเภท "海王星套房" เป็นห้องสวีทขนาดกว้างขวางที่ตกแต่งอย่างประณีต ด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่มองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ทำให้ห้องสว่างและโปร่งสบาย ห้องมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ พร้อมเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงคิงไซส์ ซึ่งคือเตียงรุ่นพิเศษ Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมที่นอนฟูกนุ่มเป็นพิเศษ ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แบบชาร์ลเล็ทพร้อมฝักบัวและอ่างล้างหน้ากระจกคู่ นอกจากนี้ยังมีการบริการพิเศษจาก Exclusive Neptune Lounge บริการคอนเซียร์จส่วนตัว และบริการฟรีต่าง ๆ ให้แก่แขกผู้เข้าพัก โดยขนาดพื้นที่ของห้องรวมถึงระเบียงอยู่ที่ประมาณ 465-502 ตารางฟุต

ห้องสวีทขนาดใหญ่และสะดวกสบายนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางพร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่จากพื้นจรดเพดานที่ให้ทิวทัศน์เหนือระเบียงส่วนตัว โดยมีเตียงสองเตียงขนาดต่ำที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา นั่นคือเตียง Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีเตียง Murphy สำหรับหนึ่งท่าน ห้องน้ำมีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าคู่ อ่างอาบน้ำจากุซซี่ขนาดเต็มและฝักบัว รวมถึงพื้นที่ฝักบัวเพิ่มเติมอีกหนึ่งตัว ห้องขนาดประมาณ 393-400 ตารางฟุต รวมระเบียงเรียบร้อยแล้ว ห้องสวีทนี้มอบความหรูหราและความสบายในการเข้าพักในแต่ละการเดินทางของคุณ

ห้องสวีทที่มีชื่อว่า "景致套房" นี้โดดเด่นด้วยระเบียงไม้ตั๊กแตนและหน้าต่างแบบเต็มความสูงที่ให้แสงสว่างสดใสเข้ามา ห้องพักที่กว้างขวางนี้มีพื้นที่ประมาณ 260-356 ตารางฟุต รวมถึงระเบียง พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่ให้ความสะดวกสบาย โดยภายในห้องมีเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์—เตียงที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิเศษ "Mariner's Dream™" ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัว มินิบาร์ และตู้เย็น เพื่อให้คุณได้สัมผัสความหรูหราและสะดวกสบายตลอดการพักผ่อนในห้องนี้

ห้องสวีทหลังคาใช้ชีวิตที่แสนสบายนี้มีระเบียงที่ตกแต่งด้วยไม้ทีค พร้อมหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและมุมพักผ่อนที่เติมเต็มด้วยแสงสว่าง ห้องนี้มีเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์ขนาดใหญ่พร้อมที่นอนฟูก Euro-Top ที่นุ่มสบายของเรา นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำ บาร์เล็ก และตู้เย็น ขนาดประมาณ 260-356 ตารางฟุต รวมระเบียง ทำให้คุณสามารถสัมผัสวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในห้องชุด "หลังด้านหลัง" อย่างเต็มอิ่ม

ห้องสวีทประเภท "สปาเทอเรซ" มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วยหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดความสูงถึงพื้นและระเบียงส่วนตัวที่เปิดให้คุณสัมผัสวิวทิวทัศน์ได้อย่างใกล้ชิด ห้องพักนี้มีขนาดประมาณ 228-405 ตารางฟุต รวมทั้งระเบียง ซึ่งสามารถจัดเตียงสองเตียงให้กลายเป็นเตียงควีนไซส์สุดหรู พร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย สัญลักษณ์ของการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ห้องยังมีฝักบัวนวดระดับพรีเมี่ยมและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี เพื่อให้การเข้าพักเป็นไปอย่างสะดวกสบายและน่าประทับใจในทุกช่วงเวลา.

ห้องพักประเภท "หลังคาและระเบียง" มีแสงสว่างจากหน้าต่างตั้งแต่พื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ห้องนี้มีเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงมาตรฐาน Mariner’s Dream™ ของเรา ที่มีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม ขนาดห้องประมาณ 228-405 ตารางฟุต รวมถึงระเบียง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างหรูหราในบรรยากาศที่สบายใจและเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง

ห้องพักแบบ陽台นี้เต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน ซึ่งมองเห็นระเบียงส่วนตัว ห้องพักนี้มาพร้อมกับมุมพักผ่อน, เตียงสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์—เตียงที่มีเอกลักษณ์ของเราในชื่อ Mariner's Dream™ พร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และอ่างอาบน้ำที่มีหัวฝักบัวนวดคุณภาพสูง ห้องพักมีขนาดประมาณ 228-405 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย ทำให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริงขณะล่องเรือ.

ห้องพักประเภท "ระเบียงที่ถูกปิดบัง" ให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่มองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ห้องพักนี้มีพื้นที่นั่งเล่น สองเตียงขนาดเล็กที่สามารถจัดเรียงเป็นหนึ่งเตียงขนาดควีนไซส์ คือเตียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเราที่ชื่อว่า Mariner's Dream™ ซึ่งมาพร้อมกับที่นอนแบบ Euro-Top คุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำและหัวฝักบัวนวดสุดหรูให้ความสะดวกสบายในการพักผ่อน ขนาดห้องพักอยู่ที่ประมาณ 228-405 ตารางฟุต รวมระเบียง แม้จะมีวิวที่ถูกปิดบังบางส่วน แต่ก็ไม่ลดทอนความเรียบหรูและความสะดวกสบายของห้องพักนี้เลย

ห้องพักหมายเลข "ห้องพักครอบครัวแบบมีวิวทะเล" รองรับผู้เข้าพักได้ถึงห้าท่าน โดยภายในห้องมีเตียงสองชั้นที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์หนึ่งเตียง อีกทั้งยังมีเตียงชั้นบนและโซฟาเบดสำหรับสองคน ห้องน้ำมีจำนวนสองห้อง โดยห้องหนึ่งมีอ่างอาบน้ำ ฝักบัว อ่างล้างหน้า และห้องสุขา ขณะที่อีกห้องมีฝักบัวและอ่างล้างหน้า ขนาดพื้นที่อยู่ระหว่าง 222 ถึง 231 ตารางฟุต ห้องพักนี้นำเสนอการตกแต่งที่หรูหราและความสะดวกสบายในทุกๆ มิติ เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเป็นไปอย่างรื่นรมย์และอบอุ่นเป็นพิเศษในทุกๆ ชั้นของเรือสำราญ

ห้องพักประเภท "海景水療客艙" เป็นห้องพักที่มอบวิวทะเลที่งดงามและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการผ่อนคลายที่ยอดเยี่ยม ห้องนี้มีฟูกพิเศษจาก Mariner's Dream™ และสามารถปรับเปลี่ยนเตียงคู่เป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ตามด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เพื่อการดูแลสุขภาพอย่างเสื่อโยคะ และสถานีเชื่อมต่อ iPod® พร้อมการบริการบำบัดสปาพิเศษจาก Greenhouse Spa and Salon ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ขนาดห้องประมาณ 175-282 ตารางฟุต ทำให้ห้องนี้เป็นที่พักที่พิเศษและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหราและการผ่อนคลายอย่างแท้จริงในระหว่างการเดินทางทางเรือของคุณ

ห้องพักประเภท "海景艙" มีพื้นที่กว้างขวางตั้งแต่ประมาณ 175 ถึง 282 ตารางฟุต เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างแท้จริง ห้องพักนี้มีเตียงคู่ที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์ได้ โดยใช้เตียง "Signature Mariner's Dream™" พร้อมด้วยที่นอนยูโรท็อปสุดสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ที่สำคัญคือคุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวทะเลที่สวยงามจากห้องพักทุกครั้งที่มองออกไป

ห้องพักประเภท "ห้องพักชมวิวทะเลสำหรับผู้เดินทางคนเดียว" นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เดินทางเพียงลำพัง โดยมีเตียงขนาดควีนไซส์ที่ออกแบบพิเศษด้วยฟูกยุโรปที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวที่มาพร้อมกับหัวนวดพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยหลากหลายห้อง โดยห้องพักมีขนาดประมาณ 127-172 ตารางฟุต มอบความสะดวกสบายในขณะพักผ่อนระหว่างการเดินทางที่น่าจดจำ อิ่มเอมกับการเข้าพักที่เต็มไปด้วยความหรูหราและผ่อนคลายที่ห้องพักของเรา

ห้องพักประเภทน้ำมันพิเศษนี้มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับ โดยมีอุปกรณ์สปาเช่น เสื่อโยคะและสถานีเชื่อมต่อ iPod® พร้อมทั้งการเข้าถึงบริการรักษาสปาจาก Greenhouse Spa & Salon ห้องมีเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับฟูกนุ่มระดับพรีเมียม ขนาดของห้องอยู่ที่ประมาณ 143-225 ตารางฟุต ทำให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่เงียบสงบและหรูหรา เมื่อเลือกพักในห้องน้ำมันพิเศษนี้ คุณจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความผ่อนคลายที่ไม่เหมือนใคร

ห้องพักประเภท "ภายใน" มีพื้นที่ประมาณ 141 ถึง 225 ตารางฟุต มาพร้อมกับเตียงคู่ขนาดเล็กที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ พร้อมเตียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา "Mariner's Dream™" ซึ่งมีฟูกนุ่มแบบ Euro-Top และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักที่สะดวกสบายเหล่านี้ยังมีหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียมที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การพักผ่อนให้คุณอย่างเต็มที่ เพลิดเพลินกับการเดินทางอันหรูหราบนเรือสำราญของเราในห้องพักที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกและผ่อนคลายอย่างแท้จริง