
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส แฟรม
HX Expeditions
การล่องเรือแอนตาร์กติกา - การสำรวจแอนตาร์กติกาอย่างลึกซึ้ง, หมู่เกาะฟอล์คแลนด์ & เซาท์จอร์เจีย

เดินทางสู่สุดยอดประสบการณ์แห่งทะเลใต้ที่ท่าเรือซานติอาโก ประเทศชิลี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจอันน่าตื่นเต้นในอเมริกาใต้ ซานติอาโก เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวา คือลมหายใจใหม่ในยุคสมัยใหม่ผสมผสานกับวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์ เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เมืองนี้ จะพบกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากอาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตั้งแต่โบสถ์ที่เก่าแก่ไปจนถึงตึกสูงระฟ้าที่ทันสมัย จุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดคือ “เซเรโร เดอ ซานคริสโตบัล” ที่คุณสามารถชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองจากด้านบน นอกจากนี้ ศิลปะและวัฒนธรรมของซานติอาโกพร้อมให้คุณได้สัมผัสผ่านพิพิธภัณฑ์และงานเทศกาลที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี อย่าพลาดที่จะลิ้มรสอาหารชิลีที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะซีฟู้ดสดใหม่และไวน์ที่ได้รับรางวัลระดับโลก ซานติอาโกไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะที่แสนสะดวกสบาย มันยังเป็นแรงบันดาลใจพาคุณไปสำรวจความงามของธรรมชาติที่ได้รับการปกป้องอย่างดีของชิลี นั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้การเดินทางของคุณพิเศษไม่เหมือนใคร ทางเลือกที่ล้ำค่าใดๆ รอคุณอยู่ที่นี่!

ปุนตาอาเรนาส เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่ในเขตปาตาโกเนียของชิลี และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำนึกถึงธรรมชาติที่งดงามในภูมิภาคนี้ เมืองที่สร้างขึ้นประมาณ 150 ปีที่แล้วนี้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และด้วยความเป็นเมืองแรกในปาตาโกเนีย คุณจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ที่สลับสานกับบ้านเรือนที่มีหลังคาโลหะหลายสี เมื่อมองจากมุมสูง เช่น ที่มิโรเดอร์ เซโรลาครูซ ที่นี่ คุณไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม Museo Naval y Marítimo ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานของชิลี รวมถึง Museo Regional de Magallanes ซึ่งเคยเป็นบ้านของตระกูลที่มีอำนาจในอดีต นอกจากนี้ ถ้าคุณรักความเป็นธรรมชาติ Parque Nacional Torres del Paine ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องเยี่ยมชม ซึ่งมีภูเขาไฟสวยงามและสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปยัง Isla Magdalena เพื่อชมพวกเพนกวินมาจิลลานิก ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ตัวโดยสามารถเดินชมได้โดยสบายๆ อย่าลืมนำน้ำอุ่นไปด้วย เพราะอากาศที่นั่นอาจเย็นสบาย แม้ในช่วงฤดูร้อน ปุนตาอาเรนาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งแต่ความสวยงามของธรรมชาติ การสำรวจอดีต จนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกช่วงเวลา

ท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ (มาลวินาส) คือ “นิวไอแลนด์” ซึ่งเป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเกาะนี้ ที่นี่ที่ตั้งอยู่ไกลและสงบเงียบ เป็นอาณาจักรแห่งสัตว์ป่าและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์เต็มเปี่ยม ด้วยการอนุรักษ์จากกลุ่มเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม นิวไอแลนด์ได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับนกและสัตว์หายาก โดยเฉพาะเพนกวินหน้าผาและนกแก้วตาที่มีเสน่ห์ เมื่อมาเยือน คุณจะได้เห็นการใช้ชีวิตประจำวันของนกอัลบาทรอสส์ที่มีหน้าผากดำ และนกห่านที่บินสูงในท้องฟ้า มีกว่า 40 สายพันธุ์นกที่มาทำรังอยู่ในเกาะนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจรอบๆ เช่น การเยี่ยมชม “Barnard’s barn” ซึ่งเป็นอาคารหินที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงามจากศตวรรษที่ 19 ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดลงจอด ในส่วนที่อยู่ใกล้โรเบอร์สัน แหล่งซากเรือ Protector III ที่เคยใช้ในการล่าแมวน้ำได้กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของผู้ทำหน้าที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่นี่ หากคุณใฝ่ฝันถึงการเดินทางในโลกที่สวยงามและเงียบสงบ นิวไอแลนด์จะเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เติมเต็มจินตนาการของคุณได้อย่างแน่นอน

การเดินทางมาสัมผัสความงามที่ท่าเรือ West Point Island ในหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ (Malvinas) คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะฟอล์คแลนด์ตะวันตก เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำเกษตรกรรมสัตว์ โดยเฉพาะการเลี้ยงแกะ รวมถึงยังเป็นแหล่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการสังเกตธรรมชาติ น้ำทะเลรอบๆ West Point Island เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเห็นปลาโลมาของ Peale และ Commerson ที่มีลวดลายขาวดำอันน่าจดจำได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ภูมิประเทศมีความหลากหลาย สลับซับซ้อนระหว่างทุ่งหญ้าเนินสูงและหน้าผา ซึ่งมอบโอกาสถ่ายภาพที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ Devil’s Nose ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนกอัลบาทรอส Black-browed ที่สร้างรังเคียงคู่กับเพนกวิน Rockhopper ตัวน้อยๆ นอกจากนี้ยังมีเพนกวิน Magellanic และนกคอห่าน Magellanic ที่มักจะเห็นอยู่บนเกาะนี้ ทำให้ West Point Island เป็นท่าเรือที่เปี่ยมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนสำหรับนักเดินทาง ทุกคนสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และสร้างความทรงจำที่มีค่าได้ที่นี่ ความงามที่หลบซ่อนใน West Point Island รอคอยคุณอยู่!

ซอนเดอร์ส ไอแลนด์ (Saunders Island) คือหนึ่งในเกาะที่มีเสน่ห์ที่สุดของหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามแปลกตา เกาะนี้เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นลำดับที่สี่ ซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 3 แหลมที่เชื่อมต่อกันด้วยคอคอดแคบ และมีภูมิประเทศสูงสามจุดที่มอบทิวทัศน์ที่สวยงาม ในปัจจุบัน ซอนเดอร์ส ไอแลนด์ ถูกบริหารจัดการในรูปแบบฟาร์มแกะ แต่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะที่เป็นสถานที่ตั้งของการตั้งถิ่นฐานอังกฤษแห่งแรกในฟอล์คแลนด์ นอกจากประวัติศาสตร์แล้ว เกาะแห่งนี้ยังมีกลุ่มสัตว์ป่าที่หลากหลาย ตั้งแต่เพนกวินเจนตู้ (Gentoo) และเพนกวินคิง (King) ที่สามารถพบเห็นได้ตามชายฝั่งทราย ไปจนถึงเพนกวินร็อคฮ็อปเปอร์ (Rockhopper) และอัลบาทรอสส์ตาเข้ม (Black-browed Albatross) ที่ประจำอยู่บริเวณภูเขาริชาร์ดส์ (Mount Richards) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเกาะ ไม่เพียงเท่านี้ เกาะนี้ยังเป็นที่อยู่ของนกชนิดอื่น ๆ เช่น ฟินช์เสื้อดำ (Black-throated Finch) และนกเป็ดน้ำฟอล์คแลนด์ (Falkland Steamer Duck) ที่จะทำให้ความทรงจำของการเดินทางของคุณมีเอกลักษณ์และน่าประทับใจ ขอเชิญคุณมาสำรวจความสวยงามและประวัติศาสตร์แห่งนี้ที่ซอนเดอร์ส ไอแลนด์!

เกาะคาร์กัส (Carcass Island) ในหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ (Falkland Islands) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพบกับความงดงามของธรรมชาติแบบบริสุทธิ์ ที่นี่มีความเงียบสงบและสวยงามรอบด้าน ทั้งทิวทัศน์ที่มีทะเลอันกว้างใหญ่และภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เกาะนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักในการสำรวจธรรมชาติและสัตว์ป่าโดยเฉพาะ ท่าเรือที่เกาะคาร์กัสมีบรรยากาศที่อบอุ่น และเป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจความมหัศจรรย์ของเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังชายหาดที่เงียบสงบ หรือสำรวจเส้นทางเดินป่าที่เต็มไปด้วยพืชพรรณและสัตว์น้ำหายาก นอกจากนี้ คุณยังมีโอกาสพบเห็นนกเพนกวินน่ารัก ๆ ไปจนถึงนกทะเลที่บินอยู่เหนือผืนน้ำ เป็นภาพที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในเขตนี้ รวมไปถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผสมผสานกับชีวิตประจำวัน นี่คือสถานที่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสความเรียบง่ายและบริสุทธิ์ นอกจากบรรยากาศที่เงียบสงบแล้ว เกาะคาร์กัสยังเป็นจุดหมายปลายทางที่สะท้อนถึงการเดินทางที่เต็มไปด้วยการค้นพบและความฝันในการเที่ยวชมโลกที่สวยงามอย่างแท้จริง
ท่าเรือพอร์ตสแตนลีย์ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฟอล์คลแลนด์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะมาลวินาส) เป็นจุดหมายที่ซ่อนเร้นในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่คือเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และบรรยากาศที่เหมือนกับหมู่บ้านอังกฤษที่หลุดออกมาใกล้เคียง โดยบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมเต็มความงามให้กับทิวทัศน์ที่ถูกตั้งอยู่ในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้พอร์ตสแตนลีย์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีซากเรือ Lady Elizabeth ที่จมอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เป็นเครื่องเตือนใจถึงสภาพอากาศอันโหดร้ายที่แวดล้อมหมู่เกาะนี้ การเดินทางมายังฟอล์คลแลนด์ไม่ได้มีเพียงการพบกับภาพวิวอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับโลกของเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เพนกวิน Gentoo, Magellanic และ King ที่มักจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือแวะพักระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า ฟอล์คลแลนด์คือต่อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนที่ไม่เหมือนใคร

ท่าเรือเคปโรซาในหมู่เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ถือเป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวผู้แสวงหาประสบการณ์ธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของสัตว์ป่าในที่รกร้างว่างเปล่า ท่าเรือแห่งนี้มีวิวทะเลที่งดงามรายล้อมด้วยภูเขาน้ำแข็งและธรรมชาติที่เย้ายวนใจ การมาเยือนเคปโรซาจะนำพาคุณไปสัมผัสกับการสำรวจที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะเมื่อคุณสามารถพบเห็นเพนกวินที่อยู่ในโหมดการเพาะพันธุ์ รวมถึงสไปลี่ที่บินได้ในอากาศและแมวน้ำที่หยอกเย้ากันในน้ำ ทุกๆ ก้าวที่เดินไปสู่อดีตที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ทางทะเล เมื่อครั้งที่ผ่านมาเป็นที่ตั้งของนักสำรวจและนักวิจัย นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการสำรวจเอกลักษณ์ของภูมิประเทศที่โดดเด่น การเดินป่าในเส้นทางที่จัดเตรียมไว้จะเผยให้เห็นมุมมองที่น่าทึ่งของธรรมชาติ และความสงบของมหาสมุทรที่รายล้อมที่นี่ เคปโรซาจึงไม่ใช่เพียงการเดินทางเท่านั้น แต่เป็นการกลับคืนสู่อ้อมกอดของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่คุณต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนเอเชียใต้ ณ ท่าเรือที่มหัศจรรย์แห่งนี้

ยินดีต้อนรับสู่เกาะพรีออน (Prion Island) ที่ตั้งอยู่ในอ่าวของเกาะเซาท์จอร์เจีย (South Georgia) และหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช (South Sandwich Islands) ซึ่งเป็นสวรรค์ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและสัตว์ป่าหายาก ท่าเรือแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร เพื่อดื่มด่ำกับความงามอันบริสุทธิ์ของท้องทะเลใต้ เกาะพรีออนมีชื่อเสียงในฐานะบ้านของนกพรีออน ที่มีกลิ่นอายอุดมไปด้วยชีวิตสัตว์ป่า คุณจะได้สัมผัสกับการดูนกที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงนกอัลบาทรอสด์และนกเพนกวิน นอกจากนี้ การเดินป่าบนเกาะอันงดงามจะพาคุณไปสู่ทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล โดยมีน้ำตกและภูเขาที่สูงตระหง่านรอบด้าน ในบริเวณใกล้เคียง คุณยังสามารถสำรวจอ่าวต่างๆ ที่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในธรรมชาติ หรือนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ของภูมิประเทศ ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอันสวยงามและโอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามสุดรายล้อมด้วยธารน้ำแข็ง ซึ่งเป็นฉากหลังที่เหมาะแก่การถ่ายภาพและสร้างความทรงจำอันล้ำค่า การเดินทางมายังเกาะพรีออนจึงไม่เพียงแต่เป็นการเริ่มต้นความฝันในการสำรวจโลก แต่ยังเป็นการสัมผัสถึงความงามที่แท้จริงของธรรมชาติในแบบที่ไม่มีวันลืมเลือน

ท่าเรือ Godthul ตั้งอยู่บนเกาะ South Georgia ที่งดงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและประวัติศาสตร์ การเดินทางมาที่นี่จะนำคุณเข้าสู่โลกที่บริสุทธิ์และสงบเงียบซึ่งเต็มไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามและสัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์ Godthul เป็นท่าเรือที่คึกคักในช่วงฤดูกาลและจัดหาโอกาสให้คุณได้พบกับเพนกวิน แพนด้า และแมวน้ำมาเรียน ซึ่งล้วนเป็นโลกล้ำค่าแห่งมหาสมุทรใต้ นอกจากนี้ การสำรวจเส้นทางเดินป่าที่เต็มไปด้วยฉากหลังของภูเขาและทุ่งหญ้าจะทำให้คุณสามารถสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติได้อย่างแท้จริง การมาถึงที่ Godthul ไม่ได้เป็นเพียงการมาถึงทางกายภาพ แต่ยังเป็นการเข้ามาท่องเที่ยวในประวัติศาสตร์ ที่นี่เคยเป็นสถานที่สำคัญในยุคของนักสำรวจ และมีความเชื่อมโยงกับการประมงที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและรื่นรมย์ในท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ Godthul เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ มาเปิดประสบการณ์ใหม่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์แห่งนี้กันเถอะ!

เมื่อคุณเดินทางมาถึง "Grytviken" ท่าเรืออันสวยงามในเกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช คุณจะได้สัมผัสกับความงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจที่หลากหลาย Grytviken เคยเป็นสถานที่ทำการประมงในยุคเก่าและเป็นบ้านของชาวนอร์เวย์ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ที่นี่คุณจะได้พบกับซากเรือที่ยังคงอยู่และพิพิธภัณฑ์อนุรักษ์ประวัติศาสตร์การประมง ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการผจญภัย ในขณะที่คุณสำรวจ Grytviken อย่าลืมเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาที่สูงตระหง่าน และธารน้ำแข็งที่ไหลลงสู่ทะเล คุณอาจจะได้พบกับลูกแมวน้ำและนกเพนกวินที่น่ารัก ซึ่งเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ใน المنطقةนี้ การเยือน Grytviken ไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังเป็นการสัมผัสกับเรื่องราวที่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกที่ไม่ควรมองข้าม! เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในดินแดนที่คุณจะไม่มีวันลืม สัมผัสความสงบ ความสวยงาม และประวัติศาสตร์ที่จะทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงเร้าระหว่างการเดินทางครั้งนี้!

ท่าเรือ Fortuna Bay ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเซาท์จอร์เจียและเกาะเซาท์แซนวิช ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ทะเลที่ใสสะอาดและภูเขาที่งดงามทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางและนักธรรมชาติวิทยา เมื่อเรือสำราญเทียบท่าใน Fortuna Bay นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์ รอคอยให้คุณสำรวจสวนสัตว์ทางธรรมชาติอันมีชื่อเสียง เช่น เพนกวินและแมวน้ำที่คอยต้อนรับด้วยความเป็นมิตร นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินป่าไปยังภูเขาที่สูงตระหง่าน เพื่อชมวิวอันน่าทึ่งของธารน้ำแข็งที่ประดับประดาอยู่ทั่วบริเวณ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสำรวจในพื้นที่นี้ เช่น การเดินทางของนักสำรวจที่มีชื่อเสียงแห่งศตวรรษที่ 19 ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก Fortuna Bay จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือสำหรับจอดเรือพลุกพล่าน หากยังเป็นที่มาแห่งแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง
ท่าเรือ Stromness ในเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิชเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและอารยธรรมโบราณ การเดินทางมายัง Stromness ไม่เพียงแต่จะให้ความรู้สึกของการค้นพบที่แปลกใหม่ แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขา น้ำแข็ง และชายฝั่งที่เต็มไปด้วยนกและสัตว์น้ำต่าง ๆ Stromness เคยเป็นที่ตั้งของสถานี whaling ระหว่างศตวรรษที่ 20 ซึ่งถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมการล่าใช้ทรัพยากรในอดีต ผู้มาเยือนสามารถเดินทอดน่องตามซากอาคารเก่าแก่ที่ภูมิทัศน์ประวัติศาสตร์นี้สร้างขึ้น และบันทึกภาพแห่งความทรงจำที่ยากจะลืมผ่านกล้องถ่ายรูป ทางเลือกในการสัมผัสประสบการณ์การผจญภัยที่ Stromness ยังรวมถึงการเดินป่าผ่านเส้นทางที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และการชมสัตว์ประจำถิ่นอย่างเพนกวินและแมวน้ำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทั้งเกาะ นอกจากนี้ ความมหัศจรรย์ของลานน้ำแข็งและท้องทะเลที่ใสแจ๋วยังรอคอยการค้นพบจากนักเดินทางสมัยใหม่ หากคุณกำลังมองหาความสงบและการผจญภัยในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร Stromness จะเป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดในการท่องเที่ยวในครั้งนี้!

อ่าวเซนต์แอนดรูว์ ตั้งอยู่บนเกาะเซาท์จอร์เจีย เป็นจุดแวะพักที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเรือสำราญทุกลำที่มุ่งหน้าสำรวจความงามของทวีปแอนตาร์กติกา มอบประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด Aloha ใกล้ชิดกับธรรมชาติของนกนานาชนิดที่อ่าวนี้ได้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญ และคุณจะได้พบเห็นนกพัฟฟินดำน้ำ นกเพนกวินจักรพรรดินับร้อย ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่งดงามของอ่าว นอกจากนี้ อ่าวเซนต์แอนดรูว์ยังมีทิวทัศน์ที่น่าประทับใจจากภูเขาที่ครอบคลุมด้วยหิมะควบคู่ไปกับเสียงคลื่นที่กระทบชายฝั่ง เสน่ห์แห่งความสงบนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติ แต่ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอีกด้วย เส้นทางการเดินทางที่มุ่งไปสู่อ่าวเซนต์แอนดรูว์ถือเป็นการเปิดโลกใหม่ให้แก่ผู้ที่หวังจะสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนชายหาดที่มีน้ำแข็งในหน้าหนาวหรือการเดินชมธรรมชาติในฤดูร้อน อ่าวเซนต์แอนดรูว์นั้นนับเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความน่าหลงใหล รอคุณอยู่เพื่อค้นพบและสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครในชีวิตของคุณ

**สำรวจความงามของท่าเรือในแอนตาร์กติกา: เสียงแห่งแอนตาร์กติก** ท่าเรือแอนตาร์กติกซาวด์ (Antarctic Sound) เป็นจุดแวะที่น่าทึ่งสำหรับเรือสำราญที่เดินทางสู่แอนตาร์กติกา โดดเด่นด้วยความงามของการเที่ยวชมภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและสัตว์ป่าอันน่าอัศจรรย์ ที่นี่คือที่ที่ประวัติศาสตร์และธรรมชาติได้มาบรรจบกัน โดยมีชื่อเรียกมาจากเรือแรกที่สำรวจเส้นทางนี้ในปี 1902 เสียงแห่งแอนตาร์กติกยังมีสถานที่สำคัญอย่าง Hope Bay และ Paulet Island ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของนกเพนกวินแอดเลย์และเจนทู ขณะเดียวกันยังมีนกทะเลอย่าง Kelp Gulls และ Cape Petrels ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ เสน่ห์หลักของท่าเรือคือภูเขาน้ำแข็งที่มีรูปทรงตาราง ซึ่งมีที่มาจากแหล่งน้ำแข็งลาเซอร์น (Larsen Ice Shelf) ที่อยู่ทางใต้ ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะแก่การถ่ายรูปและซึบซับความงามของธรรมชาติ การเยี่ยมชมแอนตาร์กติกซาวด์จะมอบประสบการณ์ที่จะตราตรึงใจทุกครั้ง ทำให้ทุกคนรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติในแบบที่ไม่อาจพบได้ที่ใดในโลก นักท่องเที่ยวควรเตรียมกล้องและความรู้สึกที่เปิดกว้างเพื่อที่จะได้สัมผัสความมหัศจรรย์แห่งโลกใบนี้อย่างแท้จริง

ท่าเรือที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเซาท์เชตแลนด์ (South Shetland Islands) คือ หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลในทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งอยู่ห่างจากเคปฮอร์นประมาณ 770 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์และชีวิตสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะเพนกวินที่หลากหลายพันธุ์ เช่น เพนกวินชนิดชินสตราป (Chinstrap), อเดลีย (Adelie), เกนตู (Gentoo) และมาเกอโรนี (Macaroni) ที่มักจะอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นในพื้นที่นี้ หมู่เกาะเซาท์เชตแลนด์ยังมีลักษณะทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นพื้นที่ที่อบอุ่นที่สุดของแอนตาร์กติกา ไม่ว่าจะเป็นเกาะมอสส์ขนาดใหญ่และพืชสกุลไลเคนที่มีหลากสีตั้งแต่ส้มจนถึงดำ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถพบเห็นแมวน้ำหลายชนิด เช่น แมวน้ำเลโอโพรด (Leopard seal) และแมวน้ำวิดเดล (Weddell seal) ที่ว่ายน้ำหรือนอนอยู่บนชายหาด การเยี่ยมชมท่าเรือในหมู่เกาะเซาท์เชตแลนด์จึงไม่ใช่แค่การเดินทางไปยังจุดหมายใหม่ แต่ยังเป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะหากคุณรักการสำรวจสิ่งใหม่ ๆ และต้องการสัมผัสความงดงามของโลกใต้ขั้วโลกใต้แห่งนี้

ท่าเรือในช่องแคบเจอรลาช (Gerlache Strait) ประเทศแอนตาร์กติกา คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลที่สุดสำหรับการเดินทางด้วยเรือสำราญที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์และอาจจะเป็นจุดที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังอยู่บนขอบโลกใบนี้ ช่องแคบเจอรลาช ตั้งอยู่ระหว่างเกาะอาร์เจนตินาและอาร์กติกา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นจากภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งสีฟ้าที่มีความงดงามตระการตา พรั่งพร้อมไปด้วยความสำบูรณ์ของสัตว์น้ำและสัตว์ป่า รวมทั้งเพนกวินและแมวน้ำที่คุณสามารถพบเห็นได้ขณะที่เรือของคุณแล่นผ่านทะเลน้ำแข็ง สำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์ที่เหนือความจริง ช่องแคบเจอรลาชยังมีโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การพายเรือคายัคบนทะเลน้ำแข็ง หรือการเดินป่าในทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ที่นี่ไม่เพียงแต่ให้คุณได้ชมความงามของธรรมชาติ แต่ยังเป็นการเติมเต็มความฝันในการสัมผัสแอนตาร์กติกาอย่างแท้จริง การเดินทางมาที่ช่องแคบเจอรลาช คุณจะได้พบกับความสงบ เสน่ห์ของธรรมชาติ และประสบการณ์อันล้ำค่า ที่จะสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนในใจคุณอย่างแน่นอน

ท่าเรือที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเซาท์เชตแลนด์ (South Shetland Islands) คือ หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลในทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งอยู่ห่างจากเคปฮอร์นประมาณ 770 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์และชีวิตสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะเพนกวินที่หลากหลายพันธุ์ เช่น เพนกวินชนิดชินสตราป (Chinstrap), อเดลีย (Adelie), เกนตู (Gentoo) และมาเกอโรนี (Macaroni) ที่มักจะอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นในพื้นที่นี้ หมู่เกาะเซาท์เชตแลนด์ยังมีลักษณะทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นพื้นที่ที่อบอุ่นที่สุดของแอนตาร์กติกา ไม่ว่าจะเป็นเกาะมอสส์ขนาดใหญ่และพืชสกุลไลเคนที่มีหลากสีตั้งแต่ส้มจนถึงดำ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถพบเห็นแมวน้ำหลายชนิด เช่น แมวน้ำเลโอโพรด (Leopard seal) และแมวน้ำวิดเดล (Weddell seal) ที่ว่ายน้ำหรือนอนอยู่บนชายหาด การเยี่ยมชมท่าเรือในหมู่เกาะเซาท์เชตแลนด์จึงไม่ใช่แค่การเดินทางไปยังจุดหมายใหม่ แต่ยังเป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะหากคุณรักการสำรวจสิ่งใหม่ ๆ และต้องการสัมผัสความงดงามของโลกใต้ขั้วโลกใต้แห่งนี้

Puerto Williams เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่บนเกาะ Navarino ทางตอนใต้ของชิลี ถือเป็นที่ตั้งของเมืองที่อยู่ใกล้สุดกับขั้วโลกใต้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจทิวทัศน์ที่งดงามของแอนตาร์กติกาและช่องแคบดราเกนต์ สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและการผจญภัย ท่าเรือ Puerto Williams นอกจากจะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ยังมีความเป็นเอกลักษณ์จากวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เก่าแก่และน่าสนใจ คุณสามารถเดินชมรอบเมืองที่จะนำเสนอศิลปะการทำงานของชาวพื้นเมืองหรือสัมผัสบรรยากาศที่เรียบง่ายของชีวิตประมงที่นี่ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแต่การเดินทางเองเท่านั้น แต่การสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ทำให้การเดินทางนี้มีค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Puerto Williams ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในอุทยานแห่งชาติปาราอีซา ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่า ภูเขาที่สูงตระหง่านและน้ำตกที่สวยงาม การสำรวจความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่นี่ จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ค้นพบ Puerto Williams กับเรา สถานที่ที่ไม่มีวันลืมและทิ้งความประทับใจไว้ในหัวใจของคุณไปตลอดกาล

ปุนตาอาเรนาส เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่ในเขตปาตาโกเนียของชิลี และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำนึกถึงธรรมชาติที่งดงามในภูมิภาคนี้ เมืองที่สร้างขึ้นประมาณ 150 ปีที่แล้วนี้ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และด้วยความเป็นเมืองแรกในปาตาโกเนีย คุณจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ที่สลับสานกับบ้านเรือนที่มีหลังคาโลหะหลายสี เมื่อมองจากมุมสูง เช่น ที่มิโรเดอร์ เซโรลาครูซ ที่นี่ คุณไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม Museo Naval y Marítimo ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานของชิลี รวมถึง Museo Regional de Magallanes ซึ่งเคยเป็นบ้านของตระกูลที่มีอำนาจในอดีต นอกจากนี้ ถ้าคุณรักความเป็นธรรมชาติ Parque Nacional Torres del Paine ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องเยี่ยมชม ซึ่งมีภูเขาไฟสวยงามและสัตว์ป่าอีกหลากหลายชนิด แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปยัง Isla Magdalena เพื่อชมพวกเพนกวินมาจิลลานิก ซึ่งมีมากกว่า 100,000 ตัวโดยสามารถเดินชมได้โดยสบายๆ อย่าลืมนำน้ำอุ่นไปด้วย เพราะอากาศที่นั่นอาจเย็นสบาย แม้ในช่วงฤดูร้อน ปุนตาอาเรนาสเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งแต่ความสวยงามของธรรมชาติ การสำรวจอดีต จนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกช่วงเวลา


























สัมผัสความหรูหราระหว่างการเดินทางของคุณบนเรือ MS Fram ด้วยการจองห้องพักแบบ探險套房 | 陽台大套房ที่กว้างขวางและมีสไตล์ ห้องพักที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันนี้มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผ่านการคัดสรร เช่น ระเบียงส่วนตัว ช่องกระจกจากเพดานถึงพื้น และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางบางห้องมีโซฟาเบดสำหรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ สำหรับแขกที่เข้าพักในห้องสวีท คุณจะได้ลิ้มลองอาหารมื้ออร่อยจากร้านอาหาร Lindstrøm ซึ่งเปิดบริการสำหรับมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ พร้อมตัวเลือกบริการอาหารในห้องพักที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีบริการซักผ้าฟรีทุกวันและบริการจัดเตียงในตอนเย็นเพื่อเพิ่มความสบายตลอดการเดินทางของคุณ ห้องพักแต่ละห้องมีทีวีจอแบน มินิบาร์ ตู้เซฟส่วนบุคคล ปลั๊กไฟยุโรปสองขา อุปกรณ์ชงชา และเครื่องชงกาแฟแบบใช้ครั้งเดียว พร้อมทั้งได้รับการต้อนรับด้วยแชมเปญเย็นและจานขนมอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำของคุณ ห้อง探險套房 | 陽台大套房 ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของเรือ มีขนาด 20-27 ตารางเมตร เหมาะสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่าน พร้อมให้ความสะดวกสบายอย่างสูงสุดในทุกการเดินทางของคุณ.




หากคุณกำลังมองหาความหรูหราในการเดินทางของคุณบนเรือ MS Fram ขอแนะนำให้คุณจอง "探險套房" ที่กว้างขวางและสง่างาม ห้องชุดนี้มีฟีเจอร์ที่ใส่ใจในรายละเอียด เช่น ระเบียงส่วนตัว หน้าต่างจากพื้นถึงเพดาน และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง บางห้องมีโซฟาเบดเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม สำหรับผู้เข้าพักในห้องชุด สามารถสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเยี่ยมที่ร้านอาหาร Lindstrøm ตลอดทั้งวัน ซึ่งรวมถึงตัวเลือกการอาหารแบบนำกลับไปยังห้องชุด ในระหว่างการเดินทาง HX ของคุณ คุณจะได้รับบริการซักรีดฟรีทุกวันและบริการจัดเตียงในตอนเย็นเพื่อความสะดวกและความสบายอีกด้วย ทุกห้องชุดยังมีทีวีจอแบน มินิบาร์ ตู้นิรภัย ปลั๊กไฟแบบยุโรปสำหรับสองขา อุปกรณ์ชงชาพร้อมเครื่องชงกาแฟแบบหนึ่งแก้ว นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับการต้อนรับด้วยแชมเปญเย็นและจานอาหารอันโอชะเพื่อเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ของคุณ ห้องชุด探險套房 เหมาะสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่าน ขนาด 15-20 ตารางเมตร และมีรหัสห้อง Q2 ยกระดับการเดินทางของคุณด้วยห้องพักระดับพรีเมียมนี้!




สัมผัสความหรูหราในทริปการเดินทางของคุณบนเรือ MS Fram ด้วยการจองห้องพักประเภท "探險套房" ที่กว้างขวางและสง่างาม ห้องชุดนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่คำนึงถึงความสะดวกสบาย เช่น ระเบียงส่วนตัว, หน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน, และมุมพักผ่อนที่กว้างขวาง สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ห้องพักนี้ยังมีโซฟาเดย์เบดเพิ่มเติมให้บริการ ห้อง "探險套房" ยังมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารระดับพรีเมียมที่ห้องอาหาร Lindstrøm ซึ่งสามารถเลือกสรรมื้อเช้า, เที่ยง, และเย็น รวมถึงบริการอาหารนำกลับเข้าห้อง สำหรับความสะดวก คุณจะได้รับบริการซักรีดฟรีทุกวันและบริการจัดเตรียมเตียงในยามค่ำคืน เพื่อให้คุณได้รับความสะดวกสบายตลอดการผจญภัยของคุณ ห้องพักทุกห้องยังมีโทรทัศน์จอแบน, มินิบาร์, ตู้นิรภัย, เต้ารับไฟฟ้าแบบสองขา, สิ่งอำนวยความสะดวกในการชงชา และเครื่องชงกาแฟแบบเสิร์ฟเดี่ยว การต้อนรับในห้องยังมาในรูปแบบของแชมเปญเย็นและจานขบเคี้ยวที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ ห้องพักแต่ละห้องมีขนาดตั้งแต่ 161 ถึง 215 ตารางฟุต โดยสามารถรองรับผู้เข้าพักสูงสุด 4 ท่าน พร้อมห้องนอนใหญ่และโซฟาเบดตามความต้องการ

ห้องพักแบบ "北極優越外艙" มีความสะดวกสบายและกว้างขวาง ตกแต่งด้วยเตียงคู่ที่สามารถจัดแยกเป็นเตียงเดี่ยวได้ตามคำขอขณะทำการจอง ทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมฝักบัวและผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ทีวี ตู้นิรภัย มินิบาร์ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) รวมถึงปลั๊กไฟยุโรปแบบสองขา และสิ่งอำนวยความสะดวกในการชงชาและกาแฟ นอกจากนี้ยังมีชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะให้บริการฟรี สำหรับห้องพักนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าสูง มาพร้อมกับหน้าต่างที่เปิดให้เห็นวิว ท่านจะได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ในห้องขนาด 10-11 ตารางเมตร ซึ่งรองรับผู้เข้าพักได้ 2 ท่าน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสะดวกสบายในระหว่างการเดินทาง




ห้องพักประเภท "北極優越型 | 外艙" ให้ความสะดวกสบายและกว้างขวางสำหรับผู้เข้าพัก โดยมีเตียงคู่ที่สามารถแยกออกเป็นเตียงเดี่ยวได้ตามคำขอขณะจอง ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมฝักบัวและอุปกรณ์อาบน้ำ นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์ ตู้นิรภัย มินิบาร์ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) เต้าเสียบไฟฟ้าแบบยุโรป และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทำชาและกาแฟ รวมถึงเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะที่ให้บริการฟรี ห้องพักแบ่งออกเป็นชั้นล่างหรือตรงชั้นบน โดยแต่ละห้องมีหน้าต่าง (บางห้องมีมุมมองที่จำกัด) และพื้นที่นั่งเล่น ขนาดของห้องอยู่ที่ประมาณ 17-18 ตร.ม. เหมาะสำหรับผู้เข้าพักจำนวน 2 ท่าน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนขณะล่องเรือในทะเล นอกจากนี้ ห้องพักยังมีตู้เย็นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเข้าพักของท่านอีกด้วย

ห้องพักประเภท "ห้องเหนือระดับอาร์กติก" (Arctic Superior) เป็นห้องที่สะดวกสบายและกว้างขวางในระดับหนึ่ง ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักได้อย่างยอดเยี่ยม ห้องพักนี้มีเตียงคู่ที่สามารถแยกเป็นเตียงเดี่ยวได้ตามคำขอในขณะจอง ทุกห้องมาพร้อมกับห้องน้ำส่วนตัวที่มีฝักบัวและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล, โทรทัศน์, ตู้เซฟ, มินิบาร์ (มีค่าบริการเพิ่มเติม), ปลั๊กไฟแบบยุโรป, และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชงชาและกาแฟ นอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะที่จัดเตรียมไว้ให้ฟรี ห้องพักนี้ตั้งอยู่บนดาดฟ้าสูง และมีหน้าต่าง (บางห้องมีวิวที่จำกัด) รวมถึงตู้เย็นและโซฟาเบด ทำให้จำนวนผู้เข้าพักสูงสุดอยู่ที่ 4 คน ความกว้างของห้องอยู่ที่ 22-23 ตารางเมตร ห้องนี้รหัส F4 แสดงถึงความหรูหราและอิสระในความสะดวกสบายที่คุณจะได้รับในระหว่างการล่องเรือของคุณ.




極地外艙是您海上旅程中的理想選擇,提供無與倫比的海景,讓您在每一刻都能感受到大自然的魅力。這些房間大多數配置了雙人床,並可根據預訂時的要求選擇分開成兩張單人床。每間房型皆配有私人浴室,完備的淋浴設施以及高品質的盥洗用品,讓您在水上探險中得到妥善的照顧。房間內還設有電視、保險箱、歐式雙插頭插座,以及提供茶和咖啡的設施,保證您在船上會有舒適的居住體驗。極地外艙位於下甲板,面積介於10到13平方米之間,能夠容納兩位客人。依需求可提供浴袍和拖鞋,讓您的旅程更加奢華。選擇極地外艙,探索海洋的同時,也享受當下的每一份寧靜和舒適。




ขอเชิญคุณสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนในห้องพักประเภท "極地外艙" ที่มอบวิวทะเลที่งดงาม ซึ่งห้องพักส่วนใหญ่มีเตียงคู่ที่สามารถแยกเป็นเตียงเดี่ยวได้ตามคำขอเมื่อทำการจอง ห้องพักทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมฝักบัวและผลิตภัณฑ์อาบน้ำ, โทรทัศน์, ตู้นิรภัย, เต้ารับไฟฟ้าประเภทสองขั้วตามมาตรฐานยุโรป, รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการชงชาและกาแฟ ห้องพักของเราตั้งอยู่บนดาดฟ้าสูง มีหน้าต่างที่อาจมีมุมมองที่จำกัดหรือไม่มีวิวทะเล ให้อุณหภูมิที่พร้อมสำหรับการพักผ่อน และมาพร้อมกับตู้เย็น, ไม่ว่าจะเป็นในแบบเตียงคู่หรือเตียงเดี่ยวตามต้องการ การใช้เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะสามารถขอได้ตามความต้องการ ห้องพักสามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดถึง 4 คน ขนาดของห้องพักอยู่ระหว่าง 17-21 ตารางเมตร ห้องนี้คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสร้างความทรงจำที่ไม่ลืมเลือนในวันหยุดของคุณ.
สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับในห้องพักประเภท “極地外艙 | 無障礙外艙” ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นล่างของเรือ ซึ่งห้องพักนี้จะให้คุณได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ทะเลอันงดงาม ผ่านหน้าต่างที่ออกแบบมาเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องสว่างทั่วห้อง ห้องนี้มีพื้นที่ขนาด 15-16 ตารางเมตร พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงเดี่ยวได้ตามคำขอในขณะจอง ห้องน้ำส่วนตัวมีอุปกรณ์อาบน้ำและฝักบัว ทีวี ตู้นิรภัย พร้อมปลั๊กไฟแบบยุโรปสองขา และพื้นที่ทำชาและกาแฟให้บริการ นอกจากนี้ยังมีความสะดวกสบายสำหรับผู้มีความต้องการพิเศษด้วยห้องที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยวีลแชร์ และยังมีบริการเสริมเช่นเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะตามคำขอ ห้องนี้รองรับแขกได้ 2 ท่าน และเหมาะสำหรับทุกคนที่มองหาความสงบและการพักผ่อนอย่างมีสไตล์บนเรือสำราญ สนุกไปกับการเดินทางและความสะดวกสบายที่ครบครันใน “極地外艙 | 無障礙外艙” ของเรา.
ห้องพักแบบสุดอบอุ่น “極地內艙” (Polar Inside) ของเรามีเตียงคู่ที่สามารถแยกเป็นเตียงเดี่ยวได้ตามคำขอในขณะทำการจอง ห้องพักทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวพร้อมฝักบัวและของใช้ในห้องน้ำ, โทรทัศน์, ตู้นิรภัย, สวิตช์ปลั๊กไฟแบบยูโรเปียนสองขา, และสิ่งอำนวยความสะดวกในการชงชาและกาแฟ ห้องพักตั้งอยู่บนดาดฟ้าสูง โดยไม่มีหน้าต่างขนาดกะทัดรัด พื้นที่ใช้สอยอยู่ระหว่าง 10-13 ตารางเมตร ทำให้เหมาะสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่าน นอกจากนี้ยังมีบริการเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะตามคำขอ ห้องพักนี้เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายและมีคุณภาพสูงสำหรับการพักผ่อนในระหว่างการเดินทางของคุณ